เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด

เปิด 8 ไอเดีย ลงทุนอะไรดี มีผลตอบแทนปีละ 10%

เผยแพร่เมื่อ 2024-06-05


หลังจากเริ่มต้นลงทุนมาพักหนึ่งแล้วหรือแม้แต่กำลังคิดว่าปรับพอร์ตการลงทุน คุณเคยดูพอร์ตการลงทุนและคิดว่า “มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหม” หรือไม่ ถ้าใช่… คุณไม่ได้โดดเดี่ยวในเป้าหมายการเงินนี้ นักลงทุนจำนวนมากใฝ่ฝันถึงจุดที่เหมาะสมของผลตอบแทนการลงทุน นั่นคือผลตอบแทนการลงทุน (Return on Investment หรือ ROI) ที่แซงหน้าอัตราเงินเฟ้อและช่วยให้การเงินเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายเหล่านั้นไม่ไกลเกินฝัน ขอเพียงมีวิธีการที่มั่นคงและความอดทน


ผลตอบแทนการลงทุน หรือ ROI ที่สม่ำเสมอ 10% ต่อปีอาจทำให้รู้สึกเหมือนกำลังไล่ล่าความฝันที่มองไม่เห็น ตลาดหุ้นมีทั้งขาขึ้นและขาลง และการทุ่มเงินอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าตามเคล็ดลับสุดฮอตล่าสุดสามารถนำไปสู่อาการปวดหัวอย่างรุนแรงและกระเป๋าที่ว่างเปล่า ดังนั้น นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้ในตลาดการเงิน เขาจะวางแผนว่าควรลงทุนอะไรดีเพื่อการกระจายความเสี่ยง โดยการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ใช้เครื่องมือการเงินที่เหมาะสมตามแต่สภาวการณ์ คุณจะสามารถลดความเสี่ยงและกำหนดตำแหน่งตัวเองเพื่อรับผลตอบแทนการลงทุน 10% ต่อปีได้เช่นกัน


ในบทความการเงินการลงทุนของ TOPONE Markets ครั้งนี้ เราจะเจาะลึกศิลปะของการกระจายพอร์ตการลงทุน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ สร้างผลตอบแทนการลงทุนได้ตามที่มุ่งหวัง อธิบายแนวคิดของ ROI และความสำคัญของมัน และเปิด 8 กลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจซึ่งเมื่อรวมกันแล้วอาจจะทำให้คุณสามารถผลตอบแทนการลงทุนได้ปีละ 10%

ลงทุนอะไรดี มีผลตอบแทนการลงทุน 10% ต่อปี

ผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ Return on Investmetn (ROI) มักจะคิดคำนวณเป็นรายปี หลายท่านตั้งเป้าหมาย ROI 10% ต่อปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทุกคน เพราะผลตอบแทนการลงทุนบ่งบอกถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องและศักยภาพที่จะแซงหน้าอัตราเงินเฟ้อซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของเงินออมและการลงทุนใด ๆ ผลตอบแทนจากการลงทุนสะสมจะรักษาและขยายกำลังซื้อเมื่อเวลาผ่านไปโดยอัตโนมัติ แต่การบรรลุเกณฑ์มาตรฐานนี้ต้องใช้แนวทางเชิงกลยุทธ์ที่นอกเหนือไปจากการเลือกสินทรัพย์ หรือวิธีการที่กำลังมาแรงหรือการลงทุนที่ทันสมัย

สูตรคณิตศาสตร์คำนวณผลตอบการลงทุน 10%+

ทุก ๆ เป้าหมายสามารถกำหนดและตรวจสอบได้ด้วยวิธีการทางคณิตศาสตร์ ตัวเลขไม่เคยโหกเรา ดังนั้น มาดูสูตรคำนวณหาผลตอบแทนการลงทุนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร



FVI: มูลค่าสุดท้ายของการลงทุน


IVI: มูลค่าแรกของการลงทุน



ในการคำนวณผลตอบแทนการลงทุนหรือ ROI คือการคำนวณจากผลต่างของราคาของมูลค่าสุดท้ายของการลงทุนกับมูลค่าเริ่มต้นของการลงทุน ตามสูตรคำนวณข้างต้น ยังไม่ได้เป็นการรวมเงินปันผลที่อาจจะได้รับระหว่างทางของการถือครอง (คำนวณส่วนต่างเฉพาะ Captital Gain เท่านั้น) และค่าใช้จ่ายในการเทรดที่เกิดขึ้น (เช่น ค่าธรรมเนียมตลาดหุ้น ค่าคอมมิชชันของโบรกเกอร์ ฯลฯ)


ตัวอย่าง คุณซื้อหุ้น A จำนวน 1,000 หน่วย  ในราคา 10 บาท ณ วันนี้ เป็นมูลค่าต้นทุนที่ 10,000 บาท เมื่อเวลาผ่านไป คุณขายหุ้นจำนวนนั้นทั้งหมด ที่ราคาหน่วยละ 20 บาท โดยไม่คำนึงถึงเงินปันผลและค่าใช้จ่ายในการเทรด เมื่อนำตัวเลขดังกล่าวไปคำนวณตามสูตรข้างต้นแล้ว จะได้ ROI หรือผลตอบแทนการลงทุนจะเท่ากับ 1.00% 



โดยทั่วไป ROI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเข้าใจได้ง่ายกว่าอัตราส่วน ประการที่สอง การคำนวณ ROI จะรวมผลตอบแทนสุทธิในตัวเศษ เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนอาจเป็นได้ทั้งบวกหรือลบ


เมื่อผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นค่าบวก (แม้จะ 1.00% ดังตัวอย่างข้างต้นก็ตาม) หมายความว่าการลงทุนนี้สร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า น่าสนใจกว่า เพราะสามารถขายได้ในราคาที่แพงกว่าตอนซื้อ ในทางตรงกันข้าม เมื่อ ROI ให้ผลลัพธ์เป็นค่าลบ หมายความว่าผลตอบแทนสุทธิต่ำกว่ามูลค่าต้นทุน


อย่างไรก็ดี สูตรคำนวณและวิธีการข้างต้นนั้นเป็นการคำนวณที่มูลค่าของ


สินทรัพย์โดยลำพัง ถ้าจะให้ดี เทรดเดอร์ต้องไม่ลืมต้นทุนด้านการทำรายการ เช่น ค่าธรรมเนียมตลาดหุ้น ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการซื้อหรือขายสินทรัพย์นั้น ๆ รวมถึงอัตราเงินปันผลในกรณีที่ซื้อหุ้นหรือกองทุนที่มีเงินปันผลด้วย


วิธีการคำนวณ ROI ผลตอบแทนการลงทุนนั้น สามารถนำไปใช้ได้กับทุกสินทรัพย์การลงทุน เพื่อตรวจสอบว่าในห้วงเวลาหนึ่ง เช่น รอบปี การลงทุนที่คุณถือครองอยู่ให้ผลตอบแทนที่ดีหรือแย่เพียงใด


บทความที่คุณอาจสนใจ


แม้ว่าจะไม่รับประกันการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ต่อปี 10% แต่พอร์ตการลงทุนเชิงกลยุทธ์และหลากหลายจะช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายนั้นได้อย่างมาก   สิ่งสำคัญอยู่ที่การทำความเข้าใจตัวเลือกการลงทุนต่าง ๆ และวิธีที่ตัวเลือกเหล่านี้สามารถส่งผลต่อการเติบโตโดยรวม ที่นี่ เราจะสำรวจช่องทางการลงทุน 8 ช่องทางที่มีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนต่อปี 10% ขึ้นไป ทั้งหมดนี้ในขณะเดียวกันก็เน้นถึงความสำคัญของความอดทน ความรู้ และการคำนวณความเสี่ยง


โปรดจำไว้ว่า วิธีการลงทุนแต่ละวิธีมาพร้อมกับระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างกัน พิจารณาการยอมรับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะลงทุนในดินแดนใหม่ การให้คำปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินมีคุณค่าอย่างยิ่งในการสร้างกลยุทธ์ส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางการเงิน

บาลานซ์พอร์ตการลงทุนหลากหลาย โอกาสมากขึ้นของผลตอบแทน

ในโลกของการลงทุนนั้น ไม่ใช่แต่นำเงินทุนที่มีทั้งหมดไปทุ่มกับสินทรัพย์เดียว เพราะไม่มีใครสามารถคาดการณ์ผลงานของตลาดได้ และการันตีผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างแน่นอนด้วยปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อกัน การบาลานซ์พอร์ตการลงทุนให้หลากหลาย กระจายความเสี่ยงจะช่วยเพิ่มโอกาสของผลตอบแทนการลงทุนได้ และเมื่อรวมสัดส่วนเหล่านั้นเข้าด้วยกัน คุณอาจจะได้เห็นผลตอบแทนการลงทุนก้อนโตที่น่าประทับใจ


การกระจายความเสี่ยงเป็นศิลปะของการสร้างโอกาสของผลตอบแทนการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายผลตอบแทน 10% ต่อปีลองนึกภาพตะกร้าใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยผลไม้หลากชนิด การกระจายความเสี่ยงเปรียบเสมือนการมีผลไม้หลากหลายชนิดในตะกร้าใบนั้น (เทียบกับพอร์ตการลงทุน) ส่วนผสมที่สมดุลและอร่อยได้คุณค่า ในคำถามว่าลงทุนอะไรดีนั้นแล้วถ้ามองถึงแนวคิดนี้ คุณจะมีหุ้น พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์ และแม้แต่สินทรัพย์ทางเลือก รวมถึงวิธีการที่หลากหลาย ทั้งการลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวตามเป้าหมายส่วนบุคคลและสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจ


โปรดจำไว้ว่า “ความหลากหลาย” คือการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง เมื่อเป้าหมายการลงทุนและการยอมรับความเสี่ยงพัฒนาขึ้น คุณอาจต้องปรับการจัดสรรพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกัน ด้วยการติดตามการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ปรับสมดุลตามความจำเป็น และรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด คุณจะสามารถควบคุมพลังของการกระจายความเสี่ยงเพื่อสำรวจภูมิทัศน์การลงทุน และอาจบรรลุเป้าหมายผลตอบแทนต่อปี 10% ต่อไปนี้ มาสำรวจ 8 วิธีการลงทุนเพื่อร่วมกันผลตอบแทนการลงทุนปีละ 10%

1. ออมเงินที่บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง

การออมเงินคือจุดสตาร์ทแรกสุดของการบรรลุเป้าหมายทางการเงิน แม้การฝากเงินในธนาคารอาจจะไม่ได้สร้าง ROI หรือผลตอบแทนการลงทุนได้มากขนาดนั้นด้วยความเสี่ยงที่น้อยที่สุด แต่เมื่อสะสมเงินสดได้ก้อนหนึ่งแล้ว การขยับขยาย ต่อยอดสู่การลงทุนที่มีความเสี่ยงมากกว่า ก็ยังดีกว่าการถือเงินสดไว้ในมือที่ไม่เพิ่มมูลค่าใด ๆ เลย


บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงเสนออัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับบัญชีออมทรัพย์แบบธรรมดาหรือบัญชีกระแสรายวัน ปัจจุบันบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงบางแห่งในไทยให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 5.00% เมื่อเทียบกับการฝากงเินในบัญชีออมทรัพย์ที่จ่ายเพียงปีละ 2 ครั้ง และไม่ถึง 1.00%   สิ่งนี้แปลว่าได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้นจากเงินโดยไม่มีความผันผวนที่เกี่ยวข้องกับหุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอื่น ๆ


ข้อดีของการลงทุน ด้วยการฝากเงินรับผลตอบแทนการลงทุนในรูปแบบของดอกเบี้ยเงินฝาก

  • สภาพคล่อง: บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงมีจุดต่างจากการลงทุนระยะยาว มักจะให้การเข้าถึงเงินสดได้ง่าย สิ่งนี้ช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ผลตอบแทนการลงทุนที่สูงขึ้นในส่วนอื่น ๆ ในพอร์ตการลงทุน

  • ความปลอดภัย: บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงได้รับการประกันโดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากในวงเงินสูงสุด 1,000,000 บาท ต่อ 1 ลูกค้าของ 1 สถาบันการเงิน เพื่อปกป้องการลงทุนหลัก ความอุ่นใจนี้ช่วยให้คุณสำรวจตัวเลือกที่มีความเสี่ยงมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า โดยรู้ว่าฐานมีความปลอดภัย

  • การเติบโต: แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจไม่มากนัก แต่ก็ส่งผลต่อผลตอบแทนต่อปีโดยรวม โปรดจำไว้ว่า ทุก ๆ เปอร์เซ็นต์จะนับเมื่อมุ่งมั่นเพื่อเป้าหมาย 10% นั้น



แม้ว่าอัตรา ROI ผลตอบแทนการลงทุนจากการฝากบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงเพียงอย่างเดียวอาจไม่บรรลุเป้าหมาย 10% ต่อปี แต่ก็มีส่วนช่วยให้ได้รับผลตอบแทนการลงทุนโดยรวมที่สร้างจากพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงมอบรากฐานที่ปลอดภัยและมั่นคงสำหรับการเติบโต ช่วยให้คุณสามารถรับความเสี่ยงที่คำนวณได้พร้อมกับตัวเลือกการลงทุนอื่น ๆ ภายในพอร์ตการลงทุน

2. ลงทุนในตัวเอง

การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดที่คุณสามารถทำได้อาจไม่สะท้อนให้เห็นในสินทรัพย์ใด ๆ คือการลงทุนในตนเอง ซึ่งได้แก่ ทักษะ ความรู้ และความเป็นอยู่ที่ดี เมื่อคุณมีรากฐานะที่สำคัญเหล่านั้นแล้ว จะถือเป็นต้นทุนสำคัญของพอร์ตการลงทุนที่รอบด้านและประสบความสำเร็จ ซึ่งท้ายที่สุดจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและไม่มีใครขโมยไปได้


ด้วยการเรียนรู้และพัฒนาความรู้ด้านการลงทุนและทักษะอื่น ๆ ที่สนใจอย่างต่อเนื่อง คุณจะเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ การเข้าร่วมเวิร์คช็อป หรือเพียงแค่อุทิศเวลาเพื่อการพัฒนาตนเอง คุณกำลังเพิ่มมูลค่าในตลาดแรงงาน  ในฐานะเทรดเดอร์ คุณจะมีเครื่องมือเชิงกลยุทธ์มากขึ้น และการตัดสินใจที่ถูกต้อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในการดำเนินการบริหารจัดการพอร์ตเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าและเหมาะสมในแต่ละสภาพการณ์



ROI ของการลงทุนในตนเองไม่ใช่การคำนวณทางคณิตศาสตร์ หากแต่เป็นความมุ่งมั่นในระยะยาวต่อการเติบโตส่วนบุคคลที่เพิ่มโอกาสใหม่ ๆ ที่หลากหลาย ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่อนาคตที่สมบูรณ์และปลอดภัยทางการเงินมากขึ้น ต่อไปนี้คือวิธีที่การลงทุนในตนเองช่วยขับเคลื่อนเส้นทางการลงทุนโดยรวม


การลงทุนในตนเองเป็นกระบวนการต่อเนื่อง จงอุทิศเวลาให้กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ท้าทายตัวเอง ไม่มีสูตรสำเร็จในการคำนวณ ROI ของการเติบโตส่วนบุคคล แต่ผลประโยชน์ระยะยาวที่ได้รับจะช่วยเพิ่มความเป็นอยู่ทางการเงินได้อย่างมาก และขับเคลื่อนเส้นทางการลงทุนโดยรวมไปสู่เป้าหมายผลตอบแทนการลงทุน 10% ที่มุ่งหวังได้

3. ลงทุนหุ้นห่านทองคำ

การกระจายความเสี่ยงเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ต่อปี 10% และกองทุนพันธบัตรระยะยาวเสนอทางเลือกที่น่าสนใจในการเพิ่มความมั่นคงและศักยภาพในการสร้างรายได้ให้กับพอร์ตการลงทุน เรามาเจาะลึกว่าทำไมกองทุนเหล่านี้จึงสามารถเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าได้ และสำรวจวิธีประเมินผลการดำเนินงาน


กองทุนพันธบัตรองค์กรจะระดมเงินจากนักลงทุนเพื่อซื้อตะกร้าพันธบัตรองค์กรที่ออกโดยบริษัทต่าง ๆ   พันธบัตรเหล่านี้เป็นตัวแทนสินเชื่อให้กับบริษัทต่าง ๆ โดยที่คุณซึ่งเป็นนักลงทุนเป็นผู้ให้กู้ เพื่อเป็นการตอบแทนการให้กู้ยืมเงิน บริษัทจะจ่ายดอกเบี้ยให้คุณในอัตราที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนด ซึ่ง ณ จุดนั้นคุณจะได้รับเงินลงทุนคืน



กองทุนหุ้นกู้ระยะยาวตามชื่อ คือลงทุนในพันธบัตรที่มีระยะเวลาครบกำหนดนานกว่า โดยทั่วไปมีอายุตั้งแต่ 10 ถึง 30 ปี ต่อไปนี้คือวิธีที่พวกเขาสามารถสนับสนุนเป้าหมายผลตอบแทนรายปี 10%


รายได้ที่มั่นคง: พันธบัตรองค์กรให้การจ่ายคูปองอย่างสม่ำเสมอ โดยนำเสนอแหล่งรายได้ที่คาดการณ์ได้ซึ่งสามารถนำไปสู่ผลตอบแทนรายปีโดยรวม


ศักยภาพในการแข็งค่าของเงินทุน: แม้ว่ากองทุนพันธบัตรระยะยาวจะขึ้นชื่อในเรื่องการสร้างรายได้เป็นหลัก แต่กองทุนพันธบัตรระยะยาวก็อาจประสบกับการแข็งค่าของเงินทุนได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง เนื่องจากราคาพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ยมีความสัมพันธ์แบบผกผัน การลดลงของอัตราดอกเบี้ยอาจทำให้ราคาพันธบัตรสูงขึ้น การแข็งค่าของราคานี้สามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนรวมได้


การกระจายความเสี่ยง: กองทุนหุ้นกู้ระยะยาวเสนอความเสี่ยงให้กับบริษัทต่าง ๆ มากมาย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในหุ้นกู้รายบุคคล การลดความเสี่ยงนี้จะช่วยเสริมศักยภาพในการเติบโตของพอร์ตการลงทุน ซึ่งช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนต่อปี 10%


แม้ว่ากองทุนพันธบัตรองค์กรระยะยาวจะให้ผลตอบแทนจากความเสี่ยงที่น่าสนใจ แต่การทำความเข้าใจวิธีประเมินผลการดำเนินงานก็เป็นสิ่งสำคัญ ต่างจากหุ้นที่เผชิญกับความผันผวนของราคาในแต่ละวัน ราคาพันธบัตรมักจะซื้อขายไม่บ่อยนัก ดังนั้นผลตอบแทนรวมของกองทุนหุ้นกู้ระยะยาวจะเป็นการรวมกันของการจ่ายคูปองที่ได้รับและการแข็งค่าของเงินทุนหรือค่าเสื่อมราคาที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาการถือครอง


ต่อไปนี้เป็นสูตรง่าย ๆ ในการประมาณผลตอบแทนรวมของกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว (สมมติว่าคุณถือจนครบกำหนด)


ผลตอบแทนรวม = (การจ่ายคูปองที่ได้รับ + ราคาที่เพิ่มขึ้น/ค่าเสื่อมราคาเมื่อครบกำหนด) / การลงทุนเริ่มแรก x  100%


สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือนี่เป็นสูตรที่เรียบง่ายและไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น การนำการจ่ายคูปองไปลงทุนใหม่ หรือค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับกองทุน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ให้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับวิธีการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนพันธบัตรระยะยาวภายในบริบทพอร์ตการลงทุน


ด้วยการรวมกองทุนพันธบัตรองค์กรระยะยาวไว้ในกลยุทธ์การลงทุน คุณจะได้รับสินทรัพย์ประเภทที่ค่อนข้างคงที่ซึ่งสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอและมีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าของเงินทุน โปรดจำไว้ว่า การได้รับผลตอบแทนต่อปี 10% ต้องใช้แนวทางที่หลากหลาย และกองทุนพันธบัตรระยะยาวสามารถทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเดินทางสู่เป้าหมายนั้นได้


บทความที่คุณอาจสนใจ

4. ลงทุนในกองทุนรวมหุ้นที่มีปันผล

หากไม่ลังเลว่าควรจะลงทุนอะไรดี กองทุนหุ้นปันผลสามารถเป็นพันธมิตรที่ทรงพลังในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนต่อปีในระดับ 10% ได้ กองทุนเหล่านี้จะรวมเงินลงทุนจากนักลงุทนรายย่อยเข้ากับนักลงทุนรายย่อยอื่น ๆ เพื่อซื้อหุ้นของบริษัทที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลเป็นประจำ โดยที่คุณไม่ต้องนั่งอ่านงบการเงินเลือกซื้อหุ้นด้วยตนเอง สิ่งนี้แปลเป็นเส้นทางคู่สู่ ROI ที่เป็นไปได้ภายในพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย


หุ้นปันผลหรือกองทุนหุ้นปันผล ลงทุนดีมีผลตอบแทนการลงทุน 10%

กระแสรายได้ที่มั่นคง:

การจ่ายเงินปันผลเป็นแหล่งรายได้ที่คาดการณ์ได้ ซึ่งสามารถนำไปลงทุนซ้ำเพื่อเพิ่มผลตอบแทนเมื่อเวลาผ่านไป การลงทุนซ้ำนี้สามารถเพิ่มผลตอบแทนรายปีได้อย่างมาก และผลักดันให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายที่ 10% มากขึ้น

การแข็งค่าของเงินทุน

นอกเหนือจากเงินปันผลแล้ว หุ้นอ้างอิงภายในกองทุนยังมีศักยภาพที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกด้วย การแข็งค่าของราคานี้ ควบคู่ไปกับรายได้ที่เกิดจากเงินปันผล จะส่งผลต่อผลตอบแทนการลงทุนโดยรวม


การคำนวณ ROI ของการลงทุนหุ้นห่านทองคำจำเป็นต้องคำนึงถึงทั้งเงินปันผลที่ได้รับและการแข็งค่าของเงินทุนหรือค่าเสื่อมราคาของราคาหุ้นของกองทุน


ไม่ว่าจะเป็นหุ้นคุณค่าหรือหุ้นเติบโต ก่อนเลือลกงทุนต้องศึกษาถึงโอกาสและความเสี่ยง กระจายการลงทุนไปยังอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และติตดามการทำงานของตลาดอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้ผลตอบแทนการลงทุนในระดับที่น่าพอใจแล้ว ก็อย่าโลภมาก รีบ Take Profit นำผลตอบแทนการลงทุนออกมาก่อนที่สถานการณ์จะพลิกผัน


5. สร้าง ROI ยาว ๆ กับกอง REIT ลงทุนอสังหาริมทรัพย์

กอง REIT หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust) ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจซึ่งนำเสนอความเสี่ยงในตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยปราศจากความซับซ้อนของการจัดการอสังหาริมทรัพย์โดยตรง


REIT คือบริษัทหนึ่งที่เป็นเจ้าของ ดำเนินการ หรือจัดหาเงินทุนให้กับอสังหาริมทรัพย์เชิงพณิชย์ เช่น ศูนย์การค้า โรงแรม โรงพยาบาล ศูนย์จัดแสดงสินค้า ฯลฯ ด้วยการลงทุนในกอง REIT คุณจะได้รับความเสี่ยงที่หลากหลายจากตะกร้า REITs และกระจายความเสี่ยงไปยังอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ที่กอง REIT นั้นนำเงินไปลงทุนสร้างผลตอบแทน


ดังนั้น หากต้องการสร้างรายรับที่มั่นคงจากผลตอบแทนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ต้องเสียเวลาไปจัดการดูแลด้วยตนเอง การเลือกกอง RIET ที่มีนโยบายการลงทนุในอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่ดีในระยะยาวจึงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อย


บทความที่คุณอาจสนใจ

6.รับ ROI จากการลงทุน ETF

ลองจินตนาการถึงตะกร้าที่เต็มไปด้วยตัวเลือกการลงทุนต่าง ๆ เช่น หุ้น พันธบัตร หรือสินค้าโภคภัณฑ์ ETF เป็นหลักทรัพย์ที่สามารถซื้อขายได้ซึ่งติดตามดัชนีตลาดหุ้น อุตสาหกรรม หรือประเภทสินทรัพย์ที่เฉพาะเจาะจง ในขณะที่กอง REIT เน้นน้ำหนักไปที่อสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ด้วยการลงทุนใน ETF เดียว คุณจะได้รับโอกาสในการเข้าถึงสินทรัพย์อ้างอิงจำนวนมาก และทำให้เกิดการกระจายความเสี่ยงเพิ่มโอกาสของผลตอบแทนการลงทุน


บทความที่คุณอาจสนใจ

7. เทรดสินค้าโภคภัณฑ์

การกระจายความเสี่ยงเพื่อรับโอกาสของการสร้างผลตอบแทนการลงทุนเป็นกุญแจสำคัญของกลยุทธ์การลงทุน ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) สามารถเป็นส่วนเสริมที่มีคุณค่าให้กับการสร้าง ROI ที่น่าประทับใจได้โดยนำเสนอความเสี่ยงในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สำคัญ มาสำรวจโลกของสินค้าโภคภัณฑ์และทำความเข้าใจว่าทำไมสินค้าโภคภัณฑ์ถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจภายใต้กลยุทธ์การลงทุนที่รอบด้าน



ข้อดีของการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนปีละ 10%

การกระจายความเสี่ยง

สินค้าโภคภัณฑ์มีความสัมพันธ์ต่ำกับหุ้นและพันธบัตรแบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่าเมื่อหุ้นและพันธบัตรประสบภาวะตกต่ำ สินค้าโภคภัณฑ์อาจดำเนินการแตกต่างออกไป ซึ่งอาจบรรเทาความสูญเสียและสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุนโดยรวม

คานน้ำหนักกับเงินเฟ้อ

ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มักจะสูงขึ้น สิ่งนี้สามารถทำหน้าที่ป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อ ปกป้องมูลค่าของพอร์ตการลงทุน

ศักยภาพในการสร้างผลตอบแทน

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อาจมีความผันผวน แต่ความผันผวนนี้ยังเปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนสูงอีกด้วย ด้วยการซื้อและขายสินค้าโภคภัณฑ์อย่างมีกลยุทธ์ตามแนวโน้มของตลาด คุณสามารถบรรลุผลกำไรจำนวนมากและมีส่วนช่วยให้บรรลุเป้าหมายผลตอบแทนรายปี 10%


บทความที่คุณอาจสนใจ

8.เก็งกำไรด้วยการเทรด CFD

การเทรด CFD ให้โอกาสในการได้รับผลตอบแทนการลงทุนได้แม้ในยามตลาดเป็นเทรนด์ขาลง 


ตราสาร CFD เป็นเครื่องมือการลงทุนที่ให้คุณเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น หุ้นรายตัว สกุลเงิน FOREX หรือสินค้าโภคภัณฑ์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของถือครองสินทรัพย์เหล่านั้น โดยคุณจะเปิดสัญญา Short -Position หรือ Long-Position กับโบรกเกอร์ CFD โดยเฉพาะ เพื่อคาดการการเปลี่ยนแปลงของราคา และผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นคือ ส่วนต่างราคาระหว่างราคา ณ วันที่คุณซื้อสัญญา กับราคา ณ วันที่คุณปิดสัญญา


หากมีการคำนวณอย่างรอบคอบ การเทร CFD สามารถสร้างผลตอบแทน 10% ได้ไม่ยาก เนื่องจากการเทรด CFD เป็นการเทรดด้วย Leverage ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินลงทุนเริ่มแรกที่น้อยลง ซึ่งนี่หมายถึงโอกาสที่มากขึ้นในผลตอบแทนบรรทัดสุดท้าย (รวมถึงเมื่อขาดทุนด้วย)


บทความที่คุณอาจสนใจ

บทส่งท้าย

เป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) 10% ต่อปีไม่ใช่ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ สามารถเป็นไปได้ด้วยการใช้แนวทางเชิงกลยุทธ์และหลายแง่มุม ลืมแผนการ “รวยเร็ว” ไปได้เลย สิ่งสำคัญอยู่ที่การสร้างพอร์ตการลงทุนที่ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนแต่ควรมีความหลากหลายเพื่อคานน้ำหนักซึ่งกันและกันในห้วงเวลาหนึ่ง ๆ


ข้อสำคัญของการเพิ่มโอกาสผลตอบแทนการลงทุนคือหลักคิดของการกระจายความเสี่ยง อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว! ด้วยการรวมตัวเลือกการลงทุนเหล่านี้อย่างมีกลยุทธ์โดยพิจารณาจากการยอมรับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนส่วนบุคคล คุณจะสร้างพอร์ตการลงทุนที่แข็งแกร่งพร้อมศักยภาพในการต้านทานความผันผวนของตลาด และบรรลุเป้าหมายผลตอบแทนรายปีที่มุ่งหวังได้อย่างแน่นอน


จะลงทุนอะไรดีน่ะหรือ… อย่าลืมรวมการเทรด CFD เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสร้างผลตอบแทนการลงทุนในยามภาวะตลาดผันผวนหรือเป็นขาลงได้ เปิดบัญชีเทรด CFD กับ TOPONE Markets วันนี้รับค่าคอมมิชชัน 0% และสเปรดของราคาที่แคบกว่า เพิ่มโอกาสการสร้าง ROI ได้ดังที่มุ่งหวัง


โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย