ดัชนี PMI คืออะไร บอกเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อนลงทุน อย่างไร

ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเป็นหัวข้อสนทนาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจ นักลงทุน และผู้บริโภคอย่างเราทุกคน ไม่ว่าทั้งทางตรงหรือทางอ้อม แล้วคุณจะก้าวนำหน้าสถานการณ์เหล่านั้นและตัดสินใจอย่างมีข้อมูลในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้ได้อย่างไร ด้วยการทำความเข้าใจถึงการประกาศตัวเลขดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ทรงพลังที่ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันและอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ที่ส่งอิทธิพลไปรอบโลก

การทำความเข้าใจดัชนี PMI และผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐ (ดัชนี USD) จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับตลาดการเงิน ด้วยการรวมความรู้นี้เข้ากับกลยุทธ์ คุณสามารถใช้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวของตลาดตามปฏิทิน Forex ที่สอดคล้องกับข้อมูลดัชนี PMI ได้

พร้อมที่จะปลดล็อกศักยภาพของดัชนี PMI และสำรวจโอกาสในการเทรดที่น่าตื่นเต้นแล้วหรือยัง เรียนรู้โลกของการลงทุนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อเท็จจริงของตัวเลข และวางแผนการเทรดอย่างมีกลยุทธ์ตามเป้าหมายการเงินส่วนบุคคลของแต่ละคน กับโบรกเกอร์ CFD ที่เชื่อถือได้อย่าง TOPONE Markets และการเทรดดัชนี USD ซึ่งเป็นตะกร้าสกุลเงินหลักที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งโดยรวมของเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้รับอิทธิพลจากข้อมูล PMI รายเดือนและอาจทำกำไรจากการตัดสินใจที่มีข้อมูล

การติดตามการเคลื่อนไหวของปฏิทินเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะยอ่างยิ่งในภูมิทัศน์ของสหรัฐฯ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจ นักลงทุน และใครก็ตามที่สนใจภูมิทัศน์ทางการเงินทั่วโลก ดัชนี PMI หรือ Perchasing Manager Index (PMI) ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำคัญในเรื่องนี้ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันและอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วยการรวม PMI เข้ากับการรับรู้ทางการเงิน คุณจะได้รับข้อได้เปรียบที่สำคัญในการตัดสินใจอย่างรอบรู้

ดัชนี PMI เป็นดัชนีรวมที่ได้มาจากการสำรวจที่ดำเนินการระหว่างผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในภาคส่วนต่าง ๆ โดยหลัก ๆ คือภาคการผลิตและการบริการ การสำรวจเหล่านี้จะเจาะลึกประเด็นสำคัญของกิจกรรมทางธุรกิจ รวมถึงคำสั่งซื้อใหม่ ๆ ระดับการผลิต การจ้างงาน การส่งมอบของซัพพลายเออร์ และสินค้าคงคลัง โดยการวิเคราะห์การตอบสนองที่ออกมาในรูปของดัชนี PMI จะสร้างการรับรู้ที่สะท้อนทิศทางโดยรวมของแนวโน้มเศรษฐกิจ

ตรวจสอบข้อมูลดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ที่นี่

ภาพ: การผันแปรของดัชนี PMI โดยรวมของสหรัฐฯ รายเดือน ณ 1 พ.ค. 2567

เกณฑ์มาตรฐานของดัชนี PMI คือ 50 พอยต์ ค่าที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคส่วนที่สำรวจ ซึ่งบ่งบอกถึงบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่เป็นบวก ในทางกลับกัน ค่าที่ต่ำกว่า 50 บ่งบอกถึงการหดตัว ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดดัชนี PMI ถึงสามารถเป็นตัวบ่งชี้ชั้นนำที่มีคุณค่าต่อการคาดการณ์บรรยากาศทางเศรษฐกิจได้ โดยเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ก่อนที่จะสะท้อนให้เห็นในการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการ

แล้วดัชนี PMI ของไทยล่ะ มีแนวโน้มเป้นอย่างไร จะสามารถคาดการณ์เศรษฐกิจของไทยได้อย่างไร

ภาพ: การผันแปรของดัชนี PMI โดยรวมของไทย รายเดือน ณ 1 พ.ค. 2567

สำหรับผู้ที่มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในตลาด Forex การทำความเข้าใจ PMI และผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐ (ดัชนี USD) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐมักจะเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การอ่านค่า PMI ที่แข็งแกร่งซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจสามารถหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ ในทางกลับกัน การอ่านค่า PMI ที่อ่อนแออาจทำให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง

ด้วยการจับตาดูข้อมูล PMI ที่เผยแพร่ทุกเดือนและพร้อมให้ใช้งานในปฏิทิน Forex ส่วนใหญ่ คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าที่สามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจเทรดได้ ความรู้นี้สามารถเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อพิจารณาการเทรดที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่อ่อนไหวต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจ

สองประเภทของดัชนี PMI

PMI ภาคการผลิต

Manufacturing PMI ดังที่ชื่อบอกไว้ โดยมุ่งเน้นไปที่สภาวะของภาคการผลิต PMI ที่อธิบายนี้มาจากการสำรวจที่ดำเนินการในหมู่ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในบริษัทผู้ผลิต โดยจะวัดปัจจัยต่าง ๆ เช่น คำสั่งซื้อใหม่ ระดับการผลิต การจ้างงานในการผลิต และ เวลาการส่งมอบของซัพพลายเออร์ PMI ภาคการผลิตที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงระดับการผลิตที่เพิ่มขึ้นและภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับเศรษฐกิจโดยรวม

ภาพ: ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ณ 1 พ.ค. 2567

จากรายงานดังกล่าวข้างต้น TradingView ได้แปลความหมายของดัชนี PMI ไว้ดังนี้ 

PMI ภาคการผลิตของ S&P Global US ณ เม.ย. 2567 อยู่ที่ 50.0 ซึ่งแสดงการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจากประมาณการเบื้องต้นที่ 49.9 และลดลงจาก 51.9 ของ มี.ค. 2567 ซึ่งบ่งชี้ว่าการปรับปรุงสภาพการดำเนินงานตลอด 3 เดือนสิ้นสุดลง

การเติบโตของผลผลิตชะลอตัวลงสู่ระดับที่ช้าที่สุดในรอบสามเดือน ในขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสี่เดือน ส่งผลให้ลูกค้าระมัดระวังและความลังเลที่จะลงทุนในธุรกิจใหม่ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ซบเซา

การจัดการกับคำสั่งซื้อที่ค้างอยู่ส่งผลให้ธุรกิจที่โดดเด่นลดลงอีก ในขณะที่อัตราการสร้างงานเร่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเก้าเดือน

ในด้านราคา อัตราเงินเฟ้อของต้นทุนวัตถุดิบจัดอยู่ในอันดับที่สูงเป็นอันดับสองที่สังเกตได้ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ค่าใช้จ่ายผลผลิตเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบสามเดือน

สุดท้ายความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบห้าเดือน

PMI ภาคบริการ

ดัชนี PMI ภาคบริการให้ความกระจ่างเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของภาคบริการ ซึ่งมีสัดส่วนที่ใหญ่กว่ามากในภูมิทัศน์ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับภาคการผลิต เช่นเดียวกับดัชนี PMI ภาคการผลิต การสำรวจนี้จะดำเนินการในหมู่ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในธุรกิจที่เน้นการบริการ

ภาพ: ดัชนี PMI ภาคการบริการของสหรัฐฯ ณ 1 พ.ค. 2567

จากรายงานดังกล่าวข้างต้น TradingView ได้แปลความหมายของดัชนี PMI ไว้ดังนี้ 

ณ เม.ย. 2567 ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ ลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน เหลือ 51.3 จาก 51.7 ใน มี.ค. แต่สูงกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ให้ไว้ที่ 50.9

ดัชนี PMI ชี้ไปที่กิจกรรมทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยทุกเดือน และช้าที่สุดนับตั้งแต่ พ.ย. ปีที่แล้ว

คำสั่งซื้อใหม่ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ต.ค. ปีที่แล้ว และการจ้างงานก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ไม่เต็มใจเพิ่มการจ้างงานทดแทน

ในด้านราคา อัตราเงินเฟ้อของต้นทุนวัตถุดิบและราคาผลผลิตอ่อนตัวลงเมื่อเริ่มต้นไตรมาสที่สอง แม้ว่าในแต่ละกรณี การเพิ่มขึ้นครั้งล่าสุดจะเร็วกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเกิดโรคระบาดก็ตาม

การเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง รวมถึงราคาน้ำมันและก๊าซที่สูงขึ้น ได้รับการรายงานอย่างกว้างขวางจากบริษัทต่าง ๆ

สุดท้ายนี้ ผู้ให้บริการในสหรัฐฯ ยังคงมองในแง่ดีว่ากิจกรรมทางธุรกิจจะเพิ่มขึ้นในปีที่จะมาถึง แม้ว่าความเชื่อมั่นจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบห้าเดือนก็ตาม

ไม่ว่าจะเป็นดัชนี PMI ประเภทใด แบบสำรวจเหล่านี้จะเจาะลึกประเด็นต่าง ๆ เช่น กิจกรรมทางธุรกิจใหม่ การจ้างงานในภาคการผลิตและการบริการ และงานที่ค้างอยู่ ดัชนี PMI ด้านบริการที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงเทรนด์การเติบโตของกิจกรรม ซึ่งอาจเป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกต่อสุขภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม

ด้วยการวิเคราะห์ทั้ง PMI ภาคการผลิตและ PMI ด้านบริการควบคู่ไปกับการคาดการณ์แนวโน้มที่จะส่งผลต่อดัชนี USD และจับตาดูปฏิทิน Forex รายเดือน คุณจะได้รับความเข้าใจที่ครอบคลุมมากขึ้นเกี่ยวกับภูมิทัศน์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ การอ่านที่แข็งแกร่งใน PMI ทั้งสองหมวดบ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ในขณะที่ความอ่อนแอในทั้งสองหมวดอาจส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวที่อาจเกิดขึ้น การรับรู้ถึงความแตกต่างของ PMI แต่ละรายการและข้อความที่รวมเข้าด้วยกันจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจโดยมีข้อมูลประกอบ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่สำรวจบรรยากาศทางเศรษฐกิจหรือเทรดเดอร์ที่ต้องการลงทุนตามเทรนด์โลก อย่าลืมติดตามดัชนีเศรษฐกิจนี้ของสหรัฐฯ

ดัชนี PMI ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากความพยายามอย่างพิถีพิถันขององค์กรที่ทุ่มเท การทำความเข้าใจหน่วยงานที่รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลช่วยให้เห็นความน่าเชื่อถือของตัวดัชนีและตอกย้ำคุณค่าของมันในฐานะตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจชั้นนำ

ในสหรัฐฯ ตัวขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลัง PMI คือ Institute for Supply Management (ISM) ISM ก่อตั้งขึ้นในปี 1915 เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ได้รับความเคารพอย่างสูง ซึ่งอุทิศตนเพื่อพัฒนาวิชาชีพด้านการจัดการอุปทาน เครือข่ายการจัดซื้อที่กว้างขวางของพวกเขา ผู้จัดการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นแกนหลักของกระบวนการรวบรวมข้อมูลสำหรับการเผยแพร่ดัชนี PMI รายเดือนที่กำหนดไว้แล้วบนปฏิทิน Forex

ไม่พลาดเหตุการณ์เศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ของสหรัฐฯ ด้วยปฏิทินเศรษฐกิจอัปเดทล่าสุด

ISM ดำเนินการสำรวจรายเดือนโดยมีเป้าหมายไปที่ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในบริษัทด้านการผลิตและการบริการ ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นคะแนน PMI วิธีการที่เข้มงวดของ ISM ช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและ เป็นตัวแทนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวงกว้าง

นอกเหนือจากสหรัฐฯ ประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ จำนวนมากยังมีดัชนี PMI ของตนเอง ซึ่งมักคำนวณโดยองค์กรที่คล้ายกันซึ่งติดตามการจัดการอุปทาน แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะของ PMI แต่ละรายการอาจแตกต่างกันเล็กน้อย แต่แนวคิดหลักยังคงเหมือนเดิมคือเพื่อการวัดกิจกรรมทางธุรกิจและคาดการณ์ แนวโน้มเศรษฐกิจ

ด้วยการทำความเข้าใจบทบาทของ ISM และองค์กรที่คล้ายกันในการรวบรวมข้อมูล PMI คุณจะได้รับความมั่นใจในความถูกต้องของ PMI ซึ่งสะท้อนถึงบรรยากาศเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ความรู้นี้ยังช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จาก PMI ควบคู่ไปกับดัชนี USD ซึ่งมีอยู่ในปฏิทิน Forex ส่วนใหญ่ เพื่อทำการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลในด้านการเงิน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้นำธุรกิจที่สำรวจภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจหรือเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของตลาด PMI สามารถเป็นเครื่องมืออันมีค่าในการจัดการข้อมูลเพื่อตัดสินใจทางการเงิน

หวังว่าทุกท่าน จะยังไม่ลืมข้อสำคัญที่ว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง PMI และดอลลาร์สหรัฐนั้นเป็นคู๋ขนาน แม้ว่าดัชนี PMI จะมีอิทธิพลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าก็สามารถส่งผลกระทบเชิงบวกต่อการผันแปรของดัชนี PMI ได้เช่นกัน โดยทำให้การนำเข้าถูกลงและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิต

ด้วยการทำความเข้าใจถึงอิทธิพลซึ่งกันและกันระหว่างดัชนี PMI และดัชนี USD บริษัท ซัพพลายเออร์ และนักลงทุนรายบุคคลจึงสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลรอบด้านเพื่อวางตำแหน่งของตนให้ประสบความสำเร็จในภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ผู้จัดการองค์กร

ค่าดัชนี PMI ที่แข็งแกร่งบ่งบอกถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ สามารถทำให้ธุรกิจต่าง ๆ กล้าที่จะเพิ่มการผลิตและขยายการดำเนินงานได้

การตัดสินใจเช่นนี้ จะนำไปสู่ความต้องการวัสดุและอุปกรณ์นำเข้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถสร้างแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์สหรัฐได้มากขึ้น ในทางกลับกัน ดัชนี PMI ที่อ่อนแอกำลังบ่งชี้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจกระตุ้นให้ธุรกิจต่าง ๆ ชะลอแผนการขยายธุรกิจและลดการนำเข้า และส่งผลไปยังการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ในที่สุด

บทความที่คุณอาจสนใจ

• ทำความเข้าใจ Dollar Index - คืออะไร ทำงานอย่างไร

• เทรดคู่เงิน Forex ยอดนิยม ด้วย CFD

ซัพพลายเออร์

ซัพพลายเออร์ทั้งในประเทศสหรัฐฯ และต่างประเทศต่าติดตามการเปลี่ยนแปลงของดัชนี PMI อย่างใกล้ชิดทุกเดือน หากดัชนี PMI เป็นบวกหรือมีแนวโน้มขาขึ้น อาจนำไปสู่ราคาที่สูงขึ้นและความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นสำหรับซัพพลายเออร์ อย่างไรก็ตามในทางกลับกัน อาจส่งสัญญาณถึงอุปสงค์ที่ลดลง ส่งผลให้ซัพพลายเออร์ต้องปรับกลยุทธ์การกำหนดราคาหรือเผชิญกับผลกำไรที่ลดลง

บทความที่คุณอาจสนใจ

• ดัชนี CPI คืออะไร และ 5 วิธีลงทุนยุคเงินเฟ้อ

• อ่าน 3 งบการเงินของบริษัทเป็นก่อนลงทุนหุ้นห่านทองคำ

• ส่องหุ้นจีนในสหรัฐฯ ด้วยดัชนี Nasdaq China Golden Dragon Index

เทรดเดอร์

สำหรับนักลงทุนรายย่อยเช่นเรา ผลกระทบของ PMI ที่มีต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เกิดโอกาสในการเทรด ข้อมูลเชิงบวกของดัชนี PMI ที่แข็งแกร่ง ซึ่งมักตีความว่าเป็นภาวะกระทิงสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจทำให้นักลงทุนซื้อดอลลาร์สหรัฐโดยคาดว่าจะแข็งค่าขึ้น ในทางกลับกัน PMI ที่อ่อนแออาจส่งสัญญาณถึงแนวโน้มเศรษฐกิจขาลง ซึ่งอาจกระตุ้นให้นักลงทุนขายการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของตน 

บทความที่คุณอาจสนใจ

• โอกาสเทรดทอง สร้างผลตอบแทนที่ดีปี 2567

• ซื้อทองตอนนี้ดีไหม รวมเรื่องต้องรู้ก่อนเริ่มเก็บสะสมทอง

• อุปสงค์ อุปทานคืออะไร สำคัญอย่างไรต่อการลงทุน

ด้วยการจับตาดูข้อมูล PMI ที่เผยแพร่ทุกเดือนและพร้อมใช้งานในปฏิทิน Forex ส่วนใหญ่อย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับดัชนี USD และการทำความเข้าใจถึงสินทรัพย์การลงทุนที่แปรผกผันกับราคาของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา

เปิดบัญชีเทรด CFD กับโบรกเกอร์ TOPONE Markets วันนี้ เข้าสู่ตลาดการเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาที่สอดคล้องกับดัชนี PMI ของสหรัฐฯ เทรดดัชนี USD, CFD สินค้าโภคภัณฑ์, CFD หุ้น และ CFD ทองคำ

เทรด USD/EUR/JPY/AUD ฯลฯ แบบออนไลน์

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!

ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเป็นหัวข้อสนทนาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจ นักลงทุน และผู้บริโภคอย่างเราทุกคน ไม่ว่าทั้งทางตรงหรือทางอ้อม แล้วคุณจะก้าวนำหน้าสถานการณ์เหล่านั้นและตัดสินใจอย่างมีข้อมูลในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้ได้อย่างไร ด้วยการทำความเข้าใจถึงการประกาศตัวเลขดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ทรงพลังที่ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันและอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ที่ส่งอิทธิพลไปรอบโลก

การทำความเข้าใจดัชนี PMI และผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐ (ดัชนี USD) จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับตลาดการเงิน ด้วยการรวมความรู้นี้เข้ากับกลยุทธ์ คุณสามารถใช้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวของตลาดตามปฏิทิน Forex ที่สอดคล้องกับข้อมูลดัชนี PMI ได้

พร้อมที่จะปลดล็อกศักยภาพของดัชนี PMI และสำรวจโอกาสในการเทรดที่น่าตื่นเต้นแล้วหรือยัง เรียนรู้โลกของการลงทุนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อเท็จจริงของตัวเลข และวางแผนการเทรดอย่างมีกลยุทธ์ตามเป้าหมายการเงินส่วนบุคคลของแต่ละคน กับโบรกเกอร์ CFD ที่เชื่อถือได้อย่าง TOPONE Markets และการเทรดดัชนี USD ซึ่งเป็นตะกร้าสกุลเงินหลักที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งโดยรวมของเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้รับอิทธิพลจากข้อมูล PMI รายเดือนและอาจทำกำไรจากการตัดสินใจที่มีข้อมูล

การติดตามการเคลื่อนไหวของปฏิทินเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะยอ่างยิ่งในภูมิทัศน์ของสหรัฐฯ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจ นักลงทุน และใครก็ตามที่สนใจภูมิทัศน์ทางการเงินทั่วโลก ดัชนี PMI หรือ Perchasing Manager Index (PMI) ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำคัญในเรื่องนี้ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันและอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วยการรวม PMI เข้ากับการรับรู้ทางการเงิน คุณจะได้รับข้อได้เปรียบที่สำคัญในการตัดสินใจอย่างรอบรู้

ดัชนี PMI เป็นดัชนีรวมที่ได้มาจากการสำรวจที่ดำเนินการระหว่างผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในภาคส่วนต่าง ๆ โดยหลัก ๆ คือภาคการผลิตและการบริการ การสำรวจเหล่านี้จะเจาะลึกประเด็นสำคัญของกิจกรรมทางธุรกิจ รวมถึงคำสั่งซื้อใหม่ ๆ ระดับการผลิต การจ้างงาน การส่งมอบของซัพพลายเออร์ และสินค้าคงคลัง โดยการวิเคราะห์การตอบสนองที่ออกมาในรูปของดัชนี PMI จะสร้างการรับรู้ที่สะท้อนทิศทางโดยรวมของแนวโน้มเศรษฐกิจ

ตรวจสอบข้อมูลดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ที่นี่

ภาพ: การผันแปรของดัชนี PMI โดยรวมของสหรัฐฯ รายเดือน ณ 1 พ.ค. 2567

เกณฑ์มาตรฐานของดัชนี PMI คือ 50 พอยต์ ค่าที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคส่วนที่สำรวจ ซึ่งบ่งบอกถึงบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่เป็นบวก ในทางกลับกัน ค่าที่ต่ำกว่า 50 บ่งบอกถึงการหดตัว ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดดัชนี PMI ถึงสามารถเป็นตัวบ่งชี้ชั้นนำที่มีคุณค่าต่อการคาดการณ์บรรยากาศทางเศรษฐกิจได้ โดยเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ก่อนที่จะสะท้อนให้เห็นในการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการ

แล้วดัชนี PMI ของไทยล่ะ มีแนวโน้มเป้นอย่างไร จะสามารถคาดการณ์เศรษฐกิจของไทยได้อย่างไร

ภาพ: การผันแปรของดัชนี PMI โดยรวมของไทย รายเดือน ณ 1 พ.ค. 2567

สำหรับผู้ที่มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในตลาด Forex การทำความเข้าใจ PMI และผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐ (ดัชนี USD) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐมักจะเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การอ่านค่า PMI ที่แข็งแกร่งซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจสามารถหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ ในทางกลับกัน การอ่านค่า PMI ที่อ่อนแออาจทำให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง

ด้วยการจับตาดูข้อมูล PMI ที่เผยแพร่ทุกเดือนและพร้อมให้ใช้งานในปฏิทิน Forex ส่วนใหญ่ คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าที่สามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจเทรดได้ ความรู้นี้สามารถเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อพิจารณาการเทรดที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่อ่อนไหวต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจ

สองประเภทของดัชนี PMI

PMI ภาคการผลิต

Manufacturing PMI ดังที่ชื่อบอกไว้ โดยมุ่งเน้นไปที่สภาวะของภาคการผลิต PMI ที่อธิบายนี้มาจากการสำรวจที่ดำเนินการในหมู่ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในบริษัทผู้ผลิต โดยจะวัดปัจจัยต่าง ๆ เช่น คำสั่งซื้อใหม่ ระดับการผลิต การจ้างงานในการผลิต และ เวลาการส่งมอบของซัพพลายเออร์ PMI ภาคการผลิตที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงระดับการผลิตที่เพิ่มขึ้นและภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับเศรษฐกิจโดยรวม

ภาพ: ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ณ 1 พ.ค. 2567

จากรายงานดังกล่าวข้างต้น TradingView ได้แปลความหมายของดัชนี PMI ไว้ดังนี้ 

PMI ภาคการผลิตของ S&P Global US ณ เม.ย. 2567 อยู่ที่ 50.0 ซึ่งแสดงการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจากประมาณการเบื้องต้นที่ 49.9 และลดลงจาก 51.9 ของ มี.ค. 2567 ซึ่งบ่งชี้ว่าการปรับปรุงสภาพการดำเนินงานตลอด 3 เดือนสิ้นสุดลง

การเติบโตของผลผลิตชะลอตัวลงสู่ระดับที่ช้าที่สุดในรอบสามเดือน ในขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสี่เดือน ส่งผลให้ลูกค้าระมัดระวังและความลังเลที่จะลงทุนในธุรกิจใหม่ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ซบเซา

การจัดการกับคำสั่งซื้อที่ค้างอยู่ส่งผลให้ธุรกิจที่โดดเด่นลดลงอีก ในขณะที่อัตราการสร้างงานเร่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเก้าเดือน

ในด้านราคา อัตราเงินเฟ้อของต้นทุนวัตถุดิบจัดอยู่ในอันดับที่สูงเป็นอันดับสองที่สังเกตได้ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ค่าใช้จ่ายผลผลิตเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบสามเดือน

สุดท้ายความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบห้าเดือน

PMI ภาคบริการ

ดัชนี PMI ภาคบริการให้ความกระจ่างเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของภาคบริการ ซึ่งมีสัดส่วนที่ใหญ่กว่ามากในภูมิทัศน์ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับภาคการผลิต เช่นเดียวกับดัชนี PMI ภาคการผลิต การสำรวจนี้จะดำเนินการในหมู่ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในธุรกิจที่เน้นการบริการ

ภาพ: ดัชนี PMI ภาคการบริการของสหรัฐฯ ณ 1 พ.ค. 2567

จากรายงานดังกล่าวข้างต้น TradingView ได้แปลความหมายของดัชนี PMI ไว้ดังนี้ 

ณ เม.ย. 2567 ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ ลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน เหลือ 51.3 จาก 51.7 ใน มี.ค. แต่สูงกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ให้ไว้ที่ 50.9

ดัชนี PMI ชี้ไปที่กิจกรรมทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยทุกเดือน และช้าที่สุดนับตั้งแต่ พ.ย. ปีที่แล้ว

คำสั่งซื้อใหม่ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ต.ค. ปีที่แล้ว และการจ้างงานก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ไม่เต็มใจเพิ่มการจ้างงานทดแทน

ในด้านราคา อัตราเงินเฟ้อของต้นทุนวัตถุดิบและราคาผลผลิตอ่อนตัวลงเมื่อเริ่มต้นไตรมาสที่สอง แม้ว่าในแต่ละกรณี การเพิ่มขึ้นครั้งล่าสุดจะเร็วกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเกิดโรคระบาดก็ตาม

การเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง รวมถึงราคาน้ำมันและก๊าซที่สูงขึ้น ได้รับการรายงานอย่างกว้างขวางจากบริษัทต่าง ๆ

สุดท้ายนี้ ผู้ให้บริการในสหรัฐฯ ยังคงมองในแง่ดีว่ากิจกรรมทางธุรกิจจะเพิ่มขึ้นในปีที่จะมาถึง แม้ว่าความเชื่อมั่นจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบห้าเดือนก็ตาม

ไม่ว่าจะเป็นดัชนี PMI ประเภทใด แบบสำรวจเหล่านี้จะเจาะลึกประเด็นต่าง ๆ เช่น กิจกรรมทางธุรกิจใหม่ การจ้างงานในภาคการผลิตและการบริการ และงานที่ค้างอยู่ ดัชนี PMI ด้านบริการที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงเทรนด์การเติบโตของกิจกรรม ซึ่งอาจเป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกต่อสุขภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม

ด้วยการวิเคราะห์ทั้ง PMI ภาคการผลิตและ PMI ด้านบริการควบคู่ไปกับการคาดการณ์แนวโน้มที่จะส่งผลต่อดัชนี USD และจับตาดูปฏิทิน Forex รายเดือน คุณจะได้รับความเข้าใจที่ครอบคลุมมากขึ้นเกี่ยวกับภูมิทัศน์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ การอ่านที่แข็งแกร่งใน PMI ทั้งสองหมวดบ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ในขณะที่ความอ่อนแอในทั้งสองหมวดอาจส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวที่อาจเกิดขึ้น การรับรู้ถึงความแตกต่างของ PMI แต่ละรายการและข้อความที่รวมเข้าด้วยกันจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจโดยมีข้อมูลประกอบ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่สำรวจบรรยากาศทางเศรษฐกิจหรือเทรดเดอร์ที่ต้องการลงทุนตามเทรนด์โลก อย่าลืมติดตามดัชนีเศรษฐกิจนี้ของสหรัฐฯ

ดัชนี PMI ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากความพยายามอย่างพิถีพิถันขององค์กรที่ทุ่มเท การทำความเข้าใจหน่วยงานที่รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลช่วยให้เห็นความน่าเชื่อถือของตัวดัชนีและตอกย้ำคุณค่าของมันในฐานะตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจชั้นนำ

ในสหรัฐฯ ตัวขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลัง PMI คือ Institute for Supply Management (ISM) ISM ก่อตั้งขึ้นในปี 1915 เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ได้รับความเคารพอย่างสูง ซึ่งอุทิศตนเพื่อพัฒนาวิชาชีพด้านการจัดการอุปทาน เครือข่ายการจัดซื้อที่กว้างขวางของพวกเขา ผู้จัดการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นแกนหลักของกระบวนการรวบรวมข้อมูลสำหรับการเผยแพร่ดัชนี PMI รายเดือนที่กำหนดไว้แล้วบนปฏิทิน Forex

ไม่พลาดเหตุการณ์เศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ของสหรัฐฯ ด้วยปฏิทินเศรษฐกิจอัปเดทล่าสุด

ISM ดำเนินการสำรวจรายเดือนโดยมีเป้าหมายไปที่ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในบริษัทด้านการผลิตและการบริการ ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นคะแนน PMI วิธีการที่เข้มงวดของ ISM ช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและ เป็นตัวแทนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวงกว้าง

นอกเหนือจากสหรัฐฯ ประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ จำนวนมากยังมีดัชนี PMI ของตนเอง ซึ่งมักคำนวณโดยองค์กรที่คล้ายกันซึ่งติดตามการจัดการอุปทาน แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะของ PMI แต่ละรายการอาจแตกต่างกันเล็กน้อย แต่แนวคิดหลักยังคงเหมือนเดิมคือเพื่อการวัดกิจกรรมทางธุรกิจและคาดการณ์ แนวโน้มเศรษฐกิจ

ด้วยการทำความเข้าใจบทบาทของ ISM และองค์กรที่คล้ายกันในการรวบรวมข้อมูล PMI คุณจะได้รับความมั่นใจในความถูกต้องของ PMI ซึ่งสะท้อนถึงบรรยากาศเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ความรู้นี้ยังช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จาก PMI ควบคู่ไปกับดัชนี USD ซึ่งมีอยู่ในปฏิทิน Forex ส่วนใหญ่ เพื่อทำการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลในด้านการเงิน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้นำธุรกิจที่สำรวจภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจหรือเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของตลาด PMI สามารถเป็นเครื่องมืออันมีค่าในการจัดการข้อมูลเพื่อตัดสินใจทางการเงิน

หวังว่าทุกท่าน จะยังไม่ลืมข้อสำคัญที่ว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง PMI และดอลลาร์สหรัฐนั้นเป็นคู๋ขนาน แม้ว่าดัชนี PMI จะมีอิทธิพลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าก็สามารถส่งผลกระทบเชิงบวกต่อการผันแปรของดัชนี PMI ได้เช่นกัน โดยทำให้การนำเข้าถูกลงและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิต

ด้วยการทำความเข้าใจถึงอิทธิพลซึ่งกันและกันระหว่างดัชนี PMI และดัชนี USD บริษัท ซัพพลายเออร์ และนักลงทุนรายบุคคลจึงสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลรอบด้านเพื่อวางตำแหน่งของตนให้ประสบความสำเร็จในภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ผู้จัดการองค์กร

ค่าดัชนี PMI ที่แข็งแกร่งบ่งบอกถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ สามารถทำให้ธุรกิจต่าง ๆ กล้าที่จะเพิ่มการผลิตและขยายการดำเนินงานได้

การตัดสินใจเช่นนี้ จะนำไปสู่ความต้องการวัสดุและอุปกรณ์นำเข้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถสร้างแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์สหรัฐได้มากขึ้น ในทางกลับกัน ดัชนี PMI ที่อ่อนแอกำลังบ่งชี้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจกระตุ้นให้ธุรกิจต่าง ๆ ชะลอแผนการขยายธุรกิจและลดการนำเข้า และส่งผลไปยังการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ในที่สุด

บทความที่คุณอาจสนใจ

• ทำความเข้าใจ Dollar Index - คืออะไร ทำงานอย่างไร

• เทรดคู่เงิน Forex ยอดนิยม ด้วย CFD

ซัพพลายเออร์

ซัพพลายเออร์ทั้งในประเทศสหรัฐฯ และต่างประเทศต่าติดตามการเปลี่ยนแปลงของดัชนี PMI อย่างใกล้ชิดทุกเดือน หากดัชนี PMI เป็นบวกหรือมีแนวโน้มขาขึ้น อาจนำไปสู่ราคาที่สูงขึ้นและความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นสำหรับซัพพลายเออร์ อย่างไรก็ตามในทางกลับกัน อาจส่งสัญญาณถึงอุปสงค์ที่ลดลง ส่งผลให้ซัพพลายเออร์ต้องปรับกลยุทธ์การกำหนดราคาหรือเผชิญกับผลกำไรที่ลดลง

บทความที่คุณอาจสนใจ

• ดัชนี CPI คืออะไร และ 5 วิธีลงทุนยุคเงินเฟ้อ

• อ่าน 3 งบการเงินของบริษัทเป็นก่อนลงทุนหุ้นห่านทองคำ

• ส่องหุ้นจีนในสหรัฐฯ ด้วยดัชนี Nasdaq China Golden Dragon Index

เทรดเดอร์

สำหรับนักลงทุนรายย่อยเช่นเรา ผลกระทบของ PMI ที่มีต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เกิดโอกาสในการเทรด ข้อมูลเชิงบวกของดัชนี PMI ที่แข็งแกร่ง ซึ่งมักตีความว่าเป็นภาวะกระทิงสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจทำให้นักลงทุนซื้อดอลลาร์สหรัฐโดยคาดว่าจะแข็งค่าขึ้น ในทางกลับกัน PMI ที่อ่อนแออาจส่งสัญญาณถึงแนวโน้มเศรษฐกิจขาลง ซึ่งอาจกระตุ้นให้นักลงทุนขายการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของตน 

บทความที่คุณอาจสนใจ

• โอกาสเทรดทอง สร้างผลตอบแทนที่ดีปี 2567

• ซื้อทองตอนนี้ดีไหม รวมเรื่องต้องรู้ก่อนเริ่มเก็บสะสมทอง

• อุปสงค์ อุปทานคืออะไร สำคัญอย่างไรต่อการลงทุน

ด้วยการจับตาดูข้อมูล PMI ที่เผยแพร่ทุกเดือนและพร้อมใช้งานในปฏิทิน Forex ส่วนใหญ่อย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับดัชนี USD และการทำความเข้าใจถึงสินทรัพย์การลงทุนที่แปรผกผันกับราคาของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา

เปิดบัญชีเทรด CFD กับโบรกเกอร์ TOPONE Markets วันนี้ เข้าสู่ตลาดการเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาที่สอดคล้องกับดัชนี PMI ของสหรัฐฯ เทรดดัชนี USD, CFD สินค้าโภคภัณฑ์, CFD หุ้น และ CFD ทองคำ

เทรด USD/EUR/JPY/AUD ฯลฯ แบบออนไลน์

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!