4 ขั้นตอนวางแผนการเงินส่วนบุคคลง่าย ๆ

เงินไม่ใช่คำตอบของชีวิต แต่เงินจะซื้อความสุข ความสะดวกสบาย และคุณภาพชีวิตที่ดีมาให้แก่คุณและครอบครัวได้ แต่สิ่งที่จะพาให้คุณไปถึงจุดนั้นได้ ก็คือการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบและมีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์

ไม่ว่าคุณกำลังมองหาจุดเริ่มต้นของการวางแผนการเงินส่วนบุคคล การวางแผนการเงินธุรกิจ การวางแผนการเงินหลังเกษียณ หรือเพื่อเป้าหมายใด ๆ ก็แล้วแต่ คุณจะต้องเริ่มต้นด้วยพื้นฐานและการจัดการที่เป็นระบบ ตรวจสอบได้ มีความยืดหยุ่น ที่สำคัญคือ ต้องมีวินัยในตัวเอง

ขั้นตอนวางแผนการเงิน

เมื่อคุณเริ่มวางแผนการเงิน มีหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นและมีความยืดหยุ่นได้ นั่นก็คือโปรแกรม Excel ที่คุ้นเคยกันดี

คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ Excel ขั้นสูงถึงจะเริ่มใช้ Excel ในการวางแผนการเงินขอเพียงแค่สูตรคำนวณพื้นฐานอย่างการบวก ลบ คูณ หาร ก็สามารถสร้างการวางแผนการเงินที่มีความยืดหยุ่นได้

ในย่อหนน้านี้ เรามาดูกันว่า ถ้าจะเริ่มวางแผนการเงินสักที ควรจะเริ่มเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไร

กำหนดเป้าหมายสำหรับแผนการเงิน

เมื่อคุณมีเป้าหมาย ก็จะรู้โดยอัตโนมัติว่าควรทำอย่างไร เช่นเดียวกับการขับรถ เมื่อคุณมีจุดหมยปลายทาง คุณก็จะคิดหาเส้นทางที่สะดวกที่สุดได้ หรือหากเกิดการจราจรติดขัด คุณก็มีเส้นทางที่สองให้เลี่ยงใช้

นั่นหมายความว่า หากคุณรู้ว่าต้องการหรือจำเป็นใช้เงินเท่าไร สำหรับอะไร คุณจึงจะรู้ว่าควรเก็บเงินเท่าไร แล้วถ้าขาดเหลือจะปรับแผน หรือหาเงินมาใส่เพิ่มได้อย่างไรบ้าง

เช่น ต้องการวางแผนเก็บเงินสำหรับไปทัวร์ต่างประเทศ วางแผนการเงินสำหรับการเตรียมแต่งงาน สร้างครอบครัว วางแผนการเงินสำหรับดาวน์บ้าน เมื่อคุณมีแผนการที่ชัดเจนแล้ว เราจะไปกำหนดงบประมาณกัน

กำหนดงบประมาณ

การกำหนดงบประมาณในการวางแผนการเงินจะช่วยให้คุณควบคุมการใช้จ่ายเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

จากตัวอย่างข้างต้น เมื่อคุณต้องการไปทัวร์ต่างประเทศ ให้กำหนดงบประมาณออกมา รวมค่าเครื่องบิน ค่าที่พัก พ็อกเก็ตมันนี่ควรเป็นเท่าไร แล้วจึงวางแผนการใช้จ่าย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินนั้น

การมีงบประมาณ จะช่วยให้คุณติดตามความคืบหน้าของการวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ตึงไม่หย่อนเกินไป

ยิ่งไปกว่านั้น แม้คุณจะมิได้มีแพลนใช้เงินก็ตาม คุณก็ยังควรกำหนดงบประมาณในการวางแผนการเงินประจำเดือนว่าแต่ละเดือนคุณจะใช้จ่ายไปกับอะไรเป็นจำนวนเท่าไร

เช่น วางแผนใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในแต่ละเดือนที่ 5,000 บาท เป็นค่าเล่าเรียนของลูกเดือนละ 5,000 บาท แบ่งเป็นเงินออม 15% ของรายได้ และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ 

คุณควรกำหนดงบประมาณในขั้นตอนวางแผนการเงินเพื่อให้ไม่ใช้จ่ายเงินเกินตัว มีเงินเหลือเก็บ มีเงินออม มีเงินไว้ลงทุน และมีเงินสำหรับใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน

ติดตามรายจ่าย

แผนการเงินที่ดีควรช่วยให้คุณติดตามรายรับและรายจ่ายเพื่อให้ปรับยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ เช่น เมื่อคุณตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าในระยะ 3 เดือนหรือ 6 เดือนที่ผ่านมา คุณใช้จ่ายไปกับอะไร มากน้อยเท่าไร คุณจะทราบว่า ควรปรับลดรายจ่ายไหนลงได้บ้าง

เงินที่ประหยัดได้แม้เพียงนิดเดียว ก็เท่ากับมีเงินเหลือมากขึ้น ก็เพิ่มโอกาสในการลงทุนได้มากขึ้น

เพิ่มช่องทางรายได้

การเพิ่มรายได้จะช่วยให้คุณมีกระแสเงินสดเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง คุณอาจใช้เวลาว่างจากการทำงานโดยเปลี่ยนงานอดิเรกหรือความชอบให้เป็นรายได้

ข้อสำคัญในการหารายได้เพิ่มก็คือจะต้องเป็นงานที่ถูกกฎหมาย ไม่เอาเปรียบใคร และคุณต้องไม่เหนื่อยจนเกินไปด้วย

เพื่อคุณมีรายได้เพิ่มเข้ามาก็ กลับไปสู่ขั้นตอนที่ 1 และขั้นตอนที่ 2 นั่นก็คือการกำหนดเป้าหมายและงบประมาณการใช้เงินให้สอดคล้องแผนการเงิน

วิธีการใช้ Microsoft Excel ในการวางแผนการเงินนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ตอนนี้คุณเข้าใจคอนเซ็ปต์ 4 ข้อแล้วนั้นก็คือ กำหนดเป้าหมายสำหรับแผนการเงิน กำหนดงบประมาณ ติดตามรายจ่าย และเพิ่มช่องทางรายได้

ให้คุณลองเปิด Microsoft Excel ขึ้นมาแล้วแบ่งออกเป็น 2 ส่วนก่อน นั่นก็คือรายรับและรายจ่าย

ในช่องของรายรับ ให้ระบุรายได้จากงานประจำที่ 1 รายได้จากงานประจำที่ 2 รายได้จากงานเสริมที่ 1 รายได้จากงานเสริมที่ 2 และใช้สูตรคำนวณผลรวม

ในส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นรายจ่าย ให้เขียนรายจ่ายในแต่ละเดือนพร้อมจำนวนเงิน หากเป็นค่าใช้จ่ายประจำอย่างค่าน้ำ หรือค่าไฟที่มีขึ้นลงบ้าง ให้ยึดที่ตัวเลขที่มากสุดไว้ก่อน และใช้สูตรคำนวณผลรวม นำยอดของส่วนที่หนึ่งลบกับส่วนที่สอง

ส่วนที่สองนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการวางแผนการเงินด้วย excel คุณสามารถเพิ่มหรือลดรายการรายจ่าย หรือลดยอดเงินค่าใช้จ่ายแต่ละรายการลงและลองดูว่ายอดรวมรายจ่ายที่ออกมานั้นเป็นอย่างไร

เมื่อคุณพบจุดที่จำเป็นที่จะต้องปรับแล้วก็สามารถใช้สูตร　Excel ช่วยดูได้ ข้อสำคัญคือคุณจะต้องมีวินัยในตนเองซื่อสัตย์ต่อตนเองมีการจับจ่ายใช้สอยในแต่ละเดือน 

วางแผนการเงินรายเดือน

คนส่วนใหญ่มักจะได้รับเงินเป็นรายเดือน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนเองหรือผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว การวางแผนเงินรายเดือน คือ การกำหนดทิศทางการใช้เงินส่วนบุคคลเพื่อให้รู้ว่าจะใช้จ่ายอะไร เท่าไร

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนโสดหรือคนที่มีครอบครัวแล้ว การวางแผนการเงินรายเดือนเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของสวัสดิภาพในครัวเรือน

หากคุณยังเป็นนักเรียนนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้ประจำ คุณก็สามารถวางแผนการเงินรายเดือนของตนเองได้จากเงินค่าขนมที่คุณพ่อคุณแม่มอบให้ หรือเงินจากงานพิเศษที่

ลองจัดสรรเงินบางส่วนมาเพื่อการออม สร้างการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนตามระดับความเสี่ยงที่ตนเองรับได้

การออมทีละเล็กละน้อยเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาวะที่ดีทางการเงิน

วางแผนการเงินสำหรับธุรกิจ

เมื่อพูดถึงการดำเนินธุรกิจ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเงินทุน แต่แต่ให้มีเงินทุนแต่ขาดการวางแผนการเงินที่ดี ธุรกิจของคุณก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ บรรดาผู้ประกอบการต่างรู้ดีถึงวิธีการวางแผนการเงินสำหรับธุรกิจของตนโดยการจำกัดต้นทุนด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เป็นไปได้ เช่น มีโซลูชั่นที่ดีกว่าในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือผลิตสินค้าให้ออกมาได้จำนวนมากขึ้นภายใต้ระยะเวลาและต้นทุนที่ถูกลงบ้างหรือไม่

ข้อสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับผู้ประกอบการคือ คุณควรางแผนการใช้เงินสำหรับธุรกิจและสำหรับการใช้ส่วนตัวแยกออกจากกัน

สิ่งนี้จะช่วยให้คุณคำนวณรายรับ รายจ่าย ภาษี ลูกหนี้ เจ้าหนี้ของารทำธุรกิจได้อย่างโปร่งใส และปันสัดส่วนผลตอบแทนให้แก่เจ้าของหรือพาร์ทเนอร์ตามที่ได้ตกลงกันไว้ในช่วงสิ้นเดือน

วางแผนการเงินเพื่อลดหย่อนภาษี และใช้ยามเกษียณ

ผู้ที่มีหน้าที่การเสียภาษีประจำปีคงกำลังมองหาวิธีการลดหย่อนภาษีลง สิ่งสำคัญคือต้องทราบก่อนว่าในแต่ละปีคุณมีรายได้ประมาณการณ์เท่าไร รายได้ระดับนี้จะต้องเสียภาษีที่ฐานเท่าไร จากนั้นจึงทราบว่าสามารถซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีหรือเพิ่มการบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษีได้อีกมากน้อยเท่าไร

การวางแผนการเงินเพื่อการลดหย่อนภาษีและใช้ยามเกษียณที่เราขอแนะนำนั้นคือกองทุน SSF กองทุน RMF ซึ่งสิ่งนี้คุณจะได้ทั้งการออมการลงทุนสำหรับใช้ในยามเกษียณ

ในบล็อกของ Top1 Markets ได้กล่าวถึงการลงทุนในกองทุน SSF และกองทุน RMF  ไว้ คุณสามารถศึกษาพื้นฐานและวิธีการวางแผนการซื้อกองทุนสำหรับปีภาษี 256 5 ที่จะถึงนี้

การวางแผนการเงินลดหย่อนภาษีนั้นจะไม่ใช่ภาระอีกต่อไป หากว่าคุณทราบรายได้ประจำปีและประมาณการภาษีที่จะต้องเสีย จากนั้นคุณก็สามารถ DCA กองทุนรวมที่คุณมองเห็นว่าจะให้ผลตอบแทนตามที่คุณคาดหวังเป็นรายเดือนหักอัตโนมัติจากบัญชีเงินฝากเข้าสู่บัญชีการออม

เมื่อถึงเวลายื่นภาษี เพียงไปที่เว็บไซต์ของบริษัทหลักทรัพย์ที่คุณเปิดบัญชีการลงทุนเพื่อดาวน์โหลดหนังสือรับรองการลงทุนในกองทุนรวม SSF และกองทุนรวม RMF สำหรับใช้ยื่นประกอบการลดหย่อนภาษี

วางแผนการเงินเพื่อครอบครัว

จะเป็นอย่างไร หากคนที่คุณรักเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาแต่ไม่มีเงินรักษา เพราะฉะนั้นการวางแผนการเงินสำหรับครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้คนทุกยุคทุกสมัย

คุณพ่อคุณแม่อาจจะวางแผนการเงินสำหรับการเป็นค่าเล่าเรียนของลูกทั้งในภาคบังคับกิจกรรมเสริมนอกห้องเรียน เมื่อพวกเขามีเงินมากเพียงพอก็สามารถเปิดโอกาสทางการศึกษาของลูกได้ เมื่อลูก ๆ ได้รับการศึกษา เขาก็จะมีโอกาสที่มากกว่าในการหาเลี้ยงชีพ เมื่อเขามีอาชีพการงานที่มั่นคง ความมั่งคั่งทางการเงินก็จะตามมา

วางแผนการเงินสำหรับเหตุฉุกเฉิน

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนโสดหรือคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกก็ตาม การวางแผนการเงินสำหรับเหตุฉุกเฉินนั้นควรประมารการรายจ่ายไว้อย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี

การวางแผนการเงินสำหรับเหตุฉุกเฉินนั้นเพียงประมาณการรายจ่ายจำเป็นในแต่ละเดือนออกมา ตอนนี้ให้ใช้ข้อมูลจากการกำหนดงบประมาณที่กล่าวไปข้างต้น  จากนั้นคุณจึงจะเห็นภาพกว้าง ๆ ว่า ตอนที่ไม่มีกระแสงเงินสดเข้ามา แต่ยังต้องใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายนั้นควรเป็นเดือนละเท่าไร

เมื่อทราบรายจ่ายประจำเดือนแล้ว จึงมาวางแผนการเงินว่าแต่ละเดือนคุณสามารถปันเงินบางส่วนมาสะสมในกองทุนฉุกเฉินได้เท่าไร อาจคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายได้ หรือจำนวนที่ไม่ทำให้การใช้ชีวิตลำบาก 

คุณอาจลดรายจ่ายบางอย่างลง เพื่อมาเพิ่มในกองทุนฉุกเฉินนี้ และควรสร้างบัญชีเก็บเงินจำนวนนี้แยกไว้ โดยอาจเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง

บทส่งท้าย

หลายคนมองว่าการวางแผนการเงินเป็นสิ่งที่สูญเปล่า ต่อให้ทำไป เงินก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ดี โดยที่หารู้ไม่ว่า ก็เพราะว่าไม่วางแผนการเงินนี่แหละ ก็เลยไม่รู้ว่าเงินมาจากไหน แล้วเงินหายไปกับอะไรบ้าง ก็เลยทำให้ไม่รู้ว่าควรจะกินใช้อย่างไรให้สามารถออมเงินได้มากขึ้น หรือทำอะไรถึงจะมีเงินได้มากขึ้น

วางแผนการเงินจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการมีความมั่งคั่งในอนาคต โดยไม่ต้องคำนึงว่าวันนี้เงินมากหรือเงินน้อย การวางแผนการเงินไม่ได้ช่วยให้คุณมีเงินเยอะขึ้นแต่ช่วยให้คุณติดตามการใช้จ่ายเพื่อให้คุณจัดการงานจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น