
กลยุทธ์เทรดน้ำมันในช่วงเศรษฐกิจขาลง
แม้ในยาม FED ขึ้นดอกเบี้ย ก็ยังสามารถหาเงินออนไลน์ได้จากการเทรดน้ำมัน กับกลยุทธ์การเทรดเก็งกำไรการขึ้นหรือลงของราคาผ่านตราสาร CFD
น้ำมันดิบเป็นหนึ่งในการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ หรือ commodity ราคาจะถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน เมื่อความต้องการน้ำมันดิบสูง ราคาก็สูงขึ้น เมื่อความต้องการต่ำ ราคาก็ลดลง แล้วมีปัจจัยใดบ้างที่เรียกได้ว่าเป็นอุปสงค์และอุปทานของราคาน้ำมัน ในบทความนี้จาก TOPONE Markets จะไขทุกข้อข้องใจ
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในเวลาปัจจุบันมีอิทธิพลต่อทั้งอุปสงค์และอุปทานน้ำมันดิบ เช่น ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ธุรกิจอาจผลิตน้อยลง ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง นอกจากนี้ผู้บริโภคอาจมีเงินใช้จ่ายน้อยลง ซึ่งทำให้อุปสงค์ลดลงด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงได้
ในทางกลับกัน เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งสามารถนำไปสู่ความต้องการน้ำมันดิบที่สูงขึ้นได้ ธุรกิจอาจผลิตได้มากขึ้นซึ่งเพิ่มความต้องการ นอกจากนี้ผู้บริโภคอาจมีเงินใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งทำให้ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นได้
ถ้าเช่นนั้น ที่สถานการณ์เป็นอยู่เช่นตอนนี้ ท่ามกลางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED จะส่งผลอย่างไรต่อความต้องการในการใช้น้ำมัน และจะทำกำไรจากการเทรดน้ำมันดิบในช่วงเวลาเช่นนี้ได้อย่างไร
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน
ประการแรก ต้องเข้าใจพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันก่อนว่า ถ้าในยามเศรษฐกิจฝืดเคืองหรือซบเซาเช่นนี้ ความต้องการในการใช้น้ำมันจะลดน้อยลงตามกิจกรรมการผลิตที่เบาบางลง ซึ่งนี่เป็นผลมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่จะแก้ไขเงินเฟ้อ และทำให้คนกระชับการใช้จ่ายมากขึ้น แทนที่จะไปใช้ในการบริโภค จึงทส่งผลกระทบให้กิจกรรมการผลิตชะลอตัวลง
ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเมื่อเงินเฟ้อ แล้ว FED ขึ้นอกเบี้ยแก้เงินเฟ้อ จึงส่งผลให้ความต้องการในสินค้าลดลง ส่งต่อไปยังกิจกรรมทางเศรษฐกิจดลง และน้ำมันจึงเป็นที่ต้องการน้อยลง สุดท้าย สภาพปัจจุบันคือราคาน้ำมันในตลาดการลงทุนจึงลดลง
นอกจากนี้ ด้วยความที่จีนเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวก็อาจทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลงได้ เนื่องจากธุรกิจจีนอาจผลิตได้น้อยลง และผู้บริโภคชาวจีนอาจมีเงินใช้จ่ายน้อยลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงในตลาดการเทรด
อีกด้านหนึ่งของประเทศผู้ผลิต กลุ่ม OPEC+ คือกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ทำงานร่วมกันเพื่อควบคุมอุปทานน้ำมัน เมื่อ OPEC+ เพิ่มการผลิต อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงได้ เมื่อ OPEC+ ลดการผลิตลง อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นได้
ความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความซับซ้อนและเป็นพลวัตดังที่กล่าวในตอนต้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีปัจจัยอีกหลายประการที่ต้องพิจารราเมื่อคิดจะเทรดน้ำมันดิบไม่ว่าจะยามเศรษฐกิจขาลงหรือขาขึ้น
อุปสงค์และอุปทาน
ราคาของสินทรัพย์ถูกกำหนดโดยความสมดุลของอุปสงค์และอุปทาน หากมีความต้องการสินทรัพย์มากกว่าอุปทาน ราคาก็จะสูงขึ้น หากมีอุปทานมากกว่าอุปสงค์ ราคาก็จะลดลง
ภาวะเศรษฐกิจ
ภาวะเศรษฐกิจอาจส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ได้เช่นกัน เช่น ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ราคาสินทรัพย์อาจลดลงเนื่องจากนักลงทุนไม่ชอบความเสี่ยงมากขึ้น
ความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอาจส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ได้เช่นกัน หากนักลงทุนมองอนาคตในแง่ดี พวกเขาอาจเต็มใจที่จะซื้อสินทรัพย์มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ราคาสูงขึ้นได้ หากนักลงทุนมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับอนาคต พวกเขาอาจมีแนวโน้มที่จะขายสินทรัพย์มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาลดลงได้
เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ซื้อถูกขายแพงเช่นนี้ มักใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อช่วยตัดสินใจว่าจะซื้อและขายเมื่อใด การวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการศึกษากราฟราคาในอดีตเพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้ม ด้วยการระบุรูปแบบและแนวโน้มเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถพยายามคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะไปในทิศทางใด
ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ ความต้องการน้ำมันดิบอาจลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีสร้างรายได้ด้วยน้ำมันดิบในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ
เทรดน้ำมันด้วยกลยุทธ์ Sell High, Buy Low
เราจะใช้คุณสมบัติของราคาที่ผันผวนโดยธรรมชาตินี้ของน้ำมันในการดำเนินกลยุทธ์ Sell High, Buy Low หรือการซื้อถูก ขายแพง เราลองมาศึกาารายละเอียดของกลยุทธ์การเทรดน้ำมันนี้กัน
กลยุทธ์การซื้อขาย “ซื้อถูก ขายแพง” เป็นกลยุทธ์จังหวะตลาดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินทรัพย์เมื่อราคาลดลงและขายทำกำไรเมื่อราคาสูงขึ้น เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคาหรือ Capital Gain กลยุทธ์นี้มีพื้นฐานมาจากแนวคิดที่ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวเป็นวัฏจักร และการซื้อในราคาที่ถูกหรือเมื่อราคาปรับตัวลดลง และขายในราคาที่สูงหรือแพงกว่าต้นทุน เทรดเดอร์จะได้กำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเหล่านี้
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฏจักรของตลาดที่หนังสือแนะนำการลงทุน ผลงานของ Howard Marks เรื่อง Mastering The Market Cycle: Getting the Odds on Your Side

มีปัจจัยหลายประการที่อาจส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบ เช่น อุปสงค์และอุปทาน ภาวะเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ซื้อถูกขายแพงมักจะร่วมใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคผ่านการอ่านกราฟราคาเพื่อช่วยตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นว่าควรจะซื้อเมื่อใดและขายเมื่อใด การวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการศึกษากราฟราคาในอดีตเพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้ม ด้วยการระบุรูปแบบและแนวโน้มเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถพยายามคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะไปในทิศทางใด
ข้อสำคัญของการดำเนินกลยุทธ์ซื้อถูกขายแพงในการเทรดน้ำมันหรือสินค้าการลงทุนใด ๆ ก็คือ การมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงราคา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจกลไกการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันดิบ และภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหรือสินทรัพย์นั้น ๆ
กลยุทธ์การควบคุมตำแหน่งที่ดีอีกอย่างหนึ่งของการเทรดคือการตั้งค่าคำสั่งหยุดการขาดทุน หรือ Stop Loss คำสั่ง Stop Loss นี้สามารถช่วยให้คุณจำกัดการขาดทุนได้หากราคาของสินทรัพย์ลดลง โดยกำหนดเป็นสัดส่วน เช่น คุณยินดีรับความสูญเสียได้ไม่เกิน 10% เช่นนั้นแล้ว เมื่อราคาลดลงที่ระดับนี้ จะขายออกโดยอัตโนมัติ
กลยุทธ์ซื้อถูกขายแพงไม่ได้เป็นกลยุทธ์ที่จะปราศจากความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง มีความเป็นไปได้เสมอที่เทรดเดอร์สามารถซื้อสินทรัพย์เมื่อราคาสูงแล้วขายเมื่อราคาต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการสูญเสีย หรือหากยังทิ้งค้างไส้อย่างนั้น ก็จะกลายเป็นค่าเสียโอกาสจากการลงทุน
อย่างไรก็ตาม หากเทรดเดอร์มีความอดทนและมีวินัย กลยุทธ์ “ซื้อถูก ขายแพง” อาจเป็นวิธีการเทรดที่ทำกำไรได้ ด้วยการติดตามตลาดอย่างระมัดระวังและใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค เทรดเดอร์จะสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้
ข้อสำคัญของการบริหารความเสี่ยงการเทรดคือการกระจายพอร์ตการลงทุน โดยอย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว การกระจายพอร์ตการลงทุนจะช่วยลดความเสี่ยงได้ ซึ่งหมายถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น หุ้น พันธบัตร และสินค้าโภคภัณฑ์
กลยุทธ์การซื้อขายซื้อถูกขายแพงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดน้ำมันดิบที่มีประสิทธิภาพในการสร้างรายได้แบบออนไลน์ในตลาดการเงินทั้งการลงทุนระยะสั้นหรือสะสมมูลค่าระยะยาว เมื่อปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้อย่างมีนัยสำคัญ
กลยุทธ์การเทรด Crude Oil ที่ดีที่สุดในยามตลาดขาลง
ถึงตอนนี้ คุณคงคิดว่า แล้วจะทำกำไรจากการเทรดน้ำมันดิบได้อย่างไรท่ามกลางตลาดการค้าที่ซบเซาด้วยภาวะเงินเฟ้อ และการแก้ด้วยการขึ้นดอกเบี้ยของ FEDเช่นนี้
หากพูดถึงการเทรดที่ราคาสปอต แน่นอนว่า ไม่รู้ว่าจะต้องคอยถึงเท่าไร ราคาจึงจะพลิกกลับไปเป็นขาขึ้น ซ้ำร้ายหากราคามีแต่ลดลงเรื่อย ๆ ก็ติดดอย สู้เอาเงินไปทำอย่างอื่น น่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเสียอีก ดังนั้น กรเทรดที่ราคาสปอต จึงเป็นการเทรดหรือการลงทุนที่มุ่งหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา
แต่ถ้าเป็นการเทรด CFD หรือ Contract for Different ล่ะ
การเทรด CFD เป็นการเทรดอนุพันธ์ประเภทหนึ่งที่ให้คุณเก็งกำไรราคาน้ำมันดิบโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของจริง ๆ เมื่อคุณวิเคราะห์ตลาดแล้วมองว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ตามกรอบเวลาที่คุณกำหนด หรืออัตราส่วนของกำไรที่คาดหวังจะเป็นไปในทางนั้น ก็เลือกเปิดสถานะ Long (ราคาอาจจะปรับขึ้น) หรือ Short (ราคาอาจจจะปรับลง) ได้ตามสภาวะตลาด
จากภาพด้านบน หากคุณเทรดน้ำมันดิบที่ราคสปอต คุณจะต้องคอยให้ราคาปรับตัวขึ้นจากจุดที่เข้าซื้อ (จุดสีน้ำเงิน) ไปสู่จุดที่ราคาสูงกว่า (จุดสีเขียว) จึงจะมีกำไร แต่หากราคาสวนทางกับที่คาดการณ์ คือลดลง (จุดสีแดง) ก็ควรพิจารณาใช้กลยุทธ์ Stop Loss หรือหยุดขาดทุน
หากแต่เป็นการเทรด CFD ของน้ำมันดิบ ดังภาพด้านล่างนี้ ก็สามารถทำเงินได้แม้ในยามที่เป้นตลาดขาลง หรือราคาปรับตัวลดลงตามปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
จากภาพด้านบนนี้ ปัจจุบันที่คุณเปิดสถานะ Short (เมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะลดลง) ในตำแหน่งที่ราคา 2,000 เหรียญ และราคาของน้ำมันดิบปรับลงมาที่ 1,900 เหรียญ ส่วนต่างตอนนี้คือ 1,000 เหรียญ หากคุณยินดีที่อัตรากำไรเท่านี้ ก็สามารถปิดสถานะและรับกำไรไป 1,000 เหรียญ
เห็นไหมว่า การเทรด CFD น้ำมันดิบ จะช่วยให้คุณทำกำไรจาการเทรดน้ำมันออนไลนืได้อย่างง่ายดายตามการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงราคาของน้ำมันดิบ หรือสินค้าอ้างอิงใด ๆ
เทรด CFD น้ำมันที่ TOPONE Markets
โบรกเกอร์ TOPONE Markets เป็นโบรกเกอร์ CFD ที่ได้รับการจดทะเบียนในประเทศออสไตรเลีย และให้บริการเทรดทั้งแบบราคาสปอตและการเทรด CFD สินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นรายตัว ดัชนีตลาดหุ้น สกุลเงินดิจิทัล หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เช่นน้ำมันดิบ ดังที่เรากำลังกล่าวถึงในบทความนี้
ข้อได้เปรียบของเทรดเดอร์ที่เลือกเทรด CFD กับเราคือ ต้นทุนการเทรดที่ถูกกว่า เพราะไม่มีต้นทุนค่าคอมมิชชันใด ๆ ในการเปิดหรือปิดสถานะ มีค่าสเปรดแคบ ดังนั้น คุณจึงมีต้นทุนการเทรดเพียงค่าสเปรดและค่าถือสถานะข้ามคืนเท่านั้น
เทรดเดอร์สามารถศึกษารายละเอียดโครงสร้างค่าธรรมเนียมการเทรด CFD กับ TOPONE Markets ได้ที่นี่
การหาเงินออนไลน์ด้วยการเทรด CFD น้ำมันดิบแลสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำอาจเป็นเรื่องเสี่ยง แต่ก็เป็นไปได้ สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลพื้นฐานและทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก่อนลงทุนในน้ำมันดิบ
เปิดบัญชีเทรดจริงกับ TOP1 Makrets รับทุน 100 เหรียญ สำหรับการเทรดฟรี!
น้ำมันดิบเป็นหนึ่งในการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ หรือ commodity ราคาจะถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน เมื่อความต้องการน้ำมันดิบสูง ราคาก็สูงขึ้น เมื่อความต้องการต่ำ ราคาก็ลดลง แล้วมีปัจจัยใดบ้างที่เรียกได้ว่าเป็นอุปสงค์และอุปทานของราคาน้ำมัน ในบทความนี้จาก TOPONE Markets จะไขทุกข้อข้องใจ
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในเวลาปัจจุบันมีอิทธิพลต่อทั้งอุปสงค์และอุปทานน้ำมันดิบ เช่น ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ธุรกิจอาจผลิตน้อยลง ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง นอกจากนี้ผู้บริโภคอาจมีเงินใช้จ่ายน้อยลง ซึ่งทำให้อุปสงค์ลดลงด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงได้
ในทางกลับกัน เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งสามารถนำไปสู่ความต้องการน้ำมันดิบที่สูงขึ้นได้ ธุรกิจอาจผลิตได้มากขึ้นซึ่งเพิ่มความต้องการ นอกจากนี้ผู้บริโภคอาจมีเงินใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งทำให้ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นได้
ถ้าเช่นนั้น ที่สถานการณ์เป็นอยู่เช่นตอนนี้ ท่ามกลางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED จะส่งผลอย่างไรต่อความต้องการในการใช้น้ำมัน และจะทำกำไรจากการเทรดน้ำมันดิบในช่วงเวลาเช่นนี้ได้อย่างไร
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน
ประการแรก ต้องเข้าใจพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันก่อนว่า ถ้าในยามเศรษฐกิจฝืดเคืองหรือซบเซาเช่นนี้ ความต้องการในการใช้น้ำมันจะลดน้อยลงตามกิจกรรมการผลิตที่เบาบางลง ซึ่งนี่เป็นผลมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่จะแก้ไขเงินเฟ้อ และทำให้คนกระชับการใช้จ่ายมากขึ้น แทนที่จะไปใช้ในการบริโภค จึงทส่งผลกระทบให้กิจกรรมการผลิตชะลอตัวลง
ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเมื่อเงินเฟ้อ แล้ว FED ขึ้นอกเบี้ยแก้เงินเฟ้อ จึงส่งผลให้ความต้องการในสินค้าลดลง ส่งต่อไปยังกิจกรรมทางเศรษฐกิจดลง และน้ำมันจึงเป็นที่ต้องการน้อยลง สุดท้าย สภาพปัจจุบันคือราคาน้ำมันในตลาดการลงทุนจึงลดลง
นอกจากนี้ ด้วยความที่จีนเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวก็อาจทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลงได้ เนื่องจากธุรกิจจีนอาจผลิตได้น้อยลง และผู้บริโภคชาวจีนอาจมีเงินใช้จ่ายน้อยลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงในตลาดการเทรด
อีกด้านหนึ่งของประเทศผู้ผลิต กลุ่ม OPEC+ คือกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ทำงานร่วมกันเพื่อควบคุมอุปทานน้ำมัน เมื่อ OPEC+ เพิ่มการผลิต อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงได้ เมื่อ OPEC+ ลดการผลิตลง อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นได้
ความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความซับซ้อนและเป็นพลวัตดังที่กล่าวในตอนต้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีปัจจัยอีกหลายประการที่ต้องพิจารราเมื่อคิดจะเทรดน้ำมันดิบไม่ว่าจะยามเศรษฐกิจขาลงหรือขาขึ้น
อุปสงค์และอุปทาน
ราคาของสินทรัพย์ถูกกำหนดโดยความสมดุลของอุปสงค์และอุปทาน หากมีความต้องการสินทรัพย์มากกว่าอุปทาน ราคาก็จะสูงขึ้น หากมีอุปทานมากกว่าอุปสงค์ ราคาก็จะลดลง
ภาวะเศรษฐกิจ
ภาวะเศรษฐกิจอาจส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ได้เช่นกัน เช่น ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ราคาสินทรัพย์อาจลดลงเนื่องจากนักลงทุนไม่ชอบความเสี่ยงมากขึ้น
ความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอาจส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ได้เช่นกัน หากนักลงทุนมองอนาคตในแง่ดี พวกเขาอาจเต็มใจที่จะซื้อสินทรัพย์มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ราคาสูงขึ้นได้ หากนักลงทุนมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับอนาคต พวกเขาอาจมีแนวโน้มที่จะขายสินทรัพย์มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาลดลงได้
เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ซื้อถูกขายแพงเช่นนี้ มักใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อช่วยตัดสินใจว่าจะซื้อและขายเมื่อใด การวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการศึกษากราฟราคาในอดีตเพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้ม ด้วยการระบุรูปแบบและแนวโน้มเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถพยายามคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะไปในทิศทางใด
ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ ความต้องการน้ำมันดิบอาจลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีสร้างรายได้ด้วยน้ำมันดิบในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ
เทรดน้ำมันด้วยกลยุทธ์ Sell High, Buy Low
เราจะใช้คุณสมบัติของราคาที่ผันผวนโดยธรรมชาตินี้ของน้ำมันในการดำเนินกลยุทธ์ Sell High, Buy Low หรือการซื้อถูก ขายแพง เราลองมาศึกาารายละเอียดของกลยุทธ์การเทรดน้ำมันนี้กัน
กลยุทธ์การซื้อขาย “ซื้อถูก ขายแพง” เป็นกลยุทธ์จังหวะตลาดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินทรัพย์เมื่อราคาลดลงและขายทำกำไรเมื่อราคาสูงขึ้น เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคาหรือ Capital Gain กลยุทธ์นี้มีพื้นฐานมาจากแนวคิดที่ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวเป็นวัฏจักร และการซื้อในราคาที่ถูกหรือเมื่อราคาปรับตัวลดลง และขายในราคาที่สูงหรือแพงกว่าต้นทุน เทรดเดอร์จะได้กำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเหล่านี้
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฏจักรของตลาดที่หนังสือแนะนำการลงทุน ผลงานของ Howard Marks เรื่อง Mastering The Market Cycle: Getting the Odds on Your Side

มีปัจจัยหลายประการที่อาจส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบ เช่น อุปสงค์และอุปทาน ภาวะเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ซื้อถูกขายแพงมักจะร่วมใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคผ่านการอ่านกราฟราคาเพื่อช่วยตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นว่าควรจะซื้อเมื่อใดและขายเมื่อใด การวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการศึกษากราฟราคาในอดีตเพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้ม ด้วยการระบุรูปแบบและแนวโน้มเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถพยายามคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะไปในทิศทางใด
ข้อสำคัญของการดำเนินกลยุทธ์ซื้อถูกขายแพงในการเทรดน้ำมันหรือสินค้าการลงทุนใด ๆ ก็คือ การมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงราคา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจกลไกการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันดิบ และภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหรือสินทรัพย์นั้น ๆ
กลยุทธ์การควบคุมตำแหน่งที่ดีอีกอย่างหนึ่งของการเทรดคือการตั้งค่าคำสั่งหยุดการขาดทุน หรือ Stop Loss คำสั่ง Stop Loss นี้สามารถช่วยให้คุณจำกัดการขาดทุนได้หากราคาของสินทรัพย์ลดลง โดยกำหนดเป็นสัดส่วน เช่น คุณยินดีรับความสูญเสียได้ไม่เกิน 10% เช่นนั้นแล้ว เมื่อราคาลดลงที่ระดับนี้ จะขายออกโดยอัตโนมัติ
กลยุทธ์ซื้อถูกขายแพงไม่ได้เป็นกลยุทธ์ที่จะปราศจากความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง มีความเป็นไปได้เสมอที่เทรดเดอร์สามารถซื้อสินทรัพย์เมื่อราคาสูงแล้วขายเมื่อราคาต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการสูญเสีย หรือหากยังทิ้งค้างไส้อย่างนั้น ก็จะกลายเป็นค่าเสียโอกาสจากการลงทุน
อย่างไรก็ตาม หากเทรดเดอร์มีความอดทนและมีวินัย กลยุทธ์ “ซื้อถูก ขายแพง” อาจเป็นวิธีการเทรดที่ทำกำไรได้ ด้วยการติดตามตลาดอย่างระมัดระวังและใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค เทรดเดอร์จะสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้
ข้อสำคัญของการบริหารความเสี่ยงการเทรดคือการกระจายพอร์ตการลงทุน โดยอย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว การกระจายพอร์ตการลงทุนจะช่วยลดความเสี่ยงได้ ซึ่งหมายถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น หุ้น พันธบัตร และสินค้าโภคภัณฑ์
กลยุทธ์การซื้อขายซื้อถูกขายแพงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดน้ำมันดิบที่มีประสิทธิภาพในการสร้างรายได้แบบออนไลน์ในตลาดการเงินทั้งการลงทุนระยะสั้นหรือสะสมมูลค่าระยะยาว เมื่อปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้อย่างมีนัยสำคัญ
กลยุทธ์การเทรด Crude Oil ที่ดีที่สุดในยามตลาดขาลง
ถึงตอนนี้ คุณคงคิดว่า แล้วจะทำกำไรจากการเทรดน้ำมันดิบได้อย่างไรท่ามกลางตลาดการค้าที่ซบเซาด้วยภาวะเงินเฟ้อ และการแก้ด้วยการขึ้นดอกเบี้ยของ FEDเช่นนี้
หากพูดถึงการเทรดที่ราคาสปอต แน่นอนว่า ไม่รู้ว่าจะต้องคอยถึงเท่าไร ราคาจึงจะพลิกกลับไปเป็นขาขึ้น ซ้ำร้ายหากราคามีแต่ลดลงเรื่อย ๆ ก็ติดดอย สู้เอาเงินไปทำอย่างอื่น น่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเสียอีก ดังนั้น กรเทรดที่ราคาสปอต จึงเป็นการเทรดหรือการลงทุนที่มุ่งหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา
แต่ถ้าเป็นการเทรด CFD หรือ Contract for Different ล่ะ
การเทรด CFD เป็นการเทรดอนุพันธ์ประเภทหนึ่งที่ให้คุณเก็งกำไรราคาน้ำมันดิบโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของจริง ๆ เมื่อคุณวิเคราะห์ตลาดแล้วมองว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ตามกรอบเวลาที่คุณกำหนด หรืออัตราส่วนของกำไรที่คาดหวังจะเป็นไปในทางนั้น ก็เลือกเปิดสถานะ Long (ราคาอาจจะปรับขึ้น) หรือ Short (ราคาอาจจจะปรับลง) ได้ตามสภาวะตลาด
จากภาพด้านบน หากคุณเทรดน้ำมันดิบที่ราคสปอต คุณจะต้องคอยให้ราคาปรับตัวขึ้นจากจุดที่เข้าซื้อ (จุดสีน้ำเงิน) ไปสู่จุดที่ราคาสูงกว่า (จุดสีเขียว) จึงจะมีกำไร แต่หากราคาสวนทางกับที่คาดการณ์ คือลดลง (จุดสีแดง) ก็ควรพิจารณาใช้กลยุทธ์ Stop Loss หรือหยุดขาดทุน
หากแต่เป็นการเทรด CFD ของน้ำมันดิบ ดังภาพด้านล่างนี้ ก็สามารถทำเงินได้แม้ในยามที่เป้นตลาดขาลง หรือราคาปรับตัวลดลงตามปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
จากภาพด้านบนนี้ ปัจจุบันที่คุณเปิดสถานะ Short (เมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะลดลง) ในตำแหน่งที่ราคา 2,000 เหรียญ และราคาของน้ำมันดิบปรับลงมาที่ 1,900 เหรียญ ส่วนต่างตอนนี้คือ 1,000 เหรียญ หากคุณยินดีที่อัตรากำไรเท่านี้ ก็สามารถปิดสถานะและรับกำไรไป 1,000 เหรียญ
เห็นไหมว่า การเทรด CFD น้ำมันดิบ จะช่วยให้คุณทำกำไรจาการเทรดน้ำมันออนไลนืได้อย่างง่ายดายตามการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงราคาของน้ำมันดิบ หรือสินค้าอ้างอิงใด ๆ
เทรด CFD น้ำมันที่ TOPONE Markets
โบรกเกอร์ TOPONE Markets เป็นโบรกเกอร์ CFD ที่ได้รับการจดทะเบียนในประเทศออสไตรเลีย และให้บริการเทรดทั้งแบบราคาสปอตและการเทรด CFD สินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นรายตัว ดัชนีตลาดหุ้น สกุลเงินดิจิทัล หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เช่นน้ำมันดิบ ดังที่เรากำลังกล่าวถึงในบทความนี้
ข้อได้เปรียบของเทรดเดอร์ที่เลือกเทรด CFD กับเราคือ ต้นทุนการเทรดที่ถูกกว่า เพราะไม่มีต้นทุนค่าคอมมิชชันใด ๆ ในการเปิดหรือปิดสถานะ มีค่าสเปรดแคบ ดังนั้น คุณจึงมีต้นทุนการเทรดเพียงค่าสเปรดและค่าถือสถานะข้ามคืนเท่านั้น
เทรดเดอร์สามารถศึกษารายละเอียดโครงสร้างค่าธรรมเนียมการเทรด CFD กับ TOPONE Markets ได้ที่นี่
การหาเงินออนไลน์ด้วยการเทรด CFD น้ำมันดิบแลสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำอาจเป็นเรื่องเสี่ยง แต่ก็เป็นไปได้ สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลพื้นฐานและทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก่อนลงทุนในน้ำมันดิบ
เปิดบัญชีเทรดจริงกับ TOP1 Makrets รับทุน 100 เหรียญ สำหรับการเทรดฟรี!
บทความที่กำลังมาแรง
- CFD วิธีเทรดทองออนไลน์ ป้องกันความเสี่ยง
รอบรู้กลยุทธ์บริหารพอร์ตการลงทุน ป้องกันความเสี่ยงด้วยการลงทุนทองคำ สินทรัพย์การเงินที่อยู่คนละขั้วกับอัตราผลตอบแทนเงินฝาก เริ่มต้นที่ CFD วิธีเทรดทองออนไลน์และโลหะมีค่าอื่น ๆ
2024-05-22
TOPONE Markets Analyst - ซื้อทองตอนนี้ดีไหม รวมเรื่องต้องรู้ก่อนเริ่มเก็บสะสมทอง
ทองราคาขึ้น ซื้อทองตอนนี้ดีไหม แล้วจะซื้อทองเก็บแบบไหนดี ถ้าจะเริ่มต้นลงทุนในทอง มีคำถามมากมายเกิดขึ้นมา บทความนี้ พาทุกท่านมาเรียนรู้แง่มุมที่น่าสนใจก่อนเริ่มต้นลงทุนซื้อทองเก็บไว้เก็งราคา
2024-04-30
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!
