
รู้ไว้ก่อนลงทุน ค่าเสียโอกาสคืออะไร
ค่าเสียโอกาส คือมูลค่าใด ๆ ที่อาจสูญไปหรือไม่ได้รับหากว่าเลือกทำสิ่งหนึ่งแทนสิ่งหนึ่ง สิ่งนี้อยู่ใกล้ตัวมาก หากเราทราบค่าเสียโอกาส ก็จะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นดีต่อชีวิตในทุก ๆ ด้าน
ค่าเสียโอกาส หรือในภาษาอังกฤษคือ Opportunity Cost หมายถึงผลกำไรหรือสิ่งเชิงบวกต่าง ๆ ที่บุคคลสูญเสียหรือไม่ได้รับ หากว่าเลือกทำในสิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่ง คำว่าค่าเสียโอกาสนี้ มิได้มีความหมายในวงการบัญชีหรือเศรษฐศาสตร์เท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทกับชีวิตของเรามากมาย อยู่ในทุก ๆ กิจกรรมการตัดสินใจของเราโดยธรรมขาติ
หากตแ่ว่า ถ้าคุรไม่ได้ทำความรู้จักความหมายที่แม้จริงและแนวคิดเบื้อวหลังของมัน ก็อาจเป็นการยากที่จะช่วยมห้การตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ๆ มีความล่า่ช้า ลังเ และท้ายที่สุดคือพลาดโอกาสด ไๆ ในชีวิตในระยะยาวไป
ในบทความนี้ จึงขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับค่าเสียโอกาสหรือ Opportunity Cost ในชีวิตจริงในแ่มุมต่าง ๆ เช่น การเรียน การทำงาน และการลงทุน
ค่าเสียโอกาส หมายถึงอะไร
ค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) หมายถึง มูลค่าของทางเลือกที่ดีที่สุดที่คุณหันหลังให้เมื่อคุณตัดสินใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับหากคุณเลือกแนวทางปฏิบัติที่แตกต่างออกไป
นักลงทุนมักเผชิญกับค่าเสียโอกาสอยู่บ่อย ๆ เมื่อตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายหุ้นตัวหนึ่ง ๆ เช่น คุณเป็นเจ้าของหุ้นของบริษัท A เวลานี้ มูลค่าหุ้นต่อหน่วยได้ลดลง 10% คุณอาจถูกบอกให้ขาย (หรือที่เรียกว่า “Cut Loss”) เพื่อลดอัตราการขาดทุน อย่างไรก็ตาม หากคุณทำเช่นนั้น คุณอาจต้องมีเสียค่าเสียโอกาสเท่ากับกำไรที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตในกรณีที่ถือครองหุ้นนั้นไว้เฉย ๆ
แน่นอนว่า ค่าเสียโอกาสไม่ได้หมายถึงการติดลบเสมอไป บางครั้งมันอาจแสดงผลลัพธ์ที่เป็นบวกได้ก็ได้ เช่น สมมติว่าคุณกำลังพิจารณาลงทุนในธุรกิจใหม่ ค่าเสียโอกาสของการตัดสินใจครั้งนี้คือการละทิ้งผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุณจะได้รับหากคุณนำเงินนั้นไปลงทุนในกิจการอื่นหรือวิธีการอื่น
ในการคำนวณค่าเสียโอกาสทางการเงิน มีเรื่องที่ต้องคำนึงถึงบางประการ กล่าวคือ เมื่อเข้าใจค่าเสียโอกาส คุณจะมีตัวเลือกที่มีข้อมูลมากขึ้นซึ่งมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ระยะยาวที่ดีขึ้น ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรศึกาาข้อมูลพื้นฐานของทางเลือกเหล่านั้นไว้ เพื่อให้มีข้อมูลต่อการตัดสินใจอย่างเพียงพอ และลดการเกิดค่าเสียโอกาสให้น้อยที่สุด
ค่าเสียโอกาสเกิดจากอะไร
ค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) นี้ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในยามที่คุณต้องตัดสินใจจากบรรดาตัวเลือกต่าง ๆ แนวคิดนี้มักนำไปใช้ในบริบททางธุรกิจและเศรษฐกิจ แต่ก็สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจเลือกในชีวิตประจำวันของเรา
ทุกการตัดสินใจมีค่าเสียโอกาสที่เกี่ยวข้องเพราะทุกการตัดสินใจเกี่ยวข้องกับการเลือกสิ่งหนึ่งมากกว่าอีกสิ่งหนึ่ง เมื่อคุณตัดสินใจ คุณมักจะสละโอกาสในการทำอย่างอื่น
มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้เกิดค่าเสียโอกาส ปัจจัยร่วมอย่างหนึ่งคือ “เวลา” เมื่อคุณใช้เวลากับกิจกรรมหนึ่ง ๆ เท่ากับคุณเสียโอกาสในการใช้เวลากับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น หากคุณตัดสินใจใช้เวลาเตรียมตัวสอบ 4 ชั่วโมง โดยที่หักห้ามใจไม่ไปดูหนังกับเพื่อน ก็เท่ากับว่าการเลือกการเตรียมตัวสอบมีค่าเสียโอกาส 4 ชั่วโมงต่อเวลาของการดูหนัง
ทีนี้ อยู่ที่ว่า เงื่อนไขชีวิตของคุณ ณ เวลานั้นให้น้ำหนักกับสิ่งใดมากกว่ากัน คุณอาจบอกว่าไปดูหนังดีกว่า โดยถือเอาความสุขชั่วคราวเป็นเดิมพัน สุดท้าย คุณอาจจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจครั้งนั้น เพราะว่าทำข้อสอบไม่ได้จากการไม่ได้เตรียมตัวไปสอบ
ปัจจัยทั่วไปอีกประการหนึ่งที่อาจทำให้เกิดค่าเสียโอกาสคือเงิน เมื่อคุณใช้เงินไปกับสินค้าชิ้นหนึ่ง เท่ากับว่าคุณเสียโอกาสในการใช้เงินนั้นไปกับอย่างอื่น เช่น หากคุณใช้จ่าย 500 บาทเพื่อซื้อรองเท้าคู่ใหม่ คุณอาจสูญเงินสดสำหรับเก็บออมหรือนำไปลงทุนไปเท่าจำนวนนั้น
วิธีคิดค่าเสียโอกาส
ในแง่ของการลงทุนหรือเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ นักลงทุนมักเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากในการจัดสรรทรัพยากร หนึ่งในแนวคิดหลักที่ต้องเข้าใจคือ “ค่าเสียโอกาส” นี้เอง
ค่าเสียโอกาสเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการตัดสินใจ กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับหากคุณเลือกการลงทุนอื่น ๆ
สมมติว่าคุณมีเงินลงทุน 10,000 บาท คุณพิจารณาการลงทุนในหุ้น A หรือหุ้น B เมื่อไตร่ตรองจากข้อมูลอย่างรอบคอบแล้ว คุณสรุปได้ว่าหุ้น A มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้น B อย่างไรก็ตาม คุณเชื่อด้วยว่ามีโอกาสมากขึ้นที่หุ้น B จะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าหุ้น A
จากข้อมูลนี้ คุณตัดสินใจแบ่งการลงทุนให้เท่าๆ กันระหว่างสองหุ้น วิธีนี้หากหุ้น A ดี คุณก็จะได้ผลตอบแทนที่ดี แต่ถ้าหุ้น B มีประสิทธิภาพเหนือความคาดหมาย กำไรของคุณจะยิ่งมากขึ้น
เมื่อลงทุนในหุ้นทั้งสอง ก็ยังเท่ากับการบริหารความเสี่ยงด้วยการกระจายพอร์ตโฟลิโอและลดความเสี่ยง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ในเมื่อเราไม่รู้อนาคตที่แน่ชัด ต้นทุนค่าเสียโอกาสย่อมมีในกระบวนการตัดสินใจ
ตัวอย่างของค่าเสียโอกาสในชีวิตจริง
ในย่อหน้านี้ เราลองมาดูตัวอย่างของค่าเสียโอกาสในชีวิตของเราบ้าง ในแง่มุมมต่าง ๆ เราทุกคนเผชิญกับการเลือกทางเลือกอยู่เสมอ
ค่าเสียโอกาสในการเรียน
สมมติว่าคุณต้องเลือกระหว่างสายสามัญกับสายอาชีพ วิทยาลัยการอาชีพแห่งแรกเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ใช้เวลาเรียนเพียง 3 ปี ก็สามารถเริ่มหางานทำได้ และราคาเล่าเรียนตลอดหลักสูตรยังถูกกว่าการเรียนสายสามัญ 3 ปี แถมยังต้องเรียนต่อมหาวิทยาลัยอีก 4 ปี รวมเป็น 7 ปี จนกว่าจะได้ใบปริญญาไปสมัครงาน
คุณจะเลือกแบบไหน
หากคุณเลือกตัวเลือกแรก คุณอาจได้เริ่มต้นทำงานเร็วกว่าทางเลือกที่สองอยู่ 4 ปี แต่ในขณะที่คุณเลือกทางเลือกที่สอง เงินเดือนแรกเริ่มอาจจะมากกว่าทางเลือกแรก และยังมีภาษีดีกว่าในสังคม
เมื่อคุณได้ลองชั่งน้ำหนักดูกับปัจจัยและผลการคาดคะเนอย่าถี่ถ้วน คุณก็จะพบว่าทางเลือกไหนจะเหมาะกับตนเองที่สุด
ค่าเสียโอกาสในการทำงาน
ในการทำงาน ผู้คนต่างไขว่คว้าหาโอกาสในการก้าวหน้าของสายอาชีพ แต่ก็ยังพยายามที่จะบาลานซ์ชีวิตการทำงานและส่วนตัวเข้าไว้ด้วยกัน
สมมติว่าคุณกำลังจะวางแผนแต่งงาน คุณคงคิดถึงอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้าว่าหากคุณยังทำงานในสายอาชีพนี้ คุณจะมีโอกาสก้าวงหน้าเป็นผู้จัดการหรือเติบโตในสายอาชีพอย่างไร แต่หากคุณมีลูกก่อนที่ความต้องการในสายอาชีพจะบรรลุเป้าหมาย บางทีเมื่อถึงวันนั้นก็อาจจะไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะคุรอาจต้องทุ่มเทเวลาเพื่อลูกและครอบครัวมากขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนั้น ค่าเสียโอกาสในการทำงานในกรณีนี้คือคุณพลาดโอกาสของความก้าวหน้าในสายอาชีพไป
นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างค่าเสียโอกาสในการทำงานที่อาจเกิดขึ้น ด้วยความแตกต่างของเงื่อนไขและปัจจัยต่าง ๆ ของแต่ละบุคคล คุณย่อมคิดหาทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อสนองเป้ามหายหนึ่ง ๆ อย่างแน่นอน
ค่าเสียโอกาสในการลงทุน
เมื่อมีคนเริ่มลงทุน ย่อมมีคำเตือนหนึ่งโผล่ขึ้นมาเสมอคือการคำนึงถึง “ค่าเสียโอกาส” ค่าเสียโอกาสในการลงทุนคือคุณค่าของสิ่งที่ดีที่สุดถัดไปที่คุณสามารถทำได้ด้วยเงินของคุณ ในการลงทุนที่ดี คุณต้องแน่ใจว่าผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) จะมากกว่าค่าเสียโอกาส
เช่น คุณมีเงินเย็นอยู่ 100,000 บาท คุณอาจเลือกใส่ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่จ่ายดอกเบี้ย 2% เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี มูลค่าเงินเพิ่มขึ้นตามดอกเบี้ยทบต้น และเงินต้นก็ยังอยู่ครบ 100,00 บาท ในอีกด้าน คุณเลือกนำเงินนั้นไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ในขณะที่คุณกำลังเพลิดเพลินกับการเดินทางนั้น ก็พบว่า มีหุ้นหรือเหรียญคริปโตหนึ่งน่าสนใจมาก ๆ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตสร้างผลกำไรในระยะยาว แต่ทว่าคุณไม่มีเงินทุน 100,000 บาทนั้นแล้ว นี่ก็เท่ากับค่าเสียโอกาสในการลงทุนที่พบได้บ่อย ๆ
บทส่งท้าย
สุดท้ายนี้จะเห็นว่า “ค่าเสียโอกาส” นั้นไม่จำเป็นต้นคำนวณออกมาเป็นตัวเลขเสมอไป และไม่มีสูตรเฉพาะในการคำนวณว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการหารายได้คืนจากสิ่งที่พวกเขาใช้ไปเพื่อให้ได้บางอย่างมา
การทำความเข้าใจถึงแนวคิดและความหมายของค่าเสียโอกาสสามารถช่วยสร้างความมั่นใจและความเที่ยงตรงของการตัดสินใจใด ๆ ในชีวิตจริงได้ เพื่อจำกัดขนาดของผลกระทบจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดลง
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!