เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด
เจาะลึกตลาด Forex Spot Trade VS. CFD สองเพื่อนที่แตกต่าง

Spot Trade VS. CFD สองเพื่อนที่แตกต่าง

เลือกตลาดการเงิน เลือกเครื่องมือการเทรด เปรียบเทียบสองเพื่อนที่แตกต่างในโลกแห่งการเทรด ระหว่าง Spot หรือ CFD เพื่อตอบเป้าหมายการลงทุนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว

อวตารผู้เขียน
TOPONE Markets Analyst 2023-07-14
ไอคอนรูปตา 10687

บทนำ

ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งการเทรด ที่ซึ่งโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งมีอยู่มากมาย! หากคุณยังใหม่กับเกม คุณอาจเจอคำศัพท์ต่าง ๆ เช่น การเทรด Spot และการเทรด CFD แม้ว่าทั้งสองรูปแบบการทำงานในตลาดการเงินจะเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์อ้างอิงเช่นกัน แต่ก็เป็นคู่หูทางเลือกการลงทุนที่ต่างกันด้วยลักษณะและกลยุทธ์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและสำหรับเป้าหมายที่ต่างกัน


ในบทความนี้ เราจะอธิบายให้ทราบถึงพื้นฐานของการเทรด Spot และการเทรด CFD เปรียบเทียบคุณลักษณะ แนะนำวิธีเลือกตลาดหรือโบรกเกอร์การเทรด CFD และให้คำแนะนำในการพิจารณาว่าแนวทางแบบไหนจะเหมาะกับคุณมากกว่ากัน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าเส้นทางใดดีที่สุดสำหรับการทำงานในตลาดการเงิน


มาเตรียมตัวให้พร้อมในขณะที่เราดำดิ่งสู่โลกอันน่าตื่นเต้นของการเทรด Spot และการเทรด CFD ที่โบรกเกอร์ TOPONE Markets!


พื้นฐานของการเทรด Spot

การเทรดราคา Spot เป็นรากฐานของการลงทุนแบบดั้งเดิมและตอนนี้ได้เข้าสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัล แล้วการเทรด Spot คืออะไรกันแน่ พูดง่ายๆ ก็คือการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาตลาดปัจจุบันสำหรับการส่งมอบในทันที


เทรดเดอร์ที่เทรดราคา Spot จะซื้อสินค้าอ้างอิง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น คริปโตเคอร์เรนซี่ เข้ามาไว้ในพอร์ต และมุ่งหวังการทำกำไรจากส่วนต่างราคาที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป


ที่การเทรด Spot การชำระบัญชีจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างน้อยไม่เกิน 5 นาที ขึ้นกับลักษณะของสินค้า โบรกเกอร์ หรือแพลตฟอร์มที่ใช้ ภายหลังการเสร็จสิ้นของธุรกรรม คุณจะมีสถานะเป็นเจ้าของทันที และสามารถถือครองได้ไม่มีกำหนดเวลา 


เมื่อเป็นเจ้าของสินทรัพย์ผ่านการเทรด Spot คุณมีความคาดหวังให้ราคาทะยานขึ้นเพื่อทำกำไรากส่วนต่างราคา ดังนั้น นี่จึงเป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของตลาดอีกด้วย เพราะหากในอนาคตราคาดิ่งลง คุณก็อาจเสียโอกาสในการลงทุน หรือหากจำเป็นต้องขาด ก็อาจต้องจำใจขายขาดทุนก็ได้


แต่หากเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อความมั่งคั่ง การเลือกสินค้าที่มีพื้นฐานดี เช่น หุ้นคุณค่า หรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่คนต้องกินต้องใช้ ก็จะช่วยสะสมความั่งคั่งระยะยาวได้ด้วยการเทรด Spot

ตัวอย่างการเทรด Spot ที่คริปโต

เช่นการเทรดราคา Spot ในสกุลเงินดิจิทัลคืออะไร การเทรด Spot หมายถึงการซื้อหรือขายตราสารทางการเงิน เช่น สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือ Ethereum เพื่อการชำระบัญชีทันที กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาตลาดปัจจุบันและรับการส่งมอบสินทรัพย์นั้นภายในระยะเวลาอันสั้น


เช่น คุณซื้อ Bitcoin มาในวันที่ 13 มี.ค. 2566 ที่ราคา 461.385B USD ดังภาพ และโชคดีที่ตอนนั้นเป็นช่วง New Low พอดี เมื่อเวลาผ่านไป จนถึงวันนี้ 12 ก.ค. 2566 ผ่านไป 4 เดือน ราคาของมัก็ยังไม่ตกลงไปหว่าราคาต้นทุนนั้นอีกเลย คุณรีบคว้าโอกาสการทำกำไร โดยขายออกไปที่ราคา 594.664B USD


มูลค่า Bitcoin ณ วันที่ 13 มี.ค. 2566


เมื่อเอ่ยถึงการเทรดราคา Spot ของคริปโต Binance เป็นแพบตฟอร์มการเทรดคริปโตแรก ๆ ที่คุณสามารถซื้อขายเหรียญคริปโตต่าง ๆ ที่ราคาตลาด (ตลาดหุ้นไทยเรียกว่ามาร์เก็ตไพรซ์ - Market Price)


ในการซื้อคริปโตราคา Spot บนแอป Binance ทำได้ง่าย ๆ เพียงฝากเงินเข้าบัญชีเทรดจากสกุลเงินบาท และซื้อเหรียญคริปโตที่ต้องการด้วยราคาแบบเรียลไทม์


การเทรด Spot ช่วยให้บุคคลทั่วไปได้รับความเสี่ยงโดยตรงจากสกุลเงินดิจิทัลโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน เช่น CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) ช่วยให้ผู้ค้าสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้ทันทีและใช้ประโยชน์จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นตามความต้องการของตลาดและพลวัตของอุปทาน

การเทรด Spot ทำงานอย่างไร

การเทรด Spot จะตัดสินอย่างตรงไปตรงมา เมื่อคุณมีส่วนร่วมในการเทรดทันที หมายความว่าคุณกำลังซื้อหรือขายสินทรัพย์เพื่อการส่งมอบทันที ซึ่งแตกต่างจากการเทรดประเภทอื่น ๆ การเทรดแบบนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสัญญาหรือข้อตกลงใด ๆ จ่ายเงินครบ ได้ของทันทีตามจำนวน


กระบวนการชำระบัญชีจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ที่มีการเทรด ในกรณีของสกุลเงินดิจิทัล เช่น การเทรดราคา Spot จะชำระโดยการโอนการเป็นเจ้าของเหรียญดิจิทัลจากกระเป๋าเงินของผู้ขายไปยังกระเป๋าเงินของผู้ซื้อ การถ่ายโอนนี้มักจะอำนวยความสะดวกผ่านแพลตฟอร์มโบรกเกอร์สกุลเงินดิจิทัล


ในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม เช่น หุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ การเทรดทันทีจะถูกตัดสินโดยโบรกเกอร์เงินสดเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ เช่น หากคุณซื้อหุ้นของบริษัทในการเทรด Spot  การทำธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อคุณชำระเงินและรับกรรมสิทธิ์ในหุ้นเหล่านั้น


การชำระบัญชีการค้าเกิดขึ้นเกือบจะทันทีเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการส่งมอบและชำระเงินทันที สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ค้าสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการตลาดได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอวันที่ชำระบัญชีในอนาคตเหมือนกับการเทรดประเภทอื่น ๆ


ยกตัวอย่างตลาดหุ้นไทย คุณพอใจหุ้นหนึ่งที่ราคาตลาด (MKP) ท่ามกลางราคาเสนอซื้อและเสนอขายจำนวนมาก ราคาของผู้ซื้อและขายจะมาบรรจบเกิดเป็นธุรกรรมได้ที่เพียงราคาเดียว (ความหมายคือ Spot)



จากตัวอย่างด้านบน ผู้ซื้อเสนอราคา Bids สูงสุดที่ 10.22 บาท ในขณะที่ผู้ขาย เสนอราคา Offers ต่ำสุดที่ 10.25 บาท ระหว่างนี้จะไม่มีธุรกรรมเกิดขึ้นเพราะราคาทั้ง 2 ฝั่งยังไม่บรรจบกัน  ถ้าฝ่าย Offers ลดราคาลงมาเหลือ 10.22 บาท หรือฝ่าย Bids เพิ่มราคาไปถึง 10.25 บาท ก็อาจมีธุรกรรมเกิดขึ้นและการส่งมอบหุ้นได้

เลือกตลาดสำหรับเทรด Spot

การเลือกตลาดสำหรับการเทรด Spot ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรดที่ประสบความสำเร็จ คุณจะต้องเลือกตลาดที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนและเสนอสินทรัพย์ที่คุณสนใจในการเทรด เช่น หากคุณต้องโบรกเกอร์สกุลเงินดิจิทัล คุณอาจพิจารณาแพลตฟอร์มอย่างเช่น Binance หรือ Coinbase ที่มีคู่สกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลาย นั่นหมายถึงการมีสภาพคล่อง สามารถทำรายการได้รวดเร็ว


สิ่งสำคัญคือต้องประเมินปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพคล่อง ค่าธรรมเนียม มาตรการรักษาความปลอดภัย และประสบการณ์ของผู้ใช้เมื่อเลือกตลาด Spot  มองหาโบรกเกอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูงและโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ ให้จัดลำดับความสำคัญของแพลตฟอร์มที่ใช้โปรโตคอลความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องเงิน


นอกจากนี้ ให้พิจารณาความง่ายในการใช้งานและความเป็นธรรมชาติของอินเทอร์เฟซแพลตฟอร์ม แพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเทรดได้อย่างมาก โดยให้คุณนำทางระหว่างตลาดต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นและดำเนินการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การประเมินปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบจะช่วยให้เทรดเดอร์/เทรดเดอร์ตัดสินใจได้อย่างรอบรู้ ส่งผลให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้นบนแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ซึ่งปรับให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจแต่ละอย่าง

การเทรด CFD (Contracts for Difference)

ในอีกด้านของรูปแบบการเทรด การเทรด CFD หรือ Contracts for Difference คือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง จัดเป็นตราสารอนุพันธ์ทางการเงินที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถทำกำไรได้จากทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง ในขณะที่การเทรดราคา Spot ต้องหวังให้เป็นขาขึ้นเท่านั้น จึงจะได้กำไร


ข้อได้เปรียบหลักอย่างหนึ่งของการเทรด CFD คือการใช้ Leverage  ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างน้อย คุณสามารถได้รับตำแหน่งที่ใหญ่กว่ามากในตลาด สิ่งนี้จะเพิ่มผลกำไรที่เป็นไปได้ แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงด้วย



ก่อนเริ่มต้นการเทรด CFD คุณต้องเลือกโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงซึ่งให้บริการเทรด CFD สิ่งสำคัญคือต้องทำการวิจัยอย่างละเอียดและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น กฎระเบียบ ค่าธรรมเนียม การสนับสนุนลูกค้า และแพลตฟอร์มการเทรดที่มีอยู่


เมื่อคุณเลือกโบรกเกอร์แล้ว คุณสามารถเปิดบัญชีและใส่เงินทุนให้กับมันด้วยเงินทุนที่เพียงพอ จากนั้น คุณสามารถเริ่มทำการเทรดตามการวิเคราะห์หรือกลยุทธ์ คุณสามารถเปิดสถานะซื้อ (ซื้อ) หากคุณเชื่อว่าราคาจะสูงขึ้น หรือเปิดสถานะขาย (ขาย) หากคุณคิดว่ามันจะร่วงลง


การเซ็ตคำสั่งหยุดการขาดทุนและระดับการทำกำไรเมื่อทำการเทรด CFD เป็นสิ่งสำคัญ สิ่งเหล่านี้ช่วยจัดการความเสี่ยงโดยการปิดสถานะโดยอัตโนมัติในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากสถานะเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณหรือบรรลุผลกำไรในระดับหนึ่ง


การติดตามตำแหน่งอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด CFD เนื่องจากตลาดสามารถผันผวนได้ การปรับ stop/limit หรือแม้แต่การปิดการเทรดอาจจำเป็น หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

วิธีทำเงินในการเทรด CFD

การจะตอบคำถามว่า ฉันจะสามารถทำเงินจากตลาด CFD ได้อย่างไร นี่ไม่ใช่คำตอบง่าย ๆ ว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เพราะในการเทรด CFD ต้องใช้ทักษะ ความรู้ และการตัดสินใจอย่างรอบคอบ


การเทรด CFD ให้โอกาสในการทำกำไรจากทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง เนื่องจากความสามารถในการเปิดสถานะซื้อหรือขายสินทรัพย์ ความยืดหยุ่นนี้จะเป็นประโยชน์หากคุณมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแม่นยำ


อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการเทรด CFD มีความเสี่ยง  Leverage ขยายโอกาสได้รับ แต่ยังขยายการสูญเสียด้วย หากไม่มีกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม คุณอาจจบลงด้วยการสูญเสียมากกว่าเงินลงทุนเริ่มต้น


เทรดเดอร์ CFD ที่ประสบความสำเร็จมักจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและติดตามข่าวและกิจกรรมทางการตลาดที่อาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ที่พวกเขาเลือกอย่างใกล้ชิด มีการกำหนดคำสั่งหยุดการขาดทุนที่ชัดเจนเพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นและระดับการทำกำไรเพื่อรักษาผลกำไรในระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

เซ็ตระบบเทรด รู้จัก Take Profit กับ Stop Loss

การเทรด CFD ที่ประสบความสำเร็จ จะต้องเริ่มด้วยการวางแผนการเงิน วางแผนการเทรดแล้วยึดมั่นตามนั้น มีประบเปลี่ยนตามสถานการณ์ หนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการเซ็ต  Stop Loss และ Take Profit  สิ่งนี้ช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและปกป้องการลงทุน กลยุทธการเทรดด้วยวิธีนี้ เป็นระดับราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งจะเรียกใช้คำสั่งโดยอัตโนมัติเพื่อปิดการเทรดหรือทำกำไรเมื่อถึง


การเซ็ตเหล่านี้จะช่วยให้คุณจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้โดยการออกจากการเทรดหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ ในทางกลับกัน การเซ็ตขีดจำกัดทำให้คุณสามารถล็อคกำไรได้โดยการปิดสถานะเมื่อถึงระดับที่ต้องการ



ในการกำหนด Stop Loss และ Take Profit คุณต้องวิเคราะห์ตลาดอย่างรอบคอบและพิจารณาว่าจุดใดที่คุณต้องการออกหรือทำกำไร อาจกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ของการขาดทุนที่ยอมรับได้ เช่น 10% หรือ 20% คือแม้จะขาดทุนบ้าง แต่ก็ไม่เจ็บตัวเกินไป เอาเงินไปลงทุนที่อื่นต่อดีกว่าติดดอย เสียโอกาสการลงทุน การตัดสินใจนี้ควรขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ปัจจัยพื้นฐาน หรือทั้งสองอย่างรวมกัน


เมื่อคุณตัดสินใจเลือกระดับ Stop Loss และ Take Profit แล้ว ที่ MT4 หรือ MT5 ซึ่งเป็นสองเวอร์ชั่นของเครื่องมือเทรด ช่วยให้คุณสามารถกำหนดค่าทั้งสองได้ และทำให้งานเทรดเป็นเรื่องง่าย ๆ กับการเทรด CFD


สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการเซ็ต Stop Loss และ Take Profit ไม่ควรทำโดยพลการ แต่ให้ยึดตามการวิเคราะห์ที่เหมาะสมและหลักการบริหารความเสี่ยง การติดตามการเทรดเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนได้หากจำเป็น


ด้วยการใช้เวลาในการกำหนด Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสมสำหรับการเทรดแต่ละครั้ง เทรดเดอร์จะสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้นในขณะที่เพิ่มผลกำไรที่เป็นไปได้สูงสุดในสถานการณ์การเก็งกำไรสินทรัพย์


ติดตามและปิดสถานะการเทรด CFD

เมื่อเปิดสถานะการเทรดบนสัญญา CFD แล้ว งานถัดมาต้องติดตามและจัดการตำแหน่งอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการจับตาดูสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิดและการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเทรด


การติดตามสถานะหมายถึงการตรวจสอบความคืบหน้าของการเทรดอย่างสม่ำเสมอ คุณสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและแผนภูมิเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของราคา และระบุรูปแบบหรือแนวโน้มที่อาจช่วยในการตัดสินใจ สิ่งสำคัญคือการติดตามข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจส่งผลต่อสินทรัพย์ที่คุณกำลังซื้อขาย


ขณะที่คุณติดตามตลาด ให้เตรียมพร้อมที่จะทำการปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึง Stop Loss และ Take Profit ก็ได้ หากการเทรดเป็นไปในทิศทางที่คุณพอใจ


ในขณะที่การติดตามและปิดตำแหน่งต้องการความสนใจและทักษะในการตัดสินใจ แต่ต้องไม่ลืมว่าอย่าให้อารมณ์มากำหนดการกระทำ จงยึดมั่นในกลยุทธ์การเทรดและมีระเบียบวินัยตลอดกระบวนการ


ด้วยการตรวจสอบและจัดการตำแหน่งอย่างกระตือรือร้น คุณจะเพิ่มโอกาสในการเพิ่มผลกำไรสูงสุดในขณะที่ลดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นทั้งในการเทรดราคา Spot และการเทรด CFD

ประเมินตลาด เลือก Short หรือ Long

แนวคิดของการเทรด CFD คือการประเมินทิศทางของตลาด การตัดสินใจที่สำคัญคือใช้การพิจารณาดังกล่าวมากำหนดว่าจะเปิดสถานะ Short หรือ Long ในสัญญาการเทรด CFD


การเปิดสถานะ Long หมายถึง การซื้อสินทรัพย์โดยคาดหวังว่าราคาของสินทรัพย์จะสูงขึ้น ในขณะที่การเปิดสถานะ Short จะเป็นการคาดหวังว่าราคาจะลดลง



จากตัวอย่างด้านบนนี้ ราคาทองอยู่ที่ 1,900 คุณคาดว่าในอนาคตราคาจะปรับขึ้น คุณจึงเลือกเปิดสถานะ Long และเมื่อเวลาผ่านไป ราคาปรับขึ้นตามที่คาดเป็น 2,000 เท่ากับว่าคุณจะทำกำไรได้ 1,000 เหรียญ เช่นเดียวกันกับภาพด้านล่าง ณ ปัจจุบัน คุณมองว่าแนงโน้มทองเป้นขาลง คุณจึงเลือกเปิดสถานะ Short และเป็นดังคาด คุณก็ได้กำไร 1,000 เหรียญ เช่นกัน



การจะตัดสินใจว่าจะ Long หรือ Short ต้องมีการวิเคราะห์และพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ การประเมินแนวโน้มของตลาด วิเคราะห์ข้อมูลในอดีต และพิจารณาข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์เป็นสิ่งสำคัญ


การตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายขึ้นอยู่กับความเข้าใจในสภาวะตลาดและความสามารถในการมองเห็นโอกาสที่เป็นไปได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำการวิจัยอย่างถี่ถ้วนและพัฒนาแผนการเทรดที่มั่นคงก่อนที่จะดำเนินการเทรดใดๆ

กลยุทธ์การเทรด CFD

เมื่อพูดถึงการเทรด การมีวิธีการที่มั่นคงเป็นกุญแจสำคัญ ไม่ว่าคุณกำลังพิจารณาการเทรด Spot หรือ CFD การวางแผนอย่างรอบคอบสามารถสร้างความแตกต่างได้ แล้วคุณจะพัฒนาวิธีการเทรดอย่างไร


ก่อนอื่น สิ่งสำคัญคือต้องเลือกตลาด Spot หรือโบรกเกอร์ CFD ที่เหมาะกับความต้องการ ทำวิจัยอย่างละเอียดและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ทรัพย์สินที่มีอยู่ และบทวิจารณ์ของผู้ใช้ เช่น TOPONE Markets ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม


ต่อไป ตัดสินใจว่าคุณต้องการมีส่วนร่วมในการเทรด Forex หรือการเก็งกำไรสินทรัพย์ผ่าน CFD แต่ละคนมีข้อดีและข้อควรพิจารณาของตนเอง การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล


สำหรับผู้เริ่มต้นที่เพิ่งเริ่มต้นการเทรด CFD การหาโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ซึ่งมีแหล่งข้อมูลด้านการศึกษาและการสนับสนุนเป็นสิ่งสำคัญ มองหาโบรกเกอร์ที่ให้คำแนะนำที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงและการวิเคราะห์ทางเทคนิค


การพัฒนากลยุทธ์การเทรด CFD นั้นเกี่ยวข้องกับการพิจารณาปัจจัยอย่างรอบคอบ เช่น การเลือกโบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะสม ทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการเทรดราคา Spot ของ Forex หรือหุ้นรายตัว และการเก็งกำไรสินทรัพย์ด้วยการเทรด CFD ติดตามแหล่งข้อมูลทางการศึกษาที่เชื่อถือได้สำหรับผู้เริ่มต้น ด้วยวิธีการที่รอบรู้ คุณสามารถเพิ่มโอกาสได้สูงสุด และจำกัดความเสี่ยงได้อย่างฉลาด


วิธีเลือกโบรกเกอร์ CFD

คู่หูคนสำคัญของเส้นทางการเทรด CFD ยุคออนไลน์คือโบรกเกอร์ CFD ที่เชื่อถือได้ แต่ละโบรกเกอร์มีข้อดี ข้อด้อย และบริการที่นำเสนอแตกต่างกัน มีความสะดวกในการใช้งานและการติดต่อประสานงานที่ต่างกันออกไป


ในการเริ่มต้น คุณควรทำการวิจัยอย่างละเอียดเกี่ยวกับโบรกเกอร์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของสินทรัพย์ที่เสนอขาย และที่สำคัญคือค่าคอมมิชชัน

เลือกโบรกเกอร์ CFD ด้วย TOPONE Markets

TOPONE Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ CFD ชั้นนำในตลาดที่นำเสนอตราสารการเทรดที่หลากหลายและเทคโนโลยีที่ทันสมัยแก่ลูกค้า เมื่อพูดถึงการเลือกโบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการ มีหลายปัจจัยที่คุณควรพิจารณา


คุณต้องแน่ใจว่าโบรกเกอร์ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานทางการเงินที่มีชื่อเสียง สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสบายใจเมื่อรู้ว่าเงินได้รับการคุ้มครองและโบรกเกอร์ดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์ที่เข้มงวด


แพลตฟอร์มการเทรดของเราได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย สบายตา มีเครื่องมือสร้างแผนภูมิขั้นสูงและคุณลักษณะการวิเคราะห์ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อขายโดยใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์


ในด้านความปลอดภัย TOPONE Markets มีการจัดลำดับความสำคัญของความปลอดภัยของเงินทุนของผู้ใช้ผ่านแนวทางปฏิบัติ เช่น การป้องกันยอดเงินคงเหลือติดลบ และการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยในการลงชื่อเข้าใช้งานทุกครั้ง


ด้วย TOPONE Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ CFD ชั้นนำในแง่ของชื่อเสียงและข้อเสนอ เราอาจเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่มองหาบริการพิเศษในการเก็งกำไรสินทรัพย์ผ่าน CFD ของหุ้น ทองคำ น้ำมันดิบ คู่เงิน Forex หรือสกุลเงินดิจิทัล

การเทรด CFD ถูกกฎหมายหรือไม่

การเทรด CFD ถูกกฎหมายหรือไม่ นี่เป็นคำถามทั่วไปที่เกิดขึ้นเมื่อพิจารณาเข้าสู่โลกแห่งการเทรดทางการเงิน คำตอบคือใช่ การเทรด CFD นั้นถูกต้องตามกฎหมายอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าเช่นเดียวกับการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง


CFD ย่อมาจากสัญญาซื้อขายส่วนต่าง และช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถทำกำไรได้จากทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง


เหตุผลหนึ่งที่ทำให้บางคนอาจสงสัยว่าการเทรด CFD นั้นถูกต้องเนื่องจากลักษณะการใช้ Leverage  ด้วย Leverage  เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนจำนวนที่น้อยลง แม้ว่าสิ่งนี้จะสามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็ขยายการสูญเสียหากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม


เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีส่วนร่วมในการเทรด CFD ที่ถูกต้อง สิ่งสำคัญคือต้องเลือกโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงซึ่งได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับ เช่น Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร หรือ Australian Securities and Investments Commission (ASIC)


การศึกษาและทำความเข้าใจกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเทรด CFD ที่ประสบความสำเร็จ โดยการทำวิจัยและตระหนักถึงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น คุณสามารถนำทางรูปแบบการลงทุนนี้ได้อย่างมั่นใจ


โบรกเกอร์ CFD ทำเงินอย่างไร

โบรกเกอร์ CFD เป็นที่รู้จักในด้านการเข้าถึงตลาดและตราสารที่หลากหลาย ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ แต่โบรกเกอร์เหล่านี้ทำเงินได้อย่างไร มาเจาะลึกถึงกลไกที่อยู่เบื้องหลังการสร้างรายได้กัน


วิธีหนึ่งที่โบรกเกอร์ CFD ทำเงินได้คือผ่านสเปรด เมื่อคุณเปิดตำแหน่ง CFD จะมี 2 ราคา – ราคาเสนอ (ขาย) และราคาถาม (ซื้อ) ความแตกต่างระหว่าง 2 ราคานี้เรียกว่าสเปรด ซึ่งแสดงถึงอัตรากำไรของโบรกเกอร์


นอกจากค่าสเปรดแล้ว โบรกเกอร์ CFD บางรายอาจเรียกเก็บค่าคอมมิชชันจากการเทรดแต่ละครั้งที่ดำเนินการโดยลูกค้าของตน ค่าธรรมเนียมคอมมิชชันนี้อาจขึ้นอยู่กับอัตราคงที่หรือเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการเทรด


นอกจากนี้ โบรกเกอร์ CFD อาจได้รับรายได้จากค่าธรรมเนียมทางการเงินข้ามคืนหรืออัตราแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียมเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อคุณเปิดโพสิชั่นข้ามคืนและแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยและสภาวะตลาด


โปรดทราบว่าไม่ใช่โบรกเกอร์ CFD ทุกรายที่มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมเหมือนกัน บางรายอาจเสนอสเปรดที่แคบกว่าแต่คิดค่าคอมมิชชันสูงกว่า ในขณะที่รายอื่นอาจมีสเปรดที่กว้างกว่าแต่ค่าคอมมิชชันต่ำกว่า ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เทรดเดอร์จะต้องเปรียบเทียบโบรกเกอร์ต่าง ๆ อย่างรอบคอบก่อนที่จะเลือกโบรกเกอร์ที่สอดคล้องกับความต้องการเทรดและงบประมาณ


เมื่อทำความเข้าใจว่าโบรกเกอร์ CFD สร้างรายได้อย่างไร เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับการเลือกโบรกเกอร์และจัดการต้นทุนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มือใหม่เทรด CFD เลือกโบรกเกอร์อย่างไรดี

ทุกวันนี้มีการหลอกลวงมากมายที่ลอยอยู่ทั่วไปทางออนไลน์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะสงสัยว่าการเทรด CFD นั้นถูกต้องหรือไม่ ความจริงก็คือมีโบรกเกอร์ที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ดำเนินการภายใต้กรอบการกำกับดูแล อย่างไรก็ตาม โปรดใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบสถานะให้ดีก่อนฝากเงินกับโบรกเกอร์ใดๆ


การทำความเข้าใจว่าโบรกเกอร์ CFD ทำเงินได้อย่างไรจะช่วยให้คุณนำทางโลกนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พวกเขามักจะได้รับจากค่าสเปรด (ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ/ขาย) หรือการเรียกเก็บค่าคอมมิชชันจากการเทรด


โปรดจำไว้ว่าการพัฒนาวิธีการต้องใช้เวลาและประสบการณ์ จะมีทั้งชัยชนะและการสูญเสียระหว่างทาง! มีระเบียบวินัยในการทำตามแผนในขณะเดียวกันก็พร้อมปรับตัวเมื่อจำเป็น


การสนับสนุนลูกค้าเป็นอีกประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา ในฐานะเทรดเดอร์มือใหม่ การเข้าถึงการสนับสนุนลูกค้าที่ตอบสนองนั้นเป็นสิ่งล้ำค่าเมื่อคุณมีคำถามหรือต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเทรด


การเลือกโบรกเกอร์ CFD ที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบส่วนตัวในฐานะเทรดเดอร์มือใหม่ การใช้เวลาในการค้นคว้าโบรกเกอร์ต่าง ๆ และเปรียบเทียบข้อเสนอจะช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาโบรกเกอร์ที่เหมาะกับความต้องการ


泰语CTA.png

บทนำ

ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งการเทรด ที่ซึ่งโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งมีอยู่มากมาย! หากคุณยังใหม่กับเกม คุณอาจเจอคำศัพท์ต่าง ๆ เช่น การเทรด Spot และการเทรด CFD แม้ว่าทั้งสองรูปแบบการทำงานในตลาดการเงินจะเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์อ้างอิงเช่นกัน แต่ก็เป็นคู่หูทางเลือกการลงทุนที่ต่างกันด้วยลักษณะและกลยุทธ์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและสำหรับเป้าหมายที่ต่างกัน


ในบทความนี้ เราจะอธิบายให้ทราบถึงพื้นฐานของการเทรด Spot และการเทรด CFD เปรียบเทียบคุณลักษณะ แนะนำวิธีเลือกตลาดหรือโบรกเกอร์การเทรด CFD และให้คำแนะนำในการพิจารณาว่าแนวทางแบบไหนจะเหมาะกับคุณมากกว่ากัน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าเส้นทางใดดีที่สุดสำหรับการทำงานในตลาดการเงิน


มาเตรียมตัวให้พร้อมในขณะที่เราดำดิ่งสู่โลกอันน่าตื่นเต้นของการเทรด Spot และการเทรด CFD ที่โบรกเกอร์ TOPONE Markets!


พื้นฐานของการเทรด Spot

การเทรดราคา Spot เป็นรากฐานของการลงทุนแบบดั้งเดิมและตอนนี้ได้เข้าสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัล แล้วการเทรด Spot คืออะไรกันแน่ พูดง่ายๆ ก็คือการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาตลาดปัจจุบันสำหรับการส่งมอบในทันที


เทรดเดอร์ที่เทรดราคา Spot จะซื้อสินค้าอ้างอิง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น คริปโตเคอร์เรนซี่ เข้ามาไว้ในพอร์ต และมุ่งหวังการทำกำไรจากส่วนต่างราคาที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป


ที่การเทรด Spot การชำระบัญชีจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างน้อยไม่เกิน 5 นาที ขึ้นกับลักษณะของสินค้า โบรกเกอร์ หรือแพลตฟอร์มที่ใช้ ภายหลังการเสร็จสิ้นของธุรกรรม คุณจะมีสถานะเป็นเจ้าของทันที และสามารถถือครองได้ไม่มีกำหนดเวลา 


เมื่อเป็นเจ้าของสินทรัพย์ผ่านการเทรด Spot คุณมีความคาดหวังให้ราคาทะยานขึ้นเพื่อทำกำไรากส่วนต่างราคา ดังนั้น นี่จึงเป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของตลาดอีกด้วย เพราะหากในอนาคตราคาดิ่งลง คุณก็อาจเสียโอกาสในการลงทุน หรือหากจำเป็นต้องขาด ก็อาจต้องจำใจขายขาดทุนก็ได้


แต่หากเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อความมั่งคั่ง การเลือกสินค้าที่มีพื้นฐานดี เช่น หุ้นคุณค่า หรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่คนต้องกินต้องใช้ ก็จะช่วยสะสมความั่งคั่งระยะยาวได้ด้วยการเทรด Spot

ตัวอย่างการเทรด Spot ที่คริปโต

เช่นการเทรดราคา Spot ในสกุลเงินดิจิทัลคืออะไร การเทรด Spot หมายถึงการซื้อหรือขายตราสารทางการเงิน เช่น สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือ Ethereum เพื่อการชำระบัญชีทันที กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาตลาดปัจจุบันและรับการส่งมอบสินทรัพย์นั้นภายในระยะเวลาอันสั้น


เช่น คุณซื้อ Bitcoin มาในวันที่ 13 มี.ค. 2566 ที่ราคา 461.385B USD ดังภาพ และโชคดีที่ตอนนั้นเป็นช่วง New Low พอดี เมื่อเวลาผ่านไป จนถึงวันนี้ 12 ก.ค. 2566 ผ่านไป 4 เดือน ราคาของมัก็ยังไม่ตกลงไปหว่าราคาต้นทุนนั้นอีกเลย คุณรีบคว้าโอกาสการทำกำไร โดยขายออกไปที่ราคา 594.664B USD


มูลค่า Bitcoin ณ วันที่ 13 มี.ค. 2566


เมื่อเอ่ยถึงการเทรดราคา Spot ของคริปโต Binance เป็นแพบตฟอร์มการเทรดคริปโตแรก ๆ ที่คุณสามารถซื้อขายเหรียญคริปโตต่าง ๆ ที่ราคาตลาด (ตลาดหุ้นไทยเรียกว่ามาร์เก็ตไพรซ์ - Market Price)


ในการซื้อคริปโตราคา Spot บนแอป Binance ทำได้ง่าย ๆ เพียงฝากเงินเข้าบัญชีเทรดจากสกุลเงินบาท และซื้อเหรียญคริปโตที่ต้องการด้วยราคาแบบเรียลไทม์


การเทรด Spot ช่วยให้บุคคลทั่วไปได้รับความเสี่ยงโดยตรงจากสกุลเงินดิจิทัลโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน เช่น CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) ช่วยให้ผู้ค้าสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้ทันทีและใช้ประโยชน์จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นตามความต้องการของตลาดและพลวัตของอุปทาน

การเทรด Spot ทำงานอย่างไร

การเทรด Spot จะตัดสินอย่างตรงไปตรงมา เมื่อคุณมีส่วนร่วมในการเทรดทันที หมายความว่าคุณกำลังซื้อหรือขายสินทรัพย์เพื่อการส่งมอบทันที ซึ่งแตกต่างจากการเทรดประเภทอื่น ๆ การเทรดแบบนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสัญญาหรือข้อตกลงใด ๆ จ่ายเงินครบ ได้ของทันทีตามจำนวน


กระบวนการชำระบัญชีจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ที่มีการเทรด ในกรณีของสกุลเงินดิจิทัล เช่น การเทรดราคา Spot จะชำระโดยการโอนการเป็นเจ้าของเหรียญดิจิทัลจากกระเป๋าเงินของผู้ขายไปยังกระเป๋าเงินของผู้ซื้อ การถ่ายโอนนี้มักจะอำนวยความสะดวกผ่านแพลตฟอร์มโบรกเกอร์สกุลเงินดิจิทัล


ในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม เช่น หุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ การเทรดทันทีจะถูกตัดสินโดยโบรกเกอร์เงินสดเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ เช่น หากคุณซื้อหุ้นของบริษัทในการเทรด Spot  การทำธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อคุณชำระเงินและรับกรรมสิทธิ์ในหุ้นเหล่านั้น


การชำระบัญชีการค้าเกิดขึ้นเกือบจะทันทีเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการส่งมอบและชำระเงินทันที สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ค้าสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการตลาดได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอวันที่ชำระบัญชีในอนาคตเหมือนกับการเทรดประเภทอื่น ๆ


ยกตัวอย่างตลาดหุ้นไทย คุณพอใจหุ้นหนึ่งที่ราคาตลาด (MKP) ท่ามกลางราคาเสนอซื้อและเสนอขายจำนวนมาก ราคาของผู้ซื้อและขายจะมาบรรจบเกิดเป็นธุรกรรมได้ที่เพียงราคาเดียว (ความหมายคือ Spot)



จากตัวอย่างด้านบน ผู้ซื้อเสนอราคา Bids สูงสุดที่ 10.22 บาท ในขณะที่ผู้ขาย เสนอราคา Offers ต่ำสุดที่ 10.25 บาท ระหว่างนี้จะไม่มีธุรกรรมเกิดขึ้นเพราะราคาทั้ง 2 ฝั่งยังไม่บรรจบกัน  ถ้าฝ่าย Offers ลดราคาลงมาเหลือ 10.22 บาท หรือฝ่าย Bids เพิ่มราคาไปถึง 10.25 บาท ก็อาจมีธุรกรรมเกิดขึ้นและการส่งมอบหุ้นได้

เลือกตลาดสำหรับเทรด Spot

การเลือกตลาดสำหรับการเทรด Spot ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรดที่ประสบความสำเร็จ คุณจะต้องเลือกตลาดที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนและเสนอสินทรัพย์ที่คุณสนใจในการเทรด เช่น หากคุณต้องโบรกเกอร์สกุลเงินดิจิทัล คุณอาจพิจารณาแพลตฟอร์มอย่างเช่น Binance หรือ Coinbase ที่มีคู่สกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลาย นั่นหมายถึงการมีสภาพคล่อง สามารถทำรายการได้รวดเร็ว


สิ่งสำคัญคือต้องประเมินปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพคล่อง ค่าธรรมเนียม มาตรการรักษาความปลอดภัย และประสบการณ์ของผู้ใช้เมื่อเลือกตลาด Spot  มองหาโบรกเกอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูงและโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ ให้จัดลำดับความสำคัญของแพลตฟอร์มที่ใช้โปรโตคอลความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องเงิน


นอกจากนี้ ให้พิจารณาความง่ายในการใช้งานและความเป็นธรรมชาติของอินเทอร์เฟซแพลตฟอร์ม แพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเทรดได้อย่างมาก โดยให้คุณนำทางระหว่างตลาดต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นและดำเนินการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การประเมินปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบจะช่วยให้เทรดเดอร์/เทรดเดอร์ตัดสินใจได้อย่างรอบรู้ ส่งผลให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้นบนแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ซึ่งปรับให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจแต่ละอย่าง

การเทรด CFD (Contracts for Difference)

ในอีกด้านของรูปแบบการเทรด การเทรด CFD หรือ Contracts for Difference คือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง จัดเป็นตราสารอนุพันธ์ทางการเงินที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถทำกำไรได้จากทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง ในขณะที่การเทรดราคา Spot ต้องหวังให้เป็นขาขึ้นเท่านั้น จึงจะได้กำไร


ข้อได้เปรียบหลักอย่างหนึ่งของการเทรด CFD คือการใช้ Leverage  ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างน้อย คุณสามารถได้รับตำแหน่งที่ใหญ่กว่ามากในตลาด สิ่งนี้จะเพิ่มผลกำไรที่เป็นไปได้ แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงด้วย



ก่อนเริ่มต้นการเทรด CFD คุณต้องเลือกโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงซึ่งให้บริการเทรด CFD สิ่งสำคัญคือต้องทำการวิจัยอย่างละเอียดและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น กฎระเบียบ ค่าธรรมเนียม การสนับสนุนลูกค้า และแพลตฟอร์มการเทรดที่มีอยู่


เมื่อคุณเลือกโบรกเกอร์แล้ว คุณสามารถเปิดบัญชีและใส่เงินทุนให้กับมันด้วยเงินทุนที่เพียงพอ จากนั้น คุณสามารถเริ่มทำการเทรดตามการวิเคราะห์หรือกลยุทธ์ คุณสามารถเปิดสถานะซื้อ (ซื้อ) หากคุณเชื่อว่าราคาจะสูงขึ้น หรือเปิดสถานะขาย (ขาย) หากคุณคิดว่ามันจะร่วงลง


การเซ็ตคำสั่งหยุดการขาดทุนและระดับการทำกำไรเมื่อทำการเทรด CFD เป็นสิ่งสำคัญ สิ่งเหล่านี้ช่วยจัดการความเสี่ยงโดยการปิดสถานะโดยอัตโนมัติในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากสถานะเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณหรือบรรลุผลกำไรในระดับหนึ่ง


การติดตามตำแหน่งอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด CFD เนื่องจากตลาดสามารถผันผวนได้ การปรับ stop/limit หรือแม้แต่การปิดการเทรดอาจจำเป็น หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

วิธีทำเงินในการเทรด CFD

การจะตอบคำถามว่า ฉันจะสามารถทำเงินจากตลาด CFD ได้อย่างไร นี่ไม่ใช่คำตอบง่าย ๆ ว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เพราะในการเทรด CFD ต้องใช้ทักษะ ความรู้ และการตัดสินใจอย่างรอบคอบ


การเทรด CFD ให้โอกาสในการทำกำไรจากทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง เนื่องจากความสามารถในการเปิดสถานะซื้อหรือขายสินทรัพย์ ความยืดหยุ่นนี้จะเป็นประโยชน์หากคุณมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแม่นยำ


อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการเทรด CFD มีความเสี่ยง  Leverage ขยายโอกาสได้รับ แต่ยังขยายการสูญเสียด้วย หากไม่มีกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม คุณอาจจบลงด้วยการสูญเสียมากกว่าเงินลงทุนเริ่มต้น


เทรดเดอร์ CFD ที่ประสบความสำเร็จมักจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและติดตามข่าวและกิจกรรมทางการตลาดที่อาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ที่พวกเขาเลือกอย่างใกล้ชิด มีการกำหนดคำสั่งหยุดการขาดทุนที่ชัดเจนเพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นและระดับการทำกำไรเพื่อรักษาผลกำไรในระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

เซ็ตระบบเทรด รู้จัก Take Profit กับ Stop Loss

การเทรด CFD ที่ประสบความสำเร็จ จะต้องเริ่มด้วยการวางแผนการเงิน วางแผนการเทรดแล้วยึดมั่นตามนั้น มีประบเปลี่ยนตามสถานการณ์ หนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการเซ็ต  Stop Loss และ Take Profit  สิ่งนี้ช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและปกป้องการลงทุน กลยุทธการเทรดด้วยวิธีนี้ เป็นระดับราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งจะเรียกใช้คำสั่งโดยอัตโนมัติเพื่อปิดการเทรดหรือทำกำไรเมื่อถึง


การเซ็ตเหล่านี้จะช่วยให้คุณจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้โดยการออกจากการเทรดหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ ในทางกลับกัน การเซ็ตขีดจำกัดทำให้คุณสามารถล็อคกำไรได้โดยการปิดสถานะเมื่อถึงระดับที่ต้องการ



ในการกำหนด Stop Loss และ Take Profit คุณต้องวิเคราะห์ตลาดอย่างรอบคอบและพิจารณาว่าจุดใดที่คุณต้องการออกหรือทำกำไร อาจกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ของการขาดทุนที่ยอมรับได้ เช่น 10% หรือ 20% คือแม้จะขาดทุนบ้าง แต่ก็ไม่เจ็บตัวเกินไป เอาเงินไปลงทุนที่อื่นต่อดีกว่าติดดอย เสียโอกาสการลงทุน การตัดสินใจนี้ควรขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ปัจจัยพื้นฐาน หรือทั้งสองอย่างรวมกัน


เมื่อคุณตัดสินใจเลือกระดับ Stop Loss และ Take Profit แล้ว ที่ MT4 หรือ MT5 ซึ่งเป็นสองเวอร์ชั่นของเครื่องมือเทรด ช่วยให้คุณสามารถกำหนดค่าทั้งสองได้ และทำให้งานเทรดเป็นเรื่องง่าย ๆ กับการเทรด CFD


สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการเซ็ต Stop Loss และ Take Profit ไม่ควรทำโดยพลการ แต่ให้ยึดตามการวิเคราะห์ที่เหมาะสมและหลักการบริหารความเสี่ยง การติดตามการเทรดเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนได้หากจำเป็น


ด้วยการใช้เวลาในการกำหนด Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสมสำหรับการเทรดแต่ละครั้ง เทรดเดอร์จะสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้นในขณะที่เพิ่มผลกำไรที่เป็นไปได้สูงสุดในสถานการณ์การเก็งกำไรสินทรัพย์


ติดตามและปิดสถานะการเทรด CFD

เมื่อเปิดสถานะการเทรดบนสัญญา CFD แล้ว งานถัดมาต้องติดตามและจัดการตำแหน่งอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการจับตาดูสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิดและการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเทรด


การติดตามสถานะหมายถึงการตรวจสอบความคืบหน้าของการเทรดอย่างสม่ำเสมอ คุณสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและแผนภูมิเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของราคา และระบุรูปแบบหรือแนวโน้มที่อาจช่วยในการตัดสินใจ สิ่งสำคัญคือการติดตามข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจส่งผลต่อสินทรัพย์ที่คุณกำลังซื้อขาย


ขณะที่คุณติดตามตลาด ให้เตรียมพร้อมที่จะทำการปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึง Stop Loss และ Take Profit ก็ได้ หากการเทรดเป็นไปในทิศทางที่คุณพอใจ


ในขณะที่การติดตามและปิดตำแหน่งต้องการความสนใจและทักษะในการตัดสินใจ แต่ต้องไม่ลืมว่าอย่าให้อารมณ์มากำหนดการกระทำ จงยึดมั่นในกลยุทธ์การเทรดและมีระเบียบวินัยตลอดกระบวนการ


ด้วยการตรวจสอบและจัดการตำแหน่งอย่างกระตือรือร้น คุณจะเพิ่มโอกาสในการเพิ่มผลกำไรสูงสุดในขณะที่ลดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นทั้งในการเทรดราคา Spot และการเทรด CFD

ประเมินตลาด เลือก Short หรือ Long

แนวคิดของการเทรด CFD คือการประเมินทิศทางของตลาด การตัดสินใจที่สำคัญคือใช้การพิจารณาดังกล่าวมากำหนดว่าจะเปิดสถานะ Short หรือ Long ในสัญญาการเทรด CFD


การเปิดสถานะ Long หมายถึง การซื้อสินทรัพย์โดยคาดหวังว่าราคาของสินทรัพย์จะสูงขึ้น ในขณะที่การเปิดสถานะ Short จะเป็นการคาดหวังว่าราคาจะลดลง



จากตัวอย่างด้านบนนี้ ราคาทองอยู่ที่ 1,900 คุณคาดว่าในอนาคตราคาจะปรับขึ้น คุณจึงเลือกเปิดสถานะ Long และเมื่อเวลาผ่านไป ราคาปรับขึ้นตามที่คาดเป็น 2,000 เท่ากับว่าคุณจะทำกำไรได้ 1,000 เหรียญ เช่นเดียวกันกับภาพด้านล่าง ณ ปัจจุบัน คุณมองว่าแนงโน้มทองเป้นขาลง คุณจึงเลือกเปิดสถานะ Short และเป็นดังคาด คุณก็ได้กำไร 1,000 เหรียญ เช่นกัน



การจะตัดสินใจว่าจะ Long หรือ Short ต้องมีการวิเคราะห์และพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ การประเมินแนวโน้มของตลาด วิเคราะห์ข้อมูลในอดีต และพิจารณาข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์เป็นสิ่งสำคัญ


การตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายขึ้นอยู่กับความเข้าใจในสภาวะตลาดและความสามารถในการมองเห็นโอกาสที่เป็นไปได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำการวิจัยอย่างถี่ถ้วนและพัฒนาแผนการเทรดที่มั่นคงก่อนที่จะดำเนินการเทรดใดๆ

กลยุทธ์การเทรด CFD

เมื่อพูดถึงการเทรด การมีวิธีการที่มั่นคงเป็นกุญแจสำคัญ ไม่ว่าคุณกำลังพิจารณาการเทรด Spot หรือ CFD การวางแผนอย่างรอบคอบสามารถสร้างความแตกต่างได้ แล้วคุณจะพัฒนาวิธีการเทรดอย่างไร


ก่อนอื่น สิ่งสำคัญคือต้องเลือกตลาด Spot หรือโบรกเกอร์ CFD ที่เหมาะกับความต้องการ ทำวิจัยอย่างละเอียดและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ทรัพย์สินที่มีอยู่ และบทวิจารณ์ของผู้ใช้ เช่น TOPONE Markets ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม


ต่อไป ตัดสินใจว่าคุณต้องการมีส่วนร่วมในการเทรด Forex หรือการเก็งกำไรสินทรัพย์ผ่าน CFD แต่ละคนมีข้อดีและข้อควรพิจารณาของตนเอง การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล


สำหรับผู้เริ่มต้นที่เพิ่งเริ่มต้นการเทรด CFD การหาโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ซึ่งมีแหล่งข้อมูลด้านการศึกษาและการสนับสนุนเป็นสิ่งสำคัญ มองหาโบรกเกอร์ที่ให้คำแนะนำที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงและการวิเคราะห์ทางเทคนิค


การพัฒนากลยุทธ์การเทรด CFD นั้นเกี่ยวข้องกับการพิจารณาปัจจัยอย่างรอบคอบ เช่น การเลือกโบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะสม ทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการเทรดราคา Spot ของ Forex หรือหุ้นรายตัว และการเก็งกำไรสินทรัพย์ด้วยการเทรด CFD ติดตามแหล่งข้อมูลทางการศึกษาที่เชื่อถือได้สำหรับผู้เริ่มต้น ด้วยวิธีการที่รอบรู้ คุณสามารถเพิ่มโอกาสได้สูงสุด และจำกัดความเสี่ยงได้อย่างฉลาด


วิธีเลือกโบรกเกอร์ CFD

คู่หูคนสำคัญของเส้นทางการเทรด CFD ยุคออนไลน์คือโบรกเกอร์ CFD ที่เชื่อถือได้ แต่ละโบรกเกอร์มีข้อดี ข้อด้อย และบริการที่นำเสนอแตกต่างกัน มีความสะดวกในการใช้งานและการติดต่อประสานงานที่ต่างกันออกไป


ในการเริ่มต้น คุณควรทำการวิจัยอย่างละเอียดเกี่ยวกับโบรกเกอร์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของสินทรัพย์ที่เสนอขาย และที่สำคัญคือค่าคอมมิชชัน

เลือกโบรกเกอร์ CFD ด้วย TOPONE Markets

TOPONE Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ CFD ชั้นนำในตลาดที่นำเสนอตราสารการเทรดที่หลากหลายและเทคโนโลยีที่ทันสมัยแก่ลูกค้า เมื่อพูดถึงการเลือกโบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการ มีหลายปัจจัยที่คุณควรพิจารณา


คุณต้องแน่ใจว่าโบรกเกอร์ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานทางการเงินที่มีชื่อเสียง สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสบายใจเมื่อรู้ว่าเงินได้รับการคุ้มครองและโบรกเกอร์ดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์ที่เข้มงวด


แพลตฟอร์มการเทรดของเราได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย สบายตา มีเครื่องมือสร้างแผนภูมิขั้นสูงและคุณลักษณะการวิเคราะห์ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อขายโดยใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์


ในด้านความปลอดภัย TOPONE Markets มีการจัดลำดับความสำคัญของความปลอดภัยของเงินทุนของผู้ใช้ผ่านแนวทางปฏิบัติ เช่น การป้องกันยอดเงินคงเหลือติดลบ และการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยในการลงชื่อเข้าใช้งานทุกครั้ง


ด้วย TOPONE Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ CFD ชั้นนำในแง่ของชื่อเสียงและข้อเสนอ เราอาจเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่มองหาบริการพิเศษในการเก็งกำไรสินทรัพย์ผ่าน CFD ของหุ้น ทองคำ น้ำมันดิบ คู่เงิน Forex หรือสกุลเงินดิจิทัล

การเทรด CFD ถูกกฎหมายหรือไม่

การเทรด CFD ถูกกฎหมายหรือไม่ นี่เป็นคำถามทั่วไปที่เกิดขึ้นเมื่อพิจารณาเข้าสู่โลกแห่งการเทรดทางการเงิน คำตอบคือใช่ การเทรด CFD นั้นถูกต้องตามกฎหมายอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าเช่นเดียวกับการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง


CFD ย่อมาจากสัญญาซื้อขายส่วนต่าง และช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถทำกำไรได้จากทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง


เหตุผลหนึ่งที่ทำให้บางคนอาจสงสัยว่าการเทรด CFD นั้นถูกต้องเนื่องจากลักษณะการใช้ Leverage  ด้วย Leverage  เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนจำนวนที่น้อยลง แม้ว่าสิ่งนี้จะสามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็ขยายการสูญเสียหากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม


เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีส่วนร่วมในการเทรด CFD ที่ถูกต้อง สิ่งสำคัญคือต้องเลือกโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงซึ่งได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับ เช่น Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร หรือ Australian Securities and Investments Commission (ASIC)


การศึกษาและทำความเข้าใจกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเทรด CFD ที่ประสบความสำเร็จ โดยการทำวิจัยและตระหนักถึงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น คุณสามารถนำทางรูปแบบการลงทุนนี้ได้อย่างมั่นใจ


โบรกเกอร์ CFD ทำเงินอย่างไร

โบรกเกอร์ CFD เป็นที่รู้จักในด้านการเข้าถึงตลาดและตราสารที่หลากหลาย ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ แต่โบรกเกอร์เหล่านี้ทำเงินได้อย่างไร มาเจาะลึกถึงกลไกที่อยู่เบื้องหลังการสร้างรายได้กัน


วิธีหนึ่งที่โบรกเกอร์ CFD ทำเงินได้คือผ่านสเปรด เมื่อคุณเปิดตำแหน่ง CFD จะมี 2 ราคา – ราคาเสนอ (ขาย) และราคาถาม (ซื้อ) ความแตกต่างระหว่าง 2 ราคานี้เรียกว่าสเปรด ซึ่งแสดงถึงอัตรากำไรของโบรกเกอร์


นอกจากค่าสเปรดแล้ว โบรกเกอร์ CFD บางรายอาจเรียกเก็บค่าคอมมิชชันจากการเทรดแต่ละครั้งที่ดำเนินการโดยลูกค้าของตน ค่าธรรมเนียมคอมมิชชันนี้อาจขึ้นอยู่กับอัตราคงที่หรือเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการเทรด


นอกจากนี้ โบรกเกอร์ CFD อาจได้รับรายได้จากค่าธรรมเนียมทางการเงินข้ามคืนหรืออัตราแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียมเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อคุณเปิดโพสิชั่นข้ามคืนและแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยและสภาวะตลาด


โปรดทราบว่าไม่ใช่โบรกเกอร์ CFD ทุกรายที่มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมเหมือนกัน บางรายอาจเสนอสเปรดที่แคบกว่าแต่คิดค่าคอมมิชชันสูงกว่า ในขณะที่รายอื่นอาจมีสเปรดที่กว้างกว่าแต่ค่าคอมมิชชันต่ำกว่า ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เทรดเดอร์จะต้องเปรียบเทียบโบรกเกอร์ต่าง ๆ อย่างรอบคอบก่อนที่จะเลือกโบรกเกอร์ที่สอดคล้องกับความต้องการเทรดและงบประมาณ


เมื่อทำความเข้าใจว่าโบรกเกอร์ CFD สร้างรายได้อย่างไร เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับการเลือกโบรกเกอร์และจัดการต้นทุนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มือใหม่เทรด CFD เลือกโบรกเกอร์อย่างไรดี

ทุกวันนี้มีการหลอกลวงมากมายที่ลอยอยู่ทั่วไปทางออนไลน์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะสงสัยว่าการเทรด CFD นั้นถูกต้องหรือไม่ ความจริงก็คือมีโบรกเกอร์ที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ดำเนินการภายใต้กรอบการกำกับดูแล อย่างไรก็ตาม โปรดใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบสถานะให้ดีก่อนฝากเงินกับโบรกเกอร์ใดๆ


การทำความเข้าใจว่าโบรกเกอร์ CFD ทำเงินได้อย่างไรจะช่วยให้คุณนำทางโลกนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พวกเขามักจะได้รับจากค่าสเปรด (ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ/ขาย) หรือการเรียกเก็บค่าคอมมิชชันจากการเทรด


โปรดจำไว้ว่าการพัฒนาวิธีการต้องใช้เวลาและประสบการณ์ จะมีทั้งชัยชนะและการสูญเสียระหว่างทาง! มีระเบียบวินัยในการทำตามแผนในขณะเดียวกันก็พร้อมปรับตัวเมื่อจำเป็น


การสนับสนุนลูกค้าเป็นอีกประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา ในฐานะเทรดเดอร์มือใหม่ การเข้าถึงการสนับสนุนลูกค้าที่ตอบสนองนั้นเป็นสิ่งล้ำค่าเมื่อคุณมีคำถามหรือต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเทรด


การเลือกโบรกเกอร์ CFD ที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบส่วนตัวในฐานะเทรดเดอร์มือใหม่ การใช้เวลาในการค้นคว้าโบรกเกอร์ต่าง ๆ และเปรียบเทียบข้อเสนอจะช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาโบรกเกอร์ที่เหมาะกับความต้องการ


泰语CTA.png

  • ไอคอนแชร์ Facebook
  • ไอคอนแชร์ X
  • ไอคอนแชร์ Instagram

บทความที่กำลังมาแรง

  • “พายุไต้ฝุ่น” ของ FED : ความท้าทายใหม่ต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าทั่วโลก

    "ในช่วงที่ผ่านมา การดำเนินนโยบายการเงินของ FED ที่เปรียบเสมือน “พายุไต้ฝุ่น” ที่สร้างคลื่นลูกใหญ่ในตลาดการเงินโลก ถ้อยแถลงที่แข็งกร้าวของเขาไม่เพียงแต่ทำให้ตลาดสหรัฐฯ ผันผวนอย่างรุนแรงเท่านั้น แต่ยังทำให้กองทุนทั่วโลกเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง และกองทุนกว่า 35 ล้านล้านกองทุนอาจถูกถอนออกอย่างรวดเร็ว การดำเนินการชุดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อหรือปกปิดวิกฤตหนี้สหรัฐฯ บทความนี้จะเจาะลึกประเด็นนี้และวิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก "

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2025-01-10
  • 7 วิธีเริ่มต้นสร้างรายได้แบบ Passive Income ฉบับผู้เริ่มต้น

    อยากรวยแบบเขาบ้างเริ่มต้นไม่ยากหากนำทางด้วยความรู้ ทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์ สร้างรายได้ ต่อยอด ให้เงินทำงานด้วยหลักการของรายได้แบบ Passive Income ที่คุณเองก็หาได้มากกว่าเดือนละ 10,000 บาท

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-07-03
  • 5 ข้อผิดพลาดเทรดเดอร์มือใหม่ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเทรด

    ทุก ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่เริ่มต้นลงทุน เงินเฟ้อจะชนะเงินคุณแน่นอน มือใหม่หัดเทรดเริ่มต้นมั่นใจเพียงเรียนรู้ 5 ข้อผิดพลาดทั่วไปที่พบบ่อยของมือใหม่หัดเทรดก่อนเริ่มต้นในตลาดการเงิน

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-06-07
  • Andrew Tate คือใครและทำไมเขาถึงมีชื่อเสียง? 10 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Influencer ที่เป็นข้อโต้แย้ง

    ค้นพบว่าใครคือ Andrew Tate และทำไมเขาถึงสร้างกระแสในโลกดิจิทัล ค้นพบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ 10 ประการเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลที่เป็นที่ถกเถียง การเดินทางของเขา และผลกระทบของเขาต่อโลกออนไลน์

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-03-01
รูปโปรโมชันในบทความ
โอกาสทองรออยู่! กระโจนเข้ามา!พร้อมรับโบนัส $100 ฟรี!
ทองคำ ทองคำ

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย