
คุยกันภาษาหุ้น… ติดดอยคืออะไร
ติดดอยไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ถ้าไม่ติดดอยเลย ก็น่าจะดีกว่าใช่ไหม

เวลาที่เรานึกถึงการลงทุน ไม่ว่าจะการลงทุนประเภทไหน หลายท่านคงมองแต่ด้านดี คิดถึงแต่ “โอกาส” ของการทำกำไรจากการลงทุน แต่ลืมนึกไปว่า ยังมีอีกด้านของเหรียญ นั่นก็คือ “การขาดทุน” หรือที่ภาษาหุ้นในไทยทุกวันนี้คือการ “ติดดอย”
ว่าแต่ การติดดอยนั้นมันคืออะไรกันแน่ แค่ราคาตกก็เรียกว่าติดดอยแล้วหรือ ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกันให้มากขึ้นถึงคำว่าติดดอย และวิธีจัดการพอร์ตก่อนการติดดอย หรือถ้าตอนนี้ใครกำลังอยู่เราลองมาดูวิธีลงจากดอยแบบค่อย ๆ ลงกันดีกว่า
ติดดอยคืออะไร แมงเม่าเป็นอย่างไร
ภาวะติดดอย เป็นคำแสลงที่ใช้กล่าวถึงเวลาที่หุ้น ทองคำ หรือเหรียญคริปโตที่เราถืออยู่ตอนนี้ มีราคาตกลงกว่าจากตอนซื้อเอามาก ๆ เช่น ซื้อมาตอน 50 บาท (เพราะหวังการเติบโต) แต่อยู่มาไม่ทันไร ราคาก็ค่อย ๆ ลดลง ๆ หรือแช่อยู่อย่างนั้นไม่ขยับไปไหน หรือแทบไม่มีท่าทีว่าจะกลับตัวเลย
เวลาพูดถึงดอย ใครก็ต้องอิมเมจภาพถึงอากาศอันหนาวเหน็บ เลยเป็นที่มาของชื่อ “ติดดอย”

ส่วนแมงเม่า เป็นคำที่ใช้แทนบรรดานักลงทุนที่ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ใครว่าหุ้นเด้งหุ้นดีก็รีบซื้อตามเขาโดยไม่ได้ทันชั่งใจศึกษา หรือเข้าซื้อสินทรัพย์โดยไม่มีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องดีพอ
คล้าย ๆ กับบรรดาแมงเม่าที่ชอบบินเข้าหากองไฟ เพราะเห็นแสงสว่างสวยงาม แต่พอเข้าไปไม่ทันไรก็ตายกันหมด
คนเล่นหุ้นที่ขาดการศึกษาให้ถ่องแท้ถึงความเสี่ยงในแง่มุม วัฏจักรของอุตสาหกรรม สภาพเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันและแนวโน้ม รวมถึงคนที่โลภมากเกินพอดี ก็มีโอกาสเป็นแมงเม่าและติดดอยได้ไม่ยาก
จริง ๆ แล้ว คำว่าแมงเม่าค่อนข้างจะเป้นคำล้อเลียนเสียมากกว่า เช่น มีเงินไม่เท่าไรก็รีบเอาไปซื้อหุ้นหรือลงทุนอะไรในทันที โดยขาดการวางแผนการลงทุน วางแผนบริหารการเงินที่ดี สุดท้ายพอขาดทุนขึ้นมา ทั้งเนื้อทั้งตัวก็ไม่เหลืออะไรเลย
ในขณะที่คำว่าติดดอยนั้น หากว่าคุณบาลานซ์พอร์ตได้เหมาะสมพอดี ๆ มีสัดส่วนของหุ้น ทองคำ กองทุนรวม หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การติดดอยบ้างบางเวลา บางสินทรัพย์ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือน่าอายแต่อย่างใด อีกทั้งถ้าคุณเป็นคนที่บริหารการเงินตัวเองดี ๆ คุณย่อมทราบว่าความเสี่ยงด้านสภาพคล่องนั้นสำคัญมาก คุณจะมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าตลาดการลงทุนจะหมุนไปทางไหน คุณยังมีเงินสดไว้ใช้จ่ายตามจำเป็นไม่ขาดมือ
จัดพอร์ตอย่างไร ไม่ให้ติดดอย
หากคุณติดตามบทความการลงทุนของ Top1 Markets มาสักระยะหนึ่ง จะพบว่าเรามักเตือนคุณเสมอ ๆ ว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ไม่มีสินทรัพย์ใดให้ผลตอบแทนที่ดีงามตลอดเวลา วัฏจักรของหุ้นมีขึ้นมีลง ตามกระแสนิยม และเทรนด์เศรษฐกิจของโลก

สิ่งสำคัญที่จะบาลานซ์การขาดทุน ไม่ให้ติดดอยสูง ๆ คือการจัดพอร์ตให้เหมาะสม มีส่วนผสมของสินทรัพย์การลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเงินฝากธนาคารที่มีสภาพคล่องมากที่สุด และความเสี่ยงน้อยที่สุด ไปจนถึงสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ๆ และโอกาสทำกำไรมากอย่างสกุลเงินดิจิทัล
บางเวลา เกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ต่อสกุลเงินคริปโต ไม่ว่าจะเป็นการล่มสลายของแพลตฟอร์มการเทรดที่เราได้เห็นข่าวมากก่อนหน้าเมื่อราวพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ส่งผลต่อเนื่องให้คริปโตเหรียญต่าง ๆ มีมูลค่าลดลง
ติดดอยแล้ว…ทำอย่างไรดี
ไม่ว่าใครก็อาจประสบกับอาการติดดอยได้เหมือนกัน ไม่ได้จำกัดแต่นักลงทุนหน้าใหม่ที่ประสบการณ์น้อย
อย่างที่ทราบกันดีว่า ไม่มีสินทรัพย์ใดให้ผลตอบแทนที่งดงามได้ทุกเวลา การหมั่นศึกษาติดตามข่าวสารบ้านเมืองจะช่วยให้จัดการพอร์ตได้ดีขึ้นตามสภาพการณ์
บางครั้ง สินทรัพย์เช่นทองคำ ที่ว่ากันว่าเป็น Safe Heaven ก็อาจทำให้เราติดดอยได้เหมือนกัน เมื่อติดดอยทอง ต้องชั่งใจคิดก่อนว่า ในเวลานี้ อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาทองเช่นนี้ แล้วปัจจัยนี้มีผลกระทบต่อพอร์ตทองของตัวเองมากน้อยแค่ไหน
หากคุณกังวลว่า ราคาทองในพอร์ตจะลดลงเรื่อย ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง ก็ตัดใจขายขาดทุนออกไป ก็จะช่วยลดความรุนแรงของผลขาดทุนได้
เช่นเดียวกันกับหุ้น มีปัจจัยใดบ้างที่ในเวลานี้มีอิทธิพลต่อราคาของหุ้นในอุตสาหกรรมหนึ่ง ๆ แล้วคุณประมาณการณ์ว่าในช่วงเวลาหนึ่งข้างหน้า หุ้นนี้ในพอร์ตที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ น่าจะมีทิศทางอย่างไร หากประเมินว่า ราคาหุ้นน่าจะยังแย่อยู่ หรือยังไม่ค่อยเห็นแนวโน้มการปรับตัวขึ้น การจำใจขายทิ้งแบบขาดทุน (Cut Loss) ก็จะช่วยลดค่าเสียโอกาสของการลงทุนลงไปได้

อย่างไรก็ตาม ในภาวะติดดอย ก็ใช่จะมีข้อเสียเสมอไป บางท่านอาจเล็งเห็นโอกาสในการลงทุนที่เพิ่มขึ้นผ่านการเข้าซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์นั้น ๆ เพิ่มเติม เพราะสินทรัพย์นั้นอาจมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นหลังจากผ่านวิกฤตในระยะนี้ไป
ไม่มีสูตรสำเร็จว่า ติดดอยแล้วควรทำอย่างไรดี
การตัดสินใจขึ้นอยู่กับว่า คุณมีความเชื่อมั่นในการสร้างมูลค่าระยะยาวของสินทรัพย์อย่างไร หากเป็นหุ้นคุณค่าตามแบบฉบับ VI นี่คือโอาสที่ดีที่จะได้ซื้อของดีในราคาถูก ซึ่งเมื่อตลาดปรับตัวขึ้น ผลกำไรก็จะมากขึ้น เพราะว่าต้นทุนถูกกว่านั่นเอง
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!