
ดัชนี CPI คืออะไร และ 5 วิธีลงทุนยุคเงินเฟ้อ
CPI เป็นดัชนีชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่รัฐบาลใช้ในการติดตามค่าครองชีพ ถูกคิดคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์และมักประกาศเป็นรอบเวลา ในการลงทุน ต้องติดตามการเคลื่อนไหวของดัชนี CPI เพื่อใช้เป็นแนวทางวางกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมตามแต่ละช่วงเวลา

เงินเฟ้อเป็นข้อเท็จจริงของชีวิต และเป็นสิ่งที่มีมาตั้งแต่เริ่มการค้า หลายคนทราบดีถึงภาวะเงินเฟ้อและผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา แต่สิ่งที่พวกเขาอาจไม่รู้ก็คือจะป้องกันตนเองอย่างไร ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI เป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุนเพื่อปกป้องการเงินจากผลกระทบด้านลบของอัตราเงินเฟ้อ ในบทความนี้ เราจะแจกแจงข้อมูลพื้นฐานของดัชนี CPI และหารือเกี่ยวกับห้าวิธีที่สร้างสรรค์ในการลงทุนในช่วงเวลาที่เกิดภาวะเงินเฟ้อ หากคุณกำลังมองหากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าเงินจะไม่ถูกกลืนหายไปจากราคาที่สูงขึ้น อ่านต่อ!
ดัชนี CPI คืออะไร คำณวณมากจากอะไร
ดัชนี CPI เป็นการวัดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ยของราคาเมื่อเวลาผ่านไปสำหรับตะกร้าสินค้าและบริการ ดัชนี CPI ใช้เพื่อติดตามอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในช่วงเวลาหนึ่ง ดัชนี CPI สามารถใช้ในการลงทุนในช่วงเวลาที่เงินเฟ้อ เนื่องจากการลงทุนบางอย่างอาจได้รับประโยชน์จากราคาที่สูงขึ้น
ดัชนี CPI คือการคำนวณจากสิ่งที่เรียกว่า “ตะกร้าสินค้า” หรือ “CPI Basket Goods” เป็นการคำนวณจาก หมวดสินค้าอุปโภคบริโภคที่คนส่วนใหญ่กินใช้ในชีวิตประจำวัน
รายการสำหรับการสุ่มตัวอย่างที่ร้านค้าแต่ละแห่งจะถูกเลือกแบบสุ่มตามอัตราต่อรองตามสัดส่วนของการใช้จ่ายที่พวกเขาดึงดูดเมื่อเทียบกับทางเลือกประเภทต่าง ๆ ในแง่ของยี่ห้อ ความหลากหลาย และขนาดหรือน้ำหนัก รายการยังคงอยู่ในตัวอย่างเป็นเวลาสี่ปี
อาจสังเกตได้ว่า บางครัวเรือนอาจมิได้ใช้สินค้าเหล่านั้นทั้งหมด จึงอาจทำให้ตัวเลขที่ดัชนีแสดงออกมานั้นเป็นภาพใหญ่ของสภาพเศรษฐกิจดดยรวม มากกว่าการจำเพาะเจาะจงเป็นภูมิภาคหรือจังหวัดหนึ่ง ๆ
ภาพด้านบนคือแผนการประกาศ CPI Report จากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐอเมริกา ข้อมูล ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566
เหตุที่เราควรให้ความสนใจกับข้อมูล CPI Report จากหสรัฐอเมริกาคือ ด้วยความที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือเศรษฐกิจของสหรัฐ ย่อมกระทบต่อตลาดการค้าและการลงทุนใด ๆ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ลองมาดูตัวอย่าง จากการที่เศรษฐกิจของสหรัฐที่สะท้อนออกมาโดยดัชนี CPI ที่จะกระทบต่อการลงทุนของเรา
หากเกิดภาวะเงินเฟ้อ รัฐบาลโดย FED อาจประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อควบคุมปัญหา โดยการที่จะพยายามลดเงินหมุนเวียนในระบบให้น้อยลง และเมื่อเงินฝากมีดอกเบี้ยสูงขึ้น ผู้คนก็อยากนำเงินไปฝากธนาคารแทนการจับจ่ายใช้สอย (และลงทุน) เพื่อหวังผลตอบแทน ในเวลานั้น ตลาดการลงทุน โดยเฉพาะหุ้นก็ซบเซาลง หากคุณลงทุนหุ้นอยู่ เวลานั้นมูลค่าก็อาจจะลดลง ความต้องการในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็แผ่วลง
บางท่านที่เทรด FOREX อยู่ ก็ต้องติดตามเรื่องการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของคู่เงินเทรดดอลลาร์สหรัฐ และวางแผนการเทรดให้ดีเพื่อลดการาดทุนลง
ภาวะเงินเฟ้อกับดัชนี CPI สัมพันธ์กันอย่างไร
อัตราเงินเฟ้อ (Inflation) คือการเพิ่มขึ้นของระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อระดับราคาทั่วไปสูงขึ้น ความสามารถในการใช้จ่ายของคนก็จะลดลงในเชิงเปรียบเทียบ
เช่น เมื่อปีที่แล้ว มีเงิน 100 บาท สามารถซื้อข้าวราดแกง 2 อย่างได้ในราคา 40 บาท มีเงินเหลือ 60 บาทแต่มาปีนี้ ด้วยเงินจำนวนเท่าเดิม ต้องจ่าย 60 บาท เพื่อซื้อข้าวราดแกง 2 อย่าง ทำให้มีเงินเหลือน้อยลง หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือ แต่ก่อนค่าเดินทางจากบ้านไปที่ทำงาน 50 บาท ตอนนี้ต้องจ่ายเป็น 60 บาท นั่นหมายความว่า เงิน 50 บาทที่มี ด้อยมูลค่าลงไปแล้ว
ดังนั้นอัตราเงินเฟ้อจึงสะท้อนถึงการลดลงของกำลังซื้อต่อหน่วยเงิน ซึ่งเป็นการสูญเสียมูลค่าที่แท้จริงในสื่อกลางของการแลกเปลี่ยนและหน่วยของบัญชีในระบบเศรษฐกิจ ดัชนี CPI เป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ในการวัดอัตราเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้อมี 2 ประเภทใหญ่ ๆ
อัตราเงินเฟ้อที่ดึงความต้องการ (Demand Pull Inflation)
เมื่อความต้องการของตลาดมีมากกว่าปริมาณสินค้าที่ส่งมอบ สิ่งนี้ทำให้ราคาสูงขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคแข่งขันกันเองเพื่อซื้อสินค้า (ใครจะจ่ายได้มากกว่า) อาจเกิดจากการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น หรือการใช้จ่ายด้านการลงทุนที่เพิ่มขึ้น
อัตราเงินเฟ้อที่ผลักต้นทุน (Cost Put Inflation)
เมื่อราคาถูกผลักให้สูงขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เช่น วัตถุดิบ เชื้อเพลิง หรือค่าจ้าง เช่น หากราคาน้ำมันสูงขึ้น สิ่งนี้จะผลักดันให้ราคาน้ำมันที่ปั๊มสูงขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นและทำให้ผู้ค้าปลีกต้องขึ้นราคาในที่สุด
แปลความจากดัชนี CPI ได้อย่างไรบ้าง
นักลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์ต่างจับตามองอย่างใกล้ชิดถึงการประกาศดัชนี CPI เพราะสิ่งนี้มีผลต่อทิศทางการลงทุน เราควรเลือกปรับกลยุทธ์การลงทุน ไม่ว่าจะเป็นด้านสัดส่วนของสินทรัพยืหรือประเภทของสินทรัพย์มให้เามะสมตามสถานการณ์ เพื่อดูว่า ตัวเลขดัชนี CPI นั้น จะส่งผลต่อทิศทางราคาของสินค้าการลงทุนที่คุณเลือกหรือถือได้อย่างไรบ้าง

เราสามารถแปลความหมาย จากดัชนี CPI ได้ว่ามันคือการสะท้อนอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเงินเฟ้อหมายถึงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระดับราคาทั่วไปของสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจหนึ่ง ๆ เมื่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น เงินแต่ละบาทแต่ละสตางค์ที่หามาได้ ดูจะด้อยค่าลงเมื่อเทียบกับปริมาณของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีพ
การตีความรายงาน CPI อาจเป็นเรื่องยุ่งยาก เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง สิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูคือ Core CPI ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน สิ่งนี้ให้ภาพที่แม่นยำยิ่งขึ้นของแนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐาน
หากคุณกำลังดูรายงาน CPI เพื่อตัดสินใจลงทุน สิ่งสำคัญคือต้องระลึกไว้เสมอว่าอัตราเงินเฟ้อสามารถเป็นได้ทั้งผลดีและผลเสียสำหรับการลงทุนที่แตกต่างกัน เช่น พันธบัตรมีแนวโน้มที่จะทำงานได้ไม่ดีเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ในขณะที่หุ้นอาจได้ประโยชน์จากราคาที่สูงขึ้น
เมื่อเข้าใจวิธีตีความรายงาน CPI คุณจะพร้อมมากขึ้นในการตัดสินใจลงทุนเพื่อปกป้องพอร์ตโฟลิโอจากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ
5 วิธีวางแผนลงทุนยุคเงินเฟ้อ
ตอนนี้คุณทราบแล้วว่า ดัชนี CPI สะท้อนถึงภาวะเงินเฟ้อของระบบเศรษฐกิจหนึ่ง ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การติตดามความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่สะท้อนออกมาเป็นดัชนี CPI ของสหรัฐอเมริกานั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับแผนการลงทุน หรือแม้แต่การจะเลือกลงทุนในสินค้าชนิดใหม่ ๆ
ต่อไปนี้คือ 5 วิธีที่เป็นไปได้ในการวางแผนการเงินและเลือกรุปแบบการลงทุนเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ
1. การลงทุนในทองคำ
เมื่อพูดถึงการลงทุนในช่วงเงินเฟ้อ ทางเลือกหนึ่งคือการลงทุนในทองคำ ทองคำมีประวัติอันยาวนานในการเป็นสินค้าที่มีค่า และมูลค่าของมันมักจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เงินเฟ้อ ทองคำสามารถซื้อได้ในรูปแบบต่างๆ เช่น เหรียญ แท่ง หรือเป็นทองรูปพรรณ
นอกจากนี้ ยังสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีทองคำเป็นหลักทรัพย์สนับสนุน หรือเทรดราคาทองโดยไม่ต้องครอบครองทองคำจริง ๆ เพื่อตัดปัญหาเรื่องความปลอดภัยออกไป หากคุณกำลังมองหาวิธีที่สร้างสรรค์มากขึ้นในการลงทุนในทองคำ คุณอาจลองซื้องานศิลปะหรือวัตถุโบราณที่ทำจากทองคำ การลงทุนประเภทนี้สามารถให้ทั้งมูลค่าทางการเงินและความสวยงาม
2. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
มีวิธีการลงทุนที่สร้างสรรค์มากมายในช่วงเงินเฟ้อ แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดวิธีหนึ่งคือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์เป็นตัวป้องกันเงินเฟ้อที่ดีเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา
ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูง มูลค่าอสังหาริมทรัพย์มักจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าสินทรัพย์อื่นๆ เนื่องจากความต้องการพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นและอุปทานที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปกป้องความมั่งคั่งจากภาวะเงินเฟ้อ

บางท่านอาจเลือกลงทุนใน REIT หรือ TRUST แทนการเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์แล้วมาดูแลจัดการเอง โดยกองทุนทั้งสองข้างต้น จะคล้ายกับกองทุนรวม มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันที่กองทุน REIT หรือ TRUST จะมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์เท่านั้น คุณจะได้รับผลตอบแทนตามรอบอย่างสม่ำเสมอตราบเท่าที่ยังถือครองอยู่
3. การซื้อโลหะมีค่า
โลหะมีค่าเป็นการลงทุนที่ดีในช่วงเงินเฟ้อ เนื่องจากราคาของโลหะมีค่าค่อนข้างอ่อนไหวต่อภาวะเงินเฟ้อ และการเคลื่อนที่ของราครมักจะสวนทางกับบรรดาสินค้าเทียบเท่าเงินสด เช่น ทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน
อย่างไรก็ดี โลหะมีค่าเป็นสินทรัพย์ที่เป็นเอกเทศจากตลาดหรือหน่วยงานของรัฐใด ๆ จึงมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียการลงทุนได้มากกว่า หกาลงทุนอย่างผิดวิธีหรือไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงก่อน
4. การลงทุนด้านพลังงาน
ปัจจัยสำคัญที่เร่งมห้ต้นทุนของผู้ผลิตเพิ่มขึ้นคือต้นทุนด้านพลังงาน น้ำมันและก๊าซเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก
การลงทุนด้านพลังงานสามารถป้องกันอัตราเงินเฟ้อได้เนื่องจากราคาพลังงานมักจะสูงขึ้นเมื่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น การลงทุนในพลังงานยังสามารถป้องกันความเสี่ยงจากช่วงเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากความต้องการพลังงานมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ
ตัวอย่างของการลงทุนด้านพลังงาน เช่น หุ้นน้ำมันและก๊าซ กองทุนรวมที่เน้นบริษัทพลังงาน และกองทุน ETF ที่ติดตามราคาน้ำมันและก๊าซ นอกจากนี้ยังมีหลายวิธีในการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม การลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนสามารถให้ทั้งการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและช่องทางในการทำกำไรจากความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้น
ถ้าคุณเทรดหรือลงทุนในสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงาน ก็จะเป็นช่วงโอกาสที่ดีที่จะได้รับมูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการของผู้บริโภค
5. ทยอยสะสมหุ้นคุณค่า
ดังที่กล่าวไปในขั้นต้นว่า เมื่อเข้าสู่ยุคเงินเฟ้อ FED มักขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อกำราบเงินเฟ้อ ดังนั้นเวลานี้หุ้นมักจะราคาตกเพราะไม่เป็นที่ต้องการ
ในเวลาเดียวกันนี้ ช่วงตลาดซบเซาคือโอกาสของคนที่มองเห็นเพชรดี ให้ความสนใจหุ้นของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค ทยอยสะสมไว้ในพอร์ตในช่วงที่ราคาลง เมื่อตลาดกลับคืนสู่สภาวะปกติก็สามารถขายทำกำพไรได้ในอัตราที่สูงกว่า หรือหากยังไม่ขาย ก็สะสมทบต้นไปเรื่อย ๆ เพื่อสร้างมูลค่าระยะยาวให้ต่อพอร์ตการลงทุน
บทส่งท้าย
ดัชนี CPI คือหนึ่งในเครื่องมือที่มีคุณค่าในการทำความเข้าใจภาวะเศรษฐกิจของประเทศและผลกระทบต่อการลงทุน ในช่วงเวลาแห่งภาวะเงินเฟ้อ วิธีที่สร้างสรรค์ในการลงทุนสามารถช่วยปกป้องความมั่งคั่งจากการถูกกัดกร่อนโดยราคาที่สูงขึ้น ตั้งแต่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไปจนถึงหุ้นและพันธบัตร มีกลยุทธ์มากมายที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเงินในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูง ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบ คุณจะสามารถเติบโตและรักษาเงินได้แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ปั่นป่วน
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!