โอกาสการลงทุนหลังเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อต้น พ.ย. 2567 ล่าสุดที่ผ่านมานี้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อตลาดการเงินอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะภูมิทัศน์การลงทุนหุ้นต่างประเทศ ส่งผลให้เทรดเดอร์มองหาวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากภูมิทัศน์ทางการเมืองโดยปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่หรือแม้แต่ผู้เริ่มต้นยังลังเลว่าจะลงทุนอะไรดี บทความนี้คือไกด์นำทาง
ในบทความการเงินการลงทุนของ TOPONE Markets ในครั้งนี้ เราจะมาสำรวจกันว่าผลการเลือกตั้งอเมริกาล่าสุดสามารถส่งผลต่อทิศทางการลงทุนและสินทรัพย์การลงทุนหลัก ๆ เช่น หุ้นสหรัฐฯ ดัชนีหุ้น ทองคำ คู่เงิน Forex และสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างไรบ้าง โดยจะสำรวจทีละชนิดของสินทรัพย์ พร้อมมุมมองพื้นฐานที่จะำนางการตัดสินใจให้แก่คุณ
ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์หรือมือใหม่ที่หาช่องทางว่าจะลงทุนอะไรดี การทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนอย่างรอบรู้ในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของโลกการเงิน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: นโยบายที่เปลี่ยน ผลกระทบต่อตลาด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักเป็นตลาดแรก ๆ ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้นำทางการเมือง ผลการเลือกตั้งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงิน กรอบการกำกับดูแล และลำดับความสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถส่งผลกระทบต่อรายได้ขององค์กรและมูลค่าของการลงทุนหุ้นต่างประเทศได้
บทความที่คุณอาจสนใจ
ผลกระทบของการเลือกตั้งต่อตลาดหุ้น
นโยบายภาษีขององค์กร: การเปลี่ยนแปลงในฝ่ายบริหารมักส่งผลให้มีการปรับอัตราภาษีขององค์กร การลดภาษีสามารถกระตุ้นการเติบโตได้โดยการเพิ่มรายได้ที่สามารถใช้จ่ายได้สำหรับธุรกิจ ขณะที่ภาษีที่สูงขึ้นอาจนำไปสู่ผลกำไรที่ลดลง ด้วยจุดยืนของรัฐบาลประธานาธิบดีชุดใหม่เกี่ยวกับภาษีขององค์กร อุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากภาษีที่ลดลง เช่น เทคโนโลยีหรือสินค้าฟุ่มเฟือยสำหรับผู้บริโภค อาจเห็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
โครงสร้างพื้นฐานและโครงการพลังงานสีเขียว: ด้วยการที่รัฐบาลชุดใหม่เน้นที่การใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การก่อสร้าง วัสดุ และพลังงานสะอาด อาจประสบกับการลงทุนที่เพิ่มขึ้น บริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) พลังงานหมุนเวียน และโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ อาจเห็นแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง
เทคโนโลยีและการดูแลสุขภาพ: หุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะผู้เล่นรายใหญ่ เช่น Apple, Microsoft และ Alphabet มักจะได้รับประโยชน์จากนโยบายที่ส่งเสริมนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ในทำนองเดียวกัน หุ้นด้านการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพและเภสัชกรรม อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบหรือแนวนโยบายด้านสุขภาพ
หุ้นเชิงกลยุทธ์ที่เลือกหลังการเลือกตั้ง
หุ้นเติบโต: หากผลการเลือกตั้งส่งสัญญาณถึงการผลักดันนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล หุ้นเทคโนโลยีอาจทำผลงานได้ดีกว่า
หุ้นมูลค่า: ในกรณีที่รัฐบาลมีจุดยืนแบบดั้งเดิมที่สนับสนุนธุรกิจ หุ้นมูลค่าในภาคพลังงาน อุตสาหกรรม และการเงินอาจฟื้นตัว
หุ้นปันผล: เทรดเดอร์ที่ต้องการความมั่นคงอาจเอนเอียงไปในหุ้นที่จ่ายปันผล โดยเฉพาะในกลุ่มสาธารณูปโภค การดูแลสุขภาพ และสินค้าอุปโภคบริโภค
บทความที่คุณอาจสนใจ
ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ: สะท้อนตลาดหลังผลเลือกตั้ง

การลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ช่วยในการกระจายความเสี่ยงไปยังหลากหลายอุตสาหกรรม และผลงานของดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างดัชนี S&P 500 ดัชนี NASDAQ และดัชนี Dow Jones มักสะท้อนถึงความรู้สึกของตลาดโดยรวมที่ตอบสนองต่อผลการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งส่งผลต่อดัชนีหลักอย่างไร:
S&P 500: ดัชนีอ้างอิงนี้ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 500 ตัวและทำหน้าที่เป็นเครื่องวัดสุขภาพโดยรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง S&P 500 อาจพบความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะสั้นเนื่องจากตลาดตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบาย อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ดัชนีมีแนวโน้มที่จะคงที่เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดปรับตัวเข้ากับเงื่อนไขทางการเงินและการคลังใหม่
NASDAQ: ดัชนี NASDAQ มีน้ำหนักมากในหุ้นเทคโนโลยี ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านกฎระเบียบหรือภาษีใด ๆ ที่มุ่งเป้าไปที่ภาคเทคโนโลยีจะส่งผลกระทบต่อดัชนีนี้อย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดัชนี NASDAQ จึงมักขึ้นนำตลาดหลังจากมีนโยบายที่เอื้อต่อธุรกิจ
ดัชนี Dow Jones: ดัชนี Dow เน้นที่อุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค และการเงิน ซึ่งช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่าสภาพแวดล้อมทางการเมืองส่งผลกระทบต่อรายได้ขององค์กรในอุตสาหกรรมเหล่านี้อย่างไร การเปลี่ยนไปใช้นโยบายที่เอื้อต่อธุรกิจอาจส่งผลดีต่อดัชนี Dow โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนโยบายเหล่านั้นส่งเสริมการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
บทความที่คุณอาจสนใจ
กลยุทธ์การลงทุนสำหรับดัชนี:
กองทุนดัชนีกระจายความเสี่ยง: กองทุน S&P 500 หรือ Total Market ETF ที่มีฐานกว้างสามารถให้การเปิดรับความเสี่ยงที่สมดุลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวม และช่วยป้องกันความเสี่ยงเฉพาะอุตสาหกรรมได้
กองทุน ETF เฉพาะอุตสาหกรรม: หากคุณเชื่อว่าอุตสาหกรรมบางอุตสาหกรรมจะมีผลงานดีกว่าหลังการเลือกตั้ง ให้พิจารณากองทุน ETF ที่เน้นที่อุตสาหกรรมเฉพาะ เช่น เทคโนโลยี (XLK) พลังงานสะอาด (ICLN) หรือการดูแลสุขภาพ (XLV)
ทองคำ: สินทรัพย์ปลอดภัยตลอดกาล ทนทุกสภาวะตลาดและการเมือง

ทองคำได้รับการขนานนามว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองมาช้านาน การเลือกตั้งส่งผลให้การใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลังเปลี่ยนแปลงไป เทรดเดอร์จำนวนมากจึงหันมาใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์สำรอง
บทความที่คุณอาจสนใจ
บทบาทของทองคำในตลาดปีเลือกตั้ง:
การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง แรงกดดันจากเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นหากการใช้จ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านต่าง ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐานหรือสวัสดิการสังคม ในอดีต ทองคำถือเป็นสินทรัพย์สำรองในช่วงที่มีเงินเฟ้อ
ค่าเงินอ่อนค่าลง: หากผลการเลือกตั้งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง (เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินหรือการกระตุ้นทางการคลัง) ทองคำมักจะได้รับประโยชน์เนื่องจากมีราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ การลดลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มักจะทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น เนื่องจากโลหะมีค่าจะมีราคาถูกลงสำหรับเทรดเดอร์ต่างชาติ
ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์: การเลือกตั้งอเมริกาล่าสุดอาจเพิ่มความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศ บทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์สำรองหมายความว่าทองคำมีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนในบริบทของการลงทุนหุ้นต่างประเทศ
วิธีลงทุนในทองคำ:
กองทุน ETF ทองคำ: สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าถึงทองคำได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องถือครองโลหะจริง กองทุน ETF ที่ได้รับการหนุนหลังด้วยทองคำ เช่น SPDR Gold Shares (GLD) ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยม
หุ้นเหมืองทองคำ: เทรดเดอร์อาจพิจารณาหุ้นเหมืองทองคำ ซึ่งมักจะให้ผลตอบแทนดีกว่าสินค้าโภคภัณฑ์จริงในสภาพแวดล้อมที่ราคาทองคำสูงขึ้น
บทความที่คุณอาจสนใจ
คู่เงิน Forex: จับตาทิศทางความแข็งแกร่งหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีความอ่อนไหวต่อเหตุการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างมาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดที่เป็นที่จับตาไปทั่วโลกและอิทธิพลของสหรัฐฯ ต่อนานาประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนที่ผกผันกับค่าเงิน USD อาจผันผวนอย่างมากขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดพยายามคาดการณ์ว่านโยบายใหม่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง
ปฏิกิริยาของตลาด Forex ต่อการเลือกตั้ง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าหรืออ่อนค่า: ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งและจุดยืนของรัฐบาลในอนาคตเกี่ยวกับการค้า ภาษีศุลกากร และนโยบายการคลัง ดอลลาร์สหรัฐ (USD) อาจแข็งค่าหรืออ่อนค่าลง รัฐบาลที่สนับสนุนธุรกิจและเป็นมิตรต่อการค้ามักจะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในขณะที่นโยบายที่มองว่าไม่เอื้อต่อการค้าโลกอาจทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง
ผลกระทบทั่วโลก: การเลือกตั้งที่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญอาจทำให้ตลาดสกุลเงินตอบสนองไม่เพียงแค่ต่อการเคลื่อนไหวของดอลลาร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรับรู้ผลกระทบที่มีต่อตลาดเกิดใหม่หรือเศรษฐกิจโลกด้วย เช่น หากการเลือกตั้งส่งผลให้สหรัฐฯ มีแนวทางที่แยกตัวมากขึ้น สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ (เช่น เปโซเม็กซิโกหรือหยวนจีน) อาจได้รับผลกระทบ
กลยุทธ์การเทรด Forex หลังการเลือกตั้ง:
การซื้อ USD: หากการเลือกตั้งส่งสัญญาณถึงนโยบายเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยซึ่งอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เทรดเดอร์อาจต้องการซื้อดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่อ่อนค่าลง
การขาย USD: หากนโยบายบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงหรือสงครามการค้า กลยุทธ์การขาย USD เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ เช่น EUR หรือ JPY อาจเป็นทางเลือกที่รอบคอบ
Cryptocurrencies: A New Asset Class for Election-Driven Volatility
สกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะ Bitcoin และ Ethereum ได้รับความสนใจอย่างมากในฐานะทางเลือกในการจัดเก็บมูลค่าและป้องกันความเสี่ยงจากตลาดแบบดั้งเดิม ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดสามารถส่งผลต่อตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้โดยการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ นโยบายการเงิน หรือความรู้สึกของตลาดโดยรวม
การตอบสนองของตลาดสกุลเงินดิจิทัลต่อการเลือกตั้ง
ความไม่แน่นอนของกฎระเบียบ: ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้ง กฎระเบียบหรือข้อเสนอใหม่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอาจส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัล รัฐบาลที่นำเทคโนโลยีบล็อคเชนและสกุลเงินดิจิทัลมาใช้อาจส่งผลให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีทิศทางขาขึ้น ในขณะที่กฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้นอาจส่งผลตรงกันข้าม
การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: เนื่องจากความกลัวต่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล เทรดเดอร์อาจแห่กันมาที่ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นที่เก็บมูลค่า ซึ่งคล้ายกับที่พวกเขาหันไปหาทองคำ
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง: ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อายุน้อยกว่าและเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอาจผลักดันนโยบายที่ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมบล็อคเชน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อสกุลเงินดิจิทัล ในทางกลับกัน แนวทางที่อนุรักษ์นิยมมากขึ้นอาจจำกัดนวัตกรรมด้านสกุลเงินดิจิทัล
วิธีการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล:
Bitcoin (BTC): มักถูกมองว่าเป็นมาตรฐานทองคำของสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin อาจได้รับประโยชน์จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เกิดจากการเลือกตั้ง
Ethereum (ETH): Ethereum พร้อมด้วยแอปพลิเคชันการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ที่ใช้บล็อคเชน อาจได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนนวัตกรรมดิจิทัล
กองทุน ETF สกุลเงินดิจิทัล: สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเปิดรับความเสี่ยงโดยไม่ต้องถือสกุลเงินดิจิทัลโดยตรง กองทุน ETF เช่น Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) หรือกองทุนที่เน้นสกุลเงินดิจิทัลเป็นช่องทางในการมีส่วนร่วมในตลาด
บทความที่คุณอาจสนใจ
บทส่งท้าย: คว้าโอกาสการลงทุนหลังผลเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ผ่านพ้นไปเมื่อ 5 พ.ย. 2567 และโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับตำแหน่งเป็นสมัยที่สองนั้นมีผลกระทบต่อสินทรัพย์หลากหลายประเภท ตั้งแต่หุ้นและดัชนีไปจนถึงทองคำ Forex และสกุลเงินดิจิทัล การทำความเข้าใจถึงอิทธิพลที่อาจเกิดขึ้นของการเลือกตั้งที่มีต่อตลาดเหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางตำแหน่งตัวเองให้เติบโตในระยะยาวได้ในขณะที่สามารถบริหารความเสี่ยงได้
ในท้ายที่สุด การลงทุนหุ้นต่างประเทศหรือสินทรัพย์การเงินใด ๆ ที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการรับทราบข้อมูลและปรับกลยุทธ์ตามการพัฒนาทางการเมืองและเศรษฐกิจ ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้อง คุณสามารถนำทางภูมิทัศน์หลังการเลือกตั้งของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ได้ และอาจใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในสินทรัพย์หลายประเภทได้
บทความที่กำลังมาแรง
- รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร 2023-11-15
- 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023 2024-01-30
- ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024 2024-08-07
โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!