ไทย
เช็กลิสต์ค่าลดหย่อน 2566 เซฟภาษีมีเงินลงทุน
เรื่องภาษี เป็นเรื่องที่ต้องจัดการให้ดีตลอดปี ท่ามกลางความรับผิดชอบมากมายที่บุคคลและธุรกิจต้องดำเนินการ การดูแลให้กระบวนการยื่นภาษีที่ราบรื่นยังคงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรีบร้อนหรือพะวงในช่วงปลายเดือนธันวาคม
ในบทความการลงทุนของ TOPONE Markets นี้ เราจะให้ความกระจ่างเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดภาษีโดยเน้นการวางแผนและการเตรียมค่าลดหย่อนตลอดทั้งปีอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้คุณเพิ่มศักยภาพในการออมของตนให้สูงสุดตามที่กฎหมายเอื้ออำนวย นอกจากนี้ การตระหนักรู้เกี่ยวกับการหักเงินที่มีอยู่ในประเทศไทยยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับบุคคลและบริษัทต่าง ๆ ในการตัดสินใจทางการเงินโดยอาศัยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพทางการเงินโดยรวมตลอดทั้งปี
วางแผนภาษีดี มีค่าลดหย่อน ไม่ต้องปวดหัว
การวางแผนและการจัดระเบียบที่พิถีพิถันเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้กระบวนการจัดเตรียมค่าลดหย่อนให้เป็นไปได้อย่างราบรื่น ไม่ขาดสภาพคล่องในระหว่างปี และได้เงินภาษีคืนกลับมาใช้ต่อยอดการลงทุนที่ท้าทายยิ่งขึ้น
การวางแผนลดหย่อนภาษี 2566 บุคคลธรรมดาควรทำตั้งแต่วันแรกของปี ทำระหว่างปี ทบทวนความเหมาะสม สภาพการเงินระหว่างนั้น และเพิ่มหรือลดค่าลดหย่อนภาษีเพื่อให้เกิดสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างถึงที่สุด ลองพิจารณา 4 ขั้นตอนวางแผนภาษีและปรับใช้กับเงื่อนไขของคุณดู
ประมาณการณ์รายได้
ท่านที่ทำงานประจำอาจไม่ต้องกังวลข้อนี้มากนัก เนื่องจากเงินเดือนที่ขึ้นแต่ละปีและโบนัสนั้นไม่ค่อยแปรผันมากเท่ากับผู้ที่ทำงานอิสระ
ท่านที่ทำงานประจำ อาจคิดรายได้ออกมาเป็น 14 หรือ 15 เดือน (รวมส่วนที่เป็นเงินโบนัส) ลงใน MS Excel อย่างง่าย ๆ ส่วนผู้ที่รับงานฟรีแลนซ์ เมื่อได้รับค่าจ้างแล้ว ก็อย่าลืมลงรายการเงินได้ จัดเก็บหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ให้เรียบร้อย
ตรวจสอบค่าลดหย่อนพื้นฐานบุคคลธรรมดา
ผู้เสียภาษีทุกท่าน จะได้รับการยกเว้นดังนี้
หักลดหย่อน 100,000 บาทแรก
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 60,000 บาท
บิดา มารดา ทั้งของตนเองและคู่สมรส
บุตรทางสายเลือกและบุตรบุญธรรมที่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง
ตรวจสอบค่าลดหย่อนเกี่ยวกับครอบครัวที่เป็นปัจจุบันได้จากกรรมสรรพากร
ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามมาตรการส่งเสริมให้เต็มที่
เช่น ในปี 2566 มีมาตรการช้อปดีมีคืน สามารถลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้สูงสุด 40,000 บาท
ติดตามกิจกรรมส่งเสริมลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาที่ออกโดยภาครัฐ และพิจารณาข้อกำหนด และข้อยกเว้นเพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์และไม่ใช้เกินสิทธิ์จนกลายเป็นค่าปรับ
มองหาตัวช่วยลดหย่อนภาษี
เพิ่มโอกาสของการลดหย่อนภาษีให้มากขึ้นจากค่าลดหย่อนพื้นฐาน เช่น เงินลงทุนเพื่อการเกษียณ ประกันชีวิต และ/หรือประกันสุขภาพ
ตรวจสอบสิทธิ์และเงื่อนไขอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ซื้อเกินสิทธิ์จนเกิดเป็นค่าปรับ
ข้อสำคัญของการวางแผนภาษีคือ ไม่สร้างภาระด้านค่าใช้จ่ายทางภาษี ด้วยการวางแผนลดหย่อนภาษีที่ดีระหว่างปี คุณจะรู้สิทธิ์ตนเอง เพิ่มโอกาสของการลดหย่อน มีเงินคืนกลับมาได้มากที่สุดเท่าที่จะเป้นไปได้ และอย่าลืมวางแผนสภาพคล่อง มีเงินสดติดบ้านไว้ในยามฉุกเฉิน
เช็กลิสต์ค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2566
ตรวจสอบรายการค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้แต่เนิ่น ๆ และจัดสรรเงินทุนในแต่ละเดือนหรือระยะเวลาที่เหมาะสมกับตนเองผ่านการ DCA (Dollar Cost Average) ไปยังกองทุนรวมตลาดเงินที่มีความเสี่ยงต่ำเงินต้นปลอดภัยมากกว่า หรือเงินฝากปลอดภาษี จะช่วยเพิ่มวินัยการออม และมีมั่นใจได้ว่าจะมีสภาพคล่องตลอดปี ในขณะที่ไม่จ่ายภาษีขาดหรือเกิน
ต่อไปนี้เป็นรายการค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2566 และใช้เช็กลิสต์นี้เป็นกนกลางวางแผนภาษีปี 2567 และปีต่อ ๆ ไป
ค่าลดหย่อนส่วนตัว
หักค่าลดหย่อนได้ทุกคนตั้งแต่ 100,000 บาทแรก และค่ใช้จ่ายส่วนตัว 60,000 บาท เป็นสิทธิพื้นฐานของบุคคลธรรมดาที่สามารถนำมาลดหย่อนได้ทันที
ค่าลดหย่อนคู่สมรส
ลดหย่อนได้ 60,000 บาท ซึ่งคู่สมรสต้องไม่มีรายได้ และจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย หากคู่สมรสมีรายได้ต้องพิจารณาว่า ต้องการยื่นรายได้รวมกันหรือแยกกัน แล้วเลือกวิธีที่เสียภาษีน้อยกว่า
ค่าลดหย่อนบุตร
บุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้มีเงินได้ ต้องอายุไม่เกิน 20 ปี หรืออายุ 21-25 ปีที่กำลังศึกษากำลังศึกษาในระดับอนุปริญญา (ปวส.) ขึ้นไป
บุตรที่เกิดก่อนปี 2561 หักค่าลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท
บุตรที่เกิดหลังปี 2561 คนแรกหักค่าลดหย่อนได้ 30,000 บาท คนที่ 2 เป็นต้นไปหักค่าลดหย่อนภาษีได้คนละ 60,000 บาท
ใช้ลดหย่อนได้ตามจำนวนบุตรจริง
บุตรที่นำมาใช้สิทธิจะต้องมีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท/ปี
บุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมถูกต้องตามกฎหมาย
หักค่าลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 3 คน
หากมีบุตรชอบด้วยกฎหมายด้วย จะต้องใช้และนับสิทธิก่อน หากใช้ครบแล้ว 3 คน จะไม่สามารถใช้สิทธิบุตรบุญธรรมได้อีก
บุตรบุญธรรมที่นำมาใช้สิทธิจะต้องมีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท/ปี
ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร หักได้ตามจริงที่จ่ายให้สถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชน สูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท/การตั้งครรภ์ หากเป็นครรภ์ฝาแฝดจะนับเป็น 1 การตั้งครรภ์
ค่าลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา
บิดาและ/หรือมาดา ต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทในปีภาษีนั้น หักค่าลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท
สามารถหักลดหย่อนได้ทั้งของตนเองและของคู่สมรส รวมสูงสุด 4 คน
พี่หรือน้องคนใดคนหนึ่ง ใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้เพียงคนเดียว
ไม่สามารถลดหย่อนบิดามารดาทางสายเลือดของบุตรบุญธรรมในอุปการะได้
ค่าลดหย่อนอุปการะผู้ทุพพลภาพ
ต้องมีบัตรประจำตัวผู้พิการ และต้องมีหนังสือรับรองการเป็นผู้อุปการะของผู้มีรายได้ หักค่าลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
ผู้พิการจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทในปีภาษีนั้น
ในกรณีที่ผู้ทุพพลภาพเป็นบิดา มารดา ทั้งของตนหรือคู่สมรส คู่สมรส หรือบุตรของผู้มีเงินได้ จะสามารถใช้สิทธิได้ทั้ง 2 ส่วน และไม่จำกัดจำนวนคน
ในกรณีที่ผู้ทุพพลภาพมิได้เป็นบิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้มีเงินได้ จะสามารถใช้สิทธิได้เพียง 1 คน
ดอกเบี้ยบ้าน ลดหย่อนได้ตามจริง ไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขดังนี้
ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อบ้าน คอนโดมิเนียม หรือที่อยู่อาศัยที่ตนอยู่อาศัย
ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่บนที่ดินของตนเอง
ต้องเป็นการกู้ยืมจากสถาบันการเงินภายในประเทศ
กรณีกู้สำหรับที่อยู่อาศัยมากกว่า 1 แห่ง สามารถรวมกันได้ ไม่เกิน 100,000 บาท
กรณีมีผู้กู้ร่วม ให้แบ่งดอกเบี้ยคนละเท่า ๆ กัน
เงินลงทุนธุรกิจวิสาหกิจเพื่อสังคม
ใช้สิทธิ์ได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 100,000 บาท
เป็นการลงทุนหรือลงหุ้นในธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมภายในข้อกำหนดของ พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562
กรณีเป็นการลงทุนในหุ้นของวิสาหกิจ จึงต้องถือหุ้นจนกว่าวิสาหกิจเพื่อสังคมนั้น ๆ จะเลิกกิจการ
เงินสมทบประกันสังคม
สูงสุด 9,000 บาท
หากมีรายได้มากกว่า 1 บริษัท สามารถใช้สิทธิ์ได้เพียง 1 ที่ ส่วนที่เกิน สามารถทำเรื่องขอคืนได้ ประมาณกลางปีของปีภาษีถัดไป
เงินจ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
ใช้สิทธิ์ได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน
ต้องไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับการลงทุนเพื่อการเกษียณทุกประเภท
เงินบริจาค
ใช้สิทธิ์ได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้สุทธิ
เงินบริภาคในรูปแบบ E-Donation ลดหย่อนได้ 2 เท่า แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้สุทธิ ได้แก่ สถานศึกษา ทั้งของรัฐและเอกชนสถานพยาบาลของรัฐบาล
ช้อปดีมีคืน (1 ม.ค. - 15 ก.พ. 66)
มีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปจากซื้อสินค้าและบริการจากห้างร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หนังสือ (รวม e-book) และสินค้า OTOP ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชนแล้ว ลดหย่อนได้ 30,000 บาท
หากมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ สามารถลดหย่อนเพิ่มได้อีก 10,000 บาท รวมสูงสุด 40,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม
วิธีเพิ่มเงินลดหย่อนภาษี
จะดีแค่ไหน หากว่าเงินจำนวนที่จะต้องจ่ายภาษีไปเปล่า ๆ จะสร้างประโยชน์ได้มากกว่านั้น ด้วยการคิดวางแผนภาษีอย่างรอบคอบ คุณคือฮีโร่ตัวจริงของประเทศที่จะลดภาระของรัฐบาลในภายภาคหน้า ด้วยการสร้างหลักประกันทางสุขภาพให้กับตนเอง ผ่านการลงทุนเพื่อการเกษียณเพิ่มเติม
กองทุน SSF
การลงทุนในกองทุน SSF เป็นโอกาสพิเศษที่ช่วยให้คุณสามารถลงทุนในสินทรัพย์ทั้งในประเทศในต่างประเทศพร้อมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเท่าจำนวนที่ซื้อกองทุน
กองทุน SSF เพิ่มโอกาสของผลตอบแทนระหว่างทาง โดยมีให้เลือกทั้งกองทุนปันผลและไม่ปันผล ลงทุนในสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ กำหนดระยะเวลาถือครองเพียง 10 ปี แบบวันชนวัน ให้ความยืดหยุ่นและทางเลือกมากกว่ากองทุน RMF ที่มีมาก่อนหน้า
กองทุน SSF กำหนดเพดานของการลงทุนไม่เกิน 200,000 บาท และไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน ท่านที่ซื้อกองทุนแล้ว อย่าลืมแจ้งความจำนงค์ในการเปิดเผยข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนต่อ บ.ล.จ. เพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุน SSF ที่นี่
กองทุน RMF
การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มอบสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การให้เงินกองทุนส่วนบุคคลรายปีจำนวน 500,000 บาท หักจากรายได้ประเมินหากถือครองมากกว่า 5 ปี ซึ่งนำไปสู่ความมั่นคงในทางเลือกการลงทุน ในขณะเดียวกันก็ช่วยอำนวยความสะดวกในการวางแผนทางการเงินในระยะยาว
ท่านที่ซื้อกองทุนแล้ว อย่าลืมแจ้งความจำนงค์ในการเปิดเผยข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนต่อ บ.ล.จ. เพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุน RMF ที่นี่
กองทุน Thai ESG
การตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนจะเป็นประโยชน์เมื่อพิจารณาการลงทุนลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาภายใต้โครงการริเริ่มการจัดการสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลของไทย (ESG) การลงทุนเหล่านี้ให้ผลประโยชน์ที่สำคัญ เช่น ความร่วมมือด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร
ปี 2566 เป็นปีแรกที่มีการออกกองทุน Thai ESG มา ซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 100,000 บาท ที่สำคัญคือไม่รวมกับกองทุนรวมหรือการลงทุนเพื่อการเกษียณที่มีอยู่ก่อนหน้า
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุน Thai ESG ที่นี่
ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ 10 ปีขึ้นไป และ/หรือประกันชีวิตแบบบำนาญ
ค่าเบี้ยประกันชีวิตสะสมทรัพย์ระยะเวลา 10 ปีขึ้นไปนี้ สามารถลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุด 100,000 บาท หรือหากเป็นแบบมีเงินคืนระหว่างปีด้วย เงินคืนจำนวนนั้นจะต้องไม่เกิน 20% ของค่าเบี้ยประกันภัย
หากคุณชำระเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญด้วย สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน
แต่หากไม่มีประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ก็สามารถลดหย่อนได้เพิ่มอีก 100,000 รวมลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 เป็นต้นมา ภายหลังซื้อประกันแล้ว หรือท่านที่มีประกันอยู่แล้ว อย่าลืมแจ้งกับบริษัทประกันภัยในการแสดงความจำนงค์เปิดเผยข้อมูลการชำระเบี้ยต่อกรรมสรรพากร ไม่เช่นนั้น ท่านจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้
ประกันสุขภาพ
ใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับประกันชีวิตแบบที่เอาประกัน 10 ปีขึ้นไป จะต้องไม่เกิน 100,000 บาท
หมายความว่า หากใช้สิทธิ์ประกันชีวิตแบบระยะเวลาเอาประกัน 10 ปีขึ้นไป เพียงอย่างเดียว ก็สามารถหักลดหย่อยได้สูงสุดถึง 100,000 บาท แต่หากมีทั้งสองแบบ ควรวางแผนใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพให้เต็มที่ก่อน แล้วจึงใช้สิทธิ์ของประกันชีวิตแบบระยะเวลาเอาประกัน 10 ปีขึ้นไป
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 เป็นต้นมา ภายหลังซื้อประกันแล้ว หรือท่านที่มีประกันอยู่แล้ว อย่าลืมแจ้งกับบริษัทประกันภัยในการแสดงความจำนงค์เปิดเผยข้อมูลการชำระเบี้ยต่อกรรมสรรพากร ไม่เช่นนั้น ท่านจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้
รายการลดหย่อนภาษีเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือชี้แนะที่ช่วยให้มั่นใจว่าเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดได้รับการรวบรวมและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนยื่นภาษีประจำปี ภายในกรอบของการเตรียมการอย่างพิถีพิถันคุณจะได้รับประโยชน์จากตัวเลือกลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามเงื่อนไขของตน
เซฟภาษีได้ มีเงินลงทุนเพิ่ม
ด้วยการวางแผนภาษีแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่ต้นปี จะช่วยให้คุณทราบรายจ่ายคงที่ด้านภาษีนี้ ตอนนี้คุณพอจะนึกภาพออกแล้วว่า มีรายการประหยัดภาษีใดบ้างที่เราสามารถปรับแต่งได้ตามใจตามความผันแปรของรายได้
ค่าลดหย่อนภาษีพื้นฐาน ได้แก่ ส่วนที่เป็นตนเองและครอบครัว และบางส่วนทชที่เราไม่สามารถกำหนดได้ เช่น เงินสมทบประกันสังคม เงินสมทบกองทุนสำหรองเลี้ยงชีพ และเบี้ยประกัน (กรณีเป้นการชำระเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป) ดังนั้น เมื่อคำนวณรายการเหล่านี้แล้ว คุณยังสามารถเพิ่มการลดหย่อนได้อีกเท่าไร ให้ไปซื้อกองทุน SSF หรือกองทุน RMF หรือ Thai ESG เพิ่มการลดหย่อน และหากยังมีส่วนที่ต้องเสียภาษีอยู่อีก อาจพิจารณาเพิ่มการบริจาคหน่วยงานสาธารณกุศลเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน
ด้วยการใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์เหล่านี้อย่างมีประสิทธิผล คุณจะได้ทำหน้าที่พลเมืองที่มีความรับผิดชอบ ในขณะที่ยังสามารถประหยัดเงินภาษีได้อีกจำนวนมาก มีเงินเหลือกลับมาต่อยอดการลงทุนอื่น ๆ ที่ท้ายยิ่งขึ้นได้
โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!
