กองทุน RMF คืออะไร ลดหย่อนภาษี 2565 มาทางนี้!

เมื่อถึงช่วงปลายปีที่ไร คนทำงานทุกคนต่างก็สาละวนอยู่กับการเช็กดูว่าปีนี้ตัวเองมีรายได้เท่าไร ต้องจ่ายภาษีเท่าไร นับว่าช่วงธันวาคมถึงเมษายนปีถัดไป เป็นช่วงที่ยุ่งสุด ๆ ช่วงหนึ่งงของคนทำงานเลยก็ว่าได้ ยิ่งหากมีตำแหน่งสูง ๆ รายได้สูง ๆ หรือรายได้จากหลายทางด้วยแล้ว ก็มีภาระภาษีเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี การจ่ายภาษีจะไม่สูญเปล่า หากคุณมีการวางแผนการเงินที่ดี และใช้ตัวช่วยลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน RMF ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้

กองทุน RMF คืออะไร

กองทุน RMF เป็นชื่อย่อของ Retirement Mutual Fund คือกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่ให้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี เช่นเดียวกับกองทุนรองสำรองเลี้ยงชีพของมนุษย์เงินเดือนหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ มีวัตถุประสงค์หลักคือการออมไว้ใช้จ่านยามเกษียณ ดังนั้นจึงกำหนดอายุของเงินลงทุนและมีเงื่อนไขการลงทุนที่ควรศึกษาและวางแผนไว้แต่เนิ่น ๆ

กองทุน RMF คือกองทุนเพื่อการลดหย่อนภาษีที่คนที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีทุกคนควรทำความรู้จักและให้ความสนใจ เพราะนอกจากสิทธิประโยชน์ใการลดหย่อนภาษีแล้ว กองทุน RMF ยังช่วยสร้างเส้นทางสู่เป้าหมายทางการเงินยามเกษียณอีกด้วย

ทางเลือกประหยัดภาษีอื่น ๆ มีอะไรบ้าง

นอกเหนือจากกองทุน RMF แล้ว ยังมีทางเลือกเพื่อประหยัดภาษีอีกมากมาย โดยแต่ละวิธีการก็มีเกณฑ์แตกต่างกันออกไป โดยที่เมื่อนำเงินลงทุนในส่วนที่เป็น “การออมเพื่อเกษียณ” เข้าด้วยกันแล้ว จะต้องไม่เกินจำนวนเงิน 500,000 บาท (สำหรับปีภาษี 2565)

เมื่อถึงหน้ากรอกค่าลดหย่อน รายการเงินลงทุนในช่องทางต่าง ๆ นอกเหนือจากกองทุน RMF จะถูกบันทึกลงที่นี่

• ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

• กองทุนรวม SSF

• กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

• กองทุนบำเหน็ดบำนาญข้าราชการ

• กองทุนการออมแห่งชาติ

• กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน

กองทุน RMF มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง

อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขของการซื้อกองทุนรวม RMF ซึ่งจะมีเกณฑ์ว่า แต่ละประเภทการลงทุน สามารถซ้อได้ไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อรวมแล้วไม่เกินกี่บาท 

สำหรับข้อมูลต่อไปนี้ คือเงื่อนไข RMF ที่คุณควรใช้เป็นมาตรฐานนการวางแผนการเงินตลอดปี

• เงื่อนไขการซื้อ: ซื้อต่อเนื่องทุกปี

• เงื่อนไขการขายคืน: ลงทุนมากกว่า 5 ปี และอายุเกิน 55 ปี

• การลงทุนสูงสุด: 15% ของเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 500,000 บาท (เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กบข., ประกันชีวิตชนิดบำนาญ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน)

• การลงทุนขั้นต่ำ: 3% ของเงินได้พึงประเมิน หรือ 5,000 บาท โดยเลือกจำนวนที่ต่ำกว่า

• การนับปี: นับวันชนวันที่ลงทุน ถึงจะคิดเป็น 1 ปี

ถ้าไม่อยากผิดเงื่อนไข RMF ละก็ คุณควรประมาณการณ์รายรับประจำปีออกมาก่อน โดยนำรายได้ต่อเดือน รวมโบนัส รวมเงินพิเศษต่าง ๆ โดยประมาณการเป็นรายได้ขั้นสุด หรืออาจใช้ข้อมูลปีก่อนหน้าเป็นเกณฑ์ จากนั้น ให้ดูที่ตารางฐานภาษีเงนได้บุคคลธรรมดาด้านล่างต่อไปนี้ว่ารายได้เท่านี้ ระดับฐานภาษีอยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์

เมื่อทราบฐานภาษีแล้ว ให้มาวางแผนซื้อกองทุน RMF กองทุน SSF เพื่อเพิ่มการลดหย่อนภาษี

เป็นที่น่าสนใจว่า แม้เงินประกันสังคม และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนครูโรงเรียนเอกชนเหล่านั้นจะใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ แต่คุณก็ไม่สามารถปรับเพิ่มหรือลดจำนวนเงินได้ตามใจเช่นการซื้อกองทุน RMFเนื่องจากว่า รายการลดหย่อนภาษีเหล่านั้นเป็นส่วนที่นายจ้างหักออกจากเงินเดือนที่เท่า ๆ กันทุกเดือน ดังนั้น คุณจึงสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนเงินที่กองทุน RMF เพื่อลดหย่อนภาษีได้เข้ากับตนเองมากขึ้น

วิธีการคือ ตอนนี้คุณทราบแล้วว่า คุณสามารถซื้อ RMF ได้อีกเท่าไร เช่น เมื่อคำนวณแล้วพบวาสามารถซื้อได้อีก 100,000 บาทโดยไม่ผิดเงื่อนไข RMF ที่กำหนดไว้

ให้ทยอยการซื้อกองทุนรวม RMF ด้วยวิธี DCA ออกเป็นเดือน ๆ เป้นอย่างน้อย หรือทุก ๆ ครึ่งเดือนตามแต่ความสะดวก

ด้วยการ DCA กองทุนรวม RMF คุณจึงมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่า ต้นทุนการลงทุนมีค่าเฉลี่ยไปตามราคาตลาด ลองคิดในทางกลับกัน ถ้าคุณซื้อกองทุน RMF ทีเดียวในวันที่ใกล้ ๆ จะยื่นภาษีหรือหมดปี ราคาหุ้นหรือสินทรัพย์การเงินของกองทุน RMF นั้นก็ปรับตัวสูงขึ้น ก็เท่ากับว่าหน่วยลงทุนที่คุณจะได้รับจากมูลค่า 100,000 บาทก็จะสูงกว่าการ DCA กองทุนรวม RMF มาตลอด 12 เดือน

เสียภาษีไหม ถ้าทำผิดเงื่อนไข RMF

ซื้อ RMF เกินเกณฑ์ จะเป็นอะไรไหม

แม้เงื่อนไขของกองทุนรวม RMF จะระบุเป็นอัตราส่วนของเงินได้และจำนวนเงินรวมเมื่อคิดคำนวณกับรายการลงทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ก็ตาม แต่หากสุดท้ายคุณพบว่าตนเองได้ซื้อ RMF เกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ก็ไม่ต้องตกใจไป ขอเพียงอย่าขายหน่วยลงทุนก่อนครบอายุ 55 ปีหรือภายใน 10 ปีหลังจากการเริ่มซื้อเท่านั้นก็พอ

ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากว่าหากคุณทำการขายออกไปก่อนถึงกำหนดเวลาที่ระบุบนเื่อนไข RMF สรรพากรจะมองว่าเป็นการนำเอาผลกำไรที่ได้รับจากการลดหย่อนภาษีกลับคืน นี่เท่ากับว่าคุณจะต้องเสียภาษีย้อนหลังตามสัดส่วนที่ได้ขายออกไป

สรุปง่าย ๆ ก็คือ สุดท้าย แม้ที่ซื้อจะเกินเกณฑ์ที่กำหนดในแต่ละปี แต่ถึงอย่างไรเงินจำนวนนั้นก็จะยังเป็นของเราในอนาคต สู้เก็บเอาไว้เพื่อใช้ในการประหยัดภาษีต่อไปจะดีกว่า

อย่างไรก็ตามหากว่าเมื่อถึงวันหนึ่งมีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนขึ้นมา ขอให้คิดถึงเงินจากกองทุน RMFหรือกองทุนรวมเพื่อการเกษียณเป็นอันสุดท้าย แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราจะแนะนำให้คุณไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อใช้จ่าย แต่ขอให้คุณได้ทบทวนอีกครั้งว่ามีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการทำสิ่งนั้นหรือไม่ หรือสามารถยืดระยะเวลาการใช้เงินนั้นออกไปจะได้หรือไม่

ควรซื้อกองทุน RMF ตอนไหนดี

ไม่มีจังหวะเวลาไหนดีที่สุดในการซื้อกองทุนรวม เนื่องจากกองทุน RMF เป็นการลงทุนระยะยาว เพื่อกินประโยชน์ในช่วงวัยหลังเกษียณ ดังนั้น เมื่อเป้าหมายการลงทุนเป็นเช่นนี้ ก็คงจะมีแต่คุณเท่านั้นที่จะรู้ดีว่าสินทรัพย์ใดเหมาะสมจะลงทุนในเวลาไหน

หลายคนเลือกวิธีการ DCA ในกองทุนรวม RMF ที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่ตนเชื่อมั่น เช่น หุ้นต่างประเทศ หุ้นสหภาพยุโรป หุ้นเทค ทองคำ น้ำมัน ฯลฯ

บรรดาสินทรัพย์เหล่านี้แม้จะมีความผันผวนตามจังหวะเวลาของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ของโลกก็ตามเช่นหุ้นหรือสินทรัพย์บางตัวได้รับผลกระทบ COVID-19 หรือได้รับอิทธิพลจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ แต่หากว่าคุณมีความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการที่สินทรัพย์นั้นได้นำไปลงทุนก็ย่อมเป็นความคิดที่ดีที่จะซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ในฐานะกองทุนรวม RMF ที่จะช่วยให้คุณได้ทั้งการประหยัดภาษีและการออมเพื่อใช้ในระยะยาวหลังการเกษียณ

ซื้อ RMF กองไหนดี

กองทุน RMF นั้นก็เช่นเดียวกับกองทุนรวมหรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ที่มีจุดมุ่งหมายจำเพาะเจาะจงในการนำเงินไปลงทุน

สิ่งที่โดดเด่นของกองทุน RMF นั้นก็คือการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มขึ้นเข้ามา ดังจะเห็นได้ว่าจากตัวอย่าง 2 ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นกองทุนรวมที่นำไปซื้อสินทรัพย์ประเภทเดียวกันจากบริษัทจัดการหลักทรัพย์เดียวกันแต่มีจุดที่แตกต่างกันก็คือ กองทุนหนึ่งเป็นกองทุนที่ไม่กำหนดอายุโครงการและสามารถซื้อขายคืนได้เมื่อไรก็ได้ ในขณะที่อีกกองทุนหนึ่งเป็นกองทุนที่ระบุว่าเป็นกองทุน RMF ดังนั้นหากคุณซื้อกองทุนที่ระบุว่าเป็นกองทุน RMF แล้วก็จะต้องถือและลงทุนไปจนถึงอายุ 55 ปีตามเงื่อนไขที่กำหนด

การเลือกซื้อกองทุน RMF กองไหนดีนั้นอยากให้พิจารณาตามเป้าหมายการลงทุนและสถานะปัจจุบันของตัวคุณเองก่อน

ยกตัวอย่างเช่นหากคุณเป็นคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานยังมีเงินเดือนไม่มากการซื้อกองทุนรวม RMF ด้วยเงินทั้งหมดอาจจะยังไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะคุณยังสามารถนำเงินไปต่อยอดสิ่งต่าง ๆ มากมายเพื่อสร้างฐานะหรือจัดการหนี้สินต่าง ๆ

หรือหากคุณเป็นคนทำงานที่อีกไม่กี่ปีจะเกษียณ การซื้อกองทุน RMF อาจจะไม่ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงิน ในการพิจารณานั้นเมื่อคุณทราบเป้าหมายการลงทุนของตนเองแล้วคุณควรที่จะดูด้วยว่าตนเองมีความสามารถในการรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้มากน้อยเท่าไรเช่นเดียวกับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ

เริ่มต้นลงทุนกองทุน RMF อย่างไร

ในการเริ่มต้นลงทุนกองทุนรวมและกองทุนรวม RMF นั้นเมื่อคุณได้ศึกษาสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขทางภาษีที่เกี่ยวข้องแล้ว ขั้นต่อมาคือการเปิดบัญชีเพื่อลงทุนในกองทุน RMF

วิธีการที่ง่ายและสะดวกที่สุดในการลงทุนกองทุน RMF นั่นก็คือการเปิดบัญชีลงทุนกับธนาคารพาณิชย์ที่คุณมีบัญชีเงินฝากอยู่ ด้วยวิธีการนี้คุณสามารถสร้าง DCA การซื้อกองทุน RMF ประจำเดือนหรือตามรอบที่กำหนดได้โดยอัตโนมัติหลักหักจากเงินเดือน

หลังจากที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการเปิดบัญชีเรียบร้อยแล้วคุณจะได้ศึกษาหนังสือชี้ชวนการซื้อขายกองทุนรวม RMF ก็เช่นเดียวกับกองทุนรวมประเภทอื่น ๆ ที่คุณควรศึกษาหนังสือชี้ชวนให้แน่ใจก่อนตัดสินใจลงทุนและข้อสำคัญของการลงทุนในกองทุน RMF นั้น

หากคุณเปลี่ยนใจหรือไม่พอใจวิธีการลงทุนคุณจะไม่สามารถยกเลิกการลงทุนในกองทุนนี้ไปได้ง่าย ๆ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ค่อนข้างจำกัดกว่ากองทุนรวมทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าเมื่อคุณเริ่มต้นลงทุนกองทุนรวม RMF กองหนึ่งแล้วจะต้องลงในกองนั้นเป็นตลอดไปตลอดคุณสามารถเปลี่ยนกองทุนเพิ่มกองทุนหรือลดกองทุน RMF ที่จะลงได้แต่เงื่อนไขของสิทธิประโยชน์ทางภาษีระบุไว้เพียงแค่ว่าจะต้องซื้อต่อเนื่องอย่างน้อยปีเว้นปีและนับวันชนวันเท่านั้น