เกษียณสุขใจ ด้วย SSF และ RMF ฉบับเข้าใจง่าย

คุณเคยรู้สึกกังวลเกี่ยวกับอนาคต วิตกกังวล และประหวั่นใจทุกครั้งที่นึกถึงการเกษียณอายุไหม คุณเริ่มตั้งคำถามว่าคุณมีเงินเพียงพอในบัญชีธนาคารเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคุณในช่วงเกษียณ ความคิดเพียงว่าใกล้เกษียณอายุทำให้คุณกระสับกระส่ายกระสับกระส่ายบ้างไหม

มีแต่คุณเท่านั้นที่จะกำหนดอนาคตชีวิตตนเองได้ ด้วยเครื่องมือการลงทุนเพื่อการเกษียณอย่างกองทุนรวม LTF และกองทุนรวม RMF ซึ่งวันนี้เราจะมาทำให้เรื่องนั้นง่ายขึ้น ที่คุณจะเข้าใจแล้วนำไปใช้กับไลฟ์สไตล์ของคุณได้ทันที เพื่อให้มั่นใจว่า คุณจะเกษียณได้แบบสุขใจ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวังหลัง

สั้น ๆ เกี่ยวกับกองทุนรวม LTF และกองทุนรวม RMF

กองทุนรวม LTF และกองทุนรวม RMF เป็น 2 กองทุนคู่หูเพื่อการลดหย่อนภาษีสำหรับมนุษย์เงินเดือนและผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กองทุนรวมทั้งสองมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้กับการถือครองหุ้นและการถือครองสินทรัพย์ต่างๆเพื่อการลงทุนสำหรับการใช้ภายหลังเกษียณอายุการทํางาน ไม่ว่าคุณจะเป็นมนุษย์เงินเดือนเจ้าของกิจการก็สามารถซื้อกองทุนทั้งสองเพื่อการลดหย่อนภาษีได้ตามสัดส่วนของฐานภาษีของตนเอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาได้มีการยกเลิกกองทุนรวม LTF ออกไปและมีกองทุนใหม่ซึ่งก็คือกองทุนรวม SSF เข้ามาแทน ดังนั้นในปัจจุบันปี พ.ศ. 2565 จึงมีกองทุนรวม SSF และกองทุนรวมเพื่อการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดภาษี

เงื่อนไขกองทุน SSF ปี 2565

• สามารถนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท

• เมื่อรวมยอดเงินนั้นกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ (เช่น กองทุนรวม RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ หรือเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ) ต้องไม่เกิน 5 แสนาท

• ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี ไม่กำหนดยอดขั้นต่ำ แต่ต้องถือให้ครบ 10 ปฏิทิน

เงื่อนไขกองทุนรวม RMF ปี 2565

• สินทรัพย์ใดก็ได้ หุ้นไทยหรือหุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ก็ได้ทั้งนั้น

• เมื่อรวมยอดเงินนั้นกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ (เช่น กองทุน SSF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ หรือเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ) ต้องไม่เกิน 5 แสนาท

• ต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก และขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์

• ไม่กำหนดยอดขั้นต่ำในการซื้อ แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี (หรืออย่างน้อยซื้อปีเว้นปี)

ทำไมต้องลงทุนในกองทุนรวม SSF และ RMF

วัตถุประสงค์สำคัญของการลงทุนในกองทุนรวม SSF และกองทุนรวม RMF นั้นมิใช่เพื่อการลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว แต่เราอยากให้คุณมองว่านี่คือการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวที่คุณจะสามารถลงทุนในกองทุนรวมหุ้นทั่วโลกทั้งยังได้รับเงินปันผลระหว่างทางผ่านกองทุนรวม SSF หรือการลงทุนแบบสะสมในสินทรัพย์ชนิดต่าง ๆ ทั่วโลกผ่านกองทุนรวม RMF

จุดแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งของกองทุนรวม SSF และกองทุนรวม RMF คือกองทุนรวม SSF คุณสามารถเลือกได้ว่าจะลงทุนในกองทุนที่มีการจ่ายเงินปันผลหรือไม่ อย่างไรก็ตามเงินปันผลที่ได้รับระหว่างทางจากกองทุนรวม SSF นั้นก็ยังเป็นค่าใช้จ่ายในด้านภาษีที่จะต้องคิดคำนวณให้รอบคอบ

อย่าเข้าใจผิดว่า การลงทุนจะช่วยให้คุณครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลังเกษียณได้ การเลือกอย่างฉลาดด้วยการจัดสรรปันส่วนเงินลงทุนไปยังกองทุนรวม SSF ที่ให้การลงทุนหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศ หรือการสะสมมูลค่าไว้โดยไม่รับเงินปันผลใด ๆ จนกว่าจะอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ จะช่วยให้คุณบริหารความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

วางแผนลงทุนเกษียณอย่างไรดี

การวางแผนการลงทุนเพื่อการเกษียณไม่ใช่งานที่จะมาเริ่มทำตอนจะเกษียณ แต่ควรเริ่มต้นวางแผนเกษียณตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน หรืออย่างช้าที่สุดก็คือ “ตอนนี้” 

ผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน อย่าคิดว่าเงินเดือนยังน้อย ความรู้ยังน้อย ขอใช้ชีวิต สร้างฐานไปก่อนแล้วกัน ความคิดนี้ไม่ใช่ไม่ดี แต่ต้องไม่ลืมนำแผนเกษียณและหาทางลดหย่อนภาษีีใส่ลงไปในหน้าที่นั้นด้วย

ยิ่งเริ่มไวยิ่งดี เพราะหากผิดพลาด (ขาดทุน) ขึ้นมา ก็ยังมีเวลาให้แก้ตัวด้วยความรู้ และการกระจายการลงทุนไปยังกองทุน SSF และ/หรือกองทุนรวม RMF ในธีมการลงทุนต่าง ๆ มากกว่าคนที่ใกล้เกษียณ

คำนวณอายุที่อยากเกษียณ

มนุษย์เงินเดือนหรือข้าราชการ อายุเกษียณจะถูกกำหนดไว้แล้ว หากแต่ผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจหรือทำงานฟรีแลนซ์ก็สามารถออกแบบชีวิตตนเอง ได้มีความยืดหยุ่นขึ้น ดังนั้นคุณจึงสามารถเวางแผนได้ว่าตนเองอยากจะเกษียณตอนที่อายุเท่าไร แล้วควรจะมีเงินเท่าไรจึงจะเพียงพอสำหรับชีวิตหลังจากนั้น

ระยะเวลาที่จะอยู่หลังเกษียณ

คุณจะต้องมีเงินสำรองเพียงพอที่จะไว้ใช้กิน ใช้ดูแลรักษาตนเองในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งในช่วงระยะเวลานี้ คุณอาจไม่มีรายรับประจำเข้ามาแล้ว นอกเสียจากผลประโยชน์จากกองทุนรวม SSF หรือ RMFและการลงทุนอื่น ๆ ที่คุณได้สะสมเอาไว้ในครั้งก็ยังทำงาน

ปัจจุบันอายุขัยเฉลี่ยของประชาชนคนไทยมีมากขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้มากขึ้นกว่าคนสมัยก่อน จึงเป็นตัวแปรสำคัญว่าถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่แต่เงินหมดไปแล้วคุณจะทำอย่างไร

ประมาณการค่าใช้จ่ายรายเดือน

การประมาณการค่าใช้จ่ายรายเดือนนี้จะต้องครอบคลุมถึงความเป็นจริง หากเงินที่คำนวณได้ไม่เพียงพอต่ออายุขัยที่คาดว่าจะอยู่ ก็ควรเลื่อนอายุเกษียณออกไป หรือเพิ่มจำนวนการลงทุนให้มากขึ้น

อันดับแรก ให้ประมาณการค่าใช้จ่ายรายเดือน คุณจำนวนปีที่จะใช้ชีิวตหลังเกษียณ ที่สำคัญคือการประมาณการให้สูงกว่ามูลค่าปัจจุบัน เพราะว่าอย่าลืมว่าภาวะเงินเฟ้อจะทวีความรุนแรงขึ้นอยู่เสมอ

ลงทุนตามแผนในกองทุน SSF หรือ RMF

วิธีการที่ดีที่สุดในการลงทุนในกองทุนรวม RMF หรือกองทุนรวม SSF นั้นคือการถัวเฉลี่ยต้นทุนผ่านการ DCA (Dollar Cost Average) กองทุนรวม 

คุณสามารถกำหนดได้ว่าคุณจะลงทุนในกองทุนรวม SSF ในสัดส่วนเท่าไรหรือกองทุนรวม SSF ในสัดส่วนเท่าไรและแต่ละประเภทกองทุนนั้นจะมีสินทรัพย์ประเภทใดบ้าง ศึกษาได้จากหนังสือชี้ชวนการลงทุนกองทุนรวม ปรึกษาผู้แนะนำทางการเงินจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่คุณเปิดบัญชีลงทุนไว้อยู่

จุดเด่นของการลงทุนแบบ DCA กองทุนรวมก็คือคุณไม่จำเป็นต้องติดตามราคาขึ้นลงของกองทุนรวมหรือติดตามสภาวะตลาดอย่างตลอดเวลาเช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้น

บทส่งท้าย

เป็นความรู้ทั่วไปที่คำแนะนำในการเกษียณอายุมีความสำคัญไม่ว่าคุณจะปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ดีที่สุดหรือแย่ที่สุด ด้วยกองทุนรวม SSF และกองทุนรวม RMF คุณจะวางแผนเกษียณแบบสุขใจได้อย่างง่าย ๆ อย่ารอที่จะเริ่มต้นวันหน้า เพราะวันนี้คือวันดีที่ควรจะเริ่มต้นลงมือ