คืนหลอนก่อนข่าวนอนฟาร์ม: BRAK.A ดิ่ง WTI ลดฮวบ 4% เราจะเอายังไงต่อสภาพการณ์เช่นนี้

ศุกร์ที่ 7 มิ.ย. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของ พ.ค. และเนื่องจากเวลาที่เผยแพร่ข้อมูลนี้ใกล้เคียงกับการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้อย่างมาก (12 มิ.ย.) ตลาดให้ความสนใจกับสิ่งนี้ในระดับสูง กว่าครั้งก่อน ๆ ที่ผ่านมา

เช้าวันที่ 3 มิ.ย. มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ราคาหุ้นสหรัฐฯ หลายตัวร่วงลงอย่างผิดปกติทำให้การซื้อขายต้องหยุดชะงักไประยะหนึ่ง ในจำนวนนี้ หุ้น Class A ของ Berkshire Hathaway ของวอเรนต์ บัฟเฟต หรือในฉายา ""เทพเจ้าแห่งหุ้น"" ร่วงลง 99.97% จากปัญหาทางเทคนิค โดยตกลงมาอยู่ที่ 185.1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบ WTI ก็ลดลง 4% เช่นกัน

(BRK.A - กราฟรายวัน BERKSHRE)

การเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติเหล่านี้ของตลาดทำให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดอย่างกว้างขวาง หลายคนเริ่มสงสัยว่าปรากฏการณ์เหล่านี้บ่งชี้ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่กำลังจะเกิดขึ้นจะนำมาซึ่งข่าวสำคัญบางอย่าง หรือสะท้อนถึงความกังวลของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือไม่

ก่อนอื่น มาดูข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ณ เม.ย. ก่อน มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 175,000 ราย น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 240,000 ราย จำนวนที่ได้รับการแก้ไขจาก มี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 303,000 เป็น 315,000 ราย การจ้างงานลดลงอย่างมาก ความคาดหวังและความแตกต่างจากการคาดการณ์มีมากที่สุดนับแต่ ธ.ค. 64 การจ้างงานนอกภาคเกษตร ณ ก.พ. ที่แท้จริงได้ลดลง 34,000 คน จาก 270,000 คนเป็น 236,000 คน


ข้อมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นใน เม.ย. ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 6 เดือน อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด และการเติบโตของค่าจ้างปีต่อปีต่ำกว่าที่คาดไว้และค่าเดิม

◆ ภายหลังการเปิดเผยของข้อมูลดังกล่าว ความคาดหวังของเทรดเดอร์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของ FED มีโอกาสเป้นได้มากว่าจะอยู่ระหว่าง ก.ย. ถึง พ.ย. หุ้นสหรัฐฯ และพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในขณะที่ค่าเงิน USD ถดถอย



เมื่อพิจารณาตลาดแรงงานเดือนก่อน โดยทั่วไปคาดว่าตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่งต่อไป คาดว่างานใหม่จะสูงถึง 185,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจาก เม.ย. ที่ 175,000


ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของ FED ยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องอดทนในการลดอัตราดอกเบี้ย พวกเขากล่าวว่าพวกเขาหวังว่าจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อสามารถลดลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับเป้าหมาย 2%

[ที่มาภ่าพ: MacroMicro; สหรัฐฯ - การจ้างงานนอกภาคเกษตรเทียบกับอัตราการว่างงาน]

หากข้อมูลตลาดแรงงานนแสดงให้เห็นว่าอัตราการเติบโตของการจ้างงานยังคงชะลอตัว อาจบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังสูญเสียโมเมนตัม

ที่มา: MacroMicro; การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (การผันแปรรายเดือน มูลค่าที่แก้ไขสะสมในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา)

▶ Dave Gilbertson นักเศรษฐศาสตร์แรงงานที่ UKG ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์การจัดการเงินเดือน ชี้ให้เห็นว่า: "ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในเดือนมิถุนายน และจำนวนงานที่สร้างขึ้นใหม่ก็ค่อย ๆ ลดลง ซึ่งเป็นก้าวหนึ่งไปสู่การลงจอดอย่างนุ่มนวลที่ต้องการของ เศรษฐกิจ ตลาดแรงงานยังทรงตัวได้ดีแต่ก็ไม่ร้อนผ่าว"

▶ Ohsung Kwon นักยุทธศาสตร์ของ Bank of America ชี้ให้เห็นว่า: "การเติบโตของตำแหน่งงานที่ต่ำกว่า 125,000 ตำแหน่ง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการกระตุ้นให้เกิดกฎ Sam ซึ่งจะทำให้ตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง" ซึ่งหมายความว่าหากจำนวนตำแหน่งงานใหม่เพิ่มขึ้น การจ้างงานนอกภาคเกษตร ณ พ.ค. ที่ต่ำกว่า 125,000 ตำแหน่ง จะเป็นข่าวร้ายต่อตลาดหุ้นและอาจนำไปสู่การเทขาย นอกจากนี้เขายังเสริมด้วยว่าการอ่านค่าดังกล่าวจะบ่งชี้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจกำลังถดถอย

จากความคิดเห็นและการวิเคราะห์ของสถาบันหลายแห่ง โดยทั่วไปแล้วตลาดมักจะระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่กำลังจะเกิดขึ้น สาเหตุหลักมาจากข้อมูล PMI ของสหรัฐฯ ณ พ.ค. แสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมีความรุนแรงผิดปกติ สิ่งนี้ไม่เพียงบ่งชี้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจอาจชะลอตัว แต่ยังส่งผลกระทบทางอ้อมต่อสถานการณ์การจ้างงานของประชาชนด้วย ดังนั้นตลาดจึงค่อนข้างมองโลกในแง่ร้ายต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ที่มา: MacroMicro; ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ - ISM [PMI]

1. เมื่อพิจารณาจากการคาดการณ์ของตลาด ยังไม่มีแรงสนับสนุนการลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. นี้

เมื่อ 22 พ.ค. FED เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินที่จัดขึ้นเมื่อ 30 เม.ย. ผลที่ได้คือการคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม


สำหรับสหรัฐฯ โดยรวม ผลลัพธ์นี้มีประโยชน์มากกว่าผลเสีย ผู้เข้าร่วมตลาดยังคงให้ความสนใจกับการตัดสินและความคาดหวังเกี่ยวกับทิศทางนโยบายในอนาคตในรายงานการประชุม เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีที่ค่อนข้างเชื่องช้าของคำปราศรัยหลังการประชุมของพาวเวลล์ ประธาน FED ข้อมูลที่เปิดเผยในรายงานการประชุมครั้งนี้ดูเหมือนจะ "เจ้าเล่ห์" มากกว่าในสายตาของตลาด ซึ่งหมายความว่าจุดยืนของเฟดเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยแตกต่างไปจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้อย่างมาก

เมื่อสูญเสียความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยแล้ว ข้อมูลทั้งหมดหมุนอยู่ราว ๆ การไม่ลดดอกเบี้ยนั้น หรือมองว่าเป็นนโยบายไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในเวลานี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ FED ทราบข้อมูลล่วงหน้า


มีความสัมพันธ์กันอย่างมากระหว่างอัตราการว่างงานและการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการลดลงของอัตราการว่างงานจะทำให้เกิดบัฟเฟอร์สำหรับการลดอัตราดอกเบี้ย ในทางตรงกันข้าม เมื่ออัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น การหยุดลดอัตราดอกเบี้ยจะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นเราจึงสามารถคาดการณ์ได้อย่างกล้าหาญว่าในครั้งนี้รายงานตลาดแรงงานนั้น "ไม่น่าพอใจ" ดังนั้น จึงมีการแนะนำว่าให้ Short ค่าเงิน USD และซื้อทองคำในค่ำคืนที่มีการประกาศตลาดแรงาน

2. จากมุมมองทางเทคนิค ทองคำกำลังสะสมพลังงาน นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการเข้าตอนนี้!

แผนภูมิแนวโน้มเส้นทองคำ 2HK

เมื่อพิจารณาจากกราฟทองคำ K-line ราย 2 ชั่วโมง ราคาทองคำได้เข้าสู่โหมด Box Shock นับตั้งแต่ลดลงในวันที่ 22 พ.ค. ส่วนในวันที่ 24 พ.ค., 30 พ.ค., 3 มิ.ย. และ 4 มิ.ย. ราคาทองคำพุ่งแตะระดับ ด้านล่างของกล่องสี่ครั้ง

ปัจจุบัน เส้น DIF และเส้น DEA ในตัวบ่งชี้ MACD อยู่ต่ำกว่าแกนเส้นศูนย์และเป็นสัญญาณของการบรรจบกัน ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีศักยภาพที่จะทะลุผ่าน Box Shock Range ได้


ในกรณีนี้ เทรดเดอร์จำเป็นต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับปฏิกิริยาของตลาดหลังจากที่กล่องทะลุทะลวง หากทะลุผ่านสำเร็จ ราคาทองคำอาจพบกับการปรับฐานเพื่อยืนยันระดับแนวรับใหม่ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,350 เทรดเดอร์สามารถพิจารณาระดับราคานี้เป็นจุดครอบคลุมที่สอง

กลยุทธ์การซื้อขายที่แนะนำมีดังนี้

• จุด Take Profit: 2,378 และ 2,435 ระดับราคาทั้งสองนี้สามารถใช้เป็นเป้าหมาย Take Profit ได้

• หยุดจุดขาดทุน: 2,300 และ 2,280 หากราคาตกลงต่ำกว่าระดับเหล่านี้ อาจส่งสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม ควรพิจารณาหยุดการขาดทุนในเวลานี้เพื่อเลี่ยงการขาดทุนเพิ่มเติม