เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด
เจาะลึกตลาด หุ้น รับรู้ฐานะบริษัทด้วยสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน

รับรู้ฐานะบริษัทด้วยสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เป็นข้อมูลทางบัญชีที่นำมาคำนวณสัดส่วนทางการเงิน (Financial Ratios) เป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการลงทุนหุ้น

อวตารผู้เขียน
TOPONE Markets Analyst 2022-10-12
ไอคอนรูปตา 615

ฐานะทางการเงินของแต่ละบริษัทสามารถรับรู้ได้ผ่านการอ่านรายงานทางการเงิน (Financial Statement) ซึ่งจะปรากฏบนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทหรือตลาดหลักทรัพย์กรณีที่บริษัทจดทะเบียนเพื่อออกจำหน่ายหุ้น 


สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เป็นหนึ่งหมวดสินทรัพย์ที่แสดงอยู่ในหน้างบดุล (Balance) ของรายงานทางการเงิน ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เรียกงบดุลว่างบแสดงสถานะทางการเงิน (Financial Position Statement)


การศึกษารายงานทางการเงิน เป็นการพัฒนาทักษะการวิเคราะห์หุ้นด้วยการใช้ปัจจัยพื้นฐาน ตัวเลขจากรายงานทางการเงิน รวมไปถึงตัวเลขสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน สามารถนำมาคำนวณเป็นค่าสัดส่วนทางการเงิน (Financial Ratios) ซึ่งทำให้ตีความความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลข และอธิบายถึงความสามารถในการทำกำไร ประสิทธิภาพในการบริหารงาน สภาพคล่อง และฐานะของบริษัทได้ 

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนคืออะไร

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (Non-Current Assets) คือ สินทรัพย์หรือสิ่งที่บริษัทครอบครองอยู่ จะมีตัวตนหรือไม่มีตัวตนจับต้องได้ก็ได้ แต่ว่าสามารถสร้างผลกำไรให้แก่บริษัท มีอายุการใช้งานมากกว่าหนึ่งปี โดยตัวเลขที่บริษัทแสดงมูลค่าสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนในแต่ละปี เป็นตัวเลขที่หักลบเอาค่าเสื่อมราคาที่สะท้อนว่ามูลค่าของสินทรัพย์ที่ครอบครองใด ๆ ลดน้อยลงได้เมื่อพวกมันมีอายุมากขึ้น


สินทรัพย์หมุนเวียน ไม่หมุนเวียน ตกลงแล้วแตกต่างกันไหม?

ความแตกต่างอยู่ที่ระยะเวลาที่บริษัทจะสามารถใช้สินทรัพย์เพื่อทำกำไร กรณีของสินทรัพย์หมุนเวียน บริษัทจะใช้ให้เกิดกำไรแก่บริษัทได้ภายในหนึ่งปี ขณะที่สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจะถือเป็นการลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่า 1 ปี ปกติแล้วรายการทั้งคู่จะนำเสนออยู่ด้วยกันในงบแสดงสถานะทางการเงิน


กรณีที่บริษัทมีหนี้สินหรือภาระทางการเงินที่จะต้องชำระ บริษัทสามารถจัดสรรจำหน่ายสินทรัพย์ระยะสั้นไปได้ แต่สินทรัพย์ระยะยาวจะอยู่ในรายการที่จะทำการตัดขายจริง ๆ เมื่อบริษัทมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินรุนแรงเท่านั้น หรือพบว่าไม่สามารถใช้งานได้จริง ๆ เพราะในการลงทุนจัดหาสินทรัพย์ระยะยาว บริษัทได้คำนึงถึงความคุ้มทุนไว้แล้ว การขายไปในระยะสั้น จะทำให้บริษัทไม่สามารถผลิตหรือให้บริการได้ตามเป้าหมายที่เข้าครอบครองสินทรัพย์แต่แรกถึงในระดับคุ้มทุน 


สำหรับการดูรายงานทางการเงินประจำปี หรืองบการเงิน ถ้าไปดูในส่วนของงบกระแสเงินสด จะพบว่าค่าใช้จ่ายและรายรับของสินทรัพย์หมุนเวียน อยู่ในส่วนของกิจกรรมเพื่อการดำเนินงาน (Operating Activities) ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำหรับสินทรัพย์ระยะยาว จะถูกบันทึกเป็นกิจกรรมเพื่อการลงทุน (Investing Activities)

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ได้แก่อะไรบ้าง

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน สามารถแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ คือ


สามารถจับต้องได้ (Tangible Assets) ซึ่งมีตัวอย่างรายการที่จะพบเห็นได้ทั่วไป ดังนี้

  • ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (Land and Buildings)

  • โรงงาน (Factory / Plant)

  • เครื่องจักรสำหรับใช้ในโรงงาน (Machinery)

  • อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตหรือบริการ (Equipment)

  • เฟอร์นิเจอร์ และฟิกเซอร์ (Furniture and Fixtures)


ไม่มีตัวตน ไม่สามารถจับต้องได้ แต่มีมูลค่า (Intangible Assets) หลัก ๆ แล้วคือจัดอยู่ในกลุ่มประเภทสินทรัพย์ทางปัญญา (Intellectual Properties) ทั้งลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร การจดทะเบียนต่าง ๆ ที่มีการตีมูลค่าออกมาได้ มูลค่าที่แสดงรวมเป็นมูลค่าสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจะเป็นเฉพาะเทคโนโลยีของบริษัทหรือที่บริษัทได้มาซึ่งเป็นที่รู้จัก และนำมาใช้ในการผลิตแล้ว ไม่ใช่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา


การลงทุนระยะยาว เป็นการลงทุนจากการซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ พันธบัตร ฯลฯ ที่ยุ่งยากต่อการขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินในทันที บริษัทมุ่งเป้าจะครอบครองระยะยาว ให้ผลตอบแทนในอนาคต ไม่ค่อยพบเห็นในทุกบริษัท เพราะธุรกิจจะมีความเสี่ยงเพิ่มจากการลงทุนได้จึงมักสนใจกับกิจกรรมหลักคือการผลิต การค้า หรือการบริการมากกว่า 


เนื่องจากลักษณะธุรกรรมหรือการประกอบกิจการของแต่ละบริษัทมีความแตกต่างกัน มีความจำเพาะแยกกัน ดังนั้นรายการย่อยที่พบเป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอาจจะมีแตกแยกย่อยเพิ่มเติมอีกต่างกันไปในแต่ละบริษัท แต่จะพบความเชื่อมโยงกับการแบ่งประเภททั้งสามอย่างแน่นอน 


ตัวอย่าง อ้างอิงรายงานประจำปี พ.ศ. 2564 ของบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด จากรายงานสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน



จะเห็นได้ว่า มีการแบ่งเงินลงทุนในบริษัทย่อย เงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บริษัทย่อย ยกมาพูดก่อนที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ แล้วตามด้วยสินทรัพย์ไม่มีตัวตน จากนั้นจึงมีสิทธิการเช่า สินทรัพย์สิทธิการใช้ สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น ๆ การแตกประเภทย่อยนี้จะมีความหลากหลายซับซ้อนขึ้นอยู่เสมอเมื่อศึกษางบการเงินของบริษัทอย่างหลากหลาย


เพื่อความเข้าใจมากขึ้น สำหรับผู้ต้องการศึกษาการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน สามารถสังเกตตัวเลขหรือตัวอักษรแสดงหมายเหตุประกอบงบการเงิน และเปิดหารายละเอียดได้ เช่น กรณีของ “สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น” มีหมายเลขหมายเหตุประกอบ คือหมายเลข 8 ชี้แจงบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง และหมายเลข 15  เป็นกรณีเงินมัดจำจ่าย พิจารณาเฉพาะหมายเลข 8 บริษัทมีการถือหุ้นซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อแสวงหากำไรจากกิจการและกองทุนที่อื่น


เกณฑ์การแบ่งชนิดอื่น ๆ ของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน


หลายครั้งที่การศึกษาเพื่อเข้าใจปัจจัยพื้นฐานและวิเคราะห์เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับมือใหม่ อย่างการตอบคำถามว่าสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน มีอะไรบ้าง อาจเต็มไปด้วยความสับสน เพราะแหล่งข้อมูลให้ข้อมูลไม่ตรงกัน แหล่งข้อมูลอื่นอาจให้ข้อมูลต่างออกไปจากบทความนี้ แต่แท้จริงแล้วไม่ได้มีผิดที่สุดหรือถูกที่สุด จะยึดเกณฑ์ไหนในการทำความเข้าใจหรืออธิบายต่อ ต้องถือหลักเหตุและผลกับความเหมาะสม


ในบทความนี้เพื่อให้ความกระจ่าง จึงรวบรวมเอาการแบ่งชนิดของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนด้วยเกณฑ์อื่นที่พบมาไว้ด้วย เพื่อเป็นประโยชน์ในการเทียบเคียงและศึกษา


คำนึงถึงทรัพยากรธรรมชาติ แบ่งเป็น สินทรัพย์มีตัวตน ไม่มีตัวตน และทรัพยากรธรรมชาติ มักจะพบการแบ่งแบบนี้ในบริษัทที่ทำอุตสหกรรมที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ


ตัวอย่าง บริษัท Northern Oil and Gas, Inc. แสดงมูลค่าแหล่งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติที่พบ (Proved) และอยู่ระหว่างการสำรวจ (Unproved) ไปพร้อมกับรายการสินทรัพย์ที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน



ยึดรูปแบบโอกาสเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว การแบ่งสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 7 ชนิด มีอะไรบ้าง 

    เงินฝากธนาคารมากกว่า 1 ปีขึ้นไป เช่น ฝากแบบ 24 เดือน หรือ 36 เดือน 

    เงินลงทุนระยะยาว สินทรัพย์ที่กิจการถือไว้เพื่อการลงทุน 

    เงินให้กู้ยืมระยะยาว เงินปล่อยกู้ให้แก่บุคคลอื่นหรือกิจการอื่นกู้ มีกำหนดรับชำระเงินคืนนานกว่า 1 ปี

    ที่ดิน 

    อาคารและอุปกรณ์ ใช้ในการดำเนินธุรกิจหรือธุรกิจมีแผนใช้งาน

    สินทรัพย์ไม่มีตัวตน

    สิ่งอื่น ๆ ที่วัดมูลค่าได้ เช่น สิทธิสัมปทาน ชื่อเสียงของกิจการ แบรนด์สินค้า ฯลฯ


จะเห็นได้ว่าอย่างตัวอย่างรายการสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนของบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด  มีการแสดงรายการเงินลงทุน แต่ไม่ได้มียอดเงินอยู่ด้วยเพราะในปีที่บันทึกข้อมูลไม่มีรายการลงทุน ขณะที่ทาง Northern Oil and Gas, Inc.  ไม่ได้มีรายการแบบเดียวกันเพราะไม่มีธุรกรรมแบบเดียวกัน การแบ่งสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 7 ชนิดนั้นเป็นการขยายขอบเขตเพื่อพูดถึงรายการย่อย แต่สิ่งอื่น ๆ ที่เป็นรายการที่ 7 ก็คือสามารถแตกย่อยได้อีกมากมาย 


ตามมาตรฐาน IFRS (International Financial Report Standard) คือมาตรฐานการทำบัญชีระดับนานาชาติ ไม่ได้มีการกำหนดชนิดย่อยของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนไว้แน่นอน เพียงให้นิยามกำกับเพื่อจะเป็นประโยชน์ให้ภาคธุรกิจมีความเข้าใจแต่คงความยืดหยุ่นในการเสนอข้อมูลทางการเงินตามแต่ลักษณะเฉพาะของการประกอบการ

อัตราส่วนสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนต่อมูลค่าสุทธิ (Non-Current Assets to Net Worth Ratio)

ค่าสัดส่วนทางการเงินตัวนี้เป็นตัววัดหรือตัวบ่งชี้ที่เปรียบเทียบมูลค่าของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนของบริษัท (Non-Current Assets) กับมูลค่าสุทธิ (Net Worth Ratio) มูลค่าสุทธิในที่นี้สามารถถือได้ว่าเป็นมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ สามารถหาได้โดยการลบหนี้สินออกจากสินทรัพย์รวม จะได้ส่วนของสินทรัพย์ที่ธุรกิจเป็นเจ้าของ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง อัตราส่วนสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนต่อมูลค่าสุทธิ ที่จะเรียกในบทความนี้ว่า NCA/NW คือการเปรียบเทียบสินทรัพย์ระยะยาวกับส่วนของสินทรัพย์ที่ธุรกิจเป็นเจ้าของนั่นเอง


เขียนเป็นสูตรคำนวณ


NCA/NW = สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน / สินทรัพย์ที่ธุรกิจเป็นเจ้าของ


= สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน / มูลค่าสุทธิ


การเปรียบเทียบแบบนี้ ทำให้เราสามารถอธิบายความสัมพันธ์ของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนและฐานะของบริษัทได้ โดยเปรียบเทียบกับบริษัทอื่น หรือเปรียบเทียบตัวเลขในอดีตเมื่อใช้ข้อมูลของบริษัทแล้วบอกได้ว่าบริษัทมีฐานะดีขึ้นหรือแย่ลง 


ตัวเลขของ NCA/NW เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ค่าที่สูงกว่าได้บอกถึง 3 นัยยะสำคัญ

  1. บริษัทมีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนมากกว่าบริษัทอื่นที่นำข้อมูลมาเปรียบเทียบ หรือบริษัทมีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนมากกว่าอีกช่วงเวลาที่นำข้อมูลมาเปรียบเทียบ กรณีนี้จัดเป็นเรื่องปกติสำหรับบริษัทที่เน้นเงินทุนสูงซึ่งต้องอาศัยการลงทุนระยะยาวอย่างเข้มข้นเพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทมีประสิทธิภาพ

  2. บริษัทมีสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปแบบของหนี้ ซึ่งบริษัทที่มีค่า NCA/NW สูงกว่าอาจจะมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาทางการเงินระหวางดำเนินการได้มากกว่า หรือถ้าตัวเลขเทียบระหว่างปี ปีไหนสูงกว่าแสดงว่าบริษัทมีความอ่อนไหวทางการเงินมากกว่า

  3. การผสมผสานกันระหว่างข้อ 1 และ 2 คือบริษัทมีขนาดใหญ่เลยต้องลงทุนสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจำนวนมากซึ่งทำให้บริษัทต้องมีหนี้จำนวนมากจนมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาทางการเงินได้ อย่างไรก็ตามการมีแนวโน้มจะเกิดปัญหาไม่ได้จะเป็นปัญหาจริง ๆ เสมอไป  

ก่อนซื้อหุ้น ทำไมต้องวิเคราะห์สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน

ประโยชน์ของการพิจารณาสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน คือเพื่อให้ทราบฐานะของบริษัท เพราะว่าค่า NCA/NW ที่เป็นตัวชี้วัดโดยเอามูลค่าสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนไปคำนวณ จะชี้ให้เห็นว่าแหล่งเงินของบริษัทเพียงพอกับการลงทุน หรือการลงทุนในระยะยาวที่ดำเนินการไปแล้วนั้น บริษัทต้องพึ่งพาหนี้สินซึ่งหนี้สินจะทำให้ฐานะของบริษัทอ่อนแอลง 


สำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง การชะลอการตัดสินใจลงทุนในหุ้นที่ค่า NCA/NW สูง หรือหลีกเลี่ยง เป็นทิศทางที่ควรจะเป็น เพราะถือว่าบริษัทที่เป็นพื้นฐานของหุ้นไม่แข็งแกร่งนัก และการที่ต้องใช้หนี้ระยะยาวอาจจะทำให้ชำระเงินปันผลน้อยลง รวมถึงราคาหุ้นที่อาจจะหดตัวถ้าไม่มีผลลัพธ์การดำเนินงานที่ลงทุนไปมหาศาลให้เห็นในเร็ววัน 


อย่างไรก็ตาม การกู้ยืมถือเป็นการ Leverage ในทางธุรกิจ นั่นคือการเพิ่มทุนเพื่อให้มีอำนาจลงทุนมากขึ้นและได้รับส่วนแบ่งกำไรหรือผลตอบแทนจากตลาดเพิ่มขึ้น การพบ NCA/NW สูง ๆ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่ถูกมองในแง่ร้ายเสมอไป ในกรณีของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกระแสเงินสดไหลเข้าที่แน่นอน และมีเครือข่ายธุรกิจที่เอื้อให้ดำเนินงานและบริหารไปได้ด้วยดี การมี NCA/NW อาจหมายถึงการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ไปหมาด ๆ และอาจมีผลตอบแทนที่สูงในอนาคต


ในกลุ่มนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง หากได้ศึกษาข้อมูลของธุรกิจ รวมถึงดูค่าสัดส่วนทางการเงินอื่น ๆ ประกอบกับ NCA/NW ถ้าเห็นถึงแนวโน้มความสำเร็จในการลงทุน อาจจะเข้าซื้อหุ้น เพราะในระยะก่อนการคืนทุน แม้จะเป็นที่สังเกตว่าบริษัทมีหนี้มาก แต่บริษัทที่ลงทุนในระยะยาว ถ้าประสบความสำเร็จ มักจะสร้างผลตอบแทนแก่ตนเองจนเติบโตทั้งยอดขายและมีราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น 

บทส่งท้าย

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ทำให้เราเห็นถึงแผนการลงทุนของบริษัทที่ดำเนินงานอยู่ รวมถึงศักยภาพของบริษัทในการสร้างผลตอบแทนเพราะมีทรัพยากรที่สร้างกำไรได้ในอนาคต แต่เพราะสินทรัพย์ระยะยาว มาได้ทั้งจากการลงทุนภายใน และการกู้แหล่งทุนภายนอก ซึ่งถ้ากู้ภายนอกจะทำให้เกิดความเปราะบางทางการเงินขึ้นได้ อาจเป็นผลให้นักลงทุนในหุ้นไม่บรรลุผลตอบแทนที่ต้องการ ทั้งจากเงินปันผลและส่วนต่างราคาหุ้น เพราะธุรกิจในที่สุดคืนทุนช้าหรือล้มเหลว นี่คือเหตุผลที่ผู้ลงทุนควรพิจารณาสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเปรียบเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์ของธุรกิจเพื่อรับรู้ถึงระดับความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

  • ไอคอนแชร์ Facebook
  • ไอคอนแชร์ X
  • ไอคอนแชร์ Instagram

บทความที่กำลังมาแรง

  • 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก

    ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-10-29
  • ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024

    เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-08-07
  • 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023

    เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-01-30
  • รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร

    รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2023-11-15
รูปโปรโมชันในบทความ
โอกาสทองรออยู่! กระโจนเข้ามา!พร้อมรับโบนัส $100 ฟรี!
ทองคำ ทองคำ

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย