เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด
เจาะลึกตลาด หุ้น หุ้นกู้คืออะไร เรื่องต้องรู้ก่อนลงทุน

หุ้นกู้คืออะไร เรื่องต้องรู้ก่อนลงทุน

ลงทุนรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ และโอากาในการสร้างกระแสเงินสดด้วยการร่วมซื้อหุ้นกู้จากภาคเอกชน พร้อมทั้งสำรวจตราสารหนี้ออกใหม่ล่าสุด

อวตารผู้เขียน
TOPONE Markets Analyst 2023-01-16
ไอคอนรูปตา 10826

14.png



การลงทุนรูปแบบที่คลาสสิกสุด ๆ เท่าที่เราหลายคนจะนึกขึ้นได้เป็นอันดับแรก ๆ ก็คือเรื่องของ “หุ้น” แต่คุณทราบจริง ๆ หรือไม่ว่า “หุ้น” หรือ “หุ้นกู้” นั้น มีสิ่งใดที่น่าสนใจบ้าง ทำไมการลงทุนในหุ้นกู้ ควรจะเป็นหนึ่งในส่วนผสมของพอร์ตการลงทุนที่คุณควรพิจารณาคัดสรรให้ดี


ในบทความนี้ เราจะมาพูดกันถึงหุ้นกู้ภาคเอกชน และจุดต่างระหว่างหุ้นกู้กับหุ้น

หุ้นกู้ คืออะไร ทำไมน่าสนใจ

หุ้นกู้ (Debenture) คือตราสารทางการเงินรูปแบบหนึ่ง ที่กลุ่มบุคคลหรือสถาบันได้ประกาศขอระดมเงินทุนจากประชาชนทั่วไป (นักลงทุนรายย่อย) หรือองค์กรอื่น ๆ (นักลงทุนสถาบัน) เพื่อนำเงินทุนมาหมุนเวียนใช้ในกิจกรรมการบริหารที่จำเพาะเจาะจงหรือไม่ก็ได้


การกู้ยืมเงินของภาครัฐต่อบุคคลอื่น เรามักจะคุ้นเคยกันในชื่อ “พันธบัตรรัฐบาล” (Governemnt Bond) ที่จะมีประกาศจำหน่ายเป็นครั้งคราว โดยติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้จากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะเปิดทำการซื้อขายผ่านธนาคารพาณิชย์ เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ หรือธนาคารไทยพาณิชย์เป็นต้น 


ในขณะที่การขอกู้ยืมเงินของภาคเอกชน มักจะมาในรูปแบบของ “หุ้นกู้” (Debenture) จากบริษัทเอกชนต่าง ๆ ที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2566 ตามข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีบริษัทจดทะเบียนกว่า 612 แห่ง 


ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือหุ้นของภาคเอกชน การระดมเงินทุนจำนวนมาก ๆ เหล่านี้ครั้งแรกจะเรียกว่า “IPO” เช่นที่เป็นข่าวอยู่ระยะหนึ่งว่า จองหุ้น OR หรือจองหุ้น Makro ล้วนเป็นที่น่าจับตามองว่า การซื้อหุ้น IPO จะเป็นทางลัดของการลงทุนในหุ้นที่จะช่วยเพิ่มพูนมูลค่าของต้นทุน (Capital Gain) ในระยะยาวได้ หากแต่เป็นหุ้นกู้ภาคเอกชน มักเป็นการประกาศขอระดมทุนสำหรับกิจกรรมที่กำหนดไว้หรือเมื่อต้องการขยายกิจการภายหลังจากการเปิดจองหุ้น IPO ไปแล้ว


การเลือกหุ้นกู้ ไม่ใช่ดูแต่อัตราผลตอบแทนและความถี่ในการจ่ายดอกเบี้ยเท่านั้น นักลงทุนต้องพิจารณาหุ้นกู้ที่น่าลงทุนจากอันดับเครดิต (Credit Rating) ที่เป็นการจัดอันดับโดยบุคคลที่สาม ในประเทศไทยเวลานี้มี TRIS  เป็นผู้นำด้านการจัดอันดับให้แก่หุ้นกู้ของบริษัทต่าง ๆ


อันดับการจัดเครดิตของหุ้นกู้ มีตั้งแต่ระดับ AAA ถึงระดับ D หากหุ้นกู้ใด ได้รับการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ระดับ AAA หมายความถึงความเสี่ยงที่จะผิดนัดชระเงินต้นและดอกเบี้ยน้อยที่สุด ในขณะที่ระดับ D ซึ่งเป็นอันดับต่ำสุดของการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ หมายความถึงมีความเสี่ยงค่อนข้างมากที่จะไม่ได้รับการจ่ายดอกเบี้ยหรือแม้กระทั่งสูญเสียเงินต้นไป



ผลตอบแทนของหุ้นกู้หรือการลงทุในพันบัตรรัฐบาล มักจะมาในรูปของอัตราเงินปันผล ในกรณีของหุ้นกู้ หรือที่เรียกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รัฐบาล ซึ่งผลตอบแทนนี้หมายถึงผลตอบแทนประมารการณ์ที่นักลงทุนคาดว่าจะได้รับจากการลงทุน

ติดตามหุ้นกู้ที่น่าสนใจได้จากที่ไหน

ในประเทศไทยมีบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นจำนวน X แห่งตามข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ เดือนมกราคม พ.ศ. 2566


ไม่ว่าจะเป็นชุดของตราสารหนี้ออกให้ หรือบริษัทที่จะ IPO ในเร็ว ๆ นี้คุณก็สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางข้อมูลการลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศไทย

อย่าเข้าใจผิดเกี่ยวกับตราสารหนี้ออกใหม่กับหุ้น IPO

หุ้น IPO คือหุ้นแรกที่บริษัทหนึ่ง ๆ เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์


ตราสารหนี้ออกใหม่ หรือหุ้นกู้ออกใหม่ คือการที่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ประกาศขอระดมเงินทุนเป็นครั้ง ๆ หลังจากการ IPO ไปแล้ว เพื่อใช้ในกิจกรรมใหญ่ ๆ ขององค์กร โดยส่วนมาก ตราสารหนี้ออกหใม่มักระบุจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ เช่น 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละเท่า ๆ กัน



จากภาพตัวอย่างข้างต้น เป็นกราฟฟิกเชิญชวนของหุ้นกู้ทรู ที่เสนอขายเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้มีหุ้นกู้ทั้งหมด 4 ชุด อัตราดอกเบี้ยแตกต่างกันตามอายุของหุ้นกู้ และจะจ่ายดอกเบี้ยให้ทุก ๆ 3 เดือน แก่นักลงทุนทั่วไป (Public Offering) 


คุณสามารถติตดามข่าวคราวของหุ้นกู้ออกใหม่ล่าสุดได้จากเว็บไซต์ทางการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)


นอกจากการติดตามซื้อหุ้น IPO แล้ว คุณยังสามารถติตดามข้อมูลหุ้นกู้ออกใหม่ได้จากเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. ด้วย ที่ซึ่งจะประกาศข้อมูลหุ้นกู้ออกใหม่ พร้อมการจัดอันดับเครดิตโดย TRIS


ลงทุนหุ้นกู้ได้อะไรบ้าง

ในฐานะนักลงทุนรายย่อยการลงทุนในหุ้นกู้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างผลตอบแทนในรูปของกระแสเงินสดระยะยาวได้ตามอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ออกหุ้นกู้ระบุไว้ในแต่ละอายุของหุ้นกู้ อีกทั้งยังได้สองต่อ คือกำไรจากส่วนต่างราคา หรือ Capital Gain 

เปรียบเทียบกับการฝากเงินสดในบัญชีธนาคารคุณจะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยเงินฝากซึ่งจะจ่ายทุก ๆ ปีปีละ 2 ครั้งตามอัตราที่กำหนดไว้ แต่หากเป็นการลงทุนในหุ้นกู้ ผลตอบแทนก็จะมีอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ที่ย่อมต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงต่าง ๆ ดังที่เราเคยกล่าวไว้ในเรื่องของความเสี่ยงของการลงทุน รวมถึงอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหุ้นกู้นั้น ๆ


Bond Yield


ราคาและอัตราผลตอบแทนมีความสัมพันธ์แบบผกผันกัน เมื่อราคาของพันธบัตรสูงขึ้น อัตราผลตอบแทนจะลดลง และเมื่ออัตราผลตอบแทนสูงขึ้น ราคาของพันธบัตรจะลดลง


หากนักลงทุนซื้อพันธบัตรที่มีมูลค่าที่ตราไว้ 1,000 ดอลลาร์ซึ่งจะครบกำหนดใน 5 ปีด้วยอัตราดอกเบี้ย 10% ต่อปี พันธบัตรจะจ่ายดอกเบี้ย 10% หรือ 100 ดอลลาร์ต่อปี หากอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสูงกว่า 10% ราคาของพันธบัตรจะ ตกลงหากนักลงทุนตัดสินใจขาย


อัตราผลตอบแทนปัจจุบันและอัตราดอกเบี้ยเป็นการคำนวณที่ไม่สมบูรณ์สำหรับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตร เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าของเงินตามเวลา มูลค่าครบกำหนด หรือความถี่ในการชำระเงิน และจำเป็นต้องมีการคำนวณที่ซับซ้อนมากขึ้น


หากอัตราดอกเบี้ยสำหรับการลงทุนที่คล้ายคลึงกันเพิ่มขึ้นเป็น 12% พันธบัตรเดิมจะยังคงได้รับการจ่ายคูปองเป็นจำนวน 100 ดอลลาร์ ซึ่งจะไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่สามารถซื้อพันธบัตรที่จ่าย 120 ดอลลาร์เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ราคาสามารถลดลงได้เพื่อให้ การชำระเงินคูปองและมูลค่าครบกำหนดเท่ากับผลตอบแทน 12%


หากอัตราดอกเบี้ยลดลง ราคาของพันธบัตรจะสูงขึ้นเนื่องจากการชำระด้วยคูปองนั้นน่าสนใจกว่า

ความเสี่ยงจากการลงทุนหุ้นกู้คืออะไรบ้าง

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมักขึ้นลงสวนทางกับอัตราดอกเบี้ยการลงทุน จึงช่วยให้พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนมีความหลากหลาย นอกจากนี้ ยังช่วยให้นักลงทุนมีรายได้ที่สม่ำเสมอซึ่งโดยปกติแล้วจะมีอัตราที่สูงกว่าการลงทุนในตลาดเงินแบบอื่น ๆ ซึ่งก็แลกมาด้วยความเสี่ยงจากการลงทุน ดังต่อไปนี้


  1. หุ้นกู้มีมี “ความเสี่ยงด้านเครดิต” ในระดับหนึ่ง หรือความเสี่ยงที่ผู้ออกพันธบัตรอาจผิดนัดชำระหนี้หนึ่งครั้งหรือหลายครั้งก่อนที่พันธบัตรจะครบกำหนด ผู้ลงทุนควรพิจารณาจากการประเมินความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ก่อนนำเงินไปลงทุน

  2. ความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) — ความเสี่ยงที่ผู้ออกพันธบัตรจะผิดนัดก่อนที่พันธบัตรจะครบกำหนด

  3. ความเสี่ยงด้านตลาด (Market Risk) — ความเสี่ยงที่มูลค่าของพันธบัตรจะผันผวนไปตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง

  4. ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Ris) — ความเสี่ยงที่ราคาพันธบัตรจะลดลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น

  5. ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ (Inflation Risk) — ความเสี่ยงที่ผลตอบแทนรวมของพันธบัตรจะไม่แซงหน้าอัตราเงินเฟ้อ

หุ้นกู้ VS. หุ้น

หุ้นกู้ (Debenture) กับหุ้น (Share) ต่างก็เป็นการลงทุนในหุ้น ให้บริษัทนำเงินไปใช้หมุนเวียนด้วยกันทั้งนั้น บางท่านถือเอาการลงทุนทั้งสองแบบเป็นเครื่องมือสร้างการลงทุนระยะยาว ทว่า ยังมีข้อแตกต่างระหว่างการลงทุนในสินทรัพย์ทั้งสองแบบ


  1. หุ้นกู้เป็นการลงทุนที่มีกรอบเวลา และอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอน คุณอาจไม่อยากไถ่ถอนก่อนครบกำหนด แม้ว่าจะเจอทางเลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าเมื่อเวลาผ่านไป เพราะอาจมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมา

  2. การลงทุนในหุ้น สามารถซื้อขายได้ทุกเวลาตามพอใจ ตามเวลาทำการของตลาดหุ้น ในมูลค่าหน่วยละไม่กี่บาท แต่ถ้าเป็นหุ้นกู้ มักเริ่มต้นที่หน่วยละ 1 แสนบาท วิธีนี้อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยที่มีทุนน้อย และแบกรับความเสี่ยงได้ไม่ไหว

  3. การลงทุนในหุ้นกู้เสมือนหนึ่งการเข้าไปถืออหุ้นในบริษัทนั้น ๆ มีสิทธิ์ออกเสียงตามสิทธิ์ของประเภทหุ้นที่ถือ แต่การซื้อหุ้นจากตลาดรองในกระดานเทรด ไม่มีสิทธิ์เช่นนั้น

  4. คุณสามารถเทรดหุ้น ใช้ชีวิตแบบ Day Trade ได้ สร้างรายได้ทุก ๆ วันด้วยส่วนต่างกำไรของราคาหุ้นต่อหน่วย แต่ไม่สามารถเทรดหุ้นกู้ได้


หุ้นกู้กับหุ้นมีจุดต่างในแง่ของสิทธิ์การออกเสียงในการบริหารองค์กร เป็นทั้งเครื่องมือการลงทุนระยะยาว มีความเสี่ยงแตกต่างกัน ไม่ว่าจะหุ้นหรือหุ้นกู้ ไม่มีการลงทุนแบบใดที่จะดีไปเสียทุกอย่าง อยู่ที่ความรู้ทางการลงทุน การบริหารจัดการเงิน และความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้

  • ไอคอนแชร์ Facebook
  • ไอคอนแชร์ X
  • ไอคอนแชร์ Instagram

บทความที่กำลังมาแรง

  • 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก

    ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-10-29
  • ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024

    เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-08-07
  • 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023

    เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-01-30
  • รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร

    รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2023-11-15
รูปโปรโมชันในบทความ
โอกาสทองรออยู่! กระโจนเข้ามา!พร้อมรับโบนัส $100 ฟรี!
ทองคำ ทองคำ

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย