สำรวจแนวโน้มค่าเงินเยน (JPY) 2567 - กลยุทธ์นักลงทุนและเทรดเดอร์

แม้จะไม่ใช่ผู้ที่คลั่งไคล้ญี่ปุ่นเท่าไร ก็คงได้ยินข่าวเสมอ ๆ ว่าเวลานี้เงินเยน (JPY) อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา หลายคนใช้โอกาสนี้เดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น ช้อปปิ้งสินค้าดีมีคุณภาพ ในราคาที่ถูกกว่าซื้อได้ในประเทศไทย แล้วนอกเหนือจากความสุขในการช้อปปิ้งล่ะ เราจะสามารถใช้โอกาสเงินเยนอ่อนค่านี้สร้างผลตอบแทนการลงทุน

ดังนั้น ในบทความแนะนำการลงทุนของ TOPONE Markets วันนี้ เราจะไปสำรวจข้อมูลเชิงลึกล่าสุดเกี่ยวกับเทรนด์อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินเยนในปี 2567 รวมถึงสำรวจปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการเปลี่ยนแปลง และสุดทา้ย พิจารณาว่า การเทรดค่าเงินเยนด้วยการใช้ CFD ในการเทรดระยะสั้นจะเป็นทางเลือกที่เหมาะกับคุณหรือไม่

ค่าเงินเยน (JPY) เป็นหนึ่งใน 8 สกุลเงินสำคัญของตลาดการเทรด Forex ดังนั้น การจับตาดูเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเยน จึงเป็นแนวคิดสำคัญในการเตรียมพร้อมกลยุทธ์การเทรดสำหรับปีหน้า

บทความที่น่าอ่านต่อ

• All You Need to Know: ทำไมค่าเงินเยน (JPY) ถึงอ่อน 2566

• เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยมีเครื่องหมาย 110 เป็นแนวรับหลัก

ภาพ: แนวโน้มค่าเงินเยน USDJPY ในรอบ 1 ปี ณ 28 พ.ย. 2566

จากกราฟราคา USDJPY ด้านบน ยิ่งเส้นไต่สูงขึ้นเท่าไร ยิ่งหมายถึงการอ่อนค่าของค่าเงินเยนมากขึ้นเท่านั้น

เช่นนั้น จึงมีกาคาดการณ์ว่าเงินเยนอาจแตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในปี 2567 ที่จะมาถึง การคาดการณ์นี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สังคมสูงวัยของญี่ปุ่น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา และการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่อาจเกิดขึ้นโดยธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) แม้ว่าการพยากรณ์เหล่านี้ด้วยความระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่ต้องการตัดสินใจโดยมีข้อมูลประกอบ

อีกประการหนึ่ง ตามข้อมูลเผยแพร่ของ Fitch Ratings เมื่อ 31 ต.ค. 2566 ได้ยืนยันญี่ปุ่นที่ A Outlook Stable สำหรับปี 2566 แนวโน้มนี้ชี้ให้เห็นถึงเสถียรภาพในแง่ของความน่าเชื่อถือทางเครดิตและผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจ บ่งชี้ว่าแม้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่ก็มีองค์ประกอบเชิงบวกที่สนับสนุนสถานะโดยรวมของประเทศ

อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรามิได้เป็นผลมาจากปัจจัยภายในเท่านั้น เราต้องไม่ลืมว่าอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ เทียบกับอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลญี่ปุ่นจะมีบทบาทสำคัญ ส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนระหว่างสองประเทศนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสกุลเงินของตนและรวมถึงการผันแปรของค่าเงินเยนด้วย

ปี 2567 เงินเยนอาจอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 30 ปี

ในการเทรด Forex การคาดการณ์มีบทบาทสำคัญในการชี้แนะนักลงทุนและเทรดเดอร์ การคาดการณ์อย่างหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของหลาย ๆ คนคือการคาดการณ์ว่าเงินเยนของญี่ปุ่นจะแตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในปี 2567 คำกล่าวอ้างที่ชัดเจนนี้มาจากนักพยากรณ์ชั้นนำที่เป็นที่รู้จักในด้านการคาดการณ์แนวโน้มของสกุลเงินอย่างแม่นยำ

เศรษฐกิจของญี่ปุ่นต้องดิ้นรนกับแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดมานานหลายปี ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลงได้ นอกจากนี้ นโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังประสบความสำเร็จอย่างจำกัดในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ

การผันแปรของอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นรายปี

ภาพ: อัตราเงินเฟ้อรายปีของญี่ปุ่น ณ 28 พ.ย. 2566

เมื่อกล่าวถึงการคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ย่อมหมายถึงเหตุการณ์จะเป็นไปทางใดก็ได้เมื่อถึงเวลานั้น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่จะต้องเข้าใกล้การคาดการณ์นี้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดมีความซับซ้อนและอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าจะยังคงไม่แน่นอนว่าเงินเยนของญี่ปุ่นจะแตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในปี 2567 ตามที่นักพยากรณ์ชั้นนำคาดการณ์ไว้หรือไม่ แต่การทำความเข้าใจการคาดการณ์เหล่านี้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ นักลงทุนและเทรดเดอร์ควรระมัดระวังและปรับกลยุทธ์ตามสภาพตลาดในปัจจุบัน แทนที่จะอาศัยการคาดการณ์เพียงอย่างเดียว

ฟิทช์เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ยืนยันเครดิตญี่ปุ่นมีเสถียรภาพ

Fitch Ratings หนึ่งในหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับโลก ได้ยืนยันแนวโน้มของญี่ปุ่นว่ามีเสถียรภาพในปี 2023 นี่ถือเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่กำลังมองหาช่องทางในตลาดเงินเยนของญี่ปุ่นในปี 2567 ที่จะถึงนี้

การยืนยันโดย Fitch Ratings บ่งชี้ว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ ซึ่งสะท้อนถึงการประเมินเชิงบวกของปัจจัยต่าง ๆ เช่น วินัยทางการคลัง เสถียรภาพทางการเมือง และนโยบายการเงินที่มีประสิทธิผล ตัวชี้วัดสำคัญเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าญี่ปุ่นมีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายหรือความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในเศรษฐกิจโลก 

นอกจากนี้ แนวโน้มที่ ‘มั่นคง’ ยังหมายความว่ามีความเสี่ยงน้อยลงในการลงทุนในสินทรัพย์ของญี่ปุ่น อันดับ A แสดงถึงความน่าเชื่อถือทางเครดิตในระดับสูง และแสดงถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศที่มีอันดับต่ำกว่า

ผู้ลงทุนสามารถอุ่นใจได้เมื่อรู้ว่าคำยืนยันของ Fitch Ratings ถือเป็นการรับรองความสามารถของญี่ปุ่นในการจัดการภาระหนี้และรักษาเสถียรภาพทางการเงิน สิ่งนี้น่าจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่กำลังมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหรือโอกาสในการกระจายความเสี่ยง

การประกาศจาก Fitch Ratings ครั้งนี้ตอกย้ำความเชื่อมั่นในตลาดเงินเยนของญี่ปุ่นในปี 2567 ผู้ลงทุนสามารถพิจารณารวมสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินเยนไว้ในพอร์ตการลงทุนของตน ขณะที่พวกเขาฝ่าฟันความผันผวนของสกุลเงินที่อาจเกิดขึ้น และแสวงหาโอกาสในการลงทุนในสภาพแวดล้อมที่มั่นคง

ในการคาดการณ์แนวโน้มค่าเงินเยนปี 2567 ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะส่งผลต่อค่าเงินเยนอย่างไม่ต้องคือการเปรียบเทียบอย่างต่อเนื่องระหว่างอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ กับอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลญี่ปุ่น และในฐานะที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้ซื้อรายใหญ่ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ กอปรกับอัตราดอกเบี้ยมีบทบาทสำคัญในการกำหนดความแข็งแกร่งของสกุลเงินใด ๆ นักลงทุนและเทรดเดอร์จึงติดตามความผันแปรที่เกิดขึ้นต่อสกุลเงินทั้ง 2 นี้อย่างใกล้ชิด

การตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์เทียบกับเงินเยน หากมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ จะสูงขึ้น อาจส่งผลให้ความต้องการในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง

อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและความเชื่อมั่นโดยรวมต่อสกุลเงินของตน แม้ว่าญี่ปุ่นต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น ประชากรสูงวัยและระดับหนี้สาธารณะที่สูง แต่ภาคการส่งออกที่แข็งแกร่งยังคงส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกอาจช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนหรือเทรดกับค่าเงินเยน

บทความที่น่าอ่านต่อ

• ปลดล็อกศักยภาพการเงิน: แนวโน้มค่าเงิน USD จะให้โอกาสลงทุนอย่างไร

• วิเคราะห์แนวโน้มราคาทอง ทำนายเศรษฐกิจปี 2567

Bond Yield สหรัฐฯ และญี่ปุ่น

การเปรียบเทียบระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ กับอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อตลาดค่าเงินเยน อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลแสดงถึงผลตอบแทนที่นักลงทุนสามารถคาดหวังได้จากการลงทุนในพันธบัตรเหล่านั้น และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

ภายหลังการฟื้นตัวจากโรคระบาด ปัจจุบัน สหรัฐฯ ประสบปัญหาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น เนื่องจากความคาดหวังของอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐ อัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ของสหรัฐฯ มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การไหลเข้าของเงินทุนในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้เงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น เช่น ค่าเงินเยน

บทความที่น่าอ่านต่อ

• เงินเฟ้อมีผลกระทบต่อดอลลาร์อย่างไร?

• FED (เฟด) คือใคร มีอิทธิพลต่อเงินเราอย่างไร

ในทางกลับกัน ญี่ปุ่นต้องดิ้นรนกับอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซามานานหลายปี ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นยังคงต่ำมากหรือติดลบในบางครั้ง อัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่าเหล่านี้ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนน่าดึงดูดใจน้อยลงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้แรงจูงใจในการถือครองสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินเยนลดลง

ภาพ: ภาพรวมแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น ตลอด 1 ปี ณ 28 พ.ย. 2566

ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ กับอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลญี่ปุ่น จะเห็นได้ชัดว่าอัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นอาจดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้ละทิ้งสินทรัพย์ของญี่ปุ่นหันไปหาสินทรัพย์ของอเมริกา การเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของนักลงทุนอาจนำไปสู่การอ่อนค่าของค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไปตลอดปี 2567

คุ้มไหมที่จะลงทุน USDJPY

จะเป็นการดีหรือไม่ ที่จะลงทุนกับค่าเงินเยนในตอนนี้ นี่เป็นคำถามที่นักลงทุนและเทรดเดอร์จำนวนมากอาจถามตัวเองเมื่อพิจารณาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อสร้างผลตอบแทน แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายอนาคตได้อย่างมั่นใจ แต่ก็มีปัจจัยหลายประการที่สามารถช่วยประกอบการตัดสินใจนี้ได้

เมื่อพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมที่เป็นไปได้ข้างต้น และการตรวจสอบกับแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมและหลากหลายเพื่อยืนยันแนวโน้ม คุณจะสามารถให้คำตอบและแนวทางกับตนเองได้ว่าควรเสี่ยงกับการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มค่าเงินเยนในปี 2567 ที่จะมาถึงหรือไม่

การลงทุน ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินเยนหรือสินทรัพย์ใด ๆ จะเป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการยอมรับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนของแต่ละบุคคล เป็นหน้าที่ของนักลงทุนแต่ละท่านในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจใด ๆ และเลือกกลยุทธ์การเทรดที่รับกับความเสี่ยงและแน;โน้มนั้น หนึ่งในวิธีที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในเวลานี้คือการเทรด CFD เก็งกำไรบนการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเยนที่ผกผันกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

วิธีหนึ่งในการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของแนวโน้มค่าเงินเยน คือการเทรดผ่านสัญญาเทรดส่วนต่าง (CFD) CFD ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรความเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตของเครื่องมือทางการเงินต่าง ๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของมันจริง ๆ ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ CFD เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเทรด Forex

ด้วยการใช้ CFD คุณจะเปิดสถานะซื้อ (Short) หรือขาย (Long) คู่เงิน USDJPY ได้จากการวิเคราะห์แนวโน้มและการคาดการณ์ของตลาด หากประเมนิว่า ค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคู่เงิน JPY อื่น ๆ ก็จะเลือกเปิดสถานะขาย (Long) และอาจได้กำไรจากการอ่อนค่านี้ ในทางกลับกัน หากพวกเขาคาดการณ์ว่าค่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้น พวกเขาสามารถเปิดสถานะซื้อและรับประโยชน์จากการแข็งค่าได้

บทความที่น่าอ่านต่อ

• การเทรด Forex คืออะไร

• คู่มือการเทรด Forex คู่เงิน USDJPY

ข้อดีของการเทรดค่าเงินเยน ผ่าน CFD มีมากกว่าเพียงแค่การเข้าสถานะตามการคาดการณ์สกุลเงิน เทรดเดอร์ยังสามารถใช้เลเวอเรจเมื่อเทรด CFD ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะต้องฝากเงินเพียงเศษเสี้ยวของมูลค่าการเทรดทั้งหมดเป็นข้อกำหนดด้านมาร์จิ้น สิ่งนี้ทำให้พวกเขาสามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นด้วยการลงทุนเริ่มแรกที่ค่อนข้างเล็ก

คว้าโอกาสทำกำไร กับการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเยน และแนวโน้มที่แปรผกผันกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านการเทรดเก็งกำไร CFD

เทรด USD/EUR/JPY/AUD ฯลฯ แบบออนไลน์

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!

แม้จะไม่ใช่ผู้ที่คลั่งไคล้ญี่ปุ่นเท่าไร ก็คงได้ยินข่าวเสมอ ๆ ว่าเวลานี้เงินเยน (JPY) อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา หลายคนใช้โอกาสนี้เดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น ช้อปปิ้งสินค้าดีมีคุณภาพ ในราคาที่ถูกกว่าซื้อได้ในประเทศไทย แล้วนอกเหนือจากความสุขในการช้อปปิ้งล่ะ เราจะสามารถใช้โอกาสเงินเยนอ่อนค่านี้สร้างผลตอบแทนการลงทุน

ดังนั้น ในบทความแนะนำการลงทุนของ TOPONE Markets วันนี้ เราจะไปสำรวจข้อมูลเชิงลึกล่าสุดเกี่ยวกับเทรนด์อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินเยนในปี 2567 รวมถึงสำรวจปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการเปลี่ยนแปลง และสุดทา้ย พิจารณาว่า การเทรดค่าเงินเยนด้วยการใช้ CFD ในการเทรดระยะสั้นจะเป็นทางเลือกที่เหมาะกับคุณหรือไม่

ค่าเงินเยน (JPY) เป็นหนึ่งใน 8 สกุลเงินสำคัญของตลาดการเทรด Forex ดังนั้น การจับตาดูเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเยน จึงเป็นแนวคิดสำคัญในการเตรียมพร้อมกลยุทธ์การเทรดสำหรับปีหน้า

บทความที่น่าอ่านต่อ

• All You Need to Know: ทำไมค่าเงินเยน (JPY) ถึงอ่อน 2566

• เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยมีเครื่องหมาย 110 เป็นแนวรับหลัก

ภาพ: แนวโน้มค่าเงินเยน USDJPY ในรอบ 1 ปี ณ 28 พ.ย. 2566

จากกราฟราคา USDJPY ด้านบน ยิ่งเส้นไต่สูงขึ้นเท่าไร ยิ่งหมายถึงการอ่อนค่าของค่าเงินเยนมากขึ้นเท่านั้น

เช่นนั้น จึงมีกาคาดการณ์ว่าเงินเยนอาจแตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในปี 2567 ที่จะมาถึง การคาดการณ์นี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สังคมสูงวัยของญี่ปุ่น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา และการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่อาจเกิดขึ้นโดยธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) แม้ว่าการพยากรณ์เหล่านี้ด้วยความระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่ต้องการตัดสินใจโดยมีข้อมูลประกอบ

อีกประการหนึ่ง ตามข้อมูลเผยแพร่ของ Fitch Ratings เมื่อ 31 ต.ค. 2566 ได้ยืนยันญี่ปุ่นที่ A Outlook Stable สำหรับปี 2566 แนวโน้มนี้ชี้ให้เห็นถึงเสถียรภาพในแง่ของความน่าเชื่อถือทางเครดิตและผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจ บ่งชี้ว่าแม้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่ก็มีองค์ประกอบเชิงบวกที่สนับสนุนสถานะโดยรวมของประเทศ

อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรามิได้เป็นผลมาจากปัจจัยภายในเท่านั้น เราต้องไม่ลืมว่าอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ เทียบกับอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลญี่ปุ่นจะมีบทบาทสำคัญ ส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนระหว่างสองประเทศนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสกุลเงินของตนและรวมถึงการผันแปรของค่าเงินเยนด้วย

ปี 2567 เงินเยนอาจอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 30 ปี

ในการเทรด Forex การคาดการณ์มีบทบาทสำคัญในการชี้แนะนักลงทุนและเทรดเดอร์ การคาดการณ์อย่างหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของหลาย ๆ คนคือการคาดการณ์ว่าเงินเยนของญี่ปุ่นจะแตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในปี 2567 คำกล่าวอ้างที่ชัดเจนนี้มาจากนักพยากรณ์ชั้นนำที่เป็นที่รู้จักในด้านการคาดการณ์แนวโน้มของสกุลเงินอย่างแม่นยำ

เศรษฐกิจของญี่ปุ่นต้องดิ้นรนกับแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดมานานหลายปี ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลงได้ นอกจากนี้ นโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังประสบความสำเร็จอย่างจำกัดในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ

การผันแปรของอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นรายปี

ภาพ: อัตราเงินเฟ้อรายปีของญี่ปุ่น ณ 28 พ.ย. 2566

เมื่อกล่าวถึงการคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ย่อมหมายถึงเหตุการณ์จะเป็นไปทางใดก็ได้เมื่อถึงเวลานั้น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่จะต้องเข้าใกล้การคาดการณ์นี้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดมีความซับซ้อนและอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าจะยังคงไม่แน่นอนว่าเงินเยนของญี่ปุ่นจะแตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในปี 2567 ตามที่นักพยากรณ์ชั้นนำคาดการณ์ไว้หรือไม่ แต่การทำความเข้าใจการคาดการณ์เหล่านี้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ นักลงทุนและเทรดเดอร์ควรระมัดระวังและปรับกลยุทธ์ตามสภาพตลาดในปัจจุบัน แทนที่จะอาศัยการคาดการณ์เพียงอย่างเดียว

ฟิทช์เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ยืนยันเครดิตญี่ปุ่นมีเสถียรภาพ

Fitch Ratings หนึ่งในหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับโลก ได้ยืนยันแนวโน้มของญี่ปุ่นว่ามีเสถียรภาพในปี 2023 นี่ถือเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่กำลังมองหาช่องทางในตลาดเงินเยนของญี่ปุ่นในปี 2567 ที่จะถึงนี้

การยืนยันโดย Fitch Ratings บ่งชี้ว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ ซึ่งสะท้อนถึงการประเมินเชิงบวกของปัจจัยต่าง ๆ เช่น วินัยทางการคลัง เสถียรภาพทางการเมือง และนโยบายการเงินที่มีประสิทธิผล ตัวชี้วัดสำคัญเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าญี่ปุ่นมีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายหรือความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในเศรษฐกิจโลก 

นอกจากนี้ แนวโน้มที่ ‘มั่นคง’ ยังหมายความว่ามีความเสี่ยงน้อยลงในการลงทุนในสินทรัพย์ของญี่ปุ่น อันดับ A แสดงถึงความน่าเชื่อถือทางเครดิตในระดับสูง และแสดงถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศที่มีอันดับต่ำกว่า

ผู้ลงทุนสามารถอุ่นใจได้เมื่อรู้ว่าคำยืนยันของ Fitch Ratings ถือเป็นการรับรองความสามารถของญี่ปุ่นในการจัดการภาระหนี้และรักษาเสถียรภาพทางการเงิน สิ่งนี้น่าจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่กำลังมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหรือโอกาสในการกระจายความเสี่ยง

การประกาศจาก Fitch Ratings ครั้งนี้ตอกย้ำความเชื่อมั่นในตลาดเงินเยนของญี่ปุ่นในปี 2567 ผู้ลงทุนสามารถพิจารณารวมสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินเยนไว้ในพอร์ตการลงทุนของตน ขณะที่พวกเขาฝ่าฟันความผันผวนของสกุลเงินที่อาจเกิดขึ้น และแสวงหาโอกาสในการลงทุนในสภาพแวดล้อมที่มั่นคง

ในการคาดการณ์แนวโน้มค่าเงินเยนปี 2567 ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะส่งผลต่อค่าเงินเยนอย่างไม่ต้องคือการเปรียบเทียบอย่างต่อเนื่องระหว่างอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ กับอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลญี่ปุ่น และในฐานะที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้ซื้อรายใหญ่ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ กอปรกับอัตราดอกเบี้ยมีบทบาทสำคัญในการกำหนดความแข็งแกร่งของสกุลเงินใด ๆ นักลงทุนและเทรดเดอร์จึงติดตามความผันแปรที่เกิดขึ้นต่อสกุลเงินทั้ง 2 นี้อย่างใกล้ชิด

การตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์เทียบกับเงินเยน หากมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ จะสูงขึ้น อาจส่งผลให้ความต้องการในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง

อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและความเชื่อมั่นโดยรวมต่อสกุลเงินของตน แม้ว่าญี่ปุ่นต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น ประชากรสูงวัยและระดับหนี้สาธารณะที่สูง แต่ภาคการส่งออกที่แข็งแกร่งยังคงส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกอาจช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนหรือเทรดกับค่าเงินเยน

บทความที่น่าอ่านต่อ

• ปลดล็อกศักยภาพการเงิน: แนวโน้มค่าเงิน USD จะให้โอกาสลงทุนอย่างไร

• วิเคราะห์แนวโน้มราคาทอง ทำนายเศรษฐกิจปี 2567

Bond Yield สหรัฐฯ และญี่ปุ่น

การเปรียบเทียบระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ กับอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อตลาดค่าเงินเยน อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลแสดงถึงผลตอบแทนที่นักลงทุนสามารถคาดหวังได้จากการลงทุนในพันธบัตรเหล่านั้น และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

ภายหลังการฟื้นตัวจากโรคระบาด ปัจจุบัน สหรัฐฯ ประสบปัญหาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น เนื่องจากความคาดหวังของอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐ อัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ของสหรัฐฯ มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การไหลเข้าของเงินทุนในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้เงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น เช่น ค่าเงินเยน

บทความที่น่าอ่านต่อ

• เงินเฟ้อมีผลกระทบต่อดอลลาร์อย่างไร?

• FED (เฟด) คือใคร มีอิทธิพลต่อเงินเราอย่างไร

ในทางกลับกัน ญี่ปุ่นต้องดิ้นรนกับอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซามานานหลายปี ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นยังคงต่ำมากหรือติดลบในบางครั้ง อัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่าเหล่านี้ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนน่าดึงดูดใจน้อยลงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้แรงจูงใจในการถือครองสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินเยนลดลง

ภาพ: ภาพรวมแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น ตลอด 1 ปี ณ 28 พ.ย. 2566

ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ กับอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลญี่ปุ่น จะเห็นได้ชัดว่าอัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นอาจดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้ละทิ้งสินทรัพย์ของญี่ปุ่นหันไปหาสินทรัพย์ของอเมริกา การเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของนักลงทุนอาจนำไปสู่การอ่อนค่าของค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไปตลอดปี 2567

คุ้มไหมที่จะลงทุน USDJPY

จะเป็นการดีหรือไม่ ที่จะลงทุนกับค่าเงินเยนในตอนนี้ นี่เป็นคำถามที่นักลงทุนและเทรดเดอร์จำนวนมากอาจถามตัวเองเมื่อพิจารณาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อสร้างผลตอบแทน แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายอนาคตได้อย่างมั่นใจ แต่ก็มีปัจจัยหลายประการที่สามารถช่วยประกอบการตัดสินใจนี้ได้

เมื่อพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมที่เป็นไปได้ข้างต้น และการตรวจสอบกับแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมและหลากหลายเพื่อยืนยันแนวโน้ม คุณจะสามารถให้คำตอบและแนวทางกับตนเองได้ว่าควรเสี่ยงกับการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มค่าเงินเยนในปี 2567 ที่จะมาถึงหรือไม่

การลงทุน ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินเยนหรือสินทรัพย์ใด ๆ จะเป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการยอมรับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนของแต่ละบุคคล เป็นหน้าที่ของนักลงทุนแต่ละท่านในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจใด ๆ และเลือกกลยุทธ์การเทรดที่รับกับความเสี่ยงและแน;โน้มนั้น หนึ่งในวิธีที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในเวลานี้คือการเทรด CFD เก็งกำไรบนการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเยนที่ผกผันกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

วิธีหนึ่งในการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของแนวโน้มค่าเงินเยน คือการเทรดผ่านสัญญาเทรดส่วนต่าง (CFD) CFD ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรความเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตของเครื่องมือทางการเงินต่าง ๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของมันจริง ๆ ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ CFD เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเทรด Forex

ด้วยการใช้ CFD คุณจะเปิดสถานะซื้อ (Short) หรือขาย (Long) คู่เงิน USDJPY ได้จากการวิเคราะห์แนวโน้มและการคาดการณ์ของตลาด หากประเมนิว่า ค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคู่เงิน JPY อื่น ๆ ก็จะเลือกเปิดสถานะขาย (Long) และอาจได้กำไรจากการอ่อนค่านี้ ในทางกลับกัน หากพวกเขาคาดการณ์ว่าค่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้น พวกเขาสามารถเปิดสถานะซื้อและรับประโยชน์จากการแข็งค่าได้

บทความที่น่าอ่านต่อ

• การเทรด Forex คืออะไร

• คู่มือการเทรด Forex คู่เงิน USDJPY

ข้อดีของการเทรดค่าเงินเยน ผ่าน CFD มีมากกว่าเพียงแค่การเข้าสถานะตามการคาดการณ์สกุลเงิน เทรดเดอร์ยังสามารถใช้เลเวอเรจเมื่อเทรด CFD ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะต้องฝากเงินเพียงเศษเสี้ยวของมูลค่าการเทรดทั้งหมดเป็นข้อกำหนดด้านมาร์จิ้น สิ่งนี้ทำให้พวกเขาสามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นด้วยการลงทุนเริ่มแรกที่ค่อนข้างเล็ก

คว้าโอกาสทำกำไร กับการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเยน และแนวโน้มที่แปรผกผันกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านการเทรดเก็งกำไร CFD

เทรด USD/EUR/JPY/AUD ฯลฯ แบบออนไลน์

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!