
คริปโตคืออะไร อธิบายง่าย ๆ สำหรับมือใหม่
เงินคริปโตได้เปิดความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการใช้เงิน และการลงทุนของเรา สำหรับผู้เริ่มต้นอาจยังสับสนว่าควรเริ่มตรงไหน ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้พื้นฐานเพื่อให้คุณก้าวสู่โลกคริปโตได้อย่างปลอดภัย
คริปโต หรือคริปโทเคอร์เรนซี่ ตามวิธีการเขียนทับศัพท์ที่ถูกต้องของราชบัณฑิตยสถาน หมายถึงสกุลเงินรูปแบบใหม่ที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล (Digital Currency) และกำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก คริปโตเป็นวิธีการแลกเปลี่ยนเงินที่ไม่เหมืนใคร ทลายการพึ่งพาคนกลางอย่างสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม ทำให้สามารถทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ไม่มีคนมาลอบดูข้อมูล ใช้เวลาดำเนินการเร็วขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายลง
ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า เงินคริปโตคืออะไร ประเภทของคริปโตเคอร์เรนซี่มีอะไรบ้าง ทำงานอย่างไรในแบบที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น และรวมถึงไขข้อสงสัยสุดคลาสสิกที่ว่า คริปดตกับบิทคอยน์ต่างกันอย่างไร นอกจากนี้ เราจะมาดูที่สกุลเงินดิจิทัลที่เป็นที่นิยมที่สุดบางส่วน รวมถึงวิธีที่คุณสามารถเริ่มต้นลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลเหล่านั้น!
เงินคริปโตคืออะไร
คริปโตเคอร์เรนซี่เป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือสกุลเงินเสมือนที่ใช้การเข้ารหัส (เรียกว่า Cryptography) เพื่อรักษาความปลอดภัยของธุรกรรม เงินคริปโตนั้นยากที่จะปลอมแปลงเนื่องจากคุณลักษณะด้านความปลอดภัยนี้ และด้วยคุณสมบัติที่กำหนดของสกุลเงินดิจิทัลและเนื้อหาที่ดึงดูดใจมากที่สุดคือธรรมชาติที่เป็นธรรมชาติแบบนี้ของมัน ไม่มีการควบคุมดูแลเสถียรภาพจากรัฐบาลหรือหน่วยงานใด ๆ ราคาของมันจะปรับขึ้นหรือลงตามความต้องการของตลาด ณ เวลาหนึ่ง ๆ
ลองดูคร่าว ๆ ที่กราฟราคาด้านล่างนี้ แสดงถึงมูลค่าของ Bitcoin (BTC) ต่อมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรก
การที่เงินคริปโตนั้นมีการกระจายอำนาจ จึงหมายความว่าไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลหรือสถาบันการเงินใด ๆ สกุลเงินดิจิทัลที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ Bitcoin แต่ก็มีสกุลเงินดิจิทัลประเภทอื่น ๆ อีกมากมายเช่นกัน แต่ละเหรียญก้มอบอรรถประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป ก่อนเริ่มต้นใช้งาน คุณควรศึกาาถึงพื้นฐานการทำงานของมัน การใช้งาน และดูว่ามีสภาพคล่องมากน้อยแค่ไหน และควรค่าต่อการลงทุนหรือเปล่า ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ เราจะได้กล่าวถึงในหัวข้อถัด ๆ ไปในบทความนี้
คริปโตกับบิตคอยน์ ต่างกันอย่างไรบ้าง
ด้วยความที่โลกของเรา มี Bitcoin เป็นเงินคริปโตเหรียญแรก ที่ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้บันทึกการดำเนินการทางธุรกรรม ผู้คนจึงเผลอเข้าใจว่า Bitcoin กับบล็อกเชนเป็นสิ่งสิ่งเดียวกัน หากแต่ในความเป็นจริง Bitcoin เป็นเพียงสกุลเงินดิจิทัลหนึ่ง ที่ใช้ประโยชน์จากบล็อกเชน เพื่อขจัดปัญหาหรือข้อบกพร่องแบบที่มักพบในธุรกรรมแบบมีคนกลางกำกับดูแล
เราได้กล่าวถึงเรื่องของเทคโนโลยีบล็อกเชนไว้ในบทความนี้แล้ว คุณสามารถศึกษาถึงพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชน วิธีการใช้งาน และประโยชน์ของบล็อกเชนที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่การเงินการธนาคารเท่านั้น
สกุลเงินดิจิทัลมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดและใช้กันอย่างแพร่หลาย Bitcoin เป็นกสุลเงินดิจิทัลที่ใช้ฉันทามติแบบ Proof-of-work หรือ PoW ที่แก้ไขโจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยการขุด หรือที่เรียกว่าการขุด Bitcoin เมื่อหนึ่งธุรกรรมสามารถยืนยันได้แล้ว ก็จะถูกบันทึกข้อมูลลงไปในบล็อกเชน เรียงร้อยต่อกันเป็นห่วงโซ่ ยากต่อการปลอมแปลงหรือบิดเบือน เพราะไม่เช่นนั้น ผู้คนในระบบจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ ได้
ในอีกทางหนึ่ง หลังการเกิดขึ้นของ Bitcoin ก็มีสกุลเงินอื่น ๆ เช่น Ethereum, Ripple, Cadano ตามมาอีกมากมาย ปัจจุบันมีเหรียญคริปโตหมุนเวียนในระบบการเงินของเราทั่วโลกกว่า 10,000 เหรียญ และแน่นอนว่า ผู้มาถึงเป็นคนแรกอย่าง Bitcoin เป็นเงินคริปโตที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด หรือหมายความว่า Bitcoin เป็นที่นิยมมากที่สุด และมีสภาพคล่องมากที่สุดในบรรดาเหรียญคริปโตนั่นเอง ที่ภาพด้านล่างนี้ แสดงถึงอันดับมูลค่าตลาดของเหรียญคริปโต ที่จัดอันดับโดย CoinMarketCap ณ วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2566
บางคนผันตัวมาเป็นนักขุดเหรียญที่ใช้อัลกอริธึมแบบ PoW อย่าง Bitcoin บางคนนิยมซื้อมาขายไป รับกำไรจากส่วนต่างราคา บางคนนิยมซื้อมาเก็งกำไรไว้ แล้วขายตอนได้ราคาดี ๆ จะเห็นได้ว่า มีหลายวิธีที่คุณสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับเหรียญคริปโตได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะพื้นฐานทางคอมพิวเตอร์ขั้นสูง
เงินคริปโตทำงานอย่างไร
เงินคริปโตจัดเป็นโทเค็นดิจิทัลหรือสกุลเงินเสมือนที่ใช้การเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและควบคุมการสร้างหน่วยใหม่ ๆ
เหรียญคริปโตทำงานโดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าบล็กเชน โดยบล็อกเชนคือบัญชีแยกประเภท (Public Ledger) ที่กระจายอำนาจของธุรกรรม หมายความว่า ทุก ๆ คนในเครือข่ายจะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจยืนยันและเป็นเจ้าของธุรกรรมร่วมกันได้ ปราศจาการการปลอมแปลง
โดยทั่วไปแล้วการทำธุรกรรมจะเป็นแบบสาธารณะ ไม่ระบุชื่อ และปลอดภัยโดยใช้การเข้ารหัส ธุรกรรมแต่ละรายการได้รับการตรวจสอบและบันทึกเป็นบล็อก ๆ ในบล็อกเชน จากนั้นบล็อกแต่ละบล็อกจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมแต่ละรายการได้รับการตรวจสอบและไม่สามารถแก้ไขหรือลบบล็อกใด ๆ โดยไม่ต้องแก้ไขบล็อกที่ตามมาทั้งหมด
ระบบนี้มีความปลอดภัยเนื่องจากแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแก้ไขบล็อกเชนโดยปราศจากฉันทามติจากเครือข่ายผู้ใช้ ฉันทามติทำได้โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการขุด ซึ่งใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน เมื่อนักขุดแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ พวกเขาจะตรวจสอบธุรกรรมและเพิ่มลงในบล็อกเชน นักขุดจะได้รับรางวัลเป็นสกุลเงินดิจิทัลสำหรับความพยายาม
5 ประโยชน์จากการใช้เงินคริปโต
เงินคริปโตเกิดขึ้นด้วยความต้องการทลายรูปแบบเดิม ๆ ของการทำธุรกรรมทางการเงินที่กินเวลาและค่าธรรมเนียม และด้วยความมุ่งหวังว่าจะเป็นสื่อกลางในการชำระค่าใช้จ่าย ต่อไปนี้คือ 5 ประโยชน์ที่คุณอาจได้รับหากใช้เงินคริปโตอย่างถูกต้องด้วยความรู้
1. ผู้ใช้เงินคริปโตเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนจะมีความเป็นอิสระในการใช้จ่ายมากขึ้น สามารถรับหรือส่งเงินไปให้คนอื่น ๆ หรือชำระค่าบริการได้แล้วเสร็จในเวลาไม่กี่วินาที
ยิ่งเป็นเงินคริปโตสกุลใหม่ ๆ ที่ออกมา ต่างชูจุดแข็งว่าจะเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม อย่างเช่น Ethereum ก็ขนานนามตัวเองว่าเร็วกว่า ค่าธรรมเนียม (ค่าแก๊ส) ถูกกว่า Bitcoin ในขณะที่เหรียญ Solana ที่ออกมาหลัง Ethereum ก็บอกว่าตัวเองสามารถปรับขนาดได้ดีกว่า เหมาะต่อการรองรับธุรกรมมขนาดใหญ่ ๆ ได้ดีกว่า
2. ความที่เงินคริปโตคือเครื่องหมายของสกุลเงินที่เป็นสากล หมายความว่าทุกคนบนโลกมีเงินสกุลหนึ่งเดียวกันนี้ที่สามารถใช้ได้ทุกที่ในโลก ทำให้เป็นสกุลเงินที่เหมาะสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์และการค้าระหว่างประเทศ หรือแม้กระทั่งการแลกเปลี่ยน (Swap) เหรียญจากเหรียญคริปโตหนึ่งไปอีกเหรียญหนึ่ง ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ในทันทีผ่านสิ่งที่เรียกว่า Decentralized Excahnge (DEX) เช่น PancakeSwap
การ Swap เหรียญคริปโตหนึ่งไปอีกเหรียญหนึ่ง นั้นมีความสะดวกและต้นทุนน้อยกว่าเงิน Fiat แบบดั้งเดิมอย่างเงินบาท เยน หรือดอลลาร์สหรัฐฯ มาก ทั้งยังมีค่าะรรมเียมที่น้อยกว่ามาก เมื่อเทียบกับส่วนต่างราคาเวลาเรานำเงินบาทไปซื้อเงินต่างประเทศ แถมยังไม่ต้องเสียค่าโอนระหว่างประเทศอีกด้วย
3. การทำธุรกรรมด้วยเงินคริปโตจะไม่ระบุชื่อ ไม่ระบุตัวตน ขอเพียงข้อมูลของวอลเล็ตที่จะได้รับส่งระหว่างกันมีความถูกต้อง ก็สามารถส่งเงินคริปโตถึงกันได้ง่าย ๆ
วอลเล็ตที่กล่าวถึงคือ กระเป๋าเงินคริปโต ที่เราจะใช้จัดเก็บเหรียญคริปโตชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น BTC ETH SOL ฯลฯ และเมื่อต้องการใช้จ่าย ก็เพียงขอที่อยู่วอลเล็ตของผู้รับ และข้อมูลประกอบอื่น ๆ อีกนิดหน่อย ก็ส่งเงินถึงกันได้แล้ว
คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมถึงประเภทต่าง ๆ ของคริปโตวอลเล็ตได้จากบทความนี้ เพื่อพิจารณาว่ากระเป๋าเงินคริปโตแบบซอฟต์แวร์วอลเล็ตหรือฮาร์ดแวร์วอลเล็ตจะเหมาะต่อการใช้งานมากกว่ากัน
4. มีเงินคริปโตบางประเภท ที่เรียกว่า Stablecoin เงินคริปโตประเภทนี้ถูกสร้างโดยการอิงราคาแบบ 1:1 กับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (ในอนาคตก็อาจมีเหรียญคริปโตที่ตรึงราคากับสกุลเงินอื่น ๆ) ทำให้มีความผันผวนที่น้อยกว่าเงินคริปโตที่ไม่ได้อิงมูลค่ากับสิ่งใด ๆ จึงอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีในยามต้องการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน
คุณสามารถถอืเหรียญ USDT USDC หรือ BUSD ไว้ในคริปโตวอลเล็ต แล้วใช้ใช้จ่ายหรือเทรดเป็นเงิน Fiat ออกมาในยามที่เห็นว่าราคานั้นน่าสนใจ
5. ความผันผวนตามธรรมชาติของเหรียญคริปโต ได้ดึงดูดผู้คนให้เข้าสู่ตลาด บางคนทำกำไรได้ บางคนพ่ายแพ้ นั่นเป็นคำถามที่น่าสนใจว่า เหตุใดบางคนจึงสามารถทำกำไรจากการเทรดคริปโตโดยอาศัยความผันผวนได้ ซึ่งคุณเองก็สามารถเริ่มต้นได้เช่นกัน ด้วยการเข้าใจธรรมชาติ และความยิยมของเหรียญคริปโตแต่ละชนิด แล้วเข้าตลาด ออกตลาดในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ความเสี่ยงของคริปโตมีอะไรบ้าง
เมื่อกล่าวถึงคริปโตเคอร์เรนซี่ หลายคนก็กังวลว่ามันจะมีความเสี่ยงประเภทใดบ้างที่ควรระวังหรือรู้ไว้ก่อนเริ่มต้นซื้อขายกับมัน จริง ๆ แล้วไม่มีสินทรัพย์การลงทุนใด ๆ ที่จะปลอดภัย ให้ผลตตอบแทนที่ดี 100% ตลอดกาล อยู่ที่การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตไปยังสินทรัพย์การลงทุนที่หลากหลาย และรู้จักใช้ความผันผวนให้เกิดประโยชน์ต่อพอร์ต
โดยทั่วไป เหรียญคริปโตมักจะซื้อขายบนกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ หรือที่เรียกว่าการแลกเปลี่ยนแบบ Peer-to-Peer (P2P) ที่เป็นการซื้อขายตกลงราคากันตามสมัครใจโดยผู้ขายและผู้ซื้อ โดยมีกระดานเทรดทำหน้าที่เป็นพื้นที่อำนวยความสะดวกให้เท่านั้น
ต่อไปนี้คือความเสี่ยงของเหรียญคริปโดตประเภทต่าง ๆ ที่ควรทำความเข้าใจก่อนเริ่มต้นเข้าไปมีส่วนร่วมกับตลาด
1. ความผันผวน
ราคาของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนสูงและสามารถผันผวนได้อย่างกว้างในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งเราไม่อาจประเมินได้เลยบว่ามันจะไปในทิศทางใด เว้นเสียแต่คุณต้องให้เวลากับการศึกษาสภาพแวดล้อมรอบ ๆ การเคลื่อนที่ของเหรียญ ว่ามีข่าวใหญ่ ๆ หรือคนสำคัญ ๆ กระทำอย่างไรบ้าง
สิ่งนี้ทำให้การลงทุน การเทรดในเงินโตคือการลงทุนที่มีความเสี่ยง เนื่องจากคุณอาจสูญเสียเงินจำนวนมากหากคุณลงทุนเมื่อราคาต่ำแล้วขายเมื่อราคาสูงขึ้น
2. แฮ็กเกอร์
ด้วยความที่สกลุงเินดิจิทัลไม่ได้ถูกควบคุมดูแลโดยใคร ๆ จึงทำให้ผู้ไม่หวังดีใช้ผลประโยน์สูง ๆ ในชั่วเวลาไม่เท่าไรมาเป็นตัวล่อให้มาลงทุน โดยการเขียนและดัดแปลงโค้ดคอมพิวเตอร์ที่ทำให้คุณไม่สามารถจัดการต่อเงินคริปโตที่อยู่ในเชนได้
วิธีป้องกันจากการถูกแฮ็กเกอร์คริปโตคือ ก่อนลงทุนในโปรเจ็กต์เงินคริปโตใหม่ ๆ ต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ออก บล็อกเชนที่ใช้ ชื่อเสียง และความนิยมของเหรียญหรือบล็อกเชนนั้น ๆ ก่อน ไม่โลภหลงไปกับอัตราผลตอบแทนที่ดูดีเกินจริงภายใต้ระยะเวลาอันจำกัด
3. การฉ้อโกง
มีหลายกรณีของการฉ้อโกงในตลาด คริปโตรวมถึงแผนการ Rug pull, ICO ปลอมและการหลอกลวง อย่าลืมศึกษาข้อมูลก่อนที่จะลงทุนในโครงการหรือบริษัทใด ๆ เพื่อมิให้ตนเองตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงทางไซเบอร์
4. กฎระเบียบ ข้อบังคับ
ปัจจุบัน เหรียญคริปโตส่วนใหญ่ไม่ได้รับการควบคุมโดยรัฐบาลใด ๆ นั่นหมายความว่า เงินของคุร คุณต้องดูแลรับผิดชอบเองทั้งหมด ดังนั้น การทำธุรกรรมใหญ่ ๆ เช่น Liquidity Pool, Yield Farming ที่จำเป็นต้องเข้าใจกลไกการเปลี่ยนแปลงของเหรียญ ราคา และอัตราผลตอบแทนนั้นอาจมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินต้นได้นั้น ยังไม่เป็นที่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น
เริ่มลงทุนในเหรียญคริปโตอย่างไร
คริปโตเป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือเสมือนที่ใช้การเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย คริปโตนั้นยากที่จะปลอมแปลงเนื่องจากคุณลักษณะด้านความปลอดภัยนี้ คุณสมบัติที่กำหนดของสกุลเงินดิจิทัลและเนื้อหาที่ดึงดูดใจมากที่สุดคือธรรมชาติที่เป็นธรรมชาติของมัน ไม่ได้ออกโดยหน่วยงานกลางใด ๆ ทำให้มีภูมิคุ้มกันในทางทฤษฎีต่อการแทรกแซงหรือการจัดการของรัฐบาล
คริปโตอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลและสามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Bitcoin, Ethereum, Litecoin และ Ripple เหรียญคริปโตมักมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนและสามารถถือเป็นการลงทุนได้
การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลเป็นการเก็งกำไรและมีความเสี่ยง แต่สามารถทำกำไรได้ ในการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล คุณต้องมีกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อเก็บเหรียญหรือโทเค็น คุณสามารถซื้อเหรียญหรือโทเค็นในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลโดยใช้สกุลเงิน fiat (เช่น สกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาล เช่น USD หรือ EUR) หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เมื่อคุณซื้อเหรียญหรือโทเค็นแล้ว คุณสามารถถือไว้เป็นการลงทุน แลกเปลี่ยนกับสกุลเงินดิจิทัลหรือสกุลเงินอื่น หรือใช้เพื่อซื้อสินค้าและบริการ
บทส่งท้าย
เงินคริปโต อาจเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เริ่มต้นในการมีส่วนร่วมในโลกการเงินและทำกำไรจากความผันผวนอย่างมีความรู้ จากการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของบล็อกเชนและเหรียญต่าง ๆ ไปจนถึงการซื้อขาย และจากนั้นค้นหาว่าเหรียญคริปโตใดเหมาะสมที่สุดสำหรับพอร์ตโฟลิโอ มีความรู้มากมายที่ต้องไขให้กระจ่างที่จะเริ่มต้น ด้วยความทุ่มเทและการวิจัย คุณสามารถเริ่มใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นตัวเลือกการลงทุนหรือแม้แต่เป็นวิธีการชำระเงินแบบวันต่อวันได้อย่างง่ายดาย
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 PolitiFi Coins น่าซื้อปี 2567
ท่องโลกสกุลเงินดิจิทัลไปกับเหรียญมีมล้อการเมือง PolitiFi Coin เกาะกระแสการเมืองระดับโลก เอาความฮามาเป็นจุดต่างในการสร้างผลตอบแทนแบบเร็ว ๆ ด้วยการเทรด CFD เหรียญมีมทางเลือก
2024-08-19
TOPONE Markets Analyst - ท็อป 5 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนปี 2567
ส่อง 5 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน เติบโตไปตามการเปลี่ยนแปลงและความนิยมของโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ด้วยเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนระยะยาวในปี 2567 นี้
2024-07-19
TOPONE Markets Analyst - สุดยอดคู่มือ วิธีลงทุนซื้อ Dogecoin ในไทย
อนาคตเหรียญ Doge เหรียญคริปโตสุดสนุนอันดับที่ 9 ของโลก กับการวางแผนซื้อ Doge เก็งกำไร ฉบับมือใหม่ในโลกคริปโตที่กำลังมองหาการดำเนินการที่สะดวกต่อการจัดการ
2024-07-09
TOPONE Markets Analyst - ภาษีคริปโตคืออะไร 2567 เทรดคริปโตแบบไหนต้องเสียภาษี
รอบรู้ภาษีคริปโตที่สำคัญก่อนเทรด จัดการ คำนวณ อย่างไรให้เสียภาษีคริปโตถูกต้องไม่โดนค่าปรับ และอีกวิธีในการเทรดคริปโตด้วย CFD ที่ไม่ต้องนำรายได้ไปคิดภาษีบุคคลธรรมดาประจำปี อัปเดท พ.ศ. 2567
2024-06-20
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!