
Market Cap คืออะไร บอกอะไรในมูลค่าสินทรัพย์
บอกขนาดใหญ่หรือเล็กของหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อเป็นหนึ่งในข้อมูลประกอบการพิจารณาลงทุนด้วยการดูมูลค่าตลาดรวมหรือ Market Cap

‘มูลค่าตามราคาตลาด’ หรือ Market Capitalization เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาเมื่อวิเคราะห์หุ้นหรือสกุลเงินดิจิทัลก่อนการลงทุน
Market Cap หมายความถึง มูลค่ารวมของหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่ ตัวเลขนี้คำนวณโดยการคูณ ‘ราคาหุ้นปัจจุบัน’ ด้วย ‘จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว’ เช่น หากบริษัท ก. มีหุ้นที่จำหน่ายแล้วอยู่จำนวน 10 ล้านหุ้น และแต่ละหุ้นซื้อขายกันที่ 10 บาทมูลค่า Market Cap สำหรับบริษัท ก. จะเท่ากับ 100 ล้านบาท
ในบทความนี้ จะอธิบายถึงข้อมูลพื้นฐานทั่วไปของ Market Cap ว่ามันคืออะไร และใช้เพื่อการวิเคราะห์หุ้นก่อนซื้อขายได้อย่างไรบ้าง
Market Cap (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด) คืออะไร
Market Cap หรือมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด คือราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน คูณด้วยจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว เราจะใช้ Market Cap นี้เป็นวิธีหนึ่งในการวัดขนาดของบริษัท นอกจากนี้ยังใช้โดยนักลงทุนเพื่อพิจารณาว่าบริษัทมีขนาดใหญ่พอที่จะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่
หากคุณต้องการทราบว่า บริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือดำเนินกิจการในลักษณะเดียวกัน บริษัทใดมีขนาดใหญ่กว่าหรือเล็กกว่า การดูมูลค่า Market Cap ก็จะเป็นหนึ่งคำใบ้ที่ใช้ได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
หุ้น Apple มีมูลค่า Market Cap 2.246 ล้านล้านดอลลาร์ (วันที่ 30 พ.ย. 2565)
เปรียบเทียบกับหุ้น Microsoft ที่เป็นหุ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเดียวกัน ในดัชนี Nasdaq มีมูลค่า Market Cap ที่ 1.792 ล้านล้านดอลลาร์ (ณ วันที่ 30 พ.ย. 2565)
ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า ในระหว่างสองหุ้นนี้ หุ้น Apple มีมูลค่า Market Cap ใหญ่กว่าหุ้น Microsoft
Market Cap สามารถใช้เปรียบเทียบบริษัทที่มีขนาดต่างกันได้ เช่น บริษัทขนาดเล็กที่มี Market Cap 100 ล้านดอลลาร์นั้นเล็กกว่าบริษัทขนาดใหญ่ที่มี Market Cap 10 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนใช้ Market Cap เพื่อระบุบริษัทที่อาจถูกตีราคาต่ำหรือตีราคาสูงเกินไป บริษัทที่มี Market Cap ต่ำอาจถูกตีราคาต่ำเกินไปเนื่องจากราคาหุ้นไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง ในทางกลับกัน บริษัทที่มี Market Cap สูงอาจถูกตีราคาเกินเพราะราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง
Market Cap ของเหรียญคริปโต
Market Cap ของสกุลเงินดิจิทัลคือมูลค่ารวมของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดที่หมุนเวียน Market Cap คำนวณโดยการคูณราคาของสกุลเงินดิจิทัลแต่ละสกุลด้วยอุปทานหมุนเวียน
Market Cap รวมของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดอยู่ที่กว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ณ เดือนมกราคม พ.ศ. 2564 สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดตาม Market Cap คือ Bitcoin ตามด้วย Ethereum, Tether และ XRP
ณ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 Bitcoin มี Market Cap ประมาณ 324,157,978,392 ดอลลาร์ Ethereum มี Market Cap 155,019,115,870 ดอลลาร์ ในขณะที่ Tether มี Market Cap 65,346,384,753 ดอลลาร์ ตามลำดับมูลค่า Market Cap 3 อันดับแรก
ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนสูง และราคาอาจผันผวนอย่างมากในแต่ละวัน สกุลเงินดิจิทัลยังอยู่ภายใต้การจัดการและความเสี่ยงอื่นๆ นักลงทุนควรระมัดระวังเมื่อลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลและควรลงทุนเฉพาะสิ่งที่พวกเขาสามารถเสียได้
สกุลเงินดิจิทัลมักจะซื้อขายแลกเปลี่ยน และราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการแลกเปลี่ยน Market Cap รวมยังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในราคาของสกุลเงินดิจิทัลแต่ละสกุล สกุลเงินดิจิทัลมักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุน และราคาสามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามความต้องการของนักลงทุน Market Cap รวมของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดจึงสามารถเห็นได้ว่าเป็นภาพสะท้อนของความเชื่อมั่นของนักลงทุน
วิธีคำนวณ Market Cap
ในการคำนวณ Market Cap ของบริษัท คุณจะต้องทราบมูลค่ารวมของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คุณสามารถค้นหาข้อมูลนี้ได้ในเว็บไซต์การเงิน เช่น Yahoo! Finance หรือ investing เมื่อคุณมีมูลค่ารวมของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เพียงคูณตัวเลขนี้ด้วยราคาหุ้นปัจจุบัน ซึ่งจะให้ Market Cap แก่บริษัทแก่คุณ
เมื่อพูดถึงการลงทุนในหุ้น Market Cap เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่ต้องให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ถึงขนาดของบริษัทและความสำคัญโดยรวมของบริษัทในตลาดหุ้น เช่น บริษัทที่มี Market Cap สูงมักจะมีเสถียรภาพมากกว่าและมีความเสี่ยงน้อยกว่าบริษัทขนาดเล็ก ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาความมั่นคงในการลงทุน คุณอาจต้องการมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มี Market Cap สูง ๆ
การแบ่งประเภทของ Market Cap
มาดูการจำแนกประเภทของ Market Cap ที่ส่งผลต่อการจัดขนาดของหุ้น ในย่อหน้านี้ เป็นการเปรียบเทียบระหว่างการจัดอันดับหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศด้วย Market Cap
Mega-cap: มากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์
Large-cap: ระหว่าง 1 หมื่นล้าน - 2 แสนล้านดอลลาร์
Mid-cap: ระหว่าง 2 พัน - 1 หมื่นล้านดอลลาร์
Small-cap: ระหว่าง 250 ล้าน - 2 พันล้านดอลลาร์
Micro-cap: น้อยกว่า 250 ล้านดอลลาร์
ในด้านตลาดหุ้นไทย ข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยระบุว่า ภาคอุตสาหกรรมที่มีอิทธิพลต่อหุ้นไทยมากที่สุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย
พลังงาน คิดเป็น 17.80%
ธนาคารคิดเป็น 13.32%
ค้าปลีก คิดเป็น 10.18%
Market Cap (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด) บอกอะไรได้
Market Cap เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการลงทุนในหุ้น ช่วยให้นักลงทุนกำหนดมูลค่าและศักยภาพของบริษัทในการเติบโต ช่วยให้นักลงทุนมีแนวคิดเกี่ยวกับขนาดของบริษัทและศักยภาพในการเติบโต บริษัทที่มี Market Cap สูงมักจะเป็นที่ยอมรับและมีประวัติการดำเนินกิจการที่แข็งแกร่ง บริษัทที่มี Market Cap ต่ำอาจมีความเสี่ยงมากกว่า แต่ก็อาจมีศักยภาพในการเติบโตมากกว่า
ในแง่ของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของ Market Cap คุณอาจพบว่ามีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อ Market Cap ของบริษัท การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในมูลค่าของหุ้น ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง อาจส่งผลกระทบ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นที่ออก การใช้ใบสำคัญแสดงสิทธิใด ๆ ในหุ้นของบริษัทจะเป็นการเพิ่มจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว ซึ่งจะทำให้มูลค่าที่มีอยู่ลดลง เนื่องจากโดยปกติแล้วการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิจะทำต่ำกว่าราคาตลาดของหุ้น จึงอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทได้
แต่โดยทั่วไปแล้วมูลค่า Market Cap จะไม่เปลี่ยนแปลงอันเป็นผลมาจากการแตกหุ้นหรือการจ่ายเงินปันผล หลังจากการแตกแยก ราคาหุ้นจะลดลงเนื่องจากจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้เพิ่มขึ้น เช่น แบ่ง 2 ต่อ 1 ราคาหุ้นจะลดลงครึ่งหนึ่ง แม้ว่าจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วและราคาหุ้นจะเปลี่ยนแปลง แต่มูลค่าหลักทรัพย์ตามมูลค่า Market Cap ของบริษัทจะยังคงที่ เช่นเดียวกับการจ่ายเงินปันผล หากบริษัทออกเงินปันผล (เท่ากับการเพิ่มจำนวนหุ้นที่ถือ) ราคาของบริษัทก็มักจะลดลง

ดังนั้น จึงเป็นแนวคิดที่ดีในการจัดสรรการลงทุนในหุ้นด้วยส่วนผสมที่เหมาะสมของหุ้นขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ (ที่ประเมินจากมูลค่า Market Cap) คุณจะต้องประเมินเป้าหมายทางการเงิน การยอมรับความเสี่ยง และระยะเวลา พอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายซึ่งมีมาร์เก็ตแคปที่หลากหลายอาจช่วยลดความเสี่ยงด้านการลงทุนในด้านใดด้านหนึ่งและสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว
ดู Market Cap ของสินทรัพย์ได้อย่างไร
ในการตรวจสอบ Market Cap ของบริษัท คุณจะต้องค้นหาราคาหุ้นของบริษัทและคูณด้วยจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว ตัวเลขที่ได้คือ Market Cap ของบริษัทนั้น ๆ
Market Cap เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ควรพิจารณาเมื่อประเมินหุ้นเพื่อการลงทุน สามารถให้แนวคิดว่าบริษัทใหญ่แค่ไหนและมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมมากน้อยเพียงใด บริษัทที่มี Market Cap สูงมักจะเป็นที่ยอมรับและมีเสถียรภาพมากกว่าบริษัทที่มี Market Cap ต่ำ
เมื่อพิจารณา Market Cap ควรพิจารณาอัตราส่วนทางการเงินและตัวชี้วัดอื่นๆ ของบริษัทด้วย สิ่งนี้จะทำให้คุณเห็นภาพที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท
10 หุ้นไทยที่มี Market Cap สูงที่สุด
สำรวจหุ้นไทย 10 อันดับแรกที่มี Market Cap สูงที่สุดตลอดกาล เหมาะต่อการคัดใส่พอร์ตการลงทุนหุ้นระยะสั้นและระยะยาว ข้อมูล ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2565


10 หุ้นอเมริกาที่มี Market Cap สูงที่สุด
คัด 10 หุ้นอเมริกาน่าลงทุนยาว จากหุ้นอเมริกาที่มี Market Cap สูงที่สุด 10 หุ้นแรก ข้อมูล ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2565

หากสังเกตดี ๆ คุณจะพบว่าหุ้น Market Cap สูง ๆ นั้น มักเป็นหุ้นของผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จัก ต้องการใช้ของผู้คนทั่วโลก หรืออย่างหุ้นไทย 10 อับที่เรายกมาในข้างต้นนั้น เป็นสินค้าและบริการที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ผูกขาดตลาด มีคู่แข่งน้อยราย ทำใให้ผู้ริโภคมีทางเลือกไม่มากนัก จึงส่งผลให้หุ้นเหล่านั้นมี Market Cap สูงกว่าหุ้นอื่น ๆ ที่อยู่ในภาคส่วนที่มีผู้เล่นหลายราย
ข้อจำกัดของการใช Market Cap พิจารณาสินทรัพย์
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ Market Cap คือมูลค่าที่รับรู้ของบริษัท เนื่องจากราคาหุ้นถูกกำหนดโดยนักลงทุน ไม่จำเป็นต้องเป็นมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทและส่วนประกอบทั้งหมด คุณค่าที่รับรู้บางส่วนอาจเกิดจากความคาดหวังของการเติบโตในอนาคตหรือการแนะนำผลิตภัณฑ์ แต่ความคาดหวังเหล่านั้นอาจไม่หมดไป ซึ่งในกรณีนี้ราคาหุ้นของบริษัทและ Market Cap ของบริษัทมีแนวโน้มที่จะปรับตามนั้น
จึงเป็นความคิดที่ดีที่จะพิจารณาตัวชี้วัดจำนวนหนึ่งเมื่อพิจารณาการลงทุน Market Cap สามารถเป็นเครื่องมือหนึ่งที่คุณใช้ในการพัฒนาพอร์ตหุ้นที่หลากหลาย แต่ก็ไม่ควรเป็นเครื่องมือเดียว
บทส่งท้าย
เมื่อประเมินบริษัท ควรพิจารณา Market Cap พร้อมกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ผลประกอบการ สินทรัพย์ รวมถึงอัตราส่วนทางการเงินอื่น ๆ ที่เราได้นำเสนอไปก่อนหน้า เช่น PE Ratio หรือ EBITA เป็นต้น ไม่ควรใช้มูลค่า Market Cap เป็นปัจจัยเดียวที่นำมาพิจารณาในการตัดสินใจลงทุน แต่สามารถให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับขนาดและการประเมินมูลค่าของบริษัทเพียงเท่านั้น
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!