Stagflation คืออะไร ลงทุนอย่างไรในภาวะนี้

นิยามของ Stagflation คืออะไร

คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับแนวคิดเรื่องเงินเฟ้อ (Inflation) และภาวะถดถอย (Recession) แต่คำว่า Stagflation นั้นก็ยังเป้นอีกคำหนึ่งที่มักเกิดขค้นเพื่ออธิบายถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นซ้อนในสภาวะเงินเฟ้อ

แ้จะดูเหมือนขัดกับสัญชาตญาณ แต่ Stagflation อาจเป็นจังหวะที่ดีช่วงหนึ่งของการลงทุน เมื่อเศรษฐกิจกลับเติบโต ราคาหุ้นมีแนวโน้มสูงขึ้นพร้อมกับการลงทุนอื่น ๆ เช่น พันธบัตรหรือทองคำ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าในช่วงซบเซาและขายทำไรในภาวะที่เศรษฐกิจกลับมาสดใส

รูปแบบการเกิด Stagflation คืออะไร

มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิด Stagflation ได้ ประการแรก ต้นทุนวัตถุดิบตั้งต้นของกระบวนการการผลิตหลักอาจปรับตัวสูงขึ้น เช่น ราคาพลังงานหรือวัตถุดิบ ที่แฝงอยู่ในค่ากระบวนการ ค่าขนส่งวัตถุดิบ รวมถึงค่าขนส่งสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าสำเร็จรูปที่ประชาชนซื้อหามาใช้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้  บางกรณีก็อาจส่งผลให้ความต้องการสินค้าในเหล่านั้นลดลงได้ เป็นวัฏจักรอันโหรด้ายในภาวะ Stagflation นี้

Stagflation เป็นผลมาจากการเติบโตของผลผลิตที่ชะลอตัว หมายความว่า ธุรกิจต่าง ๆ จะต้องขึ้นราคาเพื่อให้ครอบคลุมต้นทุน บางธุรกิจอาจทำเช่นนั้นไม่ได้จึงหันมาปรับปรุงที่กรบะวนการการผลิตด้วยการใช้ระบบอัตโนมัติ เพื่อลดการแจ้งแรงงานลง ส่งผลให้เกิดการว่างงานตามมา 

ในขณะที่คนคนหนึ่งเคยทำงานหาเงินได้ เมื่อรายได้ลดลง ก็เท่ากับอำนาจการใช้จ่ายในครัวเรือนลดลงโโยอัตโนมัติ ต้องจำกัดรายจ่ายกับสิ่งของเพื่อความสุขสบายหรือความบันเทิงลง สิ่งนี้ค่อย ๆ ขับเคลื่อนเศณษฐกิจไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ สุดท้าย เมื่ออุปสงค์โดยรวมลดลง ก็ส่งผลให้ปริมาณสินค้าและบริการที่ธุรกิจสามารถขายได้ลดลง และวนเวียนอยู่เช่นนี้จนกว่าปัจจัยหลักได้เบาบางลง

รัฐจัดการแก้ไข Stagflation อย่างไร

รัฐบาลของแต่ละประเทศมีวิธีแก้ไขภาวะ Stagflation อยู่ 2-3 วิธี แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือผ่านนโยบายทางการเงิน โดยการควบคุมปริมาณเงินและอัตราดอกเบี้ยที่สามารถส่งเสริมหรือกีดกันการใช้จ่ายได้ ซึ่งจะช่วยในการจัดการภาวะเงินเฟ้อ รัฐบาลยังสามารถมีส่วนร่วมในนโยบายการคลัง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงภาษีและการใช้จ่ายของรัฐบาล การทำเช่นนี้รัฐบาลสามารถช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและลดอัตราเงินเฟ้อได้

อีกตัวอย่างที่เด่นชัดคือ การที่รัฐส่งเสริมการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนผ่านรูปแบบการช่วยออกให้บางส่วน มอบเงินสดผ่านกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหมายความว่า จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนจับจ่ายกันมากขึ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพในระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้รูปแบบการดำเนินการก็ย่อมมีความแตกต่างกันไปตามบริบทของสังคมของประเทศต่าง ๆ ด้วย

ลงทุนอะไรดีในยาม Stagflation

ท่ามกลางภาวะ Stagflation นับว่าเป็นการวางแผนที่ลำลากสักหน่อยในการวางแผนการลงทุน นักลงทุนที่ได้ลงทุนไว้บ้างก่อนหน้านี้ อาจใช้เวลาช่วงนี้ในการพิจารณาปรับพอร์ตการลงทุนในช่วง Stagflation

เมื่อเกิด Stagflation ขึ้น อาจเป็นเรื่องยากสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ที่จะทำกำไร ส่วนผู้บริโภคเองก็อาจประสบปัญหาในการจัดหาสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ด้วยเหตุนี้ การปรับพอร์ตใหม่ให้มีน้ำหนักในบริษัทที่มีแนวโน้มจะฝ่าฟันพายุและก้าวไปข้างหน้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ เช่นธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องอุปโภค บริโภค การดูแลสุขภาพ ของใช้จำเป็น และสาธารณูปโภคต่าง ๆ แทนการลงทุนในสัดส่วนมาก ๆ ไปยังสกุลเงินดิจิทัล ทองคำ หรือสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภท

ดังที่ทุกคนทราบดีว่า สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันดิบ หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภคนั้นเป็นสิ่งจำเป้นต่อการดำรงชีพของพวกเราทุก ๆ คน ดังนั้นในยามที่อยู่ในภาวะ Stagflation คือโอกาสดีอีกช่วงเวลาหนึ่งที่จะได้เข้าซื้อหุ้นหรือลงทุนในสินค้าทางการลงทุนเหล่านั้นไว้ในราคาที่ปรับตัวลงมาจากความซบเซาของเศณษฐกิจโดยรวม เมื่อภาวะ Stagflation เบาบางลง มองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็ค่อยขายทำกำไรจากสินค้าเหล่านั้น

นอกจากนี้ การพักเงินระยะสั้น ในสินค้าทางการเงินที่มีสภาพคล่องสูง ความเสี่ยงต่ำอย่างการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินดิจิทัล ตามลำดับ ก็จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากงเินไว้ในบัญชีธนาคาร แต่ก็มีสภาพคล่องสูงกว่าหุ้น

เคล็ดลับวางแผนการเงินเผชิญ Stagflation

คงไม่มีใครคาดการณ์ได้แน่ชัดว่าภาวะ Stagflation จะดำเนินไปถึงเมื่อไร ในวันข้างหน้าจะดีขึ้นหรือแย่ลง สิ่งที่คุณสามารถทำได้วันนี้ก็คือการวางแผนทางการเงินไว้ และเตรียมตัวให้พร้อมรับภาวะ Stagflation ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

จัดทำแผนการเงินส่วนบุคคล

การมีแผนการเงินที่ปรับเปลี่ยนตามสภาพการณ์และเงื่อนไขของชีวิตตามช่วงเวลาที่เหมาะสม จะเป็นหลักประกันว่าครอบครัวของคุณจะไม่ทุกข์ยากจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ

ลองประมาณการณ์รายจ่ายต่อเดือนของครัวเรือนออกมา คุณจะมองเห็นทิศทางของเงินที่ถูกจ่ายออกไป แบ่งออกเป้นรายจ่ายจำเป็น และรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้การเผชิญหน้าต่อภาวะ Stagflation ได้อย่างมีคุณภาพ ให้ลดหรือตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก

เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย

หากวันเวลาที่ว่างเว้นจากการทำงานประจำ คุณยังมีเวลาและแรง มีสิ่งที่สนใจอยากทำ ทำไมไม่เปลี่ยนงานอดิเรกเหล่านั้นมาเป็นรายได้ดูบ้าง คุณไม่จำเป็นต้องทำเองทั้งหมด ว่าจ้างคนที่ชำนาญในงานนั้นทำ และรับผลกำไร

ลดรายจ่ายเพื่อความบันเทิงลง ลดการรับประทานอาหารนอกบ้าน วางแผนการเดินทางหรือทำกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้ทุนมาก ลดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์ลงให้พอดีต่อการใช้งาน ก็สามารถช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าให้แก่คุณได้ในภาวะ Stagflation นี้

ปรับพอร์ตการลงทุน

อย่าคิดว่าต้องให้มีเงินเหลือก่อนจึงเริ่มต้นลงทุน การจัดพอร์ตการลงทุนควรเป็นสิ่งที่เริ่มทำตั้งแต่มีเงินเดือน แต่ถ้าเพิ่งรู้จัก การจะเริ่มต้นเล่นหุ้นก็ไม่สาย

พอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมในช่วงตลาดซบเซาอย่าง Stagflation นั้นควรจะเป็นการลงทุนในหุ้น การเล่นหุ้นนั้นไม่ยาก เพียงคุณได้ศึกษาธรรมชาติของตลาดหุ้นและศึกษาธุรกิจก่อนการลงทุน

หุ้นที่เหมาะสมต่อช่วง Stagflation ควรเป็นหุ้นของธุรกิจที่อยู่ในความจำเป็นต่อการดำรงชีพของมนุษย์ คุณสามารถหาซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าตลาดในช่งที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู เมื่อสถานการณ์กลับมาคึกคักดังเดิม คุณก็สามารถทำกำไรได้มากขึ้นจากต้นทุนที่ถูกกว่า

เทรดทำกำไรทุกสภาวะตลาดที่ Top1 Markets ด้วยบัญชีเทรดเดียว ที่รวมทุกสินค้าทางการเงินไว้ในที่เดียว ทั้งการเทรดหุ้นต่างประเทศ เทรดดัชนีหุ้น เทรดสินค้าโภคภัณฑ์ เทรดสกุลเงินดิจิทัล และฟอเร็กซ์ เมื่อคุณเปิดบัญชีเทรดและยืนยันตัวตน ก็จะได้รับโบนัสเทรดจริงทันที สามารถเริ่มเทรดหุ้นที่สนใจได้ไม่ยากเพราะเรามีข้อมูลความรู้ผ่านบทความแบบนี้ ในทุกสินค้าและกลยุทธ์การทำกำไรมากมาย

บทส่งท้าย

แม้คุณจะเข้าใจว่า Stagflation คือการชะงักงันของสภาวะเศรษฐกิจอันเป็นผลมาจากเงินเฟ้อ และกำลังการใช้จ่ายลดลง แต่คงไม่มีใครตอบได้ชัดเจนว่า Stagflation นี้จะเป็นอยู่ถึงเมื่อไร ดังนั้นสิ่งที่คุณสามารถจัดการได้คือการบริหารจัดการเงินของตนเองให้รับกับทุกสถานการณ์ กินใช้เท่าที่จำเป็น และหาช่องทางเพิ่มรายได้ด้วยวิธีการสุจริต