รอบรู้ค่าเงิน US Dollar เพื่อการลงทุนที่ดีกว่า

คุณกำลังพิจารณาที่จะลงทุนในสกุลเงินค่าเงิน USD  แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ ด้วยความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับตลาดสกุลเงินทั่วโลก จึงไม่น่าแปลกใจที่นักลงทุนจะตั้งคำถามว่าจะซื้อหรือขาย

นับตั้งแต่ก่อตั้งระบบ Bretton Woods ในปี พ.ศ. 2487 ค่าเงิน USD ก็ค่อย ๆ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในระบบการเงินระหว่างประเทศ และในฐานะสกุลเงินสำรองหลักของโลก เกือบ 90% ของธุรกรรมสกุลเงินทั่วโลกดำเนินการกับค่าเงิน USD นี้

อีกทั้งค่าเงิน USD มีปริมาณการเทรดที่ใหญ่ที่สุดในตลาด Forex และเป็นตัวเลือกแรกสำหรับเทรดเดอร์ Forex ด้วยเพราะวอลลุ่มการเทรดของมัน นอกจากนี้ ค่าเงิน USD ยังถือเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้กำหนดราคาสากลสำหรับการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์อีกด้วย กล่าวได้ว่า ไม่ว่าเราจะมองภาพไหนของการลงทุน ย่อมต้องมีค่าเงิน USD เข้ามาผูกพันด้วยเสมออย่างเลี่ยงไม่ได้

เปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนต่อนค่าเงิน USD ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการค้าการส่งออกเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบทางอ้อมต่อผลตอบแทนการลงทุนและเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศอีกด้วย ในกรณีนี้ นักลงทุนจึงจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเงินค่าเงิน USD  และความสามารถในการคาดการณ์อย่างแม่นยำเพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างเหมาะสม

ในบทความนี้ เราจะนำเสนอบทวิเคราะห์ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินค่าเงิน USD  และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการลงทุนในสกุลเงินยอดนิยมนี้ ตั้งแต่การทำความเข้าใจแนวโน้มในอดีตไปจนถึงการวิเคราะห์ปัจจัยทางการตลาดในปัจจุบัน เรามีข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการเพื่อทำการตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุน ดังนั้นมาเจาะลึกและสำรวจว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อค่าเงิน USD หรือไม่!

อัตราแลกเปลี่ยนเงินค่าเงิน USD เป็นประเด็นร้อนในโลกการเงินมาโดยตลอด และในปี พ.ศ. 2566 ก็ไม่มีข้อยกเว้น ในขณะที่เรามองไปข้างหน้าในปีที่จะถึงนี้ มีปัจจัยสำคัญหลายประการที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มของ USD

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งคืออัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (Interest Rate) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ระบุว่าอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหลายครั้งตลอดปี พ.ศ. 2566 นี้ ซึ่งน่าจะส่งผลทำให้ค่าเงิน USD มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นสำหรับบรรดานักลงทุน อย่างไรก็ตาม หากธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย ก็อาจจำกัดโอกาสที่เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นได้เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ๆ เหล่านั้น

นอกจากนี้ ในเดือน มิ.ย. ที่จะมาถึง จะถึงวันครบกำหนดการเจรจาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่มีอยู่ 28 ล้านล้านเหรียญ ไม่ว่าการเจรจาครั้งนี้ จะทำให้สหรัฐฯ ต้องประวิงเวลาการจ่ายหนี้ออกไปหรือไม่ ย้jอมเกิดผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกอย่างแน่นอน และที่สำคัญคือ การสูญเสียมูลค่าและเครดิตความน่าเชื่อถือของประเทศสหรัฐฯ ต่อนานาประเทศ และเสี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้มูลค่าของ USD เปลี่ยนแปลงแบบกระทันกัน

การติดตามตัวเลข Non-farm Payroll ของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ที่จะประกาศทุก ๆ เดือนและเร็ว ๆ นี้คือวันที่ 3 มิ.ย. 2566 จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่ของบรรยากาศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้ 

ถ้าสหรัฐฯ มีตัวเลขผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น หมายความว่าเศรษฐกิจน่าเป็นห่วง ไม่ครึกครื้น ทำให้บริษัทต่าง ๆ ชะลอการจ้างงาน หรือปลดพนักงานออก

เมื่อสภาพการณ์เป็นเช่นนั้น ความน่าสนใจในเงิน USD อาจน้อยลง และในเวลาเดียวกันนั้น เงินบาทของไทยก็อาจได้รับอานิสงค์จากเหตุกาณ์เช่นนี้ ส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นได้

แม้ว่าจะมีปัจจัยมากมายในการทำนายแนวโน้มของสกุลเงินในอนาคตอย่างแม่นยำ การติดตามแนวโน้มของตลาดปัจจุบันอยู่เสมอจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับการลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์หรือการเทรดคู่ Forex

ค่าเงิน USD  ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจโลกมาช้านาน และด้วยเหตุผลที่ดี ในฐานะสกุลเงินของประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก สกุลเงินนี้มีอิทธิพลในด้านการค้าและการเงินระหว่างประเทศ

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งในการครอบครองค่าเงิน USD คือบทบาทในฐานะสกุลเงินสำรองหลักทั่วโลก สถานะนี้หมายความว่าธนาคารกลางทั่วโลกมักถือครองสกุลเงิน USD เป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างอุปสงค์และส่งเสริมความมั่นคงให้กับผู้ที่ลงทุนในสกุลเงินนี้

การกระจายความเสี่ยงเป็นอีกแง่มุมที่น่าสนใจเมื่อพิจารณาเพิ่ม USD ในพอร์ตการลงทุน หากสินทรัพย์หมุนเวียนถูกถือครองเป็นหลักในสกุลเงินหรือภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง การซื้อค่าเงิน USD สามารถช่วยรักษาสมดุลของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและป้องกันความผันผวนในตลาดอื่น ๆ

นอกจากนี้ สินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิด เช่น น้ำมัน ทองคำ และสินค้าเกษตรต่าง ๆ มักจะกำหนดราคาเป็นค่าเงิน USD ในตลาดต่างประเทศ สิ่งนี้ทำให้การถือครองค่าเงิน USD เป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากคุณสนใจที่จะกระจายความเสี่ยงไปยังการลงทุนประเภทเหล่านี้หรือป้องกันสถานะที่มีอยู่จากความผันผวน

ด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงิน การจับตาดูนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นสำหรับมูลค่าของ USD ในอนาคต การจับจังหวะการซื้ออย่างมีกลยุทธ์โดยอิงตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินจากธนาคารกลางหลัก ๆ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ  จะทำให้คุณมีตาที่จะมองหาราคาซื้อที่เหมาะสมได้

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินค่าเงิน USD เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดสกุลเงิน อัตราแลกเปลี่ยนวัดมูลค่าของสกุลเงินหนึ่งเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง และกำหนดจำนวนเงินที่คุณสามารถซื้อสกุลเงินต่างประเทศได้ด้วยเงินดอลลาร์

ค่าเงิน USD เป็นสกุลเงินสำรองของโลก ซึ่งหมายความว่าหลายประเทศถือเงินค่าเงิน USD เป็นจำนวนมากซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในอัตราแลกเปลี่ยนอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการเงินทั่วโลก

มีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน USD ซึ่งรวมถึงตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น การเติบโตของ GDP อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และตัวเลขดุลการค้า เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การเลือกตั้งและนโยบายของรัฐบาลก็ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินค่าเงิน USD เช่นกัน

การทำความเข้าใจวิธีตีความอัตราแลกเปลี่ยน USD จำเป็นต้องมีความเข้าใจทั้งปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิค การติดตามปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเมื่อเวลาผ่านไปผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Tradingview หรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออื่น ๆ จะช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับลักษณะที่ซับซ้อนแต่สำคัญยิ่งของการเงินระหว่างประเทศ

Dollar Index เป็นตัววัดความแข็งหรืออ่อนของค่าเงิน USD ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเมื่อเทียบกับตะกร้าของสกุลเงินอื่น ๆ คำนวณโดยใช้ค่าเฉลี่ยทางเรขาคณิตตามคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์: ยูโร เยนญี่ปุ่น ปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ ดอลลาร์แคนาดา โครนาสวีเดน และฟรังก์สวิส

Dollar Index ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Intercontinental Exchange (ICE) ในปี พ.ศ. 2516 และใช้เป็นตัวบ่งชี้สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเทรดสกุลเงินหรือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยพื้นฐานแล้ว ที่นี่ทำหน้าที่เหมือนบารอมิเตอร์สำหรับวัดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำงานได้ดีเพียงใดเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ ที่รวมสกุลเงินต่าง ๆ ไว้ในตะกร้าเงินนี้

ค่า Dollar Index ที่สูงขึ้นจากฐาน 100.00　USD  บ่งชี้ว่าความต้องการเงินดอลลาร์โดยรวมเพิ่มขึ้นในหมู่นักลงทุนทั่วโลก ในทางกลับกัน ค่าที่ต่ำกว่าบ่งชี้ว่าความต้องการลดลงซึ่งอาจนำไปสู่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงภายในพรมแดนของสหรัฐฯ  โดยรวมแล้ว การทำความเข้าใจวิธีการทำงานของ Dollar Index สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการเทรดเงินตราต่างประเทศหรือตราสารทางการเงินอื่น ๆ ที่พึ่งพาอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ

ภาพ: Dollar Index ณ ปัจุจบัน (30 พ.ค. 2566)

จุดสูงสุดของ USDX คือเดือน ก.พ. 2528 เมื่อถึงจุด 164.674 USD เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงขึ้นที่ 8.10％ โดยเฉลี่ย ในทางตรงกันข้าม ในช่วงจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม 2551 USDX แตะระดับต่ำสุดตลอดกาลที่ 70.698 และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดลงมาอยู่ที่ 1.08% โดยเฉลี่ย เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์

ภาพ：จุดต่ำสุดของ Dollar Index ณ มี.ค. 2551 ที่ 70 USD

การซื้อเงินค่าเงิน USD อาจเป็นการตัดสินใจลงทุนที่ชาญฉลาด โดยขึ้นอยู่กับแนวโน้มในปัจจุบันและการคาดการณ์ของอัตราแลกเปลี่ยน การติดตามดูการเทรดและทำความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าของ USD นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าเมื่อใดควรลงทุนในสกุลเงินนี้

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าร่วมในตลาดโลกแต่ลังเลเกี่ยวกับการรับความเสี่ยงโดยตรงผ่านสกุลเงินแต่ละสกุล สามารถใช้ผลิตภัณฑ์เช่น ETF หรือสัญญาฟิวเจอร์สที่เชื่อมโยงกับ Dollar Index เป็นมูลค่าสินทรัพย์อ้างอิงเพื่อรับความเสี่ยงโดยไม่ต้องจัดการสถานะสกุลเงินหลายสกุลพร้อมกันในเขตอำนาจศาลต่าง ๆ โดยสรุป การรู้ว่าอะไรมีความหมายสำหรับการลงทุนใด ๆ ช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด ในขณะที่พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ของเศรษฐกิจมหภาคที่มีอิทธิพลต่อตลาดการเงินทั่วโลก

การลงทุนในสกุลเงินใด ๆ ก็ตามมีความเสี่ยงในระดับหนึ่ง แต่ด้วยศึกษาข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เหมาะสม คุณจะสามารถจำกัดขนาดของการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นและเพิ่มผลกำไรสูงสุดจากการลงทุนได้ และเช่นเคย อย่าลืมติดตามข่าวสารและเพิ่มพูนความรู้กับบทความการลงทุนทุก ๆ วันที่ TOPONE Markets

โดยรวมแล้ว การทำความเข้าใจวิธีการทำงานของ Dollar Index สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการเทรดเงินตราต่างประเทศหรือตราสารทางการเงินอื่น ๆ ที่พึ่งพาอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ

ค่าเงิน USD เป็นสกุลเงินสำรองชั้นนำของโลกมานานหลายทศวรรษ และอัตราแลกเปลี่ยนมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจแนวโน้มในอดีตของอัตราแลกเปลี่ยน USD เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่

วิกฤตต้มยำกุ้ง (พ.ศ. 2540 - 2541)

วิกฤตต้มยำกุ้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2540 เป็นวิกฤตทางการเงินที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างขวาง วิกฤตการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการ เช่น การกู้ยืมมากเกินไป การลงทุนมากเกินไป และการจัดการทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาด เมื่อเกิดวิกฤตขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็ลดลง ส่งผลให้เงินทุนจำนวนมากไหลออกจากตลาดเกิดใหม่เช่นประเทศไทย ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เช่น ค่าเงิน USD  โดยอัตราแลกเปลี่ยน USDTHB เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว

ผลกระทบของการลดค่าสกุลเงินนี้รู้สึกได้ในภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงการค้า การท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งล้วนประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในช่วงเวลานี้ แม้จะมีความพยายามขององค์กรระหว่างประเทศเช่น IMF และธนาคารโลกในการเข้าแทรกแซงและทำให้สถานการณ์มีเสถียรภาพ แต่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่เศรษฐกิจของประเทศไทยจะฟื้นตัวเต็มที่จากวิกฤตต้มยำกุ้ง ในขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังการลงทุนในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อีกระยะหนึ่งหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น

วิกฤตสินเชื่อที่อยู่อาศัย สหรัฐฯ (พ.ศ. 2550-2552)

"วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์" หรือวิกฤตการเงินซับไพรม์ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2551-2553 เป็นผลมาจากหลายปัจจัย ปัจจัยสำคัญคือการที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้กับบุคคลที่ไม่สามารถชำระคืนได้ ซึ่งนำไปสู่การผิดนัดจำนองและในที่สุดก็เกิดความสูญเสียในวงกว้างทั่วทั้งระบบการเงิน

พฤติกรรมเสี่ยงของนักลงทุนประกอบกับการขาดการกำกับดูแลทำให้เกิดฟองสบู่ที่อยู่อาศัยที่ไม่ยั่งยืน เป็นผลให้ธนาคารหลายแห่งลงทุนอย่างหนักในหลักทรัพย์จำนองที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ ซึ่งนำไปสู่วิกฤตการณ์ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่เมื่อผู้กู้เริ่มผิดนัดชำระหนี้

ภาพ：อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยต่อ USD ณ ช่วงที่เกิดวิกฤตสินเชื่อแฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐฯ 

แม้วิกฤตสินเชื่อที่อยู่อาศัยในครั้งนี้ จะเกิดนอกประเทศไทย แต่การที่เป็นวิกฤตการณืทางการเงินของสหรัฐฯ ส่งผลให้ FED ต้องออกมาตรการทางเศรษฐกิจขึ้นมาเพื่อรปับปรุงสภาพการเงินของตน หนึ่งในนั้นคือการลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชน ส่งผลให้ความน่าสนใจในเงินฝากของสหรัฐฯ ถูกประเมินค่าต่ำลง ในเวลาเดียวกันนั้น มีบางช่วงที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงิน USD

ผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในลักษณะนี้ต่อเงินบาทมีมากมาย เนื่องจากเงินบาทถูกตรึงไว้กับ USD อย่าง ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากค่าเงินในประเทศที่อ่อนค่า อาจนำไปสู่ระดับเงินเฟ้อที่สูง ทำให้การส่งออกมีความน่าสนใจน้อยลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มุ่งเน้นการส่งออกของไทยอย่างมากหากปล่อยไว้โดยไม่มีการควบคุม

แนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนของเงินค่าเงิน USD ต่อเงินบาทเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุน เมื่อพิจารณาจากข้อมูลย้อนหลัง เราสามารถเข้าใจได้ว่าคู่สกุลเงินนี้มีความผันผวนอย่างไร

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อัตราแลกเปลี่ยน USD/THB มีแนวโน้มสูงขึ้นโดยทั่วไปตั้งแต่ปี 2018 โดยมีความผันผวนเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องดูแนวโน้มระยะยาวเพื่อทำความเข้าใจว่าคู่สกุลเงินนี้มีพฤติกรรมอย่างไรภายใต้สภาวะตลาดที่แตกต่างกัน

เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าในช่วงต้นปี 2554 หนึ่งค่าเงิน USD มีค่าประมาณ 30 บาทไทย มูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2556 ก่อนจะเริ่มเป็นขาขึ้นยาวไปจนถึงปลายปี 2562 เมื่อถึงจุดสูงสุดที่ประมาณ 33 บาทต่อค่าเงิน USD

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีความผันผวนเนื่องจากปัจจัยภายนอก เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมืองและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจภายในประเทศไทย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดความผันผวนในอัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง 2 สกุลเงินนี้

การวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังของอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าแก่เทรดเดอร์และนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตที่เป็นไปได้ และช่วยให้พวกเขาตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับพอร์ตการลงทุนของพวกเขา

อัตราแลกเปลี่ยนเงินค่าเงิน USD ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจและที่ไม่ใช่ทางเศรษฐกิจ หนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักของอัตราแลกเปลี่ยน USD คืออัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดย Federal Reserve เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น นักลงทุนมักจะแห่กันไปที่สินทรัพย์สกุลเงิน USD เนื่องจากพวกมันให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อค่าของเงินค่าเงิน USD คือระดับเงินเฟ้อในประเทศอื่น ๆ หากอัตราเงินเฟ้อในสกุลเงินของประเทศหนึ่งเพิ่มขึ้น อาจนำไปสู่การอ่อนค่าของสกุลเงินเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ เช่น USD

เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศหรือความไม่มั่นคงทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศและค่าเงินของประเทศนั้นๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนอย่างมากในอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับบางสกุลเงิน รวมถึง USD

ดุลการค้าระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการกำหนดค่าสกุลเงิน หากเกิดความไม่สมดุลระหว่างการนำเข้าและส่งออกจากประเทศหนึ่งกับอีกประเทศหนึ่ง อาจทำให้ค่าสกุลเงินของประเทศนั้นๆ เปลี่ยนแปลงได้

การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้และผลกระทบซึ่งกันและกันสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับการลงทุนในค่าเงิน USD หรือการเทรดคู่ Forex ที่เกี่ยวข้องกับ USD เทียบกับสกุลเงินหลักทั่วโลก เช่น GBP/USD หรือ EUR/USD โดยใช้แพลตฟอร์มอย่าง TradingView

อัตราแลกเปลี่ยนของ USD กับสกุลเงินหลักทั่วโลกเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนเสมอ ผลการดำเนินงานอาจส่งผลต่อผลตอบแทนของพอร์ตโฟลิโอและกลยุทธ์การลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มของ USD เมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่น ๆ

ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อแนวโน้มของ USD คือสถานะของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เศรษฐกิจที่ดีมักจะนำไปสู่การแข็งค่าของค่าเงิน ในขณะที่เศรษฐกิจที่อ่อนแอจะส่งผลให้ค่าเสื่อมราคา Federal Reserve ยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของ USD โดยการปรับอัตราดอกเบี้ย

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น การเลือกตั้งหรือข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศต่าง ๆ เหตุการณ์เหล่านี้อาจทำให้เกิดความผันผวนของค่าเงินเนื่องจากความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อการค้าและการลงทุน

เมื่อมองไปข้างหน้าในปี 2566 นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าแม้ว่าอาจมีความผันผวนในระยะสั้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับโรคระบาด แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมจะสนับสนุนเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เช่น ยูโรและเยนญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม คนอื่น ๆ เชื่อว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจทำให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ เช่น หยวนจีน หรือรูปีอินเดีย

การวิเคราะห์แนวโน้มและการคาดการณ์ของอัตราแลกเปลี่ยน USD กับสกุลเงินทั่วโลกอื่น ๆ ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าจะจัดสรรทรัพยากรของตนอย่างไรให้ดีที่สุดในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลก

USD/EUR

ตลาด Forex เป็นพื้นที่ที่พัฒนาตลอดเวลาซึ่งเทรดเดอร์สามารถเก็งกำไร ซื้อหรือขายสกุลเงินโดยคาดการณ์ถึงความผันผวน หนึ่งในคู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเทรด Forex คือ USD/EUR เนื่องจากค่าสัมพัทธ์ระหว่างกันและสภาพคล่องของทั้งคู่ USD (ค่าเงิน USD ) ครองตำแหน่งที่โดดเด่นเนื่องจากเป็นสกุลเงินสำรองของโลก ใช้สำหรับการค้าระหว่างประเทศและการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน ในทางกลับกัน EUR (เงินยูโร) มีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในฐานะสกุลเงินทั่วไปสำหรับ 19 ประเทศในสหภาพยุโรป

เพื่อให้ได้รับความชื่นชมว่าโรงไฟฟ้าทั้ง 2 นี้มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร คุณต้องอ้างอิงถึง Forex USDEUR แผนภูมิที่แสดงการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง การแสดงภาพนี้ช่วยระบุแนวโน้มและผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อหรือขายในตลาด

แผนภูมิ Forex USDEUR แสดงให้เห็นว่าสกุลเงินทั้ง 2 นี้มีความสัมพันธ์กันสูง เนื่องจากทั้งคู่เป็นตัวแทนของกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ – สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปตามลำดับ ความสัมพันธ์นี้ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในคู่แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เทรดเดอร์ Forex วิเคราะห์กราฟย้อนหลังเพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับแนวโน้มที่เป็นไปได้ก่อนที่จะซื้อหรือขายคู่สกุลเงินใดๆ

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ส่งผลต่อคู่นี้คืออัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารกลาง เช่น Federal Reserve และ European Central Bank สถาบันเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อปริมาณเงินที่มีอยู่ในเศรษฐกิจของตนซึ่งมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของสกุลเงินทั้ง 2  เมื่อทำการทำนาย USDEUR ควรคำนึงถึงตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) อัตราการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ ความสมดุลของการส่งออก/นำเข้า อื่น ๆ

การคาดการณ์เป็นสิ่งสำคัญในขณะที่ลงทุนในการเทรด Forex  ดังนั้น การทำนายความเคลื่อนไหว เช่น การทำนาย USDEUR ช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดโดยอาศัยข้อมูลที่เชื่อถือได้จากแหล่งที่เชื่อถือได้

ด้วยความรู้ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับ Forex USDEUR เทรดเดอร์สามารถสร้างการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพได้ดีที่สุด เช่น รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาโดยการอ่านแผนภูมิแท่งเทียนญี่ปุ่นหรือระดับแนวรับ/แนวต้านโดยใช้ Pivot Points เพื่อคาดการณ์รายการล่วงหน้าสำหรับการเทรดที่ทำกำไรกำไรเพิ่มรายได้ อัตราศักยภาพในการเติบโตสูงกว่าตลาดหุ้นอย่างมาก ซึ่งเราเห็นอัตราความล้มเหลว 90% เนื่องจากความเสี่ยงสูงเกินไปที่เกี่ยวข้องกับการใช้เลเวอเรจหนัก แต่ให้ตาข่ายนิรภัยกันกระแทกที่ทันสมัยแทน โดยใช้มาตรการหยุดการขาดทุนที่เข้มงวด ทำให้ควบคุมการขาดทุนและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด

USD/JPY

ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ เป็นหัวข้อที่มีการถกเถียงและวิเคราะห์กันอย่างมาก เนื่องจากความสัมพันธ์ดังกล่าวได้พัฒนาไปอย่างมากในช่วง 2 สามทศวรรษที่ผ่านมา กลยุทธ์ Forex USDJPY มักใช้เพื่อติดตามว่าทั้ง 2 ประเทศซื้อขายกันอย่างไร

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาสหรัฐฯ เป็นหลักสำหรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและการลงทุน แต่พลวัตนี้ได้เปลี่ยนไปในทศวรรษ 1970 เมื่อการส่งออกของญี่ปุ่นไปยังสหรัฐฯ เริ่มพุ่งสูงขึ้น ปัจจุบัน ญี่ปุ่นยังคงเป็นหนึ่งในคู่ค้าอันดับต้น ๆ ของสหรัฐฯ ทั้งในด้านการนำเข้าและส่งออก เมื่อพูดถึงสินค้าที่ญี่ปุ่นขายให้กับสหรัฐ มีสินค้ามากมายที่โดดเด่น รถยนต์เป็นตัวอย่างที่โดดเด่น

หมวดหมู่ที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ (เช่น โทรทัศน์และสมาร์ทโฟน) เครื่องจักร (รวมถึงอุปกรณ์ก่อสร้าง) และยา

ตรงกันข้ามยังเป็นความจริงเนื่องจากบริษัทอเมริกันขายสินค้าหลากหลายตั้งแต่สินค้าเกษตร เช่น ถั่วเหลืองหรือข้าวโพดพร้อมกับอุปกรณ์การบินและอวกาศ เช่น ชิ้นส่วนสำหรับเครื่องบินพาณิชย์ การวิเคราะห์ทางเทคนิคของ Forex USDJPY ยังเผยให้เห็นถึงแนวโน้มสำคัญระหว่างความผันผวนของค่าเงินเยนของญี่ปุ่นกับ USD ดังนั้น นักลงทุนสามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้มากขึ้นเกี่ยวกับการเทรดของตนโดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อหรือนโยบายอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางของประเทศใดประเทศหนึ่ง

โดยรวมแล้ว แม้จะมีความขัดแย้งเป็นครั้งคราวเกี่ยวกับความไม่สมดุลทางการค้าหรือผลประโยชน์ที่แตกต่างกันในตลาดโลก ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจสำหรับทั้ง 2 ประเทศ

สำหรับการพัฒนากลยุทธ์ Forex USDJPY เองเพื่อความสำเร็จ สิ่งสำคัญคือต้องรวมการวิเคราะห์ทางเทคนิคไว้ในแผน สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์แผนภูมิและการระบุแนวโน้ม ระดับแนวรับ/แนวต้าน ตลอดจนการใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือออสซิลเลเตอร์สุ่ม นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้ค่าสกุลเงินเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

การจับตาดูข้อมูลความเคลื่อนไหวของตลาดที่เผยแพร่จากทั้ง 2 ประเทศเป็นองค์ประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งในการวางแผนกลยุทธ์การเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จ รายงานทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราการจ้างงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และอื่น ๆ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ สามารถใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้

พวกเขาควรทำความคุ้นเคยกับระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญสำหรับทั้ง 2 สกุลเงิน เมื่อตั้งค่าจุดเข้าและจุดออกสำหรับการเทรด การเก็งกำไรที่ได้รับการศึกษาจากการวิจัยอย่างละเอียดจะช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าเมื่อใดควรเข้าหรือออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะมีส่วนอย่างมากต่อความสำเร็จในการเทรด USDJPY ในตลาด Forex

กล่าวโดยสรุป การทำความเข้าใจว่าความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ว่างมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของ Forex คู่เงิน USDJPY อย่างไร จะช่วยให้คุณมองภาพออกว่าควรสร้างกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายผลกำไร

USD/GBP

การวิเคราะห์ GBPUSD มีบทบาทสำคัญในการกำหนดความสำเร็จของกลยุทธ์การเทรด Forex ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประวัติการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรมีผลกระทบอย่างมากต่อแนวโน้มของคู่สกุลเงินนี้ สหราชอาณาจักรซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์กับสหรัฐฯ ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2  อังกฤษยังคงเป็นพันธมิตรที่สำคัญกับสหรัฐฯ จนถึงปัจจุบัน ในขณะที่ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันเป็นเอกลักษณ์กับยุโรป

ยกตัวอย่าง จากผลกระทบของ Brexit ต่อการวิเคราะห์ GBPUSD นั้นมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ความผันผวนและความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น หลังจากที่สหราชอาณาจักรตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรปในปี พ.ศ. 2563 ในที่สุด มูลค่าของ GBP ก็ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับค่าเงิน USD  นักลงทุนให้้ความสนใจกับเงินค่าเงิน USD มากขึ้นเพราะต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความวุ่นวายทางเศรษฐกิจทั่วโลก

ด้วยเหตุจากตัวอย่างข้างต้น การเทรด Forex ด้วยแนวโน้ม USDGBP จำเป็นต้องมีการติดตามอย่างรอบคอบทั้งการพัฒนาทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อสกุลเงินทั้ง 2  

อีกประเด็นสำคัญประการที่ต้องพิจารณาคือใครคือคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ข้อมูลเชิงลึกนี้สามารถให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินและแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

ความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ส่งผลให้เกิดเครือข่ายที่ซับซ้อนของความสัมพันธ์แบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางในการสร้างตลาด Forex สมัยใหม่ ด้วยเหตุนี้ กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ทำกำไรได้ต้องมีการวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่เพียงแต่แนวโน้มของตลาดในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริบททางประวัติศาสตร์ที่กว้างขึ้นซึ่งสนับสนุนพวกเขาด้วย

ประการสุดท้าย ควรสังเกตว่าปัจจุบันจีนรั้งอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ ในฐานะคู่ค้านอกสหภาพยุโรปที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 7% ของประเทศ (20 พันล้านปอนด์ต่อปี)

USD/CAD

ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดามีประวัติความร่วมมือและการพึ่งพาซึ่งกันและกันมาอย่างยาวนาน ทั้ง 2 ประเทศมีส่วนร่วมในการค้าทวิภาคีมานานกว่าสามศตวรรษ นับตั้งแต่การก่อตั้งอาณานิคมของอังกฤษในสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2306 ปัจจุบัน แคนาดาเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ  โดยมีการค้าข้ามพรมแดนในระดับสูงระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

การเป็นพันธมิตรทางการค้าที่ยาวนานนี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของ USD/CAD ในตลาด Forex เนื่องจากการพัฒนาที่โดดเด่นใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลทางเศรษฐกิจ ราคาพลังงาน หรือนโยบายของรัฐบาลทั้ง 2 ด้านได้สร้างความผันผวนให้กับมูลค่าคู่สกุลเงินทั้งสอง

ดังนั้น ความเชื่อมั่นของ USDCAD จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อลงทุนในการเทรด Forex ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินเหล่านี้ เนื่องจากเทรดเดอร์จำเป็นต้องตระหนักถึงการพัฒนาหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในความสัมพันธ์นี้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลลัพธ์การลงทุนอย่างเลี่ยงไม่ได้

ก้าวไปข้างหน้าแม้จะมีจุดขัดแย้งเป็นครั้งคราวเช่นข้อพิพาทเกี่ยวกับนโยบายการเลี้ยงโคนมหรือการนำเข้าไม้เนื้ออ่อนจากแคนาดาไปยังสหรัฐฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องและความยั่งยืนของทั้ง 2 เศรษฐกิจ

นักลงทุนที่มองหา USDCAD ต้องคำนึงถึงไดนามิกที่ไม่เหมือนใครนี้ และจับตาดูปัจจัยหลายประการ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยธนาคารกลาง ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก และการอัปเดตจากผู้นำทางการเมืองในประเด็นต่าง ๆ เช่น ท่อลำเลียงก๊าซหรือภาษีที่อาจทำให้สกุลเงินนี้เคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน

แม้ว่าจะมีการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานเป็นครั้งคราวเนื่องจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์หรือการประท้วงที่ส่งผลเสียต่อผลผลิตในท้องถิ่น ดังที่เห็นได้ในระหว่างมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ล่าสุด แต่ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะกลางที่มุ่งสร้างผลกำไรจากปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมหภาคโดยไม่ต้องพอใจมากเกินไปเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในความเชื่อมั่นในการลงทุน USDCAD

USD/AUD

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และออสเตรเลียมีผลกระทบอย่างมากต่อกลยุทธ์การเทรดอัตราแลกเปลี่ยน USDAUD ในฐานะที่เป็น 2 ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกที่มีพันธมิตรที่ใกล้ชิด มีกิจกรรมการค้าสูงระหว่างประเทศที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของสกุลเงิน

เช่น เมื่อสหรัฐฯ ประสบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ออสเตรเลียจะได้รับประโยชน์ในฐานะหนึ่งในคู่ค้าหลัก ส่งผลให้ AUD แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ USD อีกทางหนึ่ง หากมีข้อพิพาทหรือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศที่ส่งผลกระทบต่อข้อตกลงการค้าหรือกระแสการลงทุนในทางลบ จะเกิดผลกระทบในทางลบต่ออัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินทั้ง 2  ดังนั้น เทรดเดอร์จำเป็นต้องติดตามพัฒนาการทางการเมืองที่มีอิทธิพลต่อนโยบายการเงินของตนให้ทัน รับทราบรายงานข้อมูลการค้า เช่น งบดุลจากธนาคารกลางที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AUD เนื่องจากในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญ เช่น เนื้อวัวและผลิตภัณฑ์จากนม อาจทำให้เกิดความผันผวนในการจับคู่สกุลเงิน นอกจากนี้ เทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จยังคำนึงถึงวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น รูปแบบแผนภูมิและตัวบ่งชี้ ควบคู่ไปกับข้อมูลพื้นฐานก่อนดำเนินการเทรดเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง

โดยสรุป การทำความเข้าใจความซับซ้อนของความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างสหรัฐฯ และออสเตรเลียเป็นสิ่งสำคัญเมื่อวางแผนกลยุทธ์ USD/AUD fx เนื่องจากความสัมพันธ์โดยธรรมชาติของมันกับพลวัตของตลาดที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินเหล่านี้

การพัฒนาแผนกลยุทธ์การเทรด Forex ที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์สภาวะตลาดและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงิน เหตุการณ์สำคัญ ๆ ทางเศรษฐกิจ ที่คุณสามารถติดตามได้จากกราฟราคาแบบเรียลไทม์ของ Tradingview ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเทรด Forex แต่ละคู่เงินได้อย่างมีทิศทางมากขึ้น

นอกจากนี้ เทรดเดอร์อาจใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น รูปแบบแผนภูมิหรือตัวบ่งชี้พื้นฐาน เช่น ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย เพื่อระบุการเทรดที่ทำกำไรตามอารมณ์ตลาด นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องจัดการความเสี่ยงด้วยเทคนิคการจัดการเงินที่เหมาะสม รวมถึงคำสั่งหยุดการขาดทุนหรือกลยุทธ์การปรับขนาดตำแหน่ง

ค่าเงิน USD เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีการเทรดกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีความเสถียรและสภาพคล่อง การลงทุนอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการกระจายพอร์ตการลงทุนหรือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

เพดานหนี้ของสหรัฐฯ เป็นข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับจำนวนหนี้สาธารณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ สามารถออกได้ ในปี พ.ศ. 2566 ขีดจำกัดนี้อยู่ที่ 28.5 ล้านล้านดอลลาร์และทำหน้าที่ป้องกันการกู้ยืมของรัฐบาลมากเกินไปซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจ เมื่อสภาคองเกรสอนุมัติร่างกฎหมายการใช้จ่ายหรืองบประมาณที่เกินเพดานหนี้ในปัจจุบัน การเจรจาจะต้องเกิดขึ้นเพื่อให้สามารถกู้ยืมเพิ่มเติมได้โดยไม่ละเมิดข้อจำกัดทางกฎหมาย หากไม่ดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ของประเทศ ซึ่งนำไปสู่หายนะที่ตามมาทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลก

กระบวนการเจรจาเรื่องเพดานหนี้มีผลอย่างมากต่อค่าของเงินค่าเงิน USD หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันท่วงที หรือไม่สามารถเจรจาขยายเพดานหนี้ได้ภายใน 5 มิ.น. 256 นี้ บรรดานักลงทุนอาจมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินแก่ประเทศที่มีปัญหาทางการคลังที่ไม่ได้รับการแก้ไข ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้นและทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อตามกาลเวลา

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้อาจสร้างความผันผวนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เนื่องจากเทรดเดอร์อาจรับรู้ถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการถือครองสินทรัพย์ของสหรัฐฯ

หายนะจากการผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเครดิตความน่าเชื่อถือของมูลค่าค่าเงินค่าเงิน USD ที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ไม่เพียงแต่สหรัฐฯ ในครั้งนี้เท่านั้น หากประเทศใดผิดนัดชำระหนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศนั้นจะลดลง นำไปสู่ความน่าสนใจที่น้อยลงในการลงทุนของเงินทุนจากต่างประเทศ (เพราะลำพังการลงทุนภายในประเทศ อาจไม่เพียงพอต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจได้)

เมื่อนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศเริ่มย้ายทุนออกจากตลาดหุ้นประเทศหนึ่ง ๆ เศรษฐกิจของประเทศจะได้รับผลกระทบเนื่องจากเงินทุนไหลออก และนำไปสู่การอ่อนค่าของสกุลเงินและผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อทะยานสูงขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้คนอาจเริ่มขายเงินดอลลาร์และมองหาช่องทางการลงทุนอื่น ๆ ที่ปลอดภัยกว่า สิ่งนี้จะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินดังกล่าวด้อยค่าลง และท้ายที่สุด แบงค์ก็อาจกลายเป็น “กระดาษไร้ค่า” ได้ในไม่ช้า

การหาจุดร่วมระหว่างการโต้วาทียังคงมีความสำคัญต่อการทำให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงเติบโตต่อไปโดยไม่กระตุ้นการตอบสนองของตลาดที่คาดเดาไม่ได้จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งในประเทศและทั่วโลก

โดยรวมแล้ว แม้ว่าจำเป็นสำหรับการกำกับดูแลที่มีความรับผิดชอบทางการคลัง แต่การจัดการหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบและการเจรจาอย่างมีทักษะเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจและค่าเงินของตน

แนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนเงินค่าเงิน USD ในปี 2566

เมื่อเรามองไปยังปี พ.ศ. 2566 ค่าเงิน USD คาดว่าจะรักษาบทบาทเป็นสกุลเงินสำรองของโลก อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อความแข็งแกร่งของ USD ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เพดานหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันมานานหลายทศวรรษ จะอยู่ภายใต้การหารือหลังวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นหัวข้อที่สำคัญเนื่องจากไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อตำแหน่งในตลาดโลกด้วย ในสถานการณ์เช่นนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจถึงผลกระทบที่เป็นไปได้ต่อการเคลื่อนไหวของเงินค่าเงิน USD 

น้ำมันดิบและอัตราดอกเบี้ยมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ดังนั้น ความผันผวนหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในมูลค่าของสินทรัพย์เหล่านี้อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติที่จะลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์หรือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หากราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองหรือข้อจำกัดด้านอุปทาน ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังคงทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย ผลกระทบเชิงบวกต่อค่าเงินค่าเงิน USD เนื่องจากความต้องการพึ่งพากลุ่มประเทศ OPEC+ ลดลง และชาวอเมริกันยังคงลงทุนในประเทศมากขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ เช่น EUR/USD, JPY/USD เป็นต้น ซึ่งทำให้มูลค่าของสกุลเงินเหล่านี้ค่อนข้างสูงกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ

ในทางกลับกัน หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยสมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เทรดเดอร์ลดส่วนส่วนการลงทุนโดยตรงในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า จะส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์ (รวมถึงทองคำ) มีราคาแพงขึ้น สิ่งนี้สามารถผลักดันให้เงินทุนไหลกลับออกไปยังคลังที่ผลตอบแทนอาจต่ำกว่าและด้วยเหตุนี้จึงส่งผลกระทบต่อ USD โดยลดความน่าดึงดูดใจในหมู่ผู้ซื้อที่มีศักยภาพระหว่างผู้ที่เก็บเงินระยะสั้นไว้ในบัญชีออมทรัพย์แทนที่จะเก็บไว้ในเครื่องมือเพื่อการลงทุนเช่นหุ้น

จากการวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนเงินค่าเงิน USD  อาจเป็นเวลาที่ดีในการพิจารณาซื้อเงินค่าเงิน USD เงินสกุลนี้แสดงความแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอีกหลายสกุลทั่วโลก ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความตึงเครียดทางการค้าและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนมักจะแห่กันไปที่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยเช่น USD

ดังที่ได้กล่าวตอนต้นว่า เวลานี้ (พ.ค. - มิ.ย. 2566) เราควรจับตาดูทิศทางการเจรจาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ไม่มีคนที่จะได้ 2 ฝ่าย เมื่อมีคนได้ ก็ย่อมมีคนเสีย มาดูกันว่า ตอนนี้เราควรให้ค่ากับการลงทุนในเงินดอลลาร์ สินทรัพย์ที่ผูกพันทางตรงกับเงินดอลลาร์ หรือให้น้ำหนักกับสินค้าที่อยู่คนละขั้วอย่างทองคำ

คุณควรประเมินความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้ว่าถ้าเงินดอลลาร์ด้อยค่าลงจากการผิดนัดชำระหนี้ พอร์ตการลงทุน ณ ปัจจุบันจะเป็นเช่นไร คุณจะยอมรับได้หรือไม่ วิตกกังวลหรือไม่ ในทางตรงกันข้าม หากคุณมองว่า แม้สหรัฐฯ อาจผิดนัดชำระหนี้ในเวลานี้ แต่จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในไม่ช้า การเข้าลงทุนในตลาดขาลงเพื่อให้ได้ของดีราคาถูก ก็อาจเป็นการตัดสินใจที่ดี

ในทางตรงกันข้าม หากคุรพิจารณาว่าควรกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ ที่เ้ปลี่ยนแปลงตรงกันข้ามกับเงินค่าเงิน USD เช่น น้ำมันดิบ หรือทองคำ ก็อย่าลืมเพิ่มการศึกาาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ

หันมามองที่อัตราแลกเปลี่ยน US Dollar ต่อเงินบาทไทยในครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2566 ดูบ้าง ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทิศทางของเศรษฐกิจและการเงินไทย ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเงินค่าเงิน USD เพราะเราเป็นหนึ่งชาติที่ค้าขายด้วยสกุลเงิน USD การเปลี่ยนแปลง แข็งค่าหรืออ่อนค่าของ USDTHB สร้างผลกระทบต่อคนทุกวงการ

ปัจจัยบวกต่อการนำเข้า

ผู้นำเข้าจะได้ประโยชน์มาก ถ้าเงินบาทอ่อนเมื่อเทียบกับเงิน USD นั่นหมายความว่า ด้วยเงิน USD จจนวนเท่าเดิม จะสามารถเพิ่มมูลค่าเงินบาทได้มากขึ้น

ยกตัวอย่างเมื่อ ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ค่าเงิน USDTHB อยู่ที่ 38 บาทต่อหนึ่งเหรียญ นั่นหมายความว่า ทุก ๆ 1 USD จะมีมูลค่า 38 บาท

ภาพ: อัตราแลกเปลี่ยน USDTHB ที่ระดับ 38 เหรียญ ณ ต.ค. 2565

ภาคส่วนที่ได้รับประโยชน์จะเป็นผู้ส่งออกก็จริง แต่หากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ในเร็ว ๆ นี้ อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของค่าเงิน USD ได้ และการที่ประเทศไทยเป้นคู่ค้าส่งออกไปยังสหรัฐฯ ก็จได้รับผลกระทบนี้

ปัจจัยบวกต่อการส่งออก

ผู้ส่งออก ต้องการให้เงินบาทอ่อน เพราะเมื่อรับชำระเงิน USD แล้วจะแปลงเป็นเงินไทยได้มากกว่ายามที่เงินบาทแข็ง

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนเกี่ยวกับคู่สกุลเงิน USD หรือประเภทสินทรัพย์อื่นใด สิ่งสำคัญคือต้องทำการวิจัยเองและปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินหากจำเป็น

ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการซื้อค่าเงิน USD หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น เป้าหมายส่วนบุคคลและระดับการยอมรับความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม การรับทราบข้อมูลเหตุการณ์ปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับการเงินและเศรษฐกิจสามารถช่วยให้ตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น

การลงทุนในสกุลเงินค่าเงิน USD อาจเป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดด้วยเหตุผลหลายประการ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจแนวโน้มของอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันและปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อมูลค่าของอัตราแลกเปลี่ยน

การเก็งกำไรจากค่าเงินค่าเงิน USD มีหลายวิธี วิธีที่ดั้งเดิมที่สุดคือการแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงิน USD แต่วิธีนี้ก็มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากกว่าคำพูด และการแลกเปลี่ยนนั้นจะต้องผ่านการดำเนินการของบุคคลที่ 3 เช่นธนาคาร ที่จะหักค่าดำเนินการออกไปในรูปของการบวกเพิ่มบนอัตราแลกเปลี่ยนที่แสดงไว้ที่ธนาคาร เราจึงจะพบว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่เราตรวจสอบบนอินเทอร์เน็ต มักจะเป็นเรทที่ดีกว่าเรทอัตราแลกเปลี่ยนที่แสดงอยู่ที่ธนาคาร

หากคุณสนใจที่จะซื้อเงินค่าเงิน USD ในราคาที่เหมาะสม มีตหนึ่งตัวเลือกที่คุณสามารถเริ่มได้ทันที และได้รับผลตอบแทนในทันที 24 ชั่วโมง ตลอด 5 วันในสัปดาห์ คือการเทรด Forex กับคู่สกุลเงิน USD ซึ่งเป็นหนึ่งใน 8 คู่เงิน Forex ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

การเทรด Forex ด้วยค่าเงิน USD คุณไม่ต้องถือเงิน USD หรือสกุลเงินอื่น ๆ ในรูปของเงินจริง เพียงใช้บริการของโบรกเกอร์ Forex ที่มาพร้อมกราฟราคาคู่เงิน การวิเคราะห์ของพื้นฐานค่าเงินนั้น ๆ และการวิเคราะห์เชิงเทคนิคที่สอดรับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันของคู่เงินเทรด Forex ก้สามารถทำให้คุฯได้ซื้อเงินดอลลาร์ในราคาที่ดี ๆ ทำกำไรบนส่วนต่างราคากับคู่เงินอื่น ๆ ทั่วโลกได้

ไม่ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการซื้อค่าเงิน USD หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเงินส่วนบุคคลและการยอมรับความเสี่ยง ด้วยการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกและทำความเข้าใจว่าปัจจัยต่าง ๆ เหล่านั้นมีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนอย่างไร คุณจึงจะสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลเกี่ยวกับเวลาและจำนวนเงินที่จะลงทุนในสกุลเงินนี้

ค่าเงิน USD เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีการเทรดกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีความเสถียรและสภาพคล่อง การลงทุนอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการกระจายพอร์ตการลงทุนหรือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

TOPONE Markets เป็นผู้ให้บริการการเทรดครบวงจรโดยที่คุณไม่ต้องถือสินทรัพย์อ้างอิงไว้กับตัว ด้วยการเทรด CFD ของ Forex ที่จะทำให้คุณเทรดคู่เงิน Forex ได้ทั้งแนวโน้มขาขึ้นและแนวโน้มขาลง มาพร้อมกับเลเวอเลจสูงสุดถึง 1,000 เท่า

นโยบายการเทรดของเราคือค่าคอมมิชชั่น 0％ และค่าสเปรดที่แคบ ทำให้คุณได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการเทรดกับโบรกเกอร์ที่ค่าคอมมิชชันสูง ๆ หรือเรียกค่าเสปรดที่กว้าง

คุณสามารถตรวจสอบตารางค่าสเปรดการเทรด Forex ของเราได้ที่นี่

และหากคุณยังเป็นมือใหม่ในโลกของการเทรด Forex อย่าลืมเพิ่มพูนความรู้พื้นฐานของการเทรด Forex ก่อนเริ่มต้นวางแผนเทรดแรก 

โปรดจำไว้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ และสิ่งสำคัญคือกรทำความเข้าใจกับความเสี่ยงตามลักษณะของสินทรัพย์การลงทุน อย่างไรก็ตาม ด้วยการวางแผนและการวิจัยอย่างรอบคอบ การซื้อค่าเงิน USD อาจเป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดสำหรับทั้งเทรดเดอร์ระยะสั้นและนักลงทุนระยะยาว

การเทรด Forex  USD เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก เนื่องจากความมั่นคงและความแข็งแกร่งของค่าเงิน USD ในตลาดโลก ในการเทรด Forex  USD คุณจะต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ Forex ที่มีชื่อเสียงและเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่คุณต้องการ

ก่อนเริ่มต้นออเดอร์แรกของกรเทรด Forex สิ่งสำคัญคือต้องพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่มั่นคงซึ่งคำนึงถึงการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิค คุณสามารถวิเคราะห์แผนภูมิ ใช้ตัวบ่งชี้ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือ Bollinger Bands จับตาดูข่าวเศรษฐกิจที่เผยแพร่ และติดตามเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของคู่สกุลเงิน USD

รวมถึงวางแผนการจัดการความเสี่ยงด้วยการตั้งค่าคำสั่งหยุดการขาดทุนและใช้ขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม การเทรดอย่างมีวินัยมีความสำคัญต่อความสำเร็จในตลาด Forex 

การลงทุนในสกุลเงินค่าเงิน USD จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนอย่างรอบคอบ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงในการเทรดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ นักลงทุนที่เข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้สามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินได้

โดยการจับตาดูแนวโน้มเศรษฐกิจโลก พัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ และปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อตลาด Forex เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลว่าเมื่อใดควรซื้อหรือขายคู่สกุลเงิน USD ในราคาที่สมเหตุสมผล ด้วยความอดทนและความขยันหมั่นเพียรพร้อมกับปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในขณะที่การเทรดในตลาด Forex สามารถนำไปสู่ผลตอบแทนอันมีค่าเมื่อเวลาผ่านไป