รู้ Market Share รู้แนวทางการตลาด

คำว่า Market Share หรือส่วนแบ่งการตลาด เป็นประเด็นร้อนในโลกธุรกิจ ที่เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงได้ยินผ่านหู แต่หากยังไม่แน่ใจว่ามันมีความหมายหรือความสำคัญอย่างไร ในแง่ที่ง่ายที่สุด ส่วนแบ่งการตลาดคือส่วนหนึ่งของตลาดทั้งหมดที่บริษัทหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีตัวตนอยู่ เช่น หากมีวิดเจ็ตขาย 100 รายการในหนึ่งวัน และบริษัทของคุณขายได้ 30 รายการ ส่วนแบ่งการตลาดของคุณคือ 30% มีปัจจัยมากมายที่เข้าสู่ส่วนแบ่งการตลาด รวมถึงราคา โปรโมชัน ตำแหน่ง และผลิตภัณฑ์ ในบล็อกโพสต์นี้ เราจะสำรวจปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดและปัจจัยเหล่านี้มีบทบาทอย่างไรในส่วนแบ่งการตลาด

Market Share คืออะไร

Market Share หรือ ส่วนแบ่งการตลาด หมายถึง ส่วนหนึ่งของยอดขายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตลาดหรืออุตสาหกรรมที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ ในการคำนวณส่วนแบ่งการตลาดของบริษัท ก่อนอื่นให้กำหนดช่วงเวลาที่คุณต้องการตรวจสอบ อาจเป็นรายไตรมาส ปีงบประมาณ หรือหลายปีก็ได้

ถัดไป คำนวณยอดขายรวมของบริษัทในช่วงเวลานั้น จากนั้นค้นหายอดขายรวมของอุตสาหกรรมของบริษัท สุดท้าย แบ่งรายได้รวมของบริษัทด้วยยอดขายรวมของอุตสาหกรรม เช่น หากบริษัทขายรถแทรกเตอร์ในประเทศได้ 100 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว และยอดขายรวมของรถแทรกเตอร์ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 200 ล้านดอลลาร์ ส่วนแบ่งตลาดรถแทรกเตอร์ในสหรัฐฯ ของบริษัทจะอยู่ที่ 50%

Market Share สำคัญต่อการกลยุทธ์การตลาดอย่างไรบ้าง

จำนวนส่วนแบ่งการตลาดที่บริษัทมีสามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัท บริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดมาก จะสามารถใช้จ่ายเงินทุนไปกับในการโฆษณาและส่งเสริมการขายได้มากกว่าบริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดน้อย ยังสามารถทำการตลาดเชิงรุกได้มากขึ้นเพราะมีฐานลูกค้าที่ใหญ่กว่าที่จะดึงดูดให้คนมาสนใจ

บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดน้อย อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังในกลยุทธ์ทางการตลาด อาจต้องมุ่งเน้นไปที่ความคิดริเริ่มทางการตลาดที่กำหนดเป้าหมายซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ และอาจต้องระวังไม่ให้ฐานลูกค้าเดิมของแปลกแยกออกไป

ส่วนแบ่งการตลาดอาจส่งผลต่อกลยุทธ์การกำหนดราคา บริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดขนาดใหญ่บางครั้งสามารถเรียกเก็บเงินจากราคาที่สูงขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนและยังคงขายได้สำเร็จ แต่บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดน้อยอาจต้องตั้งราคาให้ต่ำเพื่อให้สามารถแข่งขันได้

ท้ายที่สุดแล้ว กลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทใดๆ ก็คือกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดึงดูดและรักษาลูกค้า แต่ขนาดของส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทควรนำมาพิจารณาด้วยเมื่อทำแผนการตลาด

สูตรคำนวณ Market Share 

เมื่อพูดถึงการคำนวณส่วนแบ่งการตลาด มีหลายวิธีที่แตกต่างกันที่นักวิเคราะห์ใช้ วิธีทั่วไปคือนำจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทใดบริษัทหนึ่งมาหารด้วยจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของทุกบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน สิ่งนี้จะให้เปอร์เซ็นต์ของตลาดที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งมี

ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัท A =  จำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วของ A / จำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วในอุตสาหกรรม

อีกวิธีหนึ่งในการคำนวณส่วนแบ่งการตลาดคือการนำรายได้ทั้งหมดที่เกิดจากบริษัทหนึ่งๆ มาหารด้วยรายได้รวมที่เกิดจากทุกบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน สิ่งนี้จะทำให้คุณมีส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทในแง่ของรายได้

ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัท A =  ยอดขายรวมของ A / ยอดขายรวมของอุตสาหกรรม

หรืออีกทาง นักวิเคราะห์บางคนชอบที่จะคำนวณส่วนแบ่งการตลาดโดยนำสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทมาหารด้วยสินทรัพย์รวมของบริษัททั้งหมดในอุตสาหกรรมเดียวกัน สิ่งนี้ทำให้คุณมีส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทในแง่ของสินทรัพย์

ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัท A =  ทรัพย์สินของ A / ทรัพย์สินของบริษัทในอุตสาหกรรม

ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีใด การคำนวณส่วนแบ่งการตลาดอาจเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการเปรียบเทียบบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรม และดูว่าทำงานเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกัน

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ Market Share

มีหลายปัจจัยที่สามารถมีอิทธิพลต่อส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงขนาดและขอบเขตของธุรกิจ ภาพรวมของอุตสาหกรรม ความพยายามทางการตลาดและการโฆษณาของบริษัท และสภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไป

เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ธุรกิจจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้อย่างรอบคอบและกำหนดกลยุทธ์ที่จะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสและเอาชนะความท้าทายได้ เช่น ธุรกิจอาจตัดสินใจเข้าสู่ตลาดใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้า หรืออาจลงทุนในแคมเปญการตลาดที่กำหนดเป้าหมายกลุ่มประชากรหลัก

ท้ายที่สุดแล้ว ธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับตลาดเป้าหมายของตน เพื่อที่จะตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับวิธีเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ด้วยการใช้วิธีการเชิงกลยุทธ์ ธุรกิจต่าง ๆ สามารถก้าวนำหน้าคู่แข่งและรักษาตำแหน่งที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมของตนได้

เมื่อบริษัทต่าง ๆ รับรู้สถานะที่แท้จริงของตนเองในสนามการแข่งขันแล้ว ต่อมาก็ควรคิดว่า หากจะเพิ่มอันดับ ควรต้องทำอย่างไร ซึ่งโดบทั่วไป มักจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งหมด ในสีดส่วนที่เหมาะสมและปรับเปลี่ยนได้ และเพื่อให้เข้ากับ KPI ขององค์กร

1. สมรรถภาพของบุคคลากร

บุคคลากรคือกำลังสำคัญขององค์กร หากต้องการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด องค์กรนั้นควรลงทุนในการพัฒนาบุคคลากร เพื่อที่จะได้มาเป็นกำลังหลักในการดำเนินนโยบายขององค์กร เพราะต่อให้มีเทคโนโลยีล้ำสมัยแค่ไหน แต่หกาคนขาดความรู้ องค์กรก็เดินหน้าต่อไปได้ยาก และส่งผลถึงยอดขายที่เป้นปัจจัยสำคัญของ Maket Share

2. การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ

เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กล่าวถึงนี้ จะมีบทบาทต่อการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการตลาดในแง่ของศักยภาพในการสร้างผลผลิต หรือบริหารการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารแบบองค์รวมให้มากขึ้นได้

เมื่อบริษัทหนึ่ง ๆ มีศักยภาพทางการแข่งขัน หรือการเติบโตที่นำคู่แข่ง ก็ย่อมมีโอกาสที่จะเป้นที่ต้องการของนักลงทุน สามใารถจำหน่ายหุ้นได้มากขึ้น หรือีกทางหนึ่งคือมีโอากาสในการสร้างรายได้ที่จะนำไปสู่ผลกำไรที่มากขึ้น ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป้นจำนวนของหุ้นหรือมูลค่าของรายได้ ล้วนเป็นวิธีการที่ใช้สะท้อนถึง Market Share ดังที่เราได้อธิบายไว้ในตอนต้น

3. ความภักดีของลูกค้า

ธุรกิจต่าง ๆ ย่อมชอบที่จะให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ การที่จะทำเช่นนั้นได้ ไม่ใช่การบังคับ หากแต่เป็นการมอบประสบการณ์ที่ดีต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการ เมื่อลูกค้าประทับใจ เชาย่อมแนะนำ บอกต่อ หรือกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ซึ่งแทนที่เม็ดเงินจะไหลไปยังคู่แข่ง ก็ไหลมาทางบริษัทของตน สิ่งนี้จึงทำให้ช่วยเสริมสร้างกระแสรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทนั้น ๆ ได้

และนี่ก็คือสิ่งที่นักลงทุนในหุ้นควรให้ความสนใจ เพราะการมองเห็นแนวทางนโยบาย หรือแผนการตลาดที่เป็นไปได้เหล่านี้ จะช่วยให้คุณประเมินแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการตลาด ถึงอย่างน้อย หากว่ามีรายได้เข้ามามากขึ้น บริษัทนั้นก็มีศักยภาพหรือโอกาสในการสร้างผลกำไรกลับคืนแก่นักลงทุนได้มากขึ้นนั่นเอง