เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด
เจาะลึกตลาด หุ้น เล่นหุ้นตัวไหนดี 2566: รวม 10 หุ้นไทยซื้อถือกินยาว

เล่นหุ้นตัวไหนดี 2566: รวม 10 หุ้นไทยซื้อถือกินยาว

ลงทุนเล่นหุ้นพื้นฐานดี เก็บเข้าพอร์ตสะสมความมั่งคั่งสำหรับการลงทุนระยะยาวได้ง่าย ๆ กับจุดเริ่มต้นที่ดีด้วย 10 หุ้นไทย ได้ทั้งเทรดทำกำไรระหว่างทาง และซื้อถือกินยาว

อวตารผู้เขียน
TOPONE Markets Analyst 2023-07-19
ไอคอนรูปตา 11871

บทนำ

ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งการลงทุนในหุ้น! ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ที่ช่ำชองหรือเพิ่งเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ท่ามกลางตัวเลือกหุ้นไทยจำนวนมากมาย การจะรู้ว่าควรเล่นหุ้นตัวไหนดีสำหรับเทรดทำกำไรระหว่างทาง และหุ้นตัวที่น่าซื้อเก็บสะสมความมั่งคั่งสำหรับการลงทุนระยะยาว อาจเป็นเรื่องยากด้วยปัจจัยคัดเลือกมากมาย


ในบทความนี้ เราจะแนะนำคุณตลอดกระบวนการค้นหาหุ้นไทยชั้นนำที่มีศักยภาพสูงสำหรับการลงทุนระยะยาวในปี 2566 ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่เป็นหุ้นที่ Active การซื้อขายจึงมีสภาพคล่องที่ค่อนข้างสูงในแต่ละวันทำการตลาดหุ้นไทย จึงทำให้เป็นเรื่องง่ายที่คุณจะสร้างรายได้จากการเทรดหุ้นทำกำไรในระยะสั้น


เทรดหุ้น VS. ลงทุนหุ้น ต่างกันอย่างไร

เมื่อเอ่ยถึงการทำเงินจากตลาดหุ้น มีสองรูปแบบใหญ่ ๆ สำหรับความต้องการและเป้าหมายที่แตกต่างกัน นั่นคือ การเทรดหุ้นระยะสั้นและการลงทุนซื้อหุ้นเก็บเพื่อการลงทุนระยะยาว 


ในย่อหน้านี้ เราจะค่อย ๆ มาดูถึงลักษณะของสองรูปแบบดังกล่าวนั้น และความแตกต่างของมัน สุดท้าย คุณเองจะตัดสินใจได้ว่า กลยุทธ์การลงทุนเล่นหุ้นแบบไหน ที่จะตอบโจทย์หรือเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด ระหว่างการเล่นหุ้นระยะสั้นและการลงทุนหุ้นระยะยาว แม้ว่ากลยุทธ์ทั้งสองมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลกำไร แต่ก็แตกต่างกันอย่างมากในแง่ของระยะเวลาและวัตถุประสงค์โดยรวม


การเล่นหุ้นะระสั้น หรือที่เรียกว่า Intrady หรือ Day Trade คือการซื้อและขายหุ้นเพื่อทำกำไรอย่างเร็ว ๆ ภายในเวลาทำการของตลาดหุ้น ณ วันนั้น ๆ เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การเล่นหุ้นระยะสั้นนี้จะต้องติดตามแนวโน้มตลาดอย่างใกล้ชิดและใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อระบุความผันผวนของราคาในระยะสั้นด้วยการดูกราฟราคาโดยใช้อินดิเคเตอร์หรือตัวบ่งชี้ต่าง ๆ บนกราฟหุ้น


เทรดเดอร์ที่เล่นหุ้นระยะสั้น จะคัดเลือกหุ้นที่ใช้ในการเทรดจากความ Active ของตัวหุ้นเอง จะต้องเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจ เป็นข่าวอยู่ ณ ปัจจุบัน



ในทางกลับกัน การลงทุนระยะยาวนั้นเกี่ยวกับความอดทนและการถือครองการลงทุนเป็นระยะเวลานาน นักลงทุนระยะยาวให้ความสำคัญกับการเลือกบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส พวกเขาเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าของหุ้นที่เลือกจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่ผลตอบแทนที่มาก


ในอีกด้านของตัวเลือก นักลงทุนหุ้นระยะยาวจะใช้แนวทางเชิงกลยุทธ์มากขึ้นโดยการศึกษาถึงข้อมูลพื้นฐานทางการเงิน ทิศทางและนโยบายการบริหาร เพื่อพิจารณาว่าหุ้นนี้น่าซื้อเก็บสำหรับลงทุนสะสมความมั่งคั่งในระยะยาวหรือไม่ โดยอาจพิจารณาจากความสามารถของทีมผู้บริหาร แนวโน้มของอุตสาหกรรม และความได้เปรียบในการแข่งขันก่อนที่จะตกลงลงทุนซื้อหุ้นเข้ามาใส่พอร์ต


เราลองมาดูกันเล่น ๆ ว่า หากเราลงทุนในตลาดหุ้นเป็นระยะเวลานาน อย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป จากอดีตที่ผ่านมาถึงปัจุบัน มูลค่าของพอร์ตหุ้นที่น่าลงทุนระยะยาวของเราจะเป็นลักษณะใด


จากภาพด้านบนคือข้อมูลดัชนีหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย (SET) ตอลดเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ถึงปัจจุบัน ก.ค. 2566


แน่นอนว่าหากคุณเข้าตลาดตั้งแต่ช่วงยุค 1990 แล้วถือมาจนถึงราว ๆ ปี 1994 มูลค่าจากราว ๆ 200 บาท จะพุ่งขึ้นไปเป็น 1500 กว่าเลยทีเดียว หมายความว่าตลาดหุ้นทำเงินให้คุณ 3,000%


สมมติว่าหากคุณถือครองสินทรัพย์อ้างอิงดัชนี SET นั้นมาเรื่อย ๆ แม้จะประสบกับความผันผวนในบางเวลา เช่น ราวปี 2000-2010 ที่เกิดวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ แต่หากคุณยังมีความมั่นใจในตลาดหุ้น (หรืออีกนัยหนึ่งคือความมั่นใจในเศรษฐกิจไทย) แล้วยังถือครองต่อมาถึงเวลานี้ ตลาดหุ้นจะสร้างผลตอบแทนให้คุณอย่างงดงาม


การลงทุนหุ้นระยะยาวนั้น คุณอาจเลือกซื้อทั้งตลาดหรือหุ้นรายตัวก็ได้ การซื้อทั้งตลาดหมายถึงการลงทุนในเครื่องมือการลงทุนที่อ้างอิงดัชนีตลาดหุ้นไทย เช่น กองทุน ETF ‘1DIV’ ที่อ้างอิงดัชนี SETHD ซึ่งเป้นหุ้นไทย 30 ตัวแรกที่มีประวัติการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ


ในอีกด้านหนึ่ง หากคุณมีความมั่นใจในบริษัทหรือหุ้นนี้เป็นพิเศษ ก็สามารถใช้เกณฑ์ที่เราแนะนำข้างต้นในการพิจารณาเลือกเล่นหุ้น ซื้อหุ้นเก็บเข้าพอร์ตเพื่อการลงทุนระยะยาวได้เช่นกัน

วิธีวางแผนซื้อหุ้นตัวแรก

ก้าวแรกที่สำคัญของการที่ว่าจะเลือกเล่นหุ้นตัวไหนดีนั้น คือต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าจะลงทุนไปเพื่ออะไร การลงทุนควรแบ่งตามเป้าหมายทางการเงิน เช่น สะสมความมั่นคงระยะยาวไว้ใช้หลังเกษียณ เพื่อการลดหย่อนภาษี เพื่อเดินทางท่องเที่ยว หรือเพื่อซื้อทรัพย์สิน เป็นต้น


ขั้นตอนการลงทุนอาจดูน่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สำคัญตามวิธีวางแผนซื้อหุ้นตัวแรกด้านล่างนี้แล้ว คุณจะดำเนินความพยายามนี้ได้อย่างมั่นใจ

ระบุเป้าหมายของการลงทุน

เป้าหมายต้องสมเหตุสมผล และมีความชัดเจน 


ความสมเหตุสมผล จะทำให้คุณมีกำลังใจในการลงทุน โดยเฉพาะการเล่นหุ้นระยะยาว เพราะต้องอาศัยเวลาและความอดทน ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ ไม่อ่อนไหวหรือตื่นตระหนกไปตามตลาด


ส่วนความชัดเจน ควรจะระบุเป็นตัวเลข เช่น ต้องการเงิน 3,000,000 บาท ภายใน 5 ปี เรื่องนี้จะช่วยให้คุณทราบได้ว่าควรเลือกหุ้นไหนดี ที่จะมีศักยภาพในการพาให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ไวขึ้น และเป็นจริงได้ 

กำหนดเงินลงทุน และศึกษาพื้นฐานหุ้นดี ๆ

จากตัวอย่างข้างต้น ที่คุณต้องการเงิน 3,000,000 บาทภายใน 5 ปี ก็ย่อยลงมาเป็นรายปี และรายเดือน หรือตามช่วงเวลาที่แต่ละคนต้องการ


หากเป็นรายปี คุณจะต้องลงทุนอย่างน้อยปีละ 600,000 บาท เมื่อคิดต่อเป็นรายเดือน จะต้องลงทุนเดือนละอย่างน้อย 50,000 บาท


ที่เราพูดว่า “อย่างน้อย” นั้นหมายความว่า ในบางเดือน ถ้าคุณได้รับเงินพิเศษ เช่นจากโบนัสการจ้างงาน หรือมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็ควรจัดสรรมาใส่ในเงินลงทุนเพิ่มเติมก่อน (ที่เหลือก็ค่อยเป็นรางวัลตัวเอง)


หากว่า เงินทุนเดือนละ 50,000 บาท ในตัวอย่างเช่นนี้ยังดูยากเกินกำลัง ก็ควรมาทบทวนเป้าหมายว่าควรจะยังเป็น 3,000,000 บาทอยู่หรือเปล่า หรือว่าเพิ่มระยะเวลาออกไปจาก 5 ปี ได้หรือไม่ เช่น หากเปลี่ยนเป็น 7 ปี คุณอาจจะเหลือที่ต้องจัดสรรไปเป็นเงินทุนที่เดือนละ 35,715 บาท ก็อาจจะช่วยให้คุณสามารถทำได้ตามเป้าหมาย และไม่ละทิ้งไปกลางคัน


ขั้นถัดมาคือการเลือกว่าหุ้นตัวไหนดีที่น่าซื้อเข้าพอร์ต หากใครยังลังเล หรือว่าไม่ชำาญในการเลือกหุ้นรายตัว ก็อาจพิจารณาจากเกณฑ์ของดัชนีตลาดหุ้น ซึ่งตลาดหุ้นไทยมีดัชนีหุ้นที่สามารถใช้เป็นเกณฑ์เลือกหุ้นดี ๆ ได้ 3 ดัชนี


  1. SET100: หุ้นไทยที่มีมาร์เก็ตแคป (มูลค่าตลาด) สูงที่สุด 100 อันดับแรก ปรับฐานการคำนวณทุก ๆ 6 เดือน

  2. SET50: หุ้นไทยที่มีมาร์เก็ตแคปสูงที่สุด 50 อันดับแรก ปรับฐานการคำนวณทุก ๆ 6 เดือน

  3. SETHD: หุ้นไทยที่มีประวัติจ่ายปันผลสูงต่อเนื่อง 30 หุ้นแรก ปรับฐานทุก ๆ 6 เดือน

กำหนดผลตอบแทนที่คาดหวัง

การกำหนดผลตอบแทนที่คาดหวัง จะเป็นอีกหนึ่งไกด์ไลน์ที่จะช่วยให้คุณสามารถติดตามผลการดำเนินการและปรับปรุงพอร์ตได้ 


ผลตอบแทนคาดหวังนี้จะต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น คุณอาจกำหนดว่า ในปีหนึ่ง ๆ ฉันจะต้องได้กำไรจากการเล่นหุ้นตัวนี้ไม่ต่ำกว่า 5% ถ้าหากต่ำกว่านั้น จะต้องถึงคราวปรับพอร์ต หรือตัดใจยอมขาดทุน เพื่อลดค่าเสียโอกาสในการลงทุนออกไป แล้วไปเข้าหาหุ้นอื่นที่จะมีศักยภาพสูงกว่า


การกำหนดผลตอบแทนที่คาดหวังนี้ คุณสามารถใช้เกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ในภาพรวมเป็นเกณฑ์ โดยดูที่ผลการทำงานที่ผ่านมา


ติดตามผลการดำเนินงาน

การลงทุนหุ้นระยะยาวนั้น ไม่ใช้เพียงแค่เลือกหุ้นดี ๆ ที่น่าซื้อเข้ามาในพอร์ตครั้งเดียวแล้วปลอ่ยทิ้งไว้ แต่คุณจะต้องติดตามผลการดำเนินการเป็นระยะ ๆ ทั้งในแง่ของตัวหุ้นและสัดส่วนในพอร์ตหุ้นระยะยาว ไม่เช่นนั้น อาจทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ในตลาดหรือเสียโอกาสไปได้


คุณควรติดตามข่าวสารสำคัญ ๆ ในตลาดที่อาจจะส่งผลกระทบต่อหุ้นที่กำลังถืออยู่ ดูทิศทางของผู้เข้าร่วมตลาดคนอื่น ๆ ผ่านการอ่านกราฟราคา และประเมินด้วยตนเองว่าเราจะยังควรลงทุนในหุ้นนี้อยู่ต่อไปหรือไม่ หรือควรจะขายออก เป็นต้น

ปรับปรุงพอร์ตตามความเหมาะสม

ไม่มีสูตรตายตัวว่าเมื่อไรควรปรับพอร์ต บางคนอาจกำหนดเป็นสัดส่วนของการขาดทุนที่ยอมรับได้ เช่น โดยรวมจะยินยอมให้ขาดทุนได้ไม่เกิน 20% ถ้าเกินจากนั้น เขาอาจตัดใจขาดขายทุน แล้วหันไปหาหุ้นอื่น ๆ ที่มีศักยภาพดีกว่า


อย่างไรก็ตาม เมื่อบางหุ้นอาจจะขาดทุนมากกว่า 20% ตามที่ตั้งลิมิตไว้ แต่เขามีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าหุ้นตัวนี้น่าเล่นระยะยาว เพราะเป็นหุ้นคุณค่า มีโอกาสพลิกกลับมาทำกำไรต่อได้ในระยะยาว การขาดทุนนี้เป็นเพียงแค่ช่วงสั้น ๆ ตามเหตุการณ์ปัจจุบัน เขาก็อาจจะยังคงน้ำหนักในหุ้นนั้นไว้ หรือใช้โอกาสนี้ในการซื้อเพิ่ม เพื่อเป็นการลดต้นทุนก็ได้


ในการวางแผนเล่นหุ้นระยะยาว นอกจากค้นหาหุ้นที่น่าลงทุนระยะยาวที่น่าซื้อเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุนแล้ว ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขาด อย่าละเลยเป้าหมายทางการเงินและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้จะกำหนดกลยุทธ์การลงทุนในอนาคต การประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ช่วยในการตัดสินใจเลือกระหว่างหุ้นเติบโตหรือหุ้นคุณค่าซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีเสถียรภาพมากกว่าแต่ให้ผลตอบแทนช้ากว่า นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญในการกระจายการลงทุนไปยังภาคส่วนหรือประเภทสินทรัพย์ต่างๆ เนื่องจากเป็นการกระจายความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแต่ละบริษัทหรือแต่ละอุตสาหกรรม


หุ้นตัวไหนที่น่าซื้อลงทุนระยะยาว

ตลาดหุ้นไทยมีผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และนักลงทุนจำนวนมากกำลังมองหาหุ้นที่ดีที่สุดที่จะซื้อในประเทศไทยในปี 2566 แม้ว่าจะไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่นอนว่าหุ้นใดจะมีประสิทธิภาพดีกว่าหุ้นอื่น ๆ แต่ก็มีบางกลุ่มที่สำคัญที่แสดงสัญญาณที่ดีดังกล่าว


อุตที่ต้องพิจารณาคือการดูแลสุขภาพ ด้วยจำนวนประชากรสูงอายุและความต้องการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น การลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพของไทยจึงอาจเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเภสัชกรรม โรงพยาบาล และเทคโนโลยีทางการแพทย์มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้


อีกภาคที่มีแนวโน้มคือพลังงานหมุนเวียน ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในการส่งเสริมแหล่งพลังงานสะอาด และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลมอาจเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า


เทคโนโลยีเป็นอีกภาคส่วนที่ควรค่าแก่การสำรวจ การปฏิวัติทางดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั่วโลก และบริษัทเทคโนโลยีของไทยมีศักยภาพในการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไปจนถึงบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ มีโอกาสมากมายสำหรับนักลงทุนที่แสวงหาศักยภาพในการเติบโตสูง


หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวก็น่าลงทุนเช่นกัน เนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว บริษัทที่ให้บริการด้านการบริการต้อนรับหรือตัวแทนการท่องเที่ยวอาจได้ประโยชน์จากจำนวนผู้มาเยือนที่เพิ่มขึ้นหลังการระบาดใหญ่


ข้อมูลด้านล่างต่อไปนี้ เราได้คัดเลือก 10 หุ้นที่ดี ๆ ที่น่าซื้อเข้าพอร์ตการลงทุนระยะยาว โปรดจำไว้เสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ การวิจัยอย่างละเอียดและการปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเป็นสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจลงทุน จับตาดูแนวโน้มของตลาดและติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคส่วนหรือบริษัทเฉพาะภายในภาคส่วนนั้น


ข้อมูลการเงิน ณ วันที่ 31 มี.ค. 2566 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) - PTT

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.): ในฐานะบริษัทน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ปตท. มีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งและมีรายได้ที่สม่ำเสมอ

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 763,803.46

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 27,854.84

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 5.20

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.98


ราคาหุ้น PTT ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) - ADVANC

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมรายนี้ครองอุตสาหกรรมเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยและอยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการเติบโตในอนาคต

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 46,846.68

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 6,756.93

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 14.43

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 2.27


ราคาหุ้น ADVANC ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) - SCC

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC: ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างที่หลากหลาย SCC พร้อมที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 145,792.96

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 16,525.74

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 10.98

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 13.77


ราคาหุ้น SCC ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) - BBL

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในธนาคารที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยนำเสนอความมั่นคงและศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลสำหรับนักลงทุนระยะยาว ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี พ.ศ. 2566 เป็นองค์ประกอบในดัชนี SET50, SET100, SETCLMV และ SETTHSI

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 56,889.13

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 10,129.29

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 18.00

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 5.31


ราคาหุ้น BBL ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) - CPALL

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL: ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในประเทศไทย CPALL มีฐานลูกค้าที่มั่นคงและมีกระแสเงินสดที่มั่นคง

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 222,019.79

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 4,122.78

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 2.23

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.45


ราคาหุ้น CPALL ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) - KBANK

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  เป็นอีกหนึ่งธนาคารไทยชั้นนำที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ระมัดระวัง

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 74,881.46

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 10,741.06

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 15.39

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 4.38


ราคาหุ้น KBANK ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) - AOT

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าของบริหารสนามบินหลักหลายแห่งในประเทศไทย มีท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ซึ่งท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งนี้ ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ และเป็นผู้ให้เช่าสัมปทานร้านค้าและร้านอาหารจำนวนมากในสนามบินแต่ละแห่ง ซึ่งสร้างรายได้ให้จำนวนไม่น้อย

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 19,945.79

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 2,203.30

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 11.70

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.15


ราคาหุ้น AOT ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) - CPN

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ด้วยเครือข่ายห้างสรรพสินค้าที่กว้างขวางทั่วประเทศ CPN นำเสนอแนวโน้มการบริโภคค้าปลีกในประเทศไทย


นอกเหนือจากการงทุนในหุ้นรายตัว CPN ยี้แล้ว คุณยังสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนระยะยาวในอสังหาริมทรัพย์ในการดูแลของเซ็นทรัลได้ผ่านสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) ได้อีกทางเลือกหนึ่ง

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 10,698.11

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 3,245.89

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 30.59

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.73


ราคาหุ้น CPN ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) - BDMS

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศ โดยมีโรงพยาบาลเครือข่ายในไทยและกัมพูชา ดำเนินการภายใต้ชื่อโรงพยาบาล 6 กลุ่ม คือ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบี เอ็น เอช กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัล


นอกจากนี้เครือข่ายของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ยังรวมถึงธุรกิจที่ให้การสนับสนุนด้านการแพทย์ ได้แก่ ธุรกิจห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ธุรกิจผลิตยาและธุรกิจผลิตน้ำเกลือ เป็นต้น


เพื่อรองรับเทรนด์การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การเริ่มต้นสะสมความมั่งคั่งในหุ้นโรงพยาบาล เพื่อเติบโตไปพร้อม ๆ กับเทรนด์ก็อาจเป็นการกระจายอุตสาหกรรมการลงทุนที่ดีเช่นกัน

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 24,350.80

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 3,470.11

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 14.73

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.22


ราคาหุ้น BDMS ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) - TRUE

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโซลูชั่นการสื่อสารแบบครบวงจรนี้นำเสนอบริการต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ เคเบิลทีวี โทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่มีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 55,724.83

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 1,786.89

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 3.27

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.06


ราคาหุ้น TRUE ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

เปิดพอร์ตหุ้น เริ่มลงทุนสะสมความมั่งคั่งระยะยาว

การเทรดหุ้นไทยนั้นเริ่มต้นได้ง่ายมาก ๆ คุณจะต้องมีบัญชีเทรดหุ้นกับโบรกเกอร์หุ้นก่อน โบรกเกอร์จะทำหน้าที่แทนคุณในการส่งคำาังซื้อหรือขายหุ้น และใช้แพลตฟอร์ม Streaming ใช้ในการเทรดและซื้อขายหุ้น


ในการเปิดบัญชีหุ้น เพียงเตรียมบัตรประชาชน สมุดบัญชีเงินฝาก และเอกสารการยืนยันแหล่งที่มาของรายได้ ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์อาจมีข้อเรียกร้องที่แตกต่างกัน สามารถศึกษาได้จา่กเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ


การเทรดหุ้นส่วนใหญ่ หากเป็นนักลงทุนรายย่อยจะใช้บัญชี Cash Balance หรือบัญชีเติมเงิน ที่คุณสามารถเริ่มฝากเงินเข้าบัญชีซื้อขาย โบรกเกอร์ส่วนใหญ่เสนอวิธีการฝากเงินที่หลากหลาย เช่น การโอนเงินผ่านธนาคารหรือระบบการชำระเงินออนไลน์


ในการซื้อหุ้น คุณสามารถเรียกดูหุ้นที่มีอยู่ในการแลกเปลี่ยนและทำการวิจัยอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน การวิเคราะห์การเงินของบริษัท แนวโน้มอุตสาหกรรม และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นเป็นสิ่งสำคัญ


อ่านเพิ่มเติม Stock 101 คู่มือเล่นหุ้นฉบับมือใหม่


ในบทความที่แนะนำนี้ คุณจะได้เรียนรู้เชิงลึกถึงรายละเอียดการซื้อหุ้นไทยด้วยแอป Streaming และวิะีการกำหนดราคาซื้อและราคาขาย


โปรดจำไว้ว่าการลงทุนในหุ้นนั้นมีความเสี่ยง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกระจายพอร์ตการลงทุน และอย่าใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว ตรวจสอบการลงทุนเป็นประจำและติดตามข่าวสารและแนวโน้มของตลาดอยู่เสมอ


การซื้อหุ้นในประเทศไทยเป็นช่องทางที่เข้าถึงได้สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการเติบโตในระยะยาว ด้วยการวิจัย กลยุทธ์ และความอดทนที่เหมาะสม ทุกคนสามารถเริ่มต้นเส้นทางการลงทุนได้แล้ววันนี้!


บทส่งท้าย

การเล่นหุ้นนั้น ถ้าไม่วางแผนก็ไม่ต่างอะไรกับการเดินไปข้างหน้าโดยไม่มีเข็มทิศ เงินทุนมีเท่าไรก็ไม่พอ และกำไรที่ควรจะได้ก็อาจหายไปจากความขาดสติ และหลงไปกับอารมณ์ของตลาด ดังนั้น นักลงทุนหุ้นระยะยาวที่จะประสบความสำเร็จได้ จะต้องรู้ว่าควรเลือกเล่นหุ้นตัวไหนดี รู้ว่าต้องพิจารณาจากข่าวสาร สถานการณ์บ้านเมือง และพิจารณาที่ธรรมชาติของหุ้นนั้น ๆ เพื่อสะสมความมั่นคงทางการเงินตามกาลเวลา

บทนำ

ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งการลงทุนในหุ้น! ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ที่ช่ำชองหรือเพิ่งเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ท่ามกลางตัวเลือกหุ้นไทยจำนวนมากมาย การจะรู้ว่าควรเล่นหุ้นตัวไหนดีสำหรับเทรดทำกำไรระหว่างทาง และหุ้นตัวที่น่าซื้อเก็บสะสมความมั่งคั่งสำหรับการลงทุนระยะยาว อาจเป็นเรื่องยากด้วยปัจจัยคัดเลือกมากมาย


ในบทความนี้ เราจะแนะนำคุณตลอดกระบวนการค้นหาหุ้นไทยชั้นนำที่มีศักยภาพสูงสำหรับการลงทุนระยะยาวในปี 2566 ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่เป็นหุ้นที่ Active การซื้อขายจึงมีสภาพคล่องที่ค่อนข้างสูงในแต่ละวันทำการตลาดหุ้นไทย จึงทำให้เป็นเรื่องง่ายที่คุณจะสร้างรายได้จากการเทรดหุ้นทำกำไรในระยะสั้น


เทรดหุ้น VS. ลงทุนหุ้น ต่างกันอย่างไร

เมื่อเอ่ยถึงการทำเงินจากตลาดหุ้น มีสองรูปแบบใหญ่ ๆ สำหรับความต้องการและเป้าหมายที่แตกต่างกัน นั่นคือ การเทรดหุ้นระยะสั้นและการลงทุนซื้อหุ้นเก็บเพื่อการลงทุนระยะยาว 


ในย่อหน้านี้ เราจะค่อย ๆ มาดูถึงลักษณะของสองรูปแบบดังกล่าวนั้น และความแตกต่างของมัน สุดท้าย คุณเองจะตัดสินใจได้ว่า กลยุทธ์การลงทุนเล่นหุ้นแบบไหน ที่จะตอบโจทย์หรือเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด ระหว่างการเล่นหุ้นระยะสั้นและการลงทุนหุ้นระยะยาว แม้ว่ากลยุทธ์ทั้งสองมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลกำไร แต่ก็แตกต่างกันอย่างมากในแง่ของระยะเวลาและวัตถุประสงค์โดยรวม


การเล่นหุ้นะระสั้น หรือที่เรียกว่า Intrady หรือ Day Trade คือการซื้อและขายหุ้นเพื่อทำกำไรอย่างเร็ว ๆ ภายในเวลาทำการของตลาดหุ้น ณ วันนั้น ๆ เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การเล่นหุ้นระยะสั้นนี้จะต้องติดตามแนวโน้มตลาดอย่างใกล้ชิดและใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อระบุความผันผวนของราคาในระยะสั้นด้วยการดูกราฟราคาโดยใช้อินดิเคเตอร์หรือตัวบ่งชี้ต่าง ๆ บนกราฟหุ้น


เทรดเดอร์ที่เล่นหุ้นระยะสั้น จะคัดเลือกหุ้นที่ใช้ในการเทรดจากความ Active ของตัวหุ้นเอง จะต้องเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจ เป็นข่าวอยู่ ณ ปัจจุบัน



ในทางกลับกัน การลงทุนระยะยาวนั้นเกี่ยวกับความอดทนและการถือครองการลงทุนเป็นระยะเวลานาน นักลงทุนระยะยาวให้ความสำคัญกับการเลือกบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส พวกเขาเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าของหุ้นที่เลือกจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่ผลตอบแทนที่มาก


ในอีกด้านของตัวเลือก นักลงทุนหุ้นระยะยาวจะใช้แนวทางเชิงกลยุทธ์มากขึ้นโดยการศึกษาถึงข้อมูลพื้นฐานทางการเงิน ทิศทางและนโยบายการบริหาร เพื่อพิจารณาว่าหุ้นนี้น่าซื้อเก็บสำหรับลงทุนสะสมความมั่งคั่งในระยะยาวหรือไม่ โดยอาจพิจารณาจากความสามารถของทีมผู้บริหาร แนวโน้มของอุตสาหกรรม และความได้เปรียบในการแข่งขันก่อนที่จะตกลงลงทุนซื้อหุ้นเข้ามาใส่พอร์ต


เราลองมาดูกันเล่น ๆ ว่า หากเราลงทุนในตลาดหุ้นเป็นระยะเวลานาน อย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป จากอดีตที่ผ่านมาถึงปัจุบัน มูลค่าของพอร์ตหุ้นที่น่าลงทุนระยะยาวของเราจะเป็นลักษณะใด


จากภาพด้านบนคือข้อมูลดัชนีหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย (SET) ตอลดเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ถึงปัจจุบัน ก.ค. 2566


แน่นอนว่าหากคุณเข้าตลาดตั้งแต่ช่วงยุค 1990 แล้วถือมาจนถึงราว ๆ ปี 1994 มูลค่าจากราว ๆ 200 บาท จะพุ่งขึ้นไปเป็น 1500 กว่าเลยทีเดียว หมายความว่าตลาดหุ้นทำเงินให้คุณ 3,000%


สมมติว่าหากคุณถือครองสินทรัพย์อ้างอิงดัชนี SET นั้นมาเรื่อย ๆ แม้จะประสบกับความผันผวนในบางเวลา เช่น ราวปี 2000-2010 ที่เกิดวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ แต่หากคุณยังมีความมั่นใจในตลาดหุ้น (หรืออีกนัยหนึ่งคือความมั่นใจในเศรษฐกิจไทย) แล้วยังถือครองต่อมาถึงเวลานี้ ตลาดหุ้นจะสร้างผลตอบแทนให้คุณอย่างงดงาม


การลงทุนหุ้นระยะยาวนั้น คุณอาจเลือกซื้อทั้งตลาดหรือหุ้นรายตัวก็ได้ การซื้อทั้งตลาดหมายถึงการลงทุนในเครื่องมือการลงทุนที่อ้างอิงดัชนีตลาดหุ้นไทย เช่น กองทุน ETF ‘1DIV’ ที่อ้างอิงดัชนี SETHD ซึ่งเป้นหุ้นไทย 30 ตัวแรกที่มีประวัติการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ


ในอีกด้านหนึ่ง หากคุณมีความมั่นใจในบริษัทหรือหุ้นนี้เป็นพิเศษ ก็สามารถใช้เกณฑ์ที่เราแนะนำข้างต้นในการพิจารณาเลือกเล่นหุ้น ซื้อหุ้นเก็บเข้าพอร์ตเพื่อการลงทุนระยะยาวได้เช่นกัน

วิธีวางแผนซื้อหุ้นตัวแรก

ก้าวแรกที่สำคัญของการที่ว่าจะเลือกเล่นหุ้นตัวไหนดีนั้น คือต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าจะลงทุนไปเพื่ออะไร การลงทุนควรแบ่งตามเป้าหมายทางการเงิน เช่น สะสมความมั่นคงระยะยาวไว้ใช้หลังเกษียณ เพื่อการลดหย่อนภาษี เพื่อเดินทางท่องเที่ยว หรือเพื่อซื้อทรัพย์สิน เป็นต้น


ขั้นตอนการลงทุนอาจดูน่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สำคัญตามวิธีวางแผนซื้อหุ้นตัวแรกด้านล่างนี้แล้ว คุณจะดำเนินความพยายามนี้ได้อย่างมั่นใจ

ระบุเป้าหมายของการลงทุน

เป้าหมายต้องสมเหตุสมผล และมีความชัดเจน 


ความสมเหตุสมผล จะทำให้คุณมีกำลังใจในการลงทุน โดยเฉพาะการเล่นหุ้นระยะยาว เพราะต้องอาศัยเวลาและความอดทน ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ ไม่อ่อนไหวหรือตื่นตระหนกไปตามตลาด


ส่วนความชัดเจน ควรจะระบุเป็นตัวเลข เช่น ต้องการเงิน 3,000,000 บาท ภายใน 5 ปี เรื่องนี้จะช่วยให้คุณทราบได้ว่าควรเลือกหุ้นไหนดี ที่จะมีศักยภาพในการพาให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ไวขึ้น และเป็นจริงได้ 

กำหนดเงินลงทุน และศึกษาพื้นฐานหุ้นดี ๆ

จากตัวอย่างข้างต้น ที่คุณต้องการเงิน 3,000,000 บาทภายใน 5 ปี ก็ย่อยลงมาเป็นรายปี และรายเดือน หรือตามช่วงเวลาที่แต่ละคนต้องการ


หากเป็นรายปี คุณจะต้องลงทุนอย่างน้อยปีละ 600,000 บาท เมื่อคิดต่อเป็นรายเดือน จะต้องลงทุนเดือนละอย่างน้อย 50,000 บาท


ที่เราพูดว่า “อย่างน้อย” นั้นหมายความว่า ในบางเดือน ถ้าคุณได้รับเงินพิเศษ เช่นจากโบนัสการจ้างงาน หรือมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็ควรจัดสรรมาใส่ในเงินลงทุนเพิ่มเติมก่อน (ที่เหลือก็ค่อยเป็นรางวัลตัวเอง)


หากว่า เงินทุนเดือนละ 50,000 บาท ในตัวอย่างเช่นนี้ยังดูยากเกินกำลัง ก็ควรมาทบทวนเป้าหมายว่าควรจะยังเป็น 3,000,000 บาทอยู่หรือเปล่า หรือว่าเพิ่มระยะเวลาออกไปจาก 5 ปี ได้หรือไม่ เช่น หากเปลี่ยนเป็น 7 ปี คุณอาจจะเหลือที่ต้องจัดสรรไปเป็นเงินทุนที่เดือนละ 35,715 บาท ก็อาจจะช่วยให้คุณสามารถทำได้ตามเป้าหมาย และไม่ละทิ้งไปกลางคัน


ขั้นถัดมาคือการเลือกว่าหุ้นตัวไหนดีที่น่าซื้อเข้าพอร์ต หากใครยังลังเล หรือว่าไม่ชำาญในการเลือกหุ้นรายตัว ก็อาจพิจารณาจากเกณฑ์ของดัชนีตลาดหุ้น ซึ่งตลาดหุ้นไทยมีดัชนีหุ้นที่สามารถใช้เป็นเกณฑ์เลือกหุ้นดี ๆ ได้ 3 ดัชนี


  1. SET100: หุ้นไทยที่มีมาร์เก็ตแคป (มูลค่าตลาด) สูงที่สุด 100 อันดับแรก ปรับฐานการคำนวณทุก ๆ 6 เดือน

  2. SET50: หุ้นไทยที่มีมาร์เก็ตแคปสูงที่สุด 50 อันดับแรก ปรับฐานการคำนวณทุก ๆ 6 เดือน

  3. SETHD: หุ้นไทยที่มีประวัติจ่ายปันผลสูงต่อเนื่อง 30 หุ้นแรก ปรับฐานทุก ๆ 6 เดือน

กำหนดผลตอบแทนที่คาดหวัง

การกำหนดผลตอบแทนที่คาดหวัง จะเป็นอีกหนึ่งไกด์ไลน์ที่จะช่วยให้คุณสามารถติดตามผลการดำเนินการและปรับปรุงพอร์ตได้ 


ผลตอบแทนคาดหวังนี้จะต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น คุณอาจกำหนดว่า ในปีหนึ่ง ๆ ฉันจะต้องได้กำไรจากการเล่นหุ้นตัวนี้ไม่ต่ำกว่า 5% ถ้าหากต่ำกว่านั้น จะต้องถึงคราวปรับพอร์ต หรือตัดใจยอมขาดทุน เพื่อลดค่าเสียโอกาสในการลงทุนออกไป แล้วไปเข้าหาหุ้นอื่นที่จะมีศักยภาพสูงกว่า


การกำหนดผลตอบแทนที่คาดหวังนี้ คุณสามารถใช้เกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ในภาพรวมเป็นเกณฑ์ โดยดูที่ผลการทำงานที่ผ่านมา


ติดตามผลการดำเนินงาน

การลงทุนหุ้นระยะยาวนั้น ไม่ใช้เพียงแค่เลือกหุ้นดี ๆ ที่น่าซื้อเข้ามาในพอร์ตครั้งเดียวแล้วปลอ่ยทิ้งไว้ แต่คุณจะต้องติดตามผลการดำเนินการเป็นระยะ ๆ ทั้งในแง่ของตัวหุ้นและสัดส่วนในพอร์ตหุ้นระยะยาว ไม่เช่นนั้น อาจทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ในตลาดหรือเสียโอกาสไปได้


คุณควรติดตามข่าวสารสำคัญ ๆ ในตลาดที่อาจจะส่งผลกระทบต่อหุ้นที่กำลังถืออยู่ ดูทิศทางของผู้เข้าร่วมตลาดคนอื่น ๆ ผ่านการอ่านกราฟราคา และประเมินด้วยตนเองว่าเราจะยังควรลงทุนในหุ้นนี้อยู่ต่อไปหรือไม่ หรือควรจะขายออก เป็นต้น

ปรับปรุงพอร์ตตามความเหมาะสม

ไม่มีสูตรตายตัวว่าเมื่อไรควรปรับพอร์ต บางคนอาจกำหนดเป็นสัดส่วนของการขาดทุนที่ยอมรับได้ เช่น โดยรวมจะยินยอมให้ขาดทุนได้ไม่เกิน 20% ถ้าเกินจากนั้น เขาอาจตัดใจขาดขายทุน แล้วหันไปหาหุ้นอื่น ๆ ที่มีศักยภาพดีกว่า


อย่างไรก็ตาม เมื่อบางหุ้นอาจจะขาดทุนมากกว่า 20% ตามที่ตั้งลิมิตไว้ แต่เขามีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าหุ้นตัวนี้น่าเล่นระยะยาว เพราะเป็นหุ้นคุณค่า มีโอกาสพลิกกลับมาทำกำไรต่อได้ในระยะยาว การขาดทุนนี้เป็นเพียงแค่ช่วงสั้น ๆ ตามเหตุการณ์ปัจจุบัน เขาก็อาจจะยังคงน้ำหนักในหุ้นนั้นไว้ หรือใช้โอกาสนี้ในการซื้อเพิ่ม เพื่อเป็นการลดต้นทุนก็ได้


ในการวางแผนเล่นหุ้นระยะยาว นอกจากค้นหาหุ้นที่น่าลงทุนระยะยาวที่น่าซื้อเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุนแล้ว ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขาด อย่าละเลยเป้าหมายทางการเงินและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้จะกำหนดกลยุทธ์การลงทุนในอนาคต การประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ช่วยในการตัดสินใจเลือกระหว่างหุ้นเติบโตหรือหุ้นคุณค่าซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีเสถียรภาพมากกว่าแต่ให้ผลตอบแทนช้ากว่า นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญในการกระจายการลงทุนไปยังภาคส่วนหรือประเภทสินทรัพย์ต่างๆ เนื่องจากเป็นการกระจายความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแต่ละบริษัทหรือแต่ละอุตสาหกรรม


หุ้นตัวไหนที่น่าซื้อลงทุนระยะยาว

ตลาดหุ้นไทยมีผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และนักลงทุนจำนวนมากกำลังมองหาหุ้นที่ดีที่สุดที่จะซื้อในประเทศไทยในปี 2566 แม้ว่าจะไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่นอนว่าหุ้นใดจะมีประสิทธิภาพดีกว่าหุ้นอื่น ๆ แต่ก็มีบางกลุ่มที่สำคัญที่แสดงสัญญาณที่ดีดังกล่าว


อุตที่ต้องพิจารณาคือการดูแลสุขภาพ ด้วยจำนวนประชากรสูงอายุและความต้องการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น การลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพของไทยจึงอาจเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเภสัชกรรม โรงพยาบาล และเทคโนโลยีทางการแพทย์มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้


อีกภาคที่มีแนวโน้มคือพลังงานหมุนเวียน ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในการส่งเสริมแหล่งพลังงานสะอาด และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลมอาจเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า


เทคโนโลยีเป็นอีกภาคส่วนที่ควรค่าแก่การสำรวจ การปฏิวัติทางดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั่วโลก และบริษัทเทคโนโลยีของไทยมีศักยภาพในการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไปจนถึงบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ มีโอกาสมากมายสำหรับนักลงทุนที่แสวงหาศักยภาพในการเติบโตสูง


หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวก็น่าลงทุนเช่นกัน เนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว บริษัทที่ให้บริการด้านการบริการต้อนรับหรือตัวแทนการท่องเที่ยวอาจได้ประโยชน์จากจำนวนผู้มาเยือนที่เพิ่มขึ้นหลังการระบาดใหญ่


ข้อมูลด้านล่างต่อไปนี้ เราได้คัดเลือก 10 หุ้นที่ดี ๆ ที่น่าซื้อเข้าพอร์ตการลงทุนระยะยาว โปรดจำไว้เสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ การวิจัยอย่างละเอียดและการปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเป็นสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจลงทุน จับตาดูแนวโน้มของตลาดและติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคส่วนหรือบริษัทเฉพาะภายในภาคส่วนนั้น


ข้อมูลการเงิน ณ วันที่ 31 มี.ค. 2566 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) - PTT

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.): ในฐานะบริษัทน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ปตท. มีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งและมีรายได้ที่สม่ำเสมอ

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 763,803.46

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 27,854.84

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 5.20

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.98


ราคาหุ้น PTT ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) - ADVANC

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมรายนี้ครองอุตสาหกรรมเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยและอยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการเติบโตในอนาคต

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 46,846.68

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 6,756.93

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 14.43

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 2.27


ราคาหุ้น ADVANC ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) - SCC

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC: ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างที่หลากหลาย SCC พร้อมที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 145,792.96

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 16,525.74

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 10.98

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 13.77


ราคาหุ้น SCC ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) - BBL

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในธนาคารที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยนำเสนอความมั่นคงและศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลสำหรับนักลงทุนระยะยาว ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี พ.ศ. 2566 เป็นองค์ประกอบในดัชนี SET50, SET100, SETCLMV และ SETTHSI

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 56,889.13

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 10,129.29

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 18.00

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 5.31


ราคาหุ้น BBL ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) - CPALL

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL: ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในประเทศไทย CPALL มีฐานลูกค้าที่มั่นคงและมีกระแสเงินสดที่มั่นคง

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 222,019.79

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 4,122.78

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 2.23

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.45


ราคาหุ้น CPALL ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) - KBANK

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  เป็นอีกหนึ่งธนาคารไทยชั้นนำที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ระมัดระวัง

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 74,881.46

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 10,741.06

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 15.39

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 4.38


ราคาหุ้น KBANK ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) - AOT

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าของบริหารสนามบินหลักหลายแห่งในประเทศไทย มีท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ซึ่งท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งนี้ ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ และเป็นผู้ให้เช่าสัมปทานร้านค้าและร้านอาหารจำนวนมากในสนามบินแต่ละแห่ง ซึ่งสร้างรายได้ให้จำนวนไม่น้อย

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 19,945.79

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 2,203.30

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 11.70

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.15


ราคาหุ้น AOT ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) - CPN

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ด้วยเครือข่ายห้างสรรพสินค้าที่กว้างขวางทั่วประเทศ CPN นำเสนอแนวโน้มการบริโภคค้าปลีกในประเทศไทย


นอกเหนือจากการงทุนในหุ้นรายตัว CPN ยี้แล้ว คุณยังสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนระยะยาวในอสังหาริมทรัพย์ในการดูแลของเซ็นทรัลได้ผ่านสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) ได้อีกทางเลือกหนึ่ง

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 10,698.11

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 3,245.89

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 30.59

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.73


ราคาหุ้น CPN ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) - BDMS

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศ โดยมีโรงพยาบาลเครือข่ายในไทยและกัมพูชา ดำเนินการภายใต้ชื่อโรงพยาบาล 6 กลุ่ม คือ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบี เอ็น เอช กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัล


นอกจากนี้เครือข่ายของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ยังรวมถึงธุรกิจที่ให้การสนับสนุนด้านการแพทย์ ได้แก่ ธุรกิจห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ธุรกิจผลิตยาและธุรกิจผลิตน้ำเกลือ เป็นต้น


เพื่อรองรับเทรนด์การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การเริ่มต้นสะสมความมั่งคั่งในหุ้นโรงพยาบาล เพื่อเติบโตไปพร้อม ๆ กับเทรนด์ก็อาจเป็นการกระจายอุตสาหกรรมการลงทุนที่ดีเช่นกัน

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 24,350.80

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 3,470.11

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 14.73

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.22


ราคาหุ้น BDMS ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) - TRUE

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโซลูชั่นการสื่อสารแบบครบวงจรนี้นำเสนอบริการต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ เคเบิลทีวี โทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่มีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว

  • รายได้รวม (ล้านบาท): 55,724.83

  • กำไรสุทธิ (ล้านบาท): 1,786.89

  • อัตรากำไรสุทธิ (%): 3.27

  • กำไรต่อหุ้น (บาท): 0.06


ราคาหุ้น TRUE ณ วันที่ 13 ก.ค. 2566

เปิดพอร์ตหุ้น เริ่มลงทุนสะสมความมั่งคั่งระยะยาว

การเทรดหุ้นไทยนั้นเริ่มต้นได้ง่ายมาก ๆ คุณจะต้องมีบัญชีเทรดหุ้นกับโบรกเกอร์หุ้นก่อน โบรกเกอร์จะทำหน้าที่แทนคุณในการส่งคำาังซื้อหรือขายหุ้น และใช้แพลตฟอร์ม Streaming ใช้ในการเทรดและซื้อขายหุ้น


ในการเปิดบัญชีหุ้น เพียงเตรียมบัตรประชาชน สมุดบัญชีเงินฝาก และเอกสารการยืนยันแหล่งที่มาของรายได้ ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์อาจมีข้อเรียกร้องที่แตกต่างกัน สามารถศึกษาได้จา่กเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ


การเทรดหุ้นส่วนใหญ่ หากเป็นนักลงทุนรายย่อยจะใช้บัญชี Cash Balance หรือบัญชีเติมเงิน ที่คุณสามารถเริ่มฝากเงินเข้าบัญชีซื้อขาย โบรกเกอร์ส่วนใหญ่เสนอวิธีการฝากเงินที่หลากหลาย เช่น การโอนเงินผ่านธนาคารหรือระบบการชำระเงินออนไลน์


ในการซื้อหุ้น คุณสามารถเรียกดูหุ้นที่มีอยู่ในการแลกเปลี่ยนและทำการวิจัยอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน การวิเคราะห์การเงินของบริษัท แนวโน้มอุตสาหกรรม และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นเป็นสิ่งสำคัญ


อ่านเพิ่มเติม Stock 101 คู่มือเล่นหุ้นฉบับมือใหม่


ในบทความที่แนะนำนี้ คุณจะได้เรียนรู้เชิงลึกถึงรายละเอียดการซื้อหุ้นไทยด้วยแอป Streaming และวิะีการกำหนดราคาซื้อและราคาขาย


โปรดจำไว้ว่าการลงทุนในหุ้นนั้นมีความเสี่ยง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกระจายพอร์ตการลงทุน และอย่าใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว ตรวจสอบการลงทุนเป็นประจำและติดตามข่าวสารและแนวโน้มของตลาดอยู่เสมอ


การซื้อหุ้นในประเทศไทยเป็นช่องทางที่เข้าถึงได้สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการเติบโตในระยะยาว ด้วยการวิจัย กลยุทธ์ และความอดทนที่เหมาะสม ทุกคนสามารถเริ่มต้นเส้นทางการลงทุนได้แล้ววันนี้!


บทส่งท้าย

การเล่นหุ้นนั้น ถ้าไม่วางแผนก็ไม่ต่างอะไรกับการเดินไปข้างหน้าโดยไม่มีเข็มทิศ เงินทุนมีเท่าไรก็ไม่พอ และกำไรที่ควรจะได้ก็อาจหายไปจากความขาดสติ และหลงไปกับอารมณ์ของตลาด ดังนั้น นักลงทุนหุ้นระยะยาวที่จะประสบความสำเร็จได้ จะต้องรู้ว่าควรเลือกเล่นหุ้นตัวไหนดี รู้ว่าต้องพิจารณาจากข่าวสาร สถานการณ์บ้านเมือง และพิจารณาที่ธรรมชาติของหุ้นนั้น ๆ เพื่อสะสมความมั่นคงทางการเงินตามกาลเวลา

  • ไอคอนแชร์ Facebook
  • ไอคอนแชร์ X
  • ไอคอนแชร์ Instagram

บทความที่กำลังมาแรง

  • 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก

    ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-10-29
  • ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024

    เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-08-07
  • 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023

    เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-01-30
  • รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร

    รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2023-11-15
รูปโปรโมชันในบทความ
โอกาสทองรออยู่! กระโจนเข้ามา!พร้อมรับโบนัส $100 ฟรี!
ทองคำ ทองคำ

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย