
อยากลงทุนหุ้นอสังหา ต้องรู้จัก Backlog
ในวงการคนทำงานด้านอสังหาฯ คำว่า Backlog เป็นเรื่องที่ต้องนึกถึง ว่ายูนิตที่ขายออกไป มีกี่ยูนิตที่ทำสัญญา ตกลงค่าใช้จ่าย และจ่ายเงินมาเรียบร้อยแล้วบ้าง ไม่เช่นนั้น Backlog ก็จะยังคงสภาพเป้นสินค้า (ยูนิตอสังหา) ค้างขาย หรือขายไม่ออก
คำว่า "Backlog" มักถูกใช้โดยนักพัฒนา (Developer) และนักลงทุนในบริบทของอสังหาริมทรัพย์ (Real Este) หากเป็นคนนอก อาจเข้าใจเพียงว่าเป็นสินทรัพย์ที่ยังอยู่ระหว่างกระบวนการขายที่ยังไม่แล้วเสร็จ ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่า Backlog คืออะไร มีผลกระทบต่อนักพัฒนาและนักลงทุนอย่างไร และเหตุใดคุณจึงควรใส่ใจก่อนที่จะลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์
คำว่า Backlog นี้มักใช้ระบุจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มสร้างแต่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยทั่วไปจะแสดงเป็นตัวเลขปีงบประมาณเดียวและต้องใช้เวลากี่เดือนจึงจะแล้วเสร็จในอัตราการก่อสร้างปัจจุบัน เป็นการวัดจำนวนธุรกิจที่ผู้สร้างทำหรือคาดการณ์ว่าจะทำในช่วงเวลาที่กำหนด
Backlog คืออะไรในวงการอสังหาฯ
คำว่า Backlog คือสินค้าคงคลังของบ้านที่ยังไม่ได้ขายที่ผู้สร้างมีอยู่ในมือ นี่อาจเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับนักลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการบ้านใหม่ในอนาคต
ปริมาณ Backlog ที่สูงอาจบ่งบอกว่าผู้สร้างมีความมั่นใจเกี่ยวกับความต้องการในอนาคตและกำลังวางแผนที่จะเพิ่มการผลิต สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ผลกำไรและราคาหุ้นที่สูงขึ้นสำหรับนักลงทุน กระนั้น หาก Backlog มีมากเกินไป อาจหมายความว่าผู้สร้างมีความมั่นใจมากเกินไป และอาจจบลงด้วยสินค้าคงคลังส่วนเกินที่ต้องลดราคาและกินเข้าไปเป็นกำไร
ในทำนองเดียวกัน Backlog ที่ยังเหลือน้อยสามารถส่งสัญญาณว่าผู้สร้างระมัดระวังเกี่ยวกับอุปสงค์ในอนาคตและกำลังควบคุมการผลิต สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ผลกำไรและราคาหุ้นที่ลดลงสำหรับนักลงทุนได้ กระนั้น หาก Backlog ต่ำเกินไป อาจหมายความว่าผู้สร้างประเมินความต้องการในอนาคตต่ำเกินไปและอาจพลาดผลกำไรเมื่อตลาดฟื้นตัว
ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจึงต้องจับตาดูเมตริกนี้เมื่อพิจารณาลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์
Backlog VS. Presale ต่างกันอย่างไร
เมื่อพูดถึงหุ้นอสังหาริมทรัพย์ คำสองคำที่คุณมักจะได้ยินคือ " Backlog " และ "Presale" เราจะมาดูความแตกต่างของสองคำนี้กัน
Backlog คือมูลค่าของสัญญาที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ที่บริษัทมีอยู่ในพอร์ต ตัวเลขนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ตลอดจนความสมบูรณ์ของไปป์ไลน์ของบริษัท
ในทางกลับกัน Presale คือมูลค่าของสัญญาที่ลงนามแล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ตัวเลขนี้บ่งบอกถึงความต้องการในอนาคตสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท
แล้วอันไหนสำคัญกว่ากันในการลงทุนอสังหาฯ
ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การลงทุน หากคุณกำลังมองหารายได้ทันที Backlog นั้นมีความเกี่ยวข้องมากกว่า กระนั้น หากคุณมุ่งเน้นที่ศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว การขายล่วงหน้าอาจเป็นตัวชี้วัดที่ดีกว่าที่ควรจับตามอง
เข้าใจ Backlog ลงทุนหุ้นอสังหาให้ปัง
เมื่อพูดถึงการลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจ Backlog ก่อนที่จะวางเงินลง Backlog คือการวัดยอดขายในอนาคตที่บริษัทมีอยู่ในสมุดบัญชี กล่าวคือเป็นวิธีวัดความต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท
นักลงทุนมักใช้ Backlog เป็นวิธีหนึ่งในการประเมินศักยภาพในการเติบโตของบริษัท หากบริษัทมี Backlog จำนวนมาก แสดงว่ามีความต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการที่แข็งแกร่ง ในทางกลับกัน สามารถนำไปสู่รายได้และผลกำไรที่สูงขึ้นตามลำดับ
แน่นอนว่า Backlog ไม่ใช่สิ่งเดียวที่นักลงทุนควรพิจารณาเมื่อประเมินหุ้นอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่ต้องคำนึงถึงเมื่อทำ Due Diligence การทำความเข้าใจ Backlog จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
ซื้ออสังหากับซื้อหุ้นอสังหา แบบไหนดี
มีหลายวิธีในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ หุ้นอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนประเภทหนึ่งที่คุณ,ีฐานะเป็นเจ้าของหุ้นของบริษัทที่เป็นเจ้าของหรือจัดหาเงินทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
มีประโยชน์มากมายในการลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ อันดับแรก หุ้นหรือกลุ่มหุ้น (เช่น TRUST หรือ REIT) มีศักยภาพสำหรับผลตอบแทนสูง นอกจากนี้ยังสามารถให้การกระจายความเสี่ยงสำหรับพอร์ตโฟลิโอและสามารถเป็นการลงทุนที่มีสภาพคล่องมากกว่าการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จริง
กระนั้น ยังมีความเสี่ยงบางประการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ เช่น มูลค่าการลงทุนสามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม นอกจากนี้ หุ้นอสังหาริมทรัพย์อาจมีความผันผวนมากกว่าการลงทุนประเภทอื่น
ก่อนที่คุณจะลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ คุณต้องเข้าใจความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนประเภทนี้เสียก่อน การทำเช่นนี้จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลว่านี่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณหรือไม่
ลงทุนอสังหาฯ แบบไม่ใช้เงินตัวเอง คืออะไร
ทราบหรือไม่ว่า เสน่ห์สำคัญของการลงทุนในอสังหานั้นคือการที่เริ่มต้นได้โดยไม่ต้องใช้เงินตนเอง หากเป็นการลงทุนในหุ้นอื่น ๆ หรือคริปโตเคอร์เรนซี่ หรืออัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศ คุณจะต้องมี “เงินสด” ในกระเป๋าก่อนเริ่มต้นลงทุน แต่การลงทุนในอสังหา คุณเพียงใช้เงินกู้จากธนาคาร นำเงินก้อนนั้นมาซื้อสินทรัพย์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือที่ดิน โดยนำอสังหาริมทรัพย์นั้นไปค้ำประกัน เมื่อคุณทำรายได้จากการเก็บค่าเช่าได้ ก็นำไปผ่อนชำระดอกเบี้ยบ้าน แถมเมื่อถึงเวลาหนึ่งก็สามารถรีไฟแนนซ์บ้าน ลดดอกเบี้ย ลดเวลาการได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ที่รวดเร็วขึ้น
ท้ายที่สุด การจะเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ผ่านหุ้นอสังหา หรือซื้ออสังหหาริมทรัพย์มาปล่อยเช่า สิ่งที่สำคัญคือศึกษาความเสี่ยง คำศัพท์เฉพาะ และวิธีการประเมินมูลค่าของห้นด้วยอัตราส่วนทางการเงิน อย่าง D/E Ratio, P/E Ratio, EPS, P/BV, EBITDA ฯลฯ เพื่อเลือกเฟ้นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ดี ๆ แม้จะมี Backlog อยู่บ้าง ก็ยังมีโอกาสเติบโตสร้างกำไร
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!