
รอบรู้ก่อนลงทุน ตราสารหนี้ (Bond) มีอะไรบ้าง
การลงทุนในตราสารหนี้ มีหลายสิ่งที่ต้องเข้าใจก่อนว่าอยู่ในความเสี่ยงระดับใด และเหมาะต่อนักลงทุนแบบใด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่พอร์ตของคุณ
ตราสารหนี้ (Bond) เป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรายการหนึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยความน่าเชื่อถือและผลตอบแทนที่อาจจะพูดว่าการันตีได้ จึงทำให้เป็นที่นิยม ทว่า การลงทุนในตราสารหนี้นั้นก็ใช่ว่าจะปราศจากความเสี่ยงไปทั้งหมด 100% ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า ตราสารหนี้มีอะไรบ้าง ทำไมถึงเป็นทางเลือกที่่น่าสนใจกว่าการฝากเงินในธนาคาร แต่ไม่เสี่ยงเท่า DeFi หรือ Forex
ตราสารหนี้คืออะไร
ตราสารหนี้ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า “Financial Bond” คือข้อผูกพันทางการเงินระหว่างนักลงทุนและหน่วยงานที่ขอยืม ซึ่งผู้ขอยืมนั้น หากเป็นรัฐบาล ภาครัฐ องค์กรของรัฐบาล เราจะเรียกว่า “พันธบัตรรัฐบาล” (Goverment Bond) หรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ (State Enterprise Bond) หากแต่เป็นการกู้ยืมจากภาคเอกชนนั้นเราจะรู้จักกันในชื่อของหุ้นกู้ (Debenture)
อ่านเพิ่มเติมเรื่อง Yield Curve ผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาครัฐ
หากผู้ออกตราสารเป็นภาครัฐ จะหมายถึงการระดมเงินทุนจากประชาชนเพื่อไปใช้ในกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งตามวัตถุประสงค์ที่ระบุเอาไว้ชัดเจนในแต่ละโครงการ เช่น การสร้างโรงงานใหม่ รัฐบาลใช้ตราสารหนี้เพื่อสนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพาน และรัฐและเทศบาลจะขายตราสารหนี้เพื่อเป็นเงินทุนทุกอย่างตั้งแต่โรงเรียนไปจนถึงโรงบำบัดน้ำเสีย
การลงทุนในตราสารหนี้ เป็นวิธีหนึ่งในการหารายได้คงที่ เพราะคุณจะได้รับดอกเบี้ยเป็นประจำจากการลงทุนตลอดอายุของตราสารหนี้ เมื่อครบกำหนดไถ่ถอนหรือครบกำหนดโครงการ คุณจะได้รับเงินลงทุนเดิมคืนเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยที่ได้รับจากตราสารหนี้นั้นอาจจะไม่ได้มากเท่ากับการเทรดหุ้นสกุลเงินดิจิทัล หรือการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่เป็นอีกหลาย ๆ วิธีของการหาเงินออนไลน์ในยุคปัจจุบัน
มีตราสารหนี้หลายประเภทสำหรับนักลงทุน บางประเภทจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายเดือน ในขณะที่บางประเภทจ่ายเป็นรายไตรมาส หรือทุก ๆ ครึ่งปี ตราสารหนี้บางประเภทต้องเสียภาษีในขณะที่บางประเภทไม่ต้องเสียภาษี และตราสารหนี้บางส่วนมีหลักประกันในขณะที่บางหุ้นไม่ได้
ตราสารหนี้รัฐบาล
ตราสารหนี้รัฐบาล หรือตราสารหนี้ภาครัฐ คือเงินกู้ที่คุณให้รัฐบาลกู้ยืม รัฐบาลนำเงินนั้นไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในโครงการ เพื่อแลกกับการให้กู้ยืมเงิน รัฐสัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ยตราสารหนี้ให้ตามระยะเวลาหรือช่วงเวลาที่ระบุ
ตราสารหนี้รัฐบาลถือเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุดเพราะได้รับการสนับสนุนจากความเชื่อมั่นและเครดิตของรัฐบาลผู้ออกตราสารหนี้อย่างเต็มที่
ตราสารหนี้รัฐบาลสามารถออกได้ทั้งในระดับรัฐบาลกลางหรือระดับรัฐ/ท้องถิ่น ตราสารหนี้รัฐบาลกลางเรียกว่าตราสารหนี้รัฐบาลในขณะที่ตราสารหนี้รัฐบาลของรัฐและท้องถิ่นเรียกว่าตราสารหนี้เทศบาล
ตราสารหนี้รัฐบาลมีอายุตั้งแต่ 2 ปี ถึง 30 ปี และมีช่วงเวลาและอัตราการจ่ายดอกเบี้นแตกต่างกันไป ผู้ลงทุนสามารถศึกาาได้จากหนังสือชี้ชวน
เรื่องของพันธบัตรรัฐบาลนี้ หากกล่าวถึงในมุมมองของรัฐบาลหรืออีกนัยหนึ่งก็คือผู้ขอกู้ยืมเงินจากประชาชน ก็จะมีฐานะเป็นลูกหนี้ของประชาชนตามกฎหมาย ซึ่งหนี้ส่วนนี้จะนำไปคิดรวมในหนี้สาธารณะประจำปีซึ่งทำการรายงานโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
อ่านถึงตรงนี้หลายท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วรัฐบาลจะไปหาเงินจากไหนมาจ่ายเป็นดอกเบี้ยและจ่ายเป็นเงินต้นคืนให้กับประชาชนล่ะ คำตอบนั้นก็ง่ายมาก ๆ เลยนั่นก็คือการเก็บภาษีในรูปแบบต่าง ๆ นั้นเอง
ตราสารหนี้เอกชน
ตราสารหนี้เอกชน หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า “หุ้นกู้” เป็นการที่องค์กรเอกชนออกจำนวนหุ้นพร้อมกำหนดมูลค่าต่อหน่วยไว้ เพื่อต้องการระดมเงินทุนไปเพื่อการพัฒนา ขยายกิจการ บริษัทเหล่านั้นจะมีลักษณะเป็นบริษัทจำกัด มหาชน ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
เมื่อพิจารณาลงทุนในหุ้นกู้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง หุ้นกู้มักมีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐ หรือเงินฝากธนาคาร เนื่องจากหุ้นกู้เป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน เป็นผลให้หากผู้ออกหุ้นผิดนัดในหนี้ ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับการชำระเงินใด ๆ
แม้จะมีความเสี่ยง แต่หุ้นกู้อาจเป็นการลงทุนที่ดีสำหรับผู้ที่มองหาอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น ในการจะลงทุนในหุ้นกู้ ควรทำความเข้าใจกิจการ อัตราส่วนทางการเงิน และพิจารณาแนวโน้มของการสร้างรายได้และผลกำไรของผู้ออกหุ้นกู้ให้ดีเสียก่อน
ผลตอบแทนของตราสารหนี้
เมื่อพูดถึงการลงทุนผู้คนอาจมองข้ามไป ดดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้คนมักรู้สึกว่าตราสารหนี้ภาครัฐให้ผลตอบแทนน้อย สภาพคล่องต่ำ และกินเวลานาน ต่างจาก เช่น หุ้นกู้ หรือสินค้าโภคภัณฑ์ CFD ฯลฯ แต่ตราสารหนี้อาจเป็นการลงทุนที่ทำกำไรได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณรู้วิธีเลือกตราสารหนี้ที่เหมาะสม
ตราสารหนี้เป็นหลักเงินกู้ที่คุณให้กับบริษัทหรือรัฐบาล เพื่อแลกกับเงินกู้ พวกเขาตกลงที่จะจ่ายดอกเบี้ยให้คุณตามอัตราที่กำหนดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อสิ้นสุดระยะเวลา ผลตอบแทนจากการลงทุนเดิมหรือเงินต้นจะถูกส่งกลัเข้ากระเป๋า
กุญแจสำคัญในการทำเงินจากตราสารหนี้คือการหาคนที่จะจ่ายดอกเบี้ยให้คุณมากกว่าที่คุณจะได้รับจากบัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำ ด้วยวิธีนี้ คุณจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นโดยไม่ต้องเสี่ยงมากเกินไป
แน่นอนว่าการลงทุนมีความเสี่ยงอยู่เสมอ และตราสารหนี้ก็ไม่ต่างกัน บริษัทหรือรัฐบาลที่คุณให้ยืมเงินอาจผิดนัดชำระเงินได้ นี่คือเหตุผลสำคัญที่ต้องศึกาาและจำกัดความเสี่ยงให้รอบคอบก่อนที่จะลงทุน
ความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้
เมื่อพูดถึงการลงทุนในตราสารหนี้ มีความเสี่ยงที่สถาบันการเงินที่คุณลงทุนจะผิดนัดชำระหนี้ดังที่ได้กล่าวไปเมื่อครู่ อย่างไรก็ตาม หากคุณยินดีที่จะยอมรับความเสี่ยงเหล่านี้ ตราสารหนี้อาจเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้ที่มั่นคง อย่าลืมบริหารความเสี่ยงด้วยการกระจายพอร์ตการลงทุน เรามาดูันในย่อหน้านี้่ว่า ความเสี่ยงของตราสารหนี้มีอะไรที่ต้องคำนึงถึงบ้าง
ความผันผวนของมูลค่า
ความผันผวนของมูลค่าจากการลงทุนในตราสารหนี้นั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐหรือหุ้นกู้ ย่อมมีความผันผวนค่อนข้างสูง เช่น หากคุณไปซื้อหุ้นกู้ของบริษัทที่กำลังเติบโตหรืออยู่ในการแข่งขัน ก็อาจทำให้ความผันผวนของตัวหุ้นมีสูง ดังนั้นแม้จะเลี่ยงความผันผวนของมูลค่าจากการลงทุนในตราสารหนี้ได้ไม่ 100% แต่ก็เป็นความคิดที่ดีที่จะกระจายการลงทุนเสี่ยงหุ้นกู้ประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งของภาครัฐภาคเอกชน หรือการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ร่วมด้วย
สภาพคล่อง
ความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ในเรื่องของสภาพคล่องนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นพันธบัตรรัฐบาลมักจะกำหนดอายุไว้ที่ 5 ปี 7 ปีหรือ 10 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งหมายความว่าหากคุณนำเงินจำนวนหนึ่งไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล คุณจะไม่สามารถใช้เงินจำนวนนั้นในกิจกรรมอื่น ๆ ที่จำเป็นได้ เพราะหากไถ่ถอนก่อนครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้บนพันธบัตรนั้นคุณอาจจะต้องสูญเสียดอกเบี้ยหรือส่วนเสียค่าปรับ ซึ่งข้อมูลส่วนนี้สามารถศึกษาได้จากเงื่อนไขของพันธบัตรรัฐบาลโครงการนั้น ๆ ก่อน
หากเปรียบเทียบเรื่องของสภาพคล่องของตราสารหนี้ภาครัฐกับหุ้นกู้ของเอกชน คุณอาจพบว่าหุ้นกู้ของเอกชนอาจจะมีสภาพคล่องที่สูงกว่า สามารถซื้อขายได้ทุวัน ตามราคาและจำนวนที่พอใจ
การผิดนัดชำระหนี้
ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของการลงทุนในตราสารหนี้นั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในส่วนของพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้จากภาคเอกชน
การผิดนัดชำระหนี้ของภาครัฐบาลนั้น แม้จะเกิดขึ้นได้น้อยมากแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย ลองคิดถึงในสถานการณ์สุดโต่งว่า ประเทศเกิดภาวะวิกฤตถึงขั้นรุนแรงที่ไม่สามารถหมุนเงินได้ทัน หรือโครงการต่าง ๆ ไม่เป็นไปได้อย่างที่วางแผนไว้ ก็อาจจะทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่ายที่จะต้องจ่าย
ดังนั้นเมื่อถึงครบกำหนดเวลาไถ่ถอนของพันธบัตรรัฐบาลยอดเงินหรือมูลค่าก็อาจจะลดลงได้หรืออาจล่าช้าไปกว่าที่กำหนด ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะทำให้นักลงทุนหลายท่านเสียเวลาในการนำเงินไปลงทุนต่อในสิ่งที่จะสร้างมูลค่าได้มากกว่าในอนาคต
ส่วนการผิดนัดชำระหนี้ของหุ้นกู้ ไม่สามารถจ่ายปันผลได้ตามรอบเวลาที่กำหนดไว้ อาจเป็นเพราะสถานการณ์การเมืองภายในองค์กร การปรับผู้บริหาร การปรับทิศทางของการบริหาร หรือได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและของโลก
ลงทุนในตราสารหนี้อย่างไร
ในการเริ่มลงทุนในตราสารหนี้ทางการเงิน คุณจะต้องมีเงินสำรองที่คุณยินดีจะลงทุน คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาลซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุด จากที่นั่น คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้ตราสารหนี้องค์กรและตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ ได้
การลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐบาลนั้นคุณสามารถทำได้ง่าย ๆ สองวิธี คือ
การลงทุนโดยตรงในตราสารหนี้ภาครัฐซึ่งสามารถติดตามข่าวสารการซื้อขายได้ผ่านธนาคารพาณิชย์ทั่วไปซึ่งจะมีปิดประกาศเอาไว้ที่สาขาหรือไม่ก็ติดตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งจะมีประกาศอยู่เป็นระยะระยะเหมือนกัน
วิธีการลงทุนในหุ้นกู้ภาครัฐ อาจจะต้องใช้เงินจำนวนมากและมีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากเช่นในการเปิดบัญชีลงทุนและการฝากเงิน อีกวิธีคือเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่เป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงอยู่ในระดับ 1 จาก 8 ระดับของความเสี่ยงของการลงทุนในประเทศไทย
ส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ของภาคเอกชน คุณสามารถลงทุนผ่านการซื้อหุ้นโดยตรงได้ แต่วิธีนี้อาจจะต้องใช้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการวิเคราะห์บริษัท วิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจเพื่อคัดเลือกหุ้นที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี แต่ก็ยังมีอีกวิธีการหนึ่งในการลงทุนในหุ้นกู้นั่นก็คือการลงทุนผ่านกองทุนรวม etf หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือการลงทุนในกองทุนรวมดัชนี
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!