
สำรวจเทรนด์อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ USDTHB สองไตรมาสหลังปี 2566
แนวโน้มค่าเงิน USDTHB ในไตรมาส 3 และ4 ปี 2566 ยังไม่แน่นอน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED มีผลกระทบทางอ้อมต่อค่าเงินบาท การคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอาจช่วยหนุนค่าเงินบาทได้
เมื่อไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ใกล้เข้ามา หลายคนสงสัยว่าอัตราแลกเปลี่ยน USDTHB จะอยู่ที่ใด หลังจากปรึกษากับนักวิเคราะห์ทางการเงินและประเมินแนวโน้มล่าสุดแล้ว เราก็สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่เราคาดหวังได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เพื่อให้คุรทันทุกเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราแลกเปลี่ยน USD ที่มีบทยาทในทุก ๆ กิจกรรมกรบริโภคของเราทุกคน ในบทความวันนี้ของ TOPONE Markets เราจะขอชวนทุกท่านมาสำรวจเทรนด์และฟอร์แคสการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน USD สำหรับท่านที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว หรือการเทรดค่าเงิน USDTHB เพื่อสร้างผลตอบแทน
อัตราแลกเปลี่ยนย้อนหลัง USDTHB ตลอดปี 2566
ปัจจุบัน อัตราแลกเปลี่ยน USD ซื้อขายที่ 36.133 ณ วันที่เขียน 24 ต.ค. 2566โดยนักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์แนวโน้มขาขึ้นในไตรมาสต่อๆ ไป เราพบว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง USD และ THB ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของไทยน่าจะช่วยหนุนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นได้ในระยะยาว แต่ก็ไม่อาจมองข้ามผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้
ภาพ: แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน USDTHB เป็นแนวโน้มขาขึ้น เงินบาทแข็งค่า ณ วันที่ 24 ต.ค. 2566
สถานะของอัตราดอกเบี้ยของ FED ฯ อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ บ้าง นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่า FED อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ซึ่งอาจทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ BoT อาจลังเลมากกว่าที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายของตนเองและปรับอัตราดอกเบี้ยตามความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน USD
เผื่อคุณอาจสนใจ
ปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงิน USDTHB มีอะไรบ้าง
มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะชะลอตัวในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 จากปัจจัยหลายประการ เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามในยูเครน และอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น เหล่านี้ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน USD ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ไม่มีใครจะฟันธงได้ว่าการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ต่อไปนี้คือปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อประเมินแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
อัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ย FED ที่สูงขึ้น มีแนวโน้มที่จะทำให้ USD น่าสนใจยิ่งขึ้นเนื่องเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้น สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้น
เรื่องนี้ เป็นข่าวร้ายสำหรับค่าเงินบาทต่ออัตราแลกเปลี่ยน USD หรือที่เรียกว่า “เงินบาทอ่อนค่า”
การเติบโตทางเศรษฐกิจ
หากเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งขึ้น มักจะส่งผลให้ค่าเงิน USDTHB แข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนจะเต็มใจที่จะลงทุนในสินทรัพย์ไทยมากขึ้น
เรื่องนี้เป็นข่าวดีสำหรับผู้นำเข้า ซึ่งจะทำให้ใช้เงินบาทน้อยกว่าในการจ่ายหนี้ที่มาในรูปของค่าเงิน USD
อัตราเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในประเทศไทยอาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้ เนื่องจากกำลังซื้อของเงินบาทลดลง
การลงทุนจากต่างประเทศ
หากมีการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น ก็สามารถช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้ เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ไทยเพิ่มมากขึ้น
เสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล มีนโยบายใหม่ ๆ หรือรื้อถอนระบบการบริหารจัดการเดิม ๆ ออก จะเป็นสปอตไลต์ให้นักลงทุนต่างชาติเพ่งมองมาที่กิจกรรมของไทย หากมีแนวโน้มที่เอื้อต่อการลงทุน ก็อาจเป้นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าเงินบาทมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นได้
ขณะนี้เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครน ความท้าทายเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะยังคงส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน USD/THB ในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ปี 2566
ในสหรัฐอเมริกา FED คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท
สำหรับประเทศไทยคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2566 อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวน่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ และไม่สม่ำเสมอ นี่เป็นเพราะปัจจัยหลายประการ รวมถึงต้นทุนพลังงานที่สูง สงครามในยูเครน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
แม้สงครามรัสเซีย-ยูเครนจะมิได้ส่งผลกระทบต่อไทยโดยตรง แต่การที่รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ย่อมส่งผลต่อตลาดน้ำมัน ดังนั้นราคาพลังงานที่ไม่มีความสเถียรอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจและผู้บริโภคชาวไทยได้
อีกหนึ่งประเด็นที่ไม่ให้ความสำคัญไม่ได้คือประเด็นความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงมีอยู่ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนอาจมีบทบาทไม่ว่าจะทั้งทางตรงหรือทางอ้อมต่ออัตราแลกเปลี่ยน USDTHB ในอนาคต สหรัฐอเมริกาและจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่สองรายของไทย และการหยุดชะงักในความสัมพันธ์ทางการค้าอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการส่งออกของไทย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบางประการที่อาจสนับสนุนเงินบาทในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ปัจจัยหนึ่งคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะช่วยเพิ่มความต้องการส่งออกของไทย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนค่าเงินบาท
ประมาณการณ์ USDTHB ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 และอนาคต
จากสถานการณ์โลกในปัจจุบัน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีแนวโน้มว่าจะยังคงผันผวน แนวโน้มโดยรวมมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท เนื่องจากปัจจัยหลายประการ เช่น การคาดการณ์การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ การฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจไทย และผลกระทบด้านลบจากสงครามในยูเครนต่อเศรษฐกิจไทย
เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในภายภาคหน้า นี่คือคำแนะนำบางประการ
ลดการก่อหนี้ใหม่ที่ไม่จำเป็นลง
ภาระหนี้สินได้รับอิทธิพลจากอัตราดอกเบี้ย แม้ดอกเบี้ยของไทยจะไม่ได้สัมพันธ์กับดอกเบี้ยสหรัฐฯ โดยตรง แต่หากสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ย ก็อาจทำให้เงินทุนหลั่งไหลไปสู่ค่าเงิน USD ในบานะผู้กู้ คุณจะได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
กระจายการลงทุน
หากค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้น ก็จะเป็นผลดีต่อธุรกิจส่งออก ในทางกลับกัน ธุรกิจนำเข้าจะได้รับประโยชน์มากขึ้นเมื่อเงินบาทแข็งค่า จึงเป้นความคิดที่ดีที่จะเฉลี่ยการลงทุนไปในธุรกิจหลาย ๆ ภาคส่วน รวมถึงพิจารณาการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ หรือเทรด CFD เก็งกำไรการขึ้นลงของราคาสินทรัพย์ในระยะสั้น ๆ
เทรด USDTHB กับ TOPONE Markets
การเทรด CFD เป็นวิธีเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง ๆ สัญญา CFD เป็นสัญญาซื้อขายส่วนต่างที่เทรดเดอร์ตกลงทำกับโบรกเกอร์
การเทรด CFD เป็นเครื่องมือการลงทุนยอดนิยมสำหรับการเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน USDTHB คุณสามารถใช้สัญญา CFD เพื่อเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวตามการคาดการณ์ทิศทางอัตราแลกเปลี่ยน USD
บทส่งท้าย
โดยรวมแล้ว การคาดการณ์แนวโน้มและเส้นทางที่แน่นอนของอัตราแลกเปลี่ยน USDTHB เป็นเรื่องยาก แต่เราสามารถดูภาพที่ใหญ่กว่าได้แม้ว่าจะมีปัจจัยภายนอกมากมาย แต่ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยอาจช่วยชดเชยผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นได้
เมื่อเราเข้าใกล้สิ้นปี 2566 และก้าวเข้าสู่ปี 2567 การจับตาดูแนวโน้มเหล่านี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมทั่วโลก จะช่วยให้คาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยน USDTHB ได้แม่นยำยิ่งขึ้น สำหรับตอนนี้ เป็นการดีที่สุดที่จะรับทราบข้อมูล ประเมินปัจจัยเหล่านี้ และคำนวณความเสี่ยงเมื่อเป็นเรื่องของการลงทุนและการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
เมื่อไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ใกล้เข้ามา หลายคนสงสัยว่าอัตราแลกเปลี่ยน USDTHB จะอยู่ที่ใด หลังจากปรึกษากับนักวิเคราะห์ทางการเงินและประเมินแนวโน้มล่าสุดแล้ว เราก็สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่เราคาดหวังได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เพื่อให้คุรทันทุกเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราแลกเปลี่ยน USD ที่มีบทยาทในทุก ๆ กิจกรรมกรบริโภคของเราทุกคน ในบทความวันนี้ของ TOPONE Markets เราจะขอชวนทุกท่านมาสำรวจเทรนด์และฟอร์แคสการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน USD สำหรับท่านที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว หรือการเทรดค่าเงิน USDTHB เพื่อสร้างผลตอบแทน
อัตราแลกเปลี่ยนย้อนหลัง USDTHB ตลอดปี 2566
ปัจจุบัน อัตราแลกเปลี่ยน USD ซื้อขายที่ 36.133 ณ วันที่เขียน 24 ต.ค. 2566โดยนักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์แนวโน้มขาขึ้นในไตรมาสต่อๆ ไป เราพบว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง USD และ THB ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของไทยน่าจะช่วยหนุนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นได้ในระยะยาว แต่ก็ไม่อาจมองข้ามผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้
ภาพ: แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน USDTHB เป็นแนวโน้มขาขึ้น เงินบาทแข็งค่า ณ วันที่ 24 ต.ค. 2566
สถานะของอัตราดอกเบี้ยของ FED ฯ อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ บ้าง นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่า FED อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ซึ่งอาจทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ BoT อาจลังเลมากกว่าที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายของตนเองและปรับอัตราดอกเบี้ยตามความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน USD
เผื่อคุณอาจสนใจ
ปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงิน USDTHB มีอะไรบ้าง
มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะชะลอตัวในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 จากปัจจัยหลายประการ เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามในยูเครน และอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น เหล่านี้ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน USD ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ไม่มีใครจะฟันธงได้ว่าการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ต่อไปนี้คือปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อประเมินแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
อัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ย FED ที่สูงขึ้น มีแนวโน้มที่จะทำให้ USD น่าสนใจยิ่งขึ้นเนื่องเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้น สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้น
เรื่องนี้ เป็นข่าวร้ายสำหรับค่าเงินบาทต่ออัตราแลกเปลี่ยน USD หรือที่เรียกว่า “เงินบาทอ่อนค่า”
การเติบโตทางเศรษฐกิจ
หากเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งขึ้น มักจะส่งผลให้ค่าเงิน USDTHB แข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนจะเต็มใจที่จะลงทุนในสินทรัพย์ไทยมากขึ้น
เรื่องนี้เป็นข่าวดีสำหรับผู้นำเข้า ซึ่งจะทำให้ใช้เงินบาทน้อยกว่าในการจ่ายหนี้ที่มาในรูปของค่าเงิน USD
อัตราเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในประเทศไทยอาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้ เนื่องจากกำลังซื้อของเงินบาทลดลง
การลงทุนจากต่างประเทศ
หากมีการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น ก็สามารถช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้ เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ไทยเพิ่มมากขึ้น
เสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล มีนโยบายใหม่ ๆ หรือรื้อถอนระบบการบริหารจัดการเดิม ๆ ออก จะเป็นสปอตไลต์ให้นักลงทุนต่างชาติเพ่งมองมาที่กิจกรรมของไทย หากมีแนวโน้มที่เอื้อต่อการลงทุน ก็อาจเป้นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าเงินบาทมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นได้
ขณะนี้เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครน ความท้าทายเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะยังคงส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน USD/THB ในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ปี 2566
ในสหรัฐอเมริกา FED คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท
สำหรับประเทศไทยคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2566 อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวน่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ และไม่สม่ำเสมอ นี่เป็นเพราะปัจจัยหลายประการ รวมถึงต้นทุนพลังงานที่สูง สงครามในยูเครน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
แม้สงครามรัสเซีย-ยูเครนจะมิได้ส่งผลกระทบต่อไทยโดยตรง แต่การที่รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ย่อมส่งผลต่อตลาดน้ำมัน ดังนั้นราคาพลังงานที่ไม่มีความสเถียรอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจและผู้บริโภคชาวไทยได้
อีกหนึ่งประเด็นที่ไม่ให้ความสำคัญไม่ได้คือประเด็นความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงมีอยู่ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนอาจมีบทบาทไม่ว่าจะทั้งทางตรงหรือทางอ้อมต่ออัตราแลกเปลี่ยน USDTHB ในอนาคต สหรัฐอเมริกาและจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่สองรายของไทย และการหยุดชะงักในความสัมพันธ์ทางการค้าอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการส่งออกของไทย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบางประการที่อาจสนับสนุนเงินบาทในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ปัจจัยหนึ่งคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะช่วยเพิ่มความต้องการส่งออกของไทย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนค่าเงินบาท
ประมาณการณ์ USDTHB ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 และอนาคต
จากสถานการณ์โลกในปัจจุบัน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีแนวโน้มว่าจะยังคงผันผวน แนวโน้มโดยรวมมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท เนื่องจากปัจจัยหลายประการ เช่น การคาดการณ์การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ การฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจไทย และผลกระทบด้านลบจากสงครามในยูเครนต่อเศรษฐกิจไทย
เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในภายภาคหน้า นี่คือคำแนะนำบางประการ
ลดการก่อหนี้ใหม่ที่ไม่จำเป็นลง
ภาระหนี้สินได้รับอิทธิพลจากอัตราดอกเบี้ย แม้ดอกเบี้ยของไทยจะไม่ได้สัมพันธ์กับดอกเบี้ยสหรัฐฯ โดยตรง แต่หากสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ย ก็อาจทำให้เงินทุนหลั่งไหลไปสู่ค่าเงิน USD ในบานะผู้กู้ คุณจะได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
กระจายการลงทุน
หากค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้น ก็จะเป็นผลดีต่อธุรกิจส่งออก ในทางกลับกัน ธุรกิจนำเข้าจะได้รับประโยชน์มากขึ้นเมื่อเงินบาทแข็งค่า จึงเป้นความคิดที่ดีที่จะเฉลี่ยการลงทุนไปในธุรกิจหลาย ๆ ภาคส่วน รวมถึงพิจารณาการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ หรือเทรด CFD เก็งกำไรการขึ้นลงของราคาสินทรัพย์ในระยะสั้น ๆ
เทรด USDTHB กับ TOPONE Markets
การเทรด CFD เป็นวิธีเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง ๆ สัญญา CFD เป็นสัญญาซื้อขายส่วนต่างที่เทรดเดอร์ตกลงทำกับโบรกเกอร์
การเทรด CFD เป็นเครื่องมือการลงทุนยอดนิยมสำหรับการเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน USDTHB คุณสามารถใช้สัญญา CFD เพื่อเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวตามการคาดการณ์ทิศทางอัตราแลกเปลี่ยน USD
บทส่งท้าย
โดยรวมแล้ว การคาดการณ์แนวโน้มและเส้นทางที่แน่นอนของอัตราแลกเปลี่ยน USDTHB เป็นเรื่องยาก แต่เราสามารถดูภาพที่ใหญ่กว่าได้แม้ว่าจะมีปัจจัยภายนอกมากมาย แต่ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยอาจช่วยชดเชยผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นได้
เมื่อเราเข้าใกล้สิ้นปี 2566 และก้าวเข้าสู่ปี 2567 การจับตาดูแนวโน้มเหล่านี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมทั่วโลก จะช่วยให้คาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยน USDTHB ได้แม่นยำยิ่งขึ้น สำหรับตอนนี้ เป็นการดีที่สุดที่จะรับทราบข้อมูล ประเมินปัจจัยเหล่านี้ และคำนวณความเสี่ยงเมื่อเป็นเรื่องของการลงทุนและการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
บทความที่กำลังมาแรง
- “พายุไต้ฝุ่น” ของ FED : ความท้าทายใหม่ต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าทั่วโลก
"ในช่วงที่ผ่านมา การดำเนินนโยบายการเงินของ FED ที่เปรียบเสมือน “พายุไต้ฝุ่น” ที่สร้างคลื่นลูกใหญ่ในตลาดการเงินโลก ถ้อยแถลงที่แข็งกร้าวของเขาไม่เพียงแต่ทำให้ตลาดสหรัฐฯ ผันผวนอย่างรุนแรงเท่านั้น แต่ยังทำให้กองทุนทั่วโลกเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง และกองทุนกว่า 35 ล้านล้านกองทุนอาจถูกถอนออกอย่างรวดเร็ว การดำเนินการชุดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อหรือปกปิดวิกฤตหนี้สหรัฐฯ บทความนี้จะเจาะลึกประเด็นนี้และวิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก "
2025-01-10
TOPONE Markets Analyst - 7 วิธีเริ่มต้นสร้างรายได้แบบ Passive Income ฉบับผู้เริ่มต้น
อยากรวยแบบเขาบ้างเริ่มต้นไม่ยากหากนำทางด้วยความรู้ ทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์ สร้างรายได้ ต่อยอด ให้เงินทำงานด้วยหลักการของรายได้แบบ Passive Income ที่คุณเองก็หาได้มากกว่าเดือนละ 10,000 บาท
2024-07-03
TOPONE Markets Analyst - 5 ข้อผิดพลาดเทรดเดอร์มือใหม่ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเทรด
ทุก ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่เริ่มต้นลงทุน เงินเฟ้อจะชนะเงินคุณแน่นอน มือใหม่หัดเทรดเริ่มต้นมั่นใจเพียงเรียนรู้ 5 ข้อผิดพลาดทั่วไปที่พบบ่อยของมือใหม่หัดเทรดก่อนเริ่มต้นในตลาดการเงิน
2024-06-07
TOPONE Markets Analyst - Andrew Tate คือใครและทำไมเขาถึงมีชื่อเสียง? 10 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Influencer ที่เป็นข้อโต้แย้ง
ค้นพบว่าใครคือ Andrew Tate และทำไมเขาถึงสร้างกระแสในโลกดิจิทัล ค้นพบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ 10 ประการเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลที่เป็นที่ถกเถียง การเดินทางของเขา และผลกระทบของเขาต่อโลกออนไลน์
2024-03-01
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!
