เทรดน้ำมันดีไหม รอบรู้เรื่อง WTI และ Brent ก่อนซื้อขายน้ำมันดิบ

เสน่ห์ของซื้อขายน้ำมันดิบได้ดึงดูดใจนักลงทุนมานานหลายทศวรรษ เชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีชื่อเล่นว่า “ทองคำสีดำ” (Black Gold) ยังคงเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโลก แต่สำหรับเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์รายใหม่ โลกของการซื้อขายน้ำมันดิบอาจดูซับซ้อน ไม่รู้ว่าควรจะเทรดน้ำมันดีไหมเมื่อมองเห้นถึงราคาที่ผัวผวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงสองตลาดซื้อขายน้ำมันดิบหลักอย่าง WTI และ Brent

การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง WTI และ Brent เป็นสิ่งสำคัญในการนำทางตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ น้ำมันดิบ WTI หรือ West Texas Intermediate ทำหน้าที่เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับน้ำมันดิบในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ขึ้นชื่อในด้านคุณภาพที่สูง ปริมาณกำมะถันต่ำ และอุปทานที่หาได้ง่าย ในทางกลับกัน น้ำมันดิบ Brent Crude Oil ถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานระดับโลกที่มีต้นกำเนิดมาจากทะเลเหนือในทวีปยุโรป

แล้วทำไมคุณในฐานะมือใหม่จึงควรสนใจซื้อขายน้ำมันดิบ WTI และ Brent ล่ะ เนื่องจากน้ำมันทั้งสองชนิดนี้ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากปัจจัยที่นอกเหนือจากอุปสงค์และอุปทาน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โควตาการผลิตโดย OPEC (องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน) และแม้กระทั่งกำลังการผลิตของโรงกลั่น ล้วนมีบทบาทในการเต้นที่ซับซ้อนของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเราจะค่อย ๆ อธิบายเป้นลำดับในหัวข้อถัด ๆ ไป

หากคุณยังลังเลว่าจะเทรดน้ำมันดีไหม ในบทความการเงินการลงทุนของ TOPONE Markets ฉบับนี้ จะเป็นคู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นในการลงทุนซื้อขายน้ำมันดิบโลก เป็นก้าวแรกในการทำความเข้าใจโลกแห่ง WTI และน้ำมันดิบ Brent ที่น่าตื่นเต้นและบางครั้งก็ท้าทาย เราจะเจาะลึกลงไปถึงคุณลักษณะของน้ำมันแต่ละชนิด สำรวจปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา และจัดเตรียมความรู้ให้กับคุณเพื่อสำรวจตลาดที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลานี้ พร้อมปลดล็อกศักยภาพน้ำมันดิบแล้วหรือยัง อ่านต่อและค้นพบว่าคุณสามารถสร้างกำไรจากการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ CFD ด้วยบัญชีโบรกเกอร์ CFD ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ของเราได้อย่างไร

เทรด เช่น ทองคำ/น้ำมันดิบ/เงิน ฯลฯ แบบออนไลน์ โลหะมีค่าและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ติดเทรนด์ทั่วโลก

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!

แม้ว่า WTI และ Brent จะครองพาดหัวข่าว แต่ตลาดน้ำมันดิบที่ซื้อขายทั่วโลกก็มีเครือข่ายที่กว้างขวางซึ่งครอบคลุมผู้เล่นที่หลากหลายตามแต่ภูมิภาคจำเพาะ ตลาดเหล่านี้ส่งมอบน้ำมันดิบตามความต้องการในภูมิภาค ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยในภูมิภาคใกล้เคียง แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ทรงอิทธิพลสำคัญคือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกเหนือจากเกณฑ์มาตรฐานในอเมริกาจ้าวตลาด WTI เหนือและยุโรปผู้ค้าแห่ง Brent แล้ว ยังมีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ซึ่งองค์กรระหว่างรัฐบาลนี้ซึ่งประกอบด้วยประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ มีบทบาทสำคัญในการมีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันดิบทั่วโลกผ่านโควตาการผลิต การทำความเข้าใจการตัดสินใจของ OPEC เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ เทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์ที่สนใจการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบ

ตลาดที่น่าสังเกตอีกแห่งคือสิงคโปร์ แหล่งซื้อขายน้ำมันดิบที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนเป็นที่รู้จักในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่โปร่งใส Singapore Exchange ดึงดูดผู้เข้าร่วมจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่านี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ มีตลาดระดับภูมิภาคอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละตลาดมีลักษณะเฉพาะและการเปลี่ยนแปลงราคาเป็นของตัวเอง ประเภทเฉพาะของการซื้อขายน้ำมันดิบ สถานที่จัดส่ง และโครงสร้างพื้นฐานในการจัดเก็บ ล้วนมีส่วนทำให้เกิดความซับซ้อนโดยรวมของตลาดซื้อขายน้ำมันดิบทั่วโลก

Image source: ATFX

WTI และ Brent ต่างก็ถือว่าเป็นน้ำมันดิบที่มีปริมาณกำมะถันต่ำ (Light, sweet crude oil) อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการที่อาจส่งผลต่อราคาได้

• แหล่งขุดเจาะ: WTI สกัดจากทุ่งในสหรัฐฯ  ในขณะที่ Brent สกัดจากทะเลเหนือ ความแตกต่างของตำแหน่งนี้อาจส่งผลต่อต้นทุนการขนส่ง

• ปริมาณ API: WTI มีแรงโน้มถ่วง API สูงกว่า (น้ำมันเบากว่า) มากกว่า Brent. แรงโน้มถ่วง API เป็นตัววัดว่าน้ำมันดิบมีน้ำหนักหรือเบาเพียงใด โดยทั่วไปแล้วน้ำมันที่เบากว่าจะมีคุณค่ามากกว่าเนื่องจากสามารถกลั่นเป็นน้ำมันเบนซินและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ง่ายกว่า

• ปริมาณกำมะถัน: WTI มีปริมาณกำมะถันต่ำกว่า (Sweet) มากกว่าน้ำมันดิบ Brent น้ำมันดิบชนิดหวานเป็นที่ต้องการมากกว่าเนื่องจากปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สะอาดกว่าเมื่อทำการกลั่น

ข้อกำหนดเหล่านี้อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ผันผวนอย่างอิสระ แม้ว่าทั้งคู่จะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่คล้ายคลึงกัน เช่น อุปสงค์และอุปทาน

ราคาของน้ำมันดิบ WTI ซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD) ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากปัจจัยภายในประเทศภายในสหรัฐฯ ค่าเงิน USD ที่แข็งแกร่งจะผลักดันราคาน้ำมันดิบ WTI ให้ลดลง ความสัมพันธ์แบบผกผันนี้เกิดจากการที่ราคาน้ำมันมีราคาเป็น USD เมื่อเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ผู้ซื้อจากต่างประเทศจะต้องจ่ายในราคาแพงมากขึ้นเพื่อซื้อน้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดลดลงได้

อีกด้านหนึ่ง น้ำมันดิบ Brent ก็มีราคาจำหน่ายที่ USD เช่นเดียวกับน้ำมันดิบ WTI แม้ว่าจะมีต้นกำเนิดจากยุโรป สิ่งนี้อาจดูเหมือนขัดกับสัญชาตญาณ แต่มันสะท้อนถึงการครอบงำของ USD ในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาของ Brent สามารถแสดงความสัมพันธ์ผกผันที่อ่อนกว่ากับ USD เมื่อเทียบกับ WTI  นี่เป็นเพราะว่า Brent มักถูกมองว่าเป็นน้ำมันดิบที่มีการซื้อขายกันทั่วโลกมากกว่า โดยมีความไวต่อปัจจัยที่มีสหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางน้อยกว่า

สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่กำลังสำรวจกราฟราคาจากโบรกเกอร์เทรดน้ำมันอยู่ สิ่งนี้หมายถึงการมีอิทธิพลซึ่งกันและกันระหว่างราคา WTI และ Brent มีมากกว่าความสัมพันธ์ของ USD แบบธรรมดา ๆ แม้ว่าการแข็งค่าของค่าเงิน USD จะสามารถสร้างแรงกดดันให้ทั้งคู่ลดลงได้ แต่ WTI อาจมีผลกระทบที่เด่นชัดมากกว่า และอีกข้อหนึ่งคือ ราคาของ WTI และ Brent ก็มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวควบคู่กันในระยะยาว เนื่องจากทั้งสองตอบสนองต่อปัจจัยระดับโลกเดียวกันที่ขับเคลื่อนอุปสงค์และอุปทานของน้ำมันดิบ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โควตาการผลิตที่กำหนดโดย OPEC และกำลังการผลิตโรงกลั่นทั่วโลก

สำหรับมือใหม่ในโลกการเงิน เริ่มต้นการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์และน้ำมันดิบ WTI และ Brent ได้อย่างง่าย ๆ กับ CFD สินค้าโภคภัณฑ์ เราจะใช้การเทรด CFD หรือ Contract for Different ในการเก็งกำไรสินค้าโภคภัณฑ์ในยามที่เศรษฐกิจผันผวน ข้อดีของการเทรดด้วยตราสาร CFD กับโบรกเกอร์เทรดน้ำมันคือไม่จำเป็นต้องมีการส่งมอบ ไม่ต้องถือครอง เทรดเดอร์จะเก็งกำไรจากส่วนต่างราคาเท่านั้น

ในย่อหน้านี้ มาสำรวจ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเริ่มต้นลงมือเทรด CFD น้ำมันดิบกัน

รับทราบปัจจัยราคาน้ำมัน

ราคาของทั้ง WTI และ Brent  ต่างได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่ซับซ้อนซึ่งส่งผลต่อกัน ได้แก่

• อุปสงค์และอุปทาน: หลักการพื้นฐานนี้กำหนดการเคลื่อนไหวของราคา เมื่อความต้องการน้ำมันทั่วโลกแซงหน้าอุปทาน ราคาก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น ในทางกลับกัน การมีมากเกินไปในตลาดอาจทำให้ราคาลดลงได้

ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์หรืออุปทานน้ำมันดิบ เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจ ล้วนส่งผลต่อทิศทางการซื้อขายน้ำมันดิบ

• ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD): เนื่องจากราคาน้ำมันมีราคาเป็น USD เป็นหลัก ความเข้มแข็งของดอลลาร์จึงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคา USD ที่แข็งค่าสามารถทำให้น้ำมันดูเหมือนถูกลง และอาจนำไปสู่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น การผันแปรของมูลค่าค่าเงิน USD เป็นผลมาจากการตัดสินใจด้านดอกเบี้ยของ FED

• ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์: ความไม่สงบในภูมิภาคที่ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เช่น OPEC สามารถขัดขวางอุปทาน ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นได้

• ฤดูกาลขับรถท่องเที่ยวของสหรัฐฯ: หน้าร้อนของสหรัฐฯ ที่ผู้คนจะขับรถออกไปท่องเที่ยวกัน จะเป็นการผลัดกันความต้องการในน้ำมันให้สูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ

เปิดบัญชีกับ TOPONE Markets

อย่ารอช้า! โลกการเงินไม่เคยคอยใคร เปิดบัญชี TOPONE Markets และเริ่มจากบัญชีทดลองเทรดของเราก่อนเดิมพันตลาดด้วยเงินทุนจริง ๆ นอกจากนี้ เราจะมีชุมชนเทรดเดอร์ผู้มากประสบการณ์ที่จะมาแบ่งปันแนวคิดและองค์ความรู้เพื่อสร้างสัมคมเทรดเดอร์ที่ดีร่วมกัน เข้าร่วมกับเราวันนี้ Copy Trading จากมือฉมังเหล่านั้นแล้วเริ่มต้นเส้นทางเทรดเดอร์ที่สดใสในแบบเองกับเรา!

กำหนดเงินทุน

วางแผนการทรดอย่างมีวินัย ไม่ใช้เงินที่มีทั้งหมดไปกับการลงทุน อย่าลืมกำหนดเงินทุนสำหรับการเทรดแต่ละครั้ง บาลานซ์สัดส่วนการลงทุนให้พอดี ไม่กระทบกับความสุขด้านอื่น ๆ ของชีวิต

บทความที่คุณอาจสนใจ

• Take Profit (T/P) คืออะไร กลยุทธ์เทรดแบบไม่ต้องนั่งเฝ้า

• Trailing Stop คืออะไร รวมทุกเรื่องที่ Intraday ต้องรู้

• เรียนรู้วิธีทำเงินในตลาดการเงินด้วย Arbitrage

เรียนรู้การกำหนดจุดหยุดขาดทุน จุดทำกำไร และควบคุมสติอารมณ์ของตนไม่ให้ไหลไปตามกระแสข่าว หยุดคิดสักนิดว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นสอดคล้องกับกยุทธ์ของตนหรือยัง

ด้วยการรวมความรู้นี้เข้ากับบัญชีโบรกเกอร์ CFD ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ของเรา คุณสามารถนำทางโลกแห่งการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ราคาน้ำมันดิบที่น่าตื่นเต้นและบางครั้งก็ท้าทายได้

โปรดจำไว้ว่า การซื้อขายน้ำมันดิบที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีวินัย และความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด เพื่อจัดเตรียมความรู้ที่ทันเหตุการณ์ในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลานี้

เปิดสถานะ Short หรือ Long

ตอนนี้คุณเข้าใจความซับซ้อนของน้ำมันดิบ WTI และ Brent แล้ว เรามาสำรวจว่าคุณจะสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาผ่านการซื้อขาย CFD (Contract for Difference) ได้อย่างไร แนวคิดหลักในการซื้อขาย CFD คือการทำความเข้าใจตำแหน่งยาวและตำแหน่งสั้น

ลองนึกภาพคุณเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบ WTI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ในสถานการณ์นี้ คุณจะต้องเปิดสถานะซื้อใน WTI CFD โดยพื้นฐานแล้ว คุณกำลังเข้าสู่สัญญาที่จ่ายส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (ราคาเข้า) และราคาขาย (ราคาออก) ของ WTI CFD หากการคาดการณ์ถูกต้อง และราคาของ WTI เพิ่มขึ้น คุณสามารถขาย CFD ได้อย่างมีกำไร

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณซื้อ CFD 10 CFD สำหรับน้ำมันดิบ WTI ที่ราคา 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากราคา WTI เพิ่มขึ้นเป็น $55 ต่อบาร์เรล คุณสามารถขาย CFD 10 หน่วยและเก็บส่วนต่าง $5 ต่อบาร์เรลได้ ในสถานการณ์นี้ กำไรจะเป็น $5 (ส่วนต่างของราคา) x 10 (จำนวน CFD) = $50

ในทางกลับกัน หากคุณเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบ Brent มีแนวโน้มที่จะลดลง คุณสามารถเปิดสถานะ Short ใน Brent CFD ได้ ที่นี่ คุณกำลังยืม Brent CFD จากโบรกเกอร์ CFD และขายในราคาตลาดปัจจุบันทันที จากนั้นคุณมีหน้าที่ในการซื้อ CFD จำนวนเท่าเดิมในภายหลังเพื่อ "ปิด" ตำแหน่ง

ลองนึกภาพคุณขายน้ำมันดิบเบรนท์ Short 10 CFD ที่ราคา 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากการคาดการณ์เป็นจริง และราคาของ Brent ตกลงไปที่ $55 ต่อบาร์เรล คุณสามารถซื้อ CFD คืน 10 รายการในราคาที่ต่ำกว่าเพื่อปิดสถานะ กำไรจะเป็น $5 (ส่วนต่างของราคา) x 10 (จำนวน CFD) = $50 อย่างไรก็ตาม หากราคาของ Brent สูงขึ้นแทน คุณจะต้องขาดทุนเมื่อคุณซื้อ CFD คืนเพื่อปิดสถานะ

การเทรดน้ำมันดิบดีไหม ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนส่วนบุคคลของแต่ละท่าน น้ำมันดิบเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่สามารถใช้การเก็งกำไรด้วยการเทรด CFD ที่ไม่ต้องถือครอง ส่งมอบ ทั้งยังสามารถสร้างผลตอบแทนในสภาวะตลาดขาลงได้อีกด้วยซึ่งแตกต่างจากการเทรดในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม

ไม่มีสูตรวิเศษที่จะระบุจุดที่ดีที่สุดในการซื้อขายน้ำมันดิบ ตลาดมีความซับซ้อนและได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการดังกล่าวข้างต้น แต่ด้วยการรวมกลยุทธ์การเทรดระยะสั้น เข้ากับการทำงานร่วมกับโบรกเกอร์เทรดน้ำมันที่เชื่อถือได้เช่น TOPONE Markets คุณจะมั่นใจได้ว่าเส้นทางการลงทุนในตลาด ซื้อขายน้ำมันดิบระดับโลกผ่าน WTI และ Brent นั้น จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายการลงทุนได้เช่นกัน

เทรด เช่น ทองคำ/น้ำมันดิบ/เงิน ฯลฯ แบบออนไลน์ โลหะมีค่าและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ติดเทรนด์ทั่วโลก

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!

เสน่ห์ของซื้อขายน้ำมันดิบได้ดึงดูดใจนักลงทุนมานานหลายทศวรรษ เชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีชื่อเล่นว่า “ทองคำสีดำ” (Black Gold) ยังคงเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโลก แต่สำหรับเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์รายใหม่ โลกของการซื้อขายน้ำมันดิบอาจดูซับซ้อน ไม่รู้ว่าควรจะเทรดน้ำมันดีไหมเมื่อมองเห้นถึงราคาที่ผัวผวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงสองตลาดซื้อขายน้ำมันดิบหลักอย่าง WTI และ Brent

การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง WTI และ Brent เป็นสิ่งสำคัญในการนำทางตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ น้ำมันดิบ WTI หรือ West Texas Intermediate ทำหน้าที่เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับน้ำมันดิบในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ขึ้นชื่อในด้านคุณภาพที่สูง ปริมาณกำมะถันต่ำ และอุปทานที่หาได้ง่าย ในทางกลับกัน น้ำมันดิบ Brent Crude Oil ถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานระดับโลกที่มีต้นกำเนิดมาจากทะเลเหนือในทวีปยุโรป

แล้วทำไมคุณในฐานะมือใหม่จึงควรสนใจซื้อขายน้ำมันดิบ WTI และ Brent ล่ะ เนื่องจากน้ำมันทั้งสองชนิดนี้ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากปัจจัยที่นอกเหนือจากอุปสงค์และอุปทาน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โควตาการผลิตโดย OPEC (องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน) และแม้กระทั่งกำลังการผลิตของโรงกลั่น ล้วนมีบทบาทในการเต้นที่ซับซ้อนของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเราจะค่อย ๆ อธิบายเป้นลำดับในหัวข้อถัด ๆ ไป

หากคุณยังลังเลว่าจะเทรดน้ำมันดีไหม ในบทความการเงินการลงทุนของ TOPONE Markets ฉบับนี้ จะเป็นคู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นในการลงทุนซื้อขายน้ำมันดิบโลก เป็นก้าวแรกในการทำความเข้าใจโลกแห่ง WTI และน้ำมันดิบ Brent ที่น่าตื่นเต้นและบางครั้งก็ท้าทาย เราจะเจาะลึกลงไปถึงคุณลักษณะของน้ำมันแต่ละชนิด สำรวจปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา และจัดเตรียมความรู้ให้กับคุณเพื่อสำรวจตลาดที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลานี้ พร้อมปลดล็อกศักยภาพน้ำมันดิบแล้วหรือยัง อ่านต่อและค้นพบว่าคุณสามารถสร้างกำไรจากการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ CFD ด้วยบัญชีโบรกเกอร์ CFD ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ของเราได้อย่างไร

เทรด เช่น ทองคำ/น้ำมันดิบ/เงิน ฯลฯ แบบออนไลน์ โลหะมีค่าและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ติดเทรนด์ทั่วโลก

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!

แม้ว่า WTI และ Brent จะครองพาดหัวข่าว แต่ตลาดน้ำมันดิบที่ซื้อขายทั่วโลกก็มีเครือข่ายที่กว้างขวางซึ่งครอบคลุมผู้เล่นที่หลากหลายตามแต่ภูมิภาคจำเพาะ ตลาดเหล่านี้ส่งมอบน้ำมันดิบตามความต้องการในภูมิภาค ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยในภูมิภาคใกล้เคียง แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ทรงอิทธิพลสำคัญคือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกเหนือจากเกณฑ์มาตรฐานในอเมริกาจ้าวตลาด WTI เหนือและยุโรปผู้ค้าแห่ง Brent แล้ว ยังมีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ซึ่งองค์กรระหว่างรัฐบาลนี้ซึ่งประกอบด้วยประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ มีบทบาทสำคัญในการมีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันดิบทั่วโลกผ่านโควตาการผลิต การทำความเข้าใจการตัดสินใจของ OPEC เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ เทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์ที่สนใจการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบ

ตลาดที่น่าสังเกตอีกแห่งคือสิงคโปร์ แหล่งซื้อขายน้ำมันดิบที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนเป็นที่รู้จักในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่โปร่งใส Singapore Exchange ดึงดูดผู้เข้าร่วมจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่านี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ มีตลาดระดับภูมิภาคอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละตลาดมีลักษณะเฉพาะและการเปลี่ยนแปลงราคาเป็นของตัวเอง ประเภทเฉพาะของการซื้อขายน้ำมันดิบ สถานที่จัดส่ง และโครงสร้างพื้นฐานในการจัดเก็บ ล้วนมีส่วนทำให้เกิดความซับซ้อนโดยรวมของตลาดซื้อขายน้ำมันดิบทั่วโลก

Image source: ATFX

WTI และ Brent ต่างก็ถือว่าเป็นน้ำมันดิบที่มีปริมาณกำมะถันต่ำ (Light, sweet crude oil) อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการที่อาจส่งผลต่อราคาได้

• แหล่งขุดเจาะ: WTI สกัดจากทุ่งในสหรัฐฯ  ในขณะที่ Brent สกัดจากทะเลเหนือ ความแตกต่างของตำแหน่งนี้อาจส่งผลต่อต้นทุนการขนส่ง

• ปริมาณ API: WTI มีแรงโน้มถ่วง API สูงกว่า (น้ำมันเบากว่า) มากกว่า Brent. แรงโน้มถ่วง API เป็นตัววัดว่าน้ำมันดิบมีน้ำหนักหรือเบาเพียงใด โดยทั่วไปแล้วน้ำมันที่เบากว่าจะมีคุณค่ามากกว่าเนื่องจากสามารถกลั่นเป็นน้ำมันเบนซินและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ง่ายกว่า

• ปริมาณกำมะถัน: WTI มีปริมาณกำมะถันต่ำกว่า (Sweet) มากกว่าน้ำมันดิบ Brent น้ำมันดิบชนิดหวานเป็นที่ต้องการมากกว่าเนื่องจากปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สะอาดกว่าเมื่อทำการกลั่น

ข้อกำหนดเหล่านี้อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ผันผวนอย่างอิสระ แม้ว่าทั้งคู่จะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่คล้ายคลึงกัน เช่น อุปสงค์และอุปทาน

ราคาของน้ำมันดิบ WTI ซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD) ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากปัจจัยภายในประเทศภายในสหรัฐฯ ค่าเงิน USD ที่แข็งแกร่งจะผลักดันราคาน้ำมันดิบ WTI ให้ลดลง ความสัมพันธ์แบบผกผันนี้เกิดจากการที่ราคาน้ำมันมีราคาเป็น USD เมื่อเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ผู้ซื้อจากต่างประเทศจะต้องจ่ายในราคาแพงมากขึ้นเพื่อซื้อน้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดลดลงได้

อีกด้านหนึ่ง น้ำมันดิบ Brent ก็มีราคาจำหน่ายที่ USD เช่นเดียวกับน้ำมันดิบ WTI แม้ว่าจะมีต้นกำเนิดจากยุโรป สิ่งนี้อาจดูเหมือนขัดกับสัญชาตญาณ แต่มันสะท้อนถึงการครอบงำของ USD ในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาของ Brent สามารถแสดงความสัมพันธ์ผกผันที่อ่อนกว่ากับ USD เมื่อเทียบกับ WTI  นี่เป็นเพราะว่า Brent มักถูกมองว่าเป็นน้ำมันดิบที่มีการซื้อขายกันทั่วโลกมากกว่า โดยมีความไวต่อปัจจัยที่มีสหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางน้อยกว่า

สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่กำลังสำรวจกราฟราคาจากโบรกเกอร์เทรดน้ำมันอยู่ สิ่งนี้หมายถึงการมีอิทธิพลซึ่งกันและกันระหว่างราคา WTI และ Brent มีมากกว่าความสัมพันธ์ของ USD แบบธรรมดา ๆ แม้ว่าการแข็งค่าของค่าเงิน USD จะสามารถสร้างแรงกดดันให้ทั้งคู่ลดลงได้ แต่ WTI อาจมีผลกระทบที่เด่นชัดมากกว่า และอีกข้อหนึ่งคือ ราคาของ WTI และ Brent ก็มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวควบคู่กันในระยะยาว เนื่องจากทั้งสองตอบสนองต่อปัจจัยระดับโลกเดียวกันที่ขับเคลื่อนอุปสงค์และอุปทานของน้ำมันดิบ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โควตาการผลิตที่กำหนดโดย OPEC และกำลังการผลิตโรงกลั่นทั่วโลก

สำหรับมือใหม่ในโลกการเงิน เริ่มต้นการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์และน้ำมันดิบ WTI และ Brent ได้อย่างง่าย ๆ กับ CFD สินค้าโภคภัณฑ์ เราจะใช้การเทรด CFD หรือ Contract for Different ในการเก็งกำไรสินค้าโภคภัณฑ์ในยามที่เศรษฐกิจผันผวน ข้อดีของการเทรดด้วยตราสาร CFD กับโบรกเกอร์เทรดน้ำมันคือไม่จำเป็นต้องมีการส่งมอบ ไม่ต้องถือครอง เทรดเดอร์จะเก็งกำไรจากส่วนต่างราคาเท่านั้น

ในย่อหน้านี้ มาสำรวจ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเริ่มต้นลงมือเทรด CFD น้ำมันดิบกัน

รับทราบปัจจัยราคาน้ำมัน

ราคาของทั้ง WTI และ Brent  ต่างได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่ซับซ้อนซึ่งส่งผลต่อกัน ได้แก่

• อุปสงค์และอุปทาน: หลักการพื้นฐานนี้กำหนดการเคลื่อนไหวของราคา เมื่อความต้องการน้ำมันทั่วโลกแซงหน้าอุปทาน ราคาก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น ในทางกลับกัน การมีมากเกินไปในตลาดอาจทำให้ราคาลดลงได้

ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์หรืออุปทานน้ำมันดิบ เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจ ล้วนส่งผลต่อทิศทางการซื้อขายน้ำมันดิบ

• ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD): เนื่องจากราคาน้ำมันมีราคาเป็น USD เป็นหลัก ความเข้มแข็งของดอลลาร์จึงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคา USD ที่แข็งค่าสามารถทำให้น้ำมันดูเหมือนถูกลง และอาจนำไปสู่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น การผันแปรของมูลค่าค่าเงิน USD เป็นผลมาจากการตัดสินใจด้านดอกเบี้ยของ FED

• ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์: ความไม่สงบในภูมิภาคที่ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เช่น OPEC สามารถขัดขวางอุปทาน ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นได้

• ฤดูกาลขับรถท่องเที่ยวของสหรัฐฯ: หน้าร้อนของสหรัฐฯ ที่ผู้คนจะขับรถออกไปท่องเที่ยวกัน จะเป็นการผลัดกันความต้องการในน้ำมันให้สูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ

เปิดบัญชีกับ TOPONE Markets

อย่ารอช้า! โลกการเงินไม่เคยคอยใคร เปิดบัญชี TOPONE Markets และเริ่มจากบัญชีทดลองเทรดของเราก่อนเดิมพันตลาดด้วยเงินทุนจริง ๆ นอกจากนี้ เราจะมีชุมชนเทรดเดอร์ผู้มากประสบการณ์ที่จะมาแบ่งปันแนวคิดและองค์ความรู้เพื่อสร้างสัมคมเทรดเดอร์ที่ดีร่วมกัน เข้าร่วมกับเราวันนี้ Copy Trading จากมือฉมังเหล่านั้นแล้วเริ่มต้นเส้นทางเทรดเดอร์ที่สดใสในแบบเองกับเรา!

กำหนดเงินทุน

วางแผนการทรดอย่างมีวินัย ไม่ใช้เงินที่มีทั้งหมดไปกับการลงทุน อย่าลืมกำหนดเงินทุนสำหรับการเทรดแต่ละครั้ง บาลานซ์สัดส่วนการลงทุนให้พอดี ไม่กระทบกับความสุขด้านอื่น ๆ ของชีวิต

บทความที่คุณอาจสนใจ

• Take Profit (T/P) คืออะไร กลยุทธ์เทรดแบบไม่ต้องนั่งเฝ้า

• Trailing Stop คืออะไร รวมทุกเรื่องที่ Intraday ต้องรู้

• เรียนรู้วิธีทำเงินในตลาดการเงินด้วย Arbitrage

เรียนรู้การกำหนดจุดหยุดขาดทุน จุดทำกำไร และควบคุมสติอารมณ์ของตนไม่ให้ไหลไปตามกระแสข่าว หยุดคิดสักนิดว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นสอดคล้องกับกยุทธ์ของตนหรือยัง

ด้วยการรวมความรู้นี้เข้ากับบัญชีโบรกเกอร์ CFD ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ของเรา คุณสามารถนำทางโลกแห่งการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ราคาน้ำมันดิบที่น่าตื่นเต้นและบางครั้งก็ท้าทายได้

โปรดจำไว้ว่า การซื้อขายน้ำมันดิบที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีวินัย และความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด เพื่อจัดเตรียมความรู้ที่ทันเหตุการณ์ในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลานี้

เปิดสถานะ Short หรือ Long

ตอนนี้คุณเข้าใจความซับซ้อนของน้ำมันดิบ WTI และ Brent แล้ว เรามาสำรวจว่าคุณจะสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาผ่านการซื้อขาย CFD (Contract for Difference) ได้อย่างไร แนวคิดหลักในการซื้อขาย CFD คือการทำความเข้าใจตำแหน่งยาวและตำแหน่งสั้น

ลองนึกภาพคุณเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบ WTI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ในสถานการณ์นี้ คุณจะต้องเปิดสถานะซื้อใน WTI CFD โดยพื้นฐานแล้ว คุณกำลังเข้าสู่สัญญาที่จ่ายส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (ราคาเข้า) และราคาขาย (ราคาออก) ของ WTI CFD หากการคาดการณ์ถูกต้อง และราคาของ WTI เพิ่มขึ้น คุณสามารถขาย CFD ได้อย่างมีกำไร

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณซื้อ CFD 10 CFD สำหรับน้ำมันดิบ WTI ที่ราคา 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากราคา WTI เพิ่มขึ้นเป็น $55 ต่อบาร์เรล คุณสามารถขาย CFD 10 หน่วยและเก็บส่วนต่าง $5 ต่อบาร์เรลได้ ในสถานการณ์นี้ กำไรจะเป็น $5 (ส่วนต่างของราคา) x 10 (จำนวน CFD) = $50

ในทางกลับกัน หากคุณเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบ Brent มีแนวโน้มที่จะลดลง คุณสามารถเปิดสถานะ Short ใน Brent CFD ได้ ที่นี่ คุณกำลังยืม Brent CFD จากโบรกเกอร์ CFD และขายในราคาตลาดปัจจุบันทันที จากนั้นคุณมีหน้าที่ในการซื้อ CFD จำนวนเท่าเดิมในภายหลังเพื่อ "ปิด" ตำแหน่ง

ลองนึกภาพคุณขายน้ำมันดิบเบรนท์ Short 10 CFD ที่ราคา 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากการคาดการณ์เป็นจริง และราคาของ Brent ตกลงไปที่ $55 ต่อบาร์เรล คุณสามารถซื้อ CFD คืน 10 รายการในราคาที่ต่ำกว่าเพื่อปิดสถานะ กำไรจะเป็น $5 (ส่วนต่างของราคา) x 10 (จำนวน CFD) = $50 อย่างไรก็ตาม หากราคาของ Brent สูงขึ้นแทน คุณจะต้องขาดทุนเมื่อคุณซื้อ CFD คืนเพื่อปิดสถานะ

การเทรดน้ำมันดิบดีไหม ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนส่วนบุคคลของแต่ละท่าน น้ำมันดิบเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่สามารถใช้การเก็งกำไรด้วยการเทรด CFD ที่ไม่ต้องถือครอง ส่งมอบ ทั้งยังสามารถสร้างผลตอบแทนในสภาวะตลาดขาลงได้อีกด้วยซึ่งแตกต่างจากการเทรดในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม

ไม่มีสูตรวิเศษที่จะระบุจุดที่ดีที่สุดในการซื้อขายน้ำมันดิบ ตลาดมีความซับซ้อนและได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการดังกล่าวข้างต้น แต่ด้วยการรวมกลยุทธ์การเทรดระยะสั้น เข้ากับการทำงานร่วมกับโบรกเกอร์เทรดน้ำมันที่เชื่อถือได้เช่น TOPONE Markets คุณจะมั่นใจได้ว่าเส้นทางการลงทุนในตลาด ซื้อขายน้ำมันดิบระดับโลกผ่าน WTI และ Brent นั้น จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายการลงทุนได้เช่นกัน

เทรด เช่น ทองคำ/น้ำมันดิบ/เงิน ฯลฯ แบบออนไลน์ โลหะมีค่าและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ติดเทรนด์ทั่วโลก

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!