รวมทุกเรื่องที่มือใหม่เล่นหุ้นต้องรู้ ก่อนเทรด DW
DW คือหุ้นหรืออะไร
DW คือสัญลักษณ์ที่นักลงทุนอาจจะได้เห็นผ่านตามาบ้างถ้าข้องแวะเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นผ่านโบรกเกอร์ต่าง ๆ และหลายท่านคงมีคำถามในใจว่า DW คือหุ้นอะไร แต่จริง ๆ แล้ว แม้จะดำเนินซื้อขายผ่านโบรกเกอร์เช่นเดียวกับหุ้น และมีการอ้างอิงราคากับหุ้น แต่ DW นั้นไม่ใช่หุ้นจริง ๆ ไม่ได้ทำให้นักลงทุนได้รับสิทธิในฐานะเจ้าของที่จะได้รับเงินปันผลของบริษัท หรือสิทธิออกเสียง แต่ DW จัดเป็น Derivative คือ “ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์” ประเภทหนึ่งซึ่งทำให้ผู้ถือครองสามารถอ้างอิงการได้รับส่วนต่างของราคาสินทรัพย์อ้างอิงเทียบกับราคาเมื่อลงทุน
แท้ที่จริงตัวย่อ DW คือ Derivative Warrant
รากศัพท์ของคำแรกคือ Derive แปลว่าอ้างอิง บ่งบอกว่า DW ไม่มีมูลค่าในตัว ปกติแล้วสินทรัพย์ที่อ้างอิง จะเป็นหุ้น หรือว่าดัชนีหุ้น โดย DW นั้นเหมือนกับการจำลองหุ้นหรือดัชนีหุ้นมาให้เล่นโดยย่อมูลค่าลง ยกตัวอย่างเช่น ลดมูลค่าจากร้อย เทียบเป็นแค่ 10 จาก 100 บาท เป็น 10 บาท โดยหุ้นหรือดัชนีตัวหลักที่นำมาปรับย่อราคาลง เราจะเรียกว่าเป็นสินค้าอ้างอิง “ตัวแม่” ขณะที่ DW จะเป็น “ตัวลูก” ราคาของตัวลูกจะขึ้นและลงตามตัวแม่
ส่วนคำว่า Warrant คืออะไร เฉพาะคำนี้หมายถึงสิทธิในการซื้อหรือขาย โดยกำหนดราคา ระยะเวลา และจำนวนหุ้นหรือหน่วยดัชนีระบุไว้ในตราสาร ดังนั้นหากครอบครอง DW เป็นผลให้เก็งกำไร “ตัวลูก” เสมือนทำการซื้อขายเพื่อทำกำไรได้ ถ้า “ตัวแม่” มีราคาขยับขึ้นลงภายในระยะเวลาดังที่กำหนดไว้ในตราสาร
จะเทรด DW ต้องทำอย่างไร
การเทรด DW สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและลง จะมีคำศัพท์ 2 คำที่สำคัญ หรือคือแบ่ง DW ได้เป็นสองประเภท
Call DW (สิทธิในการเรียก) คือ ถ้าเทรดเดอร์ซื้อได้ราคาถูก ก็อยากจะเรียกร้องส่วนต่างเมื่อราคาสูงขึ้น สมมติเรา Call DW ที่ 1 บาท อ้างอิงกับหุ้นราคา 10 บาท แล้วคาดหวังอนาคตจะเพิ่มสูงขึ้น อาจจะเป็นที่ 20 บาท ตัว Call DW จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ราคามาหยุดที่ 2 บาท ตรงนี้จะเกิดกำหนด 1 บาทต่อหน่วย
Put DW (สิทธิในการขาย) คือ เทรดเดอร์เสมือนขายได้ก่อน แล้วค่อยกลับมาซื้อในราคาที่ถูก เป็นหลักขายแพงซื้อถูก ลองคิดถึงว่าเทรดเดอร์ทำธุรกิจแบบที่ไม่ต้องมีสินค้า แต่ทำการรับเงินค่าสินค้าไว้ก่อนแล้วได้ จากนั้นค่อยไปหาสินค้ามาส่ง โดยเลือกหาสินค้าจากผู้ขายที่กำหนดราคาต่ำกว่าที่ได้ตกลงในการขายไป หลักการเป็นเช่นนั้น จะเห็นว่าเทรดเดอร์สามารถกินกำไรส่วนต่างได้ ในทางปฏิบัติแล้วไม่ยุ่งยากด้วย ทำการ Put DW ที่ 2 บาท อ้างอิงหุ้นราคา 20 บาท แล้วราคาหุ้นตกลงมาเป็น 10 บาท จะทำให้คนถือ Put DW กินกำไรส่วนต่างได้ 1 บาท
สำหรับมือใหม่ เพียงเปิดพอร์ตหุ้นกับทางโบรกเกอร์ก็สามารถลงทุนใน DW หุ้น เพื่อซื้อขายได้เหมือนกับหุ้น เวลาซื้อ DW แล้ว สามารถขายคืนให้กับทางโบรกเกอร์ได้เสมอ ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องหาผู้มาซื้อ ซื้อง่ายขายคล่องกว่าหุ้น และสามารถซื้อขายรวมกับหุ้นได้ โดยทางโบรกเกอร์จะคำนวณราคาค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้ถ้าทำรายการซื้อรวมกัน
มือใหม่เล่นหุ้น ควรเทรด DW ไหม และควรคำนึงถึงประเด็นใด
สำหรับมือใหม่ เมื่อมีพอร์ตหุ้นก็แสดงว่ายอมรับความเสี่ยงที่สูงมากได้ในการเทรด ดังนั้น เทรด DW จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งในการเทรด เพราะลงทุนต่ำ ทำกำไรได้เร็ว แต่ผลตอบแทนที่สูงมักมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย จึงควรจะต้องคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจเทรด DW แต่ละครั้ง
การซื้อหรือขายต้องมั่นใจในเรื่องแนวโน้ม ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยเทคนิค โดยเบื้องต้น ถ้าซื้อ Call DW ต้องมั่นใจว่าบริษัทมีพื้นฐานที่ดีในการดำเนินการ เพราะจะทำให้ราคาไม่ดิ่งลงมาก แต่ว่าคงที่อยู่ในช่วงระดับราคาหนึ่งก่อน และใช้ความรู้ทางปัจจัยเทคนิค วิเคราะห์จนมั่นใจว่าหุ้นกำลังจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้น แต่ถ้ากรณีของการซื้อ Put DW ก็คืออาจจะจับได้ทั้งปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคว่าหุ้นกำลังด้อยมูลค่าลง ทั้งนี้ต้องมั่นใจจริง ๆ สำหรับมือใหม่ในการซื้อ Call DW และ Put DW เพราะด้วยเงื่อนไขระยะเวลาการถือครองสิทธิของตราสาร ทำให้ถ้าเลือกซื้อพลาด จะรอทิ้งช่วงยาวเพื่อรอราคากลับตัวไม่ได้เหมือนกับการครอบครองหุ้นจริง ๆ
อายุของ DW ซึ่งสามารถเล่นได้ทั้งระยะสั้น และระยะยาว แต่ระยะสั้นจะเหมาะสมกับเทรด DW มากกว่า เพราะระยะยาวราคามีความผันผวนมากกว่า เพิ่มความเสี่ยงในการเทรด DW อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเฉพาะ DW สำหรับผู้ที่เล่นสั้น แต่มี DW สำหรับผู้เล่นยาวด้วย ก่อนตัดสินใจว่าเล่นสั้นหรือเล่นยาว ควรจะตรวจสอบเงื่อนไขของ DW เพราะมีบางตัวเท่านั้นที่เอื้อต่อการถือยาว โดยพิจารณาค่าต่อไปนี้
Gearing หรือ Leverage (อัตราทด) เหมาะสำหรับการเล่นระยะสั้น เป็นค่าทวีที่เกิดขึ้นอ้างอิงกับราคาหุ้น เช่น หุ้นตัวแม่ขึ้น 1% ถ้า Effective Gearing เป็น 3 เท่า หมายถึงหุ้นเปลี่ยนแปลง 1% ราคา DW เปลี่ยนแปลง 3%
Time Decay ต่ำเหมาะสำหรับการเล่นระยะยาว ทุกโบรกเกอร์ที่ออก DW จะมีตารางกำหนดค่าเป็น % (เป็นค่าเสื่อมของมูลค่า DW ตามระยะเวลา โดยคำนวณเป็น % ต่อวัน) เช่น ถ้าจะถือยาว 3 เดือน ต้นทุน DW อยู่ที่กี่บาท แล้วเทียบกับราคาหุ้นตัวแม่ที่อ้างอิงแล้ว เมื่อวันที่ขาย คุ้มไหม
ความมีวินัยในการเทรด รู้จุดเข้า รู้จุดออก หรือ Cut Loss ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจเรื่องกราฟเทคนิค หรือรับรู้แนวต้านแนวรับ หากราคาปรับเปลี่ยนไปในทิศทางซึ่งไม่คาดคิด แทนที่จะตกใจ ควรจะสงบใจและรอดูว่าราคาจะปรับไปมากกว่าจุด Cut Loss หรือไม่ และเพื่อความมั่นใจในการลงทุน เทรดเดอร์ควรศึกษาจากแหล่งความรู้หลาย ๆ กลุ่ม หรือหลาย ๆ แหล่ง เพราะจะทำให้รับรู้ข้อเท็จจริงว่าการตัด Cut Loss (หรือรวมไปถึงการทำ Stop Loss คือการกำหนดจุดที่จะ Cut Loss ไว้ล่วงหน้า) สามารถทำให้ได้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยเป็นบวก และมากกว่าการถือไปยาว ๆ
เทรดเดอร์ต้องคำนึงเสมอว่า การเทรด DW มีค่า Time Decay และ Gearing แปลว่ายิ่งถือนาน ก็ยิ่งจะสูญเสียมูลค่าที่ลงทุนไปกับ DW หรือขาดทุน นานเข้าหรือราคาเป็นตรงข้ามกับที่คิดมากเข้า จะสูญเสียเงินลงทุนกับ DW ทั้งหมดได้
การเลือกหุ้นมือใหม่ที่ใช้อ้างอิงกับการซื้อขาย DW ในเมื่อเป็นมือใหม่ให้เลือกโดยไหลไปตามกระแสตลาด ตัวไหนผันผวนต่อปัจจัยใด ด้วยสภาพเศรษฐกิจอย่างอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย เราอาจจะบอกได้ว่าตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นขาลง ซื้อ DW เก็งขาขึ้นหรือลงให้ถูกกับสภาพสังคม และการเมือง มีปัจจัยเอื้อต่อการกำหนดแนวโน้มของตลาดมากมาย อาทิ โควิด-19 การเลือกตั้ง หรือนโยบายสนับสนุนการลงทุนบางอุตสาหกรรม นักลงทุน DW รายย่อยเป็นปลาตัวเล็ก จะเทรดตรงข้ามกับแนวโน้มก็จะหมดเงินได้
ศึกษาการใช้เครื่องมือทางเทคนิคอย่างต่อเนื่อง แม้มือใหม่จะเล่นได้ขณะที่ความรู้ทางเทคนิคยังอยู่ในระดับพื้นฐาน คือพอจะใช้เครื่องมืออย่างง่ายเช่นเส้น EMA (เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล) หรือการสังเกตเส้นแนวรับแนวต้านซึ่งโบรกเกอร์หลายเจ้ามักจะนำเสนอในบทวิเคราะห์ไว้ให้ แต่ความเสี่ยงจะลดลงได้ก็ด้วยการศึกษารูปแบบของกราฟ และแพทเทิร์นการเคลื่อนที่ของราคา
มีการกระจายความเสี่ยง
เทรดเดอร์ควรจะมีสินทรัพย์อย่างอื่นเช่นหุ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงด้วย ไม่ลงทุนแค่ DW อย่างเดียว เพราะอาจจะถึงขนาดหมดตัวได้ เพราะอัตราทดที่ทำให้ผลตอบแทนเป็นบวกหรือเป็นลบหลายเท่า
ไม่ควรเคาะซื้อด้วยเงินทุนทั้งหมดเพียงไม้เดียว ผู้เชี่ยวชาญแนะนำกันตามสื่อต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าควรจะแบ่งเงินลงไม้ (สถานะ) ละไม่เกิน 10,000 บาท หรือไม่เกิน 20% ของหลักทรัพย์ที่มีอยู่ เพราะ DW ควรจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำกำไรตัวเลือก เนื่องจากตัว DW เองไม่ได้มีค่าอะไรแต่อ้างอิงกับหุ้น เทียบกันแล้วการซื้อหุ้น มีสิทธิรับเงินปันผล และไม่มีระยะเวลาจำกัดในการถือครอง
อย่าพยายามแก้มือกับ DW ตัวเดิมซ้ำ ๆ เพราะหุ้นตัวแม่ที่ใช้อ้างอิงราคาอาจไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนราคาในทิศทางที่แน่ชัดอยู่ตลอดเวลา หรืออาจจะอยู่ในช่วงผันผวนหนักซึ่งทำให้โอกาสคาดคะเนทิศทาง และจับจังหวะขายเป็นไปได้ยาก การ Cut Loss หรือ Stop Loss หุ้น DW ที่ราคาขยับไม่เป็นอย่างที่คาดเกิน 2 ครั้ง ควรเป็นสัญญาตให้เฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรอบคอบ และพิจารณาเทรด DW ที่อ้างอิงกับสินค้าอื่นต่อไป
ประโยชน์ของ DW คืออะไรบ้าง
ประโยชน์ที่น่าสนใจในการพิจารณาเทรด DW คือ
เทรด DW ลงทุนน้อยกว่าหุ้นจริงหลายเท่าตัว แต่สามารถทำกำไรได้สูงเป็นสัดส่วนต่อหน่วยลงทุนเทียบเคียงกับ หุ้น DW ตัวแม่ ยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา หรือขาลง หากราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ สำหรับ DW จะมีค่า Gearing ซึ่งทำให้ในการเทรดทำกำไรได้มากกว่าการซื้อขายหุ้น
การเทรด DW นั้น สามารถเก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลงเป็นเรื่องปกติ จะไม่เหมือนกับในตลาดหุ้น ซึ่งปกติอยู่แล้วที่คนจะเก็งกำไรขาขึ้น แต่ในการเก็งกำไรขาลง เทรดเดอร์จะทำการช็อต คือยืมหุ้นจากผู้อื่นซึ่งได้อนุญาตไว้แก่โบรกเกอร์ เพื่อนำไปขายในราคาที่แพงในช่วงผันผวนของตลาด หรือมีปัจจัยกระทบระดับราคา และทำการซื้อหุ้นคืนที่ราคาถูกลงเพื่อนำมาคืน ซึ่งการช็อตจะต้องใช้ต้นทุนมาก และถือว่ายุ่งยากทั้งในแง่การวิเคราะห์และขั้นตอนมากกว่า
ความเสี่ยงของ DW ที่ต้องระวัง
DW มีช่วงระยะเวลาจำกัดในการลงทุนและถือไว้ได้เพื่อใช้สิทธิ ไม่สามารถถือยาวได้อย่างไม่จำกัดเวลาเหมือนกับหุ้น
ราคาลดลงตามระยะเวลาด้วย Time Decay แม้ว่าจะทำกำไรจากส่วนต่างราคาได้ แต่หักลบต้นทุนจากระยะเวลากลับขาดทุน
ไม่มีโอกาสแก้ตัวเหมือนกับหุ้น ถ้าคาดการณ์แนวโน้มทิศทางราคาผิด อาจทำให้สูญเสียเงินทุนที่ลงทุนไปทั้งหมด
บทส่งท้าย
สำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนเน้นมูลค่า เมื่อมีบัญชีสำหรับเทรดหุ้นแล้ว เพื่อให้ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว สามารถพิจารณาถึงทางเลือกในการลงทุนที่อ้างอิงกับหุ้นได้ โดยผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวหนึ่งที่น่าสนใจคือการ เทรด DW ซึ่งเป็นตราสารอนุพันธ์ที่อิงราคากับหุ้น แต่ขณะที่หุ้นปรับเปลี่ยนราคาในช่วงที่แคบ การทำกำไรจากการเทรด DW ที่แปรผันตามราคาหุ้นที่ปรับเปลี่ยนจะเป็นในลักษณะทวีคูณ โดยต้องการเงินลงทุนที่น้อยกว่า ด้วยแนวคิดยุ่งยากไม่ซับซ้อน นั่นคือซื้อถูกขายแพง หรือขายไปก่อนล่วงหน้าในราคาแพงและชำระเงินซื้อในราคาถูก
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่สูงมาพร้อมความเสี่ยงที่สูง มือใหม่เล่นหุ้นจึงต้องใช้ความระมัดระวัง โดยศึกษาข้อมูลกรอบราคาของหุ้นอย่างถี่ถ้วน อาจหาประสบการณ์ในการเทรดหุ้นอยู่ก่อนบ้าง เพื่อจะได้ระบุแนวโน้มการปรับเปลี่ยนของราคาได้แม่นยำ และไม่ควรลงทุนทั้งหมดกับการเทรด DW แต่จัดพอร์ตโฟลิโอให้มีตราสารทุน (หุ้น) หรือหลักทรัพย์ประเภทอื่น เพื่อการบริหารความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพ
บทความที่กำลังมาแรง
- รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร 2023-11-15
- 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023 2024-01-30
- ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024 2024-08-07
โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!