เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด

ตรวจสุขภาพ (หุ้น) ก่อนซื้อด้วย Working Capital

เผยแพร่เมื่อ 2023-03-23

คุณพร้อมที่จะลงทุนในหุ้นแต่ไม่แน่ใจว่าจะซื้อตัวไหนดี ด้วยตัวเลือกมากมายที่มีอยู่ การเลือกหุ้นที่เหมาะกับพอร์ตอาจเป็นเรื่องยาก การตัดสินใจคือเงินทุนหมุนเวียน ในโพสต์บล็อกนี้ เราจะเจาะลึก เงินทุนหมุนเวียนคืออะไรและให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะของหุ้นก่อนตัดสินใจซื้อได้อย่างไร ดังนั้น คว้าปากกาและกระดาษแล้วเตรียมพร้อมที่จะจดบันทึกว่าความเข้าใจเกี่ยวกับเงินทุนหมุนเวียนสามารถช่วยให้คุณลงทุนในตลาดหุ้นได้อย่างชาญฉลาดได้อย่างไร

Working Capital คืออะไร มีอะไรบ้าง

Working Capital คือเงินทุนหมุนเวียน เงินทุนหมุนเวียนนี้มักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ระยะสั้นในรอบปีบัญชีของบริษัท กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ Working Capital คือเงินสดที่ธุรกิจมีอยู่ในมือเพื่อชำระค่าใช้จ่ายและดำเนินการต่อไป


สำหรับนักลงทุน Working Capital คือในในตัวบ่งชี้ที่ดีถึงสถานะทางการเงินของบริษัท หากบริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนติดลบ หมายความว่าหนี้สินระยะสั้นมีมากกว่าสินทรัพย์ระยะสั้น นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนกลาย ๆ ว่าบริษัทกำลังประสบปัญหาในการปฏิบัติตามภาระผูกพันทางการเงิน ที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับนักลงทุนคือ การไม่ได้รับปันผล หรือเงินทั้งก้อนที่ลงทุนหายไปกับตาจากเสถียรภาพทางการเงิน


ในทางกลับกัน หากบริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนในเชิงบวก แสดงว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน สิ่งนี้มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากเป็นการบ่งชี้ว่าบริษัทมีสถานะทางการเงินที่ดีและควรจะสามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันได้


นักลงทุนควรจับตาดูเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทเมื่อพิจารณาว่าจะลงทุนหรือไม่ สถานะเงินทุนหมุนเวียนที่แข็งแกร่งสามารถเป็นสัญญาณของบริษัทที่มั่นคง ในขณะที่สถานะที่อ่อนแออาจบ่งบอกถึงปัญหาทางการเงินในอนาคต


แน่นอนว่า ในฐานะนักลงทุน เรื่องของ Working Capital ที่ไม่ค่อยลื่นไหลนี้ มักนำมาซึ่งความยุ่งยาก ปวดหัว และเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสในการลงทุนไม่ใช่น้อย ดังนั้น การตรวจสุขภาพทางการเงินของหุ้นก่อนซื้อด้วยการดูเร็ว ๆ ที่ Working Capital จะช่วยให้คุณกรองหุ้นได้ก่อนหนึ่งชั้น


องค์ประกอบหลัก 4 ประการของ Working Capital ได้แก่ สินค้าคงคลัง บัญชีลูกหนี้ บัญชีเจ้าหนี้ และเงินสด แต่ละรายการแสดงถึงสินทรัพย์หรือหนี้สินประเภทต่างๆ ที่บริษัทมีอยู่ในงบดุล

1.สินค้าคงคลัง

ได้แก่วัตถุดิบ สินค้าสำเร็จรูป และงานระหว่างกระบวนการ สิ่งสำคัญคือต้องติดตามเพราะมันสามารถผูกเงินสดจำนวนมากได้หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม

2.บัญชีลูกหนี้

เงินที่ลูกค้าของบริษัทเป็นหนี้สำหรับสินค้าหรือบริการที่ได้รับ สิ่งสำคัญคือต้องจัดการสิ่งเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่บริษัทจะไม่สูญเสียรายได้ส่วนนี้ไป

3.บัญชีเจ้าหนี้

เงินที่บริษัทค้างชำระกับซัพพลายเออร์สำหรับสินค้าหรือบริการที่ได้รับ สิ่งสำคัญคือต้องติดตามการชำระเงินเหล่านี้เพื่อที่บริษัทจะไม่ประสบปัญหาทางการเงิน

4.เงินสด

สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมากที่สุดและเป็นสิ่งที่บริษัทใช้ในการชำระค่าใช้จ่ายและปฏิบัติตามภาระผูกพันทางการเงินอื่น ๆ สิ่งสำคัญคือต้องมีเงินสดในมือให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด และยังมีเงินเหลือไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

สูตรคำนวณ Working Capital

ในการคำนวณเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท คุณจะต้องรวบรวมข้อมูลทางการเงินบางอย่าง ซึ่งรวมถึงสินทรัพย์หมุนเวียนทั้งหมดของบริษัทและหนี้สินหมุนเวียนทั้งหมด คุณสามารถดูข้อมูลนี้ได้ในงบดุลของบริษัท

สูตรคำนวณ Working Capital


Working Capital = สินทรัพย์ปัจจุบัน - หนี้สินปัจจุบัน


หน่วยของ Working Capital เป็นมูลค่าเงิน เช่น หากบริษัท A มีทรัพย์สินปัจจุบัน 10 ล้านบาท และหนี้สินปัจจุบัน 1 ล้านบาท ดังนั้น บริษัท A จะมี Working Capital ที่ 9 ล้านบาท บริษัท A สามารถนำเงิน Working Capital จำนวน 9 ล้านบาทนี้ไปสร้างดอกออกผลในกิจกรรมต่าง ๆ ได้ 


อีกนัยะหนึ่งของการมี Working Capital มากกว่ามูลค่าหนี้สิน จะช่วยให้บริษัทอุ่นใจได้ว่า จะมีความสามารถในการจ่ายหนี้ระยะสั้นได้อย่างปลอดภัย ในทางตรงกันข้าม ถ้ามี Working Capital ต่ำกว่ามูลค่าหนี้วิน จะหมายถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ระยะสั้น มีสภาพคล่องต่ำ และอาจมีปัญหาในการจ่ายเงินปันผลต่อนักลงทุนได้


สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าเงินทุนหมุนเวียนสามารถผันผวนได้ปีต่อปีหรือแม้แต่เดือนต่อเดือน ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นการดีที่สุดที่จะคำนวณค่าเฉลี่ยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ได้ภาพที่แม่นยำยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินโดยรวมของบริษัท

วิธีบริหาร Working Capital ฉบับธุรกิจ

สมมติว่าบริษัทเริ่มดำเนินการแล้ว มีวิธีหลัก ๆ  2-3 วิธีในการเพิ่มประสิทธิภาพและจัดการ Working Capital


Working Capital หมายถึงความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียนของบริษัท บริษัทที่มีเงินทุนหมุนเวียนเป็นบวกหมายความว่ามีสินทรัพย์ระยะสั้นเพียงพอที่จะครอบคลุมหนี้สินระยะสั้น ในขณะที่เงินทุนหมุนเวียนติดลบบ่งชี้ในทางตรงกันข้าม

มีวิธีหลักบางประการในการเพิ่มประสิทธิภาพและจัดการ Working Capital

1.บาลานซ์สต็อกอยู่เสมอ

สินค้าคงคลังที่มากเกินไปจะผูกกับเงินสดที่สามารถนำไปใช้ที่อื่นได้ ในขณะที่น้อยเกินไปอาจทำให้สินค้าหมดสต็อกและสูญเสียยอดขาย การหาสมดุลของระดับสินค้าคงคลังเป็นสิ่งสำคัญต่อการบริหารเงินทุนหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ

2.เจรจาเงื่อนไขการชำระเงินกับซัพพลายเออร์

ซัพพลายเออร์หลายรายยินดีที่จะเสนอเงื่อนไขการชำระเงินเพิ่มเติมหากคุณขอ สิ่งนี้สามารถเพิ่มกระแสเงินสดที่จำเป็นมากในระยะสั้น แลกกับการรักษาลูกค้าชั้นดีไว้ในระยะยาว

3.เสนอส่วนลดสำหรับการชำระเงินก่อนกำหนดจากลูกค้า

ธุรกิจจำนวนมากยินดีที่จะได้รับส่วนลดสำหรับการชำระใบแจ้งหนี้ก่อนกำหนด สิ่งนี้สามารถช่วยคุณปรับปรุงสถานะกระแสเงินสดเองได้

4. ใช้วงเงินสินเชื่อหรือการจัดหาเงินทุนระยะสั้นรูปแบบอื่น

หากกระแสเงินสดตึงตัว ให้พิจารณาใช้วงเงินสินเชื่อหรือการจัดหาเงินทุนระยะสั้นรูปแบบอื่นเพื่อลดช่องว่าง อย่าลืมพิจารณาค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบก่อนที่จะก่อหนี้ใหม่

คัดหุ้นด้วย Working Capital อย่างไร

เมื่อวิเคราะห์หุ้น ข้อมูลที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือ Working Capital ในรูปแบบของกระแสงเงินสดในมือของบริษัท Working Capital เป็นตัววัดสถานะทางการเงินของบริษัท และคำนวณโดยการหักหนี้สินหมุนเวียนออกจากสินทรัพย์หมุนเวียน


หากบริษัทมีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์ แสดงว่ามีเงินทุนหมุนเวียนติดลบและตกอยู่ในอันตรายจากการล้มละลาย ในทางกลับกัน หากบริษัทมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน แสดงว่ามีเงินทุนหมุนเวียนในเชิงบวกและมีสุขภาพทางการเงินที่ดี


เมื่อพิจารณาการลงทุนในหุ้น สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทเพื่อให้ทราบถึงสถานะทางการเงินของบริษัท หากบริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนติดลบ อาจเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้หรือล้มละลายได้ ในทางกลับกัน หากบริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนในเชิงบวก แสดงว่ามีสุขภาพทางการเงินที่ดีและมีโอกาสประสบปัญหาทางการเงินน้อยลง

บทส่งท้าย

การทำความเข้าใจสุขภาวะทางการเงินของธุรกิจด้วยการทำความเข้าใจกับสภาพปัจจุบันของ Working Capital ก่อนตัดสินใจลงทุนหรือปรับพอร์ต มีความสำคัญต่อการบรรเทาความเสี่ยงจากการลงทุนได้ เมื่อดูที่อัตราส่วนสภาพคล่องและเงิน


ทุนหมุนเวียน นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าจะซื้อหุ้นในบริษัทใดบริษัทหนึ่งหรือไม่ นอกจากนี้ การ


ทำความเข้าใจวิธีใช้การวิเคราะห์นี้จะช่วยให้คุณจัดการพอร์ตโฟลิโอได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผลตอบแทนสูงสุด ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ เราหวังว่าคุณจะรู้สึกพร้อมมากขึ้นในฐานะนักลงทุน เมื่อคุณตัดสินใจว่าจะซื้อหุ้นตัวใดในครั้งต่อไป!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย