อ่าน 3 งบการเงินของบริษัทเป็นก่อนลงทุนหุ้นห่านทองคำ
กำลังคิดที่จะดำดิ่งสู่โลกแห่งการลงทุนหุ้นที่น่าตื่นเต้นอยู่ใช่ไหม การทำความเข้าใจสถานะทางการเงินของบริษัทเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะตัดสินใจจ่ายเงินที่หามาอย่างยากลำบาก แต่งบการเงินอาจรู้สึกเหมือนเป็นภาษาต่างประเทศ
ในบทความการเงินการลงทุนนี้ของ TOPONE Markets จะแนะนำคุณเกี่ยวกับพื้นฐานของการอ่านงบการเงินของบริษัทที่สำคัญ 3 รายการ ได้แก่ งบกำไรขาดทุน งบดุล และงบกระแสเงินสด ด้วยการทำความเข้าใจเอกสารเหล่านี้ คุณจะมีความพร้อมที่จะตัดสินใจลงทุนอย่างมีข้อมูลและนำทางการเลือกหุ้นพื้นฐานดี มีโอกาสสร้างผลตอบแทนงดงาม ได้อย่างมั่นใจ
งบการเงินคืออะไร มือใหม่เริ่มจากตรงไหน
โลกแห่งการลงทุนอาจมีล้นหลาม โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ก่อนที่จะก้าวสู่ลงสู่ตลาดหุ้นก่อน มีทักษะสำคัญที่ต้องปลดล็อก นั่นก็คือ การทำความเข้าใจงบการเงินของบริษัท ข้อความเหล่านี้ ซึ่งมักเรียกกันว่า "สามประเด็นสำคัญ" ได้แก่ งบดุล งบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด ทำหน้าที่เป็นช่องทางเข้าสู่สถานะทางการเงินของบริษัท โดยให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสำรวจหุ้นที่มีคุณค่าสำหรับ ในระยะยาว
เมื่อเชี่ยวชาญพื้นฐานของงบการเงินของบริษัท คุณจะมีอำนาจในการวิเคราะห์บริษัทอย่างเป็นกลาง ระบุโอกาสในการลงทุนที่อาจเกิดขึ้น และตัดสินใจโดยมีข้อมูลรอบด้านซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนระยะยาว โปรดจำไว้ว่าการลงทุนเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโดยธรรมชาติ แต่การเตรียมตัวให้พร้อมด้วยความรู้ในการถอดรหัสงบการเงินจะช่วยให้คุณสามารถนำทางตลาดด้วยความมั่นใจมากขึ้น และอาจตัดสินใจเลือกดูหุ้นดีมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจได้
ดูงบการเงินบริษัทไทยได้ง่าย ๆ ที่ DBD
ในบรรดาบริาัทจดทะเบียนในประเทศไทย จำเป้นต้องแสดงงบการเงินรายปีให้ทางการทราบ ดังนั้น ที่เว็บไซต์ทางการของกรมการค้าภายใน (Department of Business Development) หรือ DBD ก็จะมีข้อมูลของบริษัทเหล่านั้นแสดงต่อสาธารณะชน
เข้าไปที่เว็บไซต์ https://datawarehouse.dbd.go.th/index
จากนั้น ให้พิมพ์ชื่อบริษัทหรือเลขที่ผู้เสียภาษีอากรของบริษัทที่ต้องการจะดูงบการเงิน ในตัวอย่างนี้ เรายกบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT จะปรากฏข้อมูลขึ้น ดังนี้
คุณสามารถดูการเปลี่ยนแปลงทางการเงินของบริษัทได้ง่าย ๆ ผ่านบริการข้อมูลงบการเงินฟรีจาก DBD เพื่อช่วยในการคัดเลือกหุ้นดี ราคาน่าสนใจสำหรับเติมเข้าพอร์ตการลงทุน
จุดสำคัญในการดูงบการเงิน
ลองนึกภาพตัวเองกำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการลงทุนอันกว้างใหญ่ ซึ่งแต่ละความเป็นไปได้จะให้ผลตอบแทนระยะยาว แต่ก่อนที่จะออกเดินทาง คุณต้องมีเข็มทิศที่เชื่อถือได้ ซึ่งเป็นเข็มทิศสำหรับงบการเงิน
สามงบการเงินของบริษัท ได้แก่ งบดุล งบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด นำเสนอมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัท ผลการดำเนินงานในอดีต และศักยภาพในอนาคต ด้วยการทำความเข้าใจข้อมูลที่พวกเขาเก็บไว้ คุณจะได้รับอำนาจในการระบุผู้สมัครที่แข็งแกร่งสำหรับพอร์ตการลงทุนระยะยาว ซึ่งอาจนำไปสู่การเลือกหุ้นที่ทำกำไรได้
งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
ทำหน้าที่เป็นภาพรวมทางการเงินของบริษัท ซึ่งเปิดเผยสถานะปัจจุบัน โดยให้รายละเอียดว่าบริษัทเป็นเจ้าของอะไร (สินทรัพย์) เป็นหนี้อะไร (หนี้สิน) และมูลค่าคงเหลือของผู้ถือหุ้น (ส่วนของผู้ถือหุ้น) ที่นี่ คุณสามารถประเมินความมั่นคงของบริษัทได้โดยการวิเคราะห์ระดับหนี้ของบริษัท หนี้ที่ลดลงบ่งบอกถึงความสามารถของบริษัทในการฝ่าฟันพายุทางการเงินและอาจเติบโตได้ในระยะยาว ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญสำหรับหุ้นที่คุณวางแผนจะถือเป็นเวลาหลายปี
รายได้ (Revenue): ส่วนนี้แสดงจำนวนเงินทั้งหมดที่บริษัทได้รับจากการขายสินค้าหรือบริการในช่วงเวลาที่กำหนด
ต้นทุนขาย หรือ Cost of Goods Sold (COGS): ส่วนนี้แสดงต้นทุนทางตรงที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าหรือบริการที่ขายโดยบริษัท รวมถึงค่าวัสดุ ค่าแรง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรง
กำไรขั้นต้น (Gross Profit): ส่วนนี้คำนวณโดยการลบต้นทุนสินค้าขายออกจากรายได้ทั้งหมด แสดงถึงกำไรของบริษัทก่อนการบัญชีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenses): เป็นค่าใช้จ่ายต่อเนื่องที่บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในแต่ละวัน เช่น ค่าเช่า เงินเดือน การตลาด และค่าใช้จ่ายในการบริหาร
รายได้จากการดำเนินงาน หรือ Operating Income (EBIT): ส่วนนี้คำนวณโดยการลบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานออกจากกำไรขั้นต้น โดยแสดงถึงกำไรของบริษัทจากการดำเนินงานหลักก่อนการบัญชีดอกเบี้ยและภาษี
รายได้ก่อนหักภาษี หรือ Income Before Taxes (EBT): ส่วนนี้คำนวณโดยการบวกหรือลบรายการที่ไม่ได้ดำเนินการออกจากรายได้จากการดำเนินงาน เป็นกำไรของบริษัทก่อนการบัญชีภาษีเงินได้
ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ (Income Tax Expense): ส่วนนี้จะแสดงจำนวนภาษีเงินได้ที่บริษัทต้องจ่ายจากกำไร
รายได้สุทธิ (Net Income): ส่วนนี้หรือที่เรียกว่ากำไรสุทธิ คำนวณโดยการลบค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จากรายได้ก่อนหักภาษี ซึ่งแสดงถึงกำไรขั้นสุดท้ายของบริษัทสำหรับงวดนั้น
กำไรต่อหุ้น หรือ Earnings Per Share (EPS): ส่วนนี้คำนวณโดยการหารกำไรสุทธิด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้ว หมายถึงสัดส่วนของกำไรของบริษัทที่ได้รับการจัดสรรให้กับหุ้นสามัญแต่ละหุ้น
งบดุล (Balance Sheet)
บอกเล่าเรื่องราวผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงเวลาที่กำหนด โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งรายได้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และท้ายที่สุดคือความสามารถในการทำกำไร ด้วยการวิเคราะห์อัตรากำไรและแนวโน้มการเติบโตของรายได้ คุณสามารถวัดความสามารถของบริษัทในการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาหุ้นแข็งค่าในระยะยาว บริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรสม่ำเสมอมีแนวโน้มที่จะลงทุนซ้ำเพื่อการเติบโต ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ทรัพย์สิน (Assets)
สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets): คือสินทรัพย์ที่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้อย่างง่ายดายภายในหนึ่งปี เช่น เงินสด สินค้าคงคลัง และลูกหนี้การค้า (เงินที่ลูกค้าเป็นหนี้)
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (Non-Current Assets): คือสินทรัพย์ที่ไม่คาดว่าจะถูกแปลงเป็นเงินสดภายในหนึ่งปี เช่น ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ (PP&E) และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า)
หนี้สิน (Liabilities)
หนี้สินหมุนเวียน (Current Liabilities): เป็นหนี้ระยะสั้นที่ต้องชำระภายในหนึ่งปี เช่น เจ้าหนี้ (เงินที่ค้างชำระกับซัพพลายเออร์) ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย (ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแต่ยังไม่ได้ชำระ) และเงินกู้ยืมระยะสั้น
หนี้สินไม่หมุนเวียน (Non-Current Liabilities): เป็นหนี้ระยะยาวที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี เช่น เงินกู้ยืมระยะยาว พันธบัตรที่ต้องชำระ และภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี
ส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholders' Equity)
ทุนชำระแล้ว (Paid-in Capital): เงินที่ได้รับจากนักลงทุนจากการขายหุ้น
กำไรสะสม (Retained Earnings): กำไรที่บริษัทได้รับซึ่งไม่ได้จ่ายเป็นเงินปันผล
งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)
ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทในการสร้างและบริหารจัดการเงินสด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของบริษัท โดยจะแจกแจงกระแสเงินสดเข้าและไหลออกจากกิจกรรมการดำเนินงาน การลงทุน และการจัดหาเงินทุน การทำความเข้าใจกระแสเงินสดของบริษัททำให้คุณสามารถประเมินความสามารถในการจัดหาเงินทุนสำหรับความพยายามในอนาคตและลงทุนในโอกาสในการเติบโต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาว บริษัทที่มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งสามารถฝ่าฟันภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและอาจดำเนินไปในทิศทางขาขึ้นต่อไปได้
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน (Cash Flow from Operating Activities)
ในส่วนนี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกระแสเงินสดเข้าและไหลออกจากกิจกรรมทางธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่
รายได้: เงินสดรับจากการขายสินค้าหรือบริการ
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน: เงินสดที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ไม่รวมดอกเบี้ยและภาษี
การเปลี่ยนแปลงเงินทุนหมุนเวียน: รายการนี้อาจมีความซับซ้อน แต่สะท้อนถึงความแตกต่างระหว่างกระแสเงินสดเข้าและกระแสออกที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียน (เช่น การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังหรือเจ้าหนี้บัญชี)
กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน (Cash Flow from Investing Activities)
ส่วนนี้แสดงกระแสเงินสดเข้าและออกที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของบริษัท เช่น
การซื้อที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ (PP&E): เงินสดที่ใช้ในการได้มาหรืออัปเกรดสินทรัพย์ถาวร
การขายเงินลงทุน: เงินสดที่ได้รับจากการขายสินทรัพย์ เช่น หุ้นหรือพันธบัตร
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน (Cash Flow from Financing Activities)
ในส่วนนี้จะให้รายละเอียดกระแสเงินสดเข้าและออกที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาเงินทุนสำหรับการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งรวมถึง
การออกหนี้: เงินสดที่ได้รับจากการกู้ยืมเงินผ่านเงินกู้หรือพันธบัตร
การชำระหนี้: เงินสดที่ใช้ชำระคืนเงินกู้หรือเงินต้นของพันธบัตร
การจ่ายเงินปันผล: เงินสดจ่ายให้กับผู้ถือหุ้น
กระแสเงินสดสุทธิ (Net Cash Flow)
นี่คือผลรวมของกระแสเงินสดจากทั้งสามกิจกรรม และแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงโดยรวมในตำแหน่งเงินสดของบริษัทในระหว่างงวด ด้วยการวิเคราะห์ส่วนต่างๆ เหล่านี้ คุณจะเข้าใจได้ว่า
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: ความสามารถของบริษัทในการสร้างเงินสดจากการดำเนินธุรกิจหลักเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพในระยะยาว
กระแสเงินสดอิสระ: ได้มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและลบรายจ่ายฝ่ายทุน (เงินสดที่ใช้ใน PP&E) เพื่อประเมินเงินสดที่มีอยู่สำหรับการชำระหนี้ เงินปันผล หรือการซื้อคืนหุ้น
กิจกรรมการลงทุน: ไม่ว่าบริษัทจะลงทุนในการเติบโตในอนาคต (กระแสเงินสดที่เป็นบวกสำหรับ PP&E) หรือการขายสินทรัพย์ออก (กระแสเงินสดไหลเข้าที่เป็นบวก)
กิจกรรมทางการเงิน: บริษัทจัดหาเงินทุนสำหรับการดำเนินงานและรายจ่ายฝ่ายทุนอย่างไร (ผ่านหนี้สิน ตราสารทุน หรือรวมกัน)
เลือกหุ้นดี อย่าลืมดูงบการเงิน
ตัวเลขในหัวข้อต่าง ๆ ที่ปรากฏบนงบการเงินแต่ละฉบับ แต่ละปีนั้น ให้ข้อูลอันทรงคุณค่าในการประเมินศักยภาพของบริษัทในอนาคต ด้วยการเปรียบเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ในหมวดอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือช่วงเวลาเดียวกัน จะช่วยให้คุณมองเห็นศักยภาพของบริษัทนั้นได้ชัดเจนขึ้นกว่าการประกาศวิสัยทัสน์ของผู้บริหารเพียงอย่างเดียว
งบการเงินนี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขบนหน้าเท่านั้น มันคือข้อเท็จจริงของบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน ผลการดำเนินงานในอดีต และศักยภาพในอนาคต ด้วยการถอดรหัสแปลความรายการต่าง ๆ ในงบการเงินอย่างเข้าใจดังที่กล่าวข้างต้น คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแบบเดิม ๆ บนกระดานเทรดไม่สามารถให้ได้
การลงทุนเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโดยธรรมชาติ แต่การเตรียมความพร้อมให้ตัวเองด้วยความรู้ในการถอดรหัสงบการเงินจะช่วยให้คุณสามารถนำทางตลาดด้วยความมั่นใจมากขึ้น เลือกหุ้นที่มีพื้นฐานด เข้าซื้อในราคาถูกกว่า สำหรับการสร้างผลตอบแทนที่มั่งคั่งในระยะยาว
บทความที่กำลังมาแรง
- รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร 2023-11-15
- 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023 2024-01-30
- ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024 2024-08-07
โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!