เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด

ความสัมพันธ์ตลาดการเงิน มองโอกาสการเทรด

เผยแพร่เมื่อ 2024-09-18

correlation between different markets


ในโลกของตลาดการเงินที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งเทรดเดอร์ระยะยาวและเทรดเดอร์ระยะสั้น ความสัมพันธ์ของตลาดซึ่งเป็นการวัดทางสถิติที่ใช้วัดว่าราคาของสินทรัพย์สองประเภทเคลื่อนไหวใกล้เคียงกันแค่ไหน มีบทบาทสำคัญในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนและการบริหารความเสี่ยง


เมื่อสินทรัพย์สองประเภทแสดงความสัมพันธ์ในเชิงบวก แสดงว่าราคาของสินทรัพย์ทั้งสองประเภทมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นและพันธบัตรอาจลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่างสินทรัพย์ทั้งสองประเภท ในทางกลับกัน ความสัมพันธ์เชิงลบบ่งชี้ว่าราคาของสินทรัพย์สองประเภทเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้าม ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากสามารถช่วยลดการสูญเสียในสินทรัพย์ประเภทหนึ่งและกำไรในอีกประเภทหนึ่งได้


บทความที่คุณอาจสนใจ

ด้วยการจดจำรูปแบบของความสัมพันธ์ของตลาด เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนของตนได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น เช่น ในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตลาดการเงินที่แตกต่างกันสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ระบุโอกาสที่เป็นไปได้สำหรับการป้องกันความเสี่ยงหรือการเก็งกำไรได้

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสินค้าโภคภัณฑ์ พันบัตร หุ้น และสกุลเงิน

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสินค้าโภคภัณฑ์ พันบัตร หุ้น และสกุลเงิน


ตลาดการเงินเชื่อมโยงถึงกัน โดยประสิทธิภาพของสินทรัพย์ประเภทหนึ่งมักจะส่งผลต่อสินทรัพย์ประเภทอื่น การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสินค้าโภคภัณฑ์ พันธบัตร หุ้น และ Forex  ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้อย่างรอบรู้และลดความเสี่ยงได้

  • สินค้าโภคภัณฑ์มักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เมื่อราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็อาจเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้มีผลตอบแทนจากการลงทุนที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม สินค้าโภคภัณฑ์อาจผันผวน และราคาอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุปทานและอุปสงค์ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และสภาพเศรษฐกิจ

  • โดยทั่วไปแล้ว พันธบัตรถือเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยกว่าหุ้น เนื่องจากมีอัตราดอกเบี้ยคงที่และโปรไฟล์ความเสี่ยงที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม ราคาพันธบัตรอาจอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น มูลค่าของพันธบัตรที่มีอยู่ก็อาจลดลง

  • หุ้นแสดงถึงความเป็นเจ้าของในบริษัท ราคาหุ้นอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ รวมทั้งรายได้ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และความรู้สึกของตลาด หุ้นอาจให้ผลตอบแทนที่เป็นไปได้สูงกว่าพันธบัตร แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน

  • Forex คือการเทรดสกุลเงิน มูลค่าของสกุลเงินอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ การเทรด Forex อาจมีความผันผวนสูง และจำเป็นต้องมีความเข้าใจพื้นฐานทางเศรษฐกิจและการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างมั่นคง

ความสัมพันธ์ระหว่างสินค้าโภคภัณฑ์ VS. พันบัตร

สินค้าโภคภัณฑ์และพันธบัตรอาจมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน โดยทั่วไป เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาจเพิ่มขึ้นด้วย ในขณะที่ราคาพันธบัตรอาจลดลง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะกัดกร่อนอำนาจซื้อของการชำระเงินพันธบัตรในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์นี้อาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย

ความสัมพันธ์ระหว่างหุ้น VS. พันธบัตร

หุ้น (Stock) และพันธบัตร (Bond) มักมีความสัมพันธ์เชิงลบต่อกัน กล่าวคือ เมื่อเทรดเดอร์มองว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง พวกเขาอาจมีแนวโน้มที่จะลงทุนในหุ้นมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาของหุ้นในตลาดสูงขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อตลาดมีความคิดเห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจอ่อนแอหรือไม่แน่นอน ตลาดอาจมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการลงทุนในพันธบัตรมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นลดลง อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์นี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา และปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (เช่นที่เราต่างจับตาดูอัตรดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ผ่านมุมมองของ FED ทุก ๆ สิ้นเดือน) และความรู้สึกของตลาด ก็สามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพของหุ้นและพันธบัตรได้เช่นกัน

ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราแลกเปลี่ยน VS. สินค้าโภคภัณฑ์

Forex และสินค้าโภคภัณฑ์อาจมีความสัมพันธ์กันอย่างมาก เช่น เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เรียกเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อชาวต่างชาติสามารถซื้อหาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ได้ในราคาที่ถูกกว่า ในทางกลับกัน เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์นี้อาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ณ ช่วเวลาหนึ่ง ๆ เช่น อุปทานและอุปสงค์ของสินค้าโภคภัณฑ์และสภาพเศรษฐกิจในประเทศต่าง ๆ


ในอีกด้าน ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมาช้านาน โดยเป็นที่ต้องการของเทรดเดอร์เนื่องจากมีมูลค่าและความมั่นคงในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนดึงดูดความสนใจจากเทรดเดอร์ทั่วโลก


หากคุณสนใจที่จะสำรวจศักยภาพของทองคำในฐานะการลงทุน เปิดบัญชีกับเราที่ TOPONE Markets ที่แพลตฟอร์มของเรามีเครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย รวมถึงทองคำ และจัดเตรียมเครื่องมือและทรัพยากรที่คุณต้องการเพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างรอบรู้

เงินเฟ้อ และความสัมพันธ์ราคาหุ้นและพันธบัตร

เงินเฟ้อ และความสัมพันธ์ราคาหุ้นและพันธบัตร


เงินเฟ้อ (Inflation) คือการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของระดับราคาสินค้าและบริการในช่วงเวลาหนึ่ง  ๆ เช่นรอบ 1 ปี เงินเฟ้อนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างราคาหุ้นและพันธบัตร เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น อาจทำให้กำลังซื้อของผู้คนลดลง ส่งผลให้มูลค่าของหุ้นและพันธบัตรตกต่ำลง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบเฉพาะของเงินเฟ้อต่อสินทรัพย์ประเภทเหล่านี้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ มาค่อย ๆ ลองทำความเข้าใจตามข้อเท็จจริงดังนี้

ความสัมพันธ์ของเงินเฟ้อต่อมูลค่าหุ้น

  • การกัดเซาะรายได้: เงินเฟ้อที่สูงขึ้นสามารถลดผลกำไรของบริษัทได้โดยการเพิ่มต้นทุนและบีบอัตรากำไร ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นลดลง

  • การขึ้นอัตราดอกเบี้ย: ธนาคารกลางมักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจทำให้การกู้ยืมมีราคาแพงขึ้นสำหรับธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อรายได้และราคาหุ้น

  • ผลตอบแทนที่แท้จริง: เทรดเดอร์ส่วนใหญ่กังวลกับผลตอบแทนที่แท้จริง ซึ่งปรับตามเงินเฟ้อแล้ว หากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเร็วกว่าราคาหุ้น ผลตอบแทนที่แท้จริงอาจลดลง

ความสัมพันธ์ของเงินเฟ้อต่อมูลค่าพันธบัตร

  • ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย: เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น มูลค่าของพันธบัตรที่มีอยู่ก็จะลดลง เนื่องจากการจ่ายดอกเบี้ยคงที่ของพันธบัตรเหล่านี้มีความน่าสนใจน้อยลงเมื่อเทียบกับพันธบัตรที่ออกใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า

  • การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ: หากเทรดเดอร์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นในอนาคต พวกเขาอาจเรียกร้องให้มีอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากพันธบัตรเพื่อชดเชยการกัดเซาะอำนาจซื้อ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาพันธบัตรลดลง

เรียนรู้ความสัมพันธ์ของตลาด สร้างกลยุทธ์การลงทุนที่ยั่งยืน

เรียนรู้ความสัมพันธ์ของตลาด สร้างกลยุทธ์การลงทุนที่ยั่งยืน


ในโลกของตลาดการเงินที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงถึงกัน การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่ยั่งยืน โดยการตระหนักว่าสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร เทรดเดอร์สามารถระบุโอกาสที่เป็นไปได้สำหรับการกระจายความเสี่ยง การจัดการความเสี่ยง และเพิ่มผลตอบแทนได้

ความสำคัญของความสัมพันธ์ของตลาดการเงิน

  • การกระจายความเสี่ยง: การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของตลาดการเงินสามารถช่วยให้เทรดเดอร์สร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายซึ่งสามารถต้านทานความผันผวนของตลาดได้ โดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีความสัมพันธ์กันสูง เทรดเดอร์สามารถลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้

  • การจัดการความเสี่ยง: การระบุความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างสินทรัพย์สามารถให้โอกาสในการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการขาดทุนในสินทรัพย์ประเภทหนึ่งจากกำไรในอีกประเภทหนึ่งได้

  • การระบุโอกาส: การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของตลาดการเงินสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ระบุโอกาสในการเก็งกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งพวกเขาสามารถทำกำไรจากความแตกต่างของราคาระหว่างสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องได้

วิธีปฏิบัติในการจับความสัมพันธ์ของตลาดการเงิน

การวิเคราะห์ความสัมพันธ์: ใช้เครื่องมือทางสถิติเพื่อวัดความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ สิ่งนี้สามารถช่วยคุณระบุสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์เชิงบวกหรือเชิงลบได้

  • กลยุทธ์การกระจายความเสี่ยง: พิจารณาการกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เช่น หุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงิน ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากตลาดได้

  • กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง: ศึกษากลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง เช่น การใช้สัญญาออปชั่นหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในพอร์ตการลงทุน

  • ติดตามข่าวสาร: อัปเดตข่าวสารตลาดและตัวบ่งชี้เศรษฐกิจที่สามารถส่งผลต่อความสัมพันธ์ข้ามตลาด

  • ปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงิน: หากคุณไม่แน่ใจว่าจะนำความสัมพันธ์ของตลาดมาผนวกเข้ากับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร ให้พิจารณาปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงิน

เก็งกำไรตลาดระยะสั้นด้วยตราสาร CFD กับ TOPONE Markets

เมื่อคุณเข้าใจความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างตลาดการเงินต่าง ๆ รอบโลกแล้ว ถึงเวลาที่จะลงมือดำเนินกานด้วยความรู้และความมั่นใจ ไม่ว่าคุณจะเลือกการเทรดหุ้น Forex สินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำหรือน้ำมันดิบ การบริหารความรู้เหล่านี้ให้เข้ากับจังหวะของตลาด จะช่วยให้คุณไม่พลาดโอกาสการสร้างผลตอบแทนในตลาดการเงินระดับโลกอย่างแน่อน


ที่ TOPONE Markets แพลตฟอร์มการเทรดของเราพร้อมเป็นเพื่อนแท้เคียงข้างเส้นทางการเก็งกำไรตลาดระยะสั้นด้วยการเทรด CFD ที่คุณสามารถเลือกสินทรัพย์ได้หลากหลาย ทั้งการเทรดหุ้น เทรดดัชนีตลาดหุ้น และสินค้าการเงินใด ๆ ที่รับกับช่วงเวลาของตลาด


เปิดบัญชีเทรด CFD กับเรา แล้วเดินหน้าสร้างผลตอบแทนกับค่าคอมมิชชัน 0% และค่าสเปรดที่ต่ำกว่าในสินทรัพย์ที่เป็นที่นิยม


โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย