รู้จักโบรกเกอร์ให้มากขึ้น

การลงทุนในหุ้นและสินค้าทางการเงินใด ๆ  อาจเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มพูนความมั่งคั่งและสร้างผลกำไรในระยะยาว หรือแม้แต่การเป็นเดย์เทรดรายวัน ไม่ว่าจะการลงทุนในสินทรัพย์ใด รูปแบบใด ขั้นตอนการเลือกโบรกเกอร์ที่ดีอาจดูยุ่งยาก โชคดีที่การทำความเข้าใจว่าโบรกเกอร์หุ้นหรือหลักทรัพย์ต่าง ๆ ทำงานอย่างไรและมีข้อเสนออะไรนั้นไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด

ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับโบรกเกอร์ เพื่อช่วยในการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลว่าบริการใด ของโบรกเกอร์ใดที่จะเหมาะกับคุณ ตั้งแต่การทำความเข้าใจประเภทต่าง ๆ ของโบรกเกอร์ ไปจนถึงวิะีการดูว่าโบรกเกอร์ดี ๆ นั้นควรเป็นแบบไหน

โบรกเกอร์ คืออะไร ทำหน้าที่อะไร

เมื่อพูดถึงการลงทุนในหุ้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือหาโบรกเกอร์ดี ๆ สักราย แต่โบรกเกอร์คืออะไร และทำไมคุณถึงต้องมี

โบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์เป็นคนกลางระหว่างคุณและตลาดหุ้น เมื่อคุณต้องการซื้อหรือขายหุ้น คุณต้องผ่านโบรกเกอร์ พวกเขาจะดำเนินการซื้อขายและให้ข้อมูลการวิจัยและคำแนะนำแก่คุณเกี่ยวกับหุ้นที่จะซื้อหรือขาย

แม้ว่าคุณจะสามารถซื้อขายในทางเทคนิคได้โดยไม่มีโบรกเกอร์ แต่ก็ไม่แนะนำ โบรกเกอร์ให้บริการที่มีค่าซึ่งสามารถช่วยคุณประหยัดเวลาและเงิน หากไม่มีโบรกเกอร์ คุณจะต้องทำการเทรดเอง (ซึ่งอาจซับซ้อนและใช้เวลานาน) และทำการค้นคว้าข้อมูลเอง (ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากและมีราคาแพง)

ดังนั้น หากคุณคิดจะลงทุนในหุ้น ขั้นแรกคือการหาโบรกเกอร์ที่ดี โชคดีที่มีโบรกเกอร์มากมายให้เลือก ดังนั้นใช้เวลาและค้นหาโบรกเกอร์ที่เหมาะกับความต้องการ

เนื่องจากตลาดการลงทุนนั้นมีหลายสินทรัพย์ให้เลือก โบรกเกอร์รายต่าง ๆ ก็มีดีในแต่ละสินทรัพย์ ด้วยประสบการณ์และแพลตฟอร์มการเทรด ทำให้คุณควรใช้เวลาพิจารณาและศึกาาจากบทความออนไลน์ต่าง ๆ ประกอบการตัดสินใจเลือกใช้บริการโบรกเกอร์

วิธีทำเงินของโบรกเกอร์

เช่นเดียวกับอาชีพอื่น ๆ โบรกเกอร์ก็ต้องการลูกค้ามาก ๆ

คำตอบว่าโบรกเกอร์ทำเงินได้หรือไม่นั้นซับซ้อน ในระยะสั้นบางคนทำและบางคนไม่ได้ จำนวนเงินที่โบรกเกอร์ทำได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงขนาดของบริษัท ลูกค้า ตลาด และทักษะและความสามารถส่วนบุคคลของพนักงาน เว้นแต่จะเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์

ที่กล่าวว่า มีบางวิธีที่โบรกเกอร์สามารถทำเงินได้ แหล่งรายได้สำคัญของโบรกเกอร์คือ การเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากการเทรด ในกรณีของการเทรด FOREX ค่าสเปรดคือส่วนหนึ่งของรายได้ที่โบรกเกอร์จะได้รับในแต่ละล็อตการเทรด

หากเป็นโบรกเกอร์หุ้น รายได้จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการซื้อขาย ดังนั้น ยิ่งโบรกเกอร์ทำการซื้อขายมากเท่าใด พวกเขาก็จะได้รับเงินค่าคอมมิชชันมากขึ้นเท่านั้น

วิธีอื่น ๆ ที่โบรกเกอร์สร้างรายได้คือ การรับค่าธรรมเนียมสำหรับการจัดการพอร์ตการลงทุนหรือบัญชีลูกค้า และการสร้างรายได้ผ่านกิจกรรมการสร้างตลาด กล่าวคือ โดยการให้สภาพคล่องแก่ตลาดด้วยการซื้อและขายหลักทรัพย์ด้วยตนเอง

ดังนั้น แม้ว่าโบรกเกอร์จะสามารถทำเงินได้ดีในอาชีพนี้ แต่ก็ไม่รับประกันว่าจะเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมด้วย ดูต่อในย่อหน้าถัดไป ว่าโบรกเกอร์ดี ๆ นั้น จะต้องพิจารณาเลือกจากปัจจัยใดบ้าง

เล่นหุ้นต้องเลือกโบรกเกอร์ดี ๆ

เมื่อคุณพร้อมที่จะเริ่มซื้อขายหุ้น หนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดคือการเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม มีโบรกเกอร์ที่แตกต่างกันมากมาย ดังนั้นคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์ไหนเหมาะกับคุณ

โบรกเกอร์คือ บุคคลหรือบริษัทที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชันสำหรับการดำเนินการคำสั่งซื้อและขายที่ส่งโดยนักลงทุน โบรกเกอร์ยังให้คำแนะนำและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน แต่ไม่มีอำนาจตามดุลยพินิจเหนือบัญชีของลูกค้า ในทางตรงกันข้าม ที่ปรึกษาการลงทุนที่ได้รับการรับรอง (RIA) อาจดำเนินการแทนลูกค้าตามคำสั่งก็ได้

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อต้องเลือกโบรกเกอร์สำหรับการซื้อขายหุ้น

• การช่วยเหลือในการเปิดบัญชี จัดการบัญชี 

• การส่งคำสั่งซื้อขายแทนลูกค้า

  
  

มีบริการนี้หรือไม่ อย่างไร มีค่าบริการเพิ่มเติมหรือไม่ ความยากง่ายในการเข้าถึง

• การให้คำแนะนำในการซื้อขายและการใช้งาน

  
  

หากการบริการนั้นยากที่จะเข้าถึง ก็ทำให้คุณต้องเสียโอกาสไปเวลาที่เกิดปัญหาหรือข้อสงสัย

• วิธีคิดคำนวณค่าคอมมิชชั่น

  
  

จำแนกอย่างไร มีกฎเกณฑ์แตกต่างกันตามประเภทบัญชีหรือไม่ มีราคาขั้นต่ำรายวันหรือไม่ 

• ค่าคอมมิชชั่น

  
  

โบรกเกอร์บางรายเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นในแต่ละการซื้อขาย ในขณะที่บางแห่งไม่เรียกเก็บ คุณจะต้องตัดสินใจว่าโครงสร้างค่าธรรมเนียมประเภทใดดีที่สุดสำหรับสไตล์การซื้อขาย ยิ่งโบรกเกอร์ไหนค่าคอมมิชชันถกกว่า ยิ่งได้เปรียบมากกว่าในการดึงดูดลูกค้า

นอกเหนือจากการบริการแล้ว โบรกเกร์ที่ดี ต้องมีระบบหลังบ้านหรือการบริการเชิงเทคนิคที่สามารถใช้งานได้จริง

• คุณสมบัติแพลตฟอร์ม

  
  

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มการเทรดของโบรกเกอร์มีคุณสมบัติและเครื่องมือทั้งหมดที่คุณต้องการเพื่อการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งเหล่านี้รวมถึงแอปพลิเคชันมือถือ ความยากง่ายของอินเทอร์เฟซการใช้งาน วิธีการและขั้นตอนการฝากเงิน ความเสถียรของระบบ และปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้การเทรดเป็นไปอย่างราบรื่น

• การบริการลูกค้า

  
  

เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือคุณมีคำถาม คุณจะต้องการความช่วยเหลือจากตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าอย่างรวดเร็วและง่ายดาย ต่อให้ไม่สามารถติดต่อโบรกเกอร์ที่เป็นมนุษย์ได้ แต่หากมีออนไลน์แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ให้ข้อมูล FAQ ก็จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ปัญหาจะได้รับการจัดการได้อย่างทันท่วงที

• ข้อมูลการเทรด ข่าวสารการเทรด

  
  

ทรัพยากรการเรียนรู้สภาวะตลาดเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่จะพิจารณาตัดสินใจว่า โบรกเกอร์ไหนดี มีความน่าเชื่อถือ โบรกเกอร์ที่ดีจะช่วยให้คุณเข้าถึงเครื่องมือการวิจัยและการวิเคราะห์ที่คุณต้องการเพื่อทำการตัดสินใจซื้อขายอย่างฉลาดแและทันการณ์

อย่าลืมว่า โบรกเกอร์ก็คืองานขาย ดังนั้นพวกเขาอาจพยายามโน้มน้าวให้คุณซื้อหรือขายเงินลงทุนบางอย่างด้วยผลตอบแทนต่าง ๆ นานาสุดที่จะหามาหว่านล้อม การใช้เวลาพิจารณาด้วยตนเองอย่างรอบด้าน ชั่งน้ำหนักบริการ ค่าธรรมเนียม และความยากง่ายในการใช้งาน ย่อมจะช่วยให้คุณเจอโบรกเกอร์ดี ๆ ค่าคอมน่าพอใจได้ไม่ยาก