Ethereum VS. Cadano ใครมาแรงในโลก Smart Contract ปี 2025
เมื่อพูดถึงโลกของบล็อกเชนและ สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) คงไม่มีใครไม่รู้จักเหรียญ Ethereum (ETH) ซึ่งมีมูลค่าตลาดเป็นอันดับสองรองจาก Bitcoin และเป็นบล็อกเชนแรกที่นำแนวคิดดังกล่าวมาใช้จริง แต่ในขณะเดียวกันเหรียญ Cardano (ADA) ก็ได้รับฉายาว่าเป็นหนึ่งใน “Ethereum Killer” ที่มีศักยภาพในการแข่งขันและพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเพื่อลดข้อจำกัดของ Ethereum
ทั่วโลกต่างจับตามองว่าอนาคตของราคาเหรียญ ADA จะเป็นอย่างไร จะสามารถก้าวขึ้นมาท้าทายเหรียญ ETH ได้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะในแง่ของสเกลลิ่ง (Scalability) ค่าธรรมเนียม (Gass Fee) และ การนำไปใช้ (Adoption)
ในบทความการเงินการลงทุนของ TOPONE Markers ครั้งนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของทั้งสองบล็อกเชน รวมถึงแนะนำกลยุทธ์ในการเก็งกำไรจากความผันผวนของตลาดคริปโตด้วยการเทรดตราสาร CFD กับโบรกเกอร์ TOPONE Markets ที่สามารถใช้งานได้ง่ายแม้กระทั่งมือใหม่ พรั่งพร้อมด้วยทรัพยากรการเรียนรู้และผู้ช่วยติดตามการเทรดให้คุณสามารถสร้างผลตอบแทนจากตลาดได้อย่างเต็มที่
Ethereum (ETH) บล็อกเชนต้นแบบของสัญญาอัจฉริยะ

Ethereum เปิดตัวในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่สามารถรันแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApp) ผ่านสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ได้อย่างปลอดภัย แต่แม้จะเป็นบล็อกเชนแรกที่ประสบความสำเร็จ แต่ ETH ก็ต้องเผชิญกับปัญหาด้านค่าธรรมเนียมที่สูงและ ความล่าช้าในการประมวลผลธุรกรรม
Scalability: แม้ว่าการอัปเกรด Ethereum 2.0 และการใช้ Layer 2 Solutions อย่าง Optimistic Rollups และ zk-Rollups จะช่วยปรับปรุงความสามารถในการขยายระบบ แต่ปัจจุบัน Ethereum ยังคงมีข้อจำกัดด้านความเร็วในการประมวลผลเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ค่าธรรมเนียม (ค่าแก๊ส): ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมของ Ethereum ยังคงสูง โดยเฉพาะในช่วงที่เครือข่ายมีปริมาณการใช้งานสูง
Adoption: ETH ยังคงเป็นบล็อกเชนที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด โดยมีโปรเจกต์ DeFi, NFT และ DAO มากมายที่พัฒนาอยู่บนระบบนิเวศของ Ethereum
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ที่ต้องการเก็งกำไรจากความผันผวนของ ETH สามารถใช้ CFD เพื่อทำกำไรทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลงโดยไม่ต้องถือเหรียญ จัดเก็บเหรียญในกระเป๋าคริปโต
Cardano (ADA) สมญานาม Ethereum Killer ที่มาแรง

Cardano ก่อตั้งโดย Charles Hoskinson หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum มีจุดเด่นที่โครงสร้างบล็อกเชนแบบสองชั้น (Two-Layer Architecture) ทำให้สามารถแยกระบบบัญชีและระบบสัญญาอัจฉริยะออกจากกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
Scalability: ADA ใช้เทคโนโลยี Ouroboros Proof-of-Stake (PoS) ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับธุรกรรมได้มากกว่าระบบ Proof-of-Work (PoW) ของ Ethereum เดิม
ค่าธรรมเนียม (ค่าแก๊ส) ต่ำ: ด้วยโครงสร้างของ Cardano ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจึงต่ำกว่าของ Ethereum มาก
Adoption: แม้ว่า ADA จะยังตามหลัง ETH ในแง่ของการนำไปใช้ใน DeFi และ NFT แต่แพลตฟอร์มกำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อแข่งขันกับ Ethereum
เทรดเดอร์ที่มองเห็นโอกาสในอนาคตของเหรียญ ADA คุณสามารถใช้การเก็งกำไรด้วยตราสาร CFD เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะสั้นโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการถือครองสินทรัพย์จริง
ETH vs. ADA: ใครคือผู้นำที่แท้จริง
เมื่อเปรียบเทียบกันในปัจจัยหลัก ๆ เราจะเห็นว่าบล็อกเชน Ethereum ยังคงครองตลาดในแง่ของการนำไปใช้จริง แต่บล็อกเชน Cardano มีโครงสร้างที่แข็งแกร่งและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ามากก็เป็นตัวเลือกที่น่านใจสำหรับนักพัฒนารุ่นถัด ๆ ไป รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสของราคาเหรียญให้สูงขึ้นด้วย
เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพของ Ethereum (ETH) และ Cardano (ADA) ในปีนี้ ทั้งสองบล็อกเชนมีจุดแข็งที่โดดเด่นและแนวทางการพัฒนาที่แตกต่างกัน
Ethereum เป็นบล็อกเชนที่มีระบบนิเวศที่แข็งแกร่งและการนำไปใช้ที่แพร่หลาย โดยเฉพาะในด้าน DeFi และ NFT อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแม้ว่าจำนวนบัญชีผู้ใช้งานที่ใช้งานอยู่จะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบปีก็ตาม
ในทางกลับกัน Cardano มุ่งเน้นที่ความสามารถในการปรับขนาด ความปลอดภัย และความยั่งยืน โดยใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Stake (PoS) แม้ว่ามูลค่าตลาดของ Cardano จะยังคงตามหลัง Ethereum อย่างมีนัยสำคัญ แต่การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยการวิจัยของ Cardano ทำให้มันเป็นผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่งในพื้นที่บล็อกเชนสำหรับนักลงทุนที่สนใจในระยะยาว Ethereum มีระบบนิเวศที่มั่นคงและการนำไปใช้ที่กว้างขวาง ในขณะที่ Cardano นำเสนอแนวทางที่เน้นการวิจัยและการพัฒนาที่ยั่งยืน การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาจากความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายการลงทุนของแต่ละบุคคล
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาดในระยะสั้น การเทรด CFD กับ TOPONE Markets อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากช่วยให้สามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลจริง ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางใด การตัดสินใจอย่างมีข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในโลกของสกุลเงินดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
กลยุทธ์เทรด CFD เพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนของ ETH และ ADA
ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรระยะสั้น CFD เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลงของราคาเหรียญ ETH และเหรียญ ADA โดยไม่ต้องถือครองเหรียญจริง ๆ
ข้อดีของการเทรดเก็งกำไรคริปโตด้วยตราสาร CFD กับ TOPONE Markets
✅ เลเวอเรจสูงถึง 1,000 เท่าเพื่อเพิ่มศักยภาพการทำกำไร
✅ ความสามารถในการสร้างผลตอบแทนได้ทั้งทิศทางขาขึ้นและขาลงด้วยสถานะ Short Position และ Long Position
✅ ไม่ต้องถือเหรียญ จัดเก็บเหรียญ ลดความเสี่ยงจากการโจรกรรม
✅ โบรกเกอร์ที่ใช้งานง่ายสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
หากคุณต้องการเก็งกำไรใน ETH Killer อย่าง ADA หรือเทรด ETH เพื่อใช้ประโยชน์จากตลาดขาขึ้นและขาลง TOPONE Markets คือก้าวแรกที่สำคัญในการเดินทางนี้
โลกของคริปโตเคอเรนซียังคงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้ง Ethereum และ Cardano มีจุดแข็งที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่แน่นอนคือ ความผันผวนของราคา ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรในระยะสั้น
การเทรด CFD ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากตลาดที่ผันผวนได้โดยไม่ต้องถือสินทรัพย์จริง
การหลีกเลี่ยงโครงการคริปโตที่เป็นสแกมเป็นเรื่องสำคัญ และ CFD ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของกระเป๋าเงินดิจิทัล
TOPONE Markets เสนอแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย เลเวอเรจสูง และมีเหรียญคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลให้เลือกเทรดมากมาย เช่น BTC, ETH, SOL, ADA และ BNB
พร้อมเริ่มการเดินทางสู่โลกอันน่าหลงใหลของคริปโตหรือยัง เปิดบัญชีเทรดกับ TOPONE Markets วันนี้และเข้าสู่โลกของ CFD ที่ให้คุณมีโอกาสทำกำไรจากความผันผวนของตลาดคริปโตได้ง่าย ๆ!
บทความที่กำลังมาแรง
โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!