ท็อป 10 Crypto Scam รู้ไว้ไม่โดนหลอกเทรด

ตลาดคริปโตเคอเรนซีกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ขณะเดียวกัน Crypto Scam หรือกลลวงคริปโตก็ระบาดหนักขึ้นเช่นกัน เทรดเดอร์หลายท่านพบปัญหาคริปโตถอนเงินไม่ได้จากกระดานเทรดหรือสูญเงินไปกับโปรเจกต์ปลอม การตกเป็นเหยื่อของกลลวงคริปโตเหล่านี้อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด สูญเสียความมั่นใจในการลงทุน และหากแย่ไปกว่านั้น มันอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตได้
ดังนั้น ในบทความการเงินการลงทุนของ TOPONE Markets ครั้งนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกลโกงคริปโตที่พบบ่อย พร้อมวิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ และชี้ให้เห็นว่าหากคุณต้องการเลี่ยงปัญหายุ่งยากกวนใจเหล่านั้นในอนาคต การมีส่วนร่วมกับคริปโตด้วยการเทรด CFD (Contract for Difference) เพื่อเก็งกำไรในตลาดคริปโตโดยไม่ต้องถือสินทรัพย์จริงจะมีความน่าสนใจกว่าในแง่ของการสร้างผบตอบแทนระยะสั้นด้วยได้อย่างไรบ้าง
รวม 10 กลโกงคริปโตที่พบบ่อย และวิธีเช็กให้ชัวร์ก่อนลงทุน

Crypto Scam หรือสแกมเมอร์ใช้ความรู้ทางจิตวิทยาหลอกล่อเหยื่อ ตั้งแต่การอ้างผลตอบแทนที่สูงเกินจริง ไปจนถึงแพลตฟอร์มการเทรดที่แลดูเสมือนจริง หรือเลียนแบบกระทานเทรดชื่อดัง หากว่าไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเข้าไปมีส่วนร่วม ทำให้แม้แต่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ก็ยังพลาดท่าได้ง่าย ๆ
1. Ponzi Scheme – แชร์ลูกโซ่กลโกงคริปโตที่สัญญาผลตอบแทนสูงเกินจริง
กลโกงคริปโตในชื่อ Ponzi Scheme นี้เป็น Crypto Scam ที่ใช้เงินทุนของนักลงทุนที่เข้าใหม่ ๆ มาจ่ายให้นักลงทุนคนเก่า ทำให้ดูเหมือนว่าโครงการทำงานเช่นนี้สร้างผลกำไรได้จริง และเรื่องจะแดงขึ้นเมื่อไม่มีนักลงทุนใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่ม ระบบก็จะล่มสลาย ตัวอย่างที่ชัดเจนในวงการคริปโตคือ Bitconnect ที่เคยอ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงจากการใช้ AI เทรดคริปโต แต่สุดท้ายก็ถูกปิดตัวลง ทำให้นักลงทุนทั่วโลกสูญเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คนที่จ่ายเงินไปแล้วจะถอนทุนคืนก็ไม่ได้ในเวลาที่ควรจะเป็น
วิธีป้องกัน Crypto Scam: อย่าหลงเชื่อโครงการที่รับประกันกำไรสูงเกินจริงโดยไม่มีความเสี่ยง และตรวจสอบใบอนุญาตของแพลตฟอร์มก่อนลงทุน
2. Rug Pull – โครงการลวงที่พังทลายลงทันทีหลังได้เงิน
Rug Pull เป็นกลโกงคริปโตที่พบบ่อยในโปรเจ็กต์ DeFi และ NFT โดยทีมพัฒนาจะโปรโมตโปรเจกต์เพื่อให้มีนักลงทุนเข้ามาซื้อเหรียญคริปโตหรือ NFT เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อได้กำไรเพียงพอแล้ว พวกเขาก็จะ “ถอนเงินหนี” ทำให้เหรียญเหล่านั้นไร้มูลค่า ตัวอย่างที่เกิดขึ้นคือ Squid Game Token ที่ราคาพุ่งสูงก่อนที่นักพัฒนาจะเทขายทั้งหมด ส่งผลให้เหรียญร่วงลงเหลือศูนย์ และในมุมมองของนักลงทุน ไม่ใช่เรื่องของการถอนเงินไม่ได้หรือขายเหรียญคริปโตนั้นไม่ออก แต่คือการสูญสิ้นเงินทุนทั้งหมดไปต่อหน้าต่อตา
วิธีป้องกัน Crypto Scam: ตรวจสอบ Smart Contract ของโครงการ ตรวจดูว่ามีการล็อกสภาพคล่องหรือไม่ และหลีกเลี่ยงโครงการที่ไม่เปิดเผยข้อมูลทีมพัฒนา
3. Phishing Scam – เว็บไซต์ปลอมที่ขโมยข้อมูลนักลงทุน
ในรูปแบบของ Phishing Scam นี้ สแกมเมอร์สร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนกระดานเทรดหรือ Crypto Wallet ชื่อดังขึ้นมาโดยเฉพาะ Hot Wallet ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการใช้งาน แล้วหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลล็อกอินหรือ ‘Seed Phrase’ ลงไป เมื่อได้รับข้อมูลแล้ว สแกมเมอร์จะโอนเงินออกจากบัญชีของเหยื่อทันที วิธีที่ใช้บ่อยคือโฆษณาผ่าน Google Ads หรือส่งอีเมลลวง
วิธีป้องกัน Crypto Scam: ใช้ 2FA (Two-Factor Authentication) และไม่คลิกลิงก์ที่ไม่ได้มาจากแหล่งทางการ ตรวจสอบการสะกดชื่อของเว็บไซต์ หรือชื่อของ Crypto Wallet ให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจใด ๆ
บทความที่คุณอาจสนใจ
4. Fake ICO / Token Sale – โปรเจกต์ปลอมที่ไม่มีอยู่จริง
สแกมเมอร์มักสร้าง ICO ปลอมในกลโกงคริปโตนี้และอ้างว่าจะเปิดตัวเหรียญคริปโตใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูง พวกเขาจะปลอมแปลง Whitepaper จากโปรเจ็กต์ดัง ๆ ที่ประสบความสำเร็จ และอ้างว่าได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ ๆ แต่เมื่อได้รวบรวมเงินจากนักลงทุนมามากพอแล้ว พวกเขาก็จะปิดเว็บไซต์และหายไป เงินที่นักลงทุนจ่ายไปก็กลายเป็นศูนย์ ถอนเงินออกไม่ได้
วิธีป้องกัน Crypto Scam: ตรวจสอบรายชื่อ ICO จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น CoinGecko และ CoinMarketCap
5. Pump & Dump – ปั่นราคาหลอกให้นักลงทุนติดดอย
Crypto Scam ประเภทนี้กลุ่มนักลงทุนบางกลุ่มร่วมมือกันปั่นราคาของเหรียญคริปโตหนึ่งให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อด้วยความหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้นและขายทำกำไรได้งดงาม แต่เมื่อราคาพุ่งสูงพอ พวกเขาก็จะเทขายเหรียญคริปโตนั้นทั้งหมด ทำให้ราคาดิ่งลงทันที ส่งผลให้นักลงทุนที่เข้าซื้อช้าเสียหายหนัก
วิธีป้องกัน Crypto Scam: หลีกเลี่ยงเหรียญที่มีปริมาณการเทรด (Volumn) ต่ำและราคาเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติในช่วงเวลาสั้น ๆ
6. Social Media Scam – ใช้ชื่อคนดังลวงให้โอนเงิน
กลโกงนี้มักปรากฏในรูปแบบของ แจกคริปโตฟรี (Air Drop) เช่น โพสต์ที่อ้างว่า ‘คนดัง ๆ กำลังแจก Bitcoin’ และหว่านล้อมให้ผู้ใช้โอนเงินไปยังกระเป๋าเงินของพวกเขาก่อนเพื่อ ‘ยืนยันตัวตน’ แต่สุดท้ายเหยื่อจะไม่ได้รับอะไรเลย
วิธีป้องกัน Crypto Scam: โปรดระลึกเสมอว่าไม่มีสิ่งใดได้มาฟรี ๆ ควรตรวจสอบบัญชีที่โพสต์ว่าเป็นบัญชีจริงหรือเป็นบัญชีทางการหรือไม่
7. Fake Exchanges – กระดานเทรดปลอมที่ถอนเงินไม่ได้
สแกมเมอร์สร้างแพลตฟอร์มเทรดปลอม เสนอค่าธรรมเนียมต่ำ หรือแจกโบนัสล่อใจให้ฝากเงิน แต่เมื่อถึงเวลาถอนเงิน กลับถูกปฏิเสธ หรือระบบแจ้งว่าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมก่อนถอน ซึ่งเป็นข้ออ้างเพื่อโกงเงินเพิ่ม
วิธีป้องกัน Crypto Scam: ใช้บริการเฉพาะกระดานเทรดที่มีใบอนุญาตและรีวิวดี เช่น Binance, Coinbase หรือ TOPONE Markets ในฐานะโบรกเกอร์ CFD
8. Wallet Scam – กระเป๋าเงินปลอมที่ขโมย Private Key
กลโกงคริปโตประเภทนี้ จะเป็นการที่สแกมเมอร์พัฒนาแอปพลิเคชัน Crypto Wallet ปลอมที่หลอกให้ผู้ใช้งานใส่ Seed Phrase หรือ Private Key ทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงและถอนเงินออกไปได้ มีบางกรณีที่แอปปลอมนี้ถูกอัปโหลดบน Google Play และ App Store ด้วยซ้ำ
วิธีป้องกัน Crypto Scam: ดาวน์โหลด Crypto Wallet จากเว็บไซต์ทางการเท่านั้น และต้องเก็บ Private Key ไว้เป็นความลับ
บทความที่คุณอาจสนใจ
9. Exploiting Smart Contract – ช่องโหว่ที่สแกมเมอร์ใช้กวาดคริปโต
นักพัฒนาที่มีเจตนาไม่ดีจะออกแบบ Smart Contract ให้มีช่องโหว่ ทำให้พวกเขาสามารถดึงเงินจากนักลงทุนออกมาได้โดยไม่มีผลทางกฎหมาย ในบางกรณี แม้โครงการจะมีผู้พัฒนาแท้จริง แต่หากโค้ดมีจุดอ่อน แฮกเกอร์ก็สามารถใช้ช่องโหว่โจมตีและขโมยเงินไปได้
วิธีป้องกัน Crypto Scam: ตรวจสอบโค้ดของ Smart Contract บน Etherscan หรือ BscScan และเลือกลงทุนในโครงการที่มีการตรวจสอบโดยบริษัท Audit เช่น CertiK
10. Cloud Mining Scam – ขุดคริปโตปลอมที่ไม่มีอยู่จริง
เว็บไซต์ที่อ้างว่าให้บริการ Cloud Mining เป็น Crypto Scam ที่มักหลอกล่อให้นักลงทุนฝากเงินเพื่อซื้อการขุดเหรียญคริปโต แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีการขุดเกิดขึ้นจริง ผู้ให้บริการจะรับเงินจากนักลงทุนรายใหม่ ๆ เพื่อจ่ายให้นักลงทุนเก่าคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้
วิธีป้องกัน Crypto Scam: หลีกเลี่ยง Cloud Mining ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีเครื่องขุดจริง
อย่าปล่อยให้ Crypto Scam มาทำลายโอกาสในการลงทุน! อย่าโลภกับผลตอบแทนที่แลดูเกินจริง ทุก ๆ ความเสี่ยงสามารถจำกัดลงได้หากคุณมีความรู้ มีสติมากพอก่อนตัดสินใจ
จับทาง Crypto Scam รู้ทันก่อนเสียเงิน
หนึ่งในจุดอ่อนสำคัญของตลาดคริปโตคือความไม่โปร่งใสที่เป็นผลมาจากการไร้คนกลางในการกำกับดูแล และมีโครงการใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาอย่างอิสระเสรี และหลายโครงการบล็อกเชนถูกออกแบบมาเพื่อหลอกลวงโดยเฉพาะ Crypto Scam ใช้กลยุทธ์หลากหลาย ให้ข้อมูลหรือคำชักชวนที่ฟังดูเกินจริง เช่น โปรเจ็กต์ที่สัญญาว่าจะให้กำไร 100% หรือมากกว่าภายในเวลาอันสั้น ฟังดูดีเกินจริง
กลโกงคริปโตมักมาในวิธีการพูดจากหว่านล้อมที่ฟังดูไม่มีพิษไม่มีภัย และความง่าย ความสะดวกที่ดูเกินจริง รวมถึงบรรดาลิงก์ต่าง ๆ ที่แนบมากับข้อความ SMS จดหมายข่าว หรือโฆษณาที่ปรากฏขึ้นบนเว็บไซต์ต่าง ๆ นั้นอาจไม่ใช่ของแท้ทั้งหมด
แนวทางป้องกัน Crypto Scam ที่ดีที่สุดคือ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาที่ดูดีเกินจริง แต่ควรศึกษา Whitepaper และตรวจสอบประวัติของทีมพัฒนาโครงการก่อนลงทุนในโครงการบล็อกเชนใด ๆ ก่อนเสมอ
5 สัญญาณเตือนที่บอกว่าคุณกำลังเป็นเหยื่อของ Crypto Scam

ก่อนตัดสินใจดำเนินการใด ๆ อย่าได้ใจเร็วตัดสินใจ ลองพิจารณาตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า ข้อมูลที่ได้รับมานั้นเข้าข่าย 5 ข้อต่อไปนี้ในข้อใดข้อหนึ่งหรือไม่ หากมีเค้าร่างแล้วละก็ ถอยตัวกลับโดยเร็วก่อนพลาดท่าเป็นเหยื่อหลอกลงทุนคริปโต
เว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มไม่มีตัวตนจริง – ลองตรวจสอบชื่อโดเมน, Whois, และค้นหาข้อมูลในชุมชนคริปโต
ไม่มีหลักฐานยืนยันตัวตนของทีมพัฒนา – โครงการที่ไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ก่อตั้งมักไม่มีความน่าเชื่อถือ
มีการเร่งรัดให้ลงทุนเร็ว ๆ – กลโกงส่วนใหญ่มักใช้จิตวิทยากดดันให้เหยื่อลงทุนโดยเร็ว ใช้ความรู้สึกของ FOMO หรือการกลัวการตกรถ
ไม่สามารถถอนเงินออกได้ – หากแพลตฟอร์มเริ่มมีข้ออ้างในการถอนเงิน ถือเป็นสัญญาณอันตราย
ผลตอบแทนสูงเกินจริงโดยไม่มีความเสี่ยง – ไม่มีการลงทุนใดที่การันตีผลกำไร 100%
การรู้ทันสัญญาณเหล่านี้จะช่วยลดโอกาสตกเป็นเหยื่อ Crypto Scam และช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนในตลาดคริปโตได้อย่างมั่นใจและมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
เทรดคริปโตด้วย CFD หมดกังวลเรื่อง Crypto Scam

เมื่อพูดถึงการลงทุนในตลาดคริปโต หนึ่งในทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าจาก Crypto Scam คือ การเก็งกำไรผ่าน CFD ซึ่งเป็นตราสารอนุพันธ์ที่ให้คุณสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin, Ethereum, Solana และเหรียญอื่น ๆ ได้ โดยไม่ต้องถือสินทรัพย์คริปโตจริง
ทำไมต้องเทรดคริปโตด้วย CFD มีดีกว่าอย่างไร
ไม่ต้องเสี่ยงกับแพลตฟอร์มเถื่อนที่อาจในรูปแบบของกลโกงคริปโต – คุณไม่ต้องกังวลว่าเงินจะถูกล็อกหรือถอนเงินคริปโตออกไม่ได้ เพราะการเทรด CFD เป็นการอ้างอิงราคาตลาด
เทรด CFD ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง – การซื้อคริปโตโดยตรงทำกำไรได้แค่ตอนราคาขึ้น แต่ CFD ให้คุณใช้ประโยชน์จาก Short Seeling หรือทำกำไรขาลงได้ด้วย
การเทรด CFD เป็นการเทรดโดยเลเวอเรจ – เลเวอเลจช่วยให้คุณสามารถเปิดสถานะได้ใหญ่ขึ้นกว่าเงินทุนจริง ที่ TOPONE Markets เราให้เลเวอเรจสูงสุด 1,000 เท่า นั่นหมายความว่าคุณสามารถเปิดสถานะขนาดใหญ่กว่าเงินทุนได้ถึง 1,000 เท่า
ฟรีโบนัสและเครื่องมือช่วยเทรด – รับโบนัสเงินฝาก $10 และใช้ Indicator รายงานสัญญาณเทรดฟรี เพื่อช่วยตัดสินใจได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ขึ้น
การเทรด CFD เป็นทางเลือกที่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้น โดยไม่ต้องเสี่ยงกับกลโกงของแพลตฟอร์มคริปโตปลอม
ป้องกัน Crypto Scam และเก็งกำไรคริปโตอย่างปลอดภัยด้วย CFD
การลงทุนในคริปโตเคอเรนซีเต็มไปด้วยความเสี่ยง และหนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดคือ Crypto Scam ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น เว็บไซต์ปลอม แพลตฟอร์มที่ปิดตัวหนี หรือแม้แต่โครงการที่ดูน่าเชื่อถือแต่แท้จริงแล้วเป็นแชร์ลูกโซ่อย่างที่กล่าวถึงในตอนต้น
แต่หากคุณต้องการเก็งกำไรจากตลาดคริปโตแต่ไม่อยากเสี่ยงกับ Crypto Scam การเทรดด้วย CFD คือตัวเลือกที่ชาญฉลาดด้วยการเทรดกับเราที่ TOPONE Markets คุณสามารถตัดความเสี่ยงกลโกงคริปโตเหล่านั้น ไปสู่โอกาสของการทำกำไรด้วยการเทรดระยะสั้นนี้
อย่าปล่อยให้กลโกง Crypto Scam มาขวางโอกาสในการทำกำไร สมัครและเริ่มเทรด CFD กับ TOPONE Markets วันนี้ – เปิดบัญชีฟรี คลิกเลย
บทความที่กำลังมาแรง
โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!