
วางกลยุทธ์เทรดเทคนิคด้วย Fibonacci Retracement
Fibonacci Retracement คือเครื่องมือระบุระดับแนวรับและแนวต้าน อิงตาม Fibonacci Sequence ซึ่งเป็นชุดตัวเลขที่แต่ละหมายเลขเป็นผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า Fibonacci Retracement ใช้ตัวเลขเหล่านี้ในการคำนวณระดับแนวรับและแนวต้านก่อนการซื้อขายสินทรัพย์

การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือล้ำค่าสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเพิ่มผลกำไรสูงสุดและลดความเสี่ยง หนึ่งในวิธีการยอดนิยมที่เทรดเดอร์ใช้คือ Fibonacci Retracement ซึ่งสามารถใช้ระบุระดับสำคัญสำหรับจุดเข้าและออกในตลาด
ในบทความนี้ เราจะดูวิธีตั้งค่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยใช้ Fibonacci Retracement เราจะครอบคลุมถึงพื้นฐานของเทคนิค วิธีการทำงาน และเหตุใดจึงมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เราจะสรุปกลยุทธ์บางประการเกี่ยวกับวิธีการใช้ Fibonacci Retracement กับการซื้อขายของคุณ มาเริ่มกันเลย!
Fibonacci (Fibo) คืออะไร
Fibonacci Retracement คือเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci Retracement อิงจากลำดับฟีโบนัชชี ซึ่งเป็นชุดของตัวเลขที่แต่ละหมายเลขเป็นผลรวมของสองตัวก่อนหน้า ระดับ Fibonacci Retracement มาจากตัวเลขเหล่านี้

ระดับ Fibonacci Retracement ที่พบมากที่สุดคือ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% อัตราส่วนเหล่านี้แสดงถึงการถอยกลับของราคาก่อนที่จะดำเนินการต่อในทิศทางเดิม เช่น หากสินทรัพย์มีแนวโน้มสูงขึ้นและถอยกลับ 38.2% หมายความว่าจะพบแนวรับที่ 38.2% ของการขยับขึ้นเดิม
Fibonacci Retracement สามารถใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อสร้างกลยุทธ์การซื้อขาย สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าระดับ Fibonacci Retracement ไม่ใช่การคาดการณ์ที่แน่นอน แต่ให้แนวรับหรือแนวต้านที่เป็นไปได้ซึ่งเทรดเดอร์สามารถดำเนินการได้
วิธีใช้ Fibonacci Retracement ในการวิเคราะห์
ระดับ Fibonacci Retracement บ่งบอกถึงแนวรับหรือแนวต้านในตลาดที่เคลื่อนไหวได้ อัตราส่วนเหล่านี้ได้มาจากอัตราส่วนทางคณิตศาสตร์ที่ค้นพบโดยนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีในศตวรรษที่ 13 และเป็นที่นิยมในหมู่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจากมักจะสอดคล้องกับจุดกลับตัวที่สำคัญในตลาด
หากต้องการใช้ Fibonacci Retracements ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ก่อนอื่นให้ระบุแนวโน้มของตลาดโดยดูที่แผนภูมิระยะยาวก่อน จากนั้น ลดกรอบเวลาที่สั้นลงเพื่อระบุระดับการย้อนกลับที่เป็นไปได้โดยใช้อัตราส่วนฟีโบนัชชี อัตราส่วนเหล่านี้สามารถพบได้โดยการหารตัวเลขในลำดับฟีโบนัชชีด้วยตัวเลขที่อยู่ข้างหน้า (เช่น 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%)

เมื่อระบุระดับการกลับตัวที่เป็นไปได้แล้ว เทรดเดอร์สามารถเฝ้าดูสัญญาณการเคลื่อนไหวของราคาในระดับเหล่านี้ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวของแนวโน้ม เช่น หากราคามีแนวโน้มสูงขึ้นและดึงกลับไปที่ระดับ Fibonacci Retracement 61.8% ก่อนที่จะกลับมาเคลื่อนไหวในขาขึ้นอีกครั้ง นี่อาจถือเป็นสัญญาณขาขึ้น ในทำนองเดียวกัน หากราคาร่วงลงและดีดตัวออกจากระดับ Fibonacci 23.6% ก่อนที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง นี่อาจถูกมองว่าเป็นสัญญาณขาลง
สามารถใช้วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบต่าง ๆ เพื่อตั้งค่า Fibonacci Retracement วิธีการทั่วไปคือการใช้เส้นแนวโน้ม ซึ่งสร้างขึ้นโดยการเชื่อมต่อจุดสุดขั้วสองจุดบนกราฟราคา เส้นแนวนอนที่ลากผ่านกึ่งกลางของเส้นแนวโน้มคือระดับ Fibonacci Retracement
อีกวิธีในการตั้งค่า Fibonacci Retracement คือการใช้แนวรับและแนวต้าน พื้นที่เหล่านี้คือพื้นที่บนกราฟราคาที่ราคาหยุดเคลื่อนไหวสูงขึ้นหรือต่ำลงและกลับทิศทาง การวาดเส้นแนวนอนที่จุดเหล่านี้ สามารถสร้างระดับ Fibonacci Retracement ได้
วิธีสุดท้ายในการตั้งค่า Fibonacci Retracement คือการใช้รูปแบบแท่งเทียน สิ่งเหล่านี้เป็นรูปแบบพิเศษที่เกิดขึ้นบนกราฟราคาและสามารถส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทิศทางได้ การระบุรูปแบบเหล่านี้และการวาดเส้นแนวนอนที่จุดสำคัญ สามารถสร้างระดับ Fibonacci Retracement ได้
แน่นอนว่าไม่มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคใดที่สมบูรณ์แบบ และไม่ควรใช้ Fibonacci Retracement แยกออกจากกัน แต่ให้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่กว้างขึ้น ซึ่งรวมถึงตัวบ่งชี้อื่น ๆ และเทคนิคการวิเคราะห์ตลาดด้วย
การวิเคราะห์การเทรดทางเทคนิคแบบต่าง ๆ
เมื่อพูดถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิค หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่คุณจะใช้คือตัวบ่งชี้ ตัวบ่งชี้คือการคำนวณทางคณิตศาสตร์ตามข้อมูลราคาในอดีตที่ใช้ในการลองและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต มีตัวบ่งชี้ประเภทต่างๆ มากมาย และแต่ละประเภทสามารถใช้ในรูปแบบต่างๆ ได้ ในบทความนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่วิธีการใช้ Fibonacci Retracement เป็นตัวบ่งชี้
ในการใช้งาน Fibonacci Retracement สิ่งที่ต้องจำเสมอคือระดับเหล่านี้ไม่ใช่เป้าหมายที่แน่นอน แต่เป็นพื้นที่ที่ราคาอาจกลับทิศทางได้ ด้วยเหตุนี้ สิ่งสำคัญคือต้องรอการยืนยันก่อนที่จะเข้าสู่การซื้อขายใด ๆ สัญญาณการยืนยันทั่วไปบางอย่างรวมถึงรูปแบบแท่งเทียนหรือการฝ่าวงล้อมที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าระดับคีย์
การใช้ทฤษฎี Elliott Wave (อีเลียตเวฟ)
Elliot Wave เป็นรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีรายละเอียดและมักจะซับซ้อน ซึ่งสามารถใช้ทำนายความเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคตได้ แม้ว่าบทความนี้จะให้คำแนะนำที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการใช้ Elliot Wave แต่ก็มีประเด็นสำคัญบางประการที่ควรพิจารณาเมื่อใช้เครื่องมือนี้
ประการแรก Elliot Wave ใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิครูปแบบอื่น ๆ ได้ดีที่สุด เช่น เส้นแนวโน้มและระดับแนวรับและแนวต้าน ประการที่สอง คลื่นอาจเป็นได้ทั้งการแก้ไขหรือหุนหันพลันแล่น การระบุประเภทของคลื่นที่คุณกำลังเผชิญอยู่มีความสำคัญต่อการคาดการณ์ที่แม่นยำ สุดท้ายนี้ คลื่นจะเคลื่อนที่ในรูปแบบเศษส่วนเสมอ หมายความว่าคลื่นจะวนซ้ำในกรอบเวลาที่ต่างกัน ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องระบุรูปแบบโดยรวมก่อนตัดสินใจ
การดู Money Flow Index (MFI)
Money Flow Index (MFI) เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่วัดความแข็งแกร่งของเงินที่ไหลเข้าและออกจากหลักทรัพย์ MFI คำนวณโดยใช้สูตรต่อไปนี้
MFI = 100 - (100 / (1 + อัตราส่วนการไหลของเงิน))
อัตราส่วนการไหลของเงินคำนวณได้ดังนี้
อัตราส่วนการไหลของเงิน = [(ปิด - ต่ำ) - (สูง - ปิด)] / (สูง - ต่ำ)
MFI มีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดยค่าสูงแสดงถึงกระแสเงินที่แข็งแกร่ง และค่าต่ำแสดงถึงกระแสเงินที่อ่อนแอ กระแสเงินเป็นบวกเมื่อสินทรัพย์ปิดสูงกว่าราคาเปิดและเป็นลบเมื่อสินทรัพย์ปิดต่ำกว่าราคาเปิด
เมื่อตีความ MFI สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ามันเป็นโมเมนตัมออสซิลเลเตอร์ ซึ่งหมายความว่ามันเหมาะที่สุดในการระบุสภาวะการซื้อมากเกินไปและการขายมากเกินไป ค่า MFI ที่ต่ำกว่า 20 แสดงว่าสินทรัพย์ถูกขายมากเกินไป ในขณะที่ค่า MFI ที่สูงกว่า 80 แสดงว่าสินทรัพย์ถูกซื้อมากเกินไป
เรียนรู้เพิมเติมเกี่ยวกับ Money Flow Index (MFI)
บทส่งท้าย
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นวิธีที่ดีในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเมื่อทำการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Fibonacci Retracement ช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งพวกเขาสามารถใช้เพื่อแจ้งกระบวนการตัดสินใจของพวกเขา ด้วยการเรียนรู้วิธีตั้งค่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยใช้ Fibonacci Retracement และเครื่องมืออื่น ๆ คุณจะสามารถระบุแนวโน้มได้เร็วขึ้นและเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตลาดโดยรวมได้ดีขึ้น ลองใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ในบัญชีทดลองก่อนที่จะลงเงินจริงเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะประสบความสำเร็จ
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!