
รู้ไว้ก่อนเทรด สถานะ Short กับ Long คืออะไร
เข้าใจศัพท์การเทรด เข้าใจกลยุทธ์ แล้วเลือก Short หรือ Long ให้เหมาะกับสถานการณ์ตลาดอย่างฉลาด จะช่วยเพิ่มอัตราผลกำไรได้อย่างแน่นอน

การเทรดสามารถทำกำไรได้มาก และมีกลยุทธ์ต่าง ๆ มากมายที่ต้องพิจารณาเมื่อพูดถึงการใช้ประโยชน์จากตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเทรดผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่จะสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น หรือขาลงของราคาสินค้า หรือสินค้าโภคภัณฑ์ คุณมักจะได้ยินคำว่า “เปิด Short ปิด Long” อยู่บ่อย ๆ
แต่คำว่า “Long” หรือ “Short” ในการเทรดนั้นคืออะไร ในบทความนี้ เราจะสำรวจแนวคิดของการเทรดแบบ “Long” และ “Short” และหารือเกี่ยวกับความหมายในแง่ของตลาดการเงิน
นอกจากนี้ เราจะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำเงิน ไม่ว่าคุณกำลังจะเทรดในสินทรัพย์ใด
Short กับ Long หมายถึงอะไร
ในการเทรด คำว่า “Short” และ “Long” หมายถึงการเทรดโดยการซื้อก่อนหรือขายก่อน สถานะขายคือตำแหน่งที่เทรดเดอร์ทำการขายออกก่อนและหวังว่าจะซื้อหลักทรัพย์นั้นคืนในราคาที่ต่ำกว่าเพื่อรับกำไรจากส่วนต่างราคา ในทางตรงกันข้าม หากเปิดสถานะซื้อ เทรดเดอร์จะทำการซื้อก่อนโดยหวังว่าจะขายในราคาที่สูงขึ้นเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา
Short คือการขายก่อนซื้อ บางคนก็เรียกว่า “เปิด Short”
Long คือการซื้อก่อนขาย บางคนก็เรียกว่า “ปิด Long”
คุณสามารถใช้กลยุทธ์ Short กับ Long ได้ในทุก ๆ ตลาดการลงทุน เช่น ในตลาดหุ้น การเปิดสถานะ Short (ขาย) หุ้นหมายความว่าคุณยืมหุ้นจากคนอื่นหรือโบรกเกอร์หุ้น และขายหุ้นนั้นออกในอนาคตเพื่อหวังว่าจะซื้อคืนในราคาที่ถูกลง เพื่อที่คุณจะได้คืนหุ้นให้กับคนที่คุณยืมมาและนำเงินเข้ากระเป๋า
ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันดิบ ทองคำ แร่เงิน การปิดสถานะ Short อาจหมายถึงการขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบในวันนี้ด้วยความหวังว่าจะซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่าในวันพรุ่งนี้

การเปิดสถานะ Long อาจหมายถึงการซื้อสัญญาเดียวกันในวันนี้โดยมีความคาดหวัง (บนพื้นฐานที่วิเคราะห์มาอย่างดี) ว่าราคาน้ำมันดิบจะสูงขึ้น ทำให้คุณสามารถขายสัญญาในราคาที่สูงขึ้นก่อนที่จะหมดอายุและรับการส่งมอบบาร์เรลของน้ำมันในราคาปัจจุบัน
คำว่า Short กับ Long นี้ยังใช้ในตลาดการเงินอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) การปิดสถานะขาย EUR/USD หมายถึงการขายเงินยูโรและซื้อดอลลาร์สหรัฐด้วยความหวังว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร คุณจึงสามารถซื้อเงินยูโรคืนในอัตราที่ต่ำกว่าและแปลงกำไรเป็น ดอลลาร์
การซื้อยูโรและขายดอลลาร์สหรัฐโดยคาดหวังว่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เพื่อให้คุณซื้อดอลลาร์คืนในอัตราที่สูงขึ้นและเก็บเกี่ยวผลกำไรได้
เทรดด้วย Short กับ Long ได้อย่างไรบ้าง
ในการเทรด คำว่า “Short” และ “Long” หมายถึงการเทรดที่เข้ามาโดยการซื้อหรือขายก่อน การซื้อขายระยะยาวคือการที่ผู้ซื้อขายซื้อก่อนและหวังว่าจะขายในราคาที่สูงขึ้นในภายหลัง ในขณะที่การซื้อขายระยะสั้นคือการซื้อขายที่ผู้ซื้อขายขายก่อนและหวังว่าจะซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่าในภายหลัง

เมื่อต้องตัดสินใจว่าจะเข้าสู่การเทรดประเภทใด ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและความชอบของเทรดเดอร์แต่ละท่านเอง เทรดเดอร์บางรายชอบที่จะซื้อขายระยะยาวเท่านั้น ในขณะที่บางรายชอบผสมกันและเปิดทั้งสถานะ Short กับ Long ในเวลาเดียวกันก็มี
นอกจากนี้ยังมีวิธีการต่าง ๆ ที่สามารถทำได้เมื่อเข้าสู่การซื้อขายระยะสั้นหรือระยะยาว เช่น เทรดเดอร์บางรายอาจเลือกที่จะขยายตำแหน่งทีละน้อย ๆ โดยการซื้อหรือขายจำนวนเล็กน้อยในช่วงเวลาหนึ่ง ในขณะที่บางรายอาจเลือกที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทั้งหมดพร้อมกัน
ท้ายที่สุดแล้ว ขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์แต่ละคนที่จะตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการแลกเปลี่ยนในตลาดอย่างไร ไม่มีวิธีที่ถูกต้องเพียงวิธีเดียว สิ่งที่ได้ผลสำหรับคนหนึ่งอาจไม่ได้ผลสำหรับอีกคนหนึ่ง การทดลองและค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณคือกุญแจสู่ความสำเร็จในการซื้อขาย
ได้อะไรจากการเปิด Short ปิด Long
เมื่อพูดถึงการซื้อขาย มีกลยุทธ์หลักสองประเภทที่เทรดเดอร์ใช้ คือการเทรดระยะสั้นและระยะยาว แต่ละอย่างมีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจทั้งสองอย่างก่อนตัดสินใจว่าจะใช้แบบใด
กลยุทธ์การเทรดระยะสั้นคือกลยุทธ์ที่มีระยะเวลาค่อนข้างสั้น โดยปกติจะอยู่ที่ใดก็ได้ตั้งแต่ไม่กี่นาทีถึง 2-3 วัน ข้อได้เปรียบหลักของกลยุทธ์ประเภทนี้คือช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวเล็กน้อยในตลาด
คุณสามารถทำกำไรได้ในตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือเมื่อมีข่าวที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงตลาด อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือกลยุทธ์ระยะสั้นนั้นมีความเสี่ยงมากกว่าเนื่องจากไม่ได้ให้เวลากับนักเทรดมากพอที่จะตอบสนองหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
ดังนั้น การเทรดแบบ Short กับ Long นี้ จึงยังไม่แนะนำให้มือใหม่เริ่มต้นในทันที เพราะยังไม่ชำนาญในการอ่นกราฟ หรือวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือไม่ก็อาจจะทดลองกลยุทธ์ที่น่าจะเหมาะกับตนเองด้วยเงินจำนวนน้อย ๆ ดูก่อน และติดตามสมรรถาพก่อนขยายแผนการเทรดให้กว้างขึ้น
กลยุทธ์การเทรดระยะยาวคือกลยุทธ์ที่ใช้ระยะเวลานานกว่า โดยปกติจะเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ข้อได้เปรียบหลักของกลยุทธ์ประเภทนี้คือช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเคลื่อนไหวได้มากขึ้นในตลาด สิ่งนี้สามารถทำกำไรได้มากกว่าในตลาดที่มีความผันผวนน้อยเนื่องจากมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดน้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือกลยุทธ์ระยะยาวต้องใช้ความอดทนและวินัยมากขึ้น เนื่องจากเทรดเดอร์ต้องรอโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าสู่ตลาด
ความเสี่ยงต้องรู้ก่อน Short และ Long
เมื่อซื้อขายระยะสั้นและระยะยาว มีความเสี่ยงเล็กน้อยที่ต้องพิจารณา ประการแรก เมื่อทำการซื้อขายชอร์ต คุณจะต้องขายหุ้นที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของ นี่อาจเป็นความเสี่ยงหากราคาหุ้นลดลง เนื่องจากคุณจะต้องรับผิดชอบชำระเงินกู้เต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย
นอกจากนี้ เมื่อซื้อขายระยะยาว คุณกำลังยืมหุ้นจากบุคคลอื่น หากราคาหุ้นเพิ่มขึ้น คุณจะเป็นหนี้เขาเต็มมูลค่าหุ้นพร้อมดอกเบี้ย
ประการสุดท้าย ทั้งตำแหน่งสั้นและยาวอยู่ภายใต้ Margin Calls หากมูลค่าบัญชีต่ำกว่าเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดของการลงทุนเริ่มต้น
วิธีบริหารความเสี่ยงเมื่อต้องเปิด Short กับ Long
เมื่อพูดถึงการจัดการความเสี่ยงเมื่อซื้อขายระยะสั้นและระยะยาว มีบางสิ่งที่คุณต้องจำไว้ ก่อนอื่น คุณต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ หากคุณไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ การสูญเสียเงินนั้นง่ายมาก
ประการที่สอง คุณต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง มีความเสี่ยงสองประเภทเมื่อซื้อขายระยะสั้นและระยะยาว: ความเสี่ยงด้านตลาดและความเสี่ยงด้านเครดิต ความเสี่ยงด้านตลาดคือความเสี่ยงที่ราคาของหลักทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ ความเสี่ยงด้านเครดิตคือความเสี่ยงที่คู่สัญญาจะผิดนัดชำระหนี้
ประการที่สาม คุณต้องมีแผน คุณต้องรู้ว่าคุณยินดีจะเสียเงินเท่าไร และคุณต้องมีระบบในการจัดการความเสี่ยง การวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณมีระเบียบวินัยและจดจ่อกับเป้าหมาย
ประการที่สี่ คุณต้องอดทน ความใจร้อนเป็นหนึ่งในศัตรูตัวฉกาจของเทรดเดอร์ หากคุณไม่สามารถจัดการกับการสูญเสียเงินในระยะสั้นได้ การเทรดในระยะยาวอาจไม่เหมาะกับคุณ
สุดท้าย คุณต้องมีศรัทธาในระบบ หากคุณไม่เชื่อในระบบ ก็เป็นไปได้มากที่คุณจะยอมแพ้เมื่อเจอปัญหาหนักๆ จำไว้ว่าแม้แต่ระบบที่ดีที่สุดก็ยังมีโอกาสขาดทุน กุญแจสำคัญคือการยึดติดกับมันและกำจัดสตรีคที่แพ้ไปจนกว่าพวกเขาจะพลิกกลับในที่สุด
บทส่งท้าย
การซื้อขายในตลาดหุ้นอาจเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างสถานะซื้อและขาย การรู้ว่าเมื่อใดควรทำกำไรหรือตัดขาดทุนเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นการทำความเข้าใจว่าเมื่อใดควรใช้แต่ละกลยุทธ์ได้ดีที่สุดจะช่วยให้คุณได้กำไรสูงสุด ด้วยความรู้และการฝึกฝน ทุกคนสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ทั้งตำแหน่งสั้นและยาวสำหรับความต้องการในการลงทุนของพวกเขา

การเทรดสามารถทำกำไรได้มาก และมีกลยุทธ์ต่าง ๆ มากมายที่ต้องพิจารณาเมื่อพูดถึงการใช้ประโยชน์จากตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเทรดผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่จะสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น หรือขาลงของราคาสินค้า หรือสินค้าโภคภัณฑ์ คุณมักจะได้ยินคำว่า “เปิด Short ปิด Long” อยู่บ่อย ๆ
แต่คำว่า “Long” หรือ “Short” ในการเทรดนั้นคืออะไร ในบทความนี้ เราจะสำรวจแนวคิดของการเทรดแบบ “Long” และ “Short” และหารือเกี่ยวกับความหมายในแง่ของตลาดการเงิน
นอกจากนี้ เราจะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำเงิน ไม่ว่าคุณกำลังจะเทรดในสินทรัพย์ใด
Short กับ Long หมายถึงอะไร
ในการเทรด คำว่า “Short” และ “Long” หมายถึงการเทรดโดยการซื้อก่อนหรือขายก่อน สถานะขายคือตำแหน่งที่เทรดเดอร์ทำการขายออกก่อนและหวังว่าจะซื้อหลักทรัพย์นั้นคืนในราคาที่ต่ำกว่าเพื่อรับกำไรจากส่วนต่างราคา ในทางตรงกันข้าม หากเปิดสถานะซื้อ เทรดเดอร์จะทำการซื้อก่อนโดยหวังว่าจะขายในราคาที่สูงขึ้นเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา
Short คือการขายก่อนซื้อ บางคนก็เรียกว่า “เปิด Short”
Long คือการซื้อก่อนขาย บางคนก็เรียกว่า “ปิด Long”
คุณสามารถใช้กลยุทธ์ Short กับ Long ได้ในทุก ๆ ตลาดการลงทุน เช่น ในตลาดหุ้น การเปิดสถานะ Short (ขาย) หุ้นหมายความว่าคุณยืมหุ้นจากคนอื่นหรือโบรกเกอร์หุ้น และขายหุ้นนั้นออกในอนาคตเพื่อหวังว่าจะซื้อคืนในราคาที่ถูกลง เพื่อที่คุณจะได้คืนหุ้นให้กับคนที่คุณยืมมาและนำเงินเข้ากระเป๋า
ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันดิบ ทองคำ แร่เงิน การปิดสถานะ Short อาจหมายถึงการขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบในวันนี้ด้วยความหวังว่าจะซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่าในวันพรุ่งนี้

การเปิดสถานะ Long อาจหมายถึงการซื้อสัญญาเดียวกันในวันนี้โดยมีความคาดหวัง (บนพื้นฐานที่วิเคราะห์มาอย่างดี) ว่าราคาน้ำมันดิบจะสูงขึ้น ทำให้คุณสามารถขายสัญญาในราคาที่สูงขึ้นก่อนที่จะหมดอายุและรับการส่งมอบบาร์เรลของน้ำมันในราคาปัจจุบัน
คำว่า Short กับ Long นี้ยังใช้ในตลาดการเงินอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) การปิดสถานะขาย EUR/USD หมายถึงการขายเงินยูโรและซื้อดอลลาร์สหรัฐด้วยความหวังว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร คุณจึงสามารถซื้อเงินยูโรคืนในอัตราที่ต่ำกว่าและแปลงกำไรเป็น ดอลลาร์
การซื้อยูโรและขายดอลลาร์สหรัฐโดยคาดหวังว่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เพื่อให้คุณซื้อดอลลาร์คืนในอัตราที่สูงขึ้นและเก็บเกี่ยวผลกำไรได้
เทรดด้วย Short กับ Long ได้อย่างไรบ้าง
ในการเทรด คำว่า “Short” และ “Long” หมายถึงการเทรดที่เข้ามาโดยการซื้อหรือขายก่อน การซื้อขายระยะยาวคือการที่ผู้ซื้อขายซื้อก่อนและหวังว่าจะขายในราคาที่สูงขึ้นในภายหลัง ในขณะที่การซื้อขายระยะสั้นคือการซื้อขายที่ผู้ซื้อขายขายก่อนและหวังว่าจะซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่าในภายหลัง

เมื่อต้องตัดสินใจว่าจะเข้าสู่การเทรดประเภทใด ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและความชอบของเทรดเดอร์แต่ละท่านเอง เทรดเดอร์บางรายชอบที่จะซื้อขายระยะยาวเท่านั้น ในขณะที่บางรายชอบผสมกันและเปิดทั้งสถานะ Short กับ Long ในเวลาเดียวกันก็มี
นอกจากนี้ยังมีวิธีการต่าง ๆ ที่สามารถทำได้เมื่อเข้าสู่การซื้อขายระยะสั้นหรือระยะยาว เช่น เทรดเดอร์บางรายอาจเลือกที่จะขยายตำแหน่งทีละน้อย ๆ โดยการซื้อหรือขายจำนวนเล็กน้อยในช่วงเวลาหนึ่ง ในขณะที่บางรายอาจเลือกที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทั้งหมดพร้อมกัน
ท้ายที่สุดแล้ว ขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์แต่ละคนที่จะตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการแลกเปลี่ยนในตลาดอย่างไร ไม่มีวิธีที่ถูกต้องเพียงวิธีเดียว สิ่งที่ได้ผลสำหรับคนหนึ่งอาจไม่ได้ผลสำหรับอีกคนหนึ่ง การทดลองและค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณคือกุญแจสู่ความสำเร็จในการซื้อขาย
ได้อะไรจากการเปิด Short ปิด Long
เมื่อพูดถึงการซื้อขาย มีกลยุทธ์หลักสองประเภทที่เทรดเดอร์ใช้ คือการเทรดระยะสั้นและระยะยาว แต่ละอย่างมีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจทั้งสองอย่างก่อนตัดสินใจว่าจะใช้แบบใด
กลยุทธ์การเทรดระยะสั้นคือกลยุทธ์ที่มีระยะเวลาค่อนข้างสั้น โดยปกติจะอยู่ที่ใดก็ได้ตั้งแต่ไม่กี่นาทีถึง 2-3 วัน ข้อได้เปรียบหลักของกลยุทธ์ประเภทนี้คือช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวเล็กน้อยในตลาด
คุณสามารถทำกำไรได้ในตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือเมื่อมีข่าวที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงตลาด อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือกลยุทธ์ระยะสั้นนั้นมีความเสี่ยงมากกว่าเนื่องจากไม่ได้ให้เวลากับนักเทรดมากพอที่จะตอบสนองหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
ดังนั้น การเทรดแบบ Short กับ Long นี้ จึงยังไม่แนะนำให้มือใหม่เริ่มต้นในทันที เพราะยังไม่ชำนาญในการอ่นกราฟ หรือวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือไม่ก็อาจจะทดลองกลยุทธ์ที่น่าจะเหมาะกับตนเองด้วยเงินจำนวนน้อย ๆ ดูก่อน และติดตามสมรรถาพก่อนขยายแผนการเทรดให้กว้างขึ้น
กลยุทธ์การเทรดระยะยาวคือกลยุทธ์ที่ใช้ระยะเวลานานกว่า โดยปกติจะเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ข้อได้เปรียบหลักของกลยุทธ์ประเภทนี้คือช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเคลื่อนไหวได้มากขึ้นในตลาด สิ่งนี้สามารถทำกำไรได้มากกว่าในตลาดที่มีความผันผวนน้อยเนื่องจากมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดน้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือกลยุทธ์ระยะยาวต้องใช้ความอดทนและวินัยมากขึ้น เนื่องจากเทรดเดอร์ต้องรอโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าสู่ตลาด
ความเสี่ยงต้องรู้ก่อน Short และ Long
เมื่อซื้อขายระยะสั้นและระยะยาว มีความเสี่ยงเล็กน้อยที่ต้องพิจารณา ประการแรก เมื่อทำการซื้อขายชอร์ต คุณจะต้องขายหุ้นที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของ นี่อาจเป็นความเสี่ยงหากราคาหุ้นลดลง เนื่องจากคุณจะต้องรับผิดชอบชำระเงินกู้เต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย
นอกจากนี้ เมื่อซื้อขายระยะยาว คุณกำลังยืมหุ้นจากบุคคลอื่น หากราคาหุ้นเพิ่มขึ้น คุณจะเป็นหนี้เขาเต็มมูลค่าหุ้นพร้อมดอกเบี้ย
ประการสุดท้าย ทั้งตำแหน่งสั้นและยาวอยู่ภายใต้ Margin Calls หากมูลค่าบัญชีต่ำกว่าเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดของการลงทุนเริ่มต้น
วิธีบริหารความเสี่ยงเมื่อต้องเปิด Short กับ Long
เมื่อพูดถึงการจัดการความเสี่ยงเมื่อซื้อขายระยะสั้นและระยะยาว มีบางสิ่งที่คุณต้องจำไว้ ก่อนอื่น คุณต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ หากคุณไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ การสูญเสียเงินนั้นง่ายมาก
ประการที่สอง คุณต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง มีความเสี่ยงสองประเภทเมื่อซื้อขายระยะสั้นและระยะยาว: ความเสี่ยงด้านตลาดและความเสี่ยงด้านเครดิต ความเสี่ยงด้านตลาดคือความเสี่ยงที่ราคาของหลักทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ ความเสี่ยงด้านเครดิตคือความเสี่ยงที่คู่สัญญาจะผิดนัดชำระหนี้
ประการที่สาม คุณต้องมีแผน คุณต้องรู้ว่าคุณยินดีจะเสียเงินเท่าไร และคุณต้องมีระบบในการจัดการความเสี่ยง การวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณมีระเบียบวินัยและจดจ่อกับเป้าหมาย
ประการที่สี่ คุณต้องอดทน ความใจร้อนเป็นหนึ่งในศัตรูตัวฉกาจของเทรดเดอร์ หากคุณไม่สามารถจัดการกับการสูญเสียเงินในระยะสั้นได้ การเทรดในระยะยาวอาจไม่เหมาะกับคุณ
สุดท้าย คุณต้องมีศรัทธาในระบบ หากคุณไม่เชื่อในระบบ ก็เป็นไปได้มากที่คุณจะยอมแพ้เมื่อเจอปัญหาหนักๆ จำไว้ว่าแม้แต่ระบบที่ดีที่สุดก็ยังมีโอกาสขาดทุน กุญแจสำคัญคือการยึดติดกับมันและกำจัดสตรีคที่แพ้ไปจนกว่าพวกเขาจะพลิกกลับในที่สุด
บทส่งท้าย
การซื้อขายในตลาดหุ้นอาจเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างสถานะซื้อและขาย การรู้ว่าเมื่อใดควรทำกำไรหรือตัดขาดทุนเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นการทำความเข้าใจว่าเมื่อใดควรใช้แต่ละกลยุทธ์ได้ดีที่สุดจะช่วยให้คุณได้กำไรสูงสุด ด้วยความรู้และการฝึกฝน ทุกคนสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ทั้งตำแหน่งสั้นและยาวสำหรับความต้องการในการลงทุนของพวกเขา
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!