
วิกฤต IMF คืออะไร ไทยได้อะไรเป็นบทเรียน
บทบาทของกองทุน IMF คือการทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับชาติสมาชิกต่าง ๆ รวมถึงประเศไทยที่ได้กู้ยืมหนี้สินจากกองทุน IMF เพื่อผ่อนคลายวิกฤตต้มยำกุ้งที่เกิดที่นี่และลุกลามไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอชีย

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ International Monerty Fund (IMF) หรือที่ไทยคุ้นเคยกันในชื่อของ ‘กองทุน IMF’ คือองค์กรระหว่างประเทศในสังกัดสำนักงานสหประชาชาติที่ทำงานเพื่อประกันเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก กองทุน IMF ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2488 เพื่อพยายามส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอำนวยความสะดวกในการพัฒนาในแง่ต่าง ๆ
สำหรับไทย กับกองทุน IMF นี้ มีความทรงจำสำคัญช่วงปลายยุค 90 หรือราวต้นปี พ.ศ. 2540 ที่ไทยเป็นศูนย์กลางของวิกฤตการณ์ทางการเงินที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ หรือที่รู้จักในื่อ ‘วิกฤตต้มยำกุ้ง’ ที่ทำให้ไทยต้องกู้มีหนี้เงินกู้ยืมจำนวนหนึ่งจากกองทุน IMF และมีหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจากผลกระทบระลอกคลื่นนี้
ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่ากองทุน IMF คืออะไร และไทยได้เรียนรู้จากวิกฤตหนี้ IMF อย่างไร นอกจากนี้ รวมถึงการวางแผนการเงินส่วนบุคคลพื่อให้เอาตัวรอดได้ในวิกฤตการณ์ทางการเงินเช่นครั้งที่ไทยเป็นหนี้ IMF
กองทุน IMF คือใคร ทำหน้าที่อะไรบ้าง
กองทุน IMF คือองค์กรระหว่างประเทศในสังกัดของสำนักงานสหประชาชาติที่ดำเนินบทบาทในการส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลกและอำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างประเทศ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา และมีสมาชิกมากกว่า 188 ประเทศ
IMF ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2488 ในการประชุม ‘The Bretton Woods system’ ซึ่งผู้แทนจาก 44 ประเทศมารวมตัวกันเพื่อสร้างเศรษฐกิจโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง พวกเขาตกลงที่จะจัดตั้งสถาบันหลัก 2 แห่ง คือ ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและพัฒนา (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธนาคารโลก) และกองทุน IMF
วัตถุประสงค์หลักของกองทุน IMF มีวิวัฒนาการตั้งแต่นั้นมาเมื่อเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนไป ปัจจุบัน บทบาทหลักคือการให้คำแนะนำด้านนโยบายและการจัดหาเงินทุนแก่ประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ กองทุน IMF ยังทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าระบบการเงินระหว่างประเทศมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นระบบอัตราแลกเปลี่ยนและการชำระเงินระหว่างประเทศที่ช่วยให้ประเทศต่าง ๆ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันได้ กองทุน IMF ยังให้กู้ยืมเงินแก่ประเทศที่ประสบปัญหาด้านดุลการชำระเงินและให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคและการฝึกอบรมเพื่อช่วยให้พวกเขาเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ

ตามข้อมูลจากเว็บไต์ทางการของกองทุน IMF ระบุว่าเงินทุนของ IMF ส่วนใหญ่มาจากเงินที่ประเทศต่าง ๆ จ่ายเป็นทุน (โควต้า) เมื่อเข้าเป็นสมาชิก ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 มีประเทศสมาชิกกองทุน IMF อยู่ 190 ประเทศ สมาชิกของ IMF แต่ละประเทศจะได้รับโควต้าตามตำแหน่งที่สัมพันธ์กันในเศรษฐกิจโลก จากนั้นประเทศต่าง ๆ จะสามารถกู้ยืมเงินจากแหล่งนี้ได้เมื่อประสบปัญหาทางการเงิน ในขณะที่ไทย มีโควต้าต้องจ่ายค่าสมาชิกที่ 3,211 SDRs (Special Drawing Rights)
ที่หน้าเว็บภาษาอังกฤษนี้ เป็นหน้ารวมรายการประเทศสมาชิกทั้ง 190 ประเทศ ณ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เมื่อคุณคลิกที่ชื่อประเทศ ก็จะเข้าสู่หน้าข้อมูลพื้นฐานและข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องของประเทศนั้น ๆ กับกองทุน IMF
ไทยกับวิกฤตหนี้ IMF
ไทยเกิดวิกฤตค่าเงินบาทลอยตัวในปี พ.ศ. 2540 ทำให้รัฐบาลในเวลานั้นต้องกู้ยืมเงินจากกองทุน IMF นี่เป็นสัญญาณปลุกให้ไทยตระหนักว่ามีความจำเป็นต้องใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตในอนาคต ส่งผลให้ไทยมีการปฏิรูป เช่น การเพิ่มความโปร่งใส การปรับปรุงกฎระเบียบและการกำกับดูแลสถาบันการเงิน การปฏิรูปเหล่านี้ช่วยให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้ดีขึ้น และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไทยก็ไม่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจที่สำคัญแต่อย่างใด
วิกฤตการณ์ดังกล่าวเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ การเคลื่อนย้ายเงินทุนจำนวนมากจากไทย การเก็งกำไรโจมตีค่าเงินบาท และนโยบายการเงินแบบหลวม ๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทย กองทุน IMF ให้เงินช่วยเหลือไทยจำนวน 17,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2540 ซึ่งช่วยรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจและป้องกันการล่มสลายทางการเงินเพิ่มเติม
เพื่อตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 ไทยได้ดำเนินการปฏิรูปตามคำแนะนำของกองทุน IMF ซึ่งรวมถึงการเสริมสร้างกฎระเบียบและการกำกับดูแลการธนาคาร การเพิ่มความโปร่งใสและการกำกับดูแลกิจการในรัฐวิสาหกิจ และการปรับปรุงวินัยทางการคลัง
การปฏิรูปดังกล่าวช่วยให้ไทยผ่านพ้นวิกฤติการเงินโลกในปี พ.ศ. 2551 - 2552 ได้ค่อนข้างดี เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีหลังวิกฤต และอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ประเทศเผชิญกับความท้าทายหลายประการ รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและช่องว่างทางรายได้ที่กว้างขึ้น
บทเรียนของไทยจากวิกฤตหนี้ IMF
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ไทยเป็นหนึ่งในหลายประเทศในเอเชียที่ประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ประเทศต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากกองทุน IMF
ก่อนหน้าจะก้าวไปถึงบทเรียนของวิกฤต IMF เรามาทบทวนถึงที่มาที่ไปของการที่ไทยต้องไปกูยืมเงินจากกองทุน IMF กันก่อน
เวลานั้น หากยังจำกันได้ เป็นช่วงที่ไทยเผิญปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักหนา วิกฤตต้มยำกุ้งของไทยในปี พ.ศ. 2540 เป็นจุดเปลี่ยนเศรษฐกิจของประเทศและลุกลามไปยังภูมิภาคเอเชีย วิกฤตการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเงินบาทซึ่งถูกตรึงไว้กับเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากนักเก็งกำไร รัฐบาลถูกบังคับให้ละทิ้งหมุดหมาย และเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ต้นทุนสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น

ด้านบนนี้คืออัตราแลกเปลี่ยน USDTHB ในช่วงของวิกฤตต้มยำกุ้งที่ไทยต้องกูเงินจากกองทุน IMF มา แสดงให้เห็นถึงค่าเงินบาทที่พุ่งสูงถึง 50 บาทต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ
วิกฤตดังกล่าวรุนแรงขึ้นเมื่อเห็นได้ชัดว่าธนาคารและธุรกิจของไทยหลายแห่งกู้เงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ทำให้ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้เมื่อเงินบาทอ่อนค่าขนาดนั้น สิ่งนี้นำไปสู่ความล้มเหลวของธนาคารและการล้มละลายขององค์กรหลายแห่ง และสร้างความตึงเครียดอย่างมากต่อระบบการเงินของประเทศ
รัฐบาลตอบสนองด้วยการขอความช่วยเหลือจากกองทุน IMF เพื่อแลกกับเงินกู้มูลค่า 17,000 ล้านดอลลาร์ กองทุน IMF เรียกร้องเงื่อนไขที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล ยุติการอุดหนุนเกษตรกร และขึ้นปรับอัตราดอกเบี้ย มาตรการเหล่านี้ทำให้เศรษฐกิจของไทยในเวลานั้นถดถอยและนำไปสู่การประท้วงอย่างกว้างขวา
ในปี พ.ศ. 2542 ไทยได้ตกลงที่จะปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้เอกชน ซึ่งช่วยให้วิกฤตเบาบางลงได้บ้าง อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวจากวิกฤตเป็นไปอย่างช้า ๆ และเศรษฐกิจของไทยก็ไม่กลับสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤตจนถึงปี 2549
วิกฤต กองทุน IMF ให้บทเรียนแก่ไทยหลายประการ ประการแรก ประเทศได้เรียนรู้ว่าจำเป็นต้องปรับปรุงกฎระเบียบทางการเงินและการกำกับดูแล ประการที่สอง เห็นได้ชัดว่ามีความจำเป็นสำหรับนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่ดีขึ้น ในที่สุด ไทยก็ตระหนักว่าจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันและธรรมาภิบาล
นับตั้งแต่เกิดวิกฤตหนี้ IMF จนแล้วเสร็จลุล่วงในอีก 5-6 ปีให้หลัง ไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในทุกด้านเหล่านี้ ประเทศได้วางกฎระเบียบทางการเงินที่เข้มงวดและได้ปรับปรุงการกำกับดูแลภาคการธนาคาร นอกจากนี้ยังใช้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่ดีซึ่งช่วยควบคุมอัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ไทยยังได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกรอบสถาบันและแนวทางการกำกับดูแล
บทส่งท้าย
โดยสรุป กองทุน IMF คือองค์กรระดับโลกที่มีสมาชิกกว่า 190 ชาติทั่วโลก ที่มีบทบาทสำคัญซึ่งช่วยรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและให้ความช่วยเหลือทางการเงินให้แก่ชาติสมาชิกในยามวิกฤต เศรษฐกิจไทยมีทั้งขาขึ้นและขาลงเนื่องจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 แต่ด้วยการกู้ยืมเงินจากกองทุน IMF มาใช้ในการบริหารจัดการปัญหา ทำให้ไทยสามารถฟื้นตัวได้ในที่สุดและมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกครั้ง จากตัวอย่างนี้ เราสามารถเห็นความสำคัญของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในการเข้าถึงทรัพยากรทางการเงินระหว่างประเทศ เช่น ทรัพยากรที่จัดหาโดยกองทุน IMF
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!