สำรวจแคนดา: เจ้าของค่าเงิน CAD ที่ถูกมองข้าม

ยินดีต้อนรับสู่ “Great White North” ชื่อเล่นของประเทศแคนาดาที่ซึ่งภูมิประเทศอันกว้างใหญ่มาบรรจบกับเมืองที่จอแจและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจจากพลังงานและน้ำมันอย่างไร้ขอบเขต ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก เป็นกำลังสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในเวทีโลก จากทรัพยากรธรรมชาติที่ได้ตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกและสำรองน้ำมันรายใหญ่รายหนึ่งของโลก ไปจนถึงอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ประเทศที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้สมควรได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์ผู้มองหาความเป้นไปได้ในตลาดต่างประเทศ

เราจะมาสำรวจกันถึงเศรษฐกิจและความมั่งคั่งร่ำรวยของประเทศแคนาดา ผู้เป็นเจ้าของค่าเงิน CAD ที่เป็น 1 ใน 8 สกุลเงินการเทรด Forex ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รวมถึงกลวิธีในการทำกำไรบนค่าเงินแคนดานี้ผ่านการเทรด CFD กับโบรกเกอร์ CFD Forex เช่นที่ TOPONE Markets

เศรษฐกิจของแคนาดาเป็นเสมือนโรงไฟฟ้าผลิตพลังงานด้วยตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ รวมถึงเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 9 ของโลก ณ พ.ศ. 2565 ด้วย GDP ที่มีมากกว่า 2.14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราการเติบโตประมาณการณ์ในปี พ.ศ. 2567 ที่ 1.5%

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ขับเคลื่อนความสำเร็จทางเศรษฐกิจของแคนาดาคือความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ตั้งแต่แหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสำรองจำนวนมหาศาลในอัลเบอร์ตาไปจนถึงป่าอันกว้างใหญ่ในบริติชโคลัมเบีย ประเทศนี้ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้เพื่อกระตุ้นการเติบโตและความเจริญรุ่งเรือง

แต่ความร่ำรวยของแคนาดาก็ไม่ได้พึ่งพาการทรัพยากรธรรมชาติเพียงอย่างเดียว ประเทศนี้ยังมีความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ การผลิต และเหมืองแร่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของแคนาดาได้ดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเมืองต่าง ๆ เช่น โทรอนโตและแวนคูเวอร์ ในขณะที่มีเมืองหลวงคือออตตาวา

อุตสาหกรรมการผลิตก็มีบทบาทสำคัญในภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่มั่งคั่งให้แก่แคนาดาเช่นกัน ประเทศนี้ผลิตรถยนต์ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอวกาศ เครื่องจักร และอื่น ๆ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่ออัตราการจ้างงานทั่วประเทศ และแน่นอน สิ่งนี้ส่งผลถึงความน่าสนใจในค่าเงิน CAD หรือดอลลาร์แคนาดาด้วย

นอกจากนี้ การทำเหมืองสกัดแร่ธาตุที่มีค่า เช่น ทองคำ เงิน ทองแดง นิกเกิล สังกะสี ทำให้แคนาดาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแร่ชั้นนำของโลก

ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและความร่ำรวยของประเทศแคนาดาขยายออกไปไกลเกินขอบเขตของตนเอง แคนาดาแสวงหาความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค โดยเป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก ซึ่งเป็นการปูทางเพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศ

ด้วยภูมิทัศน์ของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้เกิดความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ สำหรับธุรกิจในแคนาดา การยอมรับความเป็นหุ้นส่วนภายในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกผ่านข้อตกลงทางการค้าเช่น CPTPP (Comprehensive Progressive Trans-Pacific Partnership) แคนาดามีเป้าหมายที่จะขยายการเข้าถึงไปยังตลาดที่ยังไม่ได้ใช้ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศที่มีแนวคิดเดียวกัน

อุตสาหกรรมที่หลากหลายซึ่งขับเคลื่อนด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ส่งผลให้แคนาดาเป็นผู้เล่นที่น่าเกรงขามในเวทีเศรษฐกิจโลก ผ่านความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ เช่น ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกและความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่งทั่วโลก Great with North ผู้ยิ่งใหญ่นี้ถูกเตรียมไว้สำหรับการสร้างความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่องในประเทศในขณะที่ขยายอิทธิพลไปในระดับสากล

แคนาดาและโลก: กลยุทธ์การค้าต่ออินโดแปซิฟิก

ด้วยเศรษฐกิจที่กว้างใหญ่และอิทธิพลระดับโลก แคนาดามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการกำหนดบทบาทของตนในโลก หนึ่งในกลยุทธ์หลักคือการมุ่งเน้นไปที่ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกซึ่งครอบคลุมส่วนสำคัญของโลก กลยุทธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของแคนาดากับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ และส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรือง

แคนาดาตระหนักถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่ของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และพยายามที่จะเพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุน ด้วยการกระชับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ แคนาดาหวังที่จะเจาะตลาดใหม่สำหรับธุรกิจของแคนาดา ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมนวัตกรรมและการทำงานร่วมกัน

นอกเหนือจากการพิจารณาด้านเศรษฐกิจแล้ว ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกของแคนาดายังเน้นคุณค่าร่วมกัน เช่น ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม เป้าหมายไม่ใช่แค่เรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังเกี่ยวกับการส่งเสริมเสถียรภาพของโลกด้วยความร่วมมือ

เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ แคนาดาได้เข้าร่วมอย่างแข็งขันในฟอรัมระดับภูมิภาค เช่น อาเซียน ซึ่งแคนาดาสามารถมีส่วนร่วมกับประเทศอื่น ๆ ในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงความท้าทายด้านความมั่นคง ความพยายามในการลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม

ด้วยกลยุทธ์อินโดแปซิฟิก แคนาดามีเป้าหมายที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งพลวัตในระดับภูมิภาคและกิจการระดับโลก ด้วยการสร้างความร่วมมือที่แน่นแฟ้น องค์กรหวังว่าจะมีส่วนทำให้โลกเจริญรุ่งเรืองและสงบสุขมากขึ้น ซึ่งทุกประเทศสามารถเติบโตไปด้วยกัน วิธีการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแคนาดาต่อลัทธิพหุภาคีและความปรารถนาที่จะมีบทบาทอย่างแข็งขันในการกำหนดนโยบายระหว่างประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคน

กลยุทธ์อินโดแปซิฟิกของแคนาดาแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานในการมีส่วนร่วมกับโลกมากขึ้น มันเน้นย้ำว่าประเทศที่มีความหลากหลายนี้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของตนอย่างไร

พรสวรรค์และคุณค่าในการสร้างสะพานข้ามทวีป ขณะที่เราก้าวไปสู่อนาคตที่เชื่อมโยงถึงกัน เราสามารถคาดหวังได้ว่าแคนาดาจะปรากฏตัวในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก

เพื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปในขณะที่สำรวจภูมิประเทศทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน

แคนาดาและโลก: ฉากทัศน์อนาคตต่ออินโดแปซิฟิก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แคนาดาได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกอย่างแข็งขัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุประสงค์ด้านนโยบายต่างประเทศที่กว้างขึ้น ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกเป็นที่ตั้งของประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในโลก ทำให้เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับแคนาดาในการเข้าไปมีส่วนร่วม

รัฐบาลแคนาดาได้ตระหนักถึงศักยภาพอันมหาศาลสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าในภูมิภาคนี้ และมุ่งมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดีย จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอื่น ๆ การมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ในอินโดแปซิฟิกนี้สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับของแคนาดาเกี่ยวกับภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และความปรารถนาที่จะกระจายความร่วมมือทางการค้าออกไปนอกอเมริกาเหนือ

ประเด็นสำคัญประการหนึ่งของอนาคตในอินโดแปซิฟิกของแคนาดาอยู่ที่การเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเหล่านี้ผ่านการเยือนระดับสูง การเจรจา และความร่วมมือที่เพิ่มขึ้น แคนาดามีเป้าหมายที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการขยายโอกาสทางการค้าในภาคต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยี ทรัพยากรพลังงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเกษตร และอื่น ๆ ด้วยการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการเมืองที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ แคนาดายังลงทุนในโครงการริเริ่มด้านการศึกษาที่มุ่งส่งเสริมโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างสถาบันของแคนาดาและสถาบันอื่น ๆ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก สิ่งนี้จะไม่เพียงเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างบุคคล แต่ยังอำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนความรู้ในสาขาต่าง ๆ

นอกจากนี้ เสาหลักที่สำคัญอีกประการหนึ่งของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของแคนาดาคือการสนับสนุนความพยายามด้านความมั่นคงในภูมิภาค ด้วยการร่วมมือกับประเทศที่มีแนวคิดเดียวกันในมาตรการต่อต้านการก่อการร้าย ปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางทะเล ภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ฯลฯ แคนาดามีเป้าหมายที่จะมีส่วนร่วมเชิงบวกต่อเสถียรภาพสันติภาพภายในภูมิภาค

โดยรวมแล้ว โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ กระชับความสัมพันธ์ทางการทูต ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการศึกษา และสนับสนุนความพยายามด้านความมั่นคงในภูมิภาค

อุตสาหกรรมหลักของแคนดาคือน้ำมัน

แคนาดาขึ้นชื่อเรื่องทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และอุตสาหกรรมหลัก 2 แห่งที่เติบโตในประเทศคือก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ ด้วยปริมาณสำรองที่มหาศาลเป็นอันดับที่ 1 ของโลกและเทคโนโลยีการสกัดขั้นสูง แคนาดาจึงกลายเป็นผู้เล่นหลักในตลาดพลังงานโลก

อุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติในแคนาดาหรือที่มีชื่อเรียกว่า “Canadian Oil Patch” มีการเติบโตอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศนี้เป็นแหล่งสำรองก๊าซธรรมชาติจำนวนขนาดใหญ่รายหนึ่งของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคนาดาตะวันตก การผลิตก๊าซธรรมชาติมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองความต้องการด้านพลังงานภายในประเทศตลอดจนการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

น้ำมันดิบเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สำคัญในแคนาดา โดยมีแหล่งขุดเจาะน้ำมันสำคัญชื่อ “Western Canadian Sedimentary Basin” ซึ่งอยู่ในรัฐรัฐแมนิโทบา และแหล่งสำรองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใน “The Athabasca Oil Sands” หรือพื้นที่ทรายน้ำมันของอัลเบอร์ตาเป็นหลัก กระบวนการสกัดและการกลั่นที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมันดิบสร้างงานและมีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แคนาดาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันดิบชั้นนำของโลก

อุตสาหกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้โอกาสในการจ้างงานเท่านั้น แต่ยังสร้างรายได้มหาศาลให้กับเศรษฐกิจของแคนาดาผ่านการส่งออกอีกด้วย นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังช่วยให้มีวิธีการสกัดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในขณะที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

ในขณะที่ความต้องการพลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมหลักเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญไม่เพียงแต่ในแคนาดาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในเวทีระหว่างประเทศด้วย ด้วยนวัตกรรมและแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน บริษัทต่าง ๆ ของแคนาดาพร้อมที่จะมีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญเพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็รับประกันความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจที่บ้าน

ท็อปอุตสาหกรรมของแคนดาดาคืออสังหาฯ การผลิต และเหมืองแร่

แคนาดาเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในด้านความหลากหลายและเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรือง หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจคืออุตสาหกรรมชั้นนำ ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การผลิต และเหมืองแร่

อสังหาริมทรัพย์มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของแคนาดา ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงเติบโตตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและพื้นที่เมืองที่ขยายตัว เมืองต่าง ๆ ของแคนาดา เช่น โตรอนโตและแวนคูเวอร์เป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นพิเศษ โดยดึงดูดผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ อุตสาหกรรมการก่อสร้างยังได้ประโยชน์จากความเจริญนี้ สร้างงานและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

การผลิตเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจของแคนาดา ประเทศนี้มีฐานการผลิตที่แข็งแกร่งซึ่งผลิตสินค้าหลากหลายประเภท เช่น รถยนต์ อุปกรณ์การบินและอวกาศ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร อุตสาหกรรมนี้มอบโอกาสการจ้างงานให้กับชาวแคนาดาจำนวนมาก ในขณะที่มีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้จากการส่งออก

ในอีกด้าน กิจกรรมเหมืองแร่เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สำคัญในแคนาดา ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ทองคำ ทองแดง นิกเกิล ยูเรเนียม และเพชรที่กระจายอยู่ทั่วภูมิประเทศอันกว้างใหญ่ของประเทศ การทำเหมืองแร่จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศชาติ การทำเหมืองไม่เพียงแต่สร้างโอกาสในการทำงานเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาภูมิภาคอีกด้วย

อุตสาหกรรมทั้ 3 นี้ อันได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ การผลิต และเหมืองแร่  ได้ก่อตัวเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจและความร่ำรวยของแคนาดาโดยขับเคลื่อนการเติบโต สร้างงาน และดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศ ด้วยการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แคนาดาสามารถเสริมความแข็งแกร่งในฐานะหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก และรักษามาตรฐานการครองชีพให้อยู่ในระดับสูง

รัฐบาลแคนาดาทำงานอย่างใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมเหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมนวัตกรรมและความสามารถในการแข่งขันของทั้งสองประเทศและแนวรบระหว่างประเทศ

โดยรวมแล้ว ความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวของแคนาดา สู่การเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกในขณะที่รักษาเสถียรภาพภายในขอบเขตของตนเอง เมื่อเราเจาะลึกลงไปเพื่อทำความเข้าใจเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ของแคนาดา จะเห็นว่ามีอะไรมากกว่าที่คิด!

การซื้อขายออนไลน์ของผลิตภัณฑ์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศยอดนิยมทั่วโลก เช่น USD/EUR/JPY/AUD

เริ่มซื้อขายทันที >

ผู้มาใหม่จะได้รับของขวัญ $100 ทันที!

ดอลลาร์แคนาดาหรือที่เรียกว่า CAD เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการของแคนาดา และถือเป็นสถานที่สำคัญในตลาดการเงินโลก แต่ปัจจัยใดที่มีอิทธิพลต่อมูลค่าของมัน

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อดอลลาร์แคนาดาคือข้อมูลทางเศรษฐกิจ ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจเชิงบวก เช่น การเติบโตของ GDP อัตราการว่างงานที่ต่ำ และอัตราเงินเฟ้อที่คงที่สามารถเสริมมูลค่าของ CAD ได้ ในทางกลับกัน ข้อมูลทางเศรษฐกิจเชิงลบอาจทำให้มูลค่าลดลงได้

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคืออัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศแคนาดา อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความต้องการ CAD และเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น

ความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ ก็ส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์แคนาดาเช่นกัน เนื่องจากเป็นหนึ่งในคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในนโยบายการค้าหรือภาษีศุลกากรระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ อาจส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของ CAD

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่อุดมด้วยทรัพยากรอย่างแคนาดา ความผันผวนของราคาน้ำมันส่งผลกระทบโดยตรงต่อ CAD เนื่องจากการส่งออกน้ำมันดิบเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจแคนาดา

การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ทำให้เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าองค์ประกอบต่าง ๆ มีรูปร่างและมีอิทธิพลต่อความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์แคนาดาในตลาดต่างประเทศอย่างไร ด้วยการจับตาดูปัจจัยเหล่านี้และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั่วโลกที่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยเหล่านั้น เราจึงสามารถเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสกุลเงินไดนามิกนี้

มูลค่าของสกุลเงินใด ๆ ได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย และดอลลาร์แคนาดา (CAD) ก็ไม่มีข้อยกเว้น การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้สามารถช่วยให้เราเข้าใจว่าเหตุใด CAD จึงผันผวนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญในการกำหนดจุดแข็งหรือจุดอ่อนของสกุลเงิน ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราการเติบโตของ GDP อัตราเงินเฟ้อ ข้อมูลการจ้างงาน และอัตราดอกเบี้ย ล้วนส่งผลต่อมูลค่าของ CAD ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกมักจะนำไปสู่การแข็งค่าของมูลค่า CAD

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีอิทธิพลอย่างมากต่อเงินดอลลาร์แคนาดาเนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของแคนาดา การเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติส่งผลกระทบโดยตรงต่อ CAD เนื่องจากเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญสำหรับแคนาดา เมื่ออุปสงค์ทั่วโลกผลักดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น โดยทั่วไปจะทำให้มูลค่าของ CAD เพิ่มขึ้น

ความสัมพันธ์ทางการค้ายังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดประสิทธิภาพของ CAD แคนาดามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด นั่นคือสหรัฐฯ  การเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาใดๆ ในนโยบายการค้าหรือข้อตกลงระหว่างสองประเทศนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออัตราแลกเปลี่ยนของ CAD

ประเทศคู่ค้าการนำเข้าที่สำคัญของแคนาดา 4 อันดับ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน สหภาพยุโรป และเม็กซิโก ในขณะที่ประเทศคู่ค้าการส่งออกจากแคนาดา 4 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน และญี่ปุ่น 

เป็นที่น่าสนใจว่า สหรัฐฯ เป็นทั้งคู่ค้าในด้านการนำเข้าและส่งออกอันดับที่ 1 ของแคนาดา ดังนั้น ค่าเงินของ USDCAD จึงมีความแปรผกผันกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ หากประเทศใดประเทศหนึ่งเผชิญปัญหาทางการเงิน อีกประเทศคู่ค้าย่อมได้รับผลกระทบแทบจะในทันทีและรุนแรง

นอกจากนี้ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และความเชื่อมั่นของตลาดอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดสกุลเงิน รวมถึง CAD ปัจจัยต่าง ๆ เช่น เสถียรภาพหรือความไม่มั่นคงทางการเมือง ความขัดแย้งทั่วโลก และความเชื่อมั่นของนักลงทุนล้วนมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการถือครองดอลลาร์แคนาดา

นี่เป็นเพียงปัจจัยบางส่วนจากหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความผันผวนของค่าของเงินดอลลาร์แคนาดาในตลาดฟอเร็กซ์ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ค้าและนักลงทุนในการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับอิทธิพลเหล่านี้เมื่อทำการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหรือการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ CAD

ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการหลายพันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี

สหรัฐฯ เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแคนาดา โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณสามในสี่ของการส่งออกทั้งหมด ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดนี้ได้รับการอำนวยความสะดวกโดยข้อตกลงต่าง ๆ เช่น NAFTA หรือ The North American Free Trade Agreement (ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ) และ USMCA หรือ United States-Mexico-Canada Agreement (ข้อตกลงสหรัฐฯ -เม็กซิโก-แคนาดา) ที่ตามมาภายหลัง ข้อตกลงเหล่านี้ช่วยปรับปรุงกระบวนการทางการค้าและลดอุปสรรคระหว่างสองประเทศ

การค้าทวิภาคีระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมสำคัญที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ทั้งสองประเทศนี้ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ทรัพยากรพลังงาน สินค้าเกษตร เครื่องจักร และยา ทั้งสองประเทศได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่งผ่านการสร้างงาน เพิ่มโอกาสการลงทุน และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาททางการค้าบางครั้งอาจเกิดขึ้นเนื่องจากความแตกต่างในกฎระเบียบหรือปัญหาการเข้าถึงตลาด ภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าบางประเภทสามารถขัดขวางการค้าที่ราบรื่นได้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขข้อพิพาทเหล่านี้ผ่านการเจรจาหรือกลไกระงับข้อพิพาทที่ระบุไว้ในข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง

ความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้นระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ มีส่วนสำคัญต่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เป็นพันธมิตรที่ยั่งยืนซึ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องเมื่อความท้าทายใหม่ ๆ เกิดขึ้นในตลาดโลก

การซื้อขายออนไลน์ของผลิตภัณฑ์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศยอดนิยมทั่วโลก เช่น USD/EUR/JPY/AUD

เริ่มซื้อขายทันที >

ผู้มาใหม่จะได้รับของขวัญ $100 ทันที!

ในการประเมินสุขภาพของเศรษฐกิจ ตัวบ่งชี้มีบทบาทสำคัญ ในแคนาดา ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเป็นอยู่ทางการเงินโดยรวมของประเทศ ตัวบ่งชี้เหล่านี้ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบาย นักลงทุน และธุรกิจตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เป็นตัวบ่งชี้หนึ่งที่ใช้วัดมูลค่ารวมของสินค้าและบริการที่ผลิตภายในพรมแดนของแคนาดา ข้อมูลนี้ให้ภาพรวมของผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศและอัตราการเติบโตเมื่อเวลาผ่านไป

อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) เป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้สำคัญที่สะท้อนถึงอัตราของผู้ที่กำลังหางานทำแต่ไม่สามารถหางานทำได้ อัตราการว่างงานที่ลดลงบ่งชี้ว่าตลาดงานแข็งแกร่งขึ้นและในทางกลับกัน

ในปี พ.ศ. 2566 อัตราการว่างงานของแคนาดาอยู่ที่ 5.5% ณ เดือนสิงหาคม ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก TradingView จะเห็นว่าอัตราการว่างงานของแคนาดานั้นอยู่ในระดับนี้มาตลอด เว้นแต่ช่วงปี พ.ศ. 2563 ที่ทั่วโลกเผชิญวิกฤตของโรคระบาด

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการเมื่อเวลาผ่านไป โดยทั่วไปแล้วอัตราเงินเฟ้อในระดับปานกลางถือว่าดีต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากมันบ่งบอกถึงราคาที่มีเสถียรภาพโดยไม่บั่นทอนกำลังซื้อ

ธนาคารแห่งประเทศแคนาดากำหนดอัตราดอกเบี้ยตามตัวบ่งชี้ที่สำคัญเหล่านี้เพื่อจัดการอัตราเงินเฟ้อและกระตุ้นหรือลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามนั้น

ณ เดือนมิถุนายน 2566 อัตราเงินเฟ้อของแคนาดาอยู่ที่ 3% YoY

สัดส่วนการคำนวณอัตราเงินเฟ้อของแคนาดา ประกอบด้วยหลายภาคส่วน เริ่มจากที่อยู่อาศัยและการขนส่งเป็น 2 ส่วนที่สำคัญที่สุดของตะกร้าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) โดยมีน้ำหนัก 30% และ 17% ตามลำดับ อาหารตามมาที่ 16% การดำเนินงานในครัวเรือน การตกแต่ง และอุปกรณ์ อยู่ที่ 15% นันทนาการ การศึกษา และการอ่านคิดเป็น 9% สุขภาพและการดูแลส่วนบุคคล 5% เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ยาสูบรวม 5% ในขณะที่นาฬิกา เสื้อผ้า และรองเท้า 4% องค์ประกอบของตะกร้า CPI ได้รับการประเมินทุก ๆ 4 ปีตามการสำรวจครัวเรือน ณ ปัจจุบันนี้ น้ำหนักเหล่านี้ขึ้นอยู่กับแนวโน้มการใช้จ่ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เรื่อยมา

นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งร่ำรวยของแคนาดา ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ด้วยการติดตามปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เทรดเดอร์ Forex หรือผู้ถือหุ้นต่าง ๆ ในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโตของแคนานา ก็จะประเมินทิศทางของเศรษฐกิจที่นำไปสู่ความมั่นใจในการตัดสินใจเกี่ยวกับกลุยุทธ์ได้ในท้ายที่สุด

หากต้องการใช้ประโยชน์จากการแข็งค่าของค่่าเงิน CAD ของแคนาดา และสำรวจโอกาสเพิ่มเติมในเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูของประเทศนี้ที่สามารถทำกำไรได้ทั้งยามค่าเงิน CAD เป็นทั้งขาขึ้นและขาลง ให้หันมาใช้เครื่องมือ CFD หรือ Contract for Different เป็นเครื่องมือการเก็งกำไรค่าเงินตามการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจแคนาดา

การเทรด CFD ของ Forex คู่เงิน CAD กับ TOPONE Markets ช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดฟอเร็กซ์แบบไดนามิกและมีโอกาสทำกำไรจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์แคนาดา ด้วยการเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ ค่าคอมมิชชันการเทรด 0% ค่าสเปรดที่แข่งขันได้ คุณจะสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลและดำเนินการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตรวจสอบค่าเสปรดคู่เงิน CAD

นอกจากนี้ TOPONE Markets ยังมีแหล่งข้อมูลด้านการศึกษา ช่วยให้เทรดเดอร์เพิ่มพูนความรู้และทักษะของตน ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ โบรกเกอร์ TOPONE Markets ผู้ได้รับการรับรองพร้อมให้การสนับสนุนในทุกขั้นตอน

การสำรวจเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของแคนาดาเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักลงทุนทั่วโลก ผลกระทบต่อความมั่งคั่งในเวทีโลกเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ จากกลยุทธ์ในอินโดแปซิฟิกไปจนถึงอุตสาหกรรมหลัก เช่น ก๊าซธรรมชาติและการผลิตน้ำมันดิบ แคนาดายังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของตน

ใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ โดยเจาะลึกไปที่การเก็งกำไรค่าเงิน CAD ด้วยการเทรด CFD กับ TOP 1Markets

การซื้อขายออนไลน์ของผลิตภัณฑ์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศยอดนิยมทั่วโลก เช่น USD/EUR/JPY/AUD

เริ่มซื้อขายทันที >

ผู้มาใหม่จะได้รับของขวัญ $100 ทันที!

ยินดีต้อนรับสู่ “Great White North” ชื่อเล่นของประเทศแคนาดาที่ซึ่งภูมิประเทศอันกว้างใหญ่มาบรรจบกับเมืองที่จอแจและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจจากพลังงานและน้ำมันอย่างไร้ขอบเขต ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก เป็นกำลังสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในเวทีโลก จากทรัพยากรธรรมชาติที่ได้ตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกและสำรองน้ำมันรายใหญ่รายหนึ่งของโลก ไปจนถึงอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ประเทศที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้สมควรได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์ผู้มองหาความเป้นไปได้ในตลาดต่างประเทศ

เราจะมาสำรวจกันถึงเศรษฐกิจและความมั่งคั่งร่ำรวยของประเทศแคนาดา ผู้เป็นเจ้าของค่าเงิน CAD ที่เป็น 1 ใน 8 สกุลเงินการเทรด Forex ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รวมถึงกลวิธีในการทำกำไรบนค่าเงินแคนดานี้ผ่านการเทรด CFD กับโบรกเกอร์ CFD Forex เช่นที่ TOPONE Markets

เศรษฐกิจของแคนาดาเป็นเสมือนโรงไฟฟ้าผลิตพลังงานด้วยตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ รวมถึงเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 9 ของโลก ณ พ.ศ. 2565 ด้วย GDP ที่มีมากกว่า 2.14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราการเติบโตประมาณการณ์ในปี พ.ศ. 2567 ที่ 1.5%

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ขับเคลื่อนความสำเร็จทางเศรษฐกิจของแคนาดาคือความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ตั้งแต่แหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสำรองจำนวนมหาศาลในอัลเบอร์ตาไปจนถึงป่าอันกว้างใหญ่ในบริติชโคลัมเบีย ประเทศนี้ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้เพื่อกระตุ้นการเติบโตและความเจริญรุ่งเรือง

แต่ความร่ำรวยของแคนาดาก็ไม่ได้พึ่งพาการทรัพยากรธรรมชาติเพียงอย่างเดียว ประเทศนี้ยังมีความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ การผลิต และเหมืองแร่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของแคนาดาได้ดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเมืองต่าง ๆ เช่น โทรอนโตและแวนคูเวอร์ ในขณะที่มีเมืองหลวงคือออตตาวา

อุตสาหกรรมการผลิตก็มีบทบาทสำคัญในภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่มั่งคั่งให้แก่แคนาดาเช่นกัน ประเทศนี้ผลิตรถยนต์ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอวกาศ เครื่องจักร และอื่น ๆ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่ออัตราการจ้างงานทั่วประเทศ และแน่นอน สิ่งนี้ส่งผลถึงความน่าสนใจในค่าเงิน CAD หรือดอลลาร์แคนาดาด้วย

นอกจากนี้ การทำเหมืองสกัดแร่ธาตุที่มีค่า เช่น ทองคำ เงิน ทองแดง นิกเกิล สังกะสี ทำให้แคนาดาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแร่ชั้นนำของโลก

ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและความร่ำรวยของประเทศแคนาดาขยายออกไปไกลเกินขอบเขตของตนเอง แคนาดาแสวงหาความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค โดยเป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก ซึ่งเป็นการปูทางเพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศ

ด้วยภูมิทัศน์ของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้เกิดความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ สำหรับธุรกิจในแคนาดา การยอมรับความเป็นหุ้นส่วนภายในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกผ่านข้อตกลงทางการค้าเช่น CPTPP (Comprehensive Progressive Trans-Pacific Partnership) แคนาดามีเป้าหมายที่จะขยายการเข้าถึงไปยังตลาดที่ยังไม่ได้ใช้ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศที่มีแนวคิดเดียวกัน

อุตสาหกรรมที่หลากหลายซึ่งขับเคลื่อนด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ส่งผลให้แคนาดาเป็นผู้เล่นที่น่าเกรงขามในเวทีเศรษฐกิจโลก ผ่านความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ เช่น ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกและความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่งทั่วโลก Great with North ผู้ยิ่งใหญ่นี้ถูกเตรียมไว้สำหรับการสร้างความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่องในประเทศในขณะที่ขยายอิทธิพลไปในระดับสากล

แคนาดาและโลก: กลยุทธ์การค้าต่ออินโดแปซิฟิก

ด้วยเศรษฐกิจที่กว้างใหญ่และอิทธิพลระดับโลก แคนาดามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการกำหนดบทบาทของตนในโลก หนึ่งในกลยุทธ์หลักคือการมุ่งเน้นไปที่ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกซึ่งครอบคลุมส่วนสำคัญของโลก กลยุทธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของแคนาดากับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ และส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรือง

แคนาดาตระหนักถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่ของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และพยายามที่จะเพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุน ด้วยการกระชับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ แคนาดาหวังที่จะเจาะตลาดใหม่สำหรับธุรกิจของแคนาดา ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมนวัตกรรมและการทำงานร่วมกัน

นอกเหนือจากการพิจารณาด้านเศรษฐกิจแล้ว ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกของแคนาดายังเน้นคุณค่าร่วมกัน เช่น ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม เป้าหมายไม่ใช่แค่เรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังเกี่ยวกับการส่งเสริมเสถียรภาพของโลกด้วยความร่วมมือ

เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ แคนาดาได้เข้าร่วมอย่างแข็งขันในฟอรัมระดับภูมิภาค เช่น อาเซียน ซึ่งแคนาดาสามารถมีส่วนร่วมกับประเทศอื่น ๆ ในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงความท้าทายด้านความมั่นคง ความพยายามในการลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม

ด้วยกลยุทธ์อินโดแปซิฟิก แคนาดามีเป้าหมายที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งพลวัตในระดับภูมิภาคและกิจการระดับโลก ด้วยการสร้างความร่วมมือที่แน่นแฟ้น องค์กรหวังว่าจะมีส่วนทำให้โลกเจริญรุ่งเรืองและสงบสุขมากขึ้น ซึ่งทุกประเทศสามารถเติบโตไปด้วยกัน วิธีการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแคนาดาต่อลัทธิพหุภาคีและความปรารถนาที่จะมีบทบาทอย่างแข็งขันในการกำหนดนโยบายระหว่างประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคน

กลยุทธ์อินโดแปซิฟิกของแคนาดาแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานในการมีส่วนร่วมกับโลกมากขึ้น มันเน้นย้ำว่าประเทศที่มีความหลากหลายนี้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของตนอย่างไร

พรสวรรค์และคุณค่าในการสร้างสะพานข้ามทวีป ขณะที่เราก้าวไปสู่อนาคตที่เชื่อมโยงถึงกัน เราสามารถคาดหวังได้ว่าแคนาดาจะปรากฏตัวในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก

เพื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปในขณะที่สำรวจภูมิประเทศทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน

แคนาดาและโลก: ฉากทัศน์อนาคตต่ออินโดแปซิฟิก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แคนาดาได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกอย่างแข็งขัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุประสงค์ด้านนโยบายต่างประเทศที่กว้างขึ้น ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกเป็นที่ตั้งของประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในโลก ทำให้เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับแคนาดาในการเข้าไปมีส่วนร่วม

รัฐบาลแคนาดาได้ตระหนักถึงศักยภาพอันมหาศาลสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าในภูมิภาคนี้ และมุ่งมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดีย จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอื่น ๆ การมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ในอินโดแปซิฟิกนี้สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับของแคนาดาเกี่ยวกับภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และความปรารถนาที่จะกระจายความร่วมมือทางการค้าออกไปนอกอเมริกาเหนือ

ประเด็นสำคัญประการหนึ่งของอนาคตในอินโดแปซิฟิกของแคนาดาอยู่ที่การเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเหล่านี้ผ่านการเยือนระดับสูง การเจรจา และความร่วมมือที่เพิ่มขึ้น แคนาดามีเป้าหมายที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการขยายโอกาสทางการค้าในภาคต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยี ทรัพยากรพลังงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเกษตร และอื่น ๆ ด้วยการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการเมืองที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ แคนาดายังลงทุนในโครงการริเริ่มด้านการศึกษาที่มุ่งส่งเสริมโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างสถาบันของแคนาดาและสถาบันอื่น ๆ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก สิ่งนี้จะไม่เพียงเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างบุคคล แต่ยังอำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนความรู้ในสาขาต่าง ๆ

นอกจากนี้ เสาหลักที่สำคัญอีกประการหนึ่งของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของแคนาดาคือการสนับสนุนความพยายามด้านความมั่นคงในภูมิภาค ด้วยการร่วมมือกับประเทศที่มีแนวคิดเดียวกันในมาตรการต่อต้านการก่อการร้าย ปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางทะเล ภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ฯลฯ แคนาดามีเป้าหมายที่จะมีส่วนร่วมเชิงบวกต่อเสถียรภาพสันติภาพภายในภูมิภาค

โดยรวมแล้ว โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ กระชับความสัมพันธ์ทางการทูต ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการศึกษา และสนับสนุนความพยายามด้านความมั่นคงในภูมิภาค

อุตสาหกรรมหลักของแคนดาคือน้ำมัน

แคนาดาขึ้นชื่อเรื่องทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และอุตสาหกรรมหลัก 2 แห่งที่เติบโตในประเทศคือก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ ด้วยปริมาณสำรองที่มหาศาลเป็นอันดับที่ 1 ของโลกและเทคโนโลยีการสกัดขั้นสูง แคนาดาจึงกลายเป็นผู้เล่นหลักในตลาดพลังงานโลก

อุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติในแคนาดาหรือที่มีชื่อเรียกว่า “Canadian Oil Patch” มีการเติบโตอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศนี้เป็นแหล่งสำรองก๊าซธรรมชาติจำนวนขนาดใหญ่รายหนึ่งของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคนาดาตะวันตก การผลิตก๊าซธรรมชาติมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองความต้องการด้านพลังงานภายในประเทศตลอดจนการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

น้ำมันดิบเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สำคัญในแคนาดา โดยมีแหล่งขุดเจาะน้ำมันสำคัญชื่อ “Western Canadian Sedimentary Basin” ซึ่งอยู่ในรัฐรัฐแมนิโทบา และแหล่งสำรองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใน “The Athabasca Oil Sands” หรือพื้นที่ทรายน้ำมันของอัลเบอร์ตาเป็นหลัก กระบวนการสกัดและการกลั่นที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมันดิบสร้างงานและมีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แคนาดาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันดิบชั้นนำของโลก

อุตสาหกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้โอกาสในการจ้างงานเท่านั้น แต่ยังสร้างรายได้มหาศาลให้กับเศรษฐกิจของแคนาดาผ่านการส่งออกอีกด้วย นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังช่วยให้มีวิธีการสกัดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในขณะที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

ในขณะที่ความต้องการพลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมหลักเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญไม่เพียงแต่ในแคนาดาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในเวทีระหว่างประเทศด้วย ด้วยนวัตกรรมและแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน บริษัทต่าง ๆ ของแคนาดาพร้อมที่จะมีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญเพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็รับประกันความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจที่บ้าน

ท็อปอุตสาหกรรมของแคนดาดาคืออสังหาฯ การผลิต และเหมืองแร่

แคนาดาเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในด้านความหลากหลายและเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรือง หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจคืออุตสาหกรรมชั้นนำ ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การผลิต และเหมืองแร่

อสังหาริมทรัพย์มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของแคนาดา ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงเติบโตตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและพื้นที่เมืองที่ขยายตัว เมืองต่าง ๆ ของแคนาดา เช่น โตรอนโตและแวนคูเวอร์เป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นพิเศษ โดยดึงดูดผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ อุตสาหกรรมการก่อสร้างยังได้ประโยชน์จากความเจริญนี้ สร้างงานและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

การผลิตเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจของแคนาดา ประเทศนี้มีฐานการผลิตที่แข็งแกร่งซึ่งผลิตสินค้าหลากหลายประเภท เช่น รถยนต์ อุปกรณ์การบินและอวกาศ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร อุตสาหกรรมนี้มอบโอกาสการจ้างงานให้กับชาวแคนาดาจำนวนมาก ในขณะที่มีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้จากการส่งออก

ในอีกด้าน กิจกรรมเหมืองแร่เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สำคัญในแคนาดา ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ทองคำ ทองแดง นิกเกิล ยูเรเนียม และเพชรที่กระจายอยู่ทั่วภูมิประเทศอันกว้างใหญ่ของประเทศ การทำเหมืองแร่จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศชาติ การทำเหมืองไม่เพียงแต่สร้างโอกาสในการทำงานเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาภูมิภาคอีกด้วย

อุตสาหกรรมทั้ 3 นี้ อันได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ การผลิต และเหมืองแร่  ได้ก่อตัวเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจและความร่ำรวยของแคนาดาโดยขับเคลื่อนการเติบโต สร้างงาน และดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศ ด้วยการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แคนาดาสามารถเสริมความแข็งแกร่งในฐานะหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก และรักษามาตรฐานการครองชีพให้อยู่ในระดับสูง

รัฐบาลแคนาดาทำงานอย่างใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมเหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมนวัตกรรมและความสามารถในการแข่งขันของทั้งสองประเทศและแนวรบระหว่างประเทศ

โดยรวมแล้ว ความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวของแคนาดา สู่การเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกในขณะที่รักษาเสถียรภาพภายในขอบเขตของตนเอง เมื่อเราเจาะลึกลงไปเพื่อทำความเข้าใจเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ของแคนาดา จะเห็นว่ามีอะไรมากกว่าที่คิด!

การซื้อขายออนไลน์ของผลิตภัณฑ์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศยอดนิยมทั่วโลก เช่น USD/EUR/JPY/AUD

เริ่มซื้อขายทันที >

ผู้มาใหม่จะได้รับของขวัญ $100 ทันที!

ดอลลาร์แคนาดาหรือที่เรียกว่า CAD เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการของแคนาดา และถือเป็นสถานที่สำคัญในตลาดการเงินโลก แต่ปัจจัยใดที่มีอิทธิพลต่อมูลค่าของมัน

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อดอลลาร์แคนาดาคือข้อมูลทางเศรษฐกิจ ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจเชิงบวก เช่น การเติบโตของ GDP อัตราการว่างงานที่ต่ำ และอัตราเงินเฟ้อที่คงที่สามารถเสริมมูลค่าของ CAD ได้ ในทางกลับกัน ข้อมูลทางเศรษฐกิจเชิงลบอาจทำให้มูลค่าลดลงได้

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคืออัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศแคนาดา อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความต้องการ CAD และเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น

ความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ ก็ส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์แคนาดาเช่นกัน เนื่องจากเป็นหนึ่งในคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในนโยบายการค้าหรือภาษีศุลกากรระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ อาจส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของ CAD

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่อุดมด้วยทรัพยากรอย่างแคนาดา ความผันผวนของราคาน้ำมันส่งผลกระทบโดยตรงต่อ CAD เนื่องจากการส่งออกน้ำมันดิบเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจแคนาดา

การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ทำให้เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าองค์ประกอบต่าง ๆ มีรูปร่างและมีอิทธิพลต่อความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์แคนาดาในตลาดต่างประเทศอย่างไร ด้วยการจับตาดูปัจจัยเหล่านี้และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั่วโลกที่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยเหล่านั้น เราจึงสามารถเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสกุลเงินไดนามิกนี้

มูลค่าของสกุลเงินใด ๆ ได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย และดอลลาร์แคนาดา (CAD) ก็ไม่มีข้อยกเว้น การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้สามารถช่วยให้เราเข้าใจว่าเหตุใด CAD จึงผันผวนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญในการกำหนดจุดแข็งหรือจุดอ่อนของสกุลเงิน ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราการเติบโตของ GDP อัตราเงินเฟ้อ ข้อมูลการจ้างงาน และอัตราดอกเบี้ย ล้วนส่งผลต่อมูลค่าของ CAD ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกมักจะนำไปสู่การแข็งค่าของมูลค่า CAD

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีอิทธิพลอย่างมากต่อเงินดอลลาร์แคนาดาเนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของแคนาดา การเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติส่งผลกระทบโดยตรงต่อ CAD เนื่องจากเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญสำหรับแคนาดา เมื่ออุปสงค์ทั่วโลกผลักดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น โดยทั่วไปจะทำให้มูลค่าของ CAD เพิ่มขึ้น

ความสัมพันธ์ทางการค้ายังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดประสิทธิภาพของ CAD แคนาดามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด นั่นคือสหรัฐฯ  การเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาใดๆ ในนโยบายการค้าหรือข้อตกลงระหว่างสองประเทศนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออัตราแลกเปลี่ยนของ CAD

ประเทศคู่ค้าการนำเข้าที่สำคัญของแคนาดา 4 อันดับ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน สหภาพยุโรป และเม็กซิโก ในขณะที่ประเทศคู่ค้าการส่งออกจากแคนาดา 4 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน และญี่ปุ่น 

เป็นที่น่าสนใจว่า สหรัฐฯ เป็นทั้งคู่ค้าในด้านการนำเข้าและส่งออกอันดับที่ 1 ของแคนาดา ดังนั้น ค่าเงินของ USDCAD จึงมีความแปรผกผันกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ หากประเทศใดประเทศหนึ่งเผชิญปัญหาทางการเงิน อีกประเทศคู่ค้าย่อมได้รับผลกระทบแทบจะในทันทีและรุนแรง

นอกจากนี้ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และความเชื่อมั่นของตลาดอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดสกุลเงิน รวมถึง CAD ปัจจัยต่าง ๆ เช่น เสถียรภาพหรือความไม่มั่นคงทางการเมือง ความขัดแย้งทั่วโลก และความเชื่อมั่นของนักลงทุนล้วนมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการถือครองดอลลาร์แคนาดา

นี่เป็นเพียงปัจจัยบางส่วนจากหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความผันผวนของค่าของเงินดอลลาร์แคนาดาในตลาดฟอเร็กซ์ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ค้าและนักลงทุนในการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับอิทธิพลเหล่านี้เมื่อทำการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหรือการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ CAD

ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการหลายพันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี

สหรัฐฯ เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแคนาดา โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณสามในสี่ของการส่งออกทั้งหมด ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดนี้ได้รับการอำนวยความสะดวกโดยข้อตกลงต่าง ๆ เช่น NAFTA หรือ The North American Free Trade Agreement (ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ) และ USMCA หรือ United States-Mexico-Canada Agreement (ข้อตกลงสหรัฐฯ -เม็กซิโก-แคนาดา) ที่ตามมาภายหลัง ข้อตกลงเหล่านี้ช่วยปรับปรุงกระบวนการทางการค้าและลดอุปสรรคระหว่างสองประเทศ

การค้าทวิภาคีระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมสำคัญที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ทั้งสองประเทศนี้ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ทรัพยากรพลังงาน สินค้าเกษตร เครื่องจักร และยา ทั้งสองประเทศได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่งผ่านการสร้างงาน เพิ่มโอกาสการลงทุน และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาททางการค้าบางครั้งอาจเกิดขึ้นเนื่องจากความแตกต่างในกฎระเบียบหรือปัญหาการเข้าถึงตลาด ภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าบางประเภทสามารถขัดขวางการค้าที่ราบรื่นได้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขข้อพิพาทเหล่านี้ผ่านการเจรจาหรือกลไกระงับข้อพิพาทที่ระบุไว้ในข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง

ความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้นระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ มีส่วนสำคัญต่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เป็นพันธมิตรที่ยั่งยืนซึ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องเมื่อความท้าทายใหม่ ๆ เกิดขึ้นในตลาดโลก

การซื้อขายออนไลน์ของผลิตภัณฑ์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศยอดนิยมทั่วโลก เช่น USD/EUR/JPY/AUD

เริ่มซื้อขายทันที >

ผู้มาใหม่จะได้รับของขวัญ $100 ทันที!

ในการประเมินสุขภาพของเศรษฐกิจ ตัวบ่งชี้มีบทบาทสำคัญ ในแคนาดา ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเป็นอยู่ทางการเงินโดยรวมของประเทศ ตัวบ่งชี้เหล่านี้ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบาย นักลงทุน และธุรกิจตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เป็นตัวบ่งชี้หนึ่งที่ใช้วัดมูลค่ารวมของสินค้าและบริการที่ผลิตภายในพรมแดนของแคนาดา ข้อมูลนี้ให้ภาพรวมของผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศและอัตราการเติบโตเมื่อเวลาผ่านไป

อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) เป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้สำคัญที่สะท้อนถึงอัตราของผู้ที่กำลังหางานทำแต่ไม่สามารถหางานทำได้ อัตราการว่างงานที่ลดลงบ่งชี้ว่าตลาดงานแข็งแกร่งขึ้นและในทางกลับกัน

ในปี พ.ศ. 2566 อัตราการว่างงานของแคนาดาอยู่ที่ 5.5% ณ เดือนสิงหาคม ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก TradingView จะเห็นว่าอัตราการว่างงานของแคนาดานั้นอยู่ในระดับนี้มาตลอด เว้นแต่ช่วงปี พ.ศ. 2563 ที่ทั่วโลกเผชิญวิกฤตของโรคระบาด

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการเมื่อเวลาผ่านไป โดยทั่วไปแล้วอัตราเงินเฟ้อในระดับปานกลางถือว่าดีต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากมันบ่งบอกถึงราคาที่มีเสถียรภาพโดยไม่บั่นทอนกำลังซื้อ

ธนาคารแห่งประเทศแคนาดากำหนดอัตราดอกเบี้ยตามตัวบ่งชี้ที่สำคัญเหล่านี้เพื่อจัดการอัตราเงินเฟ้อและกระตุ้นหรือลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามนั้น

ณ เดือนมิถุนายน 2566 อัตราเงินเฟ้อของแคนาดาอยู่ที่ 3% YoY

สัดส่วนการคำนวณอัตราเงินเฟ้อของแคนาดา ประกอบด้วยหลายภาคส่วน เริ่มจากที่อยู่อาศัยและการขนส่งเป็น 2 ส่วนที่สำคัญที่สุดของตะกร้าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) โดยมีน้ำหนัก 30% และ 17% ตามลำดับ อาหารตามมาที่ 16% การดำเนินงานในครัวเรือน การตกแต่ง และอุปกรณ์ อยู่ที่ 15% นันทนาการ การศึกษา และการอ่านคิดเป็น 9% สุขภาพและการดูแลส่วนบุคคล 5% เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ยาสูบรวม 5% ในขณะที่นาฬิกา เสื้อผ้า และรองเท้า 4% องค์ประกอบของตะกร้า CPI ได้รับการประเมินทุก ๆ 4 ปีตามการสำรวจครัวเรือน ณ ปัจจุบันนี้ น้ำหนักเหล่านี้ขึ้นอยู่กับแนวโน้มการใช้จ่ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เรื่อยมา

นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งร่ำรวยของแคนาดา ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ด้วยการติดตามปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เทรดเดอร์ Forex หรือผู้ถือหุ้นต่าง ๆ ในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโตของแคนานา ก็จะประเมินทิศทางของเศรษฐกิจที่นำไปสู่ความมั่นใจในการตัดสินใจเกี่ยวกับกลุยุทธ์ได้ในท้ายที่สุด

หากต้องการใช้ประโยชน์จากการแข็งค่าของค่่าเงิน CAD ของแคนาดา และสำรวจโอกาสเพิ่มเติมในเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูของประเทศนี้ที่สามารถทำกำไรได้ทั้งยามค่าเงิน CAD เป็นทั้งขาขึ้นและขาลง ให้หันมาใช้เครื่องมือ CFD หรือ Contract for Different เป็นเครื่องมือการเก็งกำไรค่าเงินตามการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจแคนาดา

การเทรด CFD ของ Forex คู่เงิน CAD กับ TOPONE Markets ช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดฟอเร็กซ์แบบไดนามิกและมีโอกาสทำกำไรจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์แคนาดา ด้วยการเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ ค่าคอมมิชชันการเทรด 0% ค่าสเปรดที่แข่งขันได้ คุณจะสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลและดำเนินการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตรวจสอบค่าเสปรดคู่เงิน CAD

นอกจากนี้ TOPONE Markets ยังมีแหล่งข้อมูลด้านการศึกษา ช่วยให้เทรดเดอร์เพิ่มพูนความรู้และทักษะของตน ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ โบรกเกอร์ TOPONE Markets ผู้ได้รับการรับรองพร้อมให้การสนับสนุนในทุกขั้นตอน

การสำรวจเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของแคนาดาเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักลงทุนทั่วโลก ผลกระทบต่อความมั่งคั่งในเวทีโลกเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ จากกลยุทธ์ในอินโดแปซิฟิกไปจนถึงอุตสาหกรรมหลัก เช่น ก๊าซธรรมชาติและการผลิตน้ำมันดิบ แคนาดายังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของตน

ใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ โดยเจาะลึกไปที่การเก็งกำไรค่าเงิน CAD ด้วยการเทรด CFD กับ TOP 1Markets

การซื้อขายออนไลน์ของผลิตภัณฑ์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศยอดนิยมทั่วโลก เช่น USD/EUR/JPY/AUD

เริ่มซื้อขายทันที >

ผู้มาใหม่จะได้รับของขวัญ $100 ทันที!