เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด
เจาะลึกตลาด คริปโต คาดการณ์ Bitcoin 2025: Key Trend วิเคราะห์ และโอกาสในการลงทุน

คาดการณ์ Bitcoin 2025: Key Trend วิเคราะห์ และโอกาสในการลงทุน

จับตาสถานการณ์และแนวโน้ม Bitcoin ปัจจุบันปี 2025 พร้อมเรียนรู้ราคา Bitcoin ย้อนหลังจาก Price Action เพื่อทำกำไรทั้งขาขึ้นและขาลง

อวตารผู้เขียน
TOPONE Markets Analyst 2025-08-22
ไอคอนรูปตา 7890

ราคาBitcoinในช่วงที่ผ่านมาแสดงถึงความผันผวนสูงอย่างชัดเจน เคยพุ่งแตะระดับสูงสุดราว 124,000 ดอลลาร์ ในเดือน ส.ค. 2025 ก่อนร่วงลงต่ำกว่า 118,000 ดอลลาร์ในเวลาอันรวดเร็ว กราฟราคาบน Coinbase ในช่วงนั้นยืนยันว่าราคา BTC ทำจุดสูง–ต่ำที่กว้างมาก (ราว $115–$120K) และปรับขึ้น–ลงสลับกันต่อเนื่อง ข้อมูลจาก StatMuse ระบุว่าราคาปิดปี 2024 ของ Bitcoin อยู่ประมาณ $93,429 ก่อนจะไต่สูงขึ้นเกิน $115,000 ในช่วงต้นปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ในขณะที่แนวโน้ม Bitcoin ปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนสูง ด้วยเหตุนี้นักลงทุนและเทรดเดอร์จึงควรติดตามสถานการณ์ล่าสุดของ Bitcoin  และวิเคราะห์ราคาปัจจุบันอย่างใกล้ชิดเพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาล่วงหน้าและพร้อมรับโอกาสทำกำไรจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระยะสั้น


Bitcoin price trends

ที่มาภาพ: Statmuse

ราคา Bitcoin ย้อนหลังด้วย Price Action (Recap 2024)

Bitcoin price trend from 2024 to 2025

Bitcoin price trend from 2024 to 2025


ในปี 2024  Bitcoin(BTC)ได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่หลายครั้งจากปัจจัยบวกทางพื้นฐาน เช่น การ Halving ในเดือน เม.ย. 2024 และการอนุมัติ Spot ETF ในสหรัฐฯ เทรนด์ขาขึ้นเริ่มชัดเจนตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง หลัง Fed ประกาศลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบปี (ก.ย. 2024) Bitcoin ทะยานทะลุแนว $60K ขึ้นไปต่อเนื่อง จนในเดือน พ.ย. 2024 ราคาวิ่งแรงจาก ~$76K (วันที่ 7 พ.ย.) ไปถึงราว $100,000 ได้ภายในสัปดาห์เดียว


Investopedia รายงานว่าเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2024 Bitcoin สามารถ “ทะลุระดับ $100,000 บนแทบทุกกระดานแลกเปลี่ยน”ซึ่งเป็นผลมาจากความคาดหวังด้านนโยบายสนับสนุนคริปโต (SEC ชุดใหม่เป็นมิตรกับคริปโต) ตามด้วยกระแสความตื่นตัวจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เอื้อให้เกิด “Trump Trade” ทำให้ราคาบวกขึ้นสูงสุดรอบก่อน Changelly ชี้ว่า “เดือน พ.ย. 2024 Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่ทะลุเกิน $93,000” ซึ่งขับเคลื่อนโดยการอนุมัติ Bitcoin ETF และการไหลเข้าของเงินลงทุนสถาบัน หลังจากนั้นไม่นาน ราคาก็ปรับลดลงบ้างจากแรงเทขายทำกำไรและความกลัวของตลาดที่เพิ่มขึ้น


แม้ว่า Bitcoin จะเคยสร้างจุดสูงสุดใหม่รอบขาขึ้น แต่สุดท้ายก็ปรับฐานลงอย่างรุนแรง (Flash Crash) เมื่อปัจจัยลบเข้ามากระทบ ในช่วงหลังราคาทุบลงหลังแตะ ATH ราว $120K มีการเทขายทำกำไรโดย ‘วาฬ’ (ผู้ถือรายใหญ่) ที่ระบาย Bitcoin ออกมาในจังหวะนี้จนราคาแกว่งตัวลดลงอย่างฉับพลันนอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงก็กดดันตลาด เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ (PPI) ที่พุ่งสูงเกินคาดในช่วงปลายปี 2025 ทำให้ตลาดรีบประเมินว่าธนาคารกลางจะเข้มงวดขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าและ Crypto ถูกเทขายอย่างรวดเร็ว ปัจจัยเหล่านี้ส่งให้ Bitcoin ปรับฐานแรง จากจุดสูงไปยังจุดต่ำภายในเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของความผันผวนขั้นสูงในตลาดคริปโต

ทำไม Bitcoin Crash หลังทะลุ $120K

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Bitcoin ดิ่งลงหลังทำ ATH ได้แก่

  • การเทขายทำกำไรของวาฬ: นักลงทุนรายใหญ่ที่ถือ BTC มหาศาลมักขายออกเมื่อราคาถึงจุดสูง เพื่อล็อกกำไร กดดันให้ราคาไหลลงทันที

  • การไลเควิดิชันของสัญญาเลเวอเรจ: เมื่อราคาปรับลด นักลงทุนใช้เงินกู้มาก (เลเวอเรจ) ถูกบังคับปิดสถานะ (Liquidation) ทำให้เกิดแรงขายต่อเนื่อง เสริมให้ราคาตกหนักยิ่งขึ้น

  • ปัจจัยมหภาค: ข่าวดัชนี PPI ที่สูงกว่าคาด (กรกฎาคม 2025) ตอกย้ำเรื่องเงินเฟ้อสูงและหนุนดอกเบี้ยขึ้น เศรษฐกิจโลกผันผวน (เช่น วิกฤตเศรษฐกิจจีน) ยังทำให้ Bitcoin ถูกมองเป็นสินทรัพย์เสี่ยง (Risk-on) ที่นักลงทุนทิ้งก่อนเพื่อลดความเสี่ยง

  • ข่าวกฎระเบียบ: ความไม่แน่นอนจากข่าวลือการเข้มงวดของ SEC หรือเหตุการณ์ Exchange ล่ม เช่น การปิดบริการ Binance Connect ได้สร้างความหวาดวิตกและลดความเชื่อมั่นในตลาด

ทำไม Bitcoin Crash หลังทะลุ $120K

Key Factors ต่อราคา Bitcoin ในอนาคต

Key Factors ต่อราคา Bitcoin ในอนาคต


ราคา Bitcoin ในอนาคตจะถูกผลักดันโดยปัจจัยบวกและลบหลากหลายด้าน

โอกาสขาขึ้น (Bullish)

  • อุปสงค์จาก Spot ETF: การอนุมัติ ETF Bitcoinในสหรัฐฯ ทำให้สถาบันการเงินและนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาถือสินทรัพย์ได้สะดวกขึ้น กลายเป็นแรงหนุนให้อุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • ซัพพลายช็อกจาก Halving: การ Halving เมื่อ เม.ย. 2024 ลดปริมาณ Bitcoin ที่ขุดได้ครึ่งหนึ่ง เป็นกลไกจำกัดอุปทานตามหลักการออกแบบของ Bitcoin ซึ่งตามประวัติกระตุ้นให้เกิดรอบขาขึ้นต่อเนื่อง

  • การเข้ามาของสถาบัน: บริษัทและกองทุนรายใหญ่อย่าง BlackRock, Fidelity, MicroStrategy เป็นต้น ให้ความสนใจและสะสม BTC ในพอร์ตการลงทุนมากขึ้น ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและแรงซื้อต่อเนื่อง

  • กระแสเงินทั่วโลก (Global Liquidity): หากธนาคารกลางใหญ่ ๆ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือปรับนโยบายการเงินผ่อนคลาย เงินทุนเสี่ยงมักถูกดึงเข้าสินทรัพย์อย่าง Bitcoin มากขึ้นในช่วงที่ค่าเงินหลักอ่อนค่า นักลงทุนมอง Bitcoin เป็นเครื่องป้องกันเงินเฟ้อ (Hedge) เพิ่มขึ้นเช่นกัน

หากคุณเทรด CFD กับ TOPONE Markets คุณไม่จำเป็นต้องซื้อ Bitcoin จริง ๆ แต่สามารถ “เปิด Long Position” เพื่อเก็งกำไรจากการไหลเข้าของสถาบันได้ทันที โดยใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มอำนาจทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา เทรดเดอร์ระยะสั้นที่เข้าใจจังหวะนี้สามารถใช้กลยุทธ์ทยอยเปิดสถานะ Long CFD ทุกครั้งที่ราคาอ่อนตัวระหว่างขาขึ้น เพื่อสะสมต้นทุนและรอรับผลตอบแทนเมื่อราคากลับไปทดสอบแนวต้านใหญ่ นี่คือจังหวะทองของการ เข้า Long CFD บน BTC เพื่อรับผลตอบแทนจากการฟื้นตัวของสภาพคล่องระดับโลกโดยไม่ต้องถือเหรียญจริงและกังวลเรื่องการจัดเก็บเหรียญใน Crypto Wallet (Wallet Security)


CFD ทำให้คุณ ไม่ต้องรอการซื้อ Bitcoin จริง ๆ และยังสามารถทำกำไรจากความเคลื่อนไหวในระยะสั้นได้ทันที — นี่คือข้อได้เปรียบที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้เพื่อจับกำไรในช่วง Bullish Rally

ความเสี่ยงขาลง (Bearish)

ตลาดคริปโตไม่ได้มีแค่ด้านที่สดใส ทุกครั้งที่ Bitcoin ทะยานขึ้น ก็มักตามมาด้วยการปรับฐานแรง (Correction) ที่สร้างความเสียหายให้กับผู้ที่ไม่เตรียมพร้อม สำหรับนักเทรดที่มองเกมขาด ความเสี่ยงเหล่านี้ไม่ใช่แค่ “ภัย” แต่ยังเป็น “โอกาส” ที่สามารถเก็บเกี่ยวได้หากใช้เครื่องมือ CFD อย่างถูกต้อง

  1. กฎระเบียบเข้มงวด: การบังคับใช้กฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น กฎ AML/KYC ใหม่หรือการห้ามดำเนินกิจกรรมบางอย่าง สามารถกดดันความเชื่อมั่นของตลาดได้ การวิพากษ์วิจารณ์ด้านพลังงาน (Energy Consumption) จากการขุด Bitcoin ก็เป็นอีกปัจจัยเชิงลบที่ถูกหยิบยกขึ้นมา

  2. ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย: หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือเงินฝืดทั่วโลก ความเสี่ยงต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะสูงขึ้น Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงก็อาจได้รับผลกระทบจากการขายทำกำไรก่อนเพื่อลดความเสี่ยง

  3. กลุ่มขุดถอนทุน: หากราคาลดลงต่ำจนต้นทุนการขุดสูงกว่าราคาขาย หลายกลุ่มขุดอาจปิดเครื่องขาย BTC ทิ้งเพิ่ม เป็นแรงกดดันขาลง (Miner Capitulation) ที่อาจเห็นในสถานการณ์รุนแรง

เปิดสถานะ Short CFD บน Bitcoin เมื่อเห็นข่าวเชิงลบด้านกฎระเบียบ (หรือเมื่อราคาแตกหลุดแนวรับใหญ่) คุณสามารถทำกำไรได้แม้ราคาลง ซึ่งการถือ Spot ปกติทำไม่ได้ การติดตามปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar) ผ่านแพลตฟอร์ม TOPONE Markets และเตรียม “ตั้งคำสั่ง Sell Stop” ล่วงหน้าในกรณีที่ตัวเลขออกมาเกินคาด คุณจะซื้อสถานะ Short CFD โดยอัตโนมัติทันทีที่ราคาหลุดแนวรับสำคัญ เช่น $100K หรือ $90K ก่อนเปิด Short จะช่วยลดโอกาสโดนหลอก (Fakeout) หากเห็นสัญญาณ Hashrate ลดลงต่อเนื่องหรือต้นทุนการขุดพุ่งสูงขึ้น ให้เตรียมเข้าสถานะ Short CFD โดยจับคู่กับ Stop-Loss ที่กระชับ เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากตลาดเด้งแรง

เมื่อไรจะเป็นโอกาสในการซื้อ Bitcoin ครั้งถัดไป

จากประวัติศาสตร์ราคา Bitcoin มักเกิดการปรับฐานที่รุนแรง (pullback) ประมาณ 30–50% หลังทำ ATH แต่ละรอบ ทำให้เกิดระดับราคาแนวรับสำคัญที่น่าจับตามอง (ราคา Bitcoin ย้อนหลัง ช่วยวิเคราะห์จังหวะซื้อได้) ปัจจุบัน ถ้าจุดสูงสุดอยู่ราว $124K การปรับฐาน 30% จะอยู่ที่ประมาณ $86K


Changelly คาดการณ์ว่าในเดือน ส.ค. 2025 ราคาอาจลดลงสู่ $115,662 (แนวรับระยะสั้น) ก่อนฟื้นตัวและภายในปลายปี 2025 ราคาอาจลงแตะ $106,408 เป็นอย่างต่ำแนวรับเหล่านี้ (ราว $100K) จึงเป็นจุดที่เทรดเดอร์และนักลงทุนมักจับตา


Bitcoin Price Prediction 2025


กลยุทธ์การสะสม DCA: วิธียอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นคือการทยอยซื้อ (DCA – Dollar-Cost Averaging) เมื่อราคาอ่อนตัวลงใกล้ระดับแนวรับที่สำคัญ ช่วยลดความเสี่ยงจากการซื้อที่จุดสูงเกินไป. ในขณะที่การซื้อครั้งเดียว (Lump Sum) อาจเหมาะกับผู้ที่มั่นใจจังหวะ (เช่น หลังการปรับฐานใหญ่) จังหวะที่ดีในการ ซื้อ Bitcoin คือเมื่อราคาใกล้แตะแนวรับหลัก ตามข้อมูลการคาดการณ์ข้างต้น นอกจากนี้ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อ Bitcoin ที่เหมาะสมนั้นก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ส่วนบุคคลและสภาวะตลาดที่สอดคล้องกัน


ดังนั้น AI Trade ของ TOPONE Markets จึงออกแบบมาเพื่อตอบรับความต้องการเช่นนี้ของลูกค้าของเรา เพียงคุณกำหนดแนวรับ แนวต้านที่ต้องการ แล้วปล่อยให้การทำงานทั้งหมดเป็นเรื่องของ AI และอัลกอรึธึม การเทรด Bitcoin ด้วย CFD นั้นก็ไม่ใข่งานยากอีกต่อไป เริ่มต้นได้ง่าย ๆ แม้มือใหม่

Case Study: เมื่อ Bitcoin หลุดแนวรับ $100,000

สมมุติว่าในเดือนกันยายน 2025 ราคา Bitcoin เคลื่อนไหวอยู่ที่ $102,000 มาหลายวัน แต่แล้วมีข่าว FED ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเหนือคาด เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้นักลงทุนหนีออกจากสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึง Bitcoin

  1. สถานการณ์

    • BTC หลุดแนวรับ $100,000 ลงมาอย่างแรง

    • ปริมาณการขาย (Volume) พุ่งขึ้น → สัญญาณ Bearish ชัดเจน

    • นักลงทุน Spot ที่ถือ BTC อยู่จะเผชิญการขาดทุนทันที

  2. การตัดสินใจของเทรดเดอร์ CFD บน TOPONE Markets

    • คุณเปิด สถานะ Short CFD ที่ราคา $99,800

    • ใช้เลเวอเรจ 1:10 (ควบคุมเงินทุนให้ปลอดภัย)

    • ตั้ง Take Profit ที่ $95,000 และ Stop Loss ที่ $101,500

  3. ผลลัพธ์

    • BTC ร่วงลงต่อเนื่องถึง $95,000 ภายใน 48 ชั่วโมง

    • คุณปิดสถานะที่ Take Profit โดยอัตโนมัติ

    • ผลกำไรจากการ Short เท่ากับประมาณ +48% บนเงินลงทุนเริ่มต้น (เพราะ CFD ทำกำไรได้จากส่วนต่างของราคาที่ลง ไม่ต้องถือเหรียญจริง)

  4. มุมมองกลยุทธ์

    • นักลงทุน Spot อาจขาดทุนจากการดิ่งลง

    • แต่คุณกลับสร้างผลตอบแทนจากขาลง เพราะใช้ CFD กับ TOPONE Markets

เคล็ดลับและวิธีการจัดการความเสี่ยง

เคล็ดลับและวิธีการจัดการความเสี่ยง


หลีกเลี่ยงการเทรดด้วยอารมณ์: ไม่ควรตัดสินใจเทรดจากความกลัว (FOMO) หรือความตื่นตระหนก ย้อนดูได้ว่าแรงซื้อขายจากอารมณ์มักนำไปสู่การปั่นราคาและปรับฐานภายหลัง ควรวิเคราะห์ตลาดด้วยเหตุผลและติดตามข้อมูลปัจจุบันอย่างมีวินัย


กำหนด Stop-Loss และ Take-profit: กำหนดจุดตัดขาดทุนและทำกำไรล่วงหน้าในแต่ละเทรด ช่วยจำกัดความเสี่ยงเมื่อราคาเคลื่อนไหวสวนทางกับความคาดหวัง


กระจายการลงทุน: ไม่ควรทุ่มลงใน Bitcoin เพียงอย่างเดียว การถือครองสกุลเงินคริปโตอื่น (Altcoins)การลงทุนใน DeFi หรือสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Stablecoins) การกระจายการลงทุนอย่างหลากหลายจะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ต


ตลาดขาลงไม่จำเป็นต้องเป็นฝันร้าย หากคุณมีเครื่องมือที่เหมาะสมอย่าง CFD และพาร์ทเนอร์ที่วางใจได้อย่าง TOPONE Markets การดิ่งลงของ BTC สามารถกลายเป็นโอกาสทำกำไรที่ทรงพลังได้

ทำไมต้องเทรด Bitcoin กับ TOPONE Markets

หากคุณกำลังมองหาวิธี ซื้อ Bitcoin ยังไง หรือ ซื้อ Bitcoin ตอน ไหน ดี ในสไตล์ CFD เพื่อเก็งกำไรจากราคาที่ผันผวน โบรกเกอร์ TOPONE Markets คือพันธมิตรเทรดที่ตอบโจทย์ทุกประการ ด้วยแพลตฟอร์มที่ไม่คิดค่าคอมิชชันและมีสภาพคล่องสูง (High liquidity) คุณจะสามารถซื้อขาย BTC ได้เต็มที่โดยไม่ต้องถือสินทรัพย์จริง


นอกจากนี้ TOPONE Markets มอบเครื่องมือชาร์ตและอินดิเคเตอร์ขั้นสูงสำหรับการวิเคราะห์ Bitcoin แบบเชิงลึก พร้อมระบบการถอนเงินทันใจและทีมบริการลูกค้า 24/7 ที่ช่วยแก้ปัญหาได้ตลอดเวลา เริ่มเทรดง่าย ๆ เพียงเปิดบัญชีด้วยเงินทุนเริ่มต้นขั้นต่ำ $10 USD (มีบัญชีทดลองให้ลองเล่นก่อน) และรับโบนัสต้อนรับทันที ทำให้คุณเข้าสู่ตลาดได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าสุด ๆ TOPONE Markets จะช่วยให้คุณจับจังหวะการเคลื่อนไหวของ Bitcoin สร้างโอกาสทำกำไรจากทุกเทรนด์ได้ง่ายขึ้น


เริ่มต้นการเทรด Bitcoin กับ TOPONE Markets วันนี้ เพื่อเปลี่ยนความเคลื่อนไหวของราคาให้เป็นผลตอบแทน!


ราคาBitcoinในช่วงที่ผ่านมาแสดงถึงความผันผวนสูงอย่างชัดเจน เคยพุ่งแตะระดับสูงสุดราว 124,000 ดอลลาร์ ในเดือน ส.ค. 2025 ก่อนร่วงลงต่ำกว่า 118,000 ดอลลาร์ในเวลาอันรวดเร็ว กราฟราคาบน Coinbase ในช่วงนั้นยืนยันว่าราคา BTC ทำจุดสูง–ต่ำที่กว้างมาก (ราว $115–$120K) และปรับขึ้น–ลงสลับกันต่อเนื่อง ข้อมูลจาก StatMuse ระบุว่าราคาปิดปี 2024 ของ Bitcoin อยู่ประมาณ $93,429 ก่อนจะไต่สูงขึ้นเกิน $115,000 ในช่วงต้นปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ในขณะที่แนวโน้ม Bitcoin ปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนสูง ด้วยเหตุนี้นักลงทุนและเทรดเดอร์จึงควรติดตามสถานการณ์ล่าสุดของ Bitcoin  และวิเคราะห์ราคาปัจจุบันอย่างใกล้ชิดเพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาล่วงหน้าและพร้อมรับโอกาสทำกำไรจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระยะสั้น


Bitcoin price trends

ที่มาภาพ: Statmuse

ราคา Bitcoin ย้อนหลังด้วย Price Action (Recap 2024)

Bitcoin price trend from 2024 to 2025

Bitcoin price trend from 2024 to 2025


ในปี 2024  Bitcoin(BTC)ได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่หลายครั้งจากปัจจัยบวกทางพื้นฐาน เช่น การ Halving ในเดือน เม.ย. 2024 และการอนุมัติ Spot ETF ในสหรัฐฯ เทรนด์ขาขึ้นเริ่มชัดเจนตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง หลัง Fed ประกาศลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบปี (ก.ย. 2024) Bitcoin ทะยานทะลุแนว $60K ขึ้นไปต่อเนื่อง จนในเดือน พ.ย. 2024 ราคาวิ่งแรงจาก ~$76K (วันที่ 7 พ.ย.) ไปถึงราว $100,000 ได้ภายในสัปดาห์เดียว


Investopedia รายงานว่าเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2024 Bitcoin สามารถ “ทะลุระดับ $100,000 บนแทบทุกกระดานแลกเปลี่ยน”ซึ่งเป็นผลมาจากความคาดหวังด้านนโยบายสนับสนุนคริปโต (SEC ชุดใหม่เป็นมิตรกับคริปโต) ตามด้วยกระแสความตื่นตัวจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เอื้อให้เกิด “Trump Trade” ทำให้ราคาบวกขึ้นสูงสุดรอบก่อน Changelly ชี้ว่า “เดือน พ.ย. 2024 Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่ทะลุเกิน $93,000” ซึ่งขับเคลื่อนโดยการอนุมัติ Bitcoin ETF และการไหลเข้าของเงินลงทุนสถาบัน หลังจากนั้นไม่นาน ราคาก็ปรับลดลงบ้างจากแรงเทขายทำกำไรและความกลัวของตลาดที่เพิ่มขึ้น


แม้ว่า Bitcoin จะเคยสร้างจุดสูงสุดใหม่รอบขาขึ้น แต่สุดท้ายก็ปรับฐานลงอย่างรุนแรง (Flash Crash) เมื่อปัจจัยลบเข้ามากระทบ ในช่วงหลังราคาทุบลงหลังแตะ ATH ราว $120K มีการเทขายทำกำไรโดย ‘วาฬ’ (ผู้ถือรายใหญ่) ที่ระบาย Bitcoin ออกมาในจังหวะนี้จนราคาแกว่งตัวลดลงอย่างฉับพลันนอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงก็กดดันตลาด เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ (PPI) ที่พุ่งสูงเกินคาดในช่วงปลายปี 2025 ทำให้ตลาดรีบประเมินว่าธนาคารกลางจะเข้มงวดขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าและ Crypto ถูกเทขายอย่างรวดเร็ว ปัจจัยเหล่านี้ส่งให้ Bitcoin ปรับฐานแรง จากจุดสูงไปยังจุดต่ำภายในเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของความผันผวนขั้นสูงในตลาดคริปโต

ทำไม Bitcoin Crash หลังทะลุ $120K

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Bitcoin ดิ่งลงหลังทำ ATH ได้แก่

  • การเทขายทำกำไรของวาฬ: นักลงทุนรายใหญ่ที่ถือ BTC มหาศาลมักขายออกเมื่อราคาถึงจุดสูง เพื่อล็อกกำไร กดดันให้ราคาไหลลงทันที

  • การไลเควิดิชันของสัญญาเลเวอเรจ: เมื่อราคาปรับลด นักลงทุนใช้เงินกู้มาก (เลเวอเรจ) ถูกบังคับปิดสถานะ (Liquidation) ทำให้เกิดแรงขายต่อเนื่อง เสริมให้ราคาตกหนักยิ่งขึ้น

  • ปัจจัยมหภาค: ข่าวดัชนี PPI ที่สูงกว่าคาด (กรกฎาคม 2025) ตอกย้ำเรื่องเงินเฟ้อสูงและหนุนดอกเบี้ยขึ้น เศรษฐกิจโลกผันผวน (เช่น วิกฤตเศรษฐกิจจีน) ยังทำให้ Bitcoin ถูกมองเป็นสินทรัพย์เสี่ยง (Risk-on) ที่นักลงทุนทิ้งก่อนเพื่อลดความเสี่ยง

  • ข่าวกฎระเบียบ: ความไม่แน่นอนจากข่าวลือการเข้มงวดของ SEC หรือเหตุการณ์ Exchange ล่ม เช่น การปิดบริการ Binance Connect ได้สร้างความหวาดวิตกและลดความเชื่อมั่นในตลาด

ทำไม Bitcoin Crash หลังทะลุ $120K

Key Factors ต่อราคา Bitcoin ในอนาคต

Key Factors ต่อราคา Bitcoin ในอนาคต


ราคา Bitcoin ในอนาคตจะถูกผลักดันโดยปัจจัยบวกและลบหลากหลายด้าน

โอกาสขาขึ้น (Bullish)

  • อุปสงค์จาก Spot ETF: การอนุมัติ ETF Bitcoinในสหรัฐฯ ทำให้สถาบันการเงินและนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาถือสินทรัพย์ได้สะดวกขึ้น กลายเป็นแรงหนุนให้อุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • ซัพพลายช็อกจาก Halving: การ Halving เมื่อ เม.ย. 2024 ลดปริมาณ Bitcoin ที่ขุดได้ครึ่งหนึ่ง เป็นกลไกจำกัดอุปทานตามหลักการออกแบบของ Bitcoin ซึ่งตามประวัติกระตุ้นให้เกิดรอบขาขึ้นต่อเนื่อง

  • การเข้ามาของสถาบัน: บริษัทและกองทุนรายใหญ่อย่าง BlackRock, Fidelity, MicroStrategy เป็นต้น ให้ความสนใจและสะสม BTC ในพอร์ตการลงทุนมากขึ้น ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและแรงซื้อต่อเนื่อง

  • กระแสเงินทั่วโลก (Global Liquidity): หากธนาคารกลางใหญ่ ๆ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือปรับนโยบายการเงินผ่อนคลาย เงินทุนเสี่ยงมักถูกดึงเข้าสินทรัพย์อย่าง Bitcoin มากขึ้นในช่วงที่ค่าเงินหลักอ่อนค่า นักลงทุนมอง Bitcoin เป็นเครื่องป้องกันเงินเฟ้อ (Hedge) เพิ่มขึ้นเช่นกัน

หากคุณเทรด CFD กับ TOPONE Markets คุณไม่จำเป็นต้องซื้อ Bitcoin จริง ๆ แต่สามารถ “เปิด Long Position” เพื่อเก็งกำไรจากการไหลเข้าของสถาบันได้ทันที โดยใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มอำนาจทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา เทรดเดอร์ระยะสั้นที่เข้าใจจังหวะนี้สามารถใช้กลยุทธ์ทยอยเปิดสถานะ Long CFD ทุกครั้งที่ราคาอ่อนตัวระหว่างขาขึ้น เพื่อสะสมต้นทุนและรอรับผลตอบแทนเมื่อราคากลับไปทดสอบแนวต้านใหญ่ นี่คือจังหวะทองของการ เข้า Long CFD บน BTC เพื่อรับผลตอบแทนจากการฟื้นตัวของสภาพคล่องระดับโลกโดยไม่ต้องถือเหรียญจริงและกังวลเรื่องการจัดเก็บเหรียญใน Crypto Wallet (Wallet Security)


CFD ทำให้คุณ ไม่ต้องรอการซื้อ Bitcoin จริง ๆ และยังสามารถทำกำไรจากความเคลื่อนไหวในระยะสั้นได้ทันที — นี่คือข้อได้เปรียบที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้เพื่อจับกำไรในช่วง Bullish Rally

ความเสี่ยงขาลง (Bearish)

ตลาดคริปโตไม่ได้มีแค่ด้านที่สดใส ทุกครั้งที่ Bitcoin ทะยานขึ้น ก็มักตามมาด้วยการปรับฐานแรง (Correction) ที่สร้างความเสียหายให้กับผู้ที่ไม่เตรียมพร้อม สำหรับนักเทรดที่มองเกมขาด ความเสี่ยงเหล่านี้ไม่ใช่แค่ “ภัย” แต่ยังเป็น “โอกาส” ที่สามารถเก็บเกี่ยวได้หากใช้เครื่องมือ CFD อย่างถูกต้อง

  1. กฎระเบียบเข้มงวด: การบังคับใช้กฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น กฎ AML/KYC ใหม่หรือการห้ามดำเนินกิจกรรมบางอย่าง สามารถกดดันความเชื่อมั่นของตลาดได้ การวิพากษ์วิจารณ์ด้านพลังงาน (Energy Consumption) จากการขุด Bitcoin ก็เป็นอีกปัจจัยเชิงลบที่ถูกหยิบยกขึ้นมา

  2. ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย: หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือเงินฝืดทั่วโลก ความเสี่ยงต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะสูงขึ้น Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงก็อาจได้รับผลกระทบจากการขายทำกำไรก่อนเพื่อลดความเสี่ยง

  3. กลุ่มขุดถอนทุน: หากราคาลดลงต่ำจนต้นทุนการขุดสูงกว่าราคาขาย หลายกลุ่มขุดอาจปิดเครื่องขาย BTC ทิ้งเพิ่ม เป็นแรงกดดันขาลง (Miner Capitulation) ที่อาจเห็นในสถานการณ์รุนแรง

เปิดสถานะ Short CFD บน Bitcoin เมื่อเห็นข่าวเชิงลบด้านกฎระเบียบ (หรือเมื่อราคาแตกหลุดแนวรับใหญ่) คุณสามารถทำกำไรได้แม้ราคาลง ซึ่งการถือ Spot ปกติทำไม่ได้ การติดตามปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar) ผ่านแพลตฟอร์ม TOPONE Markets และเตรียม “ตั้งคำสั่ง Sell Stop” ล่วงหน้าในกรณีที่ตัวเลขออกมาเกินคาด คุณจะซื้อสถานะ Short CFD โดยอัตโนมัติทันทีที่ราคาหลุดแนวรับสำคัญ เช่น $100K หรือ $90K ก่อนเปิด Short จะช่วยลดโอกาสโดนหลอก (Fakeout) หากเห็นสัญญาณ Hashrate ลดลงต่อเนื่องหรือต้นทุนการขุดพุ่งสูงขึ้น ให้เตรียมเข้าสถานะ Short CFD โดยจับคู่กับ Stop-Loss ที่กระชับ เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากตลาดเด้งแรง

เมื่อไรจะเป็นโอกาสในการซื้อ Bitcoin ครั้งถัดไป

จากประวัติศาสตร์ราคา Bitcoin มักเกิดการปรับฐานที่รุนแรง (pullback) ประมาณ 30–50% หลังทำ ATH แต่ละรอบ ทำให้เกิดระดับราคาแนวรับสำคัญที่น่าจับตามอง (ราคา Bitcoin ย้อนหลัง ช่วยวิเคราะห์จังหวะซื้อได้) ปัจจุบัน ถ้าจุดสูงสุดอยู่ราว $124K การปรับฐาน 30% จะอยู่ที่ประมาณ $86K


Changelly คาดการณ์ว่าในเดือน ส.ค. 2025 ราคาอาจลดลงสู่ $115,662 (แนวรับระยะสั้น) ก่อนฟื้นตัวและภายในปลายปี 2025 ราคาอาจลงแตะ $106,408 เป็นอย่างต่ำแนวรับเหล่านี้ (ราว $100K) จึงเป็นจุดที่เทรดเดอร์และนักลงทุนมักจับตา


Bitcoin Price Prediction 2025


กลยุทธ์การสะสม DCA: วิธียอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นคือการทยอยซื้อ (DCA – Dollar-Cost Averaging) เมื่อราคาอ่อนตัวลงใกล้ระดับแนวรับที่สำคัญ ช่วยลดความเสี่ยงจากการซื้อที่จุดสูงเกินไป. ในขณะที่การซื้อครั้งเดียว (Lump Sum) อาจเหมาะกับผู้ที่มั่นใจจังหวะ (เช่น หลังการปรับฐานใหญ่) จังหวะที่ดีในการ ซื้อ Bitcoin คือเมื่อราคาใกล้แตะแนวรับหลัก ตามข้อมูลการคาดการณ์ข้างต้น นอกจากนี้ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อ Bitcoin ที่เหมาะสมนั้นก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ส่วนบุคคลและสภาวะตลาดที่สอดคล้องกัน


ดังนั้น AI Trade ของ TOPONE Markets จึงออกแบบมาเพื่อตอบรับความต้องการเช่นนี้ของลูกค้าของเรา เพียงคุณกำหนดแนวรับ แนวต้านที่ต้องการ แล้วปล่อยให้การทำงานทั้งหมดเป็นเรื่องของ AI และอัลกอรึธึม การเทรด Bitcoin ด้วย CFD นั้นก็ไม่ใข่งานยากอีกต่อไป เริ่มต้นได้ง่าย ๆ แม้มือใหม่

Case Study: เมื่อ Bitcoin หลุดแนวรับ $100,000

สมมุติว่าในเดือนกันยายน 2025 ราคา Bitcoin เคลื่อนไหวอยู่ที่ $102,000 มาหลายวัน แต่แล้วมีข่าว FED ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเหนือคาด เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้นักลงทุนหนีออกจากสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึง Bitcoin

  1. สถานการณ์

    • BTC หลุดแนวรับ $100,000 ลงมาอย่างแรง

    • ปริมาณการขาย (Volume) พุ่งขึ้น → สัญญาณ Bearish ชัดเจน

    • นักลงทุน Spot ที่ถือ BTC อยู่จะเผชิญการขาดทุนทันที

  2. การตัดสินใจของเทรดเดอร์ CFD บน TOPONE Markets

    • คุณเปิด สถานะ Short CFD ที่ราคา $99,800

    • ใช้เลเวอเรจ 1:10 (ควบคุมเงินทุนให้ปลอดภัย)

    • ตั้ง Take Profit ที่ $95,000 และ Stop Loss ที่ $101,500

  3. ผลลัพธ์

    • BTC ร่วงลงต่อเนื่องถึง $95,000 ภายใน 48 ชั่วโมง

    • คุณปิดสถานะที่ Take Profit โดยอัตโนมัติ

    • ผลกำไรจากการ Short เท่ากับประมาณ +48% บนเงินลงทุนเริ่มต้น (เพราะ CFD ทำกำไรได้จากส่วนต่างของราคาที่ลง ไม่ต้องถือเหรียญจริง)

  4. มุมมองกลยุทธ์

    • นักลงทุน Spot อาจขาดทุนจากการดิ่งลง

    • แต่คุณกลับสร้างผลตอบแทนจากขาลง เพราะใช้ CFD กับ TOPONE Markets

เคล็ดลับและวิธีการจัดการความเสี่ยง

เคล็ดลับและวิธีการจัดการความเสี่ยง


หลีกเลี่ยงการเทรดด้วยอารมณ์: ไม่ควรตัดสินใจเทรดจากความกลัว (FOMO) หรือความตื่นตระหนก ย้อนดูได้ว่าแรงซื้อขายจากอารมณ์มักนำไปสู่การปั่นราคาและปรับฐานภายหลัง ควรวิเคราะห์ตลาดด้วยเหตุผลและติดตามข้อมูลปัจจุบันอย่างมีวินัย


กำหนด Stop-Loss และ Take-profit: กำหนดจุดตัดขาดทุนและทำกำไรล่วงหน้าในแต่ละเทรด ช่วยจำกัดความเสี่ยงเมื่อราคาเคลื่อนไหวสวนทางกับความคาดหวัง


กระจายการลงทุน: ไม่ควรทุ่มลงใน Bitcoin เพียงอย่างเดียว การถือครองสกุลเงินคริปโตอื่น (Altcoins)การลงทุนใน DeFi หรือสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Stablecoins) การกระจายการลงทุนอย่างหลากหลายจะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ต


ตลาดขาลงไม่จำเป็นต้องเป็นฝันร้าย หากคุณมีเครื่องมือที่เหมาะสมอย่าง CFD และพาร์ทเนอร์ที่วางใจได้อย่าง TOPONE Markets การดิ่งลงของ BTC สามารถกลายเป็นโอกาสทำกำไรที่ทรงพลังได้

ทำไมต้องเทรด Bitcoin กับ TOPONE Markets

หากคุณกำลังมองหาวิธี ซื้อ Bitcoin ยังไง หรือ ซื้อ Bitcoin ตอน ไหน ดี ในสไตล์ CFD เพื่อเก็งกำไรจากราคาที่ผันผวน โบรกเกอร์ TOPONE Markets คือพันธมิตรเทรดที่ตอบโจทย์ทุกประการ ด้วยแพลตฟอร์มที่ไม่คิดค่าคอมิชชันและมีสภาพคล่องสูง (High liquidity) คุณจะสามารถซื้อขาย BTC ได้เต็มที่โดยไม่ต้องถือสินทรัพย์จริง


นอกจากนี้ TOPONE Markets มอบเครื่องมือชาร์ตและอินดิเคเตอร์ขั้นสูงสำหรับการวิเคราะห์ Bitcoin แบบเชิงลึก พร้อมระบบการถอนเงินทันใจและทีมบริการลูกค้า 24/7 ที่ช่วยแก้ปัญหาได้ตลอดเวลา เริ่มเทรดง่าย ๆ เพียงเปิดบัญชีด้วยเงินทุนเริ่มต้นขั้นต่ำ $10 USD (มีบัญชีทดลองให้ลองเล่นก่อน) และรับโบนัสต้อนรับทันที ทำให้คุณเข้าสู่ตลาดได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าสุด ๆ TOPONE Markets จะช่วยให้คุณจับจังหวะการเคลื่อนไหวของ Bitcoin สร้างโอกาสทำกำไรจากทุกเทรนด์ได้ง่ายขึ้น


เริ่มต้นการเทรด Bitcoin กับ TOPONE Markets วันนี้ เพื่อเปลี่ยนความเคลื่อนไหวของราคาให้เป็นผลตอบแทน!


  • ไอคอนแชร์ Facebook
  • ไอคอนแชร์ X
  • ไอคอนแชร์ Instagram

บทความที่กำลังมาแรง

  • 5 PolitiFi Coins น่าซื้อปี 2567

    ท่องโลกสกุลเงินดิจิทัลไปกับเหรียญมีมล้อการเมือง PolitiFi Coin เกาะกระแสการเมืองระดับโลก เอาความฮามาเป็นจุดต่างในการสร้างผลตอบแทนแบบเร็ว ๆ ด้วยการเทรด CFD เหรียญมีมทางเลือก

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-08-19
  • ท็อป 5 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนปี 2567

    ส่อง 5 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน เติบโตไปตามการเปลี่ยนแปลงและความนิยมของโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ด้วยเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนระยะยาวในปี 2567 นี้

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-07-19
  • สุดยอดคู่มือ วิธีลงทุนซื้อ Dogecoin ในไทย

    อนาคตเหรียญ Doge เหรียญคริปโตสุดสนุนอันดับที่ 9 ของโลก กับการวางแผนซื้อ Doge เก็งกำไร ฉบับมือใหม่ในโลกคริปโตที่กำลังมองหาการดำเนินการที่สะดวกต่อการจัดการ

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-07-09
  • ภาษีคริปโตคืออะไร 2567 เทรดคริปโตแบบไหนต้องเสียภาษี

    รอบรู้ภาษีคริปโตที่สำคัญก่อนเทรด จัดการ คำนวณ อย่างไรให้เสียภาษีคริปโตถูกต้องไม่โดนค่าปรับ และอีกวิธีในการเทรดคริปโตด้วย CFD ที่ไม่ต้องนำรายได้ไปคิดภาษีบุคคลธรรมดาประจำปี อัปเดท พ.ศ. 2567

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-06-20
รูปโปรโมชันในบทความ
โอกาสทองรออยู่! กระโจนเข้ามา!พร้อมรับโบนัส $100 ฟรี!
ทองคำ ทองคำ

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย