The Beginners Guide วิธีเริ่มเทรดคริปโตในไทยสำหรับมือใหม่ และการเทรด CFD ปี 2568

ปี 2568 กลายเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ คริปโตเคอร์เรนซี เข้าถึงมือคนไทยมากขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยโอกาส ก็แฝงไปด้วยความเสี่ยง การเริ่มต้นอย่างถูกต้องจึงเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะกับมือใหม่ที่ยังสงสัยว่า “วิธีสมัครเว็บเทรดคริปโต” ที่ปลอดภัยนั้นเริ่มอย่างไร หรือ “เว็บซื้อขายบิทคอยน์ในไทย” เจ้าไหนที่รองรับบัญชีธนาคารไทยและมีความน่าเชื่อถือ

บทความการเงินการลงทุนของ TOPONE Markets ครั้งนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธี เปรียบเทียบเว็บเทรดคริปโตในไทย ที่ได้รับใบอนุญาต พร้อมคู่มือสมบูรณ์แบบสำหรับวิธีเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่ไทย อย่างเป็นระบบ และเปิดมุมมองเรื่องวิธีเลือกโบรกเกอร์คริปโตที่ปลอดภัยที่ตอบโจทย์ทั้งความมั่นคงและการใช้งานง่าย

และถ้าคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่เร็ว ปลอดภัย ใช้งานง่าย มี THB transaction และสามารถเริ่มต้นด้วยเงินไม่มาก TOPONE Markets คือคำตอบในฝั่งของ CFD เทรดสั้นที่ตอบโจทย์ทั้งความคล่องตัวและความมั่นใจ

เทรด Bitcoin/Ethereum/Teder/Binance Coin ฯลฯ แบบออนไลน์ เงินตราเข้ารหัสลับที่ติดเทรนด์ทั่วโลก

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!

สังคมไทยในปี 2568 มีความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากภาวะที่ Bitcoin และเหรียญดิจิทัลอื่นๆ ให้ผลตอบแทนสูง เทรดเดอร์รายย่อยจำนวนมากจึงเปิดบัญชีเทรด พบว่าจำนวนบัญชีใช้งานคริปโตในประเทศพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2022

ยิ่งไปกว่านั้น Bitkub ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเว็บซื้อขายบิทคอยน์ในไทยที่ใหญ่สุด ได้สร้างรายได้ถึง 80% ของบริษัทแม่ บ่งชี้ว่าแพลตฟอร์มไทยได้รับความนิยมสูง

ในปีที่ผ่านมา Binance Thailand ก็เพิ่งเปิดตัว ช่วยกระตุ้นความสนใจในคริปโตของผู้ใช้ทั่วประเทศ การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้ตลาดโลกจะผันผวน แต่คนไทยยังคงมองหาช่องทางลงทุนใหม่ ๆ และโอกาสสร้างผลตอบแทนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล ด้านกรอบกฎหมายและการกำกับดูแล ก.ล.ต. ไทยมีแนวทางค่อยเป็นค่อยไป มุ่งรักษาเสถียรภาพและคุ้มครองเทรดเดอร์ไปพร้อมกัน

ล่าสุดในปี 2568 ก.ล.ต. ได้อนุมัติให้ USDT และ USDC สองสเตเบิลคอยน์หลัก ถูกใช้ในการเทรดคริปโต เพื่อขยายอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลและเพิ่มทางเลือกการชำระเงินให้ผู้ใช้ นโยบายนี้สอดคล้องกับการผลักดันให้ตลาดคริปโตไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันก็มีโครงการนำร่องด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้บล็อกเชนซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพื่อลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว สิ่งเหล่านี้สะท้อนท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลที่พร้อมส่งเสริมและพัฒนา ecosystem คริปโตภายในประเทศ การใช้งานคริปโตในไทยมีหลายรูปแบบ ไม่ได้จำกัดเฉพาะการลงทุนหรือเทรดอย่างเดียว เสมือนเป็นคลังเก็บมูลค่า (store of value) ชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ถือสินทรัพย์หลีกเลี่ยงเงินเฟ้อ หรือใช้สำหรับโอนเงินระหว่างประเทศที่สะดวกรวดเร็วกว่าเดิม ตัวอย่างสำคัญคือโครงการนำร่องในจังหวัดภูเก็ต ที่เปิดทางให้นักท่องเที่ยวสามารถชำระเงินด้วย Bitcoin ผ่านการลงทะเบียนกับเว็บเทรดไทยและยืนยันตัวตนแล้วกระทรวงการคลังต้องการให้เมืองท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นต้นแบบการชำระเงินดิจิทัล ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่คุ้นเคยกับสินทรัพย์ดิจิทัล ในขณะเดียวกันนักธุรกิจไทยบางรายก็เริ่มเปิดรับเหรียญ Stablecoins ที่มีความผันผวนน้อยในการรับชำระค่าสินค้าและบริการ

ตัวอย่างการใช้งานคริปโตในไทย

• ลงทุนและเก็งกำไร: เทรดเดอร์ซื้อขายเหรียญคริปโตเพื่อหวังกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคา

• ชำระเงินสินค้า-บริการ: ทั้งการใช้จ่ายในร้านค้าท่องเที่ยว (โครงการทดลองใช้ BTC ที่ภูเก็ตหรือโอนเงินข้ามประเทศที่สะดวกรวดเร็ว

• เก็บออมดิจิทัล: ปักหลักถือครอง crypto หรือ stablecoin เป็นการออมดิจิทัลชนิดหนึ่ง เพื่อผลตอบแทนระยะยาวและรักษามูลค่าเงิน

• ทำธุรกรรมอื่นๆ: เช่น การซื้อสินทรัพย์บล็อกเชนใหม่ ๆ หรือใช้คริปโตในเกมและบริการออนไลน์ต่างๆ

สำหรับมือใหม่ที่สนใจคริปโต ควรเริ่มต้นด้วย

• ศึกษาวิธีสมัครเว็บเทรดคริปโตบนแพลตฟอร์มยอดนิยม เว็บซื้อขายบิทคอยน์ในไทยที่เรากำลังจะพูดถึงในบทความนี้ 5 แห่งเพื่อเริ่มต้นเปิดบัญชีและเตรียมพร้อมเข้สู่กระบวนการได้อย่างถูกต้อง

• เปรียบเทียบเว็บเทรดคริปโตในไทย ในด้านค่าธรรมเนียมและฟีเจอร์ เช่น ดูว่า เว็บเทรดคริปโต รองรับบัญชีธนาคารไทย หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้การฝาก-ถอนเงินบาทสะดวก

• เรียนรู้วิธีเลือกโบรกเกอร์คริปโตที่ปลอดภัย ตรวจสอบใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. และประวัติความน่าเชื่อถือของเว็บเทรด เพื่อปกป้องทุน

• ดูเนื้อหาออนไลน์และทดลองวิธีเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่ เช่น บทความหรือคอร์สเบื้องต้น และฝึกเทรดด้วยบัญชีทดลองก่อนลงทุนเงินจริง

• ทำความเข้าใจ วิธีใช้งานกระดานเทรดคริปโตในไทยที่ได้รับการรับรองจาก SEC หรือ ก.ล.ต. ตั้งแต่การสมัครเข้าใช้ การฝากถอนเหรียญดิจิทัลและเงินบาท รวมถึงการตั้งค่าความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มเหล่านี้

เมื่อพร้อมแล้ว เรามาเริ่มต้นเส้นทางการทำธุรกรรมในโลกของคริปโต เริ่มต้นเส้นทางการเทรดคริปโตง่าย ๆ ด้วยเงินบาท ปลอดภัย และด้วยการรับรองและการกำกับดูแลจากรัฐผ่านกระดานเทรดที่ได้รับการรับรองในไทย

การก้าวเข้าสู่โลกของคริปโตในประเทศไทยในปี 2568 เริ่มต้นด้วยการเลือกใช้ เว็บเทรดคริปโต ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin, Ethereum และเหรียญอื่น ๆ การเข้าใจประเภทของเว็บเทรดและวิธีการใช้งานจะช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถเริ่มต้นการลงทุนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

บทความที่คุณอาจสนใจ

• ฝากคริปโตกินดอกชิว ๆ ด้วย DeFi Staking

• ท็อป 5 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนปี 2567

• เทรดคริปโตระยะสั้นตามเทรนด์ขาลงด้วย Short Sell Bitcoin 2024

ความแตกต่างระหว่าง CEX และ DEX

Decentralized Exchange (DEX) หรือ เว็บเทรดคริปโตแบบกระจายศูนย์ เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่มีองค์กรกลางควบคุม ผู้ใช้สามารถซื้อขายโดยตรงจาก Crypto Wallet ของตนเองโดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน ข้อดีของ DEX ได้แก่:

• มีความเป็นส่วนตัว: ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

• การควบคุมสินทรัพย์: ผู้ใช้เป็นผู้ควบคุมสินทรัพย์ของตนเองตลอดเวลา

Centralized Exchange (CEX) หรือ เว็บเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ เป็นแพลตฟอร์มที่มีบริษัทหรือองค์กรกลางควบคุมการดำเนินงาน ผู้ใช้ต้องทำการยืนยันตัวตน (KYC) และฝากเงินเข้าบัญชีของเว็บเทรดเพื่อทำการซื้อขาย ข้อดีของ CEX ได้แก่:

• ความสะดวกในการใช้งาน: อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

• การสนับสนุนสกุลเงินบาท (THB): สามารถฝากและถอนเงินผ่านบัญชีธนาคารไทยได้

• ความปลอดภัย: มีมาตรการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎหมายที่เข้มงวด

กล่าวโดยสรุป การจะเลือกเทรดคริปโตบนกระดานเทรดแบบ DEX หรือ CEX นั้น ให้พิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยข้างต้น ในฐานะมือใหม่ ขอแนะนำให้ใช้บริการ CEX ก่อน เพื่อให้เรียนรู้วิธีการ และเพิ่มพูนความรู้ ความชำนาญในโลกของคริปโต ก่อนขยับขยายโอกาสไปสู่กระดานเทรด DEX มีมีตัวเลือกของการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่แน่นอนก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบในการจัดการดูแลสินทรัพย์ทั้งหมดด้วยตนเอง

สิ่งที่ควรมองหาในเว็บเทรดคือ

• อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย

• ค่าธรรมเนียมต่ำ

• รองรับเงินฝากด้วยบาทไทย

• แอปมือถือที่มีความเสถียร ใช้งานง่าย 

• ระบบความปลอดภัยที่มั่นใจได้

ตลาดคริปโตในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้จะมีสถาบันการเงินหลายแห่งเข้ามาร่วมลงทุน เทรดเดอร์และผู้เริ่มต้นควรเรียนรู้ วิธีสมัครเว็บเทรดคริปโตและวิธีเลือกโบรกเกอร์คริปโตที่ปลอดภัย ในไทยก่อนเริ่มซื้อขาย บทความนี้จะเจาะลึก 5 เว็บซื้อขายบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ในปี 2568 และนำเสนอลักษณะเด่น ข้อดีของแต่ละแพลตฟอร์ม รวมถึงการเปรียบเทียบเว็บเทรดคริปโตในไทยในแง่มุมสำคัญต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียม สภาพคล่อง ความปลอดภัย และการรองรับการฝาก-ถอนเงินบาท (รองรับบัญชีธนาคารไทย) เพื่อช่วยให้มือใหม่ไทย ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ในส่วนของการเริ่มต้นใช้งาน เราจะแนะนำท็อป 5 โบรกเกอร์เทรดคริปโตในไทยที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ไทยและขั้นตอนเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่ให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

Bitkub

Bitkub เป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตอันดับหนึ่งของไทยด้วยปริมาณการซื้อขายสูงสุดในประเทศ มีจุดเด่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำ (0.25% ต่อการเทรด) และรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลหลายร้อยรายการ โดยเฉพาะคู่เทรดต่อเงินบาทที่ครอบคลุมทุกสกุลหลัก ขณะที่ความปลอดภัยก็เป็นเลิศ เพราะ Bitkub ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. และยึดถือการทำ KYC/AML อย่างเข้มงวด ใช้งานง่ายบนเว็บไซต์และแอปมือถือ ถูกออกแบบมาให้ มือใหม่ใช้งานได้สะดวก และรองรับการฝาก-ถอนเงินบาทผ่านธนาคารไทยได้โดยตรง

Orbix

Orbix (ออร์บิคซ์) คือชื่อใหม่ของ Satang Pro หลังถูกซื้อกิจการโดยกลุ่ม Unita Capital (KBank) ในปี 2566 ให้บริการตั้งแต่ปี 2563 ภายใต้ใบอนุญาต ก.ล.ต. เต็มรูปแบบ จุดเด่นของ Orbix คือการเน้นเครื่องมือขั้นสูงสำหรับมืออาชีพ มี สภาพคล่องลึก เหมาะกับการเทรดในปริมาณมาก และคัดเลือกเหรียญเข้าด้วยความระมัดระวัง มีเหรียญกว่า 50 รายการให้เทรด

Orbix ยังมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ด้วยระบบ ISO 27001 และ ISO 27701 พร้อมระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็ว รองรับธนาคารไทยเช่นกัน

Bitazza

Bitazza เป็นแพลตฟอร์มคริปโตของไทยอีกหนึ่งแห่งที่ได้รับใบอนุญาต ก.ล.ต. ให้บริการครบทั้งตลาด Spot, Futures, และยังมีบริการ OTC และ NFT Marketplace ภายใต้บริษัทในกลุ่มเดียวกัน (Fuse Chain) จุดเด่นคือระบบรักษาความปลอดภัยสูง และเน้นการปฏิบัติตามกฎหมายไทยเต็มรูปแบบ

ผลตอบแทนของ Bitazza ยังปรับลดค่าธรรมเนียมด้วยการถือครองโทเค็น FDM เหรียญของตนเอง ผู้ใช้ FDM สามารถลดค่า maker/taker ได้สูงสุด 70% ได้ด้วย แพลตฟอร์มนี้รองรับสินทรัพย์มากกว่า 90 สกุล (รวม BTC, ETH, BNB, XRP, ADA ฯลฯ) และออกแบบหน้าจอใช้งานแบบ เป็นมิตรกับมือใหม่ พร้อมเครื่องมือกราฟขั้นสูงให้เลือกใช้

Upbit Thailand

Upbit Thailand เป็นสาขาไทยของ Upbit ซึ่งเป็นเว็บเทรดอันดับหนึ่งในเกาหลีใต้ (ก่อตั้งโดย Dunamu) ให้บริการที่ไทยตั้งแต่ปี 2564 ภายใต้บริษัทร่วมทุนของ Upbit APAC และกลุ่มเทรดเดอร์ไทยรายใหญ่ (เช่น ตระกูลเจียรวนนท์ และนักธุรกิจไทยชั้นนำ) ได้รับใบอนุญาต ก.ล.ต. ครบทั้ง 4 ประเภท 

Upbit Thailand มุ่งเน้นระบบการเทรดที่ ปลอดภัยและมีเสถียรภาพสูงสุด โดยใช้เทคโนโลยีระดับโลกจากตลาดใหญ่ (เคยรองรับ volume สูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) แพลตฟอร์มรองรับทุกระบบ (เว็บไซต์ PC, แอป iOS/Android) 

มีจุดเด่นเรื่อง UI แบบ mobile-first คือเน้นการใช้งานบนมือถือ มีฟีเจอร์แจ้งราคาเรียลไทม์บนหน้าจอล็อกและการแจ้งเตือนตลอดเวลา (Push Notifications) เหมาะกับผู้เริ่มต้น ในช่วงเปิดตัวมีโปรโมชั่นดึงดูดด้วยค่าธรรมเนียม 0% สำหรับ makers และ 0.1% สำหรับ takers ในช่วงแรก

Binance TH

Binance Thailand (Gulf Binance) เป็นความร่วมมือระหว่าง Binance กับ Gulf Innova (กลุ่ม Gulf Energy) ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. ให้เปิดให้บริการ Spot Trading แพลตฟอร์มนี้ถือเป็นสาขาย่อยของ Binance โดยเป็นแพลตฟอร์มถูกกฎหมาย ภายใต้ใบอนุญาตของกระทรวงการคลังและ ก.ล.ต. ของไทย

จุดเด่นที่สุดคือสินทรัพย์และสภาพคล่องระดับโลก มีเหรียญให้เทรดกว่า 360+ รายการ บริการฝาก-ถอนเงินบาทผ่านบัญชีไทยสะดวกด้วยระบบโอนผ่าน QR Code ค่าธรรมเนียม Spot ก็อยู่ในเกณฑ์ต่ำ เพียง 0.25% สำหรับคู่ไทยบาท และ 0.1% สำหรับคู่คริปโตรวมถึง USDT แพลตฟอร์มนี้ยังได้ชื่อว่าใช้เทคโนโลยีชั้นนำของ Binance (World-Class Technology) และเน้นความปลอดภัยสูงทั้ง 2FA, KYC (รับรองโดย ก.ล.ต. ไทย)

ตารางเปรียบเทียบ 5 ท็อปโบรกเกอร์คริปโตไทย 2568

ในความคิดเห็นของเรา ในฐษนะมือใหม่ที่กำลังพิจารณาการเข้าสู่ตลาดคริปโตในไทยด้วยความสะดวก ปลอดภัย และการจัดการที่ดี การเริ่มต้นจาก Bitkub เหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการความสะดวกและสินทรัพย์เยอะ Orbix เด่นเรื่องเครื่องมือมืออาชีพและความปลอดภัย Bitazza เน้นความปลอดภัยและฟีเจอร์ครบถ้วน Binance TH โดดเด่นเรื่องค่าธรรมเนียมต่ำและสภาพคล่องระดับโลก ส่วน Upbit TH นำเทคโนโลยีระดับโลกมาใช้ เน้นความเสถียรและรองรับผู้ใช้ใหม่

ทั้งหมดนี้เป็น เว็บเทรดคริปโตในไทยรองรับบัญชีธนาคารไทยและมีการจัดการที่เข้มงวด รัดกุม เทรดเดอร์ควรศึกษาวิธีสมัคร และวิธีเทรดคริปโตบนแต่ละแพลตฟอร์มเพื่อเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับตนเอง

ดังที่ได้กล่าวไปตอนต้นว่า การเทรดที่ปลอดภัยนั้นต้องพิจารณาจากความรัดกุมของแพลตฟอร์มการเทรด ในแง่ของการยืนยันตัวตน ความสะดวก รวดเร็วในการใช้งาน รวมถึงค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเพื่อให้คุณได้รับผลตอบแทนสูงสุด และปลอดภัยสูงสุดแม้ในฐานะมือใหม่เริ่มต้นเทรดคริปโต 

ต่อไปนี้คือ 4 ขั้นตอนทั่วไปของการเริ่มต้นเทรดคริปโตผ่าน CEX แพลตฟอร์มการเทรดคริปโตในไทย แต่ละผู้ให้บริการอาจมีรายละเอียดของเอกสารและระยะเวลาในการดำเนินการที่ต่างกันไปบ้าง

ก่อนเทรด คุณต้อง:

• ยืนยันตัวตน (KYC)

ขั้นตอนนี้คือด่านแรกที่ทำให้ CEX นั้นแตกต่าง DEX เพราะเมื่อคุณจะใช้งานกระดานเทรดคริปโตในไทยนี้ ต้องยืนยันตัวตนให้แล้วเสร็จเสียก่อน โดยใช้บัตรประชาชนในกรณีคนไทย หรือพาสปอร์ตและเอกสารรับรองการทำงานในประเทศไทยในกรณีของชาวต่างชาติ ถ่ายเซลฟี่ และกรอกข้อมูลพื้นฐาน ใช้เวลาไม่นาน

• ฝากเงินเข้าแพลตฟอร์ม

โอนผ่านบัญชีธนาคารไทย, PromptPay หรือแม้แต่โอนคริปโตจากกระเป๋าคริปโตเข้าระบบ

• ใช้งานหน้าการเทรด

เลือก Spot Market ถ้าซื้อขายเหรียญจริง หรือ Futures ถ้าคุณต้องการเก็งกำไรแบบเร่งด่วน

• ถอนกำไร

เทรดเสร็จ ถอนกลับบัญชีธนาคารไทยได้ทันที ไม่มีขั้นต่ำ

หลายคนมองว่าต้องมีทุนเยอะถึงจะเริ่มเทรดคริปโตได้ แต่จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นเลย ที่โบรกเกอร์ TOPONE Markets เป็นเว็บเทรด CFD ที่ รองรับภาษาไทย ฝากถอนง่าย ไม่ต้องถือเหรียญจริง และยัง มี Leverage ให้เลือกใช้ได้สูงถึง 1,000 เท่า เพื่อให้คุณสามารถใช้เงินเล็ก ๆ แต่เปิดโอกาสที่มากขึ้นในตลาดการเทรดคริปโตระดับโลก

การเทรด CFD นั้นหมายถึงคุณไม่ต้องรอเหรียญขึ้นค่อยขาย แต่คุณสามารถเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคาในระยะสั้น และยังไม่มีภาระเรื่องภาษีเหมือนการซื้อขายจริงด้วย!

ในยุคที่การเทรดคริปโตกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย การปกป้องตัวเองจากความเสี่ยงและการหลอกลวงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับกลไกของตลาดดิจิทัล

การโจมตีแบบฟิชชิง (Phishing)

การโจมตีแบบฟิชชิง (Phishing) เป็นหนึ่งในวิธีที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่านหรือคีย์ส่วนตัว โดยมักจะมาในรูปแบบของอีเมลหรือเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนจริง

ตัวอย่างเช่น ในปี 2568 มีการเปิดเผยว่าแฮกเกอร์ใช้เทคนิค “Approval Phishing” เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งาน Ethereum ให้อนุมัติธุรกรรมที่เป็นอันตราย ส่งผลให้มีการสูญเสียเงินกว่า 4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ภาษีการเทรดคริปโต

สำหรับการเทรดคริปโตทั่วไปในไทย คุณอาจต้องแจ้งรายได้กับสรรพากร แต่ CFD ผ่าน TOPONE Markets ไม่มีความยุ่งยากทางภาษีแบบเดียวกัน เพราะคุณไม่ได้ถือเหรียญจริง

ความปลอดภัยของกระดานเทรดคริปโต

การเลือกเว็บเทรดคริปโตที่ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าแพลตฟอร์มนั้นมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมและปฏิบัติตามกฎหมาย

TOPONE Markets: พันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับเทรดเดอร์ไทย

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์คริปโต โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนสูง เทคนิคที่ควรนำมาใช้ ได้แก่ การกระจายการลงทุน การตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน (stop-loss) และการปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ การใช้ Hardware Wallet เช่น Ledger หรือ Trezor ก็เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการโจมตีแบบฟิชชิง (Phshing) เนื่องจากคีย์ส่วนตัวจะถูกเก็บไว้แบบออฟไลน์ทำให้แฮกเกอร์ไม่สามารถเข้าถึงได้

สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นการเทรดคริปโตอย่างมั่นใจ TOPONE Markets เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยการให้บริการเทรด CFD ที่มีความปลอดภัยและมีมาตรฐานระดับสากล พร้อมการสนับสนุนทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เทรดเดอร์สามารถเริ่มต้นด้วยเงินทุนที่น้อยและใช้เลเวอเรจสูง เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดที่มีความผันผวน

การเลือกพันธมิตรที่เชื่อถือได้เช่น TOPONE Markets จะช่วยให้เทรดเดอร์ไทยสามารถเข้าสู่โลกของคริปโตได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย พร้อมทั้งมีเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นในการบริหารความเสี่ยงและปกป้องตนเองจากภัยคุกคามในตลาดดิจิทัล

คริปโตถูกกฎหมายในไทยไหม

ถูกกฎหมายภายใต้การกำกับของสำนักงาน ก.ล.ต. มีหลายเว็บได้รับใบอนุญาต และสามารถลงทุนได้อย่างปลอดภัยหากใช้บริการจากแพลตฟอร์มที่ผ่านการรับรอง

ฝากเงินเป็นเงินบาทได้ไหม

ได้แน่นอน โดยเฉพาะเว็บในไทย เช่น Bitkub, Satang, Binance TH และ TOPONE Markets ก็รองรับทั้ง QR, โอนตรง และพร้อมเพย์

เว็บไหนปลอดภัยที่สุดสำหรับมือใหม่

Bitkub และ Upbit TH เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากเทรดแบบ CFD ที่ไม่ต้องถือเหรียญจริง TOPONE Markets คือคำตอบ เพราะเน้นความปลอดภัยขั้นสูง ระบบตรวจสอบภัยคุกคาม และการเทรดที่โปร่งใส

เริ่มต้นเทรดต้องมีเงินเท่าไร

เพียงแค่หลักร้อยก็เริ่มเทรด CFD ได้แล้ว ยิ่งใช้ Leverage ยิ่งขยายโอกาสในการทำกำไรได้มากกว่าที่คิด

ภาษีคริปโตไทยจัดการอย่างไร

หากคุณเทรดคริปโตจริง ต้องแจ้งรายได้ต่อกรมสรรพากร แต่ถ้าคุณเทรด CFD ผ่าน TOPONE Markets การรายงานภาษีไม่ซับซ้อน เพราะไม่ถือครองสินทรัพย์จริง

โลกคริปโตในไทยเติบโตเร็ว และเต็มไปด้วยแพลตฟอร์มที่แข่งกันสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่ อยากเริ่มง่าย ๆ ใช้เงินน้อย ไม่อยากปวดหัวเรื่องภาษี การเทรดแบบ CFD ผ่าน TOPONE Markets คือเส้นทางที่ควรลอง

ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง คุณก็มีโอกาสทำกำไรได้จากการเก็งราคาระยะสั้น ไม่ต้องถือเหรียญ ไม่ต้องห่วงเรื่อง Wallet หรือการโอนข้ามแพลตฟอร์ม ทั้งยังมีเครื่องมือ Indicator หลากหลายให้คุณใช้ตัดสินใจด้วยตัวเอง

บทความที่คุณอาจสนใจ

• เลือก Crypto Wallet อันไหนดี 2566

• ภาษีคริปโตคืออะไร 2567 เทรดคริปโตแบบไหนต้องเสียภาษี

• Capital Gain ผลตอบแทนการลงทุนที่ไม่ต้องแบ่งไปจ่ายภาษี

พร้อมเริ่มต้นเส้นทางเทรดคริปโตในแบบที่คุณควบคุมได้เอง สมัคร TOPONE Markets วันนี้ แล้วเทรดอย่างมั่นใจ!

เทรด Bitcoin/Ethereum/Teder/Binance Coin ฯลฯ แบบออนไลน์ เงินตราเข้ารหัสลับที่ติดเทรนด์ทั่วโลก

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!

ปี 2568 กลายเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ คริปโตเคอร์เรนซี เข้าถึงมือคนไทยมากขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยโอกาส ก็แฝงไปด้วยความเสี่ยง การเริ่มต้นอย่างถูกต้องจึงเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะกับมือใหม่ที่ยังสงสัยว่า “วิธีสมัครเว็บเทรดคริปโต” ที่ปลอดภัยนั้นเริ่มอย่างไร หรือ “เว็บซื้อขายบิทคอยน์ในไทย” เจ้าไหนที่รองรับบัญชีธนาคารไทยและมีความน่าเชื่อถือ

บทความการเงินการลงทุนของ TOPONE Markets ครั้งนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธี เปรียบเทียบเว็บเทรดคริปโตในไทย ที่ได้รับใบอนุญาต พร้อมคู่มือสมบูรณ์แบบสำหรับวิธีเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่ไทย อย่างเป็นระบบ และเปิดมุมมองเรื่องวิธีเลือกโบรกเกอร์คริปโตที่ปลอดภัยที่ตอบโจทย์ทั้งความมั่นคงและการใช้งานง่าย

และถ้าคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่เร็ว ปลอดภัย ใช้งานง่าย มี THB transaction และสามารถเริ่มต้นด้วยเงินไม่มาก TOPONE Markets คือคำตอบในฝั่งของ CFD เทรดสั้นที่ตอบโจทย์ทั้งความคล่องตัวและความมั่นใจ

เทรด Bitcoin/Ethereum/Teder/Binance Coin ฯลฯ แบบออนไลน์ เงินตราเข้ารหัสลับที่ติดเทรนด์ทั่วโลก

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!

สังคมไทยในปี 2568 มีความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากภาวะที่ Bitcoin และเหรียญดิจิทัลอื่นๆ ให้ผลตอบแทนสูง เทรดเดอร์รายย่อยจำนวนมากจึงเปิดบัญชีเทรด พบว่าจำนวนบัญชีใช้งานคริปโตในประเทศพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2022

ยิ่งไปกว่านั้น Bitkub ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเว็บซื้อขายบิทคอยน์ในไทยที่ใหญ่สุด ได้สร้างรายได้ถึง 80% ของบริษัทแม่ บ่งชี้ว่าแพลตฟอร์มไทยได้รับความนิยมสูง

ในปีที่ผ่านมา Binance Thailand ก็เพิ่งเปิดตัว ช่วยกระตุ้นความสนใจในคริปโตของผู้ใช้ทั่วประเทศ การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้ตลาดโลกจะผันผวน แต่คนไทยยังคงมองหาช่องทางลงทุนใหม่ ๆ และโอกาสสร้างผลตอบแทนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล ด้านกรอบกฎหมายและการกำกับดูแล ก.ล.ต. ไทยมีแนวทางค่อยเป็นค่อยไป มุ่งรักษาเสถียรภาพและคุ้มครองเทรดเดอร์ไปพร้อมกัน

ล่าสุดในปี 2568 ก.ล.ต. ได้อนุมัติให้ USDT และ USDC สองสเตเบิลคอยน์หลัก ถูกใช้ในการเทรดคริปโต เพื่อขยายอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลและเพิ่มทางเลือกการชำระเงินให้ผู้ใช้ นโยบายนี้สอดคล้องกับการผลักดันให้ตลาดคริปโตไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันก็มีโครงการนำร่องด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้บล็อกเชนซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพื่อลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว สิ่งเหล่านี้สะท้อนท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลที่พร้อมส่งเสริมและพัฒนา ecosystem คริปโตภายในประเทศ การใช้งานคริปโตในไทยมีหลายรูปแบบ ไม่ได้จำกัดเฉพาะการลงทุนหรือเทรดอย่างเดียว เสมือนเป็นคลังเก็บมูลค่า (store of value) ชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ถือสินทรัพย์หลีกเลี่ยงเงินเฟ้อ หรือใช้สำหรับโอนเงินระหว่างประเทศที่สะดวกรวดเร็วกว่าเดิม ตัวอย่างสำคัญคือโครงการนำร่องในจังหวัดภูเก็ต ที่เปิดทางให้นักท่องเที่ยวสามารถชำระเงินด้วย Bitcoin ผ่านการลงทะเบียนกับเว็บเทรดไทยและยืนยันตัวตนแล้วกระทรวงการคลังต้องการให้เมืองท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นต้นแบบการชำระเงินดิจิทัล ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่คุ้นเคยกับสินทรัพย์ดิจิทัล ในขณะเดียวกันนักธุรกิจไทยบางรายก็เริ่มเปิดรับเหรียญ Stablecoins ที่มีความผันผวนน้อยในการรับชำระค่าสินค้าและบริการ

ตัวอย่างการใช้งานคริปโตในไทย

• ลงทุนและเก็งกำไร: เทรดเดอร์ซื้อขายเหรียญคริปโตเพื่อหวังกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคา

• ชำระเงินสินค้า-บริการ: ทั้งการใช้จ่ายในร้านค้าท่องเที่ยว (โครงการทดลองใช้ BTC ที่ภูเก็ตหรือโอนเงินข้ามประเทศที่สะดวกรวดเร็ว

• เก็บออมดิจิทัล: ปักหลักถือครอง crypto หรือ stablecoin เป็นการออมดิจิทัลชนิดหนึ่ง เพื่อผลตอบแทนระยะยาวและรักษามูลค่าเงิน

• ทำธุรกรรมอื่นๆ: เช่น การซื้อสินทรัพย์บล็อกเชนใหม่ ๆ หรือใช้คริปโตในเกมและบริการออนไลน์ต่างๆ

สำหรับมือใหม่ที่สนใจคริปโต ควรเริ่มต้นด้วย

• ศึกษาวิธีสมัครเว็บเทรดคริปโตบนแพลตฟอร์มยอดนิยม เว็บซื้อขายบิทคอยน์ในไทยที่เรากำลังจะพูดถึงในบทความนี้ 5 แห่งเพื่อเริ่มต้นเปิดบัญชีและเตรียมพร้อมเข้สู่กระบวนการได้อย่างถูกต้อง

• เปรียบเทียบเว็บเทรดคริปโตในไทย ในด้านค่าธรรมเนียมและฟีเจอร์ เช่น ดูว่า เว็บเทรดคริปโต รองรับบัญชีธนาคารไทย หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้การฝาก-ถอนเงินบาทสะดวก

• เรียนรู้วิธีเลือกโบรกเกอร์คริปโตที่ปลอดภัย ตรวจสอบใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. และประวัติความน่าเชื่อถือของเว็บเทรด เพื่อปกป้องทุน

• ดูเนื้อหาออนไลน์และทดลองวิธีเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่ เช่น บทความหรือคอร์สเบื้องต้น และฝึกเทรดด้วยบัญชีทดลองก่อนลงทุนเงินจริง

• ทำความเข้าใจ วิธีใช้งานกระดานเทรดคริปโตในไทยที่ได้รับการรับรองจาก SEC หรือ ก.ล.ต. ตั้งแต่การสมัครเข้าใช้ การฝากถอนเหรียญดิจิทัลและเงินบาท รวมถึงการตั้งค่าความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มเหล่านี้

เมื่อพร้อมแล้ว เรามาเริ่มต้นเส้นทางการทำธุรกรรมในโลกของคริปโต เริ่มต้นเส้นทางการเทรดคริปโตง่าย ๆ ด้วยเงินบาท ปลอดภัย และด้วยการรับรองและการกำกับดูแลจากรัฐผ่านกระดานเทรดที่ได้รับการรับรองในไทย

การก้าวเข้าสู่โลกของคริปโตในประเทศไทยในปี 2568 เริ่มต้นด้วยการเลือกใช้ เว็บเทรดคริปโต ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin, Ethereum และเหรียญอื่น ๆ การเข้าใจประเภทของเว็บเทรดและวิธีการใช้งานจะช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถเริ่มต้นการลงทุนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

บทความที่คุณอาจสนใจ

• ฝากคริปโตกินดอกชิว ๆ ด้วย DeFi Staking

• ท็อป 5 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนปี 2567

• เทรดคริปโตระยะสั้นตามเทรนด์ขาลงด้วย Short Sell Bitcoin 2024

ความแตกต่างระหว่าง CEX และ DEX

Decentralized Exchange (DEX) หรือ เว็บเทรดคริปโตแบบกระจายศูนย์ เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่มีองค์กรกลางควบคุม ผู้ใช้สามารถซื้อขายโดยตรงจาก Crypto Wallet ของตนเองโดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน ข้อดีของ DEX ได้แก่:

• มีความเป็นส่วนตัว: ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

• การควบคุมสินทรัพย์: ผู้ใช้เป็นผู้ควบคุมสินทรัพย์ของตนเองตลอดเวลา

Centralized Exchange (CEX) หรือ เว็บเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ เป็นแพลตฟอร์มที่มีบริษัทหรือองค์กรกลางควบคุมการดำเนินงาน ผู้ใช้ต้องทำการยืนยันตัวตน (KYC) และฝากเงินเข้าบัญชีของเว็บเทรดเพื่อทำการซื้อขาย ข้อดีของ CEX ได้แก่:

• ความสะดวกในการใช้งาน: อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

• การสนับสนุนสกุลเงินบาท (THB): สามารถฝากและถอนเงินผ่านบัญชีธนาคารไทยได้

• ความปลอดภัย: มีมาตรการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎหมายที่เข้มงวด

กล่าวโดยสรุป การจะเลือกเทรดคริปโตบนกระดานเทรดแบบ DEX หรือ CEX นั้น ให้พิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยข้างต้น ในฐานะมือใหม่ ขอแนะนำให้ใช้บริการ CEX ก่อน เพื่อให้เรียนรู้วิธีการ และเพิ่มพูนความรู้ ความชำนาญในโลกของคริปโต ก่อนขยับขยายโอกาสไปสู่กระดานเทรด DEX มีมีตัวเลือกของการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่แน่นอนก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบในการจัดการดูแลสินทรัพย์ทั้งหมดด้วยตนเอง

สิ่งที่ควรมองหาในเว็บเทรดคือ

• อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย

• ค่าธรรมเนียมต่ำ

• รองรับเงินฝากด้วยบาทไทย

• แอปมือถือที่มีความเสถียร ใช้งานง่าย 

• ระบบความปลอดภัยที่มั่นใจได้

ตลาดคริปโตในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้จะมีสถาบันการเงินหลายแห่งเข้ามาร่วมลงทุน เทรดเดอร์และผู้เริ่มต้นควรเรียนรู้ วิธีสมัครเว็บเทรดคริปโตและวิธีเลือกโบรกเกอร์คริปโตที่ปลอดภัย ในไทยก่อนเริ่มซื้อขาย บทความนี้จะเจาะลึก 5 เว็บซื้อขายบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ในปี 2568 และนำเสนอลักษณะเด่น ข้อดีของแต่ละแพลตฟอร์ม รวมถึงการเปรียบเทียบเว็บเทรดคริปโตในไทยในแง่มุมสำคัญต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียม สภาพคล่อง ความปลอดภัย และการรองรับการฝาก-ถอนเงินบาท (รองรับบัญชีธนาคารไทย) เพื่อช่วยให้มือใหม่ไทย ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ในส่วนของการเริ่มต้นใช้งาน เราจะแนะนำท็อป 5 โบรกเกอร์เทรดคริปโตในไทยที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ไทยและขั้นตอนเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่ให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

Bitkub

Bitkub เป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตอันดับหนึ่งของไทยด้วยปริมาณการซื้อขายสูงสุดในประเทศ มีจุดเด่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำ (0.25% ต่อการเทรด) และรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลหลายร้อยรายการ โดยเฉพาะคู่เทรดต่อเงินบาทที่ครอบคลุมทุกสกุลหลัก ขณะที่ความปลอดภัยก็เป็นเลิศ เพราะ Bitkub ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. และยึดถือการทำ KYC/AML อย่างเข้มงวด ใช้งานง่ายบนเว็บไซต์และแอปมือถือ ถูกออกแบบมาให้ มือใหม่ใช้งานได้สะดวก และรองรับการฝาก-ถอนเงินบาทผ่านธนาคารไทยได้โดยตรง

Orbix

Orbix (ออร์บิคซ์) คือชื่อใหม่ของ Satang Pro หลังถูกซื้อกิจการโดยกลุ่ม Unita Capital (KBank) ในปี 2566 ให้บริการตั้งแต่ปี 2563 ภายใต้ใบอนุญาต ก.ล.ต. เต็มรูปแบบ จุดเด่นของ Orbix คือการเน้นเครื่องมือขั้นสูงสำหรับมืออาชีพ มี สภาพคล่องลึก เหมาะกับการเทรดในปริมาณมาก และคัดเลือกเหรียญเข้าด้วยความระมัดระวัง มีเหรียญกว่า 50 รายการให้เทรด

Orbix ยังมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ด้วยระบบ ISO 27001 และ ISO 27701 พร้อมระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็ว รองรับธนาคารไทยเช่นกัน

Bitazza

Bitazza เป็นแพลตฟอร์มคริปโตของไทยอีกหนึ่งแห่งที่ได้รับใบอนุญาต ก.ล.ต. ให้บริการครบทั้งตลาด Spot, Futures, และยังมีบริการ OTC และ NFT Marketplace ภายใต้บริษัทในกลุ่มเดียวกัน (Fuse Chain) จุดเด่นคือระบบรักษาความปลอดภัยสูง และเน้นการปฏิบัติตามกฎหมายไทยเต็มรูปแบบ

ผลตอบแทนของ Bitazza ยังปรับลดค่าธรรมเนียมด้วยการถือครองโทเค็น FDM เหรียญของตนเอง ผู้ใช้ FDM สามารถลดค่า maker/taker ได้สูงสุด 70% ได้ด้วย แพลตฟอร์มนี้รองรับสินทรัพย์มากกว่า 90 สกุล (รวม BTC, ETH, BNB, XRP, ADA ฯลฯ) และออกแบบหน้าจอใช้งานแบบ เป็นมิตรกับมือใหม่ พร้อมเครื่องมือกราฟขั้นสูงให้เลือกใช้

Upbit Thailand

Upbit Thailand เป็นสาขาไทยของ Upbit ซึ่งเป็นเว็บเทรดอันดับหนึ่งในเกาหลีใต้ (ก่อตั้งโดย Dunamu) ให้บริการที่ไทยตั้งแต่ปี 2564 ภายใต้บริษัทร่วมทุนของ Upbit APAC และกลุ่มเทรดเดอร์ไทยรายใหญ่ (เช่น ตระกูลเจียรวนนท์ และนักธุรกิจไทยชั้นนำ) ได้รับใบอนุญาต ก.ล.ต. ครบทั้ง 4 ประเภท 

Upbit Thailand มุ่งเน้นระบบการเทรดที่ ปลอดภัยและมีเสถียรภาพสูงสุด โดยใช้เทคโนโลยีระดับโลกจากตลาดใหญ่ (เคยรองรับ volume สูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) แพลตฟอร์มรองรับทุกระบบ (เว็บไซต์ PC, แอป iOS/Android) 

มีจุดเด่นเรื่อง UI แบบ mobile-first คือเน้นการใช้งานบนมือถือ มีฟีเจอร์แจ้งราคาเรียลไทม์บนหน้าจอล็อกและการแจ้งเตือนตลอดเวลา (Push Notifications) เหมาะกับผู้เริ่มต้น ในช่วงเปิดตัวมีโปรโมชั่นดึงดูดด้วยค่าธรรมเนียม 0% สำหรับ makers และ 0.1% สำหรับ takers ในช่วงแรก

Binance TH

Binance Thailand (Gulf Binance) เป็นความร่วมมือระหว่าง Binance กับ Gulf Innova (กลุ่ม Gulf Energy) ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. ให้เปิดให้บริการ Spot Trading แพลตฟอร์มนี้ถือเป็นสาขาย่อยของ Binance โดยเป็นแพลตฟอร์มถูกกฎหมาย ภายใต้ใบอนุญาตของกระทรวงการคลังและ ก.ล.ต. ของไทย

จุดเด่นที่สุดคือสินทรัพย์และสภาพคล่องระดับโลก มีเหรียญให้เทรดกว่า 360+ รายการ บริการฝาก-ถอนเงินบาทผ่านบัญชีไทยสะดวกด้วยระบบโอนผ่าน QR Code ค่าธรรมเนียม Spot ก็อยู่ในเกณฑ์ต่ำ เพียง 0.25% สำหรับคู่ไทยบาท และ 0.1% สำหรับคู่คริปโตรวมถึง USDT แพลตฟอร์มนี้ยังได้ชื่อว่าใช้เทคโนโลยีชั้นนำของ Binance (World-Class Technology) และเน้นความปลอดภัยสูงทั้ง 2FA, KYC (รับรองโดย ก.ล.ต. ไทย)

ตารางเปรียบเทียบ 5 ท็อปโบรกเกอร์คริปโตไทย 2568

ในความคิดเห็นของเรา ในฐษนะมือใหม่ที่กำลังพิจารณาการเข้าสู่ตลาดคริปโตในไทยด้วยความสะดวก ปลอดภัย และการจัดการที่ดี การเริ่มต้นจาก Bitkub เหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการความสะดวกและสินทรัพย์เยอะ Orbix เด่นเรื่องเครื่องมือมืออาชีพและความปลอดภัย Bitazza เน้นความปลอดภัยและฟีเจอร์ครบถ้วน Binance TH โดดเด่นเรื่องค่าธรรมเนียมต่ำและสภาพคล่องระดับโลก ส่วน Upbit TH นำเทคโนโลยีระดับโลกมาใช้ เน้นความเสถียรและรองรับผู้ใช้ใหม่

ทั้งหมดนี้เป็น เว็บเทรดคริปโตในไทยรองรับบัญชีธนาคารไทยและมีการจัดการที่เข้มงวด รัดกุม เทรดเดอร์ควรศึกษาวิธีสมัคร และวิธีเทรดคริปโตบนแต่ละแพลตฟอร์มเพื่อเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับตนเอง

ดังที่ได้กล่าวไปตอนต้นว่า การเทรดที่ปลอดภัยนั้นต้องพิจารณาจากความรัดกุมของแพลตฟอร์มการเทรด ในแง่ของการยืนยันตัวตน ความสะดวก รวดเร็วในการใช้งาน รวมถึงค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเพื่อให้คุณได้รับผลตอบแทนสูงสุด และปลอดภัยสูงสุดแม้ในฐานะมือใหม่เริ่มต้นเทรดคริปโต 

ต่อไปนี้คือ 4 ขั้นตอนทั่วไปของการเริ่มต้นเทรดคริปโตผ่าน CEX แพลตฟอร์มการเทรดคริปโตในไทย แต่ละผู้ให้บริการอาจมีรายละเอียดของเอกสารและระยะเวลาในการดำเนินการที่ต่างกันไปบ้าง

ก่อนเทรด คุณต้อง:

• ยืนยันตัวตน (KYC)

ขั้นตอนนี้คือด่านแรกที่ทำให้ CEX นั้นแตกต่าง DEX เพราะเมื่อคุณจะใช้งานกระดานเทรดคริปโตในไทยนี้ ต้องยืนยันตัวตนให้แล้วเสร็จเสียก่อน โดยใช้บัตรประชาชนในกรณีคนไทย หรือพาสปอร์ตและเอกสารรับรองการทำงานในประเทศไทยในกรณีของชาวต่างชาติ ถ่ายเซลฟี่ และกรอกข้อมูลพื้นฐาน ใช้เวลาไม่นาน

• ฝากเงินเข้าแพลตฟอร์ม

โอนผ่านบัญชีธนาคารไทย, PromptPay หรือแม้แต่โอนคริปโตจากกระเป๋าคริปโตเข้าระบบ

• ใช้งานหน้าการเทรด

เลือก Spot Market ถ้าซื้อขายเหรียญจริง หรือ Futures ถ้าคุณต้องการเก็งกำไรแบบเร่งด่วน

• ถอนกำไร

เทรดเสร็จ ถอนกลับบัญชีธนาคารไทยได้ทันที ไม่มีขั้นต่ำ

หลายคนมองว่าต้องมีทุนเยอะถึงจะเริ่มเทรดคริปโตได้ แต่จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นเลย ที่โบรกเกอร์ TOPONE Markets เป็นเว็บเทรด CFD ที่ รองรับภาษาไทย ฝากถอนง่าย ไม่ต้องถือเหรียญจริง และยัง มี Leverage ให้เลือกใช้ได้สูงถึง 1,000 เท่า เพื่อให้คุณสามารถใช้เงินเล็ก ๆ แต่เปิดโอกาสที่มากขึ้นในตลาดการเทรดคริปโตระดับโลก

การเทรด CFD นั้นหมายถึงคุณไม่ต้องรอเหรียญขึ้นค่อยขาย แต่คุณสามารถเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคาในระยะสั้น และยังไม่มีภาระเรื่องภาษีเหมือนการซื้อขายจริงด้วย!

ในยุคที่การเทรดคริปโตกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย การปกป้องตัวเองจากความเสี่ยงและการหลอกลวงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับกลไกของตลาดดิจิทัล

การโจมตีแบบฟิชชิง (Phishing)

การโจมตีแบบฟิชชิง (Phishing) เป็นหนึ่งในวิธีที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่านหรือคีย์ส่วนตัว โดยมักจะมาในรูปแบบของอีเมลหรือเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนจริง

ตัวอย่างเช่น ในปี 2568 มีการเปิดเผยว่าแฮกเกอร์ใช้เทคนิค “Approval Phishing” เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งาน Ethereum ให้อนุมัติธุรกรรมที่เป็นอันตราย ส่งผลให้มีการสูญเสียเงินกว่า 4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ภาษีการเทรดคริปโต

สำหรับการเทรดคริปโตทั่วไปในไทย คุณอาจต้องแจ้งรายได้กับสรรพากร แต่ CFD ผ่าน TOPONE Markets ไม่มีความยุ่งยากทางภาษีแบบเดียวกัน เพราะคุณไม่ได้ถือเหรียญจริง

ความปลอดภัยของกระดานเทรดคริปโต

การเลือกเว็บเทรดคริปโตที่ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าแพลตฟอร์มนั้นมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมและปฏิบัติตามกฎหมาย

TOPONE Markets: พันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับเทรดเดอร์ไทย

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์คริปโต โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนสูง เทคนิคที่ควรนำมาใช้ ได้แก่ การกระจายการลงทุน การตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน (stop-loss) และการปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ การใช้ Hardware Wallet เช่น Ledger หรือ Trezor ก็เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการโจมตีแบบฟิชชิง (Phshing) เนื่องจากคีย์ส่วนตัวจะถูกเก็บไว้แบบออฟไลน์ทำให้แฮกเกอร์ไม่สามารถเข้าถึงได้

สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นการเทรดคริปโตอย่างมั่นใจ TOPONE Markets เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยการให้บริการเทรด CFD ที่มีความปลอดภัยและมีมาตรฐานระดับสากล พร้อมการสนับสนุนทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เทรดเดอร์สามารถเริ่มต้นด้วยเงินทุนที่น้อยและใช้เลเวอเรจสูง เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดที่มีความผันผวน

การเลือกพันธมิตรที่เชื่อถือได้เช่น TOPONE Markets จะช่วยให้เทรดเดอร์ไทยสามารถเข้าสู่โลกของคริปโตได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย พร้อมทั้งมีเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นในการบริหารความเสี่ยงและปกป้องตนเองจากภัยคุกคามในตลาดดิจิทัล

คริปโตถูกกฎหมายในไทยไหม

ถูกกฎหมายภายใต้การกำกับของสำนักงาน ก.ล.ต. มีหลายเว็บได้รับใบอนุญาต และสามารถลงทุนได้อย่างปลอดภัยหากใช้บริการจากแพลตฟอร์มที่ผ่านการรับรอง

ฝากเงินเป็นเงินบาทได้ไหม

ได้แน่นอน โดยเฉพาะเว็บในไทย เช่น Bitkub, Satang, Binance TH และ TOPONE Markets ก็รองรับทั้ง QR, โอนตรง และพร้อมเพย์

เว็บไหนปลอดภัยที่สุดสำหรับมือใหม่

Bitkub และ Upbit TH เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากเทรดแบบ CFD ที่ไม่ต้องถือเหรียญจริง TOPONE Markets คือคำตอบ เพราะเน้นความปลอดภัยขั้นสูง ระบบตรวจสอบภัยคุกคาม และการเทรดที่โปร่งใส

เริ่มต้นเทรดต้องมีเงินเท่าไร

เพียงแค่หลักร้อยก็เริ่มเทรด CFD ได้แล้ว ยิ่งใช้ Leverage ยิ่งขยายโอกาสในการทำกำไรได้มากกว่าที่คิด

ภาษีคริปโตไทยจัดการอย่างไร

หากคุณเทรดคริปโตจริง ต้องแจ้งรายได้ต่อกรมสรรพากร แต่ถ้าคุณเทรด CFD ผ่าน TOPONE Markets การรายงานภาษีไม่ซับซ้อน เพราะไม่ถือครองสินทรัพย์จริง

โลกคริปโตในไทยเติบโตเร็ว และเต็มไปด้วยแพลตฟอร์มที่แข่งกันสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่ อยากเริ่มง่าย ๆ ใช้เงินน้อย ไม่อยากปวดหัวเรื่องภาษี การเทรดแบบ CFD ผ่าน TOPONE Markets คือเส้นทางที่ควรลอง

ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง คุณก็มีโอกาสทำกำไรได้จากการเก็งราคาระยะสั้น ไม่ต้องถือเหรียญ ไม่ต้องห่วงเรื่อง Wallet หรือการโอนข้ามแพลตฟอร์ม ทั้งยังมีเครื่องมือ Indicator หลากหลายให้คุณใช้ตัดสินใจด้วยตัวเอง

บทความที่คุณอาจสนใจ

• เลือก Crypto Wallet อันไหนดี 2566

• ภาษีคริปโตคืออะไร 2567 เทรดคริปโตแบบไหนต้องเสียภาษี

• Capital Gain ผลตอบแทนการลงทุนที่ไม่ต้องแบ่งไปจ่ายภาษี

พร้อมเริ่มต้นเส้นทางเทรดคริปโตในแบบที่คุณควบคุมได้เอง สมัคร TOPONE Markets วันนี้ แล้วเทรดอย่างมั่นใจ!

เทรด Bitcoin/Ethereum/Teder/Binance Coin ฯลฯ แบบออนไลน์ เงินตราเข้ารหัสลับที่ติดเทรนด์ทั่วโลก

เริ่มการเทรดเลยตอนนี้ >

ลูกค้าใหม่สามารถรับรางวัลมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ!