
- บทนำ
- การเทรดหุ้นคืออะไร
- ทำไมต้องเทรดหุ้น
- ประเภทต่าง ๆ ของเทรดเดอร์หุ้น
- หุ้นรูปแบบต่าง ๆ
- หุ้น VS. สัดส่วนของหุ้น ต่างกันอย่างไร
- ลงทุนหุ้น VS. เทรดหุ้น ต่างกันอย่างไร
- ตลาดหุ้นทำงานอย่างไร
- ราคาหุ้นถูกขับเคลื่อนอย่างไร
- ประเภทออเดอร์หุ้น
- ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง
- ขั้นตอนเริ่มเล่นหุ้นฉบับมือใหม่
- กลยุทธ์การเทรดหุ้นที่ดีที่สุด
- วิธีต่าง ๆ ในการเทรดหุ้น
- เทรดหุ้นต่างประเทศด้วย CFD
- ข้อดี VS. ข้อด้อย การเทรดหุ้นต่างประเทศด้วย CFD
- ควรขายหุ้นตอนไหน
- เทรดหุ้นแล้วได้อะไร
- การจัดการความเสี่ยงของการเทรดหุ้น
- ฉันเหมาะกับการเทรดหุ้นหรือเปล่า
Stock 101 คู่มือเล่นหุ้นฉบับมือใหม่
เล่นหุ้นตัวไหนดี… มือใหม่เริ่มเล่นหุ้นออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงมีความเข้าใจที่ถูกต้องในพื้นฐานของตลาดหุ้น และวางระบบการเทรดที่รับกับสไตล์ของตัวเอง และด้วยโบรกเกอร์ CFD หุ้นออนไลน์ ให้คุณทำเงินจากตลาดหุ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ
- บทนำ
- การเทรดหุ้นคืออะไร
- ทำไมต้องเทรดหุ้น
- ประเภทต่าง ๆ ของเทรดเดอร์หุ้น
- หุ้นรูปแบบต่าง ๆ
- หุ้น VS. สัดส่วนของหุ้น ต่างกันอย่างไร
- ลงทุนหุ้น VS. เทรดหุ้น ต่างกันอย่างไร
- ตลาดหุ้นทำงานอย่างไร
- ราคาหุ้นถูกขับเคลื่อนอย่างไร
- ประเภทออเดอร์หุ้น
- ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง
- ขั้นตอนเริ่มเล่นหุ้นฉบับมือใหม่
- กลยุทธ์การเทรดหุ้นที่ดีที่สุด
- วิธีต่าง ๆ ในการเทรดหุ้น
- เทรดหุ้นต่างประเทศด้วย CFD
- ข้อดี VS. ข้อด้อย การเทรดหุ้นต่างประเทศด้วย CFD
- ควรขายหุ้นตอนไหน
- เทรดหุ้นแล้วได้อะไร
- การจัดการความเสี่ยงของการเทรดหุ้น
- ฉันเหมาะกับการเทรดหุ้นหรือเปล่า
บทนำ
ตลาดหุ้น หรือตลาดหลักทรัพย์คือ กลุ่มของตลาดที่มีการซื้อและขายหุ้น (หุ้น คือ สัดส่วนของความเป็นเจ้าของในธุรกิจ) ระหว่างนักลงทุนด้วยกัน หรือนักลงทุนกับบริษัทมหาชนจำกัดในตลาดหลักทรัพย์ โดยปกติหมายถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีการซื้อและขายหุ้นระหว่างกัน นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ตลาดหุ้นในการวัดประสิทธิภาพของเศรษฐกิจทั้งหมดหรือภาคส่วนใดส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจประเทศหนึ่ง ๆ ได้
ในประเทศไทย มีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กำกับดูแลกิจกรรมในตลาดหุ้น ทำหน้าที่เป็นตลาดรองสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างนักลงทุน และทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมบริษัทมหาชนจำกัดที่เข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กับบรรดานักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ
ไม่ว่าจะเล่นหุ้นระยะสั้นหรือระยะยาว สิ่งสำคัญต้องเข้าใจพื้นฐานการทำงานของตลาดหุ้น ราคาหุ้นมีขึ้นและลงตามความต้องการของตลาด ด้วยปัจจัยจำเพาะหรือหลายปัจจัยร่วม บางกรณี ราคาหุ้นหนึ่ง ๆ อาจมิได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัจจัยหนึ่ง แต่เป็นผลพวงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ไม่ว่าจะในประเทศหรือนอกประเทศ
ดังนั้น เมื่อมีเหตุการณ์หนึ่ง ๆ เกิดขึ้น จะส่งผลต่ออารมณ์ของตลาด ส่งผลต่อความต้องการซื้อหุ้น (อุปสงค์สูง) มากกว่าขายหุ้น (อุปทานต่ำ) ราคาก็จะสูงขึ้น สิ่งที่ตรงกันข้ามคือความจริงเมื่อมีคนต้องการขายมากกว่าซื้อ
บริษัทที่เทรดในตลาดหุ้นมีหุ้นจดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งเปรียบเสมือนการประมูลออนไลน์ขนาดใหญ่สำหรับหุ้น มีการแลกเปลี่ยนหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันและตอบสนองนักลงทุนประเภทต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) แสดงรายชื่อบริษัทขนาดใหญ่ที่มีประวัติการเติบโตที่มั่นคงมาอย่างยาวนาน ในทางตรงกันข้าม ตลาดหุ้น NASDAQ จะแสดงรายชื่อบริษัทเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าเป็นส่วนใหญ่ซึ่งอาจมีความเสี่ยงมากกว่าแต่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
การลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็เล่นหุ้นออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตกับสมาร์ทโฟน การลงทุนในหุ้นจึงเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างความมั่งคั่งตามกาลเวลา
คู่มือสำหรับมือใหม่เล่นหุ้นสู่นี้จะสอนทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับวิธีการทำงานของตลาดหุ้น สิ่งที่ขับเคลื่อนราคาหุ้น และวิธีที่ดีเริ่มต้นลงทุนในหุ้น รวมถึงวิธีการขยายพอร์ตการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศด้วยการเทรด CFD
คุณกำลังมองหาการลงทุนในตลาดหุ้นแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ไม่ต้องกังวล เราพร้อมให้ความช่วยเหลือ คู่มือสำหรับมือใหม่เล่นหุ้นสู่ตลาดหุ้นนี้จะให้ภาพรวมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของตลาดหุ้น การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น และวิธีเริ่มต้นลงทุนในหุ้น ในบทความนี้ทั้งหมด จะไม่บอกคุณว่าเล่นหุ้นตัวไหนดี เพราะความชอบ และเป้าหมายการลงทุนในหุ้นของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราอยากให้คุณได้มีความเข้าใจ และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพอร์ตหุ้นเอง
การเทรดหุ้นคืออะไร
การเทรดหุ้น หมายถึง กระบวนการซื้อและขายหุ้นในตลาดหุ้นที่ทุกวันนี้สามารถดำเนินการออนไลน์ ในการสร้างรายได้จากการเทรดหุ้น คุณต้องเข้าใจวิธีการทำงานของตลาดหุ้นและมีกลยุทธ์ในการเทรด เพื่อให้การเทรดหุ้นนั้นไม่ใช่การพนันขันต่อ เพียงมีบัญชีเทรดหุ้นกับโบรกเกอร์ออนไลน์
วิธีในการเล่นหุ้นหรือเทรดหุ้นนั้น หมายความเท่ากับคุณกำลังซื้อสัดส่วนของบริษัท คุณจะมีฐานะเป็น “ผู้ถือหุ้น” หรือ “Share Holder” ดังนั้นคุณจึงมีสิทธิ์ได้รับส่วนหนึ่งของผลกำไรของบริษัทในรูปของ “เงินปันผล” หรือ Divident
อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นเพื่อรับเงินปันผลเป็นกระแสเงินสดนั้น อาจต้องกินเวลานานหน่อยกว่าจะถึงรอบการจ่ายปันผล และคุณอาจต้องลงทุนเป็นเงินมาก ๆ เพื่อให้มีปันผลในรูปแบบที่เทียบเท่ากับการทำงานประจำ
จึงนั้นมีอีกหนึ่งวิธีในการเล่นหุ้นคือ “การเล่นหุ้นระยะสั้น” ด้วยการเทรดแบบรายวัน หรือรายสัปดาห์ เพื่อทำเงินจากส่วนต่างราคาของหุ้น แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงพอสมควร ดังนั้น มือใหม่ลงทุนท่านไหนคิดจะเทรดรายวัน คุณต้องมีความกระตือรือร้นในการติดตามข่าวสารการเงินที่จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้นที่สนใจ
หลายคนเล่นหุ้นระยะสั้นเป็นอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพเต็มเวลาหรือเป็นงานอดิเรกที่ทำแบบพาร์ทไทม์ การเทรดหุ้นเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้ แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะคุณสามารถสูญเสียเงินได้อย่างง่ายดายเท่าที่คุณจะทำได้
เทรดเดอร์หุ้นมือใหม่ สามารถทดลองวิธีการและตรวจสอบดูก่อนได้ว่า การเทรดหุ้นระยะสั้นนั้น ถูกจริตของตนเองหรือไม่ ไม่มีคำตอบตายตัวว่าหุ้นตัวไหนดี ต้องเทรดตอนไหน ขายตอนไหน ทุกสิ่งขึ้นกับลักษณะนิสัยของแต่ละคนโดยเฉพาะ สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มต้นด้วยเงินทุนจำนวนเล็ก ๆ ก่อน และสร้างพอร์ตหุ้นอย่างช้า ๆ การเทรดหุ้นอาจเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างรายได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ามีความเสี่ยงอยู่เสมอ นี่คือสิ่งที่นักเล่นหุ้นมือใหม่ควรรวมไว้ในแผนการบริหารความเสี่ยง ที่เราจะกล่าวถึงต่อไปด้วย
ทำไมต้องเทรดหุ้น
หลายท่านเลือกการเทรดหุ้นเป็นทั้งงานอดิเรกเพิ่มรายได้ และบางท่านเลือกเทรดหุ้นออนไลน์เป็นอาชีพ เพราะว่าการเล่นหุ้นออนไลน์นั้นสามารถทำเงินอย่างรวดเร็ว (รวมถึงขาดทุนด้วย หากไม่วางแผนดี ๆ) ด้วยศักยภาพในการสร้างผลกำไรจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น ความน่าสนใจของตลาดหุ้นจึงไม่อาจปฏิเสธได้ และนี่คือเหตุผลดี ๆ ที่ทำไมคุณเองก็ควรเริ่มลงทุนหุ้นได้เช่นกัน
ตลาดหุ้นเป็นเรื่องของจังหวะเวลา
หากคุณซื้อหุ้นในเวลาที่เหมาะสม คุณสามารถทำเงินได้มากมายในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ว่าจะสั้นขนาดในหนึ่งวัน หรือไม่กี่ชั่วโมง หรือหากราคายังไม่ดี ก็ยังสามารถถือครองไว้คอยเวลาที่ราคาดี ๆ ก่อนค่อยขายก็ได้
ตลาดหุ้นกับการกระจายความเสี่ยง
ด้วยการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของอุตสาหกรรมและประเทศ คุณสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำเงินจากหุ้นต่าง ๆ ได้สูงสุด การกระจายความเสี่ยงนี้ทำให้คุณสามารถฝ่าฟันทั้งขาขึ้นและขาลงของตลาดได้ ไม่มีหุ้นตัวไหนที่จะดีที่สุดตลอดกาล และไม่มีใครกำหนดอนาคตตลาดหุ้นได้ เว้นแต่ต้องกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นต่างประเทศ ต่างอุตสาหกรรม ก็จะช่วยลดความสูญเสียยามตลาดเป็นขาลงได้
ตลาดหุ้นเป็นเรื่องของ Leverage
ข้อนี้เป็นเอกลักษณ์สำคัญที่สุดของการเล่นหุ้นออนไลน์ ด้วยการใช้ Leverage คุณจึงสามารถควบคุมจำนวนหุ้นได้มากกว่าที่คุณจะจ่ายได้ทั้งหมด สิ่งนี้ทำให้คุณสามารถขยายผลกำไร (หรือขาดทุน) โดยขึ้นอยู่กับว่าหุ้นมีผลประกอบการดีเพียงใด
สำหรับมือใหม่ลงทุนหุ้น เรายังไม่ขอแนะนำให้คุณใช้ Leverage ในการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วย CFD เพราะมันมีเรื่องของกรอบเวลาเข้ามาเป็นตัวแปร และหกาคุณคาดการณ์ราคาหุ้นผิดคาด ก็เสี่ยงต่อความสูญเสียทั้งหมดได้
ตลาดหุ้นมีสภาพคล่องสูง
ถ้าคุณจะเอาดีทางการเล่นหุ้นระยะสั้น การรู้ว่าจะเล่นหุ้นตัวไหนดีที่มีมีสภาพคล่องสูงกว่าหุ้นตัวอื่น ๆ ที่มูลค่าทางตลาดต่ำกว่า จะช่วยให้การเทรดหุ้นออนไลน์ไปได้ถึงเป้าหมายตามแผนมากที่สุด เพราะไม่ต้องรอคนมาซื้อนาน ๆ และเข้าพอเข้าตลาด ทำกำไรได้ ก็หันไปเล่นหุ้นตัวอื่น ๆ ต่อเลย หรือจบสำหรับดีลวันนั้นเลยก็ได้
นี่เป็นเพียงเหตุผลดี ๆ ส่วนหนึ่งที่ทำไมคุณเองก็สามารถเริ่มลงทุนหุ้นออนไลน์ได้ เพียงศึกษาหาความรู้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทดลองวิธีการด้วยเงินจำนวนน้อย ๆ เพื่อให้เข้าใจวิธีเล่นหุ้น ก็สามารถรวยด้วยหุ้นได้ไม่ยาก
ประเภทต่าง ๆ ของเทรดเดอร์หุ้น
กลยุทธ์การเทรดในตลาดหุ้นออนไลน์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเป้าหมายและกรอบเวลาของเทรดเดอร์แต่ละท่าน เทรดเดอร์บางรายอาจเทรดเพียงไม่กี่นาทีหรือหลายชั่วโมง ในขณะที่บางรายอาจถือครองหุ้นไว้เป็นวัน สัปดาห์ หรือนานกว่านั้น
มีกลยุทธ์ต่าง ๆ มากมายที่สามารถใช้ในตลาดหุ้นได้ และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่จะต้องระบุกลยุทธ์ที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุดก่อนที่จะเข้าสู่ตลาด กลยุทธ์การเทรดหุ้นระยะสั้นบางกลยุทธ์ ได้แก่ Position Trading Swing Trading Day Trtading และ Sclap Trading
Position Trading
Position Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดในตลาดหุ้นระยะสั้นที่ช่วยให้นักลงทุนระบุตัวเองก่อนเข้าสู่ตลาด กลยุทธ์นี้มีลักษณะเฉพาะคือการเปิดสถานะซื้อหรือขายในหุ้น ถือไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้วจึงขาย เทรดเดอร์ตำแหน่งโดยทั่วไปเทรดในการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่าข่าวหรือปัจจัยพื้นฐาน
Position Trading เกี่ยวข้องกับการเข้ารับตำแหน่งในการรักษาความปลอดภัยและถือไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 2-4 สัปดาห์ ในช่วงเวลานี้ เทรดเดอร์จะตรวจสอบความปลอดภัยเพื่อดูว่ามันทำงานเป็นอย่างไร หากการรักษาความปลอดภัยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เทรดเดอร์จะทำกำไร หากการรักษาความปลอดภัยมีมูลค่าลดลง ก็จะต้องสูญเสีย
ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องมีแนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ คุณหวังว่าจะบรรลุผลสำเร็จอะไรจากการเข้ารับตำแหน่งนี้ กลยุทธ์ทางออกคืออะไร ระดับการยอมรับความเสี่ยงคืออะไร การตอบคำถามเหล่านี้ก่อนที่คุณจะเข้าสู่การเทรดใด ๆ จะช่วยให้คุณมีสมาธิและมีระเบียบวินัยตลอดระยะเวลาของการเทรด
Swing Trading
Swing Trading เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดหุ้นระยะสั้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำเงินในตลาดหุ้นโดยไม่ต้องลงทุนระยะยาว หลายคนเลือก Swing Trading เพราะช่วยให้ได้ประโยชน์จากขาขึ้นและขาลงตามธรรมชาติของตลาด
กุญแจสู่ความสำเร็จของ Swing Trading คือการระบุตัวตนก่อนเข้าสู่ตลาด คุณต้องรู้ว่าเป้าหมายคืออะไรและคุณเต็มใจที่จะเสี่ยงอะไร เมื่อมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้แล้วจึงสามารถเริ่มมองหาโอกาสในตลาดได้
จุดเริ่มต้นที่ดีของ Swing Trading คือการดูกราฟการเคลื่อนไหวของตลาดที่ผ่านมา สิ่งนี้จะช่วยให้คุณระบุรูปแบบที่คุณสามารถใช้เพื่อประโยชน์ได้ นอกจากนี้ คุณควรจับตาดูเหตุการณ์ข่าวในปัจจุบัน เนื่องจากมักจะให้เบาะแสเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคต
เมื่อคุณพบโอกาสแล้ว คุณต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด การเทรดแบบสวิงเป็นเรื่องของจังหวะเวลา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องเข้าและออกจากการเทรดอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องยากหากคุณยังใหม่กับตลาด แต่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องเรียนรู้หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องจำไว้เมื่อเทรดแบบสวิงคือเป้าหมายคือการสร้างรายได้ ซึ่งหมายความว่าคุณควรเต็มใจที่จะทำกำไรเมื่อมีให้ ทว่า คุณต้องเตรียมพร้อมสำหรับการขาดทุนเนื่องจากเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในการเทรดทุกประเภท
Day Trading
การเทรดรายวันเป็นกลยุทธ์การเทรดในตลาดหุ้นระยะสั้นซึ่งเทรดเดอร์มองหาประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเล็กน้อย กุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรดรายวันคือการระบุตัวตนก่อนเข้าสู่ตลาด ซึ่งหมายถึงการรู้จักยอมรับความเสี่ยง เป้าหมายการลงทุน และภาพรวมทางการเงิน
เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเทรดระหว่างวัน สิ่งสำคัญคือต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับตลาดหุ้นและปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้น สิ่งสำคัญคือต้องมีกลยุทธ์ในการเข้าและออกจากการเทรด เทรดเดอร์รายวันจำนวนมากใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อตัดสินใจว่าเมื่อใดควรซื้อและขายหุ้น
เมื่อคุณมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณก็สามารถเริ่มมองหาโอกาสในตลาดได้ การเทรดระหว่างวันอาจเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้ แต่ก็เป็นความพยายามที่มีความเสี่ยงเช่นกัน หากคุณไม่ระวัง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
Sclap Trading
Sclap Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดหุ้นออนไลน์ระยะสั้นที่ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุตัวตนก่อนเข้าสู่ตลาด กลยุทธ์นี้อยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าเป็นไปได้ที่จะทำเงินโดยการซื้อและขายหุ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
เป้าหมายของ Sclap Trading คือจับการเคลื่อนไหวของราคาเล็กน้อยในตลาด ในการทำเช่นนี้ เทรดเดอร์ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและเครื่องมือสร้างกราฟที่หลากหลาย พวกเขายังใช้กฎพื้นฐานบางประการเช่นการซื้อเมื่อราคาต่ำและขายเมื่อราคาสูง
กฎเหล็กของ Sclap Trading คือการบริหารความเสี่ยง เนื่องจากการเทรดดำเนินไปอย่างรวดเร็ว จึงมีโอกาสที่จะขาดทุนได้เสมอ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงจำเป็นต้องมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่มั่นคงก่อนดำเนินการเทรดใด ๆ ด้วยการเทรด Sclap Trading
การเทรดระหว่างวันอาจทำให้นักเล่นหุ้นมือใหม่เกิดความเครียดได้มากและต้องใช้การตัดสินใจที่ถูกต้องและรวดเร็ว และหุ้นที่เหมาะกับการเทรดระยะสั้น ควรเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง อยู่ในความสนใจของตลาด สิ่งเหล่านี้คุณสามารถค้นพบได้จากการติดตามข่าวสารการเงินประจำวัน และไม่ว่าเทรดเดอร์จะเลือกใช้กลยุทธ์ใด สิ่งสำคัญคือต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้น
หุ้นรูปแบบต่าง ๆ
ประเภทที่ต่างกันของหุ้น แสดงออกถึงสิทธิ์ที่แตกต่างกันในการกำหนดเสียงโหวตในการบริหารกิจการงานของบริษัท อย่างไรก็ดี หากคุณไม่ได้ให้น้ำหนักกับสิทธิ์การลงมติบริหารจัดการบริษัท คุณจะซื้อหุ้น (สามัญ) เมื่อไรก็ได้ โดยไม่ต้องสนใจเครื่องหมายยกเว้นสิทธิ์ต่อท้ายหุ้น
หุ้นสามัญ (Common Stock)
หุ้นสามัญ (Common Stock) ให้สิทธิแก่นักลงทุนในการออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น เช่นเดียวกับสิทธิในการรับเงินปันผล หุ้นสามัญเป็นหุ้นพื้นฐานที่สุด เมื่อคุณซื้อหุ้นสามัญ คุณจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่คุณเป็นเจ้าของหุ้น
ในฐานะผู้ถือหุ้น คุณมีสิทธิในทรัพย์สินและรายได้ของบริษัท คุณยังมีสิทธิในการออกเสียง ดังนั้นคุณจึงสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของบริษัทได้
หุ้นบุริมสิทธิ์ (Preferred Stock)
หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock) ไม่มีสิทธิออกเสียง แต่มีลำดับความสำคัญเหนือผู้ถือหุ้นสามัญเมื่อได้รับเงินปันผล และเงินปันผลที่ได้รับคือการจ่ายที่บริษัทจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นจากผลกำไร และมักจะจ่ายเป็นรายไตรมาส
นอกจากนี้ หากบริษัทล้มละลายและเริ่มชำระบัญชีสินทรัพย์ ในกรณีนี้ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์จะได้รับเงินก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ
หุ้น VS. สัดส่วนของหุ้น ต่างกันอย่างไร
เมื่อพูดถึงหุ้น (Stock) และสัดส่วนของหุ้น (Share) อาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าทั้ง 2 นั้นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
หุ้น (Stock) คือหน่วยความเป็นเจ้าของในบริษัท ในขณะที่สัดส่วนของหุ้น (Share) เป็นส่วนหนึ่งของมูลค่ารวมของบริษัท กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อคุณเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัทใด ๆ เท่ากับว่าคุณเป็นเจ้าของส่วนเล็ก ๆ ของบริษัทนั้น
โดยปกติแล้ว หุ้นจะถูกซื้อและขายในตลาดหุ้นที่มีไว้แลกเปลั่ยนกันระหว่างนักลงทุนใหญ่เล็ก ในขณะที่สัดส่วนของหุ้น สามารถซื้อและขายได้โดยตรงผ่านบริษัทที่ออกหุ้นที่มักเสนอขายเป็นล็อตใหญ่ ๆ กำหนดเงินขั้นต่ำไว้หลักแสนหรือหลักล้านบาท
ในขณะที่สัดส่วนของหุ้น หมายถึง การเข้าครอบครองส่วนหนึ่งของบริษัทและกลายเป็นผู้ถือหุ้น ในทางกลับกัน ไม่ได้เทรดในตลาดหลักทรัพย์ และมักหมายถึงการลงทุนระยะยาว รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล (ส่วนของผู้ถือหุ้น)
ลงทุนหุ้น VS. เทรดหุ้น ต่างกันอย่างไร
มี 2 วิธีใหญ่ ๆ ในการทำเงินจากตลาดหุ้น นั่นคือการลงทุนซื้อถือยาว และการเทรดหุ้น ทั้ง 2 ต่างก็มีคุณลักษณะเฉพาะ และเครื่องมือที่จำเป็นแตกต่างกัน และเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเส้นทางอาชีพในตลาดหุ้น และเป็นตัวกำหนดว่า คุณจะเหมาะจะเล่นหุ้นเป็นอาชีพหรือเน้นการลงทุนหุ้นคุณค่าเพื่อรับผลตอบแทนระยะยาว
การลงทุนในหุ้น
การลงทุนในหุ้น เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มพูนความมั่งคั่งในระยะยาว และการเพิ่มพูนมูลค่าให้มากขึ้นในอนาคตตามการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
เมื่อบริษัทเติบโตและมีผลกำไรมากขึ้น การลงทุนที่มีอยู่เดิมจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วยพลังของดอกเบี้ยทบต้น สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินและสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวได้
เมื่อคุณเป็นนักลงทุนหุ้นมือใหม่ ต้องวางแผนและคัดสรรหุ้นเข้าพอร์ตด้วยการกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ประเทศต่าง ๆ รวมถึงการทำ Asset Allocation ที่เป็นการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ชนิดต่าง ๆ ด้วย
ไม่มีคำตอบตามตัวว่าคุณควรซื้อหุ้นตัวไหนดี ดังนั้น คุณจึงไม่ควรนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในหุ้นตัวเดียว เพื่อที่คุณจะมีโอกาสขาดทุนน้อยลงหากหุ้นตัวหนึ่งมีมูลค่าลดลง
คุณสามารถเพิ่มโอกาสทำกำไรด้วยการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ แต่ทั้งนี้ก็มีควาเมสี่ยงที่ต้องควบคุมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน สภาพการเงิน เศรษฐกิจ สังคมของประเทศนั้น ๆ
สุดท้าย ในการลงทุนหุ้นระยะยาว อย่าลืมว่าอย่าหวั่นไหวไปกับความผันผวนระยะสั้น ราคาหุ้นมีขึ้นและลงตลอดเวลา ต้องลงทุนเลือกหุ้นตามเทรนด์ของตลาดหรือเศรษฐกิจของประเทศ และอย่าใจร้อนนำเงินปันผลหรือขายทำกำไรไปเสียก่อน
การเทรดหุ้น
การเทรดหุ้นมีหลายประเภท แต่การเทรดหุ้นระยะสั้นเป็นที่นิยมมากที่สุดประเภทหนึ่ง นี่เป็นเพราะเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มรายได้อย่างมั่นคง การเทรดหุ้นระยะสั้นเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายหุ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ โดยปกติภายใน 2 สามวันหรือหลายสัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในตลาดและทำกำไรได้ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นในตลาดหุ้นหากคุณยังใหม่ต่อการลงทุน
การเทรดหุ้นระยะสั้นเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มรายได้อย่างมั่นคง สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจพื้นฐานของการเทรดหุ้นก่อนที่จะเริ่ม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เมื่อคุณเทรดหุ้น คุณกำลังซื้อหุ้นของการเป็นเจ้าของในบริษัทโดยพื้นฐานแล้ว คุณสามารถซื้อและขายหุ้นผ่านนายหน้าได้ และราคาของหุ้นจะขึ้นลงตามอุปสงค์และอุปทาน หากคุณคิดว่าราคาหุ้นจะสูงขึ้น คุณสามารถซื้อและขายในภายหลังในราคาที่สูงขึ้นเพื่อทำกำไร ในทำนองเดียวกัน หากคุณคิดว่าราคาหุ้นจะลดลง คุณสามารถขายหุ้นตอนนี้และซื้อคืนในภายหลังในราคาที่ถูกลง ราคาหุ้นอาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย รวมถึงข่าวเศรษฐกิจ การประกาศของบริษัท และเหตุการณ์ทั่วโลก โดยการเฝ้าดูตลาดอย่างใกล้ชิดและตัดสินใจอย่างรอบรู้ คุณสามารถทำกำไรผ่านการเทรดหุ้นระยะสั้นได้
ตลาดหุ้นทำงานอย่างไร
หากต้องการตรวจสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งแบบเร็ว ๆ การดูสรุปภาพรวมตลาดหุ้นสามารถใช้วัดประสิทธิภาพของเศรษฐกิจทั้งหมดหรือภาคส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบ ณ เวลาหนึ่งได้
จากตัวอย่างด้านบน คือภาพรวมตลาดหุ้นไทยจากเว็บไซต์ Market Watch ในกรอบเวลา 3 เดือน ราคาที่แสดงและกราฟชี้ให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดหุ้นไทยในรอบ 3 เดือน ซึ่งเป็นข้อมูลราคาที่ได้มาจากราคารายวันตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ในปัจจุบัน ดัชนี SET อยู่ที่ 1,585.10 บาท
วิธีการทำงาน
เมื่อนักลงทุนซื้อหุ้นจากตลาดหุ้น หรือที่เรียกว่าตลาดรอง พวกเขาจะกลายเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท ราคาของหุ้นแต่ละตัวถูกกำหนดโดยจำนวนเงินที่ผู้คนยินดีจ่าย ราคานี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเมื่อนักลงทุนซื้อและขายหุ้น
บริษัทต่าง ๆ เข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อหาเงินทุนมาขยายธุรกิจหรือชำระหนี้ การเข้าตลาดยังช่วยให้บริษัทสามารถแสดงชื่อและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การขายและผลกำไรที่มากขึ้น
วิธีในการเล่นหุ้นออนไลน์นั้น เพียงเปิดบัญชีเทรดหุ้นกับโบรกเกอร์ ถ้าเป็นมือใหม่จะได้ใช้บัญชีหุ้นแบบ Cash Balance หรือเรียกว่าบัญชีเติมเงิน บัญชีประเภทนี้เหมาะกับมือใหม่ลงทุนหุ้น เพราะคุณจะซื้อหุ้นได้ภายใต้วงเงินที่ฝากเข้าไป ป้องกันการซื้อเกินตัว และทำให้ง่ายต่อการควบคุมต้นทุน
ประเภทของตลาด
ตลาดหุ้นมี 2 ประเภทหลัก คือ ตลาดหลักและตลาดรอง
ตลาดหลักคือที่ที่มีการเสนอขายหุ้นใหม่ต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก หรือที่เรียกว่าหุ้น IPO ที่นักลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาวสามารถซื้อได้ในราคาที่ดี และสะสมมูลค่า เพื่อไปขายทำกำไรในตลาดรองได้
ตลาดรองเป็นที่ที่หุ้นที่ออกแล้วสามารถเทรดระหว่างนักลงทุนได้ผ่านโบรกเกอร์หุ้นออนไลน์ หุ้นที่เราทำการเทรดกันในตลาดหลักทรัพย์ ก็เรียกว่าหุ้นตลาดรอง
ความผันผวนคืออะไร
ความผันผวนของหุ้น เป็นตัวชี้วัดว่าราคาของหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใดเมื่อเวลาผ่านไป มักใช้เป็นมาตรวัดความเสี่ยง เนื่องจากหุ้นที่มีความผันผวนสูงมักจะคาดเดาไม่ได้ (และเสี่ยงกว่า) มากกว่าหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ ความผันผวนสามารถวัดได้โดยการดูราคาในอดีตของหุ้นหรือโดยใช้ตัวเลือก
ก่อนจะเริ่มต้นลงทุน การศึกษาความผันผวนของหุ้นเป็นหนึ่งในปัจจับสำคัญของการบริหารความเสี่ยงการเล่นหุ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุนลง
ราคาหุ้นถูกขับเคลื่อนอย่างไร
ไม่มีวิธีที่รับประกันได้ว่าจะสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในอนาคตได้ แต่การรู้ว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานอย่างไรสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น
ปัจจัยดังกล่าว เช่น นโยบายการค้า การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง การเข้ารับตำแหน่งหรือลาออกของผู้บริหารบริษัทนั้น ๆ ราคาของหุ้นขับ้คลื่อนด้วยอารฒณ์ของตลาด หากคุรใช้อารมณ์นำการเทรดหุ้น นั่นก็เป็นแค่เพียงการเล่นหุ้น จะขาดทุนหรือกำไร ก็สุดแท้แต่โชคชะตา
หากแต่เป็นการลงทุนในหุ้นหรือเทรดเหุ้น คุณจะให้ความสนใจกับประเด็นดังกล่าว แล้ววิเคราะห์ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นไรต่อไป แล้วจัดการลงทุนไปตามแนวโน้มนั้น ๆ
ราคาหุ้นถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน ราคาของหุ้นจะสูงขึ้นหากมีความต้องการมากกว่าที่มีอุปทาน (เช่น มีคนต้องการซื้อมากกว่าที่มีหุ้นอยู่) ในทางกลับกัน ราคาของหุ้นจะลดลงหากมีอุปทานมากกว่าอุปสงค์ (เช่น มีคนต้องการขายหุ้นมากกว่าที่มีผู้ซื้อ)
ประเภทออเดอร์หุ้น
หากคุณเป็นมือใหม่เล่นหุ้นไทยออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Streaming ไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้นระยะสั้นหรือการลงทุนหุ้นระยะยาว คุณจะพบว่ามีตัวเลือกการส่งคำสั่งเทรดให้เลือกถึง 6 แบบ ได้แก่
Limit
ออเดอร์หุ้นแบบ limit คือการซื้อหรือขายตามราคาที่เทรดเดอร์ต้องการ ในกรณีที่จะขาย เมื่อระบบจับคู่ราคาที่ตรงกันได้แล้ว คุณจะขายได้ทันที และเช่นเดียวกันในการซื้อ แต่ก็มีข้อเสียคือ ถ้าราคาระหว่าง Bid กับ Offer ยังไม่ตรงกัน รายการออเดอร์จะยังค้างอยู่ อย่างน้อยก็คือถึงสิ้นวันทำการตลาดหุ้น
จากตัวอย่างด้านบน หากคุณส่งคำสั่งซื้อระหว่าง 2.75-2.79 บาท หรือส่งคำสั่งขายระหว่าง 2.70 - 2.74 บาทก็สามารถปิดออเดอร์ได้ทันที เพราะมีคนรอจะซื้อหรือรอจะขายอยู่แล้ว
ATO
การกำหนดราคาแบบ ATO หรือเทรดที่ราคา Pre-Open ของทุกวันทำการ ในการเลือกคำสั่งนี้ คุณจะไม่สามารถระบุราคาที่ต้องการได้ และอาจจะไม่สามารถปิดออเดอร์ได้แม้ตลาดเปิดแล้วก็ตาม
หลายคนใช้ออเดอร์การซื้อหุ้น ATO เพื่อให้ได้หุ้นที่ต้องการในจำนวนที่ต้องการ โดยไม่ได้สนใจเรื่องของราคา ขอแค่ให้มีเข้าพอร์ต หรือขายออกไปได้ก็พอ
ATC
การกำหนดออเดอร์แบบ ATC นั้นตรงกันข้ามกับออเดอร์แบบ ATO คือเป็นการส่งคำสั่งเทรด ณ ราคาปิดตลาด และก็ไม่สามารถระบุราคาได้ ระบุได้เพียงชื่อหุ้นและจำนวน
ในกรณีที่จะซื้อ หากราคาสุดท้ายก่อนปิดตลาด เกินกว่าวงเงิน Cash Balance ที่มีอยู่ ก็ไม่สามารถซื้อได้ และออเดอร์นั้นจะถูกยกเลิกโดยอัตโนัมติ และหากต้องการขาย การขายที่ราคาปิดก็ไม่ได้การันตีว่าจะไม่ขาดทุน เพราะไม่มีใครทราบว่าราคาจะวิ่งไปถึที่เท่าไร แล้วอยู่ในแดนขาดทุนของคุรเองหรือเปล่า
MP
ราคาหุ้นแบบ MP ในแอปพลิเคชัน Streaming คือการซื้อหรือขายหุ้นในจำนวนที่ต้องการตามราคาตลาด ณ เวลาที่ส่งคำสั่งเทรด
ถ้าคุณจะขายที่ราคา MP จะได้ราคาที่ราคา Bid ที่สูงที่สุด ในทางตรงกันข้าม หากคุณต้องการซื้อที่ราคา MP จะซื้อได้ที่ราคาที่ต่ำที่สุดของราคา Offer
จากตัวอย่างด้านบน ที่ DR NDX01 ถ้าต้องการซื้อที่ราคา MP จะซื้อได้ที่ 11.70 บาท ถ้าต้องการขายที่ราคา MP จะขายได้ที่ 11.60 บาท เทรดเดอร์ที่เลือกราคา MP คือผู้ที่ต้องการซื้อหรือขายทันที แน่นอนว่า ถ้าเป็นการซื้อ ก็ต้องซื้อแพงกว่าเพื่อน (11.70 บาท) ถ้าเป็นการขาย ก็จะต้องขายที่ราคาถูกกว่าเพื่อน (11.60 บาท)
MP-MKT
เงื่อนไขออเดอร์แบบ MP-MKT นี้ จะเป็นการซื้อที่ราคาตลาด ณ ตอนส่งคำสั่งเช่นเดียวกับราคา MP แต่ถ้ามีจำนวนล็อตที่เหลือจากราคา MP ณ ตอนนั้น รีะบบก็จะตัดทิ้งไปในทันที
เช่น ถ้าคุณกำลังจะซื้อ (Bid) 1,500 หน่วย ที่ราคาหน่วยละ 5 บาท และมีคนกำลังจะขาย (Offer) ทั้งหมด 500 หน่วยที่ราคา 5 บาท เมื่อคุณส่งคำสั่ง Bid ออกไป คำสั่งจำนวน 500 หน่วยจะถูกจับคู่ซื้อขาย และที่เหลือ 1,000 หน่วยจะตกไปในทันที ไม่ได้เป็นออเดอร์ค้างไว้ให้เรา
วิธีการออเดอร์ MP-MKT นี้ ตัดความยุ่งยากในการแก้ไขคำสั่งซื้อหรือขายออกไป เพราะหากเป็นคำสั่งแบบ MP จำนวนหน่วยที่ยังไม่ได้รับการจับคู่จะยังค้างอยู่เช่นนั้น ซึ่งไม่รู้ว่าต้องคอยเท่าไร หรืออาจจนถึงปิดตลาดก็ยังจับคู่ไม่ได้เลยก็มี
MP-MKL
คำสั่งซื้อขายหุ้นแบบ MP-MKL ในแอปพลิเคชัน Streaming เป็นการจัดการออเดอร์ตามลำดับของราคาตลาด ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้ ถ้าจำนวนหน่วยที่จับคู่ซื้อขายได้ตามราคาตลาด ณ เวลานั้นยังคงมีเหลืออยู่ ส่วนที่เหลือนั้นจะถูกจับคู่กับราคาตลาดลำดับถัดไป
วิธีการส่งคำสั่งซื้อขายแบบ MP-MKL นี้ จะช่วยให้คุณซื้อขายหุ้นตามจำนวนที่ต้องการได้ทั้งหมด แต่ราคาอาจมีความแตกต่างกัน ขึ้นกับปริมาณการซื้อขายของฝั่งตรงข้าม ณ เวลานั้น
เช่น คุณต้องการซื้อหุ้น (Bid) 1,000 หน่วย ในเวลานั้นมีคนต้องการขาย (Offer) ที่ราคา 2.00 บาท จำนวน 800 หุ้น และ 1.90 บาท จำนวน 300 หุ้น ที่ 800 หน่วยแรกคำสั่งของหุ้น 1,000 หน่วยนั้น จะถูกซื้อขายที่ราคา 2.00 บาท ส่วนที่เหลืออีก 200 หน่วย จะซื้อขายที่ราคา 1.90 บาท
ความเข้าใจเรื่องออเดอร์หุ้นทั้ง 6 แบบนี้ เป็นสิ่งที่มือใหม่เริ่มเล่นหุ้นออนไลน์ทุกคนควรทำความเข้าใจ เพราะว่านี่คือพื้นฐานหนึ่งในการควบคุมและจัดการต้นทุน ผลกำไร และการขาดทุน หากซื้อโดยดูเพียงความสะดวกอย่างเดียวตามราคาตลาด MP ก็อาจได้ของที่แพงเกินราคา หรือขายถูกเกินไปก็เป็นได้ ในขระที่เลือกใช้ออเดอร์แบบ MP-MKT หรือ MP-MKL ก็อาจไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้
ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง
ตลาดหุ้นมีเวลาทำการเช่นเดียวกับห้างร้าน หรือบริษัททั่วไป การจะเทรดหุ้น ต้องเทรดในเวลาทำการของตลาดหุ้นของประเทศนั้น ๆ หากเป็นหุ้นไทย ก็คงไม่มีปัญหาเท่าไรเพราะเราสามารถจัดสรรเวลาการเทรดได้ไม่ยาก หากแต่เป็นหุ้นต่างประเทศ คุณต้องตรวจสอบและทำแผนการเทรดขึ้นมาว่าตลาดหุ้นที่หุ้นนั้น ๆ จดทะเบียนอยู่นั้นทำการเวลาใด ตรงกับกี่โมงที่เวลาไทย
หากคุณเทรดหุ้นในดัชนี Nasdaq ก็ต้องทราบว่า เวลาทำการของตลาดหุ้น Nasdaq คือตั้งแต่ 4:00 น. ถึง 20:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 11 ชั่วโมง หรือหากเทรดหุ้นญี่ปุ่นที่เวลาท้องถิ่นไวกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง ก็ต้องแพลนการเทรดให้ดี เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสดี ๆ ไป
ตรวจสอบเวลาท้องถิ่นรอบโลกจากเว็บไซต์ Date and Time เพื่อวางแผนการเทรดตามเวลาทำการของตลาดหุ้นต่าง ๆ
ต่อไปนี้เป็นเวลาทำการของตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยเปิดตั้งแต่ 9:30-17:00 น. แต่จะมีแบ่งเป็นช่วง ๆ 3 ช่วง ไม่รวมพักกลางวัน ดังตารางต่อไปนี้จากเว็บไซต์ทางการของตลาดหุ้นแห่งประเทศไทย
ช่วงเวลาการเทรด | เวลา | วิธีการ | รูปแบบการเทรด |
Pre-open Session I | 9.30 a.m. - T1 |
|
|
Trading Session I | T1 - 12.30 p.m. |
|
|
|
| ||
พักกลางวัน | |||
Pre-open Session II | 14.00 p.m. - T2 |
|
|
Trading Session II | T2 - 16.30 p.m. |
|
|
|
| ||
Pre-close | 16.30 p.m. - T3 |
|
|
|
| ||
Off-hour | T3 - 17.00 p.m. |
|
|
Market Close | 17.00 p.m. | ||
เมื่อถึงเวลาปิดทำการตลาดหุ้นทุกสิ้นวัน จะมีการสรุปภาพรวมตลาดให้นักลงทุนทราบ ไม่ว่าจะเป็นดัชนี SET ราคา และปริมาณการเทรด เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ในต่างประเทศ เทรดเดอร์ใช้ข้อมูลสรุปเหล่านี้ในการวางแผนการเทรดขั้นต่อไปว่าควรซื้อ ถือ หรือขายหุ้นใดบ้าง
ข้อยากประการหนึ่งของการเทรดหุ้นต่างประเทศคือช่วงเวลาที่ไม่ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิต ในยามที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังทำการ มีสภาพคล่องสูง คุณจะต้องเข้านอน แต่สิ่งนี้สามรถแก้ไขได้ไม่ยาก ด้วยการวางระบบการเทรดขึ้นมา เลือกและทดลอง ปรับให้เข้ากับตนเอง ในที่สุดคุณจะค้นพบวิธีการ และรูปแบบที่เข้ากับสไตล์ตัวเองมากที่สุด และไม่เบียดเบียนเวลาดี ๆ ของชีวิตไป
ขั้นตอนเริ่มเล่นหุ้นฉบับมือใหม่
คุณเป็นมือใหม่ที่ต้องการดำดิ่งสู่โลกแห่งการลงทุนในตลาดหุ้นหรือไม่ คุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากที่ใดหรือจะสำรวจภูมิทัศน์ทางการเงินที่ซับซ้อนนี้ได้อย่างไร อย่ากลัว! บล็อกโพสต์นี้มีไว้เพื่อแนะนำคุณเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นในตลาดหุ้น ตั้งแต่การทำความเข้าใจคำศัพท์และแนวคิดหลัก การเลือกกลยุทธ์การลงทุน และการเลี่ยงหลุมพรางทั่วไป เราช่วยคุณได้ ดังนั้นคว้าสมุดบันทึกแล้วเริ่มขั้นตอนแรกในการสร้างพอร์ตการลงทุน!
กำหนดรูปแบบการเทรดของตัวเอง
ไม่มีคำตอบเดียวสำหรับคำถามนี้ เนื่องจากกลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่เล่นหุ้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของตลาดที่คุณสนใจ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และความพร้อมด้านเงินทุน ทว่า มีเคล็ดลับทั่วไปบางประการที่สามารถช่วยคุณพัฒนากลยุทธ์การเทรดขึ้นมาได้
เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและยึดมั่นในแผนการนั้น มีการทบทวน ปรับแผนตามความเหมาะสม เทรดเดอร์ที่ดีไม่ใช่ผู้ที่เทรดทุก ๆ ความเคลื่อนไหวของตลาด แต่รอให้เงื่อนไขเฉพาะเกิดขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่การเทรด ระเบียบวินัยนี้มีความสำคัญต่อความสำเร็จระยะยาวในการลงทุนในหุ้น
องค์ประกอบสำคัญอีกประการของเล่นหุ้นออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จคือการบริหารความเสี่ยง มือใหม่เล่นหุ้นควรจำไว้เสมอว่าต้องเทรดด้วยเงินเย็น ห้ามกู้ยืมเงินคนอื่นมาใช้ในการเทรดเด็ดขาด และอย่าเสี่ยงมากกว่า 1-2% เมื่อปฏิบัติตามกฎนี้ คุณจะป้องกันตัวเองจากการขาดทุนจำนวนมากที่อาจทำให้เส้นทางการเทรดหุ้นต้องจบตัวลง
สุดท้าย สิ่งสำคัญคือต้องมีความคาดหวังที่เป็นจริงเมื่อเริ่มต้นในตลาดหุ้น คนส่วนใหญ่จะไม่เป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืนผ่านการเทรด แต่เป็นไปได้ที่จะทำกำไรอย่างสม่ำเสมอเมื่อเวลาผ่านไป หากคุณเข้าหาตลาดด้วยแผนการที่มั่นคง และยังคงอดทนและมีวินัยในการดำเนินการ
กำหนดขั้นตอน
มีหลายวิธีในการเข้าถึงตลาดหุ้น และอาจเป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าจะเริ่มต้นจากที่ใด ทางเลือกหนึ่งคือการตั้งค่าระบบการเทรดเอง นี่เป็นวิธีที่ดีในการควบคุมกลยุทธ์การลงทุนและทำการตัดสินใจตามการวิจัยและการวิเคราะห์เอง
ขั้นแรกของการเซ็ตระบบการเทรดคือ การเลือกโบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์มและเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ และรับการรูปแบบหรือสไตล์การเทรดที่เหมาะกับคุณ
ใด ๆ ก็ตาม การจะหาสิ่งที่เหมาะสมได้ ก็ต้องเกิดจากการทดลอง ต้องมีการทดสอบระบบย้อนหลังเพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายถึงการจำลองการเทรดโดยใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อดูว่าระบบจะดำเนินการอย่างไรในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน
การทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างฐานรากที่มั่นคงเพื่อความสำเร็จในตลาดหุ้น โปรดจำไว้ว่าไม่มีวิธีการใดที่เหมาะกับทุกขนาด สิ่งที่ใช้ได้กับเทรดเดอร์คนหนึ่งอาจไม่ได้ผลสำหรับอีกคนหนึ่ง กุญแจสำคัญคือการค้นหาสิ่งที่เหมาะกับคุณและยึดมั่นกับมัน
เปิดบัญชีเทรดหุ้น
เครื่องมือสำคัญของการเล่นหุ้นออนไลน์บัญชีเทรดหุ้นกับโบรกเกอร์หุ้นออนไลน์ โบรกเกอร์ที่ดี ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าเท่านั้น สภาพแวดล้อมการเทรดจะต้องเอื้อให้ลูกค้าได้รับความสะดวก รวดเร็ว ในการดำเนินการ รวมถึงมีทรัพยากรและเครื่องมือที่จำเป็นในการวิจัยและเทรดหุ้นที่เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา
มีโบรกเกอร์ออนไลน์มากมายให้เลือก ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องเปรียบเทียบคุณสมบัติและค่าธรรมเนียมก่อนเปิดบัญชี เมื่อคุณพบโบรกเกอร์ที่เหมาะกับคุณแล้ว ขั้นตอนการเปิดบัญชีก็ง่ายและรวดเร็ว
จากนั้น โบรกเกอร์จะร้องขอให้คุณยืนยันตัวตน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนหุ้นได้เลย หากเป็นการซื้อหุ้นต่างประเทศ คุณต้องฝากเงินบาทเข้าบัญชีและแปลงเป็นเงินท้องถิ่นของหุ้นต่างประเทศที่จะไปลงทุน เช่น ถ้าต้องการซื้อหุ้นที่สหรัฐอเมริกา ก็ต้องแลกเป็น USD ก่อน และแต่ละโบรกเกอร์จะมีรายละเอียดค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
กำหนดงบประมาณการเทรด
สมมติว่าคุณมีเงินเก็บสะสมไว้จำนวนหนึ่งและพร้อมที่จะเริ่มลงทุนในหุ้น คำถามก็คือคุณจะจัดสรรเงินนั้นอย่างไรจึงจะดีที่สุด เพื่อให้ไม่เสี่ยงจนเกินไป แต่ก็ไม่น้อยจนไม่ได้อะไรกลับมาเลย ในคู่มือลงทุนหุ้นของเราฉบับนี้ จะขอแนะนำการจัดสรรเงินสำหรับมือใหม่เริ่มต้นเ่นหุ้นออกเป็น 3 ก้อน ดังนี้
ก้อนที่ 1 การลงทุนหุ้นระยะยาว
การลงทุนหุ้นเพื่อนรับผลตอบแทนระยะยาวมักมาพร้อมกับการลงทุนในดัชนี ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมดัชนี ที่มีการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเอาชนะตลาดได้เมื่อเวลาผ่านไป หรือใช้เงินก้อนนี้ในการทยอยซื้อหุ้นคุณค่า และสะสมความมั่งคั่งตามสภาพเศรษฐกิจ
ก้อนที่ 2 การลงทุนหุ้นที่มีความเสี่ยงปานกลาง
เงินก้อนที่ 2 นี้ สำหรับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงหุ้นรายตัวหรือ ETF เฉพาะภาคส่วน นอกจากนี้ ยังรวมถึงกองทุนรวมที่เทรดในประเทศไทย ที่มีนโยบายลงทุนใน ETF หุ้นต่างประเทศด้วย
ก้อนที่ 3 การลงทุนเล่นหุ้นระยะสั้น
เงินทุนสำหรับเล่นหุ้นก้อนที่ 3 นี้ เป็นส่วนคุณยินดีจะสูญเสียได้ หากว่าการเล่นหุ้นระยะสั้นไม่เป็นไปตามแผน หรือขาดทุน สำหรับมือใหม่ลงทุนในหุ้น ขอแนะนำให้จัดสรรเงินจำนวนน้อย ๆ ในการทดลองระบบการเทรดที่เซ็ตขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นเมื่อชำนาญตลาดแล้ว ค่อยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นระยะสั้นได้
การจัดสรรเงินลงทุนในหุ้นนั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายโดยรวมและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ลงทุนหุ้นระยะยาวควรประเมินศักยภาพและประสิทธิภาพการลงทุนอยู่เสมอ ๆ เช่น ตรวจสอบและปรับพอร์ตทุก ๆ 3 เดือน 6 เดือน หรือยามที่เกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ทางเศรษฐกิจขึ้น
เรียนรู้การหยุดขาดทุน
เมื่อกล่าวถึงตลาดหุ้น การขาดทุนเป็นส่วนที่เลี่ยงไม่ได้ แต่หากคุณเข้าใจกลไกของการ Stop Loss คุณจะสามารถปกป้องพอร์ตหุ้นจากการถูกโจมตีมากเกินไปเมื่อตลาดสวนทางได้
วิธีหนึ่งในการ Stop Loss แบบไม่ต้องนั่งเฝ้ากราฟคือการใช้ Limit Order หรือคำสั่งซื้อหรือขายหุ้นตามราคาที่กำหนด หากราคาหุ้นต่ำกว่าราคา Limit Order การเทรดจะถูกดำเนินการโดยอัตโนมัติ วิธีนี้ช่วยให้คุณเลี่ยงการขาดทุนหากราคาหุ้นตกลงอย่างกะทันหันได้
อีกวิธีในการ Stop Loss คือการใช้คำสั่ง Stop Loss นี่คือคำสั่งขายหุ้นเมื่อถึงราคาที่แน่นอน คำสั่ง Stop Loss สามารถช่วยคุณล็อคผลกำไรและจำกัดการขาดทุนหากราคาหุ้นตกลงอย่างกะทันหัน
หากคุณยังใหม่กับตลาดหุ้น สิ่งสำคัญคือต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวิธี Stop Loss ก่อนที่จะเริ่มเทรด ด้วยการใช้ Limit Order และคำสั่ง Stop Loss คุณสามารถปกป้องพอร์ตหุ้นจากการขาดทุนครั้งใหญ่เมื่อตลาดหันหลังให้กับคุณ
ไม่หยุดเรียนรู้
ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้ช่ำชอง มีสิ่งใหม่ ๆ ให้เรียนรู้อยู่เสมอ การให้การเรียนรู้เป็นเป้าหมายในชีวิตจะช่วยให้คุณนำหน้าเกมและตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น
การเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การอ่านสิ่งพิมพ์ทางการเงินไปจนถึงการเรียน การเข้าชั้นเรียนเป็นทางเลือกที่ดีเพราะช่วยให้คุณได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและถามคำถามที่คุณอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน มีหลักสูตรออนไลน์ที่หลากหลายรวมถึงชั้นเรียนแบบตัวต่อตัว
นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารล่าสุดและแนวโน้มในตลาดเป็นสิ่งสำคัญ การอ่านบทความหรือการเข้าร่วมสัมมนาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น เพื่อให้คุณตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น
การเรียนรู้เหตุการณ์ปัจจุบัน จะช่วยให้เกิดความเข้าใจตลาด และปรับพอร์ตหรือทิศทางการลงทุนหุ้นทั้งระยะยาวและระยะสั้นได้อย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ แหล่งเรียนรู้การเงินนั้น จะต้องเชื่อถือได้ และไม่ให้ข้อมูลโน้มเอียงไปเฉพาะทางใดทางหนึ่ง
เมื่อคุณมีความเข้าใจพื้นฐานที่มั่นคงแล้ว อย่ากลัวที่จะเริ่มลงทุน ยิ่งคุณเริ่มต้นเร็วเท่าไร คุณก็ยิ่งมีเวลามากขึ้นในการเฝ้าดูการลงทุนเติบโต
เรียนรู้หุ้นจาก Fundamental และ Technical
การวิเคราะห์หุ้นมี 2 ประเภทหลัก คือ ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิค
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมุ่งเน้นไปที่รูปแบบทางการเงินและธุรกิจของบริษัทเพื่อกำหนดมูลค่าที่แท้จริง สิ่งนี้รวมถึงการตรวจสอบอัตราส่วนทางการเงิน ดูหนี้สิน สินทรัพย์ กระแสเงินสดของกิจการนั้น ๆ
ในขณะที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ข้อมูลราคาในอดีตเพื่อระบุรูปแบบและคาดการณ์การเคลื่อนไหวในอนาคต การเทรดหุ้นระยะสั้นจะนิยมใช้การวิเคราะห์เชิงเทคนิคค่อนข้างมากผ่านการอ่านรูปแบบแท่งเทียน
ทั้ง 2 วิธีมีข้อดีของมัน แต่สำหรับนักลงทุนมือใหม่ เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าบริษัททำเงินได้อย่างไร และระบุว่าตลาดประเมินมูลค่าต่ำหรือสูงเกินไป
เมื่อคุณมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับตลาดหุ้นและวิธีประเมินมูลค่าบริษัทต่าง ๆ แล้ว คุณสามารถเริ่มใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการตัดสินใจลงทุนได้ การวิเคราะห์ทางเทคนิคสามารถเป็นประโยชน์ในการระบุจุดเข้าและออก ตลอดจนระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น
เทรดหุ้นต่างประเทศออนไลน์
ด้วยบริการจากโบรกเกอร์หุ้นออนไลน์ คุณสามารถลงทุนในหุ้นในประเทศได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว มีเหตุผลหลายประการที่อาจเป็นแนวคิดที่ดีสำหรับมือใหม่เล่นหุ้นต่างประเทศ อันดับแรก หุ้นต่างประเทศสามารถให้ประโยชน์ในการกระจายการลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อคานน้ำหนักกับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง หากคุณลงทุนในหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว คุณกำลังใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว การเพิ่มหุ้นต่างประเทศในพอร์ตจะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของการลงทุนได้
นอกจากนี้ หุ้นต่างประเทศให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่า ด้วยลักษณะธุรกิจ เทคโนโลยีที่อาจจะดีกว่าหุ้นไทย แม้ว่าจะไม่มีการรับประกันว่าการลงทุนใด ๆ จะทำเงินได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าหุ้นต่างประเทศมีโอกาสพลิกผันมากกว่าหุ้นในประเทศ ดังนั้น หากคุณต้องการเพิ่มโอกาสในการทำเงินในตลาดหุ้น การลงทุนในหุ้นต่างประเทศก็คุ้มค่าที่จะพิจารณา
แน่นอนว่าการลงทุนในหุ้นต่างประเทศก็มีความเสี่ยงเช่นกัน หนึ่งคือคุณอาจไม่คุ้นเคยกับบริษัทหรือสภาพเศรษฐกิจในประเทศนั้น ๆ ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทน
ที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนเหล่านี้ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศอื่น ๆ อาจนำไปสู่ราคาหุ้นที่ผันผวนและอาจขาดทุนครั้งใหญ่สำหรับนักลงทุน แต่สิ่งเหล่านี้สามารถกำจัดลงได้ด้วยการศึกษาตลาดหุ้นของประเทศที่สนใจนั้นและประยุกต์เข้ากับวิธีเล่นหุ้นที่คุณเซ็ตขึ้นมาใช้
ทำความรู้จักหุ้นต่าง ๆ
เราสามารถจำแนกประเภทของหุ้นได้ 3 แบบ เพื่อคัดเลือกหุ้นที่ดีที่สุดที่เหมาะสมต่อรูปแบบการลงทุน ได้แก่ หุ้นเติบโต หุ้นคุณค่า และหุ้นแข็งแกร่ง
ในการเลือกประเภทหุ้นที่เหมาะกับพอร์ตการลงทุน คุณต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างหุ้นทั้ง 2 ประเภทนี้และวิธีการทำงานของพวกมัน
หุ้นเติบโต (Growth Stock)
หุ้นเติบโต คือ หุ้นประเภทหนึ่งที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเวลาผ่านไปและสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอ หุ้นเหล่านี้มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วหุ้นเหล่านี้จ่ายเงินปันผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย แต่มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าของเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญ
หุ้นเติบโตคือบริษัทที่คาดว่ากำไรจะเติบโตในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยปกติแล้วจะมีราคาแพงกว่าหุ้นคุณค่า เนื่องจากนักลงทุนเต็มใจที่จะจ่ายมากขึ้นสำหรับหุ้นของบริษัทที่มีแนวโน้มในอนาคตที่แข็งแกร่ง
หุ้นเติบโตอาจมีความผันผวนของตลาดสูงกว่าหุ้นประเภทอื่น เนื่องจากราคาของหุ้นเหล่านี้มักจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของนักลงทุน
หุ้นคุณค่า (Value Stock)
หุ้นคุณค่าคือหุ้นของบริษัทที่เทรดในราคาที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน เช่น กำไรและเงินปันผล นักลงทุนมักมองข้ามหุ้นคุณค่าเพราะดูเหมือนว่าจะมีโอกาสเติบโตน้อยกว่าหุ้นเติบโต อย่างไรก็ตาม หุ้นคุณค่ามักจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาวแก่นักลงทุน
หุ้นคุณค่าคือหุ้นที่ตลาดมองว่าต่ำกว่ามูลค่า ในขณะที่หุ้นเติบโตคือหุ้นที่คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่เร็วกว่าตลาดโดยรวม
หุ้นคุณค่าสามารถแบ่งออกได้อีกสองประเภท: มูลค่าลึกและด้อยคุณภาพ หุ้นที่มีมูลค่าสูงคือหุ้นที่เทรดด้วยส่วนลดอย่างมากจากมูลค่าที่แท้จริง ในขณะที่หุ้นที่มีปัญหาคือหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เชิงลบบางประเภท (เช่น การล้มละลาย)
หุ้นแข็งแกร่ง (Defensive Stock)
หุ้นแข็งแกร่งมักจะเป็นหุ้นที่มีค่าเบต้าต่ำและมีความผันผวนต่ำ หุ้นประเภทนี้โดยทั่วไปจ่ายเงินปันผลที่น่าเชื่อถือและมีงบดุลที่มั่นคง หุ้น Defensive มักจะเป็นหุ้นที่มีความมั่นคงมากกว่า เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดเหมือนหุ้นประเภทอื่น ตัวอย่างของหุ้นแข็งแกร่ง ได้แก่ บริษัทสาธารณูปโภค สินค้าอุปโภคบริโภค และบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ
นักลงทุนหุ้นระยะยาวมักมองว่าหุ้นคุณค่าน่าตื่นเต้นน้อยกว่าหุ้นเติบโต แต่สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาว นั่นเป็นเพราะหุ้นคุณค่ามักจะถูกตีราคาต่ำกว่าตลาดและตามทันมูลค่าที่แท้จริงของมันในที่สุด
ยกตัวอย่าง บริษัท 2 แห่งมีกำไรต่อหุ้น (EPS) เท่ากันที่ 10 บาท บริษัท A ถูกจัดเป็นหุ้นเติบโตที่เทรดหุ้นละ 100 บาท ขณะที่บริษัท B คือหุ้นคุณค่าเทรดหุ้นละ 50 บาท หากทั้ง 2 บริษัทมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 10% ในปีหน้า บริษัท A จะเทรดที่หุ้นละ 110 บาท และบริษัท B จะเทรดที่ราคาหุ้นละ 60 บาท
ฝึกเล่นหุ้นกับบัญชีทดลอง
วิธีเริ่มต้นเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่ ควรฝึกมือ ฝึกวิธีการด้วยบัญชีเทรดหุ้นทดลองเสียก่อน มีโบรกเกอร์ออนไลน์มากมายที่ให้บริการบัญชีทดลอง
ถ้าคุณเปิดบัญชีเทรดหุ้นไทยผ่านโบรกเกอร์ที่จดทะเบียนในไทย จะมีมีแอป Click 2 Win จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ทดลองเล่นหุ้น ดูการเคลื่อนที่ของราคา โดยเป็นการจำลองหน้าตาแอปพลิเคชัน Streaming ขึ้นมา
ถ้าคุณเปิดบัญชีเทรดหุ้นต่างประเทศกับโบรกเกอร์ออนไลน์เช่น TOPONE Markets เราได้เตรียมบัญชีทดลองพร้อมโบนัสเงินฝากให้คุณได้ใช้ในการทดลองกลยุทธ์การเล่นหุ้น ดังนั้น การเริ่มต้นเล่นหุ้นจึงไม่ใช่เรื่องยากแม้สำหรับมือใหม่ เมื่อคุณพบโบรกเกอร์ที่พอใจแล้ว เพียงเปิดบัญชีทดลองและเริ่มเทรด
แน่นอน เนื่องจากคุณไม่ได้ลงทุนด้วยเงินจริงจริง ๆ จึงไม่มีโอกาสสูญเสียอะไรเลย ทว่า สิ่งสำคัญคือการเทรดบัญชีทดลองอย่างจริงจัง เนื่องจากสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับวิธีการทำงานของตลาดหุ้น
เริ่มที่หุ้นปลอดภัยก่อน
สำหรับมือใหม่ หากยังลัลเว่าเลือกหุ้นตัวไหนดี เราขอแนะนำให้เริ่มต้นจากหุ้นปลอดภัยก่อน หุ้นปลอดภัยเป็นประเภทการลงทุนที่มีความผันผวนน้อยกว่าและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าจะไม่มีการค้ำประกันใด ๆ ในตลาดหุ้น แต่หุ้นปลอดภัยสามารถช่วยลดความเสี่ยงและให้รากฐานที่มั่นคงในการสร้างพอร์ตหุ้นได้
กลยุทธ์การเทรดหุ้นที่ดีที่สุด
มีกลยุทธ์การเทรดหุ้นที่แตกต่างกันมากมายที่นักลงทุนสามารถใช้เพื่อสร้างผลตอบแทน กลยุทธ์ทั่วไปบางอย่าง ได้แก่ การซื้อและการถือครอง การเทรดรายวัน การลงทุนแบบเน้นคุณค่า และการลงทุนเพื่อการเติบโต
มีปัจจัยหลายประการ ว่าควรเลือกกลยุทธ์ใดกับหุ้นตัวใด หรือกลยุทธ์ใดที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายการลงทุน การยอมรับความเสี่ยง ระยะเวลา และทุนเริ่มต้นได้ดีที่สุดกว่ากัน
กลยุทธ์การเล่นหุ้นแบบการเทรดระหว่างวัน โดยทั่วไปเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยินดีรับความเสี่ยงในระดับสูงและมีเงินทุนจำนวนมากในการเริ่มต้น ในทางกลับกัน การลงทุนแบบเน้นคุณค่า จัดเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนสามารถใช้โดยยอมรับความเสี่ยงได้ทุกระดับ และไม่จำเป็นต้องเริ่มด้วยเงินก้อน กุญแจสู่ความสำเร็จในการลงทุนแบบเน้นคุณค่าคือการหาบริษัทที่ประเมินมูลค่าต่ำกว่าตลาดและมีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว
การลงทุนในหุ้นเพื่อการเติบโต เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ยอดนิยมที่มุ่งเน้นไปที่การค้นหาบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และคาดว่าจะมีการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย หรือไม่เช่นนั้น ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกเล่นหุ้นตัวไหนดี ก็ซื้อกองทุนรวมดัชนี หรือ ETF ที่ติดตามผลประกอบการของตลาดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมหนึ่ง ๆ แทน การลงทุนประเภทนี้อาจมีความผันผวนมากกว่าแบบอื่นแต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า
ไม่มีกลยุทธ์การเทรดหุ้นใดที่ “ดีที่สุด” ที่จะใช้ได้กับทุกคน เทรดเดอร์มือโปรหลายคนก็ต้องผ่านช่วงเวลาทดสอบแผนการมาก่อนแล้วเช่นกัน จึงจะพบสิ่งที่เหมาะกับสไตล์ของตนเอง กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายส่วนบุคคล การยอมรับความเสี่ยง และระยะเวลาการลงทุน
คุณควรทำความเข้าใจเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางการเงินส่วนบุคคลให้ชัดเจนเสียก่อน เมื่อคุณรู้ว่าคุณกำลังทำอะไร เพื่ออะไร คุณจะสามารถเริ่มพบเจอวิธีเล่นหุ้นแบบต่าง ๆ และเปรียบเทียบความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เป็นไปได้
วิธีต่าง ๆ ในการเทรดหุ้น
มีหลายวิธีในการเทรดหุ้น และแต่ละวิธีก็มีข้อดีและความเสี่ยงในตัวเอง คุณสามารถซื้อหุ้นผ่านโบรกเกอร์ เทรดออนไลน์ หรือใช้ CFD เพื่อเทรดดัชนีหุ้น
ซื้อก่อนขาย
การซื้อหุ้นผ่านโบรกเกอร์เป็นวิธีการเทรดแบบดั้งเดิมที่สุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์แล้วซื้อหุ้นผ่านบัญชีนั้น ข้อดีของวิธีนี้คือง่ายและตรงไปตรงมา ทว่า ข้อเสียคือคุณอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมสูงกว่าวิธีอื่น ๆ
การเทรดหุ้นออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า ข้อเสียของวิธีนี้คืออาจซับซ้อนกว่าวิธีดั้งเดิม และคุณจะต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ออนไลน์
ขายก่อนซื้อ
คุณสามารถใช้วิธีดั้งเดิมและทำงานร่วมกับโบรกเกอร์เพื่อซื้อและขายหุ้น หรือคุณสามารถสำรวจความเป็นไปได้ของการใช้ CFD เพื่อเทรดหุ้น โบรกเกอร์หุ้นออนไลน์นำเสนอวิธีที่สะดวกในการเทรดหุ้น และยังสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้อีกด้วย
CFD คือสัญญาเทรดส่วนต่างซึ่งอนุญาตให้คุณเทรดดัชนีหุ้นโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของหุ้นจริง สิ่งนี้มีข้อดีบางประการ เช่น ความสามารถในการขายในตลาด แต่ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีวิธีใดที่ถูกหรือผิดในการเทรดหุ้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและการยอมรับความเสี่ยง หากคุณเพิ่งเริ่มต้น ควรเลือกโบรกเกอร์แบบดั้งเดิมหรือโบรกเกอร์หุ้นออนไลน์ที่ให้บริการลูกค้าที่ดี หากคุณมีประสบการณ์มากกว่าและพอใจกับความเสี่ยง การใช้แพลตฟอร์มเช่น CFD อาจเป็นตัวเลือกที่ดี
เทรดหุ้นต่างประเทศด้วย CFD
สัญญาเทรดส่วนต่าง หรือ Contract for Different (CFD) เป็นอนุพันธ์ทางการเงินประเภทหนึ่งที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์อ้างอิงโดยไม่ต้องซื้อสินทรัพย์มาครอบครอง
CFD เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์เนื่องจากมอบ Leverage ให้กับสินทรัพย์อ้างอิง หมายความว่ากำไร (และขาดทุน) จะเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ CFD จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเทรดหุ้นหรือสินทรัพย์อ้างอิงต่าง ๆ แบบรวดเร็ว
การเทรด CFD ผ่านโบรกเกอร์ CFD คุณต้องเดิมพันการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์อ้างอิง หากคุณคิดว่าราคาจะสูงขึ้น ให้ซื้อ “Long CFD” ในขณะที่หากคุณคิดว่าราคาจะลดลง ให้ซื้อ “Short CFD” กำไรหรือขาดทุนจะถูกกำหนดโดยส่วนต่างระหว่างราคาที่คุณเข้าสู่การเทรดและราคาที่คุณออกเมื่อถึงเวลาที่กำหนด
การเทรด CFD ด้วยการใช้พลังของ Leverage ทำให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์เหล่านี้ได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ สำหรับนักลงทุนหุ้นมือใหม่ที่กำลังจะชิมลาง CFD คุณต้องทำการบ้านมาก่อนว่าสินทรัพย์อ้างอิงนั้น จะเคลื่อนไหวไปอย่างไร จากปัจจัยขับเคลื่อนใด
นอกจากนี้ การเทรด CFD เป็นการเทรดโดยใช้มาร์จิ้น คุณต้องวางเงินมัดจำก่อนเล็กน้อยในบัญชีเทรด CFD (ปกติประมาณ 5-10%) ของมูลค่ารวมของสัญญาเพื่อเปิดการเทรด ทำให้เข้าถึงได้มากกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิม เช่น หุ้นหรือพันธบัตร ซึ่งต้องชำระเงินล่วงหน้า 100% ทว่า ยังหมายความว่าการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของเงินฝาก
ข้อดี VS. ข้อด้อย การเทรดหุ้นต่างประเทศด้วย CFD
การเทรด CFD เป็นอนุพันธ์ทางการเงินประเภทหนึ่งที่ให้คุณเทรดตามการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์อ้างอิง โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงจริง ๆ ด้วยพลังของ Leverage ที่ช่วยให้คุณเข้าถึงได้ง่ายกว่าการซื้อหุ้นรายตัวจากตลาด ทั้งยังเริ่มได้ด้่วยเงินทุนเล้กน้อยเพียง 5-10% เท่านั้น แต่ก็ใช่ว่า การเทรดด้วย CFD จะให้แต่ข้อดีเท่านั้น ก่อนเริ่มต้นลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนหุ้นต่างประเทศที่มีเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้อง มีหลายประเด็นที่คำนึงถึงและบริหารคความเสี่ยงก่อนเริ่มต้น
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญอีกประการสำหรับการเทรด CFD หุ้นคือ โดยปกติแล้ว CFD มักจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถือสถานะข้ามคืน หมายความว่าคุณจะถูกเรียกเก็บเงินในตำแหน่งหากคุณถือไว้ข้ามคืนตามเวลาทำการของโบรกเกอร์ ในกรณีที่โบกเกอร์กับคุณอยู่คนละประเทศกัน ค่าธรรมเนียมนี้มีผลต่อผลกำไรขาดทุนอย่างแน่นอน นี่คือข้อดีและข้อเสียบางประการของการเทรด CFD หุ้น
ข้อดีของการเทรดหุ้นด้วย CFD
เทรดได้ทุนหุ้น ทุกสินทรัพย์โดยไม่ต้องถือครอง
ด้วยพลังของ Leverage และการใช้บัญชี Margin ทำให้การเทรดด้วย CFD สามารถทำเงินได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเพียงวิเคราะห์ทิศทางของราคาได้อย่างแม่นยำ
ข้อด้อยของการเทรดหุ้นด้วย CFD
หากใช้ Leverage ผิดแผน แทนที่จะกำไร กลับขาดทุน
มีค่าธรรมเนียมการถือสถานะข้ามคืนและค่าคอมมิชชั่นสามารถกินเข้าไปในผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้
มีความเสี่ยงด้านตลาดมากขึ้น เนื่องจากไม่มีบุคคลที่สามที่จะปกป้องผลประโยชน์หากเกิดข้อผิดพลาดหรือข้อพิพาทใด ๆ
การเคลื่อนไหวของราคาที่ซับซ้อนในสินทรัพย์อ้างอิง บางครั้งอาจส่งผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Slippage ซึ่งหมายความว่าคำสั่งจะดำเนินการในราคาที่แย่กว่าที่คาดไว้
ควรขายหุ้นตอนไหน
เมื่อกล่าวถึงการซื้อหุ้นแล้ว ก็ต้องพูดถึงการขายหุ้นทำกำไรด้วย จะ Take Profit หรือ Stop Loss เมื่อไร ขึ้นกับว่าคุณพอใจกับมูลค่าปัจจุบันของการลงทุน ณ ปัจจุบันแล้วหรือยัง
ไม่มีใครระบุได้ว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หรือราคาจะแย่ไปกว่านี้อีกหรือเปล่า อยู่ที่มูลค่าต้นทุนของแต่ละคน คุณควรกำหนดอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังไว้ในขั้นตอนการเซ็ตแผนการเล่นหุ้นของตนเอง เพื่อที่ว่าเมื่ผลตอบแทนได้ตามอัตราที่กำหนดก็ Take Profit ขายทำกำไร หรือเมื่อราคาตกลงจากเกณฑ์ที่วางไว้ ก็ให้ขาดออก Stop Loss
ไม่มีกฎตายตัวว่าคุณควรขายหุ้นทำกำไรหรือเพื่อหยุดขาดทุนเมื่อใด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ส่วนบุคคลและเป้าหมายการลงทุน ทว่า หากคุณกำลังคิดที่จะทำกำไรหรือ Stop Loss ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญ 2-3 ข้อที่ควรคำนึงถึง
พิจารณาว่าเป้าหมายการ Take Profit คืออะไร
คุณต้องการสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว หรือคุณต้องการ เพื่อนำเงินไปลงทุนในที่อื่นอีกครั้ง หากเป็นอย่างหลัง การ Take Profit น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
คุณควรขายหุ้นเมื่อถึงคำสั่ง Take Profit ซึ่งเป็นราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า อาจเป็นเพราะหุ้นได้ไปถึงราคาเป้าหมายแล้วและคุณต้องการล็อคกำไร (อย่าโลภ) หรือเพราะมันกลายเป็นการซื้อมากเกินไปและถึงกำหนดปรับฐาน
ในทำนองเดียวกัน คุณควรขายหุ้นเมื่อถึงคำสั่ง Stop Loss ซึ่งเป็นราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่คุณต้องการขายเพื่อจำกัดการขาดทุน อาจเป็นเพราะหุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็วและคุณต้องการตัดขาดทุน หรือเพราะขายมากเกินไปและกำลังจะดีดตัวขึ้น
คำนึงถึงความเสี่ยงที่รับได้
หากคุณกังวลเกี่ยวกับตลาดที่ตกต่ำ การขายเพื่อ Stop Loss อาจทำให้คุณสบายใจได้ และไม่เป็นการเสียโอกาสในการลงทุน คุณยังมีเวลาโยกเงินนั้นไปซื้อหุ้นอื่นหรือสินทรัพย์อื่น ๆ ทดแทน ในทางกลับกัน หากคุณพอใจกับความผันผวนของตลาด และมีความเชื่อมั่นที่ดีว่าหุ้นดังกล่าวจะกลับตัวในอีกไม่ช้า การถือครองไว้อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดก็ได้
แม้ในการเล่นหุ้นระยะสั้นก็เช่นกัน ที่ต่างจากการเทรด CFD คือไม่มีการกำหนดกรอบตายตัวว่าต้องขายเมื่อไร เมื่อราคาไปเกินกว่าแนวต้านหรือร่วงลงกว่าแนวรับในระดับที่กำหนดไว้ (เช่น กำหนดเป็นสัดส่วนหรือจำนวนเงิน) ก็สามารถขายหุ้นออกได้เช่นกัน
เทรดหุ้นแล้วได้อะไร
มีหลายเหตุผลที่ผู้คนเทรดหุ้น สำหรับบางคนมันเป็นช่องทางในการทำมาหากิน คนอื่นมองว่าเป็นโอกาสในการลงทุน และคนอื่นมองว่าเป็นงานอดิเรก ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม การเป็นเทรดเดอร์หุ้นมีประโยชน์อย่างหนึ่ง ข้อดีอย่างหนึ่งคือคุณสามารถทำเงินได้มากมาย หากคุณรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ คุณสามารถเทรดหุ้นและทำกำไรได้มาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเทรดโดยใช้ Leverage โดยใช้ CFD ด้วย Leverage คุณสามารถควบคุมสถานะที่ใหญ่กว่าได้ด้วยเงินทุนเอง ซึ่งทำให้คุณมีโอกาสทำเงินได้มากขึ้น ข้อดีอีกประการของการเทรดหุ้นคือการเริ่มต้นค่อนข้างง่าย คุณไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการเริ่มเทรดหุ้น และมีโบรกเกอร์ออนไลน์มากมายที่ให้บริการแพลตฟอร์มการเทรด CFD ด้วยค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ สิ่งนี้ทำให้ง่ายสำหรับทุกคนในการเริ่มเทรดหุ้นและทำตามเป้าหมายการลงทุน
เป็นผู้ควบคุมโชคชะตาตนเอง
การเล่นหุ้น คุณจะต้องจัดสรรเงินทุน บริหารความเสี่ยง ทำบัญชีกำไรขาดทุน และเรียนรู้ข้อมูลเองทั้งหมดเสมือนเป็นเจ้าของกิจการย่อม ๆ ซึ่งต่างจากอาชีพอื่น ๆ ที่รายได้ขึ้นอยู่กับส่วนแบ่งตามสัดส่วนจากผู้อื่นเป็นส่วนใหญ่
ในฐานะเทรดเดอร์หุ้น คุณมีศักยภาพที่จะทำเงินได้มากเท่าที่ต้องการ แน่นอน นี่ก็หมายความว่าอาจสูญเสียได้มากเช่นกัน แต่ถ้าคุณมีแผนการที่ชัดเจน การบริหารความเสี่ยง และการเรียนรู้ ปรับตัว ตลาดหุ้นก็นำมาซึ่งรายได้ที่ดี
มีเวลาในชีวิตมากขึ้น
อีกสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการเป็นเทรดเดอร์หุ้นคือคุณสามารถทำงานได้จากทุกที่ในโลก เพียงมีคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางหรือทำงานจากที่บ้านไปพร้อม ๆ กับใช้ชีวิตให้เต็มที่กับมุมอื่น ๆ ของชีวิต
เป็นคนทันโลก ดูหนุ่มดูสาวเสมอ
โดยธรรมชาติของตลาดหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นไปไม่ได้เลยที่ความรู้ของอาิทตย์ก่อนจะยังสดหม่อยู่เสมอ เทรดเดอรืหุ้นต้องคอยติดตามข่าวสารการเงิน เศรษฐกิจ และสังคมเพื่อรับรู้แนวโน้มให้วางแผนการเทรดหุ้นให้ได้ผลกำไร ดังนั้น การเล่นหุ้นจึงเป็นวิธีที่ทำให้คุณเป็นคนทันโลก ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
การจัดการความเสี่ยงของการเทรดหุ้น
การบริหารความเสี่ยงคือกุญแจสำคัญของเทรดเดอร์หุ้นผู้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหุ้นระยะสั้นหรือระยะยาว กคุณต้องสามารถควบคุมความเสี่ยงเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว และรู้กลเม็ดการทำกำไรในระยะสั้น มีหลายวิธีในการบริหารความเสี่ยงเมื่อพูดถึงการเทรดหุ้น
การตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss ที่จะขายหุ้นโดยอัตโนมัติหากราคาตกลงต่ำกว่าราคาที่กำหนด บางคนกำหนดให้ไม่ตกไปกว่าเส้นแนวต้าน ราคานี้ควรตั้งในระดับที่คุณสบายใจกับการสูญเสียเงินที่คุณลงทุนไป
อีกแนวทางในการจัดการความเสี่ยงคือการกระจายพอร์ตการลงทุน ซึ่งหมายถึงการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของบริษัท อุตสาหกรรม และรวมถึงกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ และสินทรัพย์อื่น ๆ แทนที่จะใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว การกระจายพอร์ตหุ้นจะช่วยป้องกันคุณจากการขาดทุนหากหุ้นตัวหนึ่งทำงานได้ไม่ดี
อายุแต่ละช่วงวัย มีคศักยภาพในการรับความเสี่ยงได้ต่างกัน คุณควรทบทวนการประเมินระดับการยอมรับความเสี่ยงอยู่เสมอ ตามสภาพเศรษฐกิจ การงาน และเงื่อนไขอื่น ๆ ในชีวิต
วัย 20-30 ปี ที่เพิ่งเริ่มทำงานสร้างตัว ยังมีแรงและเวลาอีกมากในการหามาทดแทนส่วนที่อาจจะสูญฌสียไป และยังไม่มีภาระเรื่องบ้าน รถ หรือครอบครัวมากนัก ก็อาจให้น้ำหนักในการลงทุนหุ้นได้มากกว่า
ตรงกันข้ามกับคนที่อายุ 50-60 ปีและทำงานประจำเป็นหลัก คุณเหลือเวลาไม่มากในการสร้างกระแสเงินสดจากรายได้ประจำ เวลานี้ไม่ควรเสี่ยงกับหุ้นที่มีความผันผวนสูง ๆ แต่ควรเป็นหุ้นคุณค่าที่จะถือครองเพื่อรับเงินปันผล ร่วมกับสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่น พันธบัตรรัฐบาล
เมื่อคุณมีความเข้าใจในเป้าหมายและการยอมรับความเสี่ยงแล้ว คุณสามารถเริ่มพัฒนาแผนเฉพาะสำหรับการจัดการความเสี่ยงในการเทรดหุ้น มีวิธีต่าง ๆ มากมายที่สามารถใช้ได้ ดังนั้นการค้นหาวิธีที่เหมาะกับความต้องการและวัตถุประสงค์ส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
การเทรดหุ้นเป็นเกมระยะยาว อย่าจมอยู่กับความผันผวนของตลาดในแต่ละวันมากเกินไป ให้มุ่งเน้นไปที่การเลือกการลงทุนอย่างฉลาดและจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบแทน หากคุณทำเช่นนี้ คุณจะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี!
ฉันเหมาะกับการเทรดหุ้นหรือเปล่า
หากคุณกำลังคิดที่จะเริ่มต้นเทรดหุ้น อย่าลืมตรวจสอบ TOPONE Markets เราเป็นโบรกเกอร์เทรดหุ้นออนไลน์ชั้นนำที่ให้บริการเทรด CFD ในหุ้นจากทั่วทุกมุมโลก ด้วย TOPONE Markets แม้จะเป็นมือใหม่ ก็สามารถเทรดหุ้นได้อย่างมั่นใจด้วยบัญชีทดลองและโบนัสเงินเทรดจริงเพียงยืนยัยตัวตน นอกจากนี้ ยังมีสภาพแวดล้อมที่ทันสมัย ทั้งบทความ และข่าวสารการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ส่งตรงถึงมือคุณในทุก ๆ เช้า
เปิดบัญชีกับเราตอนนี้ แล้วเซ็ตระบบเทรด จัดการแผนการลงทุน และเติบโตไปด้วยกันในตลาดหุ้นรอบโลก!
บทนำ
ตลาดหุ้น หรือตลาดหลักทรัพย์คือ กลุ่มของตลาดที่มีการซื้อและขายหุ้น (หุ้น คือ สัดส่วนของความเป็นเจ้าของในธุรกิจ) ระหว่างนักลงทุนด้วยกัน หรือนักลงทุนกับบริษัทมหาชนจำกัดในตลาดหลักทรัพย์ โดยปกติหมายถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีการซื้อและขายหุ้นระหว่างกัน นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ตลาดหุ้นในการวัดประสิทธิภาพของเศรษฐกิจทั้งหมดหรือภาคส่วนใดส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจประเทศหนึ่ง ๆ ได้
ในประเทศไทย มีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กำกับดูแลกิจกรรมในตลาดหุ้น ทำหน้าที่เป็นตลาดรองสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างนักลงทุน และทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมบริษัทมหาชนจำกัดที่เข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กับบรรดานักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ
ไม่ว่าจะเล่นหุ้นระยะสั้นหรือระยะยาว สิ่งสำคัญต้องเข้าใจพื้นฐานการทำงานของตลาดหุ้น ราคาหุ้นมีขึ้นและลงตามความต้องการของตลาด ด้วยปัจจัยจำเพาะหรือหลายปัจจัยร่วม บางกรณี ราคาหุ้นหนึ่ง ๆ อาจมิได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัจจัยหนึ่ง แต่เป็นผลพวงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ไม่ว่าจะในประเทศหรือนอกประเทศ
ดังนั้น เมื่อมีเหตุการณ์หนึ่ง ๆ เกิดขึ้น จะส่งผลต่ออารมณ์ของตลาด ส่งผลต่อความต้องการซื้อหุ้น (อุปสงค์สูง) มากกว่าขายหุ้น (อุปทานต่ำ) ราคาก็จะสูงขึ้น สิ่งที่ตรงกันข้ามคือความจริงเมื่อมีคนต้องการขายมากกว่าซื้อ
บริษัทที่เทรดในตลาดหุ้นมีหุ้นจดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งเปรียบเสมือนการประมูลออนไลน์ขนาดใหญ่สำหรับหุ้น มีการแลกเปลี่ยนหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันและตอบสนองนักลงทุนประเภทต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) แสดงรายชื่อบริษัทขนาดใหญ่ที่มีประวัติการเติบโตที่มั่นคงมาอย่างยาวนาน ในทางตรงกันข้าม ตลาดหุ้น NASDAQ จะแสดงรายชื่อบริษัทเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าเป็นส่วนใหญ่ซึ่งอาจมีความเสี่ยงมากกว่าแต่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
การลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็เล่นหุ้นออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตกับสมาร์ทโฟน การลงทุนในหุ้นจึงเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างความมั่งคั่งตามกาลเวลา
คู่มือสำหรับมือใหม่เล่นหุ้นสู่นี้จะสอนทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับวิธีการทำงานของตลาดหุ้น สิ่งที่ขับเคลื่อนราคาหุ้น และวิธีที่ดีเริ่มต้นลงทุนในหุ้น รวมถึงวิธีการขยายพอร์ตการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศด้วยการเทรด CFD
คุณกำลังมองหาการลงทุนในตลาดหุ้นแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ไม่ต้องกังวล เราพร้อมให้ความช่วยเหลือ คู่มือสำหรับมือใหม่เล่นหุ้นสู่ตลาดหุ้นนี้จะให้ภาพรวมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของตลาดหุ้น การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น และวิธีเริ่มต้นลงทุนในหุ้น ในบทความนี้ทั้งหมด จะไม่บอกคุณว่าเล่นหุ้นตัวไหนดี เพราะความชอบ และเป้าหมายการลงทุนในหุ้นของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราอยากให้คุณได้มีความเข้าใจ และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพอร์ตหุ้นเอง
การเทรดหุ้นคืออะไร
การเทรดหุ้น หมายถึง กระบวนการซื้อและขายหุ้นในตลาดหุ้นที่ทุกวันนี้สามารถดำเนินการออนไลน์ ในการสร้างรายได้จากการเทรดหุ้น คุณต้องเข้าใจวิธีการทำงานของตลาดหุ้นและมีกลยุทธ์ในการเทรด เพื่อให้การเทรดหุ้นนั้นไม่ใช่การพนันขันต่อ เพียงมีบัญชีเทรดหุ้นกับโบรกเกอร์ออนไลน์
วิธีในการเล่นหุ้นหรือเทรดหุ้นนั้น หมายความเท่ากับคุณกำลังซื้อสัดส่วนของบริษัท คุณจะมีฐานะเป็น “ผู้ถือหุ้น” หรือ “Share Holder” ดังนั้นคุณจึงมีสิทธิ์ได้รับส่วนหนึ่งของผลกำไรของบริษัทในรูปของ “เงินปันผล” หรือ Divident
อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นเพื่อรับเงินปันผลเป็นกระแสเงินสดนั้น อาจต้องกินเวลานานหน่อยกว่าจะถึงรอบการจ่ายปันผล และคุณอาจต้องลงทุนเป็นเงินมาก ๆ เพื่อให้มีปันผลในรูปแบบที่เทียบเท่ากับการทำงานประจำ
จึงนั้นมีอีกหนึ่งวิธีในการเล่นหุ้นคือ “การเล่นหุ้นระยะสั้น” ด้วยการเทรดแบบรายวัน หรือรายสัปดาห์ เพื่อทำเงินจากส่วนต่างราคาของหุ้น แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงพอสมควร ดังนั้น มือใหม่ลงทุนท่านไหนคิดจะเทรดรายวัน คุณต้องมีความกระตือรือร้นในการติดตามข่าวสารการเงินที่จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้นที่สนใจ
หลายคนเล่นหุ้นระยะสั้นเป็นอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพเต็มเวลาหรือเป็นงานอดิเรกที่ทำแบบพาร์ทไทม์ การเทรดหุ้นเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้ แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะคุณสามารถสูญเสียเงินได้อย่างง่ายดายเท่าที่คุณจะทำได้
เทรดเดอร์หุ้นมือใหม่ สามารถทดลองวิธีการและตรวจสอบดูก่อนได้ว่า การเทรดหุ้นระยะสั้นนั้น ถูกจริตของตนเองหรือไม่ ไม่มีคำตอบตายตัวว่าหุ้นตัวไหนดี ต้องเทรดตอนไหน ขายตอนไหน ทุกสิ่งขึ้นกับลักษณะนิสัยของแต่ละคนโดยเฉพาะ สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มต้นด้วยเงินทุนจำนวนเล็ก ๆ ก่อน และสร้างพอร์ตหุ้นอย่างช้า ๆ การเทรดหุ้นอาจเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างรายได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ามีความเสี่ยงอยู่เสมอ นี่คือสิ่งที่นักเล่นหุ้นมือใหม่ควรรวมไว้ในแผนการบริหารความเสี่ยง ที่เราจะกล่าวถึงต่อไปด้วย
ทำไมต้องเทรดหุ้น
หลายท่านเลือกการเทรดหุ้นเป็นทั้งงานอดิเรกเพิ่มรายได้ และบางท่านเลือกเทรดหุ้นออนไลน์เป็นอาชีพ เพราะว่าการเล่นหุ้นออนไลน์นั้นสามารถทำเงินอย่างรวดเร็ว (รวมถึงขาดทุนด้วย หากไม่วางแผนดี ๆ) ด้วยศักยภาพในการสร้างผลกำไรจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น ความน่าสนใจของตลาดหุ้นจึงไม่อาจปฏิเสธได้ และนี่คือเหตุผลดี ๆ ที่ทำไมคุณเองก็ควรเริ่มลงทุนหุ้นได้เช่นกัน
ตลาดหุ้นเป็นเรื่องของจังหวะเวลา
หากคุณซื้อหุ้นในเวลาที่เหมาะสม คุณสามารถทำเงินได้มากมายในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ว่าจะสั้นขนาดในหนึ่งวัน หรือไม่กี่ชั่วโมง หรือหากราคายังไม่ดี ก็ยังสามารถถือครองไว้คอยเวลาที่ราคาดี ๆ ก่อนค่อยขายก็ได้
ตลาดหุ้นกับการกระจายความเสี่ยง
ด้วยการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของอุตสาหกรรมและประเทศ คุณสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำเงินจากหุ้นต่าง ๆ ได้สูงสุด การกระจายความเสี่ยงนี้ทำให้คุณสามารถฝ่าฟันทั้งขาขึ้นและขาลงของตลาดได้ ไม่มีหุ้นตัวไหนที่จะดีที่สุดตลอดกาล และไม่มีใครกำหนดอนาคตตลาดหุ้นได้ เว้นแต่ต้องกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นต่างประเทศ ต่างอุตสาหกรรม ก็จะช่วยลดความสูญเสียยามตลาดเป็นขาลงได้
ตลาดหุ้นเป็นเรื่องของ Leverage
ข้อนี้เป็นเอกลักษณ์สำคัญที่สุดของการเล่นหุ้นออนไลน์ ด้วยการใช้ Leverage คุณจึงสามารถควบคุมจำนวนหุ้นได้มากกว่าที่คุณจะจ่ายได้ทั้งหมด สิ่งนี้ทำให้คุณสามารถขยายผลกำไร (หรือขาดทุน) โดยขึ้นอยู่กับว่าหุ้นมีผลประกอบการดีเพียงใด
สำหรับมือใหม่ลงทุนหุ้น เรายังไม่ขอแนะนำให้คุณใช้ Leverage ในการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วย CFD เพราะมันมีเรื่องของกรอบเวลาเข้ามาเป็นตัวแปร และหกาคุณคาดการณ์ราคาหุ้นผิดคาด ก็เสี่ยงต่อความสูญเสียทั้งหมดได้
ตลาดหุ้นมีสภาพคล่องสูง
ถ้าคุณจะเอาดีทางการเล่นหุ้นระยะสั้น การรู้ว่าจะเล่นหุ้นตัวไหนดีที่มีมีสภาพคล่องสูงกว่าหุ้นตัวอื่น ๆ ที่มูลค่าทางตลาดต่ำกว่า จะช่วยให้การเทรดหุ้นออนไลน์ไปได้ถึงเป้าหมายตามแผนมากที่สุด เพราะไม่ต้องรอคนมาซื้อนาน ๆ และเข้าพอเข้าตลาด ทำกำไรได้ ก็หันไปเล่นหุ้นตัวอื่น ๆ ต่อเลย หรือจบสำหรับดีลวันนั้นเลยก็ได้
นี่เป็นเพียงเหตุผลดี ๆ ส่วนหนึ่งที่ทำไมคุณเองก็สามารถเริ่มลงทุนหุ้นออนไลน์ได้ เพียงศึกษาหาความรู้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทดลองวิธีการด้วยเงินจำนวนน้อย ๆ เพื่อให้เข้าใจวิธีเล่นหุ้น ก็สามารถรวยด้วยหุ้นได้ไม่ยาก
ประเภทต่าง ๆ ของเทรดเดอร์หุ้น
กลยุทธ์การเทรดในตลาดหุ้นออนไลน์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเป้าหมายและกรอบเวลาของเทรดเดอร์แต่ละท่าน เทรดเดอร์บางรายอาจเทรดเพียงไม่กี่นาทีหรือหลายชั่วโมง ในขณะที่บางรายอาจถือครองหุ้นไว้เป็นวัน สัปดาห์ หรือนานกว่านั้น
มีกลยุทธ์ต่าง ๆ มากมายที่สามารถใช้ในตลาดหุ้นได้ และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่จะต้องระบุกลยุทธ์ที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุดก่อนที่จะเข้าสู่ตลาด กลยุทธ์การเทรดหุ้นระยะสั้นบางกลยุทธ์ ได้แก่ Position Trading Swing Trading Day Trtading และ Sclap Trading
Position Trading
Position Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดในตลาดหุ้นระยะสั้นที่ช่วยให้นักลงทุนระบุตัวเองก่อนเข้าสู่ตลาด กลยุทธ์นี้มีลักษณะเฉพาะคือการเปิดสถานะซื้อหรือขายในหุ้น ถือไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้วจึงขาย เทรดเดอร์ตำแหน่งโดยทั่วไปเทรดในการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่าข่าวหรือปัจจัยพื้นฐาน
Position Trading เกี่ยวข้องกับการเข้ารับตำแหน่งในการรักษาความปลอดภัยและถือไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 2-4 สัปดาห์ ในช่วงเวลานี้ เทรดเดอร์จะตรวจสอบความปลอดภัยเพื่อดูว่ามันทำงานเป็นอย่างไร หากการรักษาความปลอดภัยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เทรดเดอร์จะทำกำไร หากการรักษาความปลอดภัยมีมูลค่าลดลง ก็จะต้องสูญเสีย
ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องมีแนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ คุณหวังว่าจะบรรลุผลสำเร็จอะไรจากการเข้ารับตำแหน่งนี้ กลยุทธ์ทางออกคืออะไร ระดับการยอมรับความเสี่ยงคืออะไร การตอบคำถามเหล่านี้ก่อนที่คุณจะเข้าสู่การเทรดใด ๆ จะช่วยให้คุณมีสมาธิและมีระเบียบวินัยตลอดระยะเวลาของการเทรด
Swing Trading
Swing Trading เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดหุ้นระยะสั้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำเงินในตลาดหุ้นโดยไม่ต้องลงทุนระยะยาว หลายคนเลือก Swing Trading เพราะช่วยให้ได้ประโยชน์จากขาขึ้นและขาลงตามธรรมชาติของตลาด
กุญแจสู่ความสำเร็จของ Swing Trading คือการระบุตัวตนก่อนเข้าสู่ตลาด คุณต้องรู้ว่าเป้าหมายคืออะไรและคุณเต็มใจที่จะเสี่ยงอะไร เมื่อมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้แล้วจึงสามารถเริ่มมองหาโอกาสในตลาดได้
จุดเริ่มต้นที่ดีของ Swing Trading คือการดูกราฟการเคลื่อนไหวของตลาดที่ผ่านมา สิ่งนี้จะช่วยให้คุณระบุรูปแบบที่คุณสามารถใช้เพื่อประโยชน์ได้ นอกจากนี้ คุณควรจับตาดูเหตุการณ์ข่าวในปัจจุบัน เนื่องจากมักจะให้เบาะแสเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคต
เมื่อคุณพบโอกาสแล้ว คุณต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด การเทรดแบบสวิงเป็นเรื่องของจังหวะเวลา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องเข้าและออกจากการเทรดอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องยากหากคุณยังใหม่กับตลาด แต่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องเรียนรู้หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องจำไว้เมื่อเทรดแบบสวิงคือเป้าหมายคือการสร้างรายได้ ซึ่งหมายความว่าคุณควรเต็มใจที่จะทำกำไรเมื่อมีให้ ทว่า คุณต้องเตรียมพร้อมสำหรับการขาดทุนเนื่องจากเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในการเทรดทุกประเภท
Day Trading
การเทรดรายวันเป็นกลยุทธ์การเทรดในตลาดหุ้นระยะสั้นซึ่งเทรดเดอร์มองหาประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเล็กน้อย กุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรดรายวันคือการระบุตัวตนก่อนเข้าสู่ตลาด ซึ่งหมายถึงการรู้จักยอมรับความเสี่ยง เป้าหมายการลงทุน และภาพรวมทางการเงิน
เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเทรดระหว่างวัน สิ่งสำคัญคือต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับตลาดหุ้นและปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้น สิ่งสำคัญคือต้องมีกลยุทธ์ในการเข้าและออกจากการเทรด เทรดเดอร์รายวันจำนวนมากใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อตัดสินใจว่าเมื่อใดควรซื้อและขายหุ้น
เมื่อคุณมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณก็สามารถเริ่มมองหาโอกาสในตลาดได้ การเทรดระหว่างวันอาจเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้ แต่ก็เป็นความพยายามที่มีความเสี่ยงเช่นกัน หากคุณไม่ระวัง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
Sclap Trading
Sclap Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดหุ้นออนไลน์ระยะสั้นที่ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุตัวตนก่อนเข้าสู่ตลาด กลยุทธ์นี้อยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าเป็นไปได้ที่จะทำเงินโดยการซื้อและขายหุ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
เป้าหมายของ Sclap Trading คือจับการเคลื่อนไหวของราคาเล็กน้อยในตลาด ในการทำเช่นนี้ เทรดเดอร์ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและเครื่องมือสร้างกราฟที่หลากหลาย พวกเขายังใช้กฎพื้นฐานบางประการเช่นการซื้อเมื่อราคาต่ำและขายเมื่อราคาสูง
กฎเหล็กของ Sclap Trading คือการบริหารความเสี่ยง เนื่องจากการเทรดดำเนินไปอย่างรวดเร็ว จึงมีโอกาสที่จะขาดทุนได้เสมอ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงจำเป็นต้องมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่มั่นคงก่อนดำเนินการเทรดใด ๆ ด้วยการเทรด Sclap Trading
การเทรดระหว่างวันอาจทำให้นักเล่นหุ้นมือใหม่เกิดความเครียดได้มากและต้องใช้การตัดสินใจที่ถูกต้องและรวดเร็ว และหุ้นที่เหมาะกับการเทรดระยะสั้น ควรเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง อยู่ในความสนใจของตลาด สิ่งเหล่านี้คุณสามารถค้นพบได้จากการติดตามข่าวสารการเงินประจำวัน และไม่ว่าเทรดเดอร์จะเลือกใช้กลยุทธ์ใด สิ่งสำคัญคือต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้น
หุ้นรูปแบบต่าง ๆ
ประเภทที่ต่างกันของหุ้น แสดงออกถึงสิทธิ์ที่แตกต่างกันในการกำหนดเสียงโหวตในการบริหารกิจการงานของบริษัท อย่างไรก็ดี หากคุณไม่ได้ให้น้ำหนักกับสิทธิ์การลงมติบริหารจัดการบริษัท คุณจะซื้อหุ้น (สามัญ) เมื่อไรก็ได้ โดยไม่ต้องสนใจเครื่องหมายยกเว้นสิทธิ์ต่อท้ายหุ้น
หุ้นสามัญ (Common Stock)
หุ้นสามัญ (Common Stock) ให้สิทธิแก่นักลงทุนในการออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น เช่นเดียวกับสิทธิในการรับเงินปันผล หุ้นสามัญเป็นหุ้นพื้นฐานที่สุด เมื่อคุณซื้อหุ้นสามัญ คุณจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่คุณเป็นเจ้าของหุ้น
ในฐานะผู้ถือหุ้น คุณมีสิทธิในทรัพย์สินและรายได้ของบริษัท คุณยังมีสิทธิในการออกเสียง ดังนั้นคุณจึงสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของบริษัทได้
หุ้นบุริมสิทธิ์ (Preferred Stock)
หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock) ไม่มีสิทธิออกเสียง แต่มีลำดับความสำคัญเหนือผู้ถือหุ้นสามัญเมื่อได้รับเงินปันผล และเงินปันผลที่ได้รับคือการจ่ายที่บริษัทจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นจากผลกำไร และมักจะจ่ายเป็นรายไตรมาส
นอกจากนี้ หากบริษัทล้มละลายและเริ่มชำระบัญชีสินทรัพย์ ในกรณีนี้ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์จะได้รับเงินก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ
หุ้น VS. สัดส่วนของหุ้น ต่างกันอย่างไร
เมื่อพูดถึงหุ้น (Stock) และสัดส่วนของหุ้น (Share) อาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าทั้ง 2 นั้นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
หุ้น (Stock) คือหน่วยความเป็นเจ้าของในบริษัท ในขณะที่สัดส่วนของหุ้น (Share) เป็นส่วนหนึ่งของมูลค่ารวมของบริษัท กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อคุณเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัทใด ๆ เท่ากับว่าคุณเป็นเจ้าของส่วนเล็ก ๆ ของบริษัทนั้น
โดยปกติแล้ว หุ้นจะถูกซื้อและขายในตลาดหุ้นที่มีไว้แลกเปลั่ยนกันระหว่างนักลงทุนใหญ่เล็ก ในขณะที่สัดส่วนของหุ้น สามารถซื้อและขายได้โดยตรงผ่านบริษัทที่ออกหุ้นที่มักเสนอขายเป็นล็อตใหญ่ ๆ กำหนดเงินขั้นต่ำไว้หลักแสนหรือหลักล้านบาท
ในขณะที่สัดส่วนของหุ้น หมายถึง การเข้าครอบครองส่วนหนึ่งของบริษัทและกลายเป็นผู้ถือหุ้น ในทางกลับกัน ไม่ได้เทรดในตลาดหลักทรัพย์ และมักหมายถึงการลงทุนระยะยาว รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล (ส่วนของผู้ถือหุ้น)
ลงทุนหุ้น VS. เทรดหุ้น ต่างกันอย่างไร
มี 2 วิธีใหญ่ ๆ ในการทำเงินจากตลาดหุ้น นั่นคือการลงทุนซื้อถือยาว และการเทรดหุ้น ทั้ง 2 ต่างก็มีคุณลักษณะเฉพาะ และเครื่องมือที่จำเป็นแตกต่างกัน และเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเส้นทางอาชีพในตลาดหุ้น และเป็นตัวกำหนดว่า คุณจะเหมาะจะเล่นหุ้นเป็นอาชีพหรือเน้นการลงทุนหุ้นคุณค่าเพื่อรับผลตอบแทนระยะยาว
การลงทุนในหุ้น
การลงทุนในหุ้น เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มพูนความมั่งคั่งในระยะยาว และการเพิ่มพูนมูลค่าให้มากขึ้นในอนาคตตามการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
เมื่อบริษัทเติบโตและมีผลกำไรมากขึ้น การลงทุนที่มีอยู่เดิมจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วยพลังของดอกเบี้ยทบต้น สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินและสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวได้
เมื่อคุณเป็นนักลงทุนหุ้นมือใหม่ ต้องวางแผนและคัดสรรหุ้นเข้าพอร์ตด้วยการกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ประเทศต่าง ๆ รวมถึงการทำ Asset Allocation ที่เป็นการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ชนิดต่าง ๆ ด้วย
ไม่มีคำตอบตามตัวว่าคุณควรซื้อหุ้นตัวไหนดี ดังนั้น คุณจึงไม่ควรนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในหุ้นตัวเดียว เพื่อที่คุณจะมีโอกาสขาดทุนน้อยลงหากหุ้นตัวหนึ่งมีมูลค่าลดลง
คุณสามารถเพิ่มโอกาสทำกำไรด้วยการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ แต่ทั้งนี้ก็มีควาเมสี่ยงที่ต้องควบคุมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน สภาพการเงิน เศรษฐกิจ สังคมของประเทศนั้น ๆ
สุดท้าย ในการลงทุนหุ้นระยะยาว อย่าลืมว่าอย่าหวั่นไหวไปกับความผันผวนระยะสั้น ราคาหุ้นมีขึ้นและลงตลอดเวลา ต้องลงทุนเลือกหุ้นตามเทรนด์ของตลาดหรือเศรษฐกิจของประเทศ และอย่าใจร้อนนำเงินปันผลหรือขายทำกำไรไปเสียก่อน
การเทรดหุ้น
การเทรดหุ้นมีหลายประเภท แต่การเทรดหุ้นระยะสั้นเป็นที่นิยมมากที่สุดประเภทหนึ่ง นี่เป็นเพราะเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มรายได้อย่างมั่นคง การเทรดหุ้นระยะสั้นเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายหุ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ โดยปกติภายใน 2 สามวันหรือหลายสัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในตลาดและทำกำไรได้ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นในตลาดหุ้นหากคุณยังใหม่ต่อการลงทุน
การเทรดหุ้นระยะสั้นเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มรายได้อย่างมั่นคง สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจพื้นฐานของการเทรดหุ้นก่อนที่จะเริ่ม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เมื่อคุณเทรดหุ้น คุณกำลังซื้อหุ้นของการเป็นเจ้าของในบริษัทโดยพื้นฐานแล้ว คุณสามารถซื้อและขายหุ้นผ่านนายหน้าได้ และราคาของหุ้นจะขึ้นลงตามอุปสงค์และอุปทาน หากคุณคิดว่าราคาหุ้นจะสูงขึ้น คุณสามารถซื้อและขายในภายหลังในราคาที่สูงขึ้นเพื่อทำกำไร ในทำนองเดียวกัน หากคุณคิดว่าราคาหุ้นจะลดลง คุณสามารถขายหุ้นตอนนี้และซื้อคืนในภายหลังในราคาที่ถูกลง ราคาหุ้นอาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย รวมถึงข่าวเศรษฐกิจ การประกาศของบริษัท และเหตุการณ์ทั่วโลก โดยการเฝ้าดูตลาดอย่างใกล้ชิดและตัดสินใจอย่างรอบรู้ คุณสามารถทำกำไรผ่านการเทรดหุ้นระยะสั้นได้
ตลาดหุ้นทำงานอย่างไร
หากต้องการตรวจสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งแบบเร็ว ๆ การดูสรุปภาพรวมตลาดหุ้นสามารถใช้วัดประสิทธิภาพของเศรษฐกิจทั้งหมดหรือภาคส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบ ณ เวลาหนึ่งได้
จากตัวอย่างด้านบน คือภาพรวมตลาดหุ้นไทยจากเว็บไซต์ Market Watch ในกรอบเวลา 3 เดือน ราคาที่แสดงและกราฟชี้ให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดหุ้นไทยในรอบ 3 เดือน ซึ่งเป็นข้อมูลราคาที่ได้มาจากราคารายวันตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ในปัจจุบัน ดัชนี SET อยู่ที่ 1,585.10 บาท
วิธีการทำงาน
เมื่อนักลงทุนซื้อหุ้นจากตลาดหุ้น หรือที่เรียกว่าตลาดรอง พวกเขาจะกลายเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท ราคาของหุ้นแต่ละตัวถูกกำหนดโดยจำนวนเงินที่ผู้คนยินดีจ่าย ราคานี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเมื่อนักลงทุนซื้อและขายหุ้น
บริษัทต่าง ๆ เข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อหาเงินทุนมาขยายธุรกิจหรือชำระหนี้ การเข้าตลาดยังช่วยให้บริษัทสามารถแสดงชื่อและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การขายและผลกำไรที่มากขึ้น
วิธีในการเล่นหุ้นออนไลน์นั้น เพียงเปิดบัญชีเทรดหุ้นกับโบรกเกอร์ ถ้าเป็นมือใหม่จะได้ใช้บัญชีหุ้นแบบ Cash Balance หรือเรียกว่าบัญชีเติมเงิน บัญชีประเภทนี้เหมาะกับมือใหม่ลงทุนหุ้น เพราะคุณจะซื้อหุ้นได้ภายใต้วงเงินที่ฝากเข้าไป ป้องกันการซื้อเกินตัว และทำให้ง่ายต่อการควบคุมต้นทุน
ประเภทของตลาด
ตลาดหุ้นมี 2 ประเภทหลัก คือ ตลาดหลักและตลาดรอง
ตลาดหลักคือที่ที่มีการเสนอขายหุ้นใหม่ต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก หรือที่เรียกว่าหุ้น IPO ที่นักลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาวสามารถซื้อได้ในราคาที่ดี และสะสมมูลค่า เพื่อไปขายทำกำไรในตลาดรองได้
ตลาดรองเป็นที่ที่หุ้นที่ออกแล้วสามารถเทรดระหว่างนักลงทุนได้ผ่านโบรกเกอร์หุ้นออนไลน์ หุ้นที่เราทำการเทรดกันในตลาดหลักทรัพย์ ก็เรียกว่าหุ้นตลาดรอง
ความผันผวนคืออะไร
ความผันผวนของหุ้น เป็นตัวชี้วัดว่าราคาของหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใดเมื่อเวลาผ่านไป มักใช้เป็นมาตรวัดความเสี่ยง เนื่องจากหุ้นที่มีความผันผวนสูงมักจะคาดเดาไม่ได้ (และเสี่ยงกว่า) มากกว่าหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ ความผันผวนสามารถวัดได้โดยการดูราคาในอดีตของหุ้นหรือโดยใช้ตัวเลือก
ก่อนจะเริ่มต้นลงทุน การศึกษาความผันผวนของหุ้นเป็นหนึ่งในปัจจับสำคัญของการบริหารความเสี่ยงการเล่นหุ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุนลง
ราคาหุ้นถูกขับเคลื่อนอย่างไร
ไม่มีวิธีที่รับประกันได้ว่าจะสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในอนาคตได้ แต่การรู้ว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานอย่างไรสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น
ปัจจัยดังกล่าว เช่น นโยบายการค้า การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง การเข้ารับตำแหน่งหรือลาออกของผู้บริหารบริษัทนั้น ๆ ราคาของหุ้นขับ้คลื่อนด้วยอารฒณ์ของตลาด หากคุรใช้อารมณ์นำการเทรดหุ้น นั่นก็เป็นแค่เพียงการเล่นหุ้น จะขาดทุนหรือกำไร ก็สุดแท้แต่โชคชะตา
หากแต่เป็นการลงทุนในหุ้นหรือเทรดเหุ้น คุณจะให้ความสนใจกับประเด็นดังกล่าว แล้ววิเคราะห์ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นไรต่อไป แล้วจัดการลงทุนไปตามแนวโน้มนั้น ๆ
ราคาหุ้นถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน ราคาของหุ้นจะสูงขึ้นหากมีความต้องการมากกว่าที่มีอุปทาน (เช่น มีคนต้องการซื้อมากกว่าที่มีหุ้นอยู่) ในทางกลับกัน ราคาของหุ้นจะลดลงหากมีอุปทานมากกว่าอุปสงค์ (เช่น มีคนต้องการขายหุ้นมากกว่าที่มีผู้ซื้อ)
ประเภทออเดอร์หุ้น
หากคุณเป็นมือใหม่เล่นหุ้นไทยออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Streaming ไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้นระยะสั้นหรือการลงทุนหุ้นระยะยาว คุณจะพบว่ามีตัวเลือกการส่งคำสั่งเทรดให้เลือกถึง 6 แบบ ได้แก่
Limit
ออเดอร์หุ้นแบบ limit คือการซื้อหรือขายตามราคาที่เทรดเดอร์ต้องการ ในกรณีที่จะขาย เมื่อระบบจับคู่ราคาที่ตรงกันได้แล้ว คุณจะขายได้ทันที และเช่นเดียวกันในการซื้อ แต่ก็มีข้อเสียคือ ถ้าราคาระหว่าง Bid กับ Offer ยังไม่ตรงกัน รายการออเดอร์จะยังค้างอยู่ อย่างน้อยก็คือถึงสิ้นวันทำการตลาดหุ้น
จากตัวอย่างด้านบน หากคุณส่งคำสั่งซื้อระหว่าง 2.75-2.79 บาท หรือส่งคำสั่งขายระหว่าง 2.70 - 2.74 บาทก็สามารถปิดออเดอร์ได้ทันที เพราะมีคนรอจะซื้อหรือรอจะขายอยู่แล้ว
ATO
การกำหนดราคาแบบ ATO หรือเทรดที่ราคา Pre-Open ของทุกวันทำการ ในการเลือกคำสั่งนี้ คุณจะไม่สามารถระบุราคาที่ต้องการได้ และอาจจะไม่สามารถปิดออเดอร์ได้แม้ตลาดเปิดแล้วก็ตาม
หลายคนใช้ออเดอร์การซื้อหุ้น ATO เพื่อให้ได้หุ้นที่ต้องการในจำนวนที่ต้องการ โดยไม่ได้สนใจเรื่องของราคา ขอแค่ให้มีเข้าพอร์ต หรือขายออกไปได้ก็พอ
ATC
การกำหนดออเดอร์แบบ ATC นั้นตรงกันข้ามกับออเดอร์แบบ ATO คือเป็นการส่งคำสั่งเทรด ณ ราคาปิดตลาด และก็ไม่สามารถระบุราคาได้ ระบุได้เพียงชื่อหุ้นและจำนวน
ในกรณีที่จะซื้อ หากราคาสุดท้ายก่อนปิดตลาด เกินกว่าวงเงิน Cash Balance ที่มีอยู่ ก็ไม่สามารถซื้อได้ และออเดอร์นั้นจะถูกยกเลิกโดยอัตโนัมติ และหากต้องการขาย การขายที่ราคาปิดก็ไม่ได้การันตีว่าจะไม่ขาดทุน เพราะไม่มีใครทราบว่าราคาจะวิ่งไปถึที่เท่าไร แล้วอยู่ในแดนขาดทุนของคุรเองหรือเปล่า
MP
ราคาหุ้นแบบ MP ในแอปพลิเคชัน Streaming คือการซื้อหรือขายหุ้นในจำนวนที่ต้องการตามราคาตลาด ณ เวลาที่ส่งคำสั่งเทรด
ถ้าคุณจะขายที่ราคา MP จะได้ราคาที่ราคา Bid ที่สูงที่สุด ในทางตรงกันข้าม หากคุณต้องการซื้อที่ราคา MP จะซื้อได้ที่ราคาที่ต่ำที่สุดของราคา Offer
จากตัวอย่างด้านบน ที่ DR NDX01 ถ้าต้องการซื้อที่ราคา MP จะซื้อได้ที่ 11.70 บาท ถ้าต้องการขายที่ราคา MP จะขายได้ที่ 11.60 บาท เทรดเดอร์ที่เลือกราคา MP คือผู้ที่ต้องการซื้อหรือขายทันที แน่นอนว่า ถ้าเป็นการซื้อ ก็ต้องซื้อแพงกว่าเพื่อน (11.70 บาท) ถ้าเป็นการขาย ก็จะต้องขายที่ราคาถูกกว่าเพื่อน (11.60 บาท)
MP-MKT
เงื่อนไขออเดอร์แบบ MP-MKT นี้ จะเป็นการซื้อที่ราคาตลาด ณ ตอนส่งคำสั่งเช่นเดียวกับราคา MP แต่ถ้ามีจำนวนล็อตที่เหลือจากราคา MP ณ ตอนนั้น รีะบบก็จะตัดทิ้งไปในทันที
เช่น ถ้าคุณกำลังจะซื้อ (Bid) 1,500 หน่วย ที่ราคาหน่วยละ 5 บาท และมีคนกำลังจะขาย (Offer) ทั้งหมด 500 หน่วยที่ราคา 5 บาท เมื่อคุณส่งคำสั่ง Bid ออกไป คำสั่งจำนวน 500 หน่วยจะถูกจับคู่ซื้อขาย และที่เหลือ 1,000 หน่วยจะตกไปในทันที ไม่ได้เป็นออเดอร์ค้างไว้ให้เรา
วิธีการออเดอร์ MP-MKT นี้ ตัดความยุ่งยากในการแก้ไขคำสั่งซื้อหรือขายออกไป เพราะหากเป็นคำสั่งแบบ MP จำนวนหน่วยที่ยังไม่ได้รับการจับคู่จะยังค้างอยู่เช่นนั้น ซึ่งไม่รู้ว่าต้องคอยเท่าไร หรืออาจจนถึงปิดตลาดก็ยังจับคู่ไม่ได้เลยก็มี
MP-MKL
คำสั่งซื้อขายหุ้นแบบ MP-MKL ในแอปพลิเคชัน Streaming เป็นการจัดการออเดอร์ตามลำดับของราคาตลาด ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้ ถ้าจำนวนหน่วยที่จับคู่ซื้อขายได้ตามราคาตลาด ณ เวลานั้นยังคงมีเหลืออยู่ ส่วนที่เหลือนั้นจะถูกจับคู่กับราคาตลาดลำดับถัดไป
วิธีการส่งคำสั่งซื้อขายแบบ MP-MKL นี้ จะช่วยให้คุณซื้อขายหุ้นตามจำนวนที่ต้องการได้ทั้งหมด แต่ราคาอาจมีความแตกต่างกัน ขึ้นกับปริมาณการซื้อขายของฝั่งตรงข้าม ณ เวลานั้น
เช่น คุณต้องการซื้อหุ้น (Bid) 1,000 หน่วย ในเวลานั้นมีคนต้องการขาย (Offer) ที่ราคา 2.00 บาท จำนวน 800 หุ้น และ 1.90 บาท จำนวน 300 หุ้น ที่ 800 หน่วยแรกคำสั่งของหุ้น 1,000 หน่วยนั้น จะถูกซื้อขายที่ราคา 2.00 บาท ส่วนที่เหลืออีก 200 หน่วย จะซื้อขายที่ราคา 1.90 บาท
ความเข้าใจเรื่องออเดอร์หุ้นทั้ง 6 แบบนี้ เป็นสิ่งที่มือใหม่เริ่มเล่นหุ้นออนไลน์ทุกคนควรทำความเข้าใจ เพราะว่านี่คือพื้นฐานหนึ่งในการควบคุมและจัดการต้นทุน ผลกำไร และการขาดทุน หากซื้อโดยดูเพียงความสะดวกอย่างเดียวตามราคาตลาด MP ก็อาจได้ของที่แพงเกินราคา หรือขายถูกเกินไปก็เป็นได้ ในขระที่เลือกใช้ออเดอร์แบบ MP-MKT หรือ MP-MKL ก็อาจไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้
ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง
ตลาดหุ้นมีเวลาทำการเช่นเดียวกับห้างร้าน หรือบริษัททั่วไป การจะเทรดหุ้น ต้องเทรดในเวลาทำการของตลาดหุ้นของประเทศนั้น ๆ หากเป็นหุ้นไทย ก็คงไม่มีปัญหาเท่าไรเพราะเราสามารถจัดสรรเวลาการเทรดได้ไม่ยาก หากแต่เป็นหุ้นต่างประเทศ คุณต้องตรวจสอบและทำแผนการเทรดขึ้นมาว่าตลาดหุ้นที่หุ้นนั้น ๆ จดทะเบียนอยู่นั้นทำการเวลาใด ตรงกับกี่โมงที่เวลาไทย
หากคุณเทรดหุ้นในดัชนี Nasdaq ก็ต้องทราบว่า เวลาทำการของตลาดหุ้น Nasdaq คือตั้งแต่ 4:00 น. ถึง 20:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 11 ชั่วโมง หรือหากเทรดหุ้นญี่ปุ่นที่เวลาท้องถิ่นไวกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง ก็ต้องแพลนการเทรดให้ดี เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสดี ๆ ไป
ตรวจสอบเวลาท้องถิ่นรอบโลกจากเว็บไซต์ Date and Time เพื่อวางแผนการเทรดตามเวลาทำการของตลาดหุ้นต่าง ๆ
ต่อไปนี้เป็นเวลาทำการของตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยเปิดตั้งแต่ 9:30-17:00 น. แต่จะมีแบ่งเป็นช่วง ๆ 3 ช่วง ไม่รวมพักกลางวัน ดังตารางต่อไปนี้จากเว็บไซต์ทางการของตลาดหุ้นแห่งประเทศไทย
ช่วงเวลาการเทรด | เวลา | วิธีการ | รูปแบบการเทรด |
Pre-open Session I | 9.30 a.m. - T1 |
|
|
Trading Session I | T1 - 12.30 p.m. |
|
|
|
| ||
พักกลางวัน | |||
Pre-open Session II | 14.00 p.m. - T2 |
|
|
Trading Session II | T2 - 16.30 p.m. |
|
|
|
| ||
Pre-close | 16.30 p.m. - T3 |
|
|
|
| ||
Off-hour | T3 - 17.00 p.m. |
|
|
Market Close | 17.00 p.m. | ||
เมื่อถึงเวลาปิดทำการตลาดหุ้นทุกสิ้นวัน จะมีการสรุปภาพรวมตลาดให้นักลงทุนทราบ ไม่ว่าจะเป็นดัชนี SET ราคา และปริมาณการเทรด เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ในต่างประเทศ เทรดเดอร์ใช้ข้อมูลสรุปเหล่านี้ในการวางแผนการเทรดขั้นต่อไปว่าควรซื้อ ถือ หรือขายหุ้นใดบ้าง
ข้อยากประการหนึ่งของการเทรดหุ้นต่างประเทศคือช่วงเวลาที่ไม่ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิต ในยามที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังทำการ มีสภาพคล่องสูง คุณจะต้องเข้านอน แต่สิ่งนี้สามรถแก้ไขได้ไม่ยาก ด้วยการวางระบบการเทรดขึ้นมา เลือกและทดลอง ปรับให้เข้ากับตนเอง ในที่สุดคุณจะค้นพบวิธีการ และรูปแบบที่เข้ากับสไตล์ตัวเองมากที่สุด และไม่เบียดเบียนเวลาดี ๆ ของชีวิตไป
ขั้นตอนเริ่มเล่นหุ้นฉบับมือใหม่
คุณเป็นมือใหม่ที่ต้องการดำดิ่งสู่โลกแห่งการลงทุนในตลาดหุ้นหรือไม่ คุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากที่ใดหรือจะสำรวจภูมิทัศน์ทางการเงินที่ซับซ้อนนี้ได้อย่างไร อย่ากลัว! บล็อกโพสต์นี้มีไว้เพื่อแนะนำคุณเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นในตลาดหุ้น ตั้งแต่การทำความเข้าใจคำศัพท์และแนวคิดหลัก การเลือกกลยุทธ์การลงทุน และการเลี่ยงหลุมพรางทั่วไป เราช่วยคุณได้ ดังนั้นคว้าสมุดบันทึกแล้วเริ่มขั้นตอนแรกในการสร้างพอร์ตการลงทุน!
กำหนดรูปแบบการเทรดของตัวเอง
ไม่มีคำตอบเดียวสำหรับคำถามนี้ เนื่องจากกลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่เล่นหุ้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของตลาดที่คุณสนใจ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และความพร้อมด้านเงินทุน ทว่า มีเคล็ดลับทั่วไปบางประการที่สามารถช่วยคุณพัฒนากลยุทธ์การเทรดขึ้นมาได้
เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและยึดมั่นในแผนการนั้น มีการทบทวน ปรับแผนตามความเหมาะสม เทรดเดอร์ที่ดีไม่ใช่ผู้ที่เทรดทุก ๆ ความเคลื่อนไหวของตลาด แต่รอให้เงื่อนไขเฉพาะเกิดขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่การเทรด ระเบียบวินัยนี้มีความสำคัญต่อความสำเร็จระยะยาวในการลงทุนในหุ้น
องค์ประกอบสำคัญอีกประการของเล่นหุ้นออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จคือการบริหารความเสี่ยง มือใหม่เล่นหุ้นควรจำไว้เสมอว่าต้องเทรดด้วยเงินเย็น ห้ามกู้ยืมเงินคนอื่นมาใช้ในการเทรดเด็ดขาด และอย่าเสี่ยงมากกว่า 1-2% เมื่อปฏิบัติตามกฎนี้ คุณจะป้องกันตัวเองจากการขาดทุนจำนวนมากที่อาจทำให้เส้นทางการเทรดหุ้นต้องจบตัวลง
สุดท้าย สิ่งสำคัญคือต้องมีความคาดหวังที่เป็นจริงเมื่อเริ่มต้นในตลาดหุ้น คนส่วนใหญ่จะไม่เป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืนผ่านการเทรด แต่เป็นไปได้ที่จะทำกำไรอย่างสม่ำเสมอเมื่อเวลาผ่านไป หากคุณเข้าหาตลาดด้วยแผนการที่มั่นคง และยังคงอดทนและมีวินัยในการดำเนินการ
กำหนดขั้นตอน
มีหลายวิธีในการเข้าถึงตลาดหุ้น และอาจเป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าจะเริ่มต้นจากที่ใด ทางเลือกหนึ่งคือการตั้งค่าระบบการเทรดเอง นี่เป็นวิธีที่ดีในการควบคุมกลยุทธ์การลงทุนและทำการตัดสินใจตามการวิจัยและการวิเคราะห์เอง
ขั้นแรกของการเซ็ตระบบการเทรดคือ การเลือกโบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์มและเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ และรับการรูปแบบหรือสไตล์การเทรดที่เหมาะกับคุณ
ใด ๆ ก็ตาม การจะหาสิ่งที่เหมาะสมได้ ก็ต้องเกิดจากการทดลอง ต้องมีการทดสอบระบบย้อนหลังเพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายถึงการจำลองการเทรดโดยใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อดูว่าระบบจะดำเนินการอย่างไรในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน
การทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างฐานรากที่มั่นคงเพื่อความสำเร็จในตลาดหุ้น โปรดจำไว้ว่าไม่มีวิธีการใดที่เหมาะกับทุกขนาด สิ่งที่ใช้ได้กับเทรดเดอร์คนหนึ่งอาจไม่ได้ผลสำหรับอีกคนหนึ่ง กุญแจสำคัญคือการค้นหาสิ่งที่เหมาะกับคุณและยึดมั่นกับมัน
เปิดบัญชีเทรดหุ้น
เครื่องมือสำคัญของการเล่นหุ้นออนไลน์บัญชีเทรดหุ้นกับโบรกเกอร์หุ้นออนไลน์ โบรกเกอร์ที่ดี ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าเท่านั้น สภาพแวดล้อมการเทรดจะต้องเอื้อให้ลูกค้าได้รับความสะดวก รวดเร็ว ในการดำเนินการ รวมถึงมีทรัพยากรและเครื่องมือที่จำเป็นในการวิจัยและเทรดหุ้นที่เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา
มีโบรกเกอร์ออนไลน์มากมายให้เลือก ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องเปรียบเทียบคุณสมบัติและค่าธรรมเนียมก่อนเปิดบัญชี เมื่อคุณพบโบรกเกอร์ที่เหมาะกับคุณแล้ว ขั้นตอนการเปิดบัญชีก็ง่ายและรวดเร็ว
จากนั้น โบรกเกอร์จะร้องขอให้คุณยืนยันตัวตน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนหุ้นได้เลย หากเป็นการซื้อหุ้นต่างประเทศ คุณต้องฝากเงินบาทเข้าบัญชีและแปลงเป็นเงินท้องถิ่นของหุ้นต่างประเทศที่จะไปลงทุน เช่น ถ้าต้องการซื้อหุ้นที่สหรัฐอเมริกา ก็ต้องแลกเป็น USD ก่อน และแต่ละโบรกเกอร์จะมีรายละเอียดค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
กำหนดงบประมาณการเทรด
สมมติว่าคุณมีเงินเก็บสะสมไว้จำนวนหนึ่งและพร้อมที่จะเริ่มลงทุนในหุ้น คำถามก็คือคุณจะจัดสรรเงินนั้นอย่างไรจึงจะดีที่สุด เพื่อให้ไม่เสี่ยงจนเกินไป แต่ก็ไม่น้อยจนไม่ได้อะไรกลับมาเลย ในคู่มือลงทุนหุ้นของเราฉบับนี้ จะขอแนะนำการจัดสรรเงินสำหรับมือใหม่เริ่มต้นเ่นหุ้นออกเป็น 3 ก้อน ดังนี้
ก้อนที่ 1 การลงทุนหุ้นระยะยาว
การลงทุนหุ้นเพื่อนรับผลตอบแทนระยะยาวมักมาพร้อมกับการลงทุนในดัชนี ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมดัชนี ที่มีการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเอาชนะตลาดได้เมื่อเวลาผ่านไป หรือใช้เงินก้อนนี้ในการทยอยซื้อหุ้นคุณค่า และสะสมความมั่งคั่งตามสภาพเศรษฐกิจ
ก้อนที่ 2 การลงทุนหุ้นที่มีความเสี่ยงปานกลาง
เงินก้อนที่ 2 นี้ สำหรับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงหุ้นรายตัวหรือ ETF เฉพาะภาคส่วน นอกจากนี้ ยังรวมถึงกองทุนรวมที่เทรดในประเทศไทย ที่มีนโยบายลงทุนใน ETF หุ้นต่างประเทศด้วย
ก้อนที่ 3 การลงทุนเล่นหุ้นระยะสั้น
เงินทุนสำหรับเล่นหุ้นก้อนที่ 3 นี้ เป็นส่วนคุณยินดีจะสูญเสียได้ หากว่าการเล่นหุ้นระยะสั้นไม่เป็นไปตามแผน หรือขาดทุน สำหรับมือใหม่ลงทุนในหุ้น ขอแนะนำให้จัดสรรเงินจำนวนน้อย ๆ ในการทดลองระบบการเทรดที่เซ็ตขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นเมื่อชำนาญตลาดแล้ว ค่อยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นระยะสั้นได้
การจัดสรรเงินลงทุนในหุ้นนั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายโดยรวมและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ลงทุนหุ้นระยะยาวควรประเมินศักยภาพและประสิทธิภาพการลงทุนอยู่เสมอ ๆ เช่น ตรวจสอบและปรับพอร์ตทุก ๆ 3 เดือน 6 เดือน หรือยามที่เกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ทางเศรษฐกิจขึ้น
เรียนรู้การหยุดขาดทุน
เมื่อกล่าวถึงตลาดหุ้น การขาดทุนเป็นส่วนที่เลี่ยงไม่ได้ แต่หากคุณเข้าใจกลไกของการ Stop Loss คุณจะสามารถปกป้องพอร์ตหุ้นจากการถูกโจมตีมากเกินไปเมื่อตลาดสวนทางได้
วิธีหนึ่งในการ Stop Loss แบบไม่ต้องนั่งเฝ้ากราฟคือการใช้ Limit Order หรือคำสั่งซื้อหรือขายหุ้นตามราคาที่กำหนด หากราคาหุ้นต่ำกว่าราคา Limit Order การเทรดจะถูกดำเนินการโดยอัตโนมัติ วิธีนี้ช่วยให้คุณเลี่ยงการขาดทุนหากราคาหุ้นตกลงอย่างกะทันหันได้
อีกวิธีในการ Stop Loss คือการใช้คำสั่ง Stop Loss นี่คือคำสั่งขายหุ้นเมื่อถึงราคาที่แน่นอน คำสั่ง Stop Loss สามารถช่วยคุณล็อคผลกำไรและจำกัดการขาดทุนหากราคาหุ้นตกลงอย่างกะทันหัน
หากคุณยังใหม่กับตลาดหุ้น สิ่งสำคัญคือต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวิธี Stop Loss ก่อนที่จะเริ่มเทรด ด้วยการใช้ Limit Order และคำสั่ง Stop Loss คุณสามารถปกป้องพอร์ตหุ้นจากการขาดทุนครั้งใหญ่เมื่อตลาดหันหลังให้กับคุณ
ไม่หยุดเรียนรู้
ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้ช่ำชอง มีสิ่งใหม่ ๆ ให้เรียนรู้อยู่เสมอ การให้การเรียนรู้เป็นเป้าหมายในชีวิตจะช่วยให้คุณนำหน้าเกมและตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น
การเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การอ่านสิ่งพิมพ์ทางการเงินไปจนถึงการเรียน การเข้าชั้นเรียนเป็นทางเลือกที่ดีเพราะช่วยให้คุณได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและถามคำถามที่คุณอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน มีหลักสูตรออนไลน์ที่หลากหลายรวมถึงชั้นเรียนแบบตัวต่อตัว
นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารล่าสุดและแนวโน้มในตลาดเป็นสิ่งสำคัญ การอ่านบทความหรือการเข้าร่วมสัมมนาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น เพื่อให้คุณตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น
การเรียนรู้เหตุการณ์ปัจจุบัน จะช่วยให้เกิดความเข้าใจตลาด และปรับพอร์ตหรือทิศทางการลงทุนหุ้นทั้งระยะยาวและระยะสั้นได้อย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ แหล่งเรียนรู้การเงินนั้น จะต้องเชื่อถือได้ และไม่ให้ข้อมูลโน้มเอียงไปเฉพาะทางใดทางหนึ่ง
เมื่อคุณมีความเข้าใจพื้นฐานที่มั่นคงแล้ว อย่ากลัวที่จะเริ่มลงทุน ยิ่งคุณเริ่มต้นเร็วเท่าไร คุณก็ยิ่งมีเวลามากขึ้นในการเฝ้าดูการลงทุนเติบโต
เรียนรู้หุ้นจาก Fundamental และ Technical
การวิเคราะห์หุ้นมี 2 ประเภทหลัก คือ ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิค
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมุ่งเน้นไปที่รูปแบบทางการเงินและธุรกิจของบริษัทเพื่อกำหนดมูลค่าที่แท้จริง สิ่งนี้รวมถึงการตรวจสอบอัตราส่วนทางการเงิน ดูหนี้สิน สินทรัพย์ กระแสเงินสดของกิจการนั้น ๆ
ในขณะที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ข้อมูลราคาในอดีตเพื่อระบุรูปแบบและคาดการณ์การเคลื่อนไหวในอนาคต การเทรดหุ้นระยะสั้นจะนิยมใช้การวิเคราะห์เชิงเทคนิคค่อนข้างมากผ่านการอ่านรูปแบบแท่งเทียน
ทั้ง 2 วิธีมีข้อดีของมัน แต่สำหรับนักลงทุนมือใหม่ เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าบริษัททำเงินได้อย่างไร และระบุว่าตลาดประเมินมูลค่าต่ำหรือสูงเกินไป
เมื่อคุณมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับตลาดหุ้นและวิธีประเมินมูลค่าบริษัทต่าง ๆ แล้ว คุณสามารถเริ่มใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการตัดสินใจลงทุนได้ การวิเคราะห์ทางเทคนิคสามารถเป็นประโยชน์ในการระบุจุดเข้าและออก ตลอดจนระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น
เทรดหุ้นต่างประเทศออนไลน์
ด้วยบริการจากโบรกเกอร์หุ้นออนไลน์ คุณสามารถลงทุนในหุ้นในประเทศได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว มีเหตุผลหลายประการที่อาจเป็นแนวคิดที่ดีสำหรับมือใหม่เล่นหุ้นต่างประเทศ อันดับแรก หุ้นต่างประเทศสามารถให้ประโยชน์ในการกระจายการลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อคานน้ำหนักกับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง หากคุณลงทุนในหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว คุณกำลังใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว การเพิ่มหุ้นต่างประเทศในพอร์ตจะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของการลงทุนได้
นอกจากนี้ หุ้นต่างประเทศให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่า ด้วยลักษณะธุรกิจ เทคโนโลยีที่อาจจะดีกว่าหุ้นไทย แม้ว่าจะไม่มีการรับประกันว่าการลงทุนใด ๆ จะทำเงินได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าหุ้นต่างประเทศมีโอกาสพลิกผันมากกว่าหุ้นในประเทศ ดังนั้น หากคุณต้องการเพิ่มโอกาสในการทำเงินในตลาดหุ้น การลงทุนในหุ้นต่างประเทศก็คุ้มค่าที่จะพิจารณา
แน่นอนว่าการลงทุนในหุ้นต่างประเทศก็มีความเสี่ยงเช่นกัน หนึ่งคือคุณอาจไม่คุ้นเคยกับบริษัทหรือสภาพเศรษฐกิจในประเทศนั้น ๆ ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทน
ที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนเหล่านี้ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศอื่น ๆ อาจนำไปสู่ราคาหุ้นที่ผันผวนและอาจขาดทุนครั้งใหญ่สำหรับนักลงทุน แต่สิ่งเหล่านี้สามารถกำจัดลงได้ด้วยการศึกษาตลาดหุ้นของประเทศที่สนใจนั้นและประยุกต์เข้ากับวิธีเล่นหุ้นที่คุณเซ็ตขึ้นมาใช้
ทำความรู้จักหุ้นต่าง ๆ
เราสามารถจำแนกประเภทของหุ้นได้ 3 แบบ เพื่อคัดเลือกหุ้นที่ดีที่สุดที่เหมาะสมต่อรูปแบบการลงทุน ได้แก่ หุ้นเติบโต หุ้นคุณค่า และหุ้นแข็งแกร่ง
ในการเลือกประเภทหุ้นที่เหมาะกับพอร์ตการลงทุน คุณต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างหุ้นทั้ง 2 ประเภทนี้และวิธีการทำงานของพวกมัน
หุ้นเติบโต (Growth Stock)
หุ้นเติบโต คือ หุ้นประเภทหนึ่งที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเวลาผ่านไปและสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอ หุ้นเหล่านี้มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วหุ้นเหล่านี้จ่ายเงินปันผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย แต่มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าของเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญ
หุ้นเติบโตคือบริษัทที่คาดว่ากำไรจะเติบโตในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยปกติแล้วจะมีราคาแพงกว่าหุ้นคุณค่า เนื่องจากนักลงทุนเต็มใจที่จะจ่ายมากขึ้นสำหรับหุ้นของบริษัทที่มีแนวโน้มในอนาคตที่แข็งแกร่ง
หุ้นเติบโตอาจมีความผันผวนของตลาดสูงกว่าหุ้นประเภทอื่น เนื่องจากราคาของหุ้นเหล่านี้มักจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของนักลงทุน
หุ้นคุณค่า (Value Stock)
หุ้นคุณค่าคือหุ้นของบริษัทที่เทรดในราคาที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน เช่น กำไรและเงินปันผล นักลงทุนมักมองข้ามหุ้นคุณค่าเพราะดูเหมือนว่าจะมีโอกาสเติบโตน้อยกว่าหุ้นเติบโต อย่างไรก็ตาม หุ้นคุณค่ามักจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาวแก่นักลงทุน
หุ้นคุณค่าคือหุ้นที่ตลาดมองว่าต่ำกว่ามูลค่า ในขณะที่หุ้นเติบโตคือหุ้นที่คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่เร็วกว่าตลาดโดยรวม
หุ้นคุณค่าสามารถแบ่งออกได้อีกสองประเภท: มูลค่าลึกและด้อยคุณภาพ หุ้นที่มีมูลค่าสูงคือหุ้นที่เทรดด้วยส่วนลดอย่างมากจากมูลค่าที่แท้จริง ในขณะที่หุ้นที่มีปัญหาคือหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เชิงลบบางประเภท (เช่น การล้มละลาย)
หุ้นแข็งแกร่ง (Defensive Stock)
หุ้นแข็งแกร่งมักจะเป็นหุ้นที่มีค่าเบต้าต่ำและมีความผันผวนต่ำ หุ้นประเภทนี้โดยทั่วไปจ่ายเงินปันผลที่น่าเชื่อถือและมีงบดุลที่มั่นคง หุ้น Defensive มักจะเป็นหุ้นที่มีความมั่นคงมากกว่า เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดเหมือนหุ้นประเภทอื่น ตัวอย่างของหุ้นแข็งแกร่ง ได้แก่ บริษัทสาธารณูปโภค สินค้าอุปโภคบริโภค และบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ
นักลงทุนหุ้นระยะยาวมักมองว่าหุ้นคุณค่าน่าตื่นเต้นน้อยกว่าหุ้นเติบโต แต่สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาว นั่นเป็นเพราะหุ้นคุณค่ามักจะถูกตีราคาต่ำกว่าตลาดและตามทันมูลค่าที่แท้จริงของมันในที่สุด
ยกตัวอย่าง บริษัท 2 แห่งมีกำไรต่อหุ้น (EPS) เท่ากันที่ 10 บาท บริษัท A ถูกจัดเป็นหุ้นเติบโตที่เทรดหุ้นละ 100 บาท ขณะที่บริษัท B คือหุ้นคุณค่าเทรดหุ้นละ 50 บาท หากทั้ง 2 บริษัทมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 10% ในปีหน้า บริษัท A จะเทรดที่หุ้นละ 110 บาท และบริษัท B จะเทรดที่ราคาหุ้นละ 60 บาท
ฝึกเล่นหุ้นกับบัญชีทดลอง
วิธีเริ่มต้นเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่ ควรฝึกมือ ฝึกวิธีการด้วยบัญชีเทรดหุ้นทดลองเสียก่อน มีโบรกเกอร์ออนไลน์มากมายที่ให้บริการบัญชีทดลอง
ถ้าคุณเปิดบัญชีเทรดหุ้นไทยผ่านโบรกเกอร์ที่จดทะเบียนในไทย จะมีมีแอป Click 2 Win จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ทดลองเล่นหุ้น ดูการเคลื่อนที่ของราคา โดยเป็นการจำลองหน้าตาแอปพลิเคชัน Streaming ขึ้นมา
ถ้าคุณเปิดบัญชีเทรดหุ้นต่างประเทศกับโบรกเกอร์ออนไลน์เช่น TOPONE Markets เราได้เตรียมบัญชีทดลองพร้อมโบนัสเงินฝากให้คุณได้ใช้ในการทดลองกลยุทธ์การเล่นหุ้น ดังนั้น การเริ่มต้นเล่นหุ้นจึงไม่ใช่เรื่องยากแม้สำหรับมือใหม่ เมื่อคุณพบโบรกเกอร์ที่พอใจแล้ว เพียงเปิดบัญชีทดลองและเริ่มเทรด
แน่นอน เนื่องจากคุณไม่ได้ลงทุนด้วยเงินจริงจริง ๆ จึงไม่มีโอกาสสูญเสียอะไรเลย ทว่า สิ่งสำคัญคือการเทรดบัญชีทดลองอย่างจริงจัง เนื่องจากสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับวิธีการทำงานของตลาดหุ้น
เริ่มที่หุ้นปลอดภัยก่อน
สำหรับมือใหม่ หากยังลัลเว่าเลือกหุ้นตัวไหนดี เราขอแนะนำให้เริ่มต้นจากหุ้นปลอดภัยก่อน หุ้นปลอดภัยเป็นประเภทการลงทุนที่มีความผันผวนน้อยกว่าและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าจะไม่มีการค้ำประกันใด ๆ ในตลาดหุ้น แต่หุ้นปลอดภัยสามารถช่วยลดความเสี่ยงและให้รากฐานที่มั่นคงในการสร้างพอร์ตหุ้นได้
กลยุทธ์การเทรดหุ้นที่ดีที่สุด
มีกลยุทธ์การเทรดหุ้นที่แตกต่างกันมากมายที่นักลงทุนสามารถใช้เพื่อสร้างผลตอบแทน กลยุทธ์ทั่วไปบางอย่าง ได้แก่ การซื้อและการถือครอง การเทรดรายวัน การลงทุนแบบเน้นคุณค่า และการลงทุนเพื่อการเติบโต
มีปัจจัยหลายประการ ว่าควรเลือกกลยุทธ์ใดกับหุ้นตัวใด หรือกลยุทธ์ใดที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายการลงทุน การยอมรับความเสี่ยง ระยะเวลา และทุนเริ่มต้นได้ดีที่สุดกว่ากัน
กลยุทธ์การเล่นหุ้นแบบการเทรดระหว่างวัน โดยทั่วไปเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยินดีรับความเสี่ยงในระดับสูงและมีเงินทุนจำนวนมากในการเริ่มต้น ในทางกลับกัน การลงทุนแบบเน้นคุณค่า จัดเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนสามารถใช้โดยยอมรับความเสี่ยงได้ทุกระดับ และไม่จำเป็นต้องเริ่มด้วยเงินก้อน กุญแจสู่ความสำเร็จในการลงทุนแบบเน้นคุณค่าคือการหาบริษัทที่ประเมินมูลค่าต่ำกว่าตลาดและมีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว
การลงทุนในหุ้นเพื่อการเติบโต เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ยอดนิยมที่มุ่งเน้นไปที่การค้นหาบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และคาดว่าจะมีการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย หรือไม่เช่นนั้น ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกเล่นหุ้นตัวไหนดี ก็ซื้อกองทุนรวมดัชนี หรือ ETF ที่ติดตามผลประกอบการของตลาดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมหนึ่ง ๆ แทน การลงทุนประเภทนี้อาจมีความผันผวนมากกว่าแบบอื่นแต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า
ไม่มีกลยุทธ์การเทรดหุ้นใดที่ “ดีที่สุด” ที่จะใช้ได้กับทุกคน เทรดเดอร์มือโปรหลายคนก็ต้องผ่านช่วงเวลาทดสอบแผนการมาก่อนแล้วเช่นกัน จึงจะพบสิ่งที่เหมาะกับสไตล์ของตนเอง กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายส่วนบุคคล การยอมรับความเสี่ยง และระยะเวลาการลงทุน
คุณควรทำความเข้าใจเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางการเงินส่วนบุคคลให้ชัดเจนเสียก่อน เมื่อคุณรู้ว่าคุณกำลังทำอะไร เพื่ออะไร คุณจะสามารถเริ่มพบเจอวิธีเล่นหุ้นแบบต่าง ๆ และเปรียบเทียบความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เป็นไปได้
วิธีต่าง ๆ ในการเทรดหุ้น
มีหลายวิธีในการเทรดหุ้น และแต่ละวิธีก็มีข้อดีและความเสี่ยงในตัวเอง คุณสามารถซื้อหุ้นผ่านโบรกเกอร์ เทรดออนไลน์ หรือใช้ CFD เพื่อเทรดดัชนีหุ้น
ซื้อก่อนขาย
การซื้อหุ้นผ่านโบรกเกอร์เป็นวิธีการเทรดแบบดั้งเดิมที่สุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์แล้วซื้อหุ้นผ่านบัญชีนั้น ข้อดีของวิธีนี้คือง่ายและตรงไปตรงมา ทว่า ข้อเสียคือคุณอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมสูงกว่าวิธีอื่น ๆ
การเทรดหุ้นออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า ข้อเสียของวิธีนี้คืออาจซับซ้อนกว่าวิธีดั้งเดิม และคุณจะต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ออนไลน์
ขายก่อนซื้อ
คุณสามารถใช้วิธีดั้งเดิมและทำงานร่วมกับโบรกเกอร์เพื่อซื้อและขายหุ้น หรือคุณสามารถสำรวจความเป็นไปได้ของการใช้ CFD เพื่อเทรดหุ้น โบรกเกอร์หุ้นออนไลน์นำเสนอวิธีที่สะดวกในการเทรดหุ้น และยังสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้อีกด้วย
CFD คือสัญญาเทรดส่วนต่างซึ่งอนุญาตให้คุณเทรดดัชนีหุ้นโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของหุ้นจริง สิ่งนี้มีข้อดีบางประการ เช่น ความสามารถในการขายในตลาด แต่ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีวิธีใดที่ถูกหรือผิดในการเทรดหุ้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและการยอมรับความเสี่ยง หากคุณเพิ่งเริ่มต้น ควรเลือกโบรกเกอร์แบบดั้งเดิมหรือโบรกเกอร์หุ้นออนไลน์ที่ให้บริการลูกค้าที่ดี หากคุณมีประสบการณ์มากกว่าและพอใจกับความเสี่ยง การใช้แพลตฟอร์มเช่น CFD อาจเป็นตัวเลือกที่ดี
เทรดหุ้นต่างประเทศด้วย CFD
สัญญาเทรดส่วนต่าง หรือ Contract for Different (CFD) เป็นอนุพันธ์ทางการเงินประเภทหนึ่งที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์อ้างอิงโดยไม่ต้องซื้อสินทรัพย์มาครอบครอง
CFD เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์เนื่องจากมอบ Leverage ให้กับสินทรัพย์อ้างอิง หมายความว่ากำไร (และขาดทุน) จะเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ CFD จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเทรดหุ้นหรือสินทรัพย์อ้างอิงต่าง ๆ แบบรวดเร็ว
การเทรด CFD ผ่านโบรกเกอร์ CFD คุณต้องเดิมพันการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์อ้างอิง หากคุณคิดว่าราคาจะสูงขึ้น ให้ซื้อ “Long CFD” ในขณะที่หากคุณคิดว่าราคาจะลดลง ให้ซื้อ “Short CFD” กำไรหรือขาดทุนจะถูกกำหนดโดยส่วนต่างระหว่างราคาที่คุณเข้าสู่การเทรดและราคาที่คุณออกเมื่อถึงเวลาที่กำหนด
การเทรด CFD ด้วยการใช้พลังของ Leverage ทำให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์เหล่านี้ได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ สำหรับนักลงทุนหุ้นมือใหม่ที่กำลังจะชิมลาง CFD คุณต้องทำการบ้านมาก่อนว่าสินทรัพย์อ้างอิงนั้น จะเคลื่อนไหวไปอย่างไร จากปัจจัยขับเคลื่อนใด
นอกจากนี้ การเทรด CFD เป็นการเทรดโดยใช้มาร์จิ้น คุณต้องวางเงินมัดจำก่อนเล็กน้อยในบัญชีเทรด CFD (ปกติประมาณ 5-10%) ของมูลค่ารวมของสัญญาเพื่อเปิดการเทรด ทำให้เข้าถึงได้มากกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิม เช่น หุ้นหรือพันธบัตร ซึ่งต้องชำระเงินล่วงหน้า 100% ทว่า ยังหมายความว่าการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของเงินฝาก
ข้อดี VS. ข้อด้อย การเทรดหุ้นต่างประเทศด้วย CFD
การเทรด CFD เป็นอนุพันธ์ทางการเงินประเภทหนึ่งที่ให้คุณเทรดตามการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์อ้างอิง โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงจริง ๆ ด้วยพลังของ Leverage ที่ช่วยให้คุณเข้าถึงได้ง่ายกว่าการซื้อหุ้นรายตัวจากตลาด ทั้งยังเริ่มได้ด้่วยเงินทุนเล้กน้อยเพียง 5-10% เท่านั้น แต่ก็ใช่ว่า การเทรดด้วย CFD จะให้แต่ข้อดีเท่านั้น ก่อนเริ่มต้นลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนหุ้นต่างประเทศที่มีเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้อง มีหลายประเด็นที่คำนึงถึงและบริหารคความเสี่ยงก่อนเริ่มต้น
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญอีกประการสำหรับการเทรด CFD หุ้นคือ โดยปกติแล้ว CFD มักจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถือสถานะข้ามคืน หมายความว่าคุณจะถูกเรียกเก็บเงินในตำแหน่งหากคุณถือไว้ข้ามคืนตามเวลาทำการของโบรกเกอร์ ในกรณีที่โบกเกอร์กับคุณอยู่คนละประเทศกัน ค่าธรรมเนียมนี้มีผลต่อผลกำไรขาดทุนอย่างแน่นอน นี่คือข้อดีและข้อเสียบางประการของการเทรด CFD หุ้น
ข้อดีของการเทรดหุ้นด้วย CFD
เทรดได้ทุนหุ้น ทุกสินทรัพย์โดยไม่ต้องถือครอง
ด้วยพลังของ Leverage และการใช้บัญชี Margin ทำให้การเทรดด้วย CFD สามารถทำเงินได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเพียงวิเคราะห์ทิศทางของราคาได้อย่างแม่นยำ
ข้อด้อยของการเทรดหุ้นด้วย CFD
หากใช้ Leverage ผิดแผน แทนที่จะกำไร กลับขาดทุน
มีค่าธรรมเนียมการถือสถานะข้ามคืนและค่าคอมมิชชั่นสามารถกินเข้าไปในผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้
มีความเสี่ยงด้านตลาดมากขึ้น เนื่องจากไม่มีบุคคลที่สามที่จะปกป้องผลประโยชน์หากเกิดข้อผิดพลาดหรือข้อพิพาทใด ๆ
การเคลื่อนไหวของราคาที่ซับซ้อนในสินทรัพย์อ้างอิง บางครั้งอาจส่งผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Slippage ซึ่งหมายความว่าคำสั่งจะดำเนินการในราคาที่แย่กว่าที่คาดไว้
ควรขายหุ้นตอนไหน
เมื่อกล่าวถึงการซื้อหุ้นแล้ว ก็ต้องพูดถึงการขายหุ้นทำกำไรด้วย จะ Take Profit หรือ Stop Loss เมื่อไร ขึ้นกับว่าคุณพอใจกับมูลค่าปัจจุบันของการลงทุน ณ ปัจจุบันแล้วหรือยัง
ไม่มีใครระบุได้ว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หรือราคาจะแย่ไปกว่านี้อีกหรือเปล่า อยู่ที่มูลค่าต้นทุนของแต่ละคน คุณควรกำหนดอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังไว้ในขั้นตอนการเซ็ตแผนการเล่นหุ้นของตนเอง เพื่อที่ว่าเมื่ผลตอบแทนได้ตามอัตราที่กำหนดก็ Take Profit ขายทำกำไร หรือเมื่อราคาตกลงจากเกณฑ์ที่วางไว้ ก็ให้ขาดออก Stop Loss
ไม่มีกฎตายตัวว่าคุณควรขายหุ้นทำกำไรหรือเพื่อหยุดขาดทุนเมื่อใด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ส่วนบุคคลและเป้าหมายการลงทุน ทว่า หากคุณกำลังคิดที่จะทำกำไรหรือ Stop Loss ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญ 2-3 ข้อที่ควรคำนึงถึง
พิจารณาว่าเป้าหมายการ Take Profit คืออะไร
คุณต้องการสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว หรือคุณต้องการ เพื่อนำเงินไปลงทุนในที่อื่นอีกครั้ง หากเป็นอย่างหลัง การ Take Profit น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
คุณควรขายหุ้นเมื่อถึงคำสั่ง Take Profit ซึ่งเป็นราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า อาจเป็นเพราะหุ้นได้ไปถึงราคาเป้าหมายแล้วและคุณต้องการล็อคกำไร (อย่าโลภ) หรือเพราะมันกลายเป็นการซื้อมากเกินไปและถึงกำหนดปรับฐาน
ในทำนองเดียวกัน คุณควรขายหุ้นเมื่อถึงคำสั่ง Stop Loss ซึ่งเป็นราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่คุณต้องการขายเพื่อจำกัดการขาดทุน อาจเป็นเพราะหุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็วและคุณต้องการตัดขาดทุน หรือเพราะขายมากเกินไปและกำลังจะดีดตัวขึ้น
คำนึงถึงความเสี่ยงที่รับได้
หากคุณกังวลเกี่ยวกับตลาดที่ตกต่ำ การขายเพื่อ Stop Loss อาจทำให้คุณสบายใจได้ และไม่เป็นการเสียโอกาสในการลงทุน คุณยังมีเวลาโยกเงินนั้นไปซื้อหุ้นอื่นหรือสินทรัพย์อื่น ๆ ทดแทน ในทางกลับกัน หากคุณพอใจกับความผันผวนของตลาด และมีความเชื่อมั่นที่ดีว่าหุ้นดังกล่าวจะกลับตัวในอีกไม่ช้า การถือครองไว้อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดก็ได้
แม้ในการเล่นหุ้นระยะสั้นก็เช่นกัน ที่ต่างจากการเทรด CFD คือไม่มีการกำหนดกรอบตายตัวว่าต้องขายเมื่อไร เมื่อราคาไปเกินกว่าแนวต้านหรือร่วงลงกว่าแนวรับในระดับที่กำหนดไว้ (เช่น กำหนดเป็นสัดส่วนหรือจำนวนเงิน) ก็สามารถขายหุ้นออกได้เช่นกัน
เทรดหุ้นแล้วได้อะไร
มีหลายเหตุผลที่ผู้คนเทรดหุ้น สำหรับบางคนมันเป็นช่องทางในการทำมาหากิน คนอื่นมองว่าเป็นโอกาสในการลงทุน และคนอื่นมองว่าเป็นงานอดิเรก ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม การเป็นเทรดเดอร์หุ้นมีประโยชน์อย่างหนึ่ง ข้อดีอย่างหนึ่งคือคุณสามารถทำเงินได้มากมาย หากคุณรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ คุณสามารถเทรดหุ้นและทำกำไรได้มาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเทรดโดยใช้ Leverage โดยใช้ CFD ด้วย Leverage คุณสามารถควบคุมสถานะที่ใหญ่กว่าได้ด้วยเงินทุนเอง ซึ่งทำให้คุณมีโอกาสทำเงินได้มากขึ้น ข้อดีอีกประการของการเทรดหุ้นคือการเริ่มต้นค่อนข้างง่าย คุณไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการเริ่มเทรดหุ้น และมีโบรกเกอร์ออนไลน์มากมายที่ให้บริการแพลตฟอร์มการเทรด CFD ด้วยค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ สิ่งนี้ทำให้ง่ายสำหรับทุกคนในการเริ่มเทรดหุ้นและทำตามเป้าหมายการลงทุน
เป็นผู้ควบคุมโชคชะตาตนเอง
การเล่นหุ้น คุณจะต้องจัดสรรเงินทุน บริหารความเสี่ยง ทำบัญชีกำไรขาดทุน และเรียนรู้ข้อมูลเองทั้งหมดเสมือนเป็นเจ้าของกิจการย่อม ๆ ซึ่งต่างจากอาชีพอื่น ๆ ที่รายได้ขึ้นอยู่กับส่วนแบ่งตามสัดส่วนจากผู้อื่นเป็นส่วนใหญ่
ในฐานะเทรดเดอร์หุ้น คุณมีศักยภาพที่จะทำเงินได้มากเท่าที่ต้องการ แน่นอน นี่ก็หมายความว่าอาจสูญเสียได้มากเช่นกัน แต่ถ้าคุณมีแผนการที่ชัดเจน การบริหารความเสี่ยง และการเรียนรู้ ปรับตัว ตลาดหุ้นก็นำมาซึ่งรายได้ที่ดี
มีเวลาในชีวิตมากขึ้น
อีกสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการเป็นเทรดเดอร์หุ้นคือคุณสามารถทำงานได้จากทุกที่ในโลก เพียงมีคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางหรือทำงานจากที่บ้านไปพร้อม ๆ กับใช้ชีวิตให้เต็มที่กับมุมอื่น ๆ ของชีวิต
เป็นคนทันโลก ดูหนุ่มดูสาวเสมอ
โดยธรรมชาติของตลาดหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นไปไม่ได้เลยที่ความรู้ของอาิทตย์ก่อนจะยังสดหม่อยู่เสมอ เทรดเดอรืหุ้นต้องคอยติดตามข่าวสารการเงิน เศรษฐกิจ และสังคมเพื่อรับรู้แนวโน้มให้วางแผนการเทรดหุ้นให้ได้ผลกำไร ดังนั้น การเล่นหุ้นจึงเป็นวิธีที่ทำให้คุณเป็นคนทันโลก ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
การจัดการความเสี่ยงของการเทรดหุ้น
การบริหารความเสี่ยงคือกุญแจสำคัญของเทรดเดอร์หุ้นผู้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหุ้นระยะสั้นหรือระยะยาว กคุณต้องสามารถควบคุมความเสี่ยงเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว และรู้กลเม็ดการทำกำไรในระยะสั้น มีหลายวิธีในการบริหารความเสี่ยงเมื่อพูดถึงการเทรดหุ้น
การตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss ที่จะขายหุ้นโดยอัตโนมัติหากราคาตกลงต่ำกว่าราคาที่กำหนด บางคนกำหนดให้ไม่ตกไปกว่าเส้นแนวต้าน ราคานี้ควรตั้งในระดับที่คุณสบายใจกับการสูญเสียเงินที่คุณลงทุนไป
อีกแนวทางในการจัดการความเสี่ยงคือการกระจายพอร์ตการลงทุน ซึ่งหมายถึงการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของบริษัท อุตสาหกรรม และรวมถึงกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ และสินทรัพย์อื่น ๆ แทนที่จะใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว การกระจายพอร์ตหุ้นจะช่วยป้องกันคุณจากการขาดทุนหากหุ้นตัวหนึ่งทำงานได้ไม่ดี
อายุแต่ละช่วงวัย มีคศักยภาพในการรับความเสี่ยงได้ต่างกัน คุณควรทบทวนการประเมินระดับการยอมรับความเสี่ยงอยู่เสมอ ตามสภาพเศรษฐกิจ การงาน และเงื่อนไขอื่น ๆ ในชีวิต
วัย 20-30 ปี ที่เพิ่งเริ่มทำงานสร้างตัว ยังมีแรงและเวลาอีกมากในการหามาทดแทนส่วนที่อาจจะสูญฌสียไป และยังไม่มีภาระเรื่องบ้าน รถ หรือครอบครัวมากนัก ก็อาจให้น้ำหนักในการลงทุนหุ้นได้มากกว่า
ตรงกันข้ามกับคนที่อายุ 50-60 ปีและทำงานประจำเป็นหลัก คุณเหลือเวลาไม่มากในการสร้างกระแสเงินสดจากรายได้ประจำ เวลานี้ไม่ควรเสี่ยงกับหุ้นที่มีความผันผวนสูง ๆ แต่ควรเป็นหุ้นคุณค่าที่จะถือครองเพื่อรับเงินปันผล ร่วมกับสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่น พันธบัตรรัฐบาล
เมื่อคุณมีความเข้าใจในเป้าหมายและการยอมรับความเสี่ยงแล้ว คุณสามารถเริ่มพัฒนาแผนเฉพาะสำหรับการจัดการความเสี่ยงในการเทรดหุ้น มีวิธีต่าง ๆ มากมายที่สามารถใช้ได้ ดังนั้นการค้นหาวิธีที่เหมาะกับความต้องการและวัตถุประสงค์ส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
การเทรดหุ้นเป็นเกมระยะยาว อย่าจมอยู่กับความผันผวนของตลาดในแต่ละวันมากเกินไป ให้มุ่งเน้นไปที่การเลือกการลงทุนอย่างฉลาดและจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบแทน หากคุณทำเช่นนี้ คุณจะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี!
ฉันเหมาะกับการเทรดหุ้นหรือเปล่า
หากคุณกำลังคิดที่จะเริ่มต้นเทรดหุ้น อย่าลืมตรวจสอบ TOPONE Markets เราเป็นโบรกเกอร์เทรดหุ้นออนไลน์ชั้นนำที่ให้บริการเทรด CFD ในหุ้นจากทั่วทุกมุมโลก ด้วย TOPONE Markets แม้จะเป็นมือใหม่ ก็สามารถเทรดหุ้นได้อย่างมั่นใจด้วยบัญชีทดลองและโบนัสเงินเทรดจริงเพียงยืนยัยตัวตน นอกจากนี้ ยังมีสภาพแวดล้อมที่ทันสมัย ทั้งบทความ และข่าวสารการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ส่งตรงถึงมือคุณในทุก ๆ เช้า
เปิดบัญชีกับเราตอนนี้ แล้วเซ็ตระบบเทรด จัดการแผนการลงทุน และเติบโตไปด้วยกันในตลาดหุ้นรอบโลก!
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!