เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด
เจาะลึกตลาด Forex รอบรู้เงินเฟ้อ เงินฝืด รู้ไว้ได้เปรียบการเทรด

รอบรู้เงินเฟ้อ เงินฝืด รู้ไว้ได้เปรียบการเทรด

รอบรู้เรื่องเงินเฟ้อและเงินฝืดอย่างมาสเตอร์ เข้าใจผลกระทบต่อการเทรด พร้อมกลยุทธ์การเทรดในตลาด CFD ที่ได้เปรียบทุกสภาวการณ์

อวตารผู้เขียน
TOPONE Markets Analyst 2024-12-09
ไอคอนรูปตา 8003

ในโลกของเศรษฐกิจมหภาค การเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อ (Inflation) และเงินฝืด (Deflation) เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์การเทรดและการตัดสินใจของเทรดเดอร์อย่างมาก การเข้าใจถึงธรรมชาติของเงินเฟ้อและเงินฝืด รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนควรคำนึงถึงเพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์การเทรดได้เหมาะสมที่สุด เพิ่มผลตอบแทนได้สูงที่สุด


ในบทความการเงินการลงทุนของ TOPONE Markets ครั้งนี้ เราจะอธิบายถึงความหมายของเงินเฟ้อและเงินฝืด ปัจจัยที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เหล่านี้ วิธีการจัดการหรือสร้างสมดุลผ่านนโยบายการเงิน และการค้นหากลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมเพื่อสร้างความได้เปรียบในโลกการเงินมากกว่าที่เคยเป็นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยการใช้ตราสาร CFD (Contract for Difference) ในฐานะเครื่องมือเก็งกำไรสินทรัพย์ในสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงเช่นนี้


เงินเฟ้อ (Inflation) ภาพฉายสถานการณ์ของราคาที่เพิ่มสูงขึ้น

Inflation


เงินเฟ้อคือสถานการณ์ที่ระดับราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าของเงินลดลง

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ

  1. อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น: ความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าที่จะผลิตได้

  2. ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น: ราคาวัตถุดิบหรือแรงงานที่สูงขึ้น

  3. นโยบายการเงินและการคลัง: การพิมพ์เงินเข้าสู่ระบบจำนวนมากเกินไป

ผลกระทบจากเงินเฟ้อ

  • ผู้ที่ถือสินทรัพย์เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือหุ้น จะได้เปรียบเพราะมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น

  • ผู้ที่มีรายได้คงที่ เช่น พนักงานประจำ จะเสียเปรียบเพราะกำลังซื้อของเงินของพวกเขาลดลง

เทรดอะไรดีในช่วงเงินเฟ้อ

การเทรดในช่วงเงินเฟ้อเป็นความท้าทายสำหรับเทรดเดอร์ เนื่องจากมูลค่าของเงินลดลงและต้นทุนสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเลือกสินทรัพย์เทรดอย่างเหมาะสม คุณสามารถรักษามูลค่าและสร้างผลกำไรได้ในสภาวะที่เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น

  1. ทองคำ (Gold)
    ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Safe Haven) ในช่วงเงินเฟ้อ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการรักษามูลค่า ไม่ว่าราคาสินค้าหรือบริการจะเพิ่มสูงขึ้น ทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับมูลค่าของเงิน

  2. อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)
    อสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากมูลค่าของทรัพย์สินเหล่านี้มักเพิ่มขึ้นพร้อมกับระดับเงินเฟ้อ และรายได้จากค่าเช่าก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามราคาสินค้าและบริการ

  3. หุ้นในกลุ่มพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ (Energy and Commodities Stocks)
    หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน เช่น น้ำมัน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองแดง และข้าวสาลี มักจะได้ประโยชน์ในช่วงเงินเฟ้อ เพราะราคาสินค้าเหล่านี้มักจะปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

  4. กองทุนรวมดัชนีที่ปรับตัวตามเงินเฟ้อ (Inflation-Protected Funds)
    กองทุนรวมที่เทรดในพันธบัตรที่มีการปรับมูลค่าตามเงินเฟ้อ (เช่น TIPS - Treasury Inflation-Protected Securities) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการป้องกันผลกระทบจากการลดค่าของเงิน

  5. การเก็งกำไรผ่าน CFD (CFD Speculation)
    CFD (Contract for Difference) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ให้คุณสามารถเก็งกำไรในตลาดขาขึ้นและขาลงได้ ในช่วงเงินเฟ้อ เทรดเดอร์สามารถเลือกเก็งกำไรในสินทรัพย์ที่ได้รับผลบวกจากเงินเฟ้อ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ หรือหุ้นในกลุ่มพลังงาน


ในการพิจารณาทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนในช่วงเงินเฟ้อจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดและเป้าหมายทางการเงินส่วนบุคคล เพื่อรักษาและเพิ่มมูลค่าการลงทุนให้มากที่สุด

เงินฝืด (Deflation) อำนาจพ่อค้าลดลงอย่างต่อเนื่อง

Deflation


เงินฝืดคือสถานการณ์ที่ระดับราคาสินค้าและบริการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกิดจากความต้องการในตลาดที่ลดลงหรือการผลิตที่มีมากเกินไป

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดเงินฝืด

  1. อุปสงค์ที่ลดลง: การใช้จ่ายของผู้บริโภคหรือภาคธุรกิจที่ลดลง

  2. การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย: การกู้ยืมเงินมีต้นทุนสูงขึ้น

  3. การลดลงของต้นทุนการผลิต: เช่น เทคโนโลยีที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย

ผลกระทบ

  • ผู้ที่ถือครองเงินสดจะได้เปรียบเพราะมูลค่าของเงินเพิ่มขึ้น

  • ผู้ที่มีหนี้สินจะเสียเปรียบเพราะต้นทุนในการชำระหนี้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้

เทรดอะไรดีในช่วงเงินฝืด

เงินฝืดเป็นสถานการณ์ที่ราคาสินค้าและบริการลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การเทรดในสินทรัพย์บางประเภทอาจไม่เหมาะสมหรือมีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีสินทรัพย์บางประเภทที่สามารถสร้างผลตอบแทนหรือรักษามูลค่าได้ในช่วงเงินฝืด หากเลือกเทรดอย่างถูกต้อง

  1. พันธบัตรรัฐบาล (Government Bonds)
    พันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวอย่างที่ดีของสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเงินฝืด เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงในช่วงนี้มักทำให้ราคาของพันธบัตรเพิ่มขึ้น (มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น) และผลตอบแทนจากดอกเบี้ยยังคงได้รับการจ่ายอย่างสม่ำเสมอ

  2. เงินสดและตราสารหนี้ระยะสั้น (Cash and Short-Term Debt Instruments)
    ในช่วงที่ราคาสินค้าลดลง มูลค่าของเงินสดจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสินค้าและบริการ การถือเงินสดหรือการเทรดในตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น ตั๋วเงินคลัง (Treasury Bills) เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยรักษามูลค่าเงินเทรดได้

  3. หุ้นบริษัทที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง (Stocks of Strong Cash Flow Companies)
    หุ้นของบริษัทที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่งและไม่มีหนี้สินมากเกินไป เช่น บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน (Consumer Staples) มักได้รับผลกระทบน้อยกว่าบริษัทในอุตสาหกรรมอื่นในช่วงเงินฝืด

  4. สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Assets)
    นอกเหนือจากพันธบัตรรัฐบาล ทองคำอาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก แม้ว่าเงินฝืดจะไม่ใช่สภาวะที่ส่งเสริมราคาทองคำโดยตรง แต่ในสถานการณ์ที่เกิดความไม่แน่นอน เทรดเดอร์มักหันไปเทรดในสินทรัพย์ปลอดภัย

  5. การเก็งกำไรผ่าน CFD (CFD Speculation)
    CFD (Contract for Difference) เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงได้ การใช้ CFD เพื่อ Short สินทรัพย์ที่ราคามีแนวโน้มลดลง เช่น หุ้นบางกลุ่ม หรือสินค้าโภคภัณฑ์บางชนิด เป็นกลยุทธ์ที่สามารถช่วยสร้างผลตอบแทนได้ในช่วงเงินฝืด


การเทรดในช่วงเงินฝืดต้องใช้ความระมัดระวังและการวิเคราะห์ที่ดี เพื่อให้มั่นใจว่าสินทรัพย์ที่เลือกเทรดสามารถรักษามูลค่าและสร้างผลตอบแทนได้อย่างเหมาะสมในสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว

นโยบายการเงินและวิธีจัดการกับสถานการณ์

นโยบายการเงินและวิธีจัดการกับสถานการณ์


ธนาคารกลางเป็นผู้กำหนดนโยบายการเงินเพื่อลดผลกระทบของเงินเฟ้อหรือเงินฝืด โดยสามารถใช้เครื่องมือ เช่น

  • ปรับอัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ธนาคารกลางใช้ในการควบคุมสภาพเศรษฐกิจ โดยการปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค เทรดเดอร์ และธุรกิจในระบบเศรษฐกิจได้อย่างกว้างขวาง


ลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเงินฝืด ดังเช่น ในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008 ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ลดอัตราดอกเบี้ยลงจนใกล้ระดับ 0% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และต่อมาใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ 


หรือการเพิ่มดอกเบี้ยเพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ ในปี 2022-2023 FED ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี โดยการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงนี้ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้นทั่วโลก และสร้างแรงกดดันต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจ

  • การอัดฉีดเงิน

ใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE เพื่อเพิ่มเงินในระบบ เป็นหนึ่งในนโยบายการเงินที่ธนาคารกลางใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เผชิญกับภาวะชะลอตัวหรือเงินฝืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุด (Near Zero) ไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายและการเทรดในระบบเศรษฐกิจ


Quantitative Easing คือกระบวนการที่ธนาคารกลางเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านการซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรบริษัท จากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน


การซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ช่วยเพิ่มปริมาณเงินในระบบ และส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมต่ำลง ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเทรดและการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ


จากตัวอย่างในวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ได้นำ QE มาใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตซับไพรม์ (Subprime Mortgage Crisis) โดย FED ได้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อจำนองค้ำประกัน (Mortgage-Backed Securities) จำนวนมหาศาล

  • การควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate Management)

อีกหนึ่งนโยบายการเงินที่ธนาคารกลางของประเทศใช้ในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบคุมกระแสเงินตราต่างประเทศเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการนำเข้าและส่งออกในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเผชิญกับความผันผวน โดยการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate) หรือ อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Floating Exchange Rate) หรืออัตราแลกเปลี่ยนกึ่งลอยตัว (Managed Float) ที่รับกับสถานการณ์ ณ ช่วงเวลานั้น ๆ

กลยุทธ์การเทรดในตลาดการเงินในช่วงเงินเฟ้อและเงินฝืด

กลยุทธ์การเทรดในตลาดการเงินในช่วงเงินเฟ้อและเงินฝืด


ในสภาวะที่เงินเฟ้อหรือเงินฝืดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทรดเดอร์สามารถใช้ CFD (Contract for Difference) เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างผลกำไรได้ เนื่องจาก CFD อนุญาตให้ผู้เทรดเก็งกำไรทั้งในสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง


ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดเพื่อสร้งความได้เปรียบในแต่ละสภาพการณ์

กลยุทธ์สร้างความได้เปรียบช่วงเงินเฟ้อ

  • เทรดในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน หรือหุ้นกลุ่มพลังงาน

  • ใช้ CFD เพื่อเก็งกำไรในสินทรัพย์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามราคาตลาด

กลยุทธ์สร้างความได้เปรียบช่วงเงินฝื

  • เก็งกำไรในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นบริษัทที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง

  • ใช้ CFD เพื่อ Short สินทรัพย์ที่คาดว่าราคาจะลดลง

TOPONE Markets โบรกเกอร์พันธมิตรที่เทรดเดอร์วางใจในการเทรด CFD

สำหรับเทรดเดอร์ที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ TOPONE Markets เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ด้วยแพลตฟอร์มการเทรดที่ทันสมัย บริการลูกค้าที่เป็นเลิศ และเครื่องมือวิเคราะห์ที่ครบถ้วน คุณสามารถเริ่มต้นเทรดใน CFD ได้อย่างมั่นใจ


เริ่มต้นกับ TOPONE Markets วันนี้:

  • สร้างพอร์ตการเทรดที่หลากหลาย

  • เก็งกำไรทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลงด้วยตราสาร CFD ที่เป็นเครื่องมือเฉพาะสำหรับการเก็งกำไรราคา

  • รับคำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้การเทรดมีประสิทธิภาพ ติตดามผลงานของเทรดเดเอร์ผู้เชี่ยวชาญในชุมชนเทรดเดอร์ของเรา

สมัครฟรีกับเรา และเปิดโลกการเงินกับ TOPONE Markets!


การเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับเงินเฟ้อและเงินฝืด ไม่เพียงช่วยปกป้องความมั่งคั่งของคุณ แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณสร้างผลกำไรในสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ในโลกของเศรษฐกิจมหภาค การเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อ (Inflation) และเงินฝืด (Deflation) เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์การเทรดและการตัดสินใจของเทรดเดอร์อย่างมาก การเข้าใจถึงธรรมชาติของเงินเฟ้อและเงินฝืด รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนควรคำนึงถึงเพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์การเทรดได้เหมาะสมที่สุด เพิ่มผลตอบแทนได้สูงที่สุด


ในบทความการเงินการลงทุนของ TOPONE Markets ครั้งนี้ เราจะอธิบายถึงความหมายของเงินเฟ้อและเงินฝืด ปัจจัยที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เหล่านี้ วิธีการจัดการหรือสร้างสมดุลผ่านนโยบายการเงิน และการค้นหากลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมเพื่อสร้างความได้เปรียบในโลกการเงินมากกว่าที่เคยเป็นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยการใช้ตราสาร CFD (Contract for Difference) ในฐานะเครื่องมือเก็งกำไรสินทรัพย์ในสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงเช่นนี้


เงินเฟ้อ (Inflation) ภาพฉายสถานการณ์ของราคาที่เพิ่มสูงขึ้น

Inflation


เงินเฟ้อคือสถานการณ์ที่ระดับราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าของเงินลดลง

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ

  1. อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น: ความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าที่จะผลิตได้

  2. ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น: ราคาวัตถุดิบหรือแรงงานที่สูงขึ้น

  3. นโยบายการเงินและการคลัง: การพิมพ์เงินเข้าสู่ระบบจำนวนมากเกินไป

ผลกระทบจากเงินเฟ้อ

  • ผู้ที่ถือสินทรัพย์เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือหุ้น จะได้เปรียบเพราะมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น

  • ผู้ที่มีรายได้คงที่ เช่น พนักงานประจำ จะเสียเปรียบเพราะกำลังซื้อของเงินของพวกเขาลดลง

เทรดอะไรดีในช่วงเงินเฟ้อ

การเทรดในช่วงเงินเฟ้อเป็นความท้าทายสำหรับเทรดเดอร์ เนื่องจากมูลค่าของเงินลดลงและต้นทุนสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเลือกสินทรัพย์เทรดอย่างเหมาะสม คุณสามารถรักษามูลค่าและสร้างผลกำไรได้ในสภาวะที่เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น

  1. ทองคำ (Gold)
    ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Safe Haven) ในช่วงเงินเฟ้อ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการรักษามูลค่า ไม่ว่าราคาสินค้าหรือบริการจะเพิ่มสูงขึ้น ทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับมูลค่าของเงิน

  2. อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)
    อสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากมูลค่าของทรัพย์สินเหล่านี้มักเพิ่มขึ้นพร้อมกับระดับเงินเฟ้อ และรายได้จากค่าเช่าก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามราคาสินค้าและบริการ

  3. หุ้นในกลุ่มพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ (Energy and Commodities Stocks)
    หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน เช่น น้ำมัน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองแดง และข้าวสาลี มักจะได้ประโยชน์ในช่วงเงินเฟ้อ เพราะราคาสินค้าเหล่านี้มักจะปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

  4. กองทุนรวมดัชนีที่ปรับตัวตามเงินเฟ้อ (Inflation-Protected Funds)
    กองทุนรวมที่เทรดในพันธบัตรที่มีการปรับมูลค่าตามเงินเฟ้อ (เช่น TIPS - Treasury Inflation-Protected Securities) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการป้องกันผลกระทบจากการลดค่าของเงิน

  5. การเก็งกำไรผ่าน CFD (CFD Speculation)
    CFD (Contract for Difference) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ให้คุณสามารถเก็งกำไรในตลาดขาขึ้นและขาลงได้ ในช่วงเงินเฟ้อ เทรดเดอร์สามารถเลือกเก็งกำไรในสินทรัพย์ที่ได้รับผลบวกจากเงินเฟ้อ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ หรือหุ้นในกลุ่มพลังงาน


ในการพิจารณาทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนในช่วงเงินเฟ้อจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดและเป้าหมายทางการเงินส่วนบุคคล เพื่อรักษาและเพิ่มมูลค่าการลงทุนให้มากที่สุด

เงินฝืด (Deflation) อำนาจพ่อค้าลดลงอย่างต่อเนื่อง

Deflation


เงินฝืดคือสถานการณ์ที่ระดับราคาสินค้าและบริการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกิดจากความต้องการในตลาดที่ลดลงหรือการผลิตที่มีมากเกินไป

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดเงินฝืด

  1. อุปสงค์ที่ลดลง: การใช้จ่ายของผู้บริโภคหรือภาคธุรกิจที่ลดลง

  2. การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย: การกู้ยืมเงินมีต้นทุนสูงขึ้น

  3. การลดลงของต้นทุนการผลิต: เช่น เทคโนโลยีที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย

ผลกระทบ

  • ผู้ที่ถือครองเงินสดจะได้เปรียบเพราะมูลค่าของเงินเพิ่มขึ้น

  • ผู้ที่มีหนี้สินจะเสียเปรียบเพราะต้นทุนในการชำระหนี้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้

เทรดอะไรดีในช่วงเงินฝืด

เงินฝืดเป็นสถานการณ์ที่ราคาสินค้าและบริการลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การเทรดในสินทรัพย์บางประเภทอาจไม่เหมาะสมหรือมีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีสินทรัพย์บางประเภทที่สามารถสร้างผลตอบแทนหรือรักษามูลค่าได้ในช่วงเงินฝืด หากเลือกเทรดอย่างถูกต้อง

  1. พันธบัตรรัฐบาล (Government Bonds)
    พันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวอย่างที่ดีของสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเงินฝืด เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงในช่วงนี้มักทำให้ราคาของพันธบัตรเพิ่มขึ้น (มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น) และผลตอบแทนจากดอกเบี้ยยังคงได้รับการจ่ายอย่างสม่ำเสมอ

  2. เงินสดและตราสารหนี้ระยะสั้น (Cash and Short-Term Debt Instruments)
    ในช่วงที่ราคาสินค้าลดลง มูลค่าของเงินสดจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสินค้าและบริการ การถือเงินสดหรือการเทรดในตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น ตั๋วเงินคลัง (Treasury Bills) เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยรักษามูลค่าเงินเทรดได้

  3. หุ้นบริษัทที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง (Stocks of Strong Cash Flow Companies)
    หุ้นของบริษัทที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่งและไม่มีหนี้สินมากเกินไป เช่น บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน (Consumer Staples) มักได้รับผลกระทบน้อยกว่าบริษัทในอุตสาหกรรมอื่นในช่วงเงินฝืด

  4. สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Assets)
    นอกเหนือจากพันธบัตรรัฐบาล ทองคำอาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก แม้ว่าเงินฝืดจะไม่ใช่สภาวะที่ส่งเสริมราคาทองคำโดยตรง แต่ในสถานการณ์ที่เกิดความไม่แน่นอน เทรดเดอร์มักหันไปเทรดในสินทรัพย์ปลอดภัย

  5. การเก็งกำไรผ่าน CFD (CFD Speculation)
    CFD (Contract for Difference) เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงได้ การใช้ CFD เพื่อ Short สินทรัพย์ที่ราคามีแนวโน้มลดลง เช่น หุ้นบางกลุ่ม หรือสินค้าโภคภัณฑ์บางชนิด เป็นกลยุทธ์ที่สามารถช่วยสร้างผลตอบแทนได้ในช่วงเงินฝืด


การเทรดในช่วงเงินฝืดต้องใช้ความระมัดระวังและการวิเคราะห์ที่ดี เพื่อให้มั่นใจว่าสินทรัพย์ที่เลือกเทรดสามารถรักษามูลค่าและสร้างผลตอบแทนได้อย่างเหมาะสมในสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว

นโยบายการเงินและวิธีจัดการกับสถานการณ์

นโยบายการเงินและวิธีจัดการกับสถานการณ์


ธนาคารกลางเป็นผู้กำหนดนโยบายการเงินเพื่อลดผลกระทบของเงินเฟ้อหรือเงินฝืด โดยสามารถใช้เครื่องมือ เช่น

  • ปรับอัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ธนาคารกลางใช้ในการควบคุมสภาพเศรษฐกิจ โดยการปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค เทรดเดอร์ และธุรกิจในระบบเศรษฐกิจได้อย่างกว้างขวาง


ลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเงินฝืด ดังเช่น ในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008 ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ลดอัตราดอกเบี้ยลงจนใกล้ระดับ 0% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และต่อมาใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ 


หรือการเพิ่มดอกเบี้ยเพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ ในปี 2022-2023 FED ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี โดยการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงนี้ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้นทั่วโลก และสร้างแรงกดดันต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจ

  • การอัดฉีดเงิน

ใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE เพื่อเพิ่มเงินในระบบ เป็นหนึ่งในนโยบายการเงินที่ธนาคารกลางใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เผชิญกับภาวะชะลอตัวหรือเงินฝืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุด (Near Zero) ไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายและการเทรดในระบบเศรษฐกิจ


Quantitative Easing คือกระบวนการที่ธนาคารกลางเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านการซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรบริษัท จากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน


การซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ช่วยเพิ่มปริมาณเงินในระบบ และส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมต่ำลง ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเทรดและการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ


จากตัวอย่างในวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ได้นำ QE มาใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตซับไพรม์ (Subprime Mortgage Crisis) โดย FED ได้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อจำนองค้ำประกัน (Mortgage-Backed Securities) จำนวนมหาศาล

  • การควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate Management)

อีกหนึ่งนโยบายการเงินที่ธนาคารกลางของประเทศใช้ในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบคุมกระแสเงินตราต่างประเทศเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการนำเข้าและส่งออกในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเผชิญกับความผันผวน โดยการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate) หรือ อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Floating Exchange Rate) หรืออัตราแลกเปลี่ยนกึ่งลอยตัว (Managed Float) ที่รับกับสถานการณ์ ณ ช่วงเวลานั้น ๆ

กลยุทธ์การเทรดในตลาดการเงินในช่วงเงินเฟ้อและเงินฝืด

กลยุทธ์การเทรดในตลาดการเงินในช่วงเงินเฟ้อและเงินฝืด


ในสภาวะที่เงินเฟ้อหรือเงินฝืดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทรดเดอร์สามารถใช้ CFD (Contract for Difference) เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างผลกำไรได้ เนื่องจาก CFD อนุญาตให้ผู้เทรดเก็งกำไรทั้งในสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง


ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดเพื่อสร้งความได้เปรียบในแต่ละสภาพการณ์

กลยุทธ์สร้างความได้เปรียบช่วงเงินเฟ้อ

  • เทรดในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน หรือหุ้นกลุ่มพลังงาน

  • ใช้ CFD เพื่อเก็งกำไรในสินทรัพย์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามราคาตลาด

กลยุทธ์สร้างความได้เปรียบช่วงเงินฝื

  • เก็งกำไรในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นบริษัทที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง

  • ใช้ CFD เพื่อ Short สินทรัพย์ที่คาดว่าราคาจะลดลง

TOPONE Markets โบรกเกอร์พันธมิตรที่เทรดเดอร์วางใจในการเทรด CFD

สำหรับเทรดเดอร์ที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ TOPONE Markets เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ด้วยแพลตฟอร์มการเทรดที่ทันสมัย บริการลูกค้าที่เป็นเลิศ และเครื่องมือวิเคราะห์ที่ครบถ้วน คุณสามารถเริ่มต้นเทรดใน CFD ได้อย่างมั่นใจ


เริ่มต้นกับ TOPONE Markets วันนี้:

  • สร้างพอร์ตการเทรดที่หลากหลาย

  • เก็งกำไรทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลงด้วยตราสาร CFD ที่เป็นเครื่องมือเฉพาะสำหรับการเก็งกำไรราคา

  • รับคำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้การเทรดมีประสิทธิภาพ ติตดามผลงานของเทรดเดเอร์ผู้เชี่ยวชาญในชุมชนเทรดเดอร์ของเรา

สมัครฟรีกับเรา และเปิดโลกการเงินกับ TOPONE Markets!


การเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับเงินเฟ้อและเงินฝืด ไม่เพียงช่วยปกป้องความมั่งคั่งของคุณ แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณสร้างผลกำไรในสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ


  • ไอคอนแชร์ Facebook
  • ไอคอนแชร์ X
  • ไอคอนแชร์ Instagram

บทความที่กำลังมาแรง

  • “พายุไต้ฝุ่น” ของ FED : ความท้าทายใหม่ต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าทั่วโลก

    "ในช่วงที่ผ่านมา การดำเนินนโยบายการเงินของ FED ที่เปรียบเสมือน “พายุไต้ฝุ่น” ที่สร้างคลื่นลูกใหญ่ในตลาดการเงินโลก ถ้อยแถลงที่แข็งกร้าวของเขาไม่เพียงแต่ทำให้ตลาดสหรัฐฯ ผันผวนอย่างรุนแรงเท่านั้น แต่ยังทำให้กองทุนทั่วโลกเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง และกองทุนกว่า 35 ล้านล้านกองทุนอาจถูกถอนออกอย่างรวดเร็ว การดำเนินการชุดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อหรือปกปิดวิกฤตหนี้สหรัฐฯ บทความนี้จะเจาะลึกประเด็นนี้และวิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก "

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2025-01-10
  • 7 วิธีเริ่มต้นสร้างรายได้แบบ Passive Income ฉบับผู้เริ่มต้น

    อยากรวยแบบเขาบ้างเริ่มต้นไม่ยากหากนำทางด้วยความรู้ ทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์ สร้างรายได้ ต่อยอด ให้เงินทำงานด้วยหลักการของรายได้แบบ Passive Income ที่คุณเองก็หาได้มากกว่าเดือนละ 10,000 บาท

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-07-03
  • 5 ข้อผิดพลาดเทรดเดอร์มือใหม่ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเทรด

    ทุก ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่เริ่มต้นลงทุน เงินเฟ้อจะชนะเงินคุณแน่นอน มือใหม่หัดเทรดเริ่มต้นมั่นใจเพียงเรียนรู้ 5 ข้อผิดพลาดทั่วไปที่พบบ่อยของมือใหม่หัดเทรดก่อนเริ่มต้นในตลาดการเงิน

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-06-07
  • Andrew Tate คือใครและทำไมเขาถึงมีชื่อเสียง? 10 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Influencer ที่เป็นข้อโต้แย้ง

    ค้นพบว่าใครคือ Andrew Tate และทำไมเขาถึงสร้างกระแสในโลกดิจิทัล ค้นพบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ 10 ประการเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลที่เป็นที่ถกเถียง การเดินทางของเขา และผลกระทบของเขาต่อโลกออนไลน์

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-03-01
รูปโปรโมชันในบทความ
โอกาสทองรออยู่! กระโจนเข้ามา!พร้อมรับโบนัส $100 ฟรี!
ทองคำ ทองคำ

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย