เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด
เจาะลึกตลาด หุ้น Equity คืออะไร ในโลกแห่ง FOREX

Equity คืออะไร ในโลกแห่ง FOREX

ตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงไปมาระหว่างเปิดสถานะการเทรด คือ Equity ว่าแต่มันคืออะไร ทำไมถึงขยับขึ้นลง แล้วสุดทา้ยเราจะประเมินผลการเทรดในครั้งนั้นตรงไหน บทความนี้อธิบายตอบทุกข้อข้องใจ

อวตารผู้เขียน
TOPONE Markets Analyst 2022-03-11
ไอคอนรูปตา 1666

บทนำ

ในโลกของการเงิน นักเทรดทุกคนมีระดับเงินเริ่มต้นที่แตกต่างกัน แต่ล้วนคาดหวังว่าจะทำกำไรในการเทรด และสามารถถอนเงินจากบัญชีการเทรดออกไปใช้ได้ มูลค่าที่นักเทรดสามารถเบิกเงินไปใช้นั้น ทางแพลตฟอร์ม FOREX จะระบุสรุปยอดด้วยคำว่า Equity 


Equity คือเงินทุน หรือเงินที่สามารถใช้เพื่อดำเนินการซื้อขายหลักทรัพย์ และคำ ๆ นี้้ยังมีความหมายครอบคลุมถึงระดับความมั่งคั่งของเจ้าของอีกด้วยในแง่การบัญชี กล่าวคือ Equity มีค่าเท่ากับจำนวนเงินทุนทั้งหมดที่นักเทรดสามารถใช้ได้จริง ทั้งใช้ในการเทรดต่อเนื่อง รวมถึงขอถอนออกมาใช้ระหว่างที่ยังมีการเทรดอยู่



เมื่อจะทำการเทรดเพิ่ม หรือถอนเงินบางส่วนออกไป นักเทรดควรคำนึงเสมอว่าได้คงมูลค่า Equity ไว้เพียงพอให้หักทอนลงโดยระบบ เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดที่มีผลให้ราคาสินทรัพย์อ้างอิงปรับตัวลงชั่วคราว เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว พอร์ตอาจถูก Stop Out หรือล้างพอร์ต นักเทรดจะสูญเสียเงินที่มีอยู่ทั้งหมดไป

ทำความเข้าใจกับ Equity

FOREX เทรดบนอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างคู่สกุลเงิน รูปแบบการซื้อขาย ไม่ใช่การเข้าไปถือเงินสกุลต่างประเทศจริง ๆ แล้วโอนไปมาเพื่อแลกเปลี่ยนในตลาด แต่เป็นการเก็งกำไรบนราคาที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาของสกุลเงินที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนกัน การเปิดสถานะคือการใช้เงินซื้อสัญญาส่วนต่างราคา (Contract for Diffeence, CFD) โดยเก็งกำไรว่า ราคากำลังจะปรับขึ้น หรือลง



ในการเทรด FOREX เมื่อราคาของคู่สกุลเงินอ้างอิงเป็นไปตามคาด ค่า Equity จะเพิ่มขึ้น แต่หากว่าไม่เป็นไปตามคาด ค่า Equity ก็จะลดลง มูลค่าของ Equity จะเท่ากับมูลค่าเงินต้น หรือมูลค่าทุนที่เกิดจากการปิดสถานะซื้อ (Buy) และขาย (Sell) ทั้งหมดก่อนหน้าบวกกับยอดกำไรหรือขาดทุนที่ได้รับอยู่จากสถานะที่เปิดเอาไว้ นั่นหมายความว่า หากต้องการให้ Equity สูงกว่าเงินต้น จะต้องปิดสถานะการเทรดโดยได้กำไรเท่านั้น 


การเทรด FOREX กับหุ้นนั้น มีความเหมือนกันที่การทำกำไรจากส่วนต่างราคา เน้นครอบครองเมื่อราคาถูกและขายออกเมื่อราคาแพง แต่การครอบครองจะอ้างความเป็นเจ้าของเหนือสินทรัพย์อะไร เหนือสินทรัพย์ที่แท้จริง เช่น เงินในสกุลนั้น ๆ หุ้นที่ออก หรือสัญญาอ้างอิงราคาสินทรัพย์ นั่นคือจุดที่จะให้ผลซึ่งแตกต่างกันในเรื่องผลตอบแทนของนักลงทุน โดยการเทรด FOREX สำหรับรายย่อย ล้วนเป็นการเทรด CFD เมื่อเปิดสัญญา CFD นักเทรดจะเป็นเจ้าของสัญญา ถ้าหากทิศทางราคาไม่เป็นไปตามคาด ก็จะสูญเสียเงินต้นทั้งหมดไปตามเงื่อนไขเรื่องส่วนต่างราคา


หุ้นเอง ก็มีผลิตภัณฑ์ CFD ให้ลงทุน แต่การลงทุนใน CFD เท่ากับไม่ได้ครอบครองหุ้นจริง ๆ ไม่มีโอกาสอ้างสิทธิความเป็นเจ้าของเพื่อรับเงินปันผลประจำปี การลงทุน CFD เป็นการหาประโยชน์กับการปรับตัวไปมาของราคาหุ้น มีข้อได้เปรียบคือการลงทุน CFD  เริ่มต้นได้โดยใช้เงินน้อยกว่า เพราะโบรกเกอร์ที่มีผลิตภัณฑ์ CFD มักให้บริการ Leverage ด้วย ทำให้นักเทรดลงทุนได้มากกว่าเงินทุนตั้งต้นหลายเท่าตัว เช่น กำหนด Leverage 1:500 ก็ลงทุนได้มากกว่าเงินต้น 500 เท่า



Equity ในการเทรด CFD ทั้ง FOREX และหุ้น ตัวเลขบอกในสิ่งที่เหมือนกัน คือ มูลค่าเงินทุนที่มี บวกหรือลบด้วยมูลค่าของสถานะเทรดที่เปิดไว้ ถ้ารวมทุกสถานะแล้วมีกำไร ค่า Equity ก็จะสูงขึ้นกว่ายอดเงินตั้งต้น หรือสูงกว่าเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ชื่อว่า Balance แต่ถ้ารวมทุกสถานะแล้วมีค่าขาดทุน ค่า Equity ก็จะต่ำกว่า Balance และกรณีที่ปิดสถานะซื้อหรือขายทั้งหมดแล้ว ค่า Balance จะถูกปรับให้เท่ากับ Equity 

คำนวณ Equity การเทรด FOREX อย่างไร

Equity = Balance + Profit (or - Loss) ของสถานะที่เปิดอยู่


Balance คือตัวเลขตั้งตนที่แสดงในแพลตฟอร์มเมื่อทำการฝากเงินเข้าไป ในระหว่างเปิดสถานะซื้อขายไว้ แม้ Equity สามารถปรับเปลี่ยนไปมาได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับมูลค่าการขาดทุนหรือกำไร แต่ Balance จะคงที่เสมอ ยกเว้นมีการปิดสถานะซื้อหรือขาย ทาง Balance จึงจะปรับตามยอดว่าได้กำไรหรือขาดทุนไปแต่ละครั้งที่ปิดสถานะซื้อหรือขาย 


ในหลาย ๆ ครั้ง ค่า Balance จะมีค่าสูงกว่า Equity เมื่อปิดสถานะซื้อขายใด ๆ ลงได้ นั่นแสดงว่าพอร์ตกำลังขาดทุนอยู่ และถ้าหากปิดสถานะที่เปิดอยู่เพิ่มไปอีกหรือทั้งหมด จะทำให้ยอด Balance ปรับเปลี่ยนตามตัวเลข Equity สุดท้ายที่เห็น และนั่นคือมูลค่าเงินที่นักเทรดสามารถเบิกนำมาใช้ หรือเป็นฐานมูลค่าในการเปิดสถานะซื้อขายต่อไปได้

คำศัพท์ในแถบสถานะทางการเงินเมื่อเทรด FOREX

เมื่อนักเทรดเข้าไปยังหน้าแพลตฟอร์มสำหรับการเทรด อาจจะเป็นแพลตฟอร์มของทางโบรกเกอร์เอง หรือ MT4/MT5 หากไปดูตรงแถบแสดงสถานะทางการเงิน จะเห็นว่ามีลักษณะหรือองค์ประกอบ ดังนี้



ความหมายของคำศัพท์ต่าง ๆ ที่เห็นในแถบสถานะทางการเงิน 

  1. Balance คือ ยอดเงินต้นของรอบการเทรด หากเทรดครั้งแรกจะเห็นยอดเงินที่ฝากเข้าไปในบัญชีเทรด แต่ถ้าเทรดในครั้งต่อ ๆ มา ยอดจะเท่ากับเงินตั้งต้นบวกกับส่วนต่างของการเก็งกำไร เวลาปิดสถานะซื้อขายไปแต่ละครั้ง อย่างกรณีในภาพ หากปิดสถานะตอนนี้ ค่า Balance จะเหลือเท่ากับ Equity

  2. Equity คือ ทุนของเจ้าของบัญชี คือมูลค่าที่มีในการลงทุนทั้งหมด ตัวเลขนี้จะลดลงทันทีที่เปิดสถานะซื้อขาย เพราะการเปิดสถานะจะมีต้นทุนค่า Spread หรือส่วนต่างระหว่างราคาอ้างอิงเมื่อซื้อหรือขาย แล้วหลังจากนั้นก็จะปรับเพิ่มขึ้นหากทิศทางที่เก็งกำไรสัมพันธ์กับการปรับของราคา หรือ Equity ใน FOREX สามารถปรับลดลงต่ำไปอีกหากคาดเดาทิศทางปรับตัวของมูลค่าแลกเปลี่ยนระหว่างคู่สกุลเงินผิดพลาด

  3. Margin คือ มูลค่าขั้นต่ำที่ทางโบรกเกอร์ให้วางประกันไว้เมื่อมีการเปิดสถานะ ค่าตัวนี้จะสัมพันธ์กับระดับ Leverage ที่ได้รับจากทางโบรกเกอร์ และมูลค่าของสินทรัพย์ที่ลงทุน หากสินทรัพย์มีมูลค่าสูง ค่าเงินประกันที่ทางโบรกเกอร์เรียกไว้ก็จะสูงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์บางเจ้าได้ละเว้นการเก็บเงินประกันบนการเทรดสัญญาซื้อขายส่วนต่างสินทรัพย์บางประเภท หรือจากลูกค้าบางกลุ่ม ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละเจ้า กรณีที่ Equity เหลืออยู่ต่ำกว่า Margin บัญชีเทรดจะถูก Stop Out และเงินที่เหลือในส่วนของ Margin จะตกเป็นของโบรกเกอร์

  4. Free Margin คือ มูลค่าทุนที่สามารถใช้เพื่อเทรดต่อได้ จะมีค่าเท่ากับส่วนต่างของ Equity และ Margin [Free Margin = Equity - Margin] เมื่อเปิดสถานะซื้อขายใหม่ ค่า Free Margin ตัวนี้จะลดลงเสมอ สอดคล้องกับ Equity ที่ลดลง ยิ่งค่า Free Margin เข้าใกล้ศูนย์ ก็ยิ่งเสี่ยงจะถูก Stop Out อัตโนมัติจากทางโบรกเกอร์

  5. Margin Level คือ สัดส่วน Margin ที่เราคงเหลือ โดยคำนวณได้จาก Equity หารด้วย Margin แล้วคูณด้วย 100 เพื่อให้ได้ค่าออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ ถ้าเปิดสถานะซื้อขายมากเกินไป จะทำให้ Margin Level ต่ำลง หรือกล่าวสรุปคือ ยิ่งค่า Margin สูงขึ้น ค่า Margin Level ก็ยิ่งลดลง


เนื่องจากในการเปิดสถานะซื้อหรือขาย อาจมีการเรียกค่าประกัน หรือ Margin เกิดขึ้น และทำให้ความสามารถในการเทรดครั้งต่อ ๆ ไปมีขอบเขตที่ลดลง ดังนั้นนักเทรดควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์อ้างอิงว่ามีการเรียกเก็บ Margin หรือไม่ และสามารถคำนวณเองได้


Margin = Order Value x Lot x Contract size/Leverage


เช่น เปิด USDCAD 1 ล็อต ตอนราคาอยู่ที่ 1.28048 เลเวอเรจ 1:200 


จะต้องใช้ Margin = 1.28048 x 1 x 100,000/200 = 640.24


Contract size คือมูลค่าหรือขนาดสัญญา จะสัมพันธ์กับจำนวน lot โดยบัญชี Standard ทั่วไป จำนวน 1 lot จะเท่ากับ 100,000 หน่วย 


สรุปแล้วการตรวจสอบสถานะทางการเงินของบัญชี FOREX สิ่งที่ควรให้ความสนใจลำดับแรกคือ Equity เพราะนั่นสะท้อนว่าท้ายที่สุดแล้วนักเทรดทำเงินได้เท่าไร โดยค่าอื่น ๆ มีไว้เพื่อให้นักเทรดได้บริหารการใช้ Leverage ควบคู่ด้วย เพื่อลดความเสี่ยงที่พอร์ตจะถูก Stop Out

Equity กับ Balance ต่างกันอย่างไร

Equity ใน FOREX คืออะไร บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าเป็นมูลค่าทุนของการเทรดสุทธิ เป็นมูลค่าเงินที่เจ้าของพอร์ตครอบครองอยู่ตามจริง ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามมูลค่าสัญญาที่อ้างอิงมูลค่าแลกเปลี่ยนระหว่างคู่สกุลเงินที่เปิดสถานะซื้อและขายเอาไว้ การจะประเมินว่าทำกำไรหรือขาดทุนกี่เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต สามารถที่จะเปรียบเทียบกับตัวเลขในยอด Balance ได้



สรุปว่า  Equity กับ Balance ต่างกันอย่างไรนั้น เห็นได้ชัดว่า Equity ใน FOREX หรือแม้แต่การเทรดสินทรัพย์ใด ๆ จะเป็นตัวเลขที่มีความผันแปรตลอด ขณะที่ Balance เป็นมูลค่าสรุป ซึ่งการจะปิดสถานะที่ซื้อขายอยู่ นักเทรดมืออาชีพมักจะมีช่วงเวลาที่กำหนดเอาไว้เป็นเป้าหมาย เช่นการเทรดระยะสั้นระหว่างวัน หรือการเทรดเมื่อสิ้นวัน หรือการถือสถานะซื้อขายระยะยาวเป็นสัปดาห์ เมื่อมีการปิดสถานะซื้อขาย ตัวเลขก็จะสรุปเป็น Balance 


การเบิกเงินขณะมีสถานะซื้อหรือขายเปิดค้างเอาไว้นั้น มีความเสี่ยงว่าจะทำให้มูลค่า Equity ไม่เพียงพอต่อการบริหารพอร์ตลงทุนได้ เพื่อจำกัดความเสี่ยง ขอแนะนำว่าควรทำการปิดสถานะที่เปิดอยู่ทั้งหมดก่อนแล้วจึงถอนเงินซึ่งจะคงยอดสรุป Balance ที่เหมาะสมกับการเทรดต่อไป หากมีคำสั่งซื้อขายที่ไม่สามารถปิดได้ ก็ควรคำนึงเสมอว่า Equity ต้องมีเพียงพอ โดยไม่มุ่งเป้าไปที่มูลค่า Balance

บทส่งท้าย

การเทรด FOREX นักเทรดควรบริหารเงินเพื่อลงทุน การคอยสังเกตตัวเลขที่แสดงภาพรวมสถานะทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญ นักเทรดควรวางแผนว่าจะเทรดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ของยอด Balance และให้มี Equity ที่เพียงพอต่อการบริหารความเสี่ยง ยิ่งเลือกลงทุนใน FOREX ที่อ้างอิงคู่สกุลเงินที่อัตราแลกเปลี่ยนมีมูลค่าสูง หรือหน่วยลงทุนต่อคำสั่งมีปริมาณสูง ยอด Equity ควรมีเพียงพอที่จะรองรับความผันผวน

  • ไอคอนแชร์ Facebook
  • ไอคอนแชร์ X
  • ไอคอนแชร์ Instagram

บทความที่กำลังมาแรง

  • 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก

    ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-10-29
  • ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024

    เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-08-07
  • 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023

    เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-01-30
  • รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร

    รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2023-11-15
รูปโปรโมชันในบทความ
โอกาสทองรออยู่! กระโจนเข้ามา!พร้อมรับโบนัส $100 ฟรี!
ทองคำ ทองคำ

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย