เราใช้คุกกี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา และสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น คลิก "ยอมรับ" เพื่อใช้เว็บไซต์ของเราต่อไป รายละเอียด
เจาะลึกตลาด Forex 20 ค่าเงินที่แพงที่สุดในโลกปี 2567

20 ค่าเงินที่แพงที่สุดในโลกปี 2567

แม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นสกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นค่าเงินแพงที่สุดในโลก ทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกหลายประเทศที่ค่าเงินแพงกว่าดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างนึกไม่ถึง เปิดโลกแห่งเงินตราใหม่กับประเทศที่ค่าเงินแพงที่สุดในโลก 20 อันดับ

อวตารผู้เขียน
TOPONE Markets Analyst 2024-01-19
ไอคอนรูปตา 8269

ถ้าคุณคิดว่าประเทศที่ค่าเงินแพงที่สุดในโลกคือสหรัฐอเมริกาละก็ ต้องคิดดูใหม่อีกครั้ง ภูมิทัศน์ทางการเงินของโลกมีความซับซ้อน น่าค้นหาจากการเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดนิ่ง และในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ครองแชมป์สกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก ก็ยังมีอีกหลายสกุลเงินที่มีมูลค่าแพงกว่าชนิดที่หลายท่านก็คาดไม่ถึงว่าจะเป็นประเทศเหล่านี้


มาเจาะลึกการจัดอันดับ 20 ประเทศกับ 20 ค่าเงินที่แพงสุดในโลกในปี 2024 เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง แต่นี่ไม่ใช่แค่เกมตัวเลข เราจะเปิดม่านพลังที่ซ่อนเร้นซึ่งกำหนดรูปแบบเศรษฐกิจเหล่านี้ ตั้งแต่ยักษ์ใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันไปจนถึงผู้ด้อยโอกาสที่มั่นคงอย่างน่าประหลาดใจ

1. Hong Kong Dollar (HKD)

7.78 HKD = 1 USD


อ่องกงเป็นเขตบริหารพิเศษของจีนแผ่นดินใหญ่ ใช้สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงซึ่งตรึงไว้ที่ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่อาจมีบวกลบเล็กน้อย ในฐานะที่ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการเงิน ประตูการค้าในเส้นทางสายไหมยุคปัจจุบัน ส่งผลให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ค่าเงินแพงที่สุดในโลก


image.png

2. Danish Krone (DKK)

7.44 DKK = 1 USD


เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งแบบเสรีนิยมของประเทศเดนมาร์ก คุณภาพชีวิตที่ดีจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจาก 70% ของการผลิตเป็นสินค้าส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ส่งผลให้ค่าเงินโครนของดนมาร์กเป็นหนึ่งในค่าเงินที่แพงที่สุดในโลกไปพร้อม ๆ กับอันดับที่ 11 จาก 162 ประเทศเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งโดยวอลล์สตรีทเจอนัล


image.png

3. Qatari Riyal (QAR)

3.64 QAR = 1 USD


ประเทศการ์ตากับค่าเงินริยัลกาตาร์อันแข็งแกร่งเป็นผลมาจากการผสมผสานที่มีศักยภาพระหว่างความกล้าหาญทางเศรษฐกิจละทรัพยากรธรรมชาติที่มีให้ รวมถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ การจัดการทางการเงินที่แข็งแกร่ง กาตาร์ให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงและความยั่งยืนในระยะยาวของประเทศทำให้ค่าเงินริยาลยังคงเป็นผู้เล่นที่น่าเกรงขามในภูมิทัศน์สกุลเงินโลก


image.png

4. Israeli Shekel (ILS)

3.52 ILS = 1 USD


เศรษฐกิจของอิสลาเอลละมูลค่าของค่าเงินเซเกลเป็นผลมาจากการผสมผสานภาครัฐและเอกชนบนพื้นฐานความจำเป็นของการพัฒนาเศรษฐกิจ มีสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าของการนำเข้าและส่งออกที่สำคัญ ถือเป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกถึงความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจของประเทศและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง


image.png

5. Kuwaiti Dinar (KWD)

3.26 KWD = 1 USD


คูเวตและค่าเงินดีนาร์คูเวต ประเทศที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่า เป็นประเทศที่ค่าเงินแพงที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับเงินบาท โดย 1 ดีนาร์คูเวต มีราคาประมาณ 140 บาทกว่า ๆ หรือประมาณ 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ


เหตุที่ส่งเสริมให้ดีนาร์คูเวตแข็งแกร่งเหนือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คือความมั่งคั่งของน้ำมันดิบ การจัดเก็บภาษีที่ต่ำ ปริมาณน้ำมันสำรองที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศทางการเมืองที่มั่นคง ส่งผลให้ความต้องการในดีนาร์คูเวตมีความสนใจ


image.png

6. Bahraini Dinar (BHD)

2.65 BHD = 1 USD


ด้วยปัจจัยที่คล้ายกันกับคูเวต รวมถึงศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค ปริมาณน้ำมันสำรอง และรายได้ประชากรต่อหัวที่สูง ส่งผลให้ประเทศบาห์เรนและค่าเงินดีนาร์บาห์เรนมีข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจและการเงินระดับภูมิภาค แม้จะต้องนำเข้าอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงประชากรก็ตาม


image.png

7. Omani Rial (OMR)

2.11 OMR = 1 USD


ประเทศโอมานได้รับประโยชน์จากรายได้จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และครองตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ตามเส้นทางการค้าหลัก ดึงดูดนักลงทุน และทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น


image.png

8. Swedish Krone (SEK)

10.49 SEK = 1 USD


สภาพแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจที่มั่นคงของสวีเดน เพรียบพร้อมด้วยอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการส่งออกที่แข็งแกร่ง ยังคงรักษามูลค่าของ SEK ไว้ให้เหนือชั้นกว่าดอลลาร์สหรัฐฯ ได้


image.png

9. Norwegian Krone (NOK)

10.12 NOK = 1 USD


ประเทศนอร์เวย์มีความมั่งคั่งของน้ำมันและก๊าซ และความรับผิดชอบทางการคลังของนโยบายภาครัฐ ได้ผลักดันให้ค่าเงิน NOK มีเสถียรภาพ 


Norges Bank ธนาคารกลางของนอร์เวย์ ค่อย ๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามอัตราเงินเฟ้อ ที่ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5% ส่งผลให้ค่าเงิน NOK มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น


ข้อมูล ณ วันที่ 16 ม.ค. 67

10. New Zealand Dollar (NZD)

1.66 NZD = 1 USD


ประเทศนิวซีแลนด์ขึ้นชื่อด้านการส่งออกผลิตภัณฑ์นม การท่องเที่ยว และรัฐบาลที่มั่นคงนำมาซึ่งสกุลเงินต่างประเทศ ในขณะที่รัฐบาลที่มีเสถียรภาพส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเข้มแข็งของค่าเงิน NZD


image.png

11. Australian Dollar (AUD)

1.53 AUD = 1 USD


ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มากมายของออสเตรเลียและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้สกุลเงิน AUD น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ทั่วโลกหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อีกทั้งค่าเงิน AUD ยังเป็น 1 ใน 8 คู่เงิน Forex ที่ไดรับความนิยมในการเทรดด้วย


บทความที่คุณอาจสนใจ

12. Jordanian Dinar (JOD)

1.41 JOD = 1 USD


ประเทศจอร์แจนมีรัฐบาลที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพและควบคุมความผันผวนของขีดจำกัดของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศด้วยการตรึงค่าเงินไว้กับค่าเงิน USD จึงช่วยรักษามูลค่าของดีนาร์ไว้ได้ระดับหนึ่ง


จอร์แดนยังขึ้นชื่อในด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศซึ่งเป็นแหล่งเงินตราต่างประเทศที่สำคัญสำหรับจอร์แดน การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมเหล่านี้สามารถเสริมสร้างค่าเงิน JOD ได้โดยการเพิ่มความต้องการ


image.png

13. Singapore Dollar (SGD)

1.40 SGD = 1 USD


สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางทางการเงิน เศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการส่งออกสร้างความดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและรักษาเสถียรภาพของค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ไว้


image.png

14. Canadian Dollar (CAD)

1.29 CAD = 1 USD


เศรษฐกิจที่อุดมด้วยทรัพยากร รัฐบาลที่มั่นคง: ฐานทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ของแคนาดาและเสถียรภาพทางการเมืองมีส่วนทำให้ CAD มีความแข็งแกร่ง แม้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะผันผวนก็ตาม

15. Japanese Yen (JPY)

0.007 JPY = 1 USD


เศรษฐกิจขนาดใหญ่ สถานะที่ปลอดภัย: แม้จะมีแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่อง JPY ยังคงรักษามูลค่าไว้ได้เนื่องจากเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นและสถานะเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทั่วโลก


image.png

16. Swiss Franc (CHF)

0.99 CHF = 1 USD


สถานะแหล่งหลบภัย ธนาคารกลางที่เป็นอิสระ: ความเป็นกลางและระบบการเมืองที่เข้มแข็งของสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ CHF กลายเป็นสกุลเงิน "แหล่งหลบภัย" ที่ได้รับความนิยมในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน ธนาคารกลางที่เป็นอิสระยังส่งเสริมเสถียรภาพอีกด้วย

17. Euro (EUR)

0.95 EUR = 1 USD


เศรษฐกิจขนาดใหญ่ สกุลเงินเดียวของยูโรโซน: ยูโรเป็นตัวแทนของเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 19 ประเทศ ทำให้เป็นสกุลเงินหลักระดับโลกและนำเสนอเสถียรภาพผ่านขนาดของมัน


image.png

18. Cayman Islands Dollar (KYD)

0.81 KYD = 1 USD


หมู่เกาะเคย์แมนตั้งอยู่ในภูมิภาคแคริบเบียนสวรรค์ทางการเงิน ภาษีต่ำ และการท่องเที่ยว ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งผลักดันมูลค่าของหมู่เกาะเคย์แมนสูงขึ้น ตามความคึกคักทางเศรษฐกิจ


image.png

19. Gibraltar Pound (GIP)

0.80 GIP = 1 USD


ยิบรอลตาร์เป็นดินดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร เป็นศูนย์กลางบริการทางการเงิน การเสี่ยงโชคออนไลน์ การท่องเที่ยว และการส่งออกได้ปูรากฐานของค่าเงินยิบรอลตาร์ปอนด์ให้เป็นหนึ่งให้ค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก


image.png

20. British Pound Sterling (GBP)

0.80 GBP = 1 USD


ค่าเงินปอนด์ของสหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก และเป็นสกุลเงินสำรองของหลาย ๆ ประเทศรอบโลก ค่าเงินปอนด์มีความแข็งแกร่งจากชื่อเสียงด้านเสถียรภาพจากเศรษฐกิจที่หลากหลายของสหราชอาณาจักร แม้จะมิได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแล้วก็ตาม


ไม่เพียงแต่การแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเหล่า 20 สกุลเงินที่แพงที่สุดนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำทางของเศรษฐกิจโลกที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลาด้วยพลวัตทางการเมือง นโยบายทางเศรษฐกิจ และผลกระทบด้านต่าง ๆ จากปัจจัยภายในและภายนอก


เทรดคู่เงิน Forex รอบโลก ทำกำไรไปบนความน่าตื่นเต้นของโลกแห่งเงินตรากับเราที่ TOPONE Markets!


ถ้าคุณคิดว่าประเทศที่ค่าเงินแพงที่สุดในโลกคือสหรัฐอเมริกาละก็ ต้องคิดดูใหม่อีกครั้ง ภูมิทัศน์ทางการเงินของโลกมีความซับซ้อน น่าค้นหาจากการเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดนิ่ง และในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ครองแชมป์สกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก ก็ยังมีอีกหลายสกุลเงินที่มีมูลค่าแพงกว่าชนิดที่หลายท่านก็คาดไม่ถึงว่าจะเป็นประเทศเหล่านี้


มาเจาะลึกการจัดอันดับ 20 ประเทศกับ 20 ค่าเงินที่แพงสุดในโลกในปี 2024 เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง แต่นี่ไม่ใช่แค่เกมตัวเลข เราจะเปิดม่านพลังที่ซ่อนเร้นซึ่งกำหนดรูปแบบเศรษฐกิจเหล่านี้ ตั้งแต่ยักษ์ใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันไปจนถึงผู้ด้อยโอกาสที่มั่นคงอย่างน่าประหลาดใจ

1. Hong Kong Dollar (HKD)

7.78 HKD = 1 USD


อ่องกงเป็นเขตบริหารพิเศษของจีนแผ่นดินใหญ่ ใช้สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงซึ่งตรึงไว้ที่ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่อาจมีบวกลบเล็กน้อย ในฐานะที่ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการเงิน ประตูการค้าในเส้นทางสายไหมยุคปัจจุบัน ส่งผลให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ค่าเงินแพงที่สุดในโลก


image.png

2. Danish Krone (DKK)

7.44 DKK = 1 USD


เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งแบบเสรีนิยมของประเทศเดนมาร์ก คุณภาพชีวิตที่ดีจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจาก 70% ของการผลิตเป็นสินค้าส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ส่งผลให้ค่าเงินโครนของดนมาร์กเป็นหนึ่งในค่าเงินที่แพงที่สุดในโลกไปพร้อม ๆ กับอันดับที่ 11 จาก 162 ประเทศเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งโดยวอลล์สตรีทเจอนัล


image.png

3. Qatari Riyal (QAR)

3.64 QAR = 1 USD


ประเทศการ์ตากับค่าเงินริยัลกาตาร์อันแข็งแกร่งเป็นผลมาจากการผสมผสานที่มีศักยภาพระหว่างความกล้าหาญทางเศรษฐกิจละทรัพยากรธรรมชาติที่มีให้ รวมถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ การจัดการทางการเงินที่แข็งแกร่ง กาตาร์ให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงและความยั่งยืนในระยะยาวของประเทศทำให้ค่าเงินริยาลยังคงเป็นผู้เล่นที่น่าเกรงขามในภูมิทัศน์สกุลเงินโลก


image.png

4. Israeli Shekel (ILS)

3.52 ILS = 1 USD


เศรษฐกิจของอิสลาเอลละมูลค่าของค่าเงินเซเกลเป็นผลมาจากการผสมผสานภาครัฐและเอกชนบนพื้นฐานความจำเป็นของการพัฒนาเศรษฐกิจ มีสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าของการนำเข้าและส่งออกที่สำคัญ ถือเป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกถึงความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจของประเทศและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง


image.png

5. Kuwaiti Dinar (KWD)

3.26 KWD = 1 USD


คูเวตและค่าเงินดีนาร์คูเวต ประเทศที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่า เป็นประเทศที่ค่าเงินแพงที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับเงินบาท โดย 1 ดีนาร์คูเวต มีราคาประมาณ 140 บาทกว่า ๆ หรือประมาณ 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ


เหตุที่ส่งเสริมให้ดีนาร์คูเวตแข็งแกร่งเหนือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คือความมั่งคั่งของน้ำมันดิบ การจัดเก็บภาษีที่ต่ำ ปริมาณน้ำมันสำรองที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศทางการเมืองที่มั่นคง ส่งผลให้ความต้องการในดีนาร์คูเวตมีความสนใจ


image.png

6. Bahraini Dinar (BHD)

2.65 BHD = 1 USD


ด้วยปัจจัยที่คล้ายกันกับคูเวต รวมถึงศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค ปริมาณน้ำมันสำรอง และรายได้ประชากรต่อหัวที่สูง ส่งผลให้ประเทศบาห์เรนและค่าเงินดีนาร์บาห์เรนมีข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจและการเงินระดับภูมิภาค แม้จะต้องนำเข้าอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงประชากรก็ตาม


image.png

7. Omani Rial (OMR)

2.11 OMR = 1 USD


ประเทศโอมานได้รับประโยชน์จากรายได้จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และครองตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ตามเส้นทางการค้าหลัก ดึงดูดนักลงทุน และทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น


image.png

8. Swedish Krone (SEK)

10.49 SEK = 1 USD


สภาพแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจที่มั่นคงของสวีเดน เพรียบพร้อมด้วยอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการส่งออกที่แข็งแกร่ง ยังคงรักษามูลค่าของ SEK ไว้ให้เหนือชั้นกว่าดอลลาร์สหรัฐฯ ได้


image.png

9. Norwegian Krone (NOK)

10.12 NOK = 1 USD


ประเทศนอร์เวย์มีความมั่งคั่งของน้ำมันและก๊าซ และความรับผิดชอบทางการคลังของนโยบายภาครัฐ ได้ผลักดันให้ค่าเงิน NOK มีเสถียรภาพ 


Norges Bank ธนาคารกลางของนอร์เวย์ ค่อย ๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามอัตราเงินเฟ้อ ที่ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5% ส่งผลให้ค่าเงิน NOK มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น


ข้อมูล ณ วันที่ 16 ม.ค. 67

10. New Zealand Dollar (NZD)

1.66 NZD = 1 USD


ประเทศนิวซีแลนด์ขึ้นชื่อด้านการส่งออกผลิตภัณฑ์นม การท่องเที่ยว และรัฐบาลที่มั่นคงนำมาซึ่งสกุลเงินต่างประเทศ ในขณะที่รัฐบาลที่มีเสถียรภาพส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเข้มแข็งของค่าเงิน NZD


image.png

11. Australian Dollar (AUD)

1.53 AUD = 1 USD


ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มากมายของออสเตรเลียและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้สกุลเงิน AUD น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ทั่วโลกหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อีกทั้งค่าเงิน AUD ยังเป็น 1 ใน 8 คู่เงิน Forex ที่ไดรับความนิยมในการเทรดด้วย


บทความที่คุณอาจสนใจ

12. Jordanian Dinar (JOD)

1.41 JOD = 1 USD


ประเทศจอร์แจนมีรัฐบาลที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพและควบคุมความผันผวนของขีดจำกัดของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศด้วยการตรึงค่าเงินไว้กับค่าเงิน USD จึงช่วยรักษามูลค่าของดีนาร์ไว้ได้ระดับหนึ่ง


จอร์แดนยังขึ้นชื่อในด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศซึ่งเป็นแหล่งเงินตราต่างประเทศที่สำคัญสำหรับจอร์แดน การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมเหล่านี้สามารถเสริมสร้างค่าเงิน JOD ได้โดยการเพิ่มความต้องการ


image.png

13. Singapore Dollar (SGD)

1.40 SGD = 1 USD


สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางทางการเงิน เศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการส่งออกสร้างความดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและรักษาเสถียรภาพของค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ไว้


image.png

14. Canadian Dollar (CAD)

1.29 CAD = 1 USD


เศรษฐกิจที่อุดมด้วยทรัพยากร รัฐบาลที่มั่นคง: ฐานทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ของแคนาดาและเสถียรภาพทางการเมืองมีส่วนทำให้ CAD มีความแข็งแกร่ง แม้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะผันผวนก็ตาม

15. Japanese Yen (JPY)

0.007 JPY = 1 USD


เศรษฐกิจขนาดใหญ่ สถานะที่ปลอดภัย: แม้จะมีแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่อง JPY ยังคงรักษามูลค่าไว้ได้เนื่องจากเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นและสถานะเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทั่วโลก


image.png

16. Swiss Franc (CHF)

0.99 CHF = 1 USD


สถานะแหล่งหลบภัย ธนาคารกลางที่เป็นอิสระ: ความเป็นกลางและระบบการเมืองที่เข้มแข็งของสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ CHF กลายเป็นสกุลเงิน "แหล่งหลบภัย" ที่ได้รับความนิยมในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน ธนาคารกลางที่เป็นอิสระยังส่งเสริมเสถียรภาพอีกด้วย

17. Euro (EUR)

0.95 EUR = 1 USD


เศรษฐกิจขนาดใหญ่ สกุลเงินเดียวของยูโรโซน: ยูโรเป็นตัวแทนของเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 19 ประเทศ ทำให้เป็นสกุลเงินหลักระดับโลกและนำเสนอเสถียรภาพผ่านขนาดของมัน


image.png

18. Cayman Islands Dollar (KYD)

0.81 KYD = 1 USD


หมู่เกาะเคย์แมนตั้งอยู่ในภูมิภาคแคริบเบียนสวรรค์ทางการเงิน ภาษีต่ำ และการท่องเที่ยว ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งผลักดันมูลค่าของหมู่เกาะเคย์แมนสูงขึ้น ตามความคึกคักทางเศรษฐกิจ


image.png

19. Gibraltar Pound (GIP)

0.80 GIP = 1 USD


ยิบรอลตาร์เป็นดินดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร เป็นศูนย์กลางบริการทางการเงิน การเสี่ยงโชคออนไลน์ การท่องเที่ยว และการส่งออกได้ปูรากฐานของค่าเงินยิบรอลตาร์ปอนด์ให้เป็นหนึ่งให้ค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก


image.png

20. British Pound Sterling (GBP)

0.80 GBP = 1 USD


ค่าเงินปอนด์ของสหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก และเป็นสกุลเงินสำรองของหลาย ๆ ประเทศรอบโลก ค่าเงินปอนด์มีความแข็งแกร่งจากชื่อเสียงด้านเสถียรภาพจากเศรษฐกิจที่หลากหลายของสหราชอาณาจักร แม้จะมิได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแล้วก็ตาม


ไม่เพียงแต่การแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเหล่า 20 สกุลเงินที่แพงที่สุดนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำทางของเศรษฐกิจโลกที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลาด้วยพลวัตทางการเมือง นโยบายทางเศรษฐกิจ และผลกระทบด้านต่าง ๆ จากปัจจัยภายในและภายนอก


เทรดคู่เงิน Forex รอบโลก ทำกำไรไปบนความน่าตื่นเต้นของโลกแห่งเงินตรากับเราที่ TOPONE Markets!


  • ไอคอนแชร์ Facebook
  • ไอคอนแชร์ X
  • ไอคอนแชร์ Instagram

บทความที่กำลังมาแรง

  • “พายุไต้ฝุ่น” ของ FED : ความท้าทายใหม่ต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าทั่วโลก

    "ในช่วงที่ผ่านมา การดำเนินนโยบายการเงินของ FED ที่เปรียบเสมือน “พายุไต้ฝุ่น” ที่สร้างคลื่นลูกใหญ่ในตลาดการเงินโลก ถ้อยแถลงที่แข็งกร้าวของเขาไม่เพียงแต่ทำให้ตลาดสหรัฐฯ ผันผวนอย่างรุนแรงเท่านั้น แต่ยังทำให้กองทุนทั่วโลกเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง และกองทุนกว่า 35 ล้านล้านกองทุนอาจถูกถอนออกอย่างรวดเร็ว การดำเนินการชุดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อหรือปกปิดวิกฤตหนี้สหรัฐฯ บทความนี้จะเจาะลึกประเด็นนี้และวิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก "

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2025-01-10
  • 7 วิธีเริ่มต้นสร้างรายได้แบบ Passive Income ฉบับผู้เริ่มต้น

    อยากรวยแบบเขาบ้างเริ่มต้นไม่ยากหากนำทางด้วยความรู้ ทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์ สร้างรายได้ ต่อยอด ให้เงินทำงานด้วยหลักการของรายได้แบบ Passive Income ที่คุณเองก็หาได้มากกว่าเดือนละ 10,000 บาท

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-07-03
  • 5 ข้อผิดพลาดเทรดเดอร์มือใหม่ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเทรด

    ทุก ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่เริ่มต้นลงทุน เงินเฟ้อจะชนะเงินคุณแน่นอน มือใหม่หัดเทรดเริ่มต้นมั่นใจเพียงเรียนรู้ 5 ข้อผิดพลาดทั่วไปที่พบบ่อยของมือใหม่หัดเทรดก่อนเริ่มต้นในตลาดการเงิน

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-06-07
  • Andrew Tate คือใครและทำไมเขาถึงมีชื่อเสียง? 10 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Influencer ที่เป็นข้อโต้แย้ง

    ค้นพบว่าใครคือ Andrew Tate และทำไมเขาถึงสร้างกระแสในโลกดิจิทัล ค้นพบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ 10 ประการเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลที่เป็นที่ถกเถียง การเดินทางของเขา และผลกระทบของเขาต่อโลกออนไลน์

    อวตารผู้เขียน TOPONE Markets Analyst
    2024-03-01
รูปโปรโมชันในบทความ
โอกาสทองรออยู่! กระโจนเข้ามา!พร้อมรับโบนัส $100 ฟรี!
ทองคำ ทองคำ

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!

ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดเดโม

คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?

7×24 H

ดาวน์โหลดแอป
ไอคอนการให้คะแนน

ดาวน์โหลดแอป ฟรีเลย