ดอกเบี้ยทบต้น พลัง…เบื้องหลังความร่ำรวย

‘คนรวยจะรวยขึ้น คนจนจะจนลง’ คำพูดเก่าแก่เป็นอมตะแม้ในยุคปัจจุบัน

คนรวยยิ่งรวยขึ้นเรื่อย ๆ เพราะพวกเขารู้จักวิธีใช้เงินอย่างฉลาด มีความอดทน อดเปรี้ยวไว้กินหวานในวันหน้าผ่านสิ่งที่เรียกว่า ‘ดอกเบี้ยทบต้น’ (Compound Interest)

ดอกเบี้ยทบต้น คือ ดอกเบี้ยจากทั้งที่เป็นจากการลงทุนและการเป็นหนี้ สะสมทวีคูณขึ้นตามระยะเวลา ในแง่ของการงทุน เมื่อการลงทุนได้รับผลตอบแทน ผลตอบแทนที่อยู่ในรูปของดอกเบี้ยก็จะทบกันไปเรื่อย ๆ สร้างมูลค่าให้เงินต้นเพิ่มมากขึ้น

ในทางตรงกันข้าม ดอกเบี้ยทบต้นจากหนี้สิน ก็จะทำงานในลักษณะเดียวกัน หากจ่ายช้า หรือจ่ายไม่ครบจำนวนในแต่ละงวด ยอดหนี้ก็จะถูกลดลงไปอย่างช้า ๆ พลังของดอกเบี้ยทบต้นก็จะยิ่งปรากฏผลขึ้นเรื่อย ๆ ตามเวลา

ในบทความนี้ เรามาทำความรู้จักรายละเอียดของดอกเบี้ยทบต้นกัน ว่ามันคืออะไร ทำงานอย่างไร แล้วคุณจะใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้นในแง่การลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งได้อย่างไร รวมถึงการเลี่ยงการเป็นหนี้ก้อนโตจากพลังของดอกเบี้ยทบต้นกัน

ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร

ดอกเบี้ยทบต้น หรือ Compound Interest คือดอกเบี้ยที่ได้รับจากการลงทุนหรือดอกเบี้ยที่เกิดจากหนี้สิน เป็นการทบต้นผลของผลกำไร และจะปรากฏผลตามกาลเวลา

สมมติว่าเงื่อนไขทางการคำนวณเท่ากัน การลงทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยทบต้นสูงกว่าจะเติบโตในอัตราที่เร็วกว่าการลงทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เนื่องจากรายได้ที่ลงทุนซ้ำ (ทบต้น) จะได้รับดอกเบี้ยเช่นกัน ซึ่งทบต้นตามกาลเวลา ลองดูตัวอย่างคร่าว ๆ ดังนี้

ในปีแรก ลงทุน (เงินต้น) 100 บาท ที่อัตราผลตอบแทน 5% ต่อปี การลงทุนจะมีมูลค่า 105 บาท หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ในปีที่สอง การลงทุนจะมีมูลค่าเท่ากับ 110.25 บาท (มาจาก (5% ของ 105 บาทในปีที่หนึ่ง) + 105 บาท)

ยิ่งอัตราดอกเบี้ยทบต้นมากเท่าไร พลังของดอกเบี้ยทบต้นก็จะมากขึ้นเท่านั้น และหากคุณคงความสม่ำเสมอในการลงทุนเช่นนี้ต่อไป หรือเพิ่มจำนวนเงินลงทุนเข้าไปอีก จะพบว่า ระยะเวลา ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลให้ดอกเบี้ยทบต้นทำงานได้อย่างเต็มที่ และสร้างความมั่งคั่งกลับคืนมายังคุณ

ดอกเบี้ยทบต้นมักถูกเรียกว่าเป็น “ปาฏิหาริย์” หรือ “พลัง” ที่อยู่เบื้องหลังความมั่งคั่ง เนื่องจากมีความสามารถในการเปลี่ยนการลงทุนขนาดเล็กให้กลายเป็นเงินก้อนโตตามกาลเวลาได้

ตัวอย่างของดอกเบี้ยทบต้น

ไม่เพียงแต่ในแง่ของการฝากเงินในธนาคารเท่านั้น การลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในสินทรัพย์หรือหุ้นระยะยาว คุณจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากลพลังของดอกเบี้ยทบต้น ดังที่วอเรน บัฟเฟต มหาเศรษฐีชื่อดังชาวอเมริกันผู้ที่เริ่มต้นสะสมความมั่งคั่งมาตั้งแต่ยังหนุ่ม และด้วยความเชื่อมั่นในพลังของดอกเบี้ยทบต้นนี้เอง ทำให้การลงทุนของเขาเติบโตมาตลอดตามภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจของโลก

สูตรการทำงานของดอกเบี้ยทบต้นนั้นไม่ซับซ้อน พลังของการทบต้นคือเงินเริ่มเติบโตอย่างทวีคูณ

ยิ่งคุณให้เวลาและความสม่ำเสมอต่อการลงทุนมากเท่าไร มูลค่าของเงินจากดอกเบี้ยทบต้นก็จะงอกเงยมากขึ้นเท่านั้นตามกาลเวลาและจำนวนเงินต้น ในทางกลับกัน หากคุณอดใจกับดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ไหว ขายคืนหรือนำออกมาใช้ ต่อให้คุณลงทุนเป็นสิบ ๆ ปี พลังของดอกเบี้ยทบต้นก็ไม่ช่วยสร้างความมั่งคั่งให้แต่อย่างใด

หากคุณต้องการลงทุน 1,000 บาท เป็นเวลา 10 ปี ที่อัตราดอกเบี้ยทบต้น 10% คุณก็จะได้ 2,598 บาทจากดอกเบี้ยทบต้น หากคุณลงทุน 1,000 บาท เท่าเดิมเป็นเวลา 20 ปีที่ดอกเบี้ยทบต้น 10% คุณจะได้เงิน 6,727 บาท เป็นดอกเบี้ยทบต้น และถ้าคุณลงทุน 1,000 เท่าเดิมเป็นเวลา 30 ปีที่ดอกเบี้ยทบต้น 10% คุณจะได้เงินมากถึง 17,176 บาทเลยทีเดียว!

อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ต้องให้ความใส่ใจอีกหนึ่งเรื่องคือ พลังของดอกเบี้ยทบต้นต่อมูลค่าหนี้สิน ผลกระทบของดอกเบี้ยทบต้นต่อหนี้สินมีนัยสำคัญ ดอกเบี้ยทบต้นของหนี้สินคือเมื่อคุณได้รับดอกเบี้ยจากเงินต้น บวกกับดอกเบี้ยสะสมใด ๆ จากงวดก่อนหน้า สิ่งนี้อาจทำให้ยอดหนี้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณตามกาลเวลา หากคุณไม่ชำระเงินเป็นประจำตามรอบที่กำหนดหรือยอดที่กำหนด เช่น สมมติว่าคุณเป็นหนี้ 100 บาท ที่ดอกเบี้ย 10% และไม่ได้ชำระเงิน หลังจากหนึ่งปี คุณจะเป็นหนี้ 110 บาทโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย

ในปีถัดไป หากยังไม่ยอมจ่ายหนี้ลง ยอดหนี้ก็จะเป็น 121 บาท เพราะคุณจะได้รับดอกเบี้ยจาก 100 บาท เดิมบวกกับดอกเบี้ย 10 บาท ที่เกิดขึ้นในปีแรก สิ่งนี้สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วหากหนี้สูงและอัตราดอกเบี้ยทบต้นก็สูงเช่นกัน

ยอดรวมที่เป็นหนี้จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าการคิดดอกเบี้ยธรรมดา เพื่อเลี่ยงการจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมากเกินไป สิ่งสำคัญคือต้องพยายามชำระหนี้ให้เร็วที่สุด ยิ่งแบกหนี้ไว้นาน หนี้ก็จะยิ่งแพงเพราะดอกเบี้ยทบต้น

หากคุณมีภาระชำระหนี้สิน การทยอยจ่าย โดยเฉพาะการทยอยจ่ายปิดยอดหนี้เล็ก ๆ ให้หมดก่อนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเป้นอิสระภาพจากดอกเบี้ยทบต้นของหนี้สินได้ไวยิ่งขึ้น เมื่อจำนวนหนี้น้อยลง ความสามารถในการชำระหนี้สินก้อนใหญ่ ๆ ก็จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์สูงสุดที่จะวางกลยุทธ์เกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เครดิตและพยายามเลี่ยงการสะสมหนี้มากเกินไป

การทบต้นเป็นหนึ่งในพลังที่ทรงพลังที่สุดในการลงทุน เป็นสิ่งที่ช่วยให้เงินเติบโตอย่างทวีคูณตามกาลเวลา และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมการลงทุนแต่เนิ่นๆ และบ่อยๆ จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีในอนาคต

ดอกเบี้ยทบต้น ช่วยสร้างความมั่งคั่งได้อย่างไร

ดอกเบี้ยทบต้นเป็นกุญแจสู่ความมั่งคั่ง ไม่ใช่แค่เรื่องของการออมเงินเท่านั้น เป็นเรื่องของการให้เงินทำงานแทนคุณ การลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยทบต้นที่มีอัตราสูง ๆ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ฉลาดที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่ออนาคตทางการเงิน

หากคุณต้องการรวยด้วยดอกเบี้ยทบต้น มีบางสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ เวลาที่ดีที่สุดของการเริ่มต้นลงทุนคือ ‘วันนี้’ ยิ่งคุณเริ่มลงทุนเร็วเท่าไร เงินก็ยิ่งมีเวลาเติบโตมากขึ้นเท่านั้น ประการที่สอง คุณต้องลงทุนอย่างสม่ำเสมอ การบริจาคอย่างสม่ำเสมอจะเพิ่มพูนตามกาลเวลาและสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนแบบประปราย สุดท้าย คุณต้องเลือกการลงทุนอย่างฉลาด มองหาโอกาสที่ให้ผลตอบแทนสูงและความเสี่ยงต่ำ ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบและการลงทุนอย่างมีวินัย คุณสามารถสร้างความมั่งคั่งด้วยดอกเบี้ยทบต้น

ดอกเบี้ยทบต้นจากเงินฝาก

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) เคยกล่าวไว้ว่าดอกเบี้ยทบต้นคือ “การค้นพบทางคณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล”

การออมเงินในบัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยทบต้นในอัตราที่สูงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ฉลาดที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่ออนาคต ตามกาลเวลา ดอกเบี้ยที่คุณได้รับจะเริ่มเพิ่มขึ้น และคุณก็จะได้เงินมากกว่าที่คุณเริ่มต้น

ดอกเบี้ยทบต้นมักถูกเรียกว่า “ความมหัศจรรย์ของความมั่งคั่ง” เพราะมันมีความสามารถในการสร้างความมั่งคั่งจำนวนมากเมื่อเวลาผ่านไป โดยพื้นฐานแล้ว ดอกเบี้ยทบต้นคือเมื่อคุณได้รับดอกเบี้ยจากการลงทุนของคุณ จากนั้นคุณจึงนำดอกเบี้ยนั้นไปลงทุนใหม่เพื่อให้คุณได้รับดอกเบี้ยจากการลงทุนเดิมบวกกับดอกเบี้ยที่ได้รับ กระบวนการนี้ดำเนินต่อไปเมื่อเวลาผ่านไป และยิ่งคุณลงทุนนานเท่าไร เงินของคุณก็จะยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่านั้น

กุญแจสำคัญในการทำให้ดอกเบี้ยทบต้นได้ผลสำหรับคุณคือการเริ่มออมตั้งแต่เนิ่น ๆ และบ่อยครั้ง ยิ่งคุณเริ่มต้นเร็วเท่าไร เงินก็ยิ่งเติบโตนานขึ้นเท่านั้น และยิ่งคุณออมเงินได้มากเท่าไร คุณก็จะได้รับดอกเบี้ยมากขึ้นเท่านั้น

ในการใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้น คุณต้องเริ่มออมตั้งแต่เนิ่น ๆ และเน้นการลงทุนในระยะยาว ยิ่งคุณเริ่มออมเร็วเท่าไร เงินของคุณก็ยิ่งมีเวลาทำงานให้คุณมากขึ้นเท่านั้น หากคุณยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้นจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ถึงเวลาเริ่มต้นแล้ว! 

ดอกเบี้ยทบต้นจากการลงทุน

เมื่อกล่าวถึงดอกเบี้ยทบต้น เรามักนึกถึงดอกเบี้ยทบทต้นจากการลงทุนเป็นอันดับแรก และโดยพื้นฐานแล้วมันก็คือการเพิ่มมูลค่าของการลงทุนตามกาลเวลา พลังที่อยู่เบื้องหลังดอกเบี้ยทบต้นคือมันสามารถช่วยให้คุณเติบโตความมั่งคั่งได้ผ่านช่วงเวลาต่าง ๆ ของเศรษฐกิจโลกของเรา และมันสามารถเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากเมื่อใช้อย่างถูกต้อง

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ประโยชน์จากพลังของดอกเบี้ยทบต้นคือการจัดพอร์ตการลงทุนในหุ้นเติบโต หรือหุ้นที่อยู่รอดในทุกสถานการณ์ (Defensive Stock) ซึ่งจะมอบความมั่นคงและมีอัตราการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงและสม่ำเสมอ ตามกาลเวลา เมื่อมีการนำเงินปันผลไปลงทุนใหม่ มูลค่าของพอร์ตการลงทุนจะเพิ่มขึ้น และคุณจะเริ่มเห็นพลังของการทบต้นในการลงทุนนี้

อ่านถึงตรงนี้ บางท่านอาจสงสัยว่า ระหว่าง ‘เงินปันผล’ กับ ‘ดอกเบี้ยทบต้น’ 

ในแง่ของที่มาที่ไประหว่างเงินปันผลกับดอกเบี้ยทบต้นนั้นไม่ต่างกัน ซึ่งก็คือการที่หุ้นหรือการลงทุนใด ๆ ได้ทำงานและสร้างรายได้กลับคืนให้กับเงินต้นจากการลงทุน เงินปันผลนั้นเป็นผลตอบแทนที่จ่ายคืนให้กับนักลงทุน ในขณะที่ดอกเบี้ยทบต้นนั้น คือเงินปันผลในรูปแบบหนึ่ง ที่แทนที่จะจ่ายคืนให้กับนักลงทุนแต่หากเป็นการนำไปทบลงในเงินต้นเพื่อสร้างดอกผลในอนาคตอีกต่อไป

อีกวิธีหนึ่งในการใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้นคือ การวางแผนการออมในหุ้นหรือการลงทุนในรูปแบบต่างๆเพื่อการเกษียณซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการออมเงินสำหรับการเกษียณผ่านกองทุน SSF และกองทุน RMF ดังที่เราเคยได้ยินชื่อกันมานั่นเอง

ด้วยเงื่อนไขของการขายคืนหรือการรับผลประโยชน์จากการลงทุนในกองทุนรวมเหล่านี้ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าพลังของดอกเบี้ยทบต้นจะช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับคุณอย่างน้อยก็จนถึงตอนที่อายุ 55 ปีนั่นเอง

การวางแผนเกษียณนั้น ควรเริ่มต้นทำตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงานเพื่อให้มั่นใจได้ว่าระยะเวลาที่เพียงพอต่อการทำงานของดอกเบี้ยทบต้นนั้นจะสร้างมูลค่าความมั่งคั่งให้กับพอร์ตเกษียณได้อย่างแท้จริง 

ยิ่งคุณเริ่มเก็บออมเร็วเท่าไร เงินก็ยิ่งเติบโตได้นานขึ้นเท่านั้น และยิ่งมีเวลาทบต้นมากขึ้นเพื่อร่ายเวทย์มนตร์ของมัน หากคุณเริ่มออมเงินเพื่อการเกษียณเมื่ออายุ 25 ปี คุณจะมีเงินเก็บได้หลายล้านบาทเมื่อคุณเกษียณ อย่างน้อย ๆ ก็หลังจากอายุ 55 ปี

ดังนั้น หากคุณต้องการเพิ่มพูนความมั่งคั่งตามกาลเวลา ควรให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้นด้วยการลงทุนในหุ้นหรือเริ่มออมเงินเพื่อการเกษียณให้เร็วที่สุด ด้วยความอดทนเล็กน้อย ไดฟูกุความและไม่ตระหนกกับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ และการวางแผนที่ฉลาด รับรองได้ว่าเมื่อถึงวันที่คุณเกษียณคุณจะมีเงินเพียงพอต่อความต้องการใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน

บทส่งท้าย

จะเห็นได้ว่าดอกเบี้ยทบต้นนั้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการออมเงิน การลงทุน หรือการเป็นหนี้สิน ล้วนแต่สร้างพลังแบบเท่าทวีให้กับมูลค่าของเงินของเรา ดังนั้น จึงจะเป็นการดีหากเราได้พยายามจำกัดมูลค่าของหนี้สินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะมากได้ และหันมาสร้างความมั่งคั่งจากการออมเงินและการลงทุนเพื่อใช้ประโยชน์จากพลังของดอกเบี้ยทบต้นซึ่งเป็นของขวัญที่ฟรีหนึ่งเดียวจากสถาบันการเงิน