ลงทุนแบบเสี่ยงน้อย ๆ ด้วยการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์

หากกล่าวถึงการลงทุนแบบมีความเสี่ยงน้อย ๆ หลายคนอาจจะนึกถึงเพียงเงินฝากธนาคารที่จ่ายดอกเบี้ยให้เป็นรายปีหรือรายเดือนที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งวิธีในการลงทุนกับรัฐบาลนั่นคือการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ ซึ่งเป็นการให้รัฐบาลกู้ยืมเงินและรับดอกเบี้ยตามรอบที่กำหนด ระยะเวลาตามที่ตราไว้บนการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์

พันธบัตรออมทรัพย์คืออะไร

พันธบัตรออมทรัพย์ คือ รูปแบบหนึ่งของการลงทุนที่รัฐบาลเสนอให้ พันธบัตรเหล่านี้มักใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนออมเงินเพื่อการเกษียณอายุหรือเป้าหมายระยะยาวอื่น ๆ รัฐบาลเสนอพันธบัตรออมทรัพย์ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งหมายความว่าคุณจะรู้ว่าคุณจะได้รับเงินเท่าไรจากการลงทุนเมื่อเวลาผ่านไป พันธบัตรออมทรัพย์ ถือเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยเนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากความเชื่อมั่นและเครดิตของรัฐบาลอย่างเต็มที่

พันธบัตรออมทรัพย์ 2565 รุ่นออมเพิ่มสุข

พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นเพิ่มสุข เป็นพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นล่าสุดที่ออกจำหน่ายเมื่อ 13-30 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ 

รัฐบาลได้ประกาศจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นเพิ่มสุขขึ้นมา เป็นพันธบัตรออมทรัพย์รอบพิเศษของกระทรวงการคลัง สำหรับปีงบประมาณ 2565 แบบอายุ 5 ปีและ 10 ปีวงเงินจำหน่ายที่ 1 พันล้านบาท มีมูลค่าหน่วยละ 1,000 บาท

หากจะอธิบายให้ละเอียดอีกสักหน่อยก็คือ รัฐบาลเสนอขอกู้เงินจากประชาชนจำนวน 1,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นมูลค่าหุ้นหน่วยละ 1,000 บาท มีอายุการกู้ทั้งหมด 10 ปี ซึ่งตลอดอายุเวลาการกู้นี้ รัฐบาลตกลงว่าจะจ่ายดอกเบี้ยให้ตามที่กำหนด (บนหนังสือชี้ชวน)

ผลตอบแทนจากการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์

ได้รับดอกเบี้ยระหว่างทาง สูงกว่าเงินฝาก

อัตราผลตอบแทนที่ได้รับจากดอกเบี้ยของการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์นั้นแน่นอนว่าย่อมสูงกว่าเงินฝากธนาคารเนื่องด้วยเมื่อรัฐนำเงินของประชาชนที่ระดมทุนมาได้ไปใช้ในกิจการต่างๆและมีดอกผลงอกเงยขึ้นมารับก็สามารถนำมาปันส่วนให้กับประชาชนเป็นการตอบแทนได้มากกว่าเงินฝากธนาคาร

สำหรับท่านที่อาจจะยังไม่ทราบ เงินฝากธนาคารจะได้รับดอกเบี้ยจากการที่เป็นส่วนเหลือของรายการหักค่าใช้จ่ายต่างๆที่ธนาคารจำเป็นต้องใช้ซึ่งรายได้หลักของธนาคารมาจากเงินให้กู้ยืมผ่านการรีไฟแนนซ์บ้าน บัตรเครดิต และเงินกู้อื่นๆ ซึ่งธนาคารก็นำเงินเหล่านั้นมาจากมันด่าประชาชนที่นำเงินไปฝากนั่นเอง

ความเสี่ยงของการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์

ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง

การซื้อพันธบัตรออมทรัพย์นั้นมีสภาพคล่องน้อยกว่าเงินฝากธนาคาร กล่าวคือสมมุติว่าคุณเปิดบัญชีฝากประจำกับธนาคารพาณิชย์เอาไว้แต่หากคุณมีความจำเป็นที่จะต้องถอนก็สามารถเดินไปถอนเงินที่ธนาคารแนะนำออกมาจับจ่ายใช้สอยได้หากแต่การซื้อพันธบัตรออมทรัพย์จะถูกกำหนดอายุเอาไว้ตายตัวซึ่งในการถ่ายถอนก่อนครบกำหนดนั้นก็สามารถทำได้แต่อาจจะกินเวลาและมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 

ในเรื่องนี้คุณควรจัดสรรเงินจำนวนหนึ่งสำหรับการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ไว้ ซึ่งเงินจำนวนนั้นควรจะเป็นเงินเย็นที่คุณยังไม่มีแผนการที่จะใช้ในช่วงระยะเวลา 5 ปีหรือ 10 ปีข้างหน้า 

ความเสี่ยงจากภาษีหัก ณ ที่จ่าย

โปรดอย่าลืมว่า การซื้อพันธบัตรออมทรัพย์นั้น เมื่อได้รับดอกเบี้ยเป็นการตอบแทนแล้ว จะต้องหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาถึง 15% และยังจัดเป็นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% อีกด้วย ดังนั้น หากคุณคิดว่าการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์เป็นวิธีการที่ดีที่สุดของการป้องกันความเสี่ยงแล้วละก็ อย่าลืมพิจารณาถึงรายจ่ายในส่วนนี้ด้วย

ความเสี่ยงด้นดอกเบี้ย

ความเสี่ยงของการผลิตซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ ในแง่ของดอกเบี้ยนั้นก็คือ โดยส่วนมากพันธบัตรออมทรัพย์จะเป็นการกำหนดอัตราของดอกเบี้ยที่จะจ่ายไว้ ดังนั้น เมื่อถึงเวลาใดเวลาหนึ่งของอายุพันธบัตร แล้วดอกเบี้ยเงินฝากปรับเพิ่มขึ้นก็อาจจะทำให้คุณสูญเสียโอกาสในการได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น สิ่งนี้ถือเป็นหนึ่งในค่าเสียโอกาสในการลงทุนที่ต้องไม่ลืมนึกถึง

เรื่องควรรู้ก่อนซื้อพันธบัตรออมทรัพย์

• ผลตอบแทน ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% ในทุกรอบการจ่าย

• หากไถ่ถอนก่อนครบกำหนด อาจเสียผลประโยชน์

• แม้จะเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ก็ยังมีความเสี่ยง ดังที่กล่าวในหัวข้อก่อนหน้า

ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ได้ที่ไหนบ้าง

คุณสามารถซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ได้จากธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ ล่าสุด พันธบัตตรออมทรัพย์รุ่นเพิ่มสุข เปิดจำหน่ายผ่าน ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือผ่านอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชั่น รวมทั้งสาขาธนาคารดังกล่าว

นอกจากนี้ ในอนาคต รัฐบาลอาจประกาศจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์หรือพันธบัตรรัฐบาลอยู่เป็นประจำผ่านเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย แนะนำให้ติดตามข้อมูลจากที่นี่ เพื่อข่าวสารที่อัปเดต