ซื้อ SSF ลงทุนดี ประหยัดภาษี 2565

เมื่อถึงฤดูกาลเสียภาษี ผู้มีเงินได้และมีหน้าที่ต้องเสียภาษีทุกคนต่างมองหาเลือกเลือกดี ๆ เพื่อการลดหย่อนภาษี ไม่ว่าจะเป็นการซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญ การเพิ่มการบริจาคให้องค์กรหรือมูลนิธิต่าง ๆ และอีกหนทางหนึ่งที่น่าสนใจ เพิ่มโอกาสการลงทุนในหุ้นทั่วโลก ได้การลดหย่อนภาษี และเผื่อไปถึงการใช้จ่ายหลังเกษียณอย่างกองทุน SSF นั้น นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของการยิงปืนนัดเดียวได้นก 3 ตัว

ในบทความนี้ เราจะมาดูว่า ทำไมคุณถึงควรซื้อกองทุน SSF ในปีภาษี 2565 นี้บ้าง แล้วมันมีเงื่อนไอย่างไร กองทุน SSF นั้นดีหรือไม่ เมื่อเทียบกับการลดหย่อนภาษีวิธีอื่นๆ  หรือการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ

กองทุน SSF คืออะไร

กงอทุน SSF เป็นชื่อย่อของกองทุน Super Saving Fund เพิ่งถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2563 แทนกองทุนรวม LTF (Long Term Equity Fund) ด้วยการปรับเกณฑ์ของการลงทุนขึ้นมาใหม่ให้สามารถลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ ไม่จำกัดแต่หุ้นไทย สามารถเพิ่มยอดเงินซื้อกองทุนได้ และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนได้มากกว่า

การลงทุนในกองทุนรวม SSF นั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่ต้องคอยเงินก้อนไปลงทุนปลายปี แต่ควรเริ่มต้นจากการประเมินรายได้ตลอดทั้งปีของตนออกมาก่อน แล้วดูที่ฐานภาษี และแปลงเงินที่จะกลายเป็นค่าภาษีนั้น ไปซื้อกองทุนรวม SSF แทน

ทำตามเงื่อนไข SSF ดี ๆ ไม่มีภาษีย้อนหลัง

กองทุนรวม SSF ก็เช่นเดียวกับกองทุน RMF ที่มีการกำหนดเงื่อนไขของการซื้อไว้ว่าไม่เกินสัดส่วนเท่าไรของเงินได้พึงประเมิน และต้องไม่เกินกี่บาท เมื่อคำนวณรวมกับทางเลือกเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ในย่อหน้านี้ จะพาคุณมาตรวจสอบเงื่อนไขสำคัญของกองทุน SSF สำหรับการลดหย่อนภาษีปี 2565 กัน

เงื่อนไขกองทุน SSF ปีภาษี 2565

1. แม้จะกำหนดให้ซื้อกองทุน SSF ได้ไม่เกินปีละ 200,000 บาท แต่ส่วนที่เกินจะนำไปลดหย่อนไม่ได้ และยังต้องเสียภาษีในส่วนนั้นอีก แม้จะถือไว้เกิน 10 ตามระยะยเวลาก็ตาม

2. แต่ละกอง แต่ละครั้ง (หากคุณ DCA กองทุนรวม SSF) จะนับระยะเวลาแบบวันชนวัน 10 ปี เช่น ซื้อวันที่ 1 มกราคม 2565 จะครบเวลา 10 ปีในวันที่ 31 ธันวาคม 2575

3. พิจารณาการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ร่วมด้วย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนประกันสังคม ฯลฯ ก่อนจัดสรรเงินมาซื้อกองทุน SSF เพื่อไม่ให้เกินสิทธิ์เนื่องจากซื้อได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินและไม่เกิน 200,000 บาท (โดยเมื่อรวมกับกองทุนการออม เพื่อการเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท)

4. ถ้าไม่อยากถือไว้จนอายุ 55 ปีแบบกองทุน RMF ให้เลือกกองทุน SSF ที่มีความยืดหยุ่นกว่าเพียง 10 ปีถือครอง

5. บางกองทุน บาง บ.ล.จ. มีค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้า-ออก (Switching In-Out) ตามสัดส่วนเงินหรือหน่วยลงทุน ซึ่งเป็นต้นทุนของคุณ แนะนำให้เลือกลงทุนในกองทุน SSF และ RMF ภายใต้ บ.ล.จ. เดียวกันหรือผู้แทนจำหน่ายที่มีหลาย บ.ล.จ. ให้เลือก

โปรดจำไว้ว่า ทางสรรพากรอาจปรับเกณฑ์และเงื่อนไของกองทุนได้ในปีถัด ๆ ไป คุณจึงควรติดตามข่าวสารเพื่อจัดสรรเงินในการซื้อกองทุน SSF และ RMF ให้รอบคอบ

ในขั้นตอนเตรียมการยื่นภาษีเงินได้ประจำปี ให้คุณไปที่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของผู้ให้บริการซื้อขายกองทุนรวม เพื่อดาวน์โหลดหนังสือรับรองการลงทุนมาใช้ประกอบการยื่นภาษี

เลือกลงทุนในกองทุน SSF กองไหนดี

ก่อนที่จะไปถึงคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า เลือกกองทุน SSF กองไหนดี นั้น เรามาดูกันก่อนว่าการลงใน SSF นั้นควรคำนึงจากด้านใดบ้าง

1. ถ้าคุณรายได้ไม่พอรายจ่าย หรือมีเงินกินใช้จำกัด การลงทุนในกองทุนรวม SSF หรือ RMF อาจยังไม่เหมาะ เพราะคุรต้องพักเงินไว้เป็นระยะเวลาหลายปี ต่อให้ขายคืนเมื่อมีเหตุจำเป้นต้องใช้ อาจต้องเสียภาษีย้อนหลังเพราะทำผิดเงื่อนไขภาษี

2. ถ้าคุณมีฐานภาษีไม่สูง ควรนำเงินที่จะใช้ซื้อกองทุน SSF หรือ RMF ไปเพิ่มสภาพคล่องในชีวิตด้านอื่นๆ ก่อนดีกว่า

3. เงินปันผลที่ได้รับจากการลงทุนในกองทุนรวม SSF ก็เช่นเดียวกับปันผลหุ้นหรือปันผลจากกองทุน ETF กองทุนรวมอื่น ๆ ที่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% ด้วย ในขณะที่กองทุนไม่ปันผล เงินที่ได้จากการลงทุนจะกลับคืนสู่เงินทุนกลายเป็นดอกเบี้ยทบต้น สร้างมูลค่าออกไปในระยะยาว

เมื่อคุณสามารถตอบคำถามใหญ่ ๆ สามประเด็นนี้ได้แล้ว ขั้นต่อมาคือมาเปรียบเทียบกองทุน SSF เพื่อลงทุนกัน

คุณอาจพบว่ามีกองทุน SSF จำนวนหนึ่งที่ลงทุนในสินทรัพย์แบบเดียวกันหรือคล้ายกัน ก็อาจจลังเลว่าควรเลือกอง SSF ไหนดี ขอแนะนำให้อ่านใน “หนังสือชี้ชวน” ว่ามีรายละเอียดของสินทรัพย์ที่จะไปลงทุนอย่างไรบ้าง เป้นสัดส่วนเท่าใด มีความยากง่ายในการซื้อขายอย่างไร และที่สำคัญคือค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ลงทุนในสัดส่วนเท่าใดต่อไป

หลากทางเลือกประหยัดภาษีด้วย SSF และ RMF

ในพอร์ตการลงทุน คุณสามารถปรับสัดส่วนการถือครองกองทุน SSF และ RMF ได้ตามใจ เพียงแต่ไม่ทำผิดเงื่อนไของการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเท่านั้น

ข้อแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งของกองทุน SSF และกองทุน RMF นั้น มีดังต่อไปนี้

1. หากคุณไม่ต้องการถือไว้จนกว่าจะอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ให้เลือกลงทุนในกองทุน SSF

2. หากคุณต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นทั่วโลก พร้อมได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ให้เลือกลงทุนในกองทุน SSF

บทส่งท้าย

การออมตั้งแต่แรกเริ่มของการทำงาน เป็นความคิดที่ดีสำหรับการมีหลักประกันในชีวิต หากคุณรู้จักหา รู้จักออม และรู้จักใช้เงิน บริหารเงินให้ทำงานอย่างเมหาะสม ก็จะช่วยให้คุณเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มั่งคั่งได้เช่นกัน โดยมีกองทุน SSF เป็นเพื่อคู่ใจตลอดเส้นทางการใช้ชีวิต