
ลาออกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ได้อะไรเข้ากระเป๋าบ้าง
ลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีทางเลือกใหญ่ ๆ สองทาง คือรับเป็นเงินก้อน ที่มีเรื่องภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง กันอีกทางคือ พักเงินไว้ รอย้ายไปเข้ากองทุนของนายจ้างใหฒ่ หรือสับเปล่ยนเข้ากองทุนเพื่อนการเกษียณส่วนตัวอื่น ๆ
คุณเคยจินตนาการถึงชีวิตหลังเกษียณบ้างหรือไม่ คุณเคยคิดหรือไม่ว่าหลังเกษียณควรจะมีเงินเท่าไรจึงจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายในการไปหาหมอ แล้วเคยคิดไหมว่า หลังจากเกษียณแล้วคุณจะใช้ชีวิตอยู่อีกกี่ปีจนกว่าจะจากโลกนี้ไป แล้วจะเป็นอย่างไรหากเงินหมดก่อนแต่ยังมีชีวิตเหลืออยู่
หนึ่งในเครื่องมือช่วยวางแผนชีวิตหลังเกษียณที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนจะได้รับจากบริษัทในฐานะส่วนหนึ่งของสวัสดิการก็คือ “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” (Provident Fund)
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ การลงทุนรุปแบบหนึ่งในกองทุนรวม ที่นายจ้างและลูกจ้างจะลงทุนในสัดส่วนเท่า ๆ กัน ในส่วนของลูกจ้าง จะถูกหักจากรายได้แต่ละเดือนเพื่อนำไปใช้ในการลงทุนตามนโยบายกองทุนที่บริษัทได้เลือกไว้ หรือบางองคืกรก้มีทางเลือกหลากหลาย ให้ลูกต้างเลือกลงทุนได้ตามความต้องการ กละบริษัทก็จะสมทบอีกเท่าหนึ่งของเงินนั้น
เงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะทำงานแบบดอกเบี้ยทบต้น คุณจะได้รับเงินต้นและผลตอบแทนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยทั้งส่วนของตนเองและส่วนของนายจ้างต่อเมื่อคุณเกษียณ เสียชีวิต หรือลาออกจากงาน
แต่จะเป็นความคิดที่ดีจริง ๆ หรือ หากคิดจะลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นอกเหนือจากเงินต้นที่เคยสะสมเข้ามาแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์อีกมากมายที่คุณอาจพลาดไปหรืออาจจะต้องมารู้สึกเสียดายภายหลังหากลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า เมื่อคุณลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะมีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง และระหว่างการเป็นสมาชิกจ่ายเงินลงทุนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพทุกๆเดือนกับรับเงินก้อนออกมาในขณะที่ยังมีแรงทำงานอยู่และอีกหลายปีจนกว่าจะเกษียณแบบไหนจะดีกว่าและคุณควรจะเลือกแบบใด
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ดีอย่างไร
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จัดตั้งขึ้นในแง่ที่เป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการที่บริษัทมอบให้กับลูกจ้างเพื่อเป็นแรงจูงใจในการให้พนักงานทำงานอยู่กับตัวเองเป็นเวลาหลาย ๆ ปี เงินลงทุนที่ส่งเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะถูกหักในสัดส่วนที่เท่า ๆ กันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง เช่นลูกจ้างคนหนึ่ง มีนโยบายจ่ายเงินลงทุนเดือนละร้อยละ 3 ของรายได้ในเดือนนั้น บริษัทก็จะสมทบในจำนวนร้อยละ 3 เช่นกัน
ข้อดีของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับการออมเงินแบบทั่วไปที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ เราจะได้เงินส่วนหนึ่งที่เป็นเงินลงทุนจากนายจ้างเข้ามาฟรี ๆ สมมุติว่าจนถึงตอนนี้คุณส่งเงินลงทุนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปแล้วทั้งหมด 50,000 บาท หมายความว่าคุณยังมีเงินฟรีอีก 50,000 บาทจากบริษัทที่จ่ายสมทบเข้ามาให้ตลอดระยะเวลาที่คุณได้ส่งเงินลงทุนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
อย่างไรก็ตาม โปรดอย่าลืมว่าเงินส่วนของนายจ้างอีก 50,000 บาทนั้นไม่ใช่ว่าถ้าคุณลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในวันนี้แล้ววันรุ่งขึ้นคุณจะได้รับเงิน 10,000 บาทกลับมาทันที เพราะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นมีเงื่อนไขที่ไม่ได้ยืดหยุ่นเหมือนกับกองทุนเพื่อการลดหย่อนภาษีหรือกองทุนการออมเพื่อการเกษียณทั่วไป
คุณสามารถตรวจสอบเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์หากลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้จากผ่ายบุคคล เพื่อให้วางแผนการเงินได้อย่างมีทิศทางมากขึ้น
การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการลงทุนที่เรียกว่ามีความเสี่ยงน้อยที่สุดวิธีหนึ่งเนื่องจากเป็นการลงทุนในระยะยาวและเป็นการสร้างวินัยในการออม ไปในตัวด้วยวิธีการ DCA หรือ Dollar Cost Average ที่เราได้แนะนำไว้ก่อนหน้านี้
วิธีคำนวณยอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ในทุก ๆ ครึ่งปีหรืออย่างน้อยทุก ๆ ปี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริษัทได้นำเงินไปลงทุน จะจัดส่งรายงานการถือหน่วยลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาเพื่อรายงานว่าในรอบเวลาที่ผ่านมาคุณได้ส่งเงินลงทุนไปเท่าไร มีผลประโยชน์เท่าไรแล้วบ้าง
วิธีคำนวณยอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบคร่าว ๆ คือหากบริษัทได้หักเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในส่วนจากเงินเดือนพื้นฐานเช่นร้อยละ 3 ก็ให้นำยอดแต่ละเดือนมาคำนวณคูณ 12 เดือนจึงจะทราบว่าในรอบปีที่ผ่านมาคุณได้จ่ายเงินลงทุนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปแล้วเท่าไรและอีกเท่านึงที่จะเกิดขึ้นก็คือเงินลงทุนส่วนของนายจ้างดังตัวอย่างต่อไปนี้
คุณ A มีเงินเดือนพื้นฐาน (ยังไม่รวม OT เงินพิเศษ และเงินโบนัส) 10,000 บาท
คุณ A ส่งเงินลงทุนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในอัตราร้อยละ 3 ของเงินเดือน คือ 300 บาท (10,000 x 3% = 300)
ในหนึ่งปี คุณ A จะมีเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเท่ากับ 300 x 12 = 36,000 บาท
นายจ้างลงทุนในอัตราเท่ากันของลูกค้า เท่ากับ 36,000 บาท
ในปีนั้น คุณ A จะมีเงินลงทนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คำนวณได้ 72,000 บาท
อย่างไรก็ตามหากในอนาคตคุณเอมีเงินเดือนมากขึ้นอาจจะขอลงทุนในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ก็สามารถทำได้โดยบริษัทก็จะจ่ายเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนที่คุณเอร้องขอแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทด้วยว่าลูกจ้างสามารถเลือกสัดส่วนการลงทุนได้ตามใจชอบหรือไม่หรือบริษัทจะจำกัดเอาไว้ตามฐานเงินเดือนหากคุณสงสัยในประเด็นเกี่ยวกับสัดส่วนของการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแนะนำให้ปรึกษากับฝ่ายบุคคลของบริษัทตัวเองเพื่อตรวจสอบนโยบายการลงทุนของกองทุนและบริษัท
ออกจากงาน แล้วเงินกองทุนสํารองเลี้ยงชีพไปที่ไหน
เงินลงทุนที่คุณได้จ่ายเข้าไปในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทุก ๆ เดือนจะถูกนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อสร้างดอกผลตามนโยบายของกองทุนที่ได้ระบุไว้ก่อนที่คุณจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกดังนั้นคุณจึงสามารถประมาณการได้คร่าว ๆ ว่าด้วยสภาพสินทรัพย์หรือเครื่องมือการลงทุนที่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้นำไปลงทุนกับสภาพเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันจะช่วยให้คุณสร้างผลตอบแทนได้มากน้อยขนาดไหน
หากคุณต้องการที่จะลาออกจากงานเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ได้สะสมไว้ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะขอรับเป็นเงินทั้งก้อน หรือจะคงไว้ในเฉพาะส่วนเงินเพื่อรอโอนไปยังกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของนายจ้างใหม่ หรืออาจจะขอโอนไปยังกองทุนเพื่อการเกษียณ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ในแง่ของรายละเอียดและขั้นตอน วิธีการแนะนำให้คุณปรึกษากับฝ่ายบุคคลหรือผู้ที่ดูแลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในบริษัทของตนเอง ไว้แต่เนิ่นๆเพื่อให้สามารถวางแผนและปรับแผนได้ยามจำเป็น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราที่สูงการวางแผนการจัดการกับเงินสำรองของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก็ควรคิดคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีด้วย
แน่นอนว่าสิทธิประโยชน์เมื่อออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นก็คือเงินก้อนที่คุณได้สะสมมาตลอดอายุเวลาการทำงานในบริษัทนั้น ๆ โดยส่วนนี้จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในขณะที่เงินอีก 3 ส่วนอันประกอบด้วยผลประโยชน์จากเงินสะสม เงินลงทุนส่วนของนายจ้าง และผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินลงทุนส่วนของนายจ้างนี้จะต้องถูกนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดารายปี
หากคุณลาออกจากงานสิทธิประโยชน์อีกวิธีหนึ่งที่คุณสามารถวางแผนและเลือกได้ก็คือการคงเงินสะสมนั้นเอาไว้เพื่อรอไปสะสมกับบริษัทหรือนายจ้างที่ใหม่ แต่ในระหว่างที่รอนี้เงินที่เป็นส่วนของนายจ้างก่อนหน้าจะถูกคงไว้ไม่มีการเพิ่มหรือลด
ลาออกจากกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ กี่วันได้เงิน
การลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยแต่เราไม่แนะนำให้คุณลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและนำเงินก้อนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนขึ้นมาจริงๆอยากให้วางแผนก่อนดี ๆ และลองมองหาช่องทางอื่นเช่น การกู้ยืมจากดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำ หรือลองคิดหาวิธีอื่นแทนการลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อนำเงินก้อนนั้นออกมา
แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเราก็เคารพการตัดสินใจนั้นแต่ส่วนใหญ่แล้วหลาย ๆ บริษัทมักจะระบุเงื่อนไขไว้ว่าหากลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแม้ในขณะที่ยังไม่ได้ลาออกจากงานก็จะไม่สามารถได้รับเงินส่วนของนายจ้างได้ และในอนาคตอาจจะกลับเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละที่ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่คุณควรจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขของการเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทตัวเอง รวมถึงวางแผนการเงินให้รอบคอบเพื่อจะได้ไม่ต้องนำเงินสำหรับใช้ในยามเกษียณออกมาใช้จ่ายในวันนี้
เมื่อคุณลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วสิ่งที่จะได้รับแน่ ๆ ก็คือเงินต้นทั้งหมดที่คุณจ่ายไปจากตัวอย่างข้างต้นเอใน 1 ปีคุณเอลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 72,000 บาท สมมุติว่าคุณเอเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ 5 ปี แน่นอนว่าคุณเอจะมีเงินต้นที่ 360,000 บาท ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมากองทุนสำรองเลี้ยงชีพกองทุนนี้สามารถทำกำไรและมีผลกำไรทบต้นได้อีกประมาณ 50,000 บาท เท่ากับว่าคุณเอจะได้รับเงินทั้งหมด 410,000 บาท โดยไม่รวมส่วนของนายจ้างอีก 36,000 บาท
และระยะเวลาที่จะได้รับเงินคืนหลังจากลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัท และนโยบายของแต่ละกองทุนด้วย
ดังนั้น หากคุณวางแผนมาดีแล้วว่าจำเป็นจะต้องลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็ควรที่จะคิดเผื่อเวลาด้วยว่าหลังจากเราได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ หลังจากลาออกจากกองทุนแล้วอีกกี่วันเราจะได้เงิน แล้วจะทันต่อระยะเวลาที่เราจำเป็นต้องใช้เงินนั้นหรือไม่ ไม่เช่นนั้นการลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นก็จะเป็นการเสียสิทธิประโยชน์ไปอย่างน่าเสียดาย
บทส่งท้าย
การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยเป็นหลักประกันยามเกษียณว่าเราจะยังมีเงินเป็นค่าใช้จ่ายเพียงพอต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ดังนั้น จึงเป็นการดีที่คิดจะลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและเพิ่มสัดส่วนในการลงทุนตามระดับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
การลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เป็นเงินก้อนนั้นใช่ว่าจะเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ดี เราไม่สามารถที่จะระบุได้ เพราะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละท่าน เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะย่อมหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้ แต่อย่างน้อยก็คือวันเป็นการตัดสินใจ ที่เกิดจากการคิดทบทวนและวางแผนมาอย่างดีแล้วเท่านั้น
คุณเคยจินตนาการถึงชีวิตหลังเกษียณบ้างหรือไม่ คุณเคยคิดหรือไม่ว่าหลังเกษียณควรจะมีเงินเท่าไรจึงจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายในการไปหาหมอ แล้วเคยคิดไหมว่า หลังจากเกษียณแล้วคุณจะใช้ชีวิตอยู่อีกกี่ปีจนกว่าจะจากโลกนี้ไป แล้วจะเป็นอย่างไรหากเงินหมดก่อนแต่ยังมีชีวิตเหลืออยู่
หนึ่งในเครื่องมือช่วยวางแผนชีวิตหลังเกษียณที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนจะได้รับจากบริษัทในฐานะส่วนหนึ่งของสวัสดิการก็คือ “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” (Provident Fund)
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ การลงทุนรุปแบบหนึ่งในกองทุนรวม ที่นายจ้างและลูกจ้างจะลงทุนในสัดส่วนเท่า ๆ กัน ในส่วนของลูกจ้าง จะถูกหักจากรายได้แต่ละเดือนเพื่อนำไปใช้ในการลงทุนตามนโยบายกองทุนที่บริษัทได้เลือกไว้ หรือบางองคืกรก้มีทางเลือกหลากหลาย ให้ลูกต้างเลือกลงทุนได้ตามความต้องการ กละบริษัทก็จะสมทบอีกเท่าหนึ่งของเงินนั้น
เงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะทำงานแบบดอกเบี้ยทบต้น คุณจะได้รับเงินต้นและผลตอบแทนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยทั้งส่วนของตนเองและส่วนของนายจ้างต่อเมื่อคุณเกษียณ เสียชีวิต หรือลาออกจากงาน
แต่จะเป็นความคิดที่ดีจริง ๆ หรือ หากคิดจะลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นอกเหนือจากเงินต้นที่เคยสะสมเข้ามาแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์อีกมากมายที่คุณอาจพลาดไปหรืออาจจะต้องมารู้สึกเสียดายภายหลังหากลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า เมื่อคุณลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะมีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง และระหว่างการเป็นสมาชิกจ่ายเงินลงทุนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพทุกๆเดือนกับรับเงินก้อนออกมาในขณะที่ยังมีแรงทำงานอยู่และอีกหลายปีจนกว่าจะเกษียณแบบไหนจะดีกว่าและคุณควรจะเลือกแบบใด
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ดีอย่างไร
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จัดตั้งขึ้นในแง่ที่เป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการที่บริษัทมอบให้กับลูกจ้างเพื่อเป็นแรงจูงใจในการให้พนักงานทำงานอยู่กับตัวเองเป็นเวลาหลาย ๆ ปี เงินลงทุนที่ส่งเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะถูกหักในสัดส่วนที่เท่า ๆ กันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง เช่นลูกจ้างคนหนึ่ง มีนโยบายจ่ายเงินลงทุนเดือนละร้อยละ 3 ของรายได้ในเดือนนั้น บริษัทก็จะสมทบในจำนวนร้อยละ 3 เช่นกัน
ข้อดีของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับการออมเงินแบบทั่วไปที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ เราจะได้เงินส่วนหนึ่งที่เป็นเงินลงทุนจากนายจ้างเข้ามาฟรี ๆ สมมุติว่าจนถึงตอนนี้คุณส่งเงินลงทุนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปแล้วทั้งหมด 50,000 บาท หมายความว่าคุณยังมีเงินฟรีอีก 50,000 บาทจากบริษัทที่จ่ายสมทบเข้ามาให้ตลอดระยะเวลาที่คุณได้ส่งเงินลงทุนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
อย่างไรก็ตาม โปรดอย่าลืมว่าเงินส่วนของนายจ้างอีก 50,000 บาทนั้นไม่ใช่ว่าถ้าคุณลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในวันนี้แล้ววันรุ่งขึ้นคุณจะได้รับเงิน 10,000 บาทกลับมาทันที เพราะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นมีเงื่อนไขที่ไม่ได้ยืดหยุ่นเหมือนกับกองทุนเพื่อการลดหย่อนภาษีหรือกองทุนการออมเพื่อการเกษียณทั่วไป
คุณสามารถตรวจสอบเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์หากลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้จากผ่ายบุคคล เพื่อให้วางแผนการเงินได้อย่างมีทิศทางมากขึ้น
การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการลงทุนที่เรียกว่ามีความเสี่ยงน้อยที่สุดวิธีหนึ่งเนื่องจากเป็นการลงทุนในระยะยาวและเป็นการสร้างวินัยในการออม ไปในตัวด้วยวิธีการ DCA หรือ Dollar Cost Average ที่เราได้แนะนำไว้ก่อนหน้านี้
วิธีคำนวณยอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ในทุก ๆ ครึ่งปีหรืออย่างน้อยทุก ๆ ปี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริษัทได้นำเงินไปลงทุน จะจัดส่งรายงานการถือหน่วยลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาเพื่อรายงานว่าในรอบเวลาที่ผ่านมาคุณได้ส่งเงินลงทุนไปเท่าไร มีผลประโยชน์เท่าไรแล้วบ้าง
วิธีคำนวณยอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบคร่าว ๆ คือหากบริษัทได้หักเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในส่วนจากเงินเดือนพื้นฐานเช่นร้อยละ 3 ก็ให้นำยอดแต่ละเดือนมาคำนวณคูณ 12 เดือนจึงจะทราบว่าในรอบปีที่ผ่านมาคุณได้จ่ายเงินลงทุนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปแล้วเท่าไรและอีกเท่านึงที่จะเกิดขึ้นก็คือเงินลงทุนส่วนของนายจ้างดังตัวอย่างต่อไปนี้
คุณ A มีเงินเดือนพื้นฐาน (ยังไม่รวม OT เงินพิเศษ และเงินโบนัส) 10,000 บาท
คุณ A ส่งเงินลงทุนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในอัตราร้อยละ 3 ของเงินเดือน คือ 300 บาท (10,000 x 3% = 300)
ในหนึ่งปี คุณ A จะมีเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเท่ากับ 300 x 12 = 36,000 บาท
นายจ้างลงทุนในอัตราเท่ากันของลูกค้า เท่ากับ 36,000 บาท
ในปีนั้น คุณ A จะมีเงินลงทนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คำนวณได้ 72,000 บาท
อย่างไรก็ตามหากในอนาคตคุณเอมีเงินเดือนมากขึ้นอาจจะขอลงทุนในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ก็สามารถทำได้โดยบริษัทก็จะจ่ายเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนที่คุณเอร้องขอแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทด้วยว่าลูกจ้างสามารถเลือกสัดส่วนการลงทุนได้ตามใจชอบหรือไม่หรือบริษัทจะจำกัดเอาไว้ตามฐานเงินเดือนหากคุณสงสัยในประเด็นเกี่ยวกับสัดส่วนของการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแนะนำให้ปรึกษากับฝ่ายบุคคลของบริษัทตัวเองเพื่อตรวจสอบนโยบายการลงทุนของกองทุนและบริษัท
ออกจากงาน แล้วเงินกองทุนสํารองเลี้ยงชีพไปที่ไหน
เงินลงทุนที่คุณได้จ่ายเข้าไปในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทุก ๆ เดือนจะถูกนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อสร้างดอกผลตามนโยบายของกองทุนที่ได้ระบุไว้ก่อนที่คุณจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกดังนั้นคุณจึงสามารถประมาณการได้คร่าว ๆ ว่าด้วยสภาพสินทรัพย์หรือเครื่องมือการลงทุนที่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้นำไปลงทุนกับสภาพเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันจะช่วยให้คุณสร้างผลตอบแทนได้มากน้อยขนาดไหน
หากคุณต้องการที่จะลาออกจากงานเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ได้สะสมไว้ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะขอรับเป็นเงินทั้งก้อน หรือจะคงไว้ในเฉพาะส่วนเงินเพื่อรอโอนไปยังกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของนายจ้างใหม่ หรืออาจจะขอโอนไปยังกองทุนเพื่อการเกษียณ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ในแง่ของรายละเอียดและขั้นตอน วิธีการแนะนำให้คุณปรึกษากับฝ่ายบุคคลหรือผู้ที่ดูแลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในบริษัทของตนเอง ไว้แต่เนิ่นๆเพื่อให้สามารถวางแผนและปรับแผนได้ยามจำเป็น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราที่สูงการวางแผนการจัดการกับเงินสำรองของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก็ควรคิดคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีด้วย
แน่นอนว่าสิทธิประโยชน์เมื่อออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นก็คือเงินก้อนที่คุณได้สะสมมาตลอดอายุเวลาการทำงานในบริษัทนั้น ๆ โดยส่วนนี้จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในขณะที่เงินอีก 3 ส่วนอันประกอบด้วยผลประโยชน์จากเงินสะสม เงินลงทุนส่วนของนายจ้าง และผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินลงทุนส่วนของนายจ้างนี้จะต้องถูกนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดารายปี
หากคุณลาออกจากงานสิทธิประโยชน์อีกวิธีหนึ่งที่คุณสามารถวางแผนและเลือกได้ก็คือการคงเงินสะสมนั้นเอาไว้เพื่อรอไปสะสมกับบริษัทหรือนายจ้างที่ใหม่ แต่ในระหว่างที่รอนี้เงินที่เป็นส่วนของนายจ้างก่อนหน้าจะถูกคงไว้ไม่มีการเพิ่มหรือลด
ลาออกจากกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ กี่วันได้เงิน
การลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยแต่เราไม่แนะนำให้คุณลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและนำเงินก้อนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนขึ้นมาจริงๆอยากให้วางแผนก่อนดี ๆ และลองมองหาช่องทางอื่นเช่น การกู้ยืมจากดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำ หรือลองคิดหาวิธีอื่นแทนการลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อนำเงินก้อนนั้นออกมา
แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเราก็เคารพการตัดสินใจนั้นแต่ส่วนใหญ่แล้วหลาย ๆ บริษัทมักจะระบุเงื่อนไขไว้ว่าหากลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแม้ในขณะที่ยังไม่ได้ลาออกจากงานก็จะไม่สามารถได้รับเงินส่วนของนายจ้างได้ และในอนาคตอาจจะกลับเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละที่ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่คุณควรจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขของการเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทตัวเอง รวมถึงวางแผนการเงินให้รอบคอบเพื่อจะได้ไม่ต้องนำเงินสำหรับใช้ในยามเกษียณออกมาใช้จ่ายในวันนี้
เมื่อคุณลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วสิ่งที่จะได้รับแน่ ๆ ก็คือเงินต้นทั้งหมดที่คุณจ่ายไปจากตัวอย่างข้างต้นเอใน 1 ปีคุณเอลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 72,000 บาท สมมุติว่าคุณเอเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ 5 ปี แน่นอนว่าคุณเอจะมีเงินต้นที่ 360,000 บาท ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมากองทุนสำรองเลี้ยงชีพกองทุนนี้สามารถทำกำไรและมีผลกำไรทบต้นได้อีกประมาณ 50,000 บาท เท่ากับว่าคุณเอจะได้รับเงินทั้งหมด 410,000 บาท โดยไม่รวมส่วนของนายจ้างอีก 36,000 บาท
และระยะเวลาที่จะได้รับเงินคืนหลังจากลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัท และนโยบายของแต่ละกองทุนด้วย
ดังนั้น หากคุณวางแผนมาดีแล้วว่าจำเป็นจะต้องลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็ควรที่จะคิดเผื่อเวลาด้วยว่าหลังจากเราได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ หลังจากลาออกจากกองทุนแล้วอีกกี่วันเราจะได้เงิน แล้วจะทันต่อระยะเวลาที่เราจำเป็นต้องใช้เงินนั้นหรือไม่ ไม่เช่นนั้นการลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นก็จะเป็นการเสียสิทธิประโยชน์ไปอย่างน่าเสียดาย
บทส่งท้าย
การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยเป็นหลักประกันยามเกษียณว่าเราจะยังมีเงินเป็นค่าใช้จ่ายเพียงพอต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ดังนั้น จึงเป็นการดีที่คิดจะลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและเพิ่มสัดส่วนในการลงทุนตามระดับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
การลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เป็นเงินก้อนนั้นใช่ว่าจะเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ดี เราไม่สามารถที่จะระบุได้ เพราะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละท่าน เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะย่อมหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้ แต่อย่างน้อยก็คือวันเป็นการตัดสินใจ ที่เกิดจากการคิดทบทวนและวางแผนมาอย่างดีแล้วเท่านั้น
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!