
- กราฟถ้วยมีหูคืออะไร
- จะดูได้อย่างไรว่าเป็นแพทเทิร์นนี้
- จิตวิทยา ท่าทีตอบสนองของนักลงทุน
- ข้อจำกัดของ Inverted cup and handle
- จะเทรดอย่างไร เมื่อเป็น Inverted cup and handle
- คำถามน่ารู้
- การเข้าใจพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัว ช่วยให้สังเกตถึงการเกิดกราฟถ้วยมีหูอย่างไร
- ถ้ารู้สึกว่าแพทเทิร์นหุ้นคือ Inverted Cup and handel จะรู้ได้อย่างไรว่าก้นถ้วยอยู่ตรงไหน
- ถ้ามั่นใจว่าพบก้นถ้วยแล้ว ควรรีบเข้าซื้อเพราะต้นทุนต่อหุ้นต่ำ ทำกำไรสูงได้ทีหลัง ถูกไหม
- ถ้าราคาหุ้นขยับแบบน่าเบื่อ ย่อลง กระตุกขึ้น ย่อลง และลง มีขาขึ้น แต่ย่อลง สลับไปแบบนี้ แต่ไม่เห็นมีหูถ้วยสักที อย่างนี้ควรเลิกสนใจ หรือไม่เหมาะเก็งกำไรใช่หรือไม่
- บทส่งท้าย
Inverted Cup and Handle คืออะไร จะเทรดอย่างไรดี?
ทำความเข้าใจ Inverted Cup and Handel เพื่อการเข้าเทรดอย่างถูกจังหวะ สอนดูกราฟฉบับมือใหม่เข้าใจง่าย
- กราฟถ้วยมีหูคืออะไร
- จะดูได้อย่างไรว่าเป็นแพทเทิร์นนี้
- จิตวิทยา ท่าทีตอบสนองของนักลงทุน
- ข้อจำกัดของ Inverted cup and handle
- จะเทรดอย่างไร เมื่อเป็น Inverted cup and handle
- คำถามน่ารู้
- การเข้าใจพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัว ช่วยให้สังเกตถึงการเกิดกราฟถ้วยมีหูอย่างไร
- ถ้ารู้สึกว่าแพทเทิร์นหุ้นคือ Inverted Cup and handel จะรู้ได้อย่างไรว่าก้นถ้วยอยู่ตรงไหน
- ถ้ามั่นใจว่าพบก้นถ้วยแล้ว ควรรีบเข้าซื้อเพราะต้นทุนต่อหุ้นต่ำ ทำกำไรสูงได้ทีหลัง ถูกไหม
- ถ้าราคาหุ้นขยับแบบน่าเบื่อ ย่อลง กระตุกขึ้น ย่อลง และลง มีขาขึ้น แต่ย่อลง สลับไปแบบนี้ แต่ไม่เห็นมีหูถ้วยสักที อย่างนี้ควรเลิกสนใจ หรือไม่เหมาะเก็งกำไรใช่หรือไม่
- บทส่งท้าย
กราฟถ้วยมีหูคืออะไร
แพทเทิร์นกราฟหุ้นแบบถ้วยมีหู (inverted cup and handle) เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ส่งสัญญาณว่าตลาดกำลังจะเข้าสู่ขาขึ้น และในหลาย ๆ ครั้งเป็นขาขึ้นที่รุนแรง โดยรูปร่างของกราฟเมื่อลองร่างเส้นดูจะพบว่ามีลักษณะโค้งคล้ายรูปตัวยูหงาย และทางขวามือมีที่จับที่เราเรียกว่าเป็นหูในลักษณะกดลง แต่ถ้าตรวจสอบปริมาณการขายไปด้วย จะพบว่าค่อย ๆ น้อยลงในช่วงที่หูหรือที่จับนั้นกดลงนั่นเอง ก่อนที่กราฟจะพุ่งขึ้นสูงหลังจากนั้น สะท้อนถึงกฎอุปสงค์และอุปทานในตลาดหุ้น และความมั่นใจของนักลงทุนสถาบันและรายใหญ่ในตัวกิจการที่ออกหุ้นดังกล่าว
จะดูได้อย่างไรว่าเป็นแพทเทิร์นนี้
การเริ่มต้นของกราฟถ้วยมีหูจะเป็นช่วงเวลาที่ราคาวิ่งขึ้นอย่างน้อยประมาณ 30% จากนั้นราคาก็จะเริ่มเป็นขาลง โดยไม่ใช่การลงวูบแบบดิ่ง แต่ลงแบบต่อเนื่องโดยอาจจะมีช่วงซึ่งกราฟกระตุกขึ้นมาเป็นระยะ ในการดูกราฟแบบถ้วยมีหู กราฟมักเริ่มวิ่งลงที่อัตราโดยประมาณ 12-35% ในระยะเวลาประมาณ 7-65 สัปดาห์ และหลังจากลงไปถึงจุดต่ำสุดหรือแตะฐานของถ้วยแล้ว ราคาหุ้นก็จะขยับตัวสูงขึ้น ค่อย ๆ สูงทีละน้อยโดยมีกราฟกระตุกลงเป็นระยะ กระทั่งถึงจุดที่เราเรียกว่าหูถ้วย ราคาในช่วงหูถ้วยจะเริ่มจากจุดที่กลับไปสูงใกล้เคียงกับช่วงเริ่มต้นของกราฟหูถ้วย และดิ่งกระชากลงอีกครั้ง
หากปรับกราฟเทคนิคให้แสดงในลักษณะแท่งเทียนจะพบแท่งเทียนทิ้งดิ่งยาวลงมาและอาจเกิดขึ้นติดต่อกันหลายแท่ง นี่เป็นช่วงสุดท้ายที่นักลงทุนสามารถเข้าซื้อได้เพิ่มรอทำกำไร อย่างไรก็ตามการเข้าซื้อในช่วงนี้มีความเสี่ยง เพราะหากราคาที่ทิ้งตัวลงมา อยู่ในระดับมากกว่า 12% และไม่อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ เท่ากับแรงซื้อที่เข้ามาเพิ่มเพราะหวังผลทำกำไรเช่นกันนั้นไม่มากพอ เป็นผลทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ราคาไม่ขยับขึ้น มีความเสี่ยงที่จะขาดทุน
อย่างไรก็ตาม กราฟถ้วยมีหูตามตำรา การปรับตัวขาลงอย่างแรงที่หูถ้วยใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วแรงซื้อที่มากพอก็จะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวกลับขึ้นมา ซึ่งราคาก็อาจสูงขึ้นได้อีกด้วยปริมาณการเสนอขายที่ลดลงมาก ขณะที่มีปริมาณเสนอซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนสถาบันและนักเล่นหุ้นรายใหญ่ ๆ ราคาของหุ้นปรับเปลี่ยนตามกฎของอุปสงค์และอุปทาน ทั้งนี้นักลงทุนสถาบันจะเข้ามาซื้อก็เพราะเชื่อว่าตลาดจะเป็นช่วงขาขึ้นด้วยประสบการณ์การอ่านกราฟเทคนิค และรวมไปความเชื่อมั่นในผลประกอบการที่แท้จริงของบริษัทที่ออกหุ้นว่าเป็นไปด้วยดี บริษัทจะมั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยความเข้มแข็งในอุตสาหกรรม
จิตวิทยา ท่าทีตอบสนองของนักลงทุน
กราฟถ้วยมีหู (Inverted Cup and Handel) ช่วงแพทเทิร์นราคาหุ้นขาลง กราฟเด้งขึ้น ๆ ลง ๆ โดยมีแนวโน้มค่อย ๆ ดิ่งลงทีละน้อย จะมีผลกระทบต่อจิตใจของนักลงทุนที่มีความอ่อนไหวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น ในช่วงที่กำลังลง ราคาลงแต่ละครั้งจะกระตุ้นให้นักลงทุนตัดสินใจขายหุ้น
ในช่วงนี้เองที่ต้นทุนสำหรับนักลงทุนเก็งกำไรจะต่ำ สามารถเข้าซื้อหุ้นราคาถูกลงได้เป็นระยะ และสำหรับบางคนที่มองออกช้าว่ากำลังเจอกับกราฟถ้วยมีหู ก็ยังสามารถเข้ามาซื้อได้อยู่ในระยะที่ราคาลากยาวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ขณะที่หุ้นกำลังกลับตัวขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหลาย ๆ ท่าน อาจจะรู้สึกว่าราคาหุ้นขยับขึ้น ๆ ลง ๆ ในช่วงที่ทำกำไรได้ไม่ดีนักหากพิจารณากราฟการเปลี่ยนแปลงราคาในระยะสั้น ความสนใจในตัวหุ้นนี้จะลดลง แต่สำหรับนักลงทุนที่รู้จักกราฟถ้วยมีหู ดูกราฟรายเดือนหรือรายสัปดาห์ และสังเกตเห็นแพทเทิร์นหุ้นเข้าแล้ว ถือคติ “ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม” ในจุดราคาสูงสุดของบางวันสามารถทำกำไรได้ และหากถือยาวรอจังหวะ เมื่อพ้นหูถ้วยที่หักลง ราคายังกลับตัวพุ่งขึ้นไปถึงราคาขอบถ้วยและเติบโตต่อเนื่องได้อีก เป็นหนทางแห่งกำไรหรือผลตอบแทนอันงดงาม
ในช่วงราคาหูถ้วยที่เป็นขาลงในช่วงแรก จะมีนักลงทุนที่คิดว่าราคาจะไม่สูงไปกว่าราคาเข้าซื้อของตนที่เมื่อเริ่มต้นแพทเทิร์นรูปถ้วย หรือเข้าใจผิดว่าตลาดกำลังเข้าสู่ขาลงอีกครั้ง และทำการเทขาย ซึ่งถ้าแพทเทิร์นหุ้นคือกราฟถ้วยมีหู จริง ๆ แล้ว นี่ไม่ใช่จังหวะการขายแต่เป็นโอกาสในการเข้าช้อนซื้อหุ้นเพิ่มได้อีก
ข้อจำกัดของ Inverted cup and handle
ในการคะเนราคาขอบถ้วย ภาพร่างของถ้วยเมื่อมองไปที่กราฟจะต้องมีความชัดเจนขึ้นมา แต่โดยปกติแล้วราคาจะผันผวนไปมาอยู่นานทีเดียวกว่าจะทำให้เกิดภาพของถ้วยมีหูขึ้นมาให้เห็นและมั่นใจ ซึ่งทำให้การตัดสินใจเพื่อทำกำไรเกิดขึ้นช้าเกินไป นอกจากนี้ยังไม่ใช่เสมอไปว่า เมื่อราคาพุ่งขึ้นเป็นรูปตัวยูแล้วจะสามารถเห็นหูถ้วยได้ ในหลาย ๆ ครั้งเมื่อราคาพ้นระดับขอบถ้วยไปแล้ว ก็พุ่งสูงต่อเนื่อง ไม่มีหูถ้วย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้หลาย ๆ คนที่รอให้แน่ใจเพื่อจะซื้อตอนช่วงหูหักลงก็จะพลาดโอกาสในการช้อนซื้อเช่นกัน นอกจากนี้ในหลาย ๆ ครั้งก็พบว่าเมื่อก้นถ้วยอยู่ลึกจนเกินไป หุ้นตัวนั้นอาจจะไม่ได้กำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้นที่ร้อนแรง แต่กลับเป็นขาลงจริง ๆ
การดูกราฟเทคนิคเพียงอย่างเดียวนั้นเป็นไปได้ยากที่จะให้ผลการคาดคะเนราคาที่น่าเชื่อถือทุกครั้ง การใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ ร่วมด้วยจำเป็นอย่างยิ่ง เช่น การใช้เส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ดังที่กล่าวไปแล้ว
จะเทรดอย่างไร เมื่อเป็น Inverted cup and handle
การเข้าซื้อขาย ให้คิดถึงภาพถ้วยที่หูจับหักลงและเส้นกราฟที่ลากต่อมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง จะมีราคาหนึ่งเป็นราคาขอบถ้วย เนื่องจากหลังการเกิดกราฟถ้วยมีหูขึ้นแล้ว ราคาหุ้นจะเป็นขาขึ้น ช่วงราคาเข้าซื้อจึงไม่ควรตั้งสูงกว่าราคาขอบถ้วยเพื่อจะได้หวังผลทำกำไรต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าจะคาดการณ์ส่วนของหูในกราฟผิด คือจุดทื่คะเนไว้ แท้ที่จริงยังไม่เข้าสู่ช่วงหูของถ้วย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ทางเลือกคือถือหุ้นไว้ต่อ เพื่อจะไม่พลาดจังหวะที่แรงเข้าซื้อหุ้นสูงพอที่จะทำให้ราคาพุ่งขึ้น
เป้าหมายการทำกำไร ควรจะเป็นช่วงต่างของราคาที่ก้นถ้วยกับช่วงราคาที่ขอบถ้วย หากต้องการกำหนดค่าจุดหยุดการขาดทุน คือจุดที่ให้ระบบทำการขายหุ้นเพื่อป้องกันการขาดทุนที่มากเกินความสามารถในการรับมือ (Stop Loss) สามารถเลือกจุดต่ำสุดของถ้วย หรือจุดราคาเสมอขอบถ้วย ขึ้นอยู่กับระดับความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุนเอง และความผันผวนของตลาด โดยจุดราคาเสมอขอบถ้วย คือยอมรับผลตอบแทนที่ความเสี่ยงและการผันผวนของตลาดที่ต่ำกว่า ถือว่าเป็นจุดที่ได้กำไรแล้ว และไม่ยอมรับระดับกำไรต่ำกว่านั้น แต่ถ้าลงมาจากจุดนั้นอีก หรือส่วนจุดก้นถ้วย เป็นไปได้ว่านักลงทุนรับความเสี่ยงและความผันผวนของตลาดได้สูงกว่า อาจมองว่าการกำหนดรูปร่างกราฟถ้วยมีหูจากการขยับของราคายังไม่สิ้นสุด และราคาหุ้นสามารถลดต่ำลงได้อีก แต่จะไม่ต่ำกว่าราคาฐานถ้วย เอาราคาฐานถ้วยเป็นบรรทัดฐานวัดว่าหากต่ำลงไปกว่านี้ ราคาน่าจะเป็นขาลง ไม่มีกราฟถ้วยมีหูเกิดขึ้น หรือคือสิ่งที่คาดคะเนไว้ล้มเหลว ทั้งนี้ถ้าราคาไม่ลงมาถึงที่ระดับฐานถ้วย ราคาจะวิ่งขึ้นต่อ และในที่สุดเมื่อกราฟถ้วยมีหูขึ้นรูปดีแล้ว แนวราคาจะพุ่งขึ้น และทำกำไรให้แก่นักลงทุนได้ แต่ถ้าราคาลงต่ำกว่าฐานถ้วย การขายเพื่อป้องกันความเสี่ยงเกินกว่าระดับยอมรับได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว เป็นการปกป้องมูลค่าเงินต้นให้แก่นักลงทุน
คำถามน่ารู้
การเข้าใจพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัว ช่วยให้สังเกตถึงการเกิดกราฟถ้วยมีหูอย่างไร
ตอบหากบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งแกร่ง สินค้าหรือบริการได้รับความนิยมสูง มียอดขายและมีกำไรเติบโตสม่ำเสมอหรือสูงขึ้น แต่แพทเทิร์นหุ้นสวนทางกับข่าวสาร เป็นไปได้ว่านักลงทุนกำลังพบกับกราฟถ้วยมีหู
ถ้ารู้สึกว่าแพทเทิร์นหุ้นคือ Inverted Cup and handel จะรู้ได้อย่างไรว่าก้นถ้วยอยู่ตรงไหน
ตอบ สังเกตปริมาณการซื้อขาย ในช่วงก้นถ้วย ปริมาณการซื้อขายจะต่ำมาก สืบเนื่องมาจากราคาลดลงอย่างต่อเนื่องก่อนหน้า แม้มีช่วงขยับขึ้นกระดกสั้น ๆ สลับกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่มีความผันผวนของราคาพอให้ทำกำไรอย่างสมน้ำสมเนื้อ หรือนักลงทุนคือยังถือหุ้นอยู่ แค่เพียงรอให้ราคาหุ้นกลับไปพบกับราคาเมื่อเข้าซื้อทีแรก จะได้ไม่ขาดทุน การขยับของราคาเช่นนี้ ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งรู้สึกว่าหุ้นตัวนี้น่าเบื่อ และไม่สนใจซื้อขายหุ้นดังกล่าว
ถ้ามั่นใจว่าพบก้นถ้วยแล้ว ควรรีบเข้าซื้อเพราะต้นทุนต่อหุ้นต่ำ ทำกำไรสูงได้ทีหลัง ถูกไหม
ตอบ ที่ก้นถ้วย ต้นทุนต่อหุ้นต่ำ และเป็นจุดน่าเข้าซื้อ แต่นักลงทุนต้องระมัดระวังว่าได้ตรวจสอบพื้นฐานของหุ้นแล้วว่ามีความแข็งแกร่ง ซึ่งราคาของหุ้นจะเพิ่มขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท มีโอกาสต่ำที่จะขาดทุนถ้าเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี ถึงแม้นักลงทุนจะชี้ตำแหน่งก้นถ้วยผิดไปก็ตาม หรือราคาปรับลดลงไปอีก ซึ่งการลงทุน ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง หากไม่ศึกษาเรื่องปัจจัยพื้นฐานของหุ้นร่วมด้วย ราคาที่ตกลงอาจทำให้สับสนและตัดสินใจขายหุ้นโดยที่ขาดทุน ทั้งที่สามารถทำกำไรได้ในภายหลัง ทั้งนี้เส้นค่าเฉลี่ยราคา 10 สัปดาห์ หรือเส้นค่าเฉลี่ยอื่น ๆ สามารถนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ โดยบ่อยครั้งที่ราคาก้นถ้วยนั้นจะอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยราคา 10 สัปดาห์ลงไปอีก
ถ้าราคาหุ้นขยับแบบน่าเบื่อ ย่อลง กระตุกขึ้น ย่อลง และลง มีขาขึ้น แต่ย่อลง สลับไปแบบนี้ แต่ไม่เห็นมีหูถ้วยสักที อย่างนี้ควรเลิกสนใจ หรือไม่เหมาะเก็งกำไรใช่หรือไม่
ตอบ นั่นอาจเป็นช่วงพักราคาของขาขึ้น ภาษากราฟเทคนิค เราเรียกว่า VCP หรือ Volatility Contraction Pattern ซึ่งอาจถือเป็นกราฟถ้วยมีหูอีกรูปแบบ เกิดจากพฤติกรรมที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกนิดของนักลงทุน เหตุเกิดจากช่วงที่ราคาตีกลับขึ้นไปเสมอกับช่วงเริ่มต้นกราฟถ้วยมีหู นักลงทุนหลายคนเริ่มคิดว่าตนเองคงติดดอยซึ่งคือการที่ราคาหุ้นไม่ขยับสูงกว่าราคาที่เข้าซื้อ ทำให้ทำกำไรไม่ได้ และถอดใจ ยอมรับว่าเท่าทุนก็พอ และเริ่มเทขาย ซึ่งถ้านักลงทุนมั่นใจในพื้นฐานของหุ้น และรอต่อไปอีกสักหน่อย นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนที่มีเงินลงทุนสูง จะเข้ามาดูดซับแรงขายจากนักลงทุนที่ขาดความเชื่อมั่น ปริมาณการขายจะเริ่มลดลง ราคาหุ้นเริ่มคงที่ และราคามีโอกาสกระชากขึ้นไปอีกครั้ง
บทส่งท้าย
หลายคนเข้าใจว่ากราฟเทคนิค เหมาะกับการลงทุนในระยะสั้น เน้นการทำกำไรได้เร็วเพราะมักสะท้อนพฤติกรรมของคนในตลาดออกมาวันต่อวันได้เลย แต่กราฟเทคนิคมีประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การปรับการแสดงกราฟทั้งรายปี รายเดือนและรายสัปดาห์ ช่วยให้การใช้กราฟเทคนิคมีประสิทธิภาพ
กราฟถ้วยมีหูหรือ Inveted Cup and Handel เป็นหนึ่งในแพทเทิร์นหุ้นที่นักลงทุนหลายคนมองหาเมื่อเจอกับหุ้นที่มีช่วงการปรับตัวของราคาที่ไม่หวือหวาในระยะสั้นแต่เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี โดยนักลงทุนอาจอ้างอิงข้อมูลในช่วงเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนประกอบการพิจารณา เลือกลงทุนในโอกาสเหมาะเพื่อสร้างกำไรให้กับตัวเอง แพทเทิร์นกราฟหุ้นแบบถ้วยมีหู ถ้าปรากฎขึ้นและนักลงทุนระยะสั้นเห็นถึงช่วงราคาขาลงที่ช่วงหู สามารถเข้าซื้อเพื่อหวังทำกำไรได้ ส่วนนักลงทุนระยะยาวก็สามารถช้อนไล่ซื้อตั้งแต่ราคาที่ฐานขึ้นมา เพื่อหวังผลการทำกำไรหรือผลตอบแทนจากราคาหุ้นที่จะพุ่งสูงขึ้นไปอีกหลังรูปแบบราคากราฟถ้วยมีหูสิ้นสุดลง
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!
