วิเคราะห์พื้นฐานหุ้นด้วย “กำไรต่อหุ้น (EPS)”

หากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ โดยเฉพาะการวิเคราะห์หาหุ้นดี ๆ เพื่อการลงทุนในระยะยาว มีโอกาสที่คุณจะเจอคำว่า EPS ในเอกสารแสดงงบการเงินของบริษัท และอาจจะสงสัยว่ามันหมายถึงอะไร เป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการตัดวินในซื้อหรือไม่ซื้อหุ้นเพื่อทำกำไรจากหุ้นได้อย่างไรบ้าง

ในบทความนี้ เราจะอธิบายความหมายของ EPS และวิธีที่คุณสามารถใช้เพื่อตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น

กำไรต่อหุ้น (EPS) คืออะไร

บรรดานักลงทุนมือใหม่ หลายท่านอาจเคยเจอคำว่า "EPS" และสงสัยว่ามันหมายถึงอะไร EPS ย่อมาจาก "กำไรต่อหุ้น" และเป็นตัวชี้วัดหลักที่นักลงทุนใช้ในการประเมินความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

EPS เป็นเพียงกำไรสุทธิของบริษัทหารด้วยจำนวนหุ้นที่คงค้างอยู่ ตัวเลขนี้ทำให้นักลงทุนได้ทราบว่าแต่ละหุ้นของบริษัทมีกำไรมากน้อยเพียงใด ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีรายได้สุทธิ 10 ล้านดอลลาร์ และมีหุ้นคงเหลือ 10 ล้านหุ้น กำไรต่อหุ้นจะเท่ากับ 1.00 ดอลลาร์

แม้ว่า EPS จะเป็นเมตริกที่มีประโยชน์ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปริศนา คุณควรดูรายได้ของบริษัท กระแสเงินสด ระดับหนี้ และปัจจัยอื่น ๆ ของบริษัทก่อนตัดสินใจลงทุน อย่างไรก็ตาม EPS สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการระบุบริษัทที่สร้างผลกำไรอย่างสม่ำเสมอและอาจคุ้มค่าแก่การลงทุน

สิ่งที่ต้องคำนึงถึง ระหว่างตรวจสอบค่า EPS

EPS นั้นย่อมาจากกำไรต่อหุ้น และเป็นตัวชี้วัดหลักที่นักลงทุนใช้ในการวัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท แสดงถึงส่วนของกำไรของบริษัทที่จัดสรรให้กับแต่ละหุ้นคงเหลือของหุ้น EPS ที่สูงขึ้นบ่งชี้ถึงบริษัทที่ทำกำไรได้มากกว่า จึงเป็นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงกว่า

มีบางสิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อประเมิน EPS อันดับแรกคือการเปรียบเทียบค่า EPS จากบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณมีความคิดที่ดีขึ้นว่าบริษัทมีผลกำไรอย่างไรเมื่อเทียบกับบริษัทคู่แข่ง ประการที่สอง โปรดทราบว่า EPS อาจได้รับผลกระทบจากรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว เช่น การตัดจำหน่ายหรือกำไรจากการขายสินทรัพย์ รายการเหล่านี้อาจทำให้ตัวเลข EPS บิดเบี้ยวและทำให้ตีความได้ยาก

ท้ายที่สุด EPS เป็นเพียงตัวชี้วัดหนึ่งที่ควรพิจารณาเมื่อตัดสินใจลงทุน สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาสถานะทางการเงินโดยรวมของบริษัท ตลอดจนตำแหน่งในการแข่งขันในอุตสาหกรรมของบริษัท ก่อนตัดสินใจใดๆ

สูตรคำนวณหาค่า EPS

ในการคำนวณ EPS คุณจะต้องใช้ข้อมูลต่อไปนี้

• รายได้สุทธิของบริษัท (Total Income หรือ Total Revenue)

• จำนวนหุ้นจดทะเบียนที่ชำระแล้ว (Total Registeres Share)

เมื่อคุณมีข้อมูลนี้แล้ว คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้ในการคำนวณ EPS

เช่น สมมติว่าบริษัทมีรายได้สุทธิ 1 ล้านดอลลาร์ และมีหุ้นสามัญคงค้าง 10 ล้านหุ้น ซึ่งจะทำให้เรามีกำไรต่อหุ้นที่ $0.10

ตอนนี้คุณรู้วิธีคำนวณ EPS แล้ว มาพูดถึงความหมายและวิธีที่คุณจะนำไปใช้ในการตัดสินใจลงทุนกัน

EPS นั้นหมายถึงกำไรต่อหุ้นและเป็นหนึ่งในอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนที่ควรเข้าใจ EPS วัดจำนวนกำไรที่บริษัทสร้างขึ้นสำหรับหุ้นสามัญที่คงค้างอยู่แต่ละหุ้น

สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ EPS อาจได้รับผลกระทบจากสิ่งต่าง ๆ เช่น ตัวเลือกการบัญชีและรายการที่ทำครั้งเดียว ดังนั้นควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเมื่อตัดสินใจลงทุน

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า EPS ยังคงเป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์มากในการดู เพราะมันช่วยให้คุณเห็นภาพว่าบริษัททำกำไรได้มากน้อยเพียงใดต่อหุ้น

สิ่งที่ต้องมองหาเมื่อซื้อหุ้นเพื่อลงทุน

นอกจากการตรวจสอบประวัติการปันผลและ Devident Yeild ย้อนหลังรายปีแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องดูค่า EPS นี้ด้วย เนื่องจากจะทำให้เห็นภาพได้ว่าบริษัทกำลังดำเนินไปได้ดีเพียงใดและเป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่โดยอิงจากสภาพเศรษฐกิจ และสังคม และเป้าหมายทางการลงทุนส่วนบุคคล

มีหลายสิ่งที่คุณสามารถดูได้เมื่อคุณพยายามหา EPS หนึ่งด้วยการคำนวณจากรายได้รวมหารด้วยจำนวนหุ้นจดทะเบียนที่ชำระแล้วทั้งหมดด้วยตนเอง หรือตรวจสอบจากหน้ารวมข้อมูลหุ้น เช่นจากเว็บไซต์อย่าง Yahoo! Finance หรือ Investing

ภาพ: ตัวอย่างหน้า Summary ของหุ้นที่แสดงถึง EPS จาก Yahoo Finance

เมื่อคุณดู EPS คุณต้องแน่ใจว่าคุณกำลังดูบริษัทที่ทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ คุณคงไม่อยากลงทุนในบริษัทที่ขาดทุนหรือบริษัทไม่ได้กำไรมากนัก คุณยังต้องการให้แน่ใจว่า EPS กำลังเติบโต ซึ่งหมายความว่าบริษัทกำลังดีขึ้นและทำเงินได้มากขึ้น

ภาพ: ตัวอย่างข้อมูลของหุ้นที่แสดงถึง EPS จากหน้า Stock Overview ของ Investing

หน่วยของค่า EPS แสดงเป็น “เท่า” นั่นหมายความว่า ยิ่งมีตัวเลขสูงเท่าไร ยิ่งหมายถึงสัดส่วนการสร้างมูลค่าจากหุ้นต่อหนึ่งหุ้นนั้นมีสุง เมื่อดูเปรียบเทียบกับอดีตสักระยะแล้ว อาจจะเป็นแนวทางให้คุณเห็นได้ว่าหุ้นนั้นเป็นหุ้นเติบโต หรือไม่ หรือคุ้มค่าต่อการนำเงินไปลงทุนซื้อหุ้นหรือไม่

EPS กับ P/E Ratio ต่างกันอย่างไรบ้าง

เมื่อพูดถึงการลงทุนในหุ้น มีคำย่อและศัพท์แสงมากมายที่อาจสร้างความสับสนให้กับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น คำศัพท์ทั่วไป 2-3 คำที่คุณจะเห็นคืออัตราส่วน EPS และ PE ที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจไว้ตั้งแต่ขั้นแรกเริ่มของการลงทุนในหุ้นเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับเงินปันผลหุ้นในระดับที่พึงพอใจ

EPS หมายถึง กำไรต่อหุ้น มาจากคำภาษาอังกฤษว่า “Earnings per Share” เป็นการวัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และคำนวณโดยการหารรายได้รวมของบริษัทด้วยจำนวนหุ้นที่ชำระเงินแล้ว

ในทางกลับกัน “อัตราส่วน PE” หรือ “P/E Ratio” นั้น หมายถึงอัตราส่วนราคาต่อกำไร คือการวัดว่านักลงทุนยินดีจ่ายทุกๆ 1 ดอลลาร์ของรายได้ของบริษัทเท่าใด คำนวณโดยการหารราคาหุ้นของบริษัทด้วย EPS

ความแตกต่างระหว่างสองตัวชี้วัดนี้คืออะไร

• EPS จะบอกคุณว่าบริษัททำกำไรได้อย่างไร 

• อัตราส่วน P/E จะบอกคุณว่านักลงทุนยินดีจ่ายเท่าไหร่สำหรับผลกำไรนั้น 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีคำตอบสุดท้ายใด ๆ ที่จะบอกคุณเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของบริษัท และไม่มีใครจะการันตรีผลตอบแทนได้ แม้แต่บริษัทนั้นเอง

บทส่งท้าย

กล่าวโดยสรุป EPS คือตัวบ่งชี้ที่ดีของความสามารถการทำกำไรของบริษัท และเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อวิเคราะห์หุ้นเพื่อการลงทุน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ EPS คือส่วนหนึ่งของปริศนา และไม่ควรใช้เป็นพื้นฐานเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจลงทุน