
- Bear Flag Pattern คืออะไร ทำงานอย่างไร
- จะหา Bear Flag Pattern บนกราฟเทคนิคได้อย่างไร
- ตัวอย่างของ Bear Flag Pattern
- เทรด Bear Flag Pattern ได้อย่างไร
- ควรเทรดตอนไหนของ Bear Flag Pattern
- Fibonacci Ratios สัดส่วนการเงินระหว่างแนวรับและต้าน ตัวช่วยหาจุดราคากลับตัวและเสาธงที่คิดว่าหายไป
- ข้อดีและข้อด้อยของ Bear Flag Pattern
- จิตวิทยา และพฤติกรรมของนักลงทุน
- บทส่งท้าย
Bear Flag Pattern คืออะไร? คู่มือเริ่มต้นฉบับสมบูรณ์
เรียนรู้ Bear Flag Pattern กลยุทธ์การรับรู้ราคาตลาดอุปสงค์และอุปทานเพื่อให้เทรดได้แม้ตอนราคาขาลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Bear Flag Pattern คืออะไร ทำงานอย่างไร
- จะหา Bear Flag Pattern บนกราฟเทคนิคได้อย่างไร
- ตัวอย่างของ Bear Flag Pattern
- เทรด Bear Flag Pattern ได้อย่างไร
- ควรเทรดตอนไหนของ Bear Flag Pattern
- Fibonacci Ratios สัดส่วนการเงินระหว่างแนวรับและต้าน ตัวช่วยหาจุดราคากลับตัวและเสาธงที่คิดว่าหายไป
- ข้อดีและข้อด้อยของ Bear Flag Pattern
- จิตวิทยา และพฤติกรรมของนักลงทุน
- บทส่งท้าย
Bear Flag Pattern คืออะไร ทำงานอย่างไร
BearFlag Pattern คือรูปแบบราคาที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องในช่วงขาลง โดยสามารถมองเห็นเป็นรูปธงที่กลับหัว มีแนวราคาขาลงที่ดูคล้ายเสาธงทิ่มปักหัวลงไป ตะแคงทแยงมุมจากซ้ายบนไปขวาล่าง องศาในการเอียงของเสาธงนี้อาจมีตั้งแต่แคบ ๆ ไปจนถึงกว้าง แต่จะไม่ทำมุมป้านซึ่งยากต่อการลองขีดเส้นทาบให้ดูเป็นเสาธง
ต่อจากเสาธง กราฟจะปรับเปลี่ยนขึ้นหรือลงในกรอบราคาที่แคบลง ซึ่งในกรอบราคานี้สามารถเขียนเส้นหยักฟันปลาบนกราฟที่ขึ้นลงได้ จะได้เห็นภาพของธงสามเหลี่ยมเรียงติดต่อกันหลายอันในผืนธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (หรือบางคนอาจมองว่าเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน) เส้นเอียงของธงสามเหลี่ยมที่หยักลงทั้งหมด และเส้นที่หยักขึ้นทั้งหมดล้วนขนานกันเองหรือดูคล้ายว่าขนานกัน เน้นถึงกรอบของช่วงราคาบนผืนธงว่าเป็นกลางซึ่งจะดำเนินต่อไประยะหนึ่ง จนกว่าจะมีแนวราคาที่กำหนดเป็นเสาธงต่อไปได้เกิดขึ้น
เสาธงเป็นตัวบอกทิศทางของตลาดว่าเป็นช่วงซบเซาหรือร้อนแรง กำกับการเคลื่อนไหวของราคาในกราฟที่วิ่งต่อไปทางขวามือ กรณีที่เสาธงเอียงทแยงมุมจากซ้ายล่างไปขวาบน จะมีผลต่อรูปแบบการเทรดให้เป็นไปในทางตรงกันข้ามกับแบบ Bear Flag Pattern นั่นคือเป็นการเทรดขาขึ้นด้วยรูปแบบกราฟ bullist flag
รูปแบบกราฟขาลง Bear Flag สามารถหาพบได้ในทุกช่วงเวลาที่เรานำมาพิจารณากราฟ จะปรับดูกราฟแบบรายนาที ไปจนถึงรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน ก็สามารถพบได้ ปรากฎอยู่ในทุกช่วงราคาไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ เป็นรูปแบบซ้ำ ๆ ที่สังเกตเห็นได้ง่าย และเกิดขึ้นบ่อย ๆ ซึ่งถ้าเข้าใจ สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อทำกำไรในการเทรด
จะหา Bear Flag Pattern บนกราฟเทคนิคได้อย่างไร
หลายคนจะมองหาเสาธงก่อน แต่จริง ๆ แล้วเราควรมองหาสัญญาณว่าเสาธงกำลังจะเกิดขึ้นเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการเปิดสัญญาขาย สัญญาณที่ว่าคือราคาขยับลงและกระทบเข้ากับเส้นที่มองไม่เห็นด้านล่างของกราฟที่วิ่งอยู่ เท่ากับว่ามีแนวรับเกิดขึ้นที่ระดับราคาหนึ่ง รูปแบบการกระทบกับแนวรับของกราฟจะดำเนินไปเรื่อย ๆ อาจสั้น ๆ เพียงไม่กี่นาที หรือยาวนานเป็นวัน ๆ ก็ได้ แต่ไม่นานหลังจากนั้น หากพบว่าแท่งเทียนลากยาวลงมา และพ้นจากช่วงเส้นแนวรับนั้นไปแล้ว เป็นไปได้สูงที่นักลงทุนกำลังมองเห็นจุดเริ่มต้นของเสาธง
แท่งเทียนขาลงจะปรากฎขึ้นหลายแท่งซ้อนเรียง ราคาต่ำสุดของแต่ละแท่งต่ำลงไปกว่าแท่งก่อนหน้า นี่เองคือเสาธงของ Bear Flag Pattern
พ้นจากเสาธง จะมาถึงจุดเปลี่ยน (เรียกว่า Tip) หรือธงต้นขั้ว กราฟจะเหวี่ยงขึ้นลงในช่วงราคาหนึ่ง เราจะเห็นจุดสูงสุด และจุดต่ำสุดของช่วงราคาที่เหวี่ยงไปมานี้ ซึ่งจุดสูงสุดกำหนดเส้นแนวต้าน ขณะที่จุดต่ำสุดจะกำหนดเส้นแนวรับ สังเกตให้ดีว่าระหว่างเส้นแนวต้านและแนวรับนี้ สามารถเขียนเส้นทแยงมุมหลาย ๆ เส้นเอียงขนานกับเสาธงได้ ซึ่งเส้นขนานเหล่านี้สื่อว่าการเหวี่ยงของราคาเปิดสัญญาซื้อและขายชองนักลงทุนคนอื่น ๆ ในช่วงนี้ไม่มีแรงอิทธิพลอย่างมีระดับสำคัญ และเป็นไปได้สูงว่าจะมีเสาธงสำหรับราคาขาลงต่อไปในไม่ช้า
ตัวอย่างของ Bear Flag Pattern
Bear Flag Pattern นั้นมีความเรียบง่าย จึงไม่มีรูปแบบย่อยให้ต้องศึกษาลงลึกเชิงเทคนิคเป็นกรณี ๆ ไปอีก ตัวอย่างของ Bear Flag Pattern มีในทุกผลิตภัณฑ์การลงทุน และเกิดขึ้นบ่อยครั้ง นักลงทุนลองมองหาแนวแท่งเทียนที่ลากลง ซึ่งจะมาบรรจบกับแท่งเทียนที่เหวี่ยงขึ้นลงในช่วงราคาใกล้เคียง โดยนักลงทุนสามารถระบุจุดสูงสุดต่ำสุดของกรอบราคาได้
ตัวกรอบราคานั้นจะสิ้นสุดลง เมื่อแท่งเทียนหนึ่งทะลุราคาต่ำสุดที่เป็นแนวรับลงไป แล้วมีแท่งเทียนแสดงราคาที่ลดลงไปอีกเรียงต่อกันลดหลั่นไปเรื่อย ๆ ขีดเส้นลากเป็นเสาธงได้ นั่นและ Bear Flag Pattern ต่อเนื่องซึ่งเปิดจังหวะให้คุณสามารถทำกำไรในตลาดขาลง
เทรด Bear Flag Pattern ได้อย่างไร
พิจารณาทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ ช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบการเทรดตอนเป็น Bear Flag อย่างรวดเร็ว และมั่นใจในการเทรดมากขึ้น
มองหาสัญญาณว่าตลาดกำลังเป็นขาลง หาแนวกราฟราคาที่สามารถวาดเส้นทับเป็นเสาธงทิ้งดิ่งลงมาให้ได้
ระบุรูปแบบของผืนธง ราคาในช่วงผืนธงอยู่ในช่วงแคบ ๆ ระหว่างเส้นแนวรับและแนวต้านที่ขนานกัน จะขนานแบบเอียงหรือตั้งตรงก็ได้ ถ้าลองขีดเส้นทแยงมุมระหว่างเส้นแนวรับและแนวต้าน จะสามารถขีดให้ขนานไปกับแนวเส้นเสาธงได้ด้วย
เปิดสัญญาขายเมื่อกราฟราคาลดลงต่ำกว่าแนวรับ (ราคาต่ำสุดที่อยู่ในกรอบราคาซึ่งกราฟเหวี่ยงไปมา) โดยนักลงทุนแบบอนุรักษ์นิยม ซึ่งหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่สูงเกินไป มักจะรอดูการปรับตัวของกราฟอีกสักพักเพื่อให้มั่นใจว่าระบุราคาแนวรับถูกต้อง ในขณะที่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจทำการเทรดทันทีที่เห็นราคาหลุดจากแนวรับ
กำหนดจุด Stop - Loss สูงกว่าเส้นแนวต้านเล็กน้อย เพราะเป็นไปได้ที่ช่วง Spread จะกว้างขึ้น หรือนักลงทุนระบุราคาแนวต้านเองเร็วเกินไป แนวต้านจริงอาจสูงกว่าที่คิดไว้ ทำให้ที่สุดแล้วการตั้งจุด Stop - Loss แคบเกินไป เป็นผลทำให้สัญญาขายที่เปิดไว้ถูกปิดโดยที่ขาดทุน
กำหนดราคาเป้าหมาย เท่ากับส่วนต่างของราคาระหว่างจุดสิ้นสุดของเสาธงแรกกับจุดเริ่มต้นของเสาธงแรกใน Bear Flag Pattern
ควรเทรดตอนไหนของ Bear Flag Pattern
มองหาราคาสูงสุด (แนวต้าน) และต่ำสุด (แนวรับ) ในช่วงราคาในผืนธง เปิดสัญญาณขายเมื่อเห็นว่าราคาสินทรัพย์ลดลงต่ำกว่าแนวรับ ซึ่งอาจจะรอสักพักหนึ่งเพื่อให้มั่นใจว่ากำหนดแนวรับถูกต้องแล้วก็ได้ หรือกรณีที่ต้องการความมั่นใจมากขึ้นไปอีก อาจจะรอจนกระทั่งเริ่มเห็นราคาลดลงในลักษณะที่เป็นส่วนหนึ่งของเสาธงใหม่ แล้วค่อยเปิดสัญญาขายใหม่หรือเพิ่มขึ้นอีก
Fibonacci Ratios สัดส่วนการเงินระหว่างแนวรับและต้าน ตัวช่วยหาจุดราคากลับตัวและเสาธงที่คิดว่าหายไป
บางครั้งราคาจะเหวี่ยงไปมา จนกระทั่งดูเหมือนว่าเสาธงหายไปแล้ว แต่ถ้าเราสามารถระบุจุดที่ราคาจะกลับตัวได้ ก็อาจจะสามารถพบกับกราฟแท่งเทียนที่จะเป็นเสาธงแท่งถัดไปได้ แต่ไม่แน่ว่าจะเป็นเสาธงขาลงเสมอไป เสาธงถัดไปอาจจะเป็นเสาธงขาขึ้นก็ได้
Fibonacci Ratios (สัดส่วนการเงินฟิโบนัชชี) คำนวณได้จากเครื่องมือที่ชื่อ Fibonacci Retracement ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะลากเส้นอ้างอิงจากราคาที่เรากำหนดสองจุดเป็นแนวรับและแนวต้าน เครื่องมือนี้จะลากเส้นขนานทั้งบนและล่างจากเส้นอ้างอิงชุดแรกต่ออีกทีด้วย กินขอบเขตพื้นที่ออกไปอีก เส้นขนานทั้งหมดอาจอยู่บนกราฟหรือซ้อนอยู่ใต้กราฟก็ได้ ขึ้นอยู่กับแพลทฟอร์มที่ใช้ ในบางแฟลทฟอร์มวิธีการลากคลุมพื้นที่ จะสร้างเส้นขนานหลายเส้นขึ้นมาให้อัตโนมัติ ทุกเส้นจะมีระบุค่าสัดส่วนความแตกต่างระหว่างแนวต้านและแนวรับ การหาค่าทำโดยเอาราคาแนวรับและแนวต้านแต่ละระดับที่ได้มาหารกัน จะได้ค่าทศนิยมและแสดงค่าทศนิยมนั้นเป็นเปอร์เซ็นต์แทน ค่า Ratios หลัก ๆ มี 23.6%, 38.2%, 61.8% และ 161.8% โดยค่า 38.2% เป็นสัดส่วนทองคำที่นิยมเอามาเป็นเกณฑ์สังเกต กระทั่งมีหนังสือที่เขียนออกมาอ้างว่า 38.2% นี่ละ คือสัดส่วนแนวรับและต้านที่จะทำให้เราสังเกตถึงการกลับตัวของราคา ก่อนจะเกิดเสาธงอันใหม่ขึ้น
ถ้าราคากลับตัวไม่พ้นไปจากเส้นสัดส่วน 38.2% ก็แสดงว่ายังไม่ใช่จุดกลับของราคาที่แท้จริง แต่ถ้าหากว่าพ้นไปแล้ว นักลงทุนสามารถเตรียมตัวพบกับเสาธงใหม่ได้ในเวลาหลังจากนั้นไม่นาน
ข้อดีและข้อด้อยของ Bear Flag Pattern
ข้อดีของรูปแบบการเทรดตอนเป็น Bear Flag Pattern คือ Bear Flag Pattern เป็นรูปแบบที่เรียนรู้ได้ง่าย และสังเกตเห็นได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ทำผลงานให้เห็นได้จริงอีกด้วย จุดที่ควรเข้าเทรดสะท้อนพฤติกรรมของผู้ขายหรือเปิดสัญญาขายสินทรัพย์ที่กดดันราคาให้ลงอย่างชัดเจนในทิศทางเดียวกัน ความชัดเจนนี้สามารถชี้จุดที่จะเปิดสัญญาขายซึ่งมีโอกาสให้ผลกำไรที่สูงตามมาได้อย่างแม่นยำ
ข้อด้อยของรูปแบบการเทรดตอนเป็น Bear Flag คือ ท้ายที่สุดต้องมาถึงจุดที่ทิศทางราคาปรับเปลี่ยน กลายเป็นรูปแบบ Bullist Flag การนำ Fabonacci Ratio ที่ 38.2% มาใช้พิจารณาร่วมนั้น สามารถสบายใจว่าเราจัดการกับข้อด้อยได้ระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังมีคำแนะนำอีกด้วยว่า ถ้าสังเกตเห็นระดับกรอบราคาดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน หรือราคาได้ปรับสูงเหนือแนวต้านของกรอบราคาในผืนธงถึง 50% นักลงทุนไม่ควรเปิดสัญญาขาย
จิตวิทยา และพฤติกรรมของนักลงทุน
รูปแบบกราฟขาลง Bear Flag แสดงให้เห็นถึงอุปสงค์และอุปทานในตัวสินทรัพย์ที่ไม่สมดุลกัน โดยอุปทานหรือทางฝั่งขายนั้นมีมากกว่าฝั่งซื้อ เลยทำให้ราคาของสินทรัพย์ยิ่งตกลง และเกิดเป็นรูปแบบของเสาธงขึ้น
เมื่อคุณสังเกตเห็นการขายในช่วงแรกของเสาธง ก็จะรู้สึกเหมือนกับพลาดโอกาสที่จะทำกำไรขาลงด้วย และห่วงว่าราคาจะตกลงไปอีก โดยที่ยังทำกำไรไม่ได้ จึงเปิดสัญญาขาย และพฤติกรรมเช่นนี้ของนักลงทุนจะสร้างเสาธงจนแล้วเสร็จ
ในช่วงที่ราคาอยู่ในกรอบแคบ ๆ นักลงทุน Forex ส่วนหนึ่งรอที่จะเปิดสัญญาซื้อที่ระดับราคาสูงขึ้น แต่ถ้าไม่มีแรงซื้อหรือคำสั่งเปิดสัญญาซื้อที่เพียงพอ การที่จะเปลี่ยนทิศทางของเสาธงก็จะเป็นไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ข่าวสารที่ดีเกี่ยวกับหลักทรัพย์ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดแรงซื้อเพิ่มขึ้นได้
บทส่งท้าย
นักลงทุน โดยเฉพาะมือใหม่มักคิดว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยกราฟเป็นเรื่องยาก แต่รูปแบบกราฟขาลง Bear Flag มีความชัดเจน แม้นักลงทุนจะไม่มีประสบการณ์มาก ถ้าได้ลองศึกษาเบื้องต้นจากบทความนี้แล้ว สามารถลองนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้จริงในการเทรดได้เลย หรือจะทดลองกับบัญชีทดลองเทรดก็ย่อมได้หากต้องการซ้อมมือก่อน
การค้นหา Bear Flag Pattern ทำได้เอง ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม ราคาของสินทรัพย์เพื่อการลงทุนในตลาดมีความผันผวน นักลงทุนมือทั้งมือใหม่และมือเก่าอาจเจอการเหวี่ยงของราคาที่ยากจะระบุแนวโน้มขึ้นลงได้อย่างชัดเจน ทำให้สับสนในจุดเข้าเปิดสัญญาซื้อขาย ในบทความนี้ได้นำเสนอเครื่องมือทางเทคนิคเบื้องต้น คือ Fibonacci Retracement ไว้ด้วยอย่างสังเขป เพื่อเป็นแนวทางให้คุณได้ค้นคว้าเพิ่มเติมและทดลองใช้งานเพื่อทำกำไรในการเทรดได้อย่างต่อเนื่อง
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!